-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
รู้กันมั้ยคะว่า เรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษเนี่ย
-
เป็นหนึ่งใน fairy tale ที่ได้รับการเล่าซ้ำๆๆๆๆ กัน
-
บ่อยอันดับต้นๆ ของโลกใบนี้เลยนะคะ
-
จริงๆ เราทุกคนเนี่ยก็คุ้นเคยกับเรื่องอะลาดินกับตะเกียงวิเศษอยู่แล้วใช่มั้ย?
-
ไม่ว่าจะเป็น
-
เวอร์ชั่นดิสนีย์
-
เวอร์ชั่นละครเวที
-
หรือ เวอร์ชั่นหนังคนแสดงที่เพิ่งจะเข้าโรงไปใช่มั้ยคะ?
-
อย่างไรก็ตามค่ะ
-
จริงๆ แล้วบอกเลยว่าคนส่วนใหญ่
-
ไม่ได้รู้จักอาละดินจริงๆ นะคะ
-
เราไปรู้จักแค่อะลาดินเวอร์ชั่นเดียวเท่านั้นแหละ
-
ดังนั้นค่ะ วันนี้วิวก็เลยคิดว่า
-
เราควรจะมาคุยกันยาวๆ ไปเลย
-
เกี่ยวกับเรื่องอะลาดินนะคะ
-
ทั้งส่วนที่มาของเรื่อง
-
และส่วนเนื้อเรื่องที่ทุกคนได้ยินเนื้อเรื่องแล้วอาจจะแบบ
-
ห้ะ!! นี่อะลาดินที่ฉันรู้จักจริงๆ หรือเปล่า?
-
อะไรอย่างนี้ก็เป็นได้นะคะ
-
ดังนั้นวันนี้นะคะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก
-
เพราะเชื่อว่า ทุกคนน่าจะกดติดตามวิวครบทุกช่องทางแล้ว
-
ส่วนใครยังไม่ได้ติดตาม
-
อย่าลืมตาม Facebook Twitter Youtube Instagramให้ครบนะคะ
-
บอกเลยว่าเนื้อหาแต่ละที่
-
ไม่เหมือนกันค่ะ
-
เอาล่ะ
-
พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก แล้วก็มีสาระกันหรือยังคะ?
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
หลายคนที่ติดตามช่องวิวอยู่เนี่ยนะคะ
-
ก็จะรู้ว่า วิวเพิ่งเล่าเรื่องนิทานอาหรับราตรีไปค่ะ
-
ซึ่งเป็นนิทานซ้อนนิทานก้อนใหญ่เลยใช่มั้ยคะ?
-
และหลายคนเชื่อว่า เรื่องอะลาดินเนี่ย
-
เป็นส่วนนึงของนิทานอาหรับราตรีค่ะ
-
แต่จริงๆ แล้วต้องบอกนะคะว่า
-
เรื่องอะลาดินในเวอร์ชั่นออริจินัลสุดๆ เนี่ย
-
ไม่ได้อยู่ในนิทานอาหรับราตรีค่ะ
-
เพราะว่า มันเป็นนิทานที่มีชาวซีเรียคนนึงเล่าขึ้นมานะคะ
-
แล้วดันไปเล่าให้ชาวฝรั่งเศสคนนึงฟังค่ะ
-
ซึ่งชาวฝรั่งเศสคนนี้จะไม่มีความสำคัญอะไรเลย
-
ถ้าเค้าไม่ใช่ อันโตเน่ กัลแลนด์ (อองตวน กาลองด์) อะไรประมาณนี้
-
ซึ่งวิวออกเสียงไม่เป็นนะ
-
ใครออกเสียงเป็น เขียนบอกด้านล่างได้นะคะ
-
ซึ่งเค้าเป็นคนแปลนิทานอาหรับราตรี
-
จากภาษาอาหรับมาเป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ
-
ทีนี้นอกจากแปลแล้ว
-
เค้าก็เหมือนกึ่งๆ จะเก็บรวบรวมนิทานด้วย
-
ประมาณว่า
-
เออ เรื่องราวที่ฉันเคยฟังมามันก็ดูอาหรับๆ
-
เออไหนๆ พันหนึ่งราตรี มันก็มีเรื่องราวเป็นพันเรื่องแล้ว
-
ยัดเข้าไปอีกเรื่องนึงก็ไม่เป็นไรเหมือนกันหนิ
-
ก็เลยยัดอะลาดินเข้าไปอยู่ในพันหนึ่งราตรีค่ะ
-
หลังจากนั้นเป็นต้นมานะคะ
-
คนก็เลยเข้าใจผิดกันทั้งโลกเลยค่ะ
-
ว่าเรื่องอะลาดินเนี่ยอยู่ในพันหนึ่งราตรี
-
หรือว่าอาหรับราตรีมาตลอดค่ะ
-
ซึ่งนิทานเรื่องอะลาดินที่วิวจะนำมาเล่าให้ทุกคนฟังในวันนี้เนี่ยนะคะ
-
ก็เป็นอะลาดินเวอร์ชั่นที่แปลมาจากฝรั่งเศส เวอร์ชั่นนี้แหละ
-
เป็นภาษาอังกฤษนะคะ
-
เป็นเวอร์ชั่นของ เซอร์ ริชาร์ด เบอร์ตัน
-
ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของโลก
เลยค่ะ
-
ทีนี้ ยังไม่เข้าเรื่องนะคะ
-
ก่อนที่จะไปเข้าตัวเรื่องหลักเนี่ยนะคะ
-
วิวขอมีหมายเหตุเล็กๆ ไว้ให้ทุกคนฉุกคิดในใจก่อนแล้วกันค่ะ
-
ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่วิวจะเล่าต่อไปนี้
-
เป็นเรื่องราวที่ชาวตะวันตกบันทึกจากปากคำของชาวอาหรับ
-
ซึ่งอยู่ตรงตะวันออกกลาง
-
และเป็นเรื่องราวที่เก่า แบบเก่ามาก
-
ตั้งแต่ก่อนช่วงแบบปี 1880
-
มันเล่าสืบต่อกันมาแบบนานแสนนานก่อนหน้านั้น
-
ปากต่อปากนะคะ
-
ดังนั้น คนในสมัยนั้นอาจจะไม่ได้มีความรู้เรื่องภูมิศาสตร์
-
ไม่ได้มีความรู้เรื่องอารยธรรม ศิลปะวัฒนธรรมอะไรมากมาย
-
ดังนั้น แม้ว่าชื่อประเทศมันอาจจะเป็นประเทศนั้น ประเทศนี้ที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน
-
แต่!
-
วัฒนธรรมอะไรข้างในมันอาจจะปนกันมั่ว ก็เป็นได้นะคะ
-
ถ้าเก็ทตรงนี้แล้ว
-
เราไปฟังเรื่องราวของอะลาดินกับตะเกียงวิเศษกันเลยดีกว่าค่ะ
-
เรื่องราวทั้งหมดของอะลาดินนะคะ
-
เริ่มต้นขึ้นที่เมืองจีนค่ะ
-
ใช่
-
อะลาดินเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองจีนนะคะทุกคน
-
แม้ว่าเมืองจีนในเรื่องนี้อาจจะมีภาพที่ดูคล้ายอาหรับนิดนึงนะ
-
เพราะคนอาหรับเล่า
-
แล้วคนอาหรับสมัยนั้นก็อาจจะไม่ได้มารู้หรอกว่า
-
ประเทศจีนจริงๆ เป็นยังไง
-
คนเล่าอาจจะไม่เคยเดินทางมาจีนนะคะ
-
แต่ว่า ได้ยินว่าประเทศจีนมัน exotic อะไรอย่างนี้
-
ก็เลยอยากเอามาเป็นฉากของเรื่องที่เล่าค่ะ
-
ที่เมืองจีนเนี่ยนะคะ
-
มีช่างตัดเสื้ออยู่คนนึงค่ะ
-
มีลูกชายชื่อว่า อะลาดิน
-
ชื่อไม่จีนเลยนะจ๊ะทุกคน
-
อย่างไรก็ตามค่ะ
-
อะลาดินคนนี้เป็นเด็กที่ไม่ได้เรื่องเลยนะคะ
-
เป็นเด็กที่แบบว่า เกเรต่างๆ นานา
-
พ่อพยายามจะเรียกมาช่วยงาน
-
มาสอนวิชาการเป็นช่างตัดเสื้ออะไรต่างๆ
-
อะลาดินก็ไม่สนใจนะคะ
-
วันๆ อะลาดินไม่ทำอะไรนะคะ ออกไปเที่ยวเล่นต่างๆ นานา
-
ในที่สุดนะคะ พ่อของอะลาดิน
-
ด้วยความที่เจ็บใจจากความที่แบบที่ลูกชายไม่ได้เรื่อง
-
ไม่เชื่อฟังฉันเลย อะไรต่างๆ นานา
-
ก็เจ็บช้ำน้ำใจถึงตายนะคะ
-
ก็ตายจากไป
-
ทิ้งให้แม่ของอะลาดินเนี่ยค่ะ
-
อยู่ดูแลอะลาดินกันแค่ 2 คนเท่านั้น
-
แม้ว่าพ่อจะตายไปแล้วนะคะ
-
แต่อะลาดินก็ไม่ได้สำนึกอะไรเลย
-
ก็ยังไปเที่ยวเล่นไปวันๆ
-
วันๆ ไม่ทำอะไรเลยนะคะ ก็เที่ยวไปตามตลาดอะไรต่างๆ
-
อยู่กับพวกเด็กเร่ร่อนบ้างอะไรบ้าง
-
จะกลับบ้านเนี่ยนะคะ ก็แค่ 2 เวลาด้วยกันค่ะ คือ
-
เวลากิน กับ เวลานอน
-
ก็คือกลับมาบ้านแล้วก็แบบ
-
แม่มีอะไรกินบ้าง?
-
กินๆๆ แล้วก็ออกไปเที่ยวต่อ
-
แล้วก็กลับมานอน แล้วก็ออกไปเที่ยวเล่น
-
เป็นอย่างนี้ไปวันๆค่ะ
-
ไม่คิดจะเตรียมตัวเองให้มีอาชีพอะไรทั้งสิ้นเลยนะคะ
-
แม่ของอะลาดิน แม้ว่าจะเจ็บช้ำน้ำใจค่ะ
-
แต่ก็จำเป็นจะต้องเลี้ยงลูกต่อไป
-
สองแม่ลูกเนี่ยนะคะ ก็อยู่กันด้วยความยากลำบาก
-
เพราะว่า ร้านของพ่อก็ไม่มีใครดูแลแล้ว
-
แม่ก็เลยจำเป็นจะต้องขายทิ้งค่ะ
-
แล้วก็ยังชีพอยู่ด้วยการปั่นด้าย ปั่นฝ้าย
-
หาอาชีพก๊อกๆ แก๊กๆ ทำไปวันๆ นะคะ
-
ก็แทบจะเลี้ยงลูกไม่ไหวค่ะ
-
จนกระทั่งวันนึงนะคะ เกิดเรื่องขึ้นค่ะ
-
มีพ่อมดอยู่คนนึงนะคะ เดินทางมาจากแอฟริกา
-
ใช่ค่ะ แอฟริกา
-
เรื่องนี้แบบรอบโลกมากนะคะทุกคน
-
พ่อมดคนนี้นะคะ
-
เป็นคนที่ศึกษาศาสตร์มืดอะไรต่างๆ มากมาย
-
แล้วเค้ามีจุดประสงค์อยากได้ของอย่างนึงค่ะ
-
และเค้ารู้ว่า
-
ของสิ่งนี้อยู่ในถ้ำลึกลับแห่งนึงที่ประเทศจีน
-
ปัญหาก็คือ
-
คนคนเดียวที่เปิดถ้ำนี้ได้
-
เป็นเด็กผู้ชายลูกช่างตัดเสื้อ ชื่อว่า อะลาดิน
-
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมต้องเป็นอะลาดิน
-
แล้วถ้ำมันก็ปิดมาเป็นพันปี
-
มันจะรู้ได้ยังไงว่า คนที่จะมาเปิดได้
-
จะเป็นอะลาดินนะคะ
-
อย่างไรก็ตาม พ่อมดคนนี้รู้
-
ก็เลยเดินทางมาที่ประเทศจีนค่ะ
-
เดินทางมาในตลาด
-
เดินมาถึง
-
ปรากฏว่า ก็ไปไล่ถามคนแถวนั้นแหละ
-
ประมาณว่า
-
ไหน เด็กคนไหนชื่ออะลาดินบ้าง? อะไรบ้าง
-
อะไรอย่างนี้
-
ถามไปถามมานะคะ ก็ไปเจออะลาดินค่ะ
-
กำลังวิ่งเล่นอยู่ในตลาด
-
ก็เลยเดินเข้าไปแล้วก็ไปถามแบบคนแถวนั้น
-
หลอกถามข้อมูลต่างๆ
-
เช่นแบบว่า อ่า อะลาดินนี่เป็นลูกของใครนะ?
-
อ่อ เป็นลูกของช่างตัดเสื้อ
-
ช่างตัดเสื้อชื่ออะไรนะ?
-
อ่อ ช่างตัดเสื้อชื่อนี้เหรอ?
-
อ่อ ช่างตัดเสื้อลักษณะท่าทางเป็นอะไรยังไง?
-
หลังจากที่ได้ข้อมูลพอสมควรแล้วเนี่ยนะคะ
-
พ่อมดคนนี้ค่ะ ก็วิ่งเข้าไปหาอะลาดินเลย
-
ไปถึงก็ร้องห่มร้องไห้ใหญ่โต
-
ทำให้อะลาดินงงมาก
-
อะลาดินแบบ ห้ะ?
-
อยู่ดีๆ นึกสภาพมีคนแอฟริกันมายืนร้องไห้ใส่
-
แล้วอะลาดินเป็นเด็กแบบในประเทศจีนอ่ะนะ
-
อะลาดินก็แบบ
-
เออ ลุงเป็นไรเหรอ? เป็นไรหรือเปล่า? เล่าให้ข้าฟังสิ อะไรอย่างนี้
-
พ่อมดนะคะ ก็พยายามหลอกล่ออะลาดินต่างๆ ค่ะ
-
ด้วยการถามว่า พ่อของเจ้าเป็นช่างตัดเสื้อใช่มั้ย?
-
ชื่อนี้หรือเปล่า? ชื่อนั้นหรือเปล่า?
-
แม่ของเจ้าชื่อนี้เหรอ?
-
โอ้โห เศร้าจังเลย
-
เจ้ารู้มั้ยว่าข้าเป็นใคร?
-
ข้าเป็นพี่น้องกับพ่อของเจ้าที่พลัดพรากจากกันมานาน
-
ข้าเดินทางไปที่แอฟริกาเพื่อไปทำภารกิจอะไรบางอย่าง
-
กลับมาก็จะมาตามหาพี่น้องที่พลัดพรากของข้านี้แหละ
-
เจ้าเป็นลูกของพี่น้องข้าใช่มั้ย?
-
พาข้าไปหาพี่น้องของข้าหน่อยสิ
-
อะลาดินก็แบบ
-
เอออออ คือ พ่อข้าตายแล้ว
-
อะไรอย่างนี้
-
พ่อมดก็มีความฟูมฟายต่อไป ประมาณว่า
-
ไม่จริง ตายแล้ว ตายแล้วได้ยังไง?
-
ไหนเจ้าพาข้าไปหาแม่ของเจ้าสิ
-
ข้าอยากไปหาน้องสะใภ้ของข้า
-
เพื่อแบบพูดคุยเรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องของข้าที่พลัดพรากจากไป
-
เอาเป็นว่าก็ตีเนียน
-
อยู่ดีๆ กลายเป็นลุงของอะลาดินซะอย่างนั้นเลยนะคะ
-
อะลาดินก็มีความงงๆ
-
แต่ว่าพ่อมดเนี่ยแสดงความรวยออกมาไง
-
มีความแบบว่า แจกทองให้คนนั้น แจกทองให้คนนี้
-
สุดท้ายอะลาดินนะคะ ก็หลงกลพ่อมดค่ะ
-
แล้วเข้าใจว่าพ่อมดเนี่ย เป็นลุงของตัวเองจริงๆ
-
ดังนั้นนะคะ อะลาดินก็เลยพาพ่อมดกลับไปบ้านค่ะ
-
ไปหาแม่ของตัวเอง
-
ซึ่งแม่ของอะลาดินนะคะ ก็มีความงงๆ นึงนิด
-
ประมาณว่าแบบ
-
เอ๊ะ ตอนฉันแต่งงานก็ไม่เห็นมีใครบอกเนี่ยว่า ผัวฉันมีพี่มีน้อง
-
แต่แบบ เออ เค้าก็พูดดูมีข้อมงข้อมูลอะไรถูกต้อง
-
แล้วเค้าก็ดูรวยด้วย
-
ในที่สุดนะคะ
-
ทั้งบ้านก็เลยเชื่อค่ะ
-
ว่าพ่อมดคนนี้ เป็นลุงของอะลาดินจริงๆ
-
ซึ่งพ่อมดเนี่ยนะคะก็บอกว่า
-
ที่มาตอนนี้ไม่ต้องการอะไรเลย
-
ต้องการแบบมาเคารพศพน้องชาย
-
แล้วก็ถามถึงเรื่องหลานนะคะ
-
ประมาณว่า
-
อะลาดิน ตอนนี้เจ้าทำอาชีพอะไรอยู่?
-
ได้ฝึกสกิลอะไรบ้าง?
-
อ้าว เจ้าไม่มีความรู้อะไรเลยเหรอ?
-
ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะสอนเจ้าเอง ให้เจ้าเป็นพ่อค้าที่ยิ่งใหญ่
-
อ่ะ เดี๋ยวข้าให้ทุนนะ
-
อะไรต่างๆ
-
ก็มีความเอาเงินมาล่อ เอาอะไรมาล่อ
-
ประมาณว่า
-
ทำตัวเหมือนลุงรวยๆ ที่ไม่ได้เจอหลานมานาน
-
แล้วอยากเอาหลานมาเลี้ยงดู ประมาณนั้นค่ะ
-
ดังนั้นนะคะ ทุกวันพ่อมดก็จะมาที่บ้านของอะลาดิน
-
มาถึงก็พาอะลาดินไปเจอคนนั้น ไปเจอคนนี้
-
ออกไปจับจ่ายซื้อของ
-
อ่ะ ซื้อชุดดีๆ ให้ ซื้ออาหารให้ อะไรต่างๆ
-
ทำให้แม่ของอะลาดินและอะลาดินเนี่ย
-
เชื่อสนิทใจเลยนะคะว่า คนคนนี้เป็นลุงของตัวเองจริงๆ
-
จนกระทั้งวันนึงค่ะ
-
พ่อมดก็มีความพาอะลาดินนะคะ
-
ออกไปที่นอกเมือง
-
พาไปบอกว่า
-
เออ เดี๋ยววันนี้เราจะไปเปิดหูเปิดตากัน
-
ไปดูสวนตรงนี้ ไปดูสวนตรงนั้น
-
เดินๆๆ เดินออกไปนอกเมืองเรื่อยๆ
-
เดินเลยสวนออกไป เดินเลยกำแพงออกไป
-
เดินๆๆ เดินเข้าไป จนกระทั่ง
-
ไปถึงทะเลทรายนะคะ ก็ยังเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ
-
อะลาดินก็มีความงงๆ นิดนึง
-
ประมาณว่าแบบ
-
ลุงพาฉันมาทะเลทรายทำไมอ่ะ? จะมาทำอะไรเหรอ?
-
อะไรอย่างนี้นะคะ
-
แต่สุดท้ายค่ะ
-
พ่อมดก็พาอะลาดินมาจนถึงพื้นที่เวิ้งว้างแห่งนึงกลางทะเลทรายนะคะ
-
ที่นั่นค่ะ พ่อมดบอกอะลาดินว่า
-
นี่ วันนี้ฉันจะมาทดสอบความเป็นลูกผู้ชายของเธอ
-
คือเราสองคนเนี่ยจะร่ำรวยไปด้วยกัน
-
เราจะร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี
-
แล้วเดี๋ยวเราจะเป็นพ่อค้า จะยึดครองโลกอะไรต่างๆ
-
แต่!!
-
ฉันจะต้องทดสอบความเป็นลูกผู้ชายของเธอก่อน
-
ด้วยการ นี่นะ เห็นตรงนี้มั้ย?
-
ว่าแล้วนะคะ พ่อมดก็มีความเสกคาถาอะไรต่างๆ
-
เสกคาถาๆ
-
จนกระทั่งอยู่ดีๆ ก็มีแผ่นหินแผ่นนึงโผล่ขึ้นมาที่พื้นนะคะ
-
พ่อมดบอกอะลาดินว่า ให้ยกแผ่นหินแผ่นนี้ขึ้นค่ะ
-
อะลาดินก็มีความแบบ ทำไมฉันต้องเป็นคนยกด้วย?
-
แผ่นหินมันแผ่นนี้ดูหนักมาก
-
แต่พ่อมดบอกว่า
-
อันนี้เป็นการทดสอบ ช่วยยกไม่ได้
-
อะลาดินต้องเป็นคนยกเท่านั้น
-
อะลาดินนะคะ
-
ในที่สุด ด้วยการใช้แรง ใช้อะไรต่างๆ
-
ก็สามารถยกแผ่นหินขึ้นมาได้สำเร็จค่ะ
-
พ่อมดก็สั่งอะลาดินอีกนะคะ บอกว่า
-
เห็นใต้แผ่นหินนี้มั้ย? ใต้แผ่นหินนี้เป็นถ้ำลึกลงไป
-
ข้างในเนี่ยนะ จะมีของมีค่าต่างๆ มากมาย
-
เดินผ่านไปเนี่ย
-
จะมีห้องที่มีถาดใส่ทองอยู่แบบใหญ่มากกกอยู่นะ
-
เดินเลยเข้าไปอีก
-
ก็จะเป็นสวนที่มีผลไม้ทำด้วยแก้วแหวนเงินทองอะไรต่างๆ
-
แต่ให้เจ้าเนี่ยไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น
-
ให้เดินเข้าไปจนที่สุดของถ้ำเนี่ย
-
จะเจอตะเกียงน้ำมันเก่าๆ อันนึงเนี่ยแขวนอยู่
-
ให้หยิบลงมานะ เทน้ำมันทิ้งให้หมด
-
แล้วหยิบตะเกียงกลับมาให้ข้า
-
อันนี้คือแบบทดสอบของเจ้า
-
เท่านั้นเลย
-
แล้วจะพิสูจน์ได้ว่า เจ้าเป็นผู้ชายเต็มตัวแล้ว
-
ด้วยความที่อะลาดินนะคะ เป็นเด็กไม่ได้เรื่อง
-
อะลาดินเนี่ยเป็นเด็กไม่ได้เรื่อง แบบไม่ได้เรื่องเลยนะ
-
เอาเป็นว่าที่ผ่านมา
-
ตอนที่โดนสอน โดนนู่นโดนนี่
-
อะลาดินงอแงมาตลอดทางนะคะ
-
อะลาดินก็มีความงอแงอยู่แบบว่า
-
ทำไมไม่ลงไปด้วยกันอ่ะลุง? ปล่อยผมลงไปคนเดียวจะโอเคเหรอ?
-
ถ้ำข้างล่างมันมืดมากเลยนะ
-
อะไรอย่างนี้
-
ก็มีความงอแงต่างๆ นะคะ
-
จนในที่สุดค่ะ
-
พ่อมดเนี่ยก็มอบแหวนวงนึงนะคะ ให้อะลาดิน บอกว่า
-
อันนี้เป็นแหวนวิเศษ ใส่ไว้นะ จะได้มีกำลังใจ
-
ปกป้องเจ้าจากภยันอันตรายต่างๆ
-
อ่ะ ว่าแล้ว ลงไปเลยจ้า
-
ซึ่งอะลาดินนะคะ ก็เดินลงไปในถ้ำตามคำที่พ่อมดว่าค่ะ
-
ก็มีความเดินๆๆ เดินลงไป
-
เดินลงไปถึงเนี่ยนะคะ
-
อะลาดินก็ไม่ค่อยได้สนใจอะไรหรอก
-
สนใจแต่ว่าจะเดินไปให้สุดทางถ้ำค่ะ
-
ก็เดินเข้าไปๆ
-
แล้วก็ไปเจอตะเกียงน้ำมันแบบที่พ่อมดบอกจริงๆ
-
อะลาดินก็หยิบตะเกียงออกมานะคะ
-
แล้วก็เทน้ำมันข้างในออกให้หมดค่ะ
-
จากนั้นก็เอาตะเกียงเนี่ย
-
ใส่ถุงที่ตัวเองพกไปตามที่พ่อมดสั่ง
-
พ่อมดสั่งว่า ให้เอาใส่ถุงเท่านั้น ห้ามถือไว้นะคะ
-
หลังจากนั้น อะลาดินก็ค่อยๆ เดินออกมาค่ะ
-
แต่!!
-
ตอนข้าไปอะลาดินตื่นเต้นไง
-
มีความตื่นเต้นก็ไม่มองอะไรเลย มุ่งตรงไปที่ตะเกียง
-
ขากลับค่ะ
-
อะลาดินดันแบบมองซ้ายมองขวา
-
คือเริ่มชินกับถ้ำ
-
ก็มองไปมองมา
-
อุ๊ย ต้นไม้นี้ออกลูกแปลกจังเลย
-
ดูเป็นแก้วใสๆ ด้วยอ่ะ
-
น่าจะเก็บมาเล่นเนอะ
-
ว่าแล้วนะคะ
-
ด้วยความที่อะลาดินเป็นเด็กยากจนนะคะ
-
ไม่รู้แม้แต่นิดเดียวเลยค่ะ
-
ว่าพวกผลหมากรากไม้อะไรในสวนนั้นน่ะ
-
มันไม่ใช่แก้วใสๆ ธรรมดา
-
มันเป็นพวกแบบเพชรนิลจินดา เงิน ทอง พลอย อะไรอย่างนี้
-
ทั้งนั้นเลย
-
และเป็นเพชรที่แบบ
-
ลูกใหญ่เท่าแบบผลไม้อ่ะ
-
นึกออกป้ะ?
-
เป็นของที่มีค่ามากๆ
-
อะลาดินไม่รู้นะคะ
-
รู้แค่ว่าออกมาเป็นแก้วใสๆ รูปผลไม้ สวยมาก น่ารักมาก
-
เก็บไปเล่นดีกว่า
-
ว่าแล้วนะคะ
-
อะลาดินก็เก็บพวกผลหมากรากไม้พวกนี้ใส่ถุง
-
ใส่ๆๆๆ
-
ใส่จนเต็มถุงเลยนะคะ
-
แล้วก็เดินต่อมาค่ะ
-
ผ่านพวกแท่งทองอะไรต่างๆ อะลาดินก็ไม่สนใจนะคะ
-
เพราะว่ามันไม่สวย
-
คืออะลาดินเนี่ย ความรู้เรื่องสิ่งของต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก
-
อย่างไรก็ตามค่ะ
-
พออะลาดินเก็บทุกอย่างเสร็จ แล้วเดินมาถึงปากถึงเนี่ยนะคะ
-
อะลาดินก็ค่อยๆ ปีนบันไดขึ้นไปค่ะ
-
ปีนๆๆๆๆ
-
จนกระทั่งไปถึงขั้นสุดท้ายนะคะ
-
ปรากฏว่า ขั้นบันไดมันค่อนข้างยาวไง
-
อะลาดินก็มีความตะโกนขึ้นไปบอกพ่อมด ประมาณว่า
-
ฮัลโหล ขึ้นไปไม่ถึง
-
ช่วยเอามือเนี่ย เอื้อมมาจับข้าดึงขึ้นไปหน่อยได้มั้ย?
-
ซึ่งพ่อมดเนี่ยนะคะ
-
ด้วยความที่ตอนนี้จิตใจจดจ่ออยู่ที่อย่างเดียวที่ตัวเองอยากได้
-
ก็คือ ตะเกียงที่อยู่ในมืออะลาดินเนี่ย
-
พ่อมดก็เลยบอกว่า
-
เอ๊ย ไม่ต้องส่งมือมาหรอก
-
เอาตะเกียงมาให้ข้าสิ
-
เอาตะเกียงมาก่อน แล้วเดี๋ยวข้าจะดึงเจ้าขึ้นมา
-
ส่วนอะลาดินเนี่ยนะคะ
-
เวอร์ชั่นนี้ไม่ได้ฉลาดเหมือนในหนังที่เราดูนะ
-
อะลาดินไม่ยอมยื่นตะเกียงให้พ่อมดค่ะ
-
ถามว่าทำไม
-
เพราะว่าอะลาดินใส่ตะเกียงไว้ในถุง
-
แล้วอะลาดินเนี่ย
-
ก็มีความเอาแก้วแหวนเงินทองถ่วงไว้เต็มถุงเลย
-
นึกออกป้ะ?
-
ดังนั้น ถ้าจะหยิบตะเกียงเนี่ย
-
มันจะต้องมีแบบ ล้วงลงไปก้นถุง แล้วควักตะเกียงออกมา
-
ซึ่งมันทำไม่ได้
-
อะลาดินก็เลยตะโกนบอกพ่อมด ประมาณว่า
-
เอาข้าขึ้นไปก่อนแล้วเดี๋ยวข้ายื่นตะเกียงให้
-
ก็มีการเถียงกันอย่างนี้ต่างๆ นานานะคะ
-
จนในที่สุด พ่อมดรำคาญค่ะ
-
พ่อมดเข้าใจว่า อะลาดินเนี่ยเล่นลิ้น
-
ประมาณว่าแบบ อ้ะ นี่จะโกงตะเกียงฉันใช่มั้ย?
-
พ่อมดนะคะ ด้วยความโมโห
-
ก็เลยมีการเสกคาถาอะไรต่างๆ ขึ้นมา
-
แล้วเหมือนคาถาเนี่ยมันไปส่งผลถึงอะไรบ้างอย่างของถ้ำ
-
ปึ๊ก!
-
เหมือนกับถ้ำๆ นี้ เป็นถ้ำที่พ่อมดไม่มีสิทธิ์แตะ
-
จริงๆ แล้วมีแค่อะลาะดินที่ลงไปได้ใช่มั้ย?
-
ดังนั้น การเสกคาถาอะไรต่างๆ ของพ่อมดเนี่ยนะคะ
-
ก็เลยทำให้อยู่ดีๆ ถ้ำเนี่ย มันปิดตัวเอง
-
ปึ้ง!
-
เข้าไป
-
แล้วก็ขังอะลาดินอยู่ด้านใต้ค่ะ
-
ทำให้พ่อมดเนี่ย หัวเสียมาก
-
แต่อย่างน้อยพ่อมดก็คิดว่า
-
เออ ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้อันนี้ ก็ไม่มีใครได้หรอก
-
อะลาดินเนี่ยจะต้องตายอยู่ข้างล่างแน่ๆ
-
ปรากฏว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นนะคะ
-
พ่อมดก็สะบัดก้น แล้วก็กลับแอฟริกาไปเลยค่ะ
-
ทิ้งให้อะลาดินเนี่ย ติดอยู่ที่ใต้พื้นนะคะ
-
จะกลับไปที่สวนเหมือนเดิมก็ไปไม่ได้
-
เพราะว่าเหมือนกับถ้ำอ่ะ มันปิดตัวเองไปแล้ว
-
ก็คือเหมือนกับอยู่ในห้องปิดตายมืดๆ
-
น่ากลัวไปหมดเลยนะคะ
-
อะลาดินทำอะไรไม่ถูกค่ะ
-
ก็นั่งโวยวาย ร้องไห้ฟูมฟายต่างๆ อยู่เป็นเวลานานแสนนาน
-
จนในที่สุดนะคะ
-
อะลาดิน ด้วยความที่รู้สึกสิ้นหวังมากๆ นะคะ
-
ก็กึ่งๆ จะสวดอ้อนวอนพระเจ้าอะไรอย่างนี้
-
ก็เลยหยิบมือตัวเองขึ้นมา
-
แล้วก็ถูกันไปถูกันมาแบบนี้ค่ะ
-
ซึ่งบังเอิญว่า
-
จำได้มั้ยคะว่า ที่นิ้วของอะลาดินมีอะไรอยู่?
-
ที่นิ้วของอะลาดินนะคะ
-
มีแหวนที่พ่อมดให้ไว้ค่ะ
-
ปรากฏว่า ถูไปโดนแหวน
-
ฟื้ด!
-
ก็เลยมีจินนี่นะคะ
-
ออกมาจากแหวนค่ะ
-
ออกมาถึงก็แบบ
-
ฮัลโหล สวัสดี ใครเรียกข้าน่ะ?
-
ข้าเป็นทาสแห่งแหวนวงนี้
-
นายท่านต้องการอะไรบอกข้ามา
-
ข้าจะเสกให้หมดเลย
-
ซึ่งอะลาดินนะคะ ตอนแรกก็กลัวมาก ตกใจ
-
แต่ว่าพอได้ยินคำพูดค่ะ ประมาณว่า
-
เออ จะเสกให้ อะไรก็ได้
-
แล้วก็นึกไปถึงคำพูดของพ่อมดนะคะ
-
ที่สั่งเอาไว้ประมาณว่า
-
เออ แหวนวงนี้จะช่วงปกป้องเจ้า อะไรต่างๆ
-
อะลาดินค่ะ ก็เลยบอกจินนี่ บอกว่า
-
ไหน ช่วยพาข้าขึ้นไปบนพื้นโลกหน่อยสิ
-
ซึ่งแน่นอนนะคะว่า
-
จินนี่ก็จะต้องพาอะลาดิน กลับขึ้นไปบนพื้นโลกค่ะ
-
หลังจากเหตุการณ์นี้นะคะ
-
อะลาดินก็ค่อยๆ เดินทางกลับบ้านไปค่ะ
-
ไปถึงเนี่ยก็หิวจัดเลยทีเดียวนะ
-
ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมอะลาดินถึงไม่ขอให้จินนี่พากลับบ้าน
-
เออ ช่างมันนะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ
-
อะลาดินเนี่ยกลับบ้านไปถึงก็หิวจัดเลย
-
บอกแม่ บอกว่า หิวมาก
-
ซึ่งแม่ก็แบบ ตกใจ
-
เพราะว่า จริงๆ แล้วอะลาดินเนี่ย
-
หายตัวไปถึงแบบ 3 วัน 3 คืนเลยทีเดียวนะคะ
-
แม่ก็รีบเอาทุกอย่างในบ้านมาให้อะลาดินกิน
-
กินๆๆๆ
-
กินไป กินมา อะลาดินก็ไปนอนพักค่ะ
-
ตื่นมาวันรุ่งขึ้นก็บอกแม่อีก บอกว่า
-
แม่ หิวมากเลย มีอะไรกินมั้ย?
-
ซึ่งแม่ของอะลาดินเนี่ยนะคะ ก็บอกลูกประมาณว่า
-
ขอโทษนะลูก คือของในบ้านน่ะ หมดแล้ว
-
เมื่อวานลูกกินหมดบ้านเลย
-
ไม่เป็นไรนะ แม่เพิ่งปั่นด้ายเสร็จม้วนใหม่ๆ เลย
-
เดี๋ยวแม่เอาไปขาย แล้วซึ้อของกินกลับมาให้
-
รอแป็ปนึงนะ
-
ซึ่งตอนนั้นเนี่ย อยู่ดีๆ อะลาดินก็คิดอะไรก็ไม่รู้
-
ก็เลยบอกแม่ ประมาณว่า
-
แม่ๆๆ ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องเอาด้ายไปขายหรอก
-
เอาด้ายไปขายก็ได้ตังค์ไม่กี่ตังค์หรอก
-
เอานี่ดีกว่า
-
ข้าเพิ่งจะไปได้ตะเกียงๆ นึงมา
-
ว่าแล้วนะคะ อะลาดินก็มีความเล่าให้แม่ฟังค่ะว่า
-
ตัวเองเนี่ยหายตัวไปไหนมา
-
ไปลงไปในถ้ำมา อะไรมา
-
แล้วคนคนนั้นเนี่ย ไม่ใช่ลุงของเราหรอก
-
ต้องเป็นพ่อมดแน่ๆ เลย
-
มันหลอกเรานะ
-
แต่ไม่เป็นไร ข้าได้สิ่งนี้มา
-
คือเป็นตะเกียงน้ำมันอันนึง
-
ข้าว่าของที่มันเป็นทองเหลืองเนี่ย
-
น่าจะขายออกมาแล้วได้ราคาดีมากกว่าด้ายของแม่นะ
-
เอาตะเกียงอันนี้ไปขายสิ แล้วก็แลกอาหารกลับมา
-
ซึ่งแม่นะคะ ก็หยิบตะเกียงมาดู
-
แล้วก็พลิกไปพลิกมา แล้วก็มีความแบบ
-
แต่ลูก ตะเกียงนี้มันดูเก่ามากเลย
-
แม่ว่า ถ้าแม่เอามาขัดๆ หน่อยนึงเนี่ยนะ
-
มันน่าจะทำให้ขายได้ราคาดีขึ้น
-
ดังนั้นแม่ของอะลาดินนะคะ ก็เลยหยิบตะเกียงขึ้นมา
-
แล้วก็จัดการขัดมันค่ะ
-
ขัดๆ
-
ซึ่งแน่นอนนะคะ เราทุกคนรู้กันดีค่ะว่า
-
การขัดตะเกียงเนี่ย จะทำให้เกิดอะไรขึ้น
-
แน่นอนค่ะว่า ตะเกียงนี้เป็นตะเกียงวิเศษนะคะ
-
ดังนั้น ก็เลยมีจินนี่อีกตัวนึงนะคะ
-
โผล่ขึ้นมาจากตะเกียง
-
ฟริ้ง~! ขึ้นมา
-
ทำให้แม่ของอะลาดินเนี่ย ตกใจมาก
-
ช็อค แล้วก็เป็นลมไปเลยนะคะ
-
ฝั่งอะลาดินก็แบบช็อคเหมือนกัน
-
แต่ว่าจินนี่เนี่ย ขึ้นมาแล้วก็พูดประมาณว่า
-
สวัสดี ข้าเป็นทาสของตะเกียงอันนี้
-
นายท่านต้องการอะไร สั่งมาสิ
-
ข้าทำให้ได้ทุกอย่าง
-
คิดว่า อะลาดินจะขออะไรคะ
-
อะลาดินนะคะ บอกจินนี่บอกว่า
-
ตอนนี้ข้าหิวมาก หิวสุดๆ
-
ช่วยเสกอาหารให้ข้าได้มั้ย?
-
เอาแบบเยอะๆ แล้วอร่อยๆ เลย
-
ซึ่งจินนี่นะคะ ก็จัดการเสกอาหารให้อะลาดินจริงๆ ค่ะ
-
ก็เสกมาเต็มไปหมดเลยนะคะ
-
แต่ความพิเศษของอาหารของจินนี่คือ
-
เป็นอาหารระดับที่เสิร์ฟในพระราชวัง ประมาณนั้นเลย
-
และที่สำคัญนะคะ อาหารทุกเมนูเนี่ย
-
ใส่ไว้ในจานที่เป็นทองคำบริสุทธิ์ค่ะ
-
และจานทองคำบริสุทธิ์เหล่านี้นะคะ
-
ก็อยู่บนถาดที่เป็นเงินบริสุทธิ์อีกทีนึง
-
อะลาดินเนี่ยก็มีความปลุกแม่ขึ้นมานะคะ
-
แล้วก็บอกแม่ว่า
-
แม่ๆ มีอาหารแล้ว กินๆๆ
-
แม้ว่าเมื่อกี้แม่จะตกใจ แต่กินก็กิน
-
ก็กินๆๆๆ
-
กินอาหารเข้าไปค่ะ
-
แล้วก็เก็บอาหารไว้กินต่อได้ถึงแบบ 2-3 วันเลยทีเดียวนะ
-
เพราะว่าอาหารมันเยอะมากจริงๆ
-
หลังจากนั้นค่ะ อะลาดินก็พยายามจะบอกแม่ บอกว่า
-
เออนี่ มันมียักษ์จินนี่อะไรต่างๆ นะ
-
แต่ว่า แม่ของอะลาดินเนี่ยกลัว
-
แม่บอกว่า ไม่เอาแล้ว ชีวิตนี้แม่ไม่อยากเห็นจินนี่อีกแล้ว
-
ลูกอย่าเสกจินนี่ออกมาอีกเลย อะไรต่างๆ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ
-
อะลาดินก็บอกว่า ไม่ได้แม่
-
จินนี่มันเป็นของดีจริงๆ นะ
-
วันหลังแม่ก็ไม่ต้องมาดูสิ ตอนผมเสก
-
อะไรทำนองนั้น
-
สองแม่ลูกนี่นะคะ หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตต่อมาค่ะ
-
จนกระทั่งอาหารที่จินนี่เสกมาให้เนี่ยนะคะ
-
หมด
-
ก็เริ่มรู้สึกว่าหิวอีกแล้ว
-
จะหาอาหารยังไงดี
-
อะลาดินก็คิดได้ค่ะว่า
-
เออ เดี๋ยวเราเอาไอ้จานพวกนี้ที่ใส่อาหาร ไปขายดีกว่า
-
ซึ่งตอนแรกเนี่ยนะคะ
-
อะลาดินก็เอาพวกจานที่เป็นทองเนี่ย จะไปขายในตลาดค่ะ
-
ไปถึงก็ไปเจอพ่อค้าชาวยิว
-
ก็เอาไปให้พ่อค้าชาวยิวดู
-
พ่อค้าชาวยิวนะคะ หยิบจานขึ้นมาดู
-
แล้วก็แบบ หูย นี่มันแพงมากเลยนะเนี่ย
-
นี่มันทองคำบริสุทธิ์ ละเป็นแบบขนาดจานเลยอ่ะ
-
น้ำหนักอะไรก็แบบ อูหู ดูแพงแน่ๆ
-
ไอ้เด็กนี่มันไปเอาจานนี่มาจากไหน
-
แล้วมันจะขายราคาเท่าไหร่นะ
-
ดังนั้นนะคะ ก็เลยมีความต่อราคากันค่ะ
-
พ่อค้าก็ถามอะลาดินประมาณว่า
-
เจ้าจะขายจานนี้เท่าไหร่ล่ะ?
-
ฝั่งอะลาดินเนี่ย เป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องเลยนะคะ
-
ไม่รู้ว่าแบบจานมันราคาเท่าไหร่ หรือทองคำคืออะไร
-
รู้แค่ว่า ไอ้นี่มันเป็นจานอ่ะ
-
ขายได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น
-
ก็บอกพ่อค้าไปประมาณว่า
-
ท่านจะให้เท่าไหร่ ก็เอาเท่านั้นแหละ
-
ทำให้พ่อค้าชาวยิวเนี่ยนะคะ รู้ว่า
-
อ่อ อะลาดินเนี่ย มันอ่อน
-
มันไม่มีความรู้เรื่องการเป็นพ่อค้าอะไรเลย
-
ดังนั้นนะคะ
-
พ่อค้าชาวยิวก็เลยกดราคาอะลาดินค่ะ
-
ด้วยการเอาเงินเนี่ยนะคะ
-
ให้แค่ 1 เหรียญดีนาร์เท่านั้น
-
ซึ่งเหรียญดีนาร์นี่เป็นสกุลเงินโบราณนะ
-
จำกันได้ใช่มั้ยคะ? จากใครที่ดูนิทานเวตาลไป
-
จะมีตอนนึงที่พระราชาจ่ายเงินเป็นเงินดีนาร์เหมือนกัน
-
น่ะ ประมาณนั้นค่ะ
-
หลังจากอะลาดินได้เงิน 1 ดีนาร์กลับไปนะคะ
-
ก็เอาเงินนี้ไปซื้ออาหารเแบบเล็กๆ น้อยๆ กลับมา
-
แล้วก็มากินกับแม่ค่ะ
-
ซึ่งพออาหารหมด ก็เอาจานกลับไปขายอีก
-
ขายๆๆ ขายอย่างนี้ไปเรื่อยๆ นะคะ
-
พ่อค้าชาวยิวก็ยิ้มนะคะ
-
เพราะว่าจ่ายทีละ 1 เหรียญๆๆ
-
จนในที่สุดวันนึงเนี่ย
-
อะลาดินก็ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
-
อาหารหมดก็ให้จินนี่ออกมาเสกอาหารใหม่
-
จนในที่สุดวันนึงนะคะ จานทองคำก็หมดค่ะ
-
อะลาดินก็ตัดสินใจว่า
-
เออไม่เป็นไร ถาดก็ขายได้เหมือนกัน
-
ก็เลยเอาถาดเงินอันใหญ่เนี่ย
-
จะไปขายให้พ่อค้าชาวยิวเหมือนเดิม
-
แต่ระหว่างทางเนี่ยนะคะ
-
ดันเดินผ่านลุงใจดีคนนึง ซึ่งเป็นร้านขายของโบราณค่ะ
-
ลุงก็เลยเรียกอะลาดินเข้าไป ประมาณว่า
-
อะลาดินๆ มานี่สิ เจ้าจะขายอะไรน่ะ?
-
ซึ่งอะลาดินนะคะ ก็มีความเล่าให้ลุงฟังต่างๆ
-
ลุงก็หยิบถาดไปดูค่ะ แล้วก็ดูไปดูมา แล้วก็แบบ
-
อะลาดิน นี่รู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรลงไป?
-
รู้มั้ยว่าไอ้ที่ขายไปทั้งหมดเนี่ย มันเป็นทองคำแท้
-
แล้วรู้มั้ยว่า นี่มันเป็นเงินแท้
-
เจ้าน่ะ เอาไปขายทีละ 1 เหรียญดีนาร์ๆ
-
รู้มั้ยว่า ของพวกนี้มันมีมูลค่าถึงแบบ 70-80 เหรียญเลยทีเดียวนะ
-
นี่ โดนโกงแล้ว
-
วันหลังถ้าจะขายเนี่ย มาขายให้ลุงมา
-
หลังจากนั้นนะคะ อะลาดินก็เลยขอบคุณลุงใจดีคนนั้นค่ะ
-
แล้วก็ตัดสินใจเอาถาดเนี่ย ขายให้ลุงไปแทน
-
หลังจากนั้น อะลาดินกับแม่ก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาเรื่อยๆ นะคะ
-
ก็เอาถาดไปขาย เอาอะไรไปขายจนหมด
-
แล้วก็เรียกจินนี่ออกมาเสกอาหารให้ใหม่
-
แล้วก็กินอาหาร
-
กินอาหารเสร็จก็เอาจานไปขาย เอาถาดไปขาย
-
บ้านของอะลาดินก็ค่อยๆ ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
-
เพราะว่า ถาดและจานเนี่ย มันมีมูลค่าค่อนข้างสูง
-
คือมันไม่มีต้นทุนอ่ะ นึกออกป้ะ?
-
ก็แค่อาหารหมดก็ขอจินนี่ ถาดหมดก็ขอจินนี่
-
ต่างๆ นานาค่ะ
-
ซึ่งอะลาดินเนี่ยนะคะ
-
ระหว่างทางก็มีความเริ่มเรียนรู้มูลค่าของทรัพย์สินต่างๆ เพิ่มขึ้นนิดนึง
-
หลังจากโดนโกงไปไง เก็ทป้ะ?
-
อะลาดินก็มีความแบบไปดูในตลาดต่างๆ
-
ว่าแบบ เออ ของอันนี้มันน่าจะมูลค่าเท่านั้น
-
และที่สำคัญ
-
อะลาดินเริ่มรู้แล้วนะคะว่า
-
ไอ้แก้วเล็กๆ ที่ตัวเองเก็บมาต่างๆ เนี่ย
-
มันไม่ใช่แค่กระจก หรือว่าเป็นแก้ว หรือเป็นอะไร
-
แต่ว่ามันเป็นพวกอัญมณีต่างๆ
-
และอะลาดินเนี่ย ก็มีความไปดูพวกตลาดอัญมณีต่างๆ มาแล้วว่า
-
เฮ้ย ไอ้พวกอัญมณีที่เค้าขายกันแพงๆ
-
แล้วแบบว่า ต่อให้ใหญ่ที่สุดในตลาดเลยนะ
-
ก็ยังใหญ่ไม่ได้เท่าเสี้ยวนึงของอัญมณีที่ฉันมีเลย
-
ดังนั้นอะลาดินก็เลยแบบรู้ละว่า ตัวเองเริ่มรวยนะคะ
-
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดก็เกิดขึ้นต่อค่ะ
-
เมื่อวันนึงนะคะ อะลาดินเดินอยู่ในตลาด
-
ปรากฏว่ามีเสียงประกาศลอยมาค่ะ ประมาณว่า
-
ปิดบ้านๆๆๆ ทุกคนหลบไปให้หมด
-
อ่ะ อะลาดินก็งงว่าเกิดอะไรขึ้นนะ
-
โอ้ ขอโทษค่ะ ตะโกนดังไปหน่อย
-
หลายคนเปิดฟังตอนหลับใช่มั้ย?
-
ตื่นเลยซะงั้น
-
อ่ะ ไม่เป็นไรนะ
-
เรื่องของเรื่องก็คือ เมืองที่อะลาดินอยู่
-
ซึ่งเป็นเมืองจีนเนี่ยนะ
-
มีผู้ปกครองเป็นสุลต่าน
-
ใช่ค่ะ มันมั่วเบอร์นั้นแหละ
-
สุลต่านเนี่ยนะคะ มีลูกสาวคนนึงเป็นเจ้าหญิงค่ะ
-
เป็นเจ้าหญิงที่สวยมากกก
-
ไม่ได้ชื่อจัสมินนะคะ แต่ว่าชื่อ เจ้าหญิงเบาอูลบาดูร์
-
ใช่ค่ะ นี่คือชื่อเจ้าหญิงจริงๆ นะคะ
-
วันนั้นค่ะ เจ้าหญิงเนี่ยออกเดินทางมาในเมือง
-
เพราะว่า ตามธรรมเนียมพวกอาหรับต่างๆ เนี่ย
-
เค้าจะต้องมีโรงอาบน้ำ
-
แล้วเป็นโรงอาบน้ำแบบใหญ่ อะไรอย่างนี้
-
เจ้าหญิงเนี่ยมาใช้บริการโรงอาบน้ำ
-
ซึ่งก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมในวังไม่มีอ่ะนะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ
-
เมื่อเจ้าหญิงเดินทางมาทุกบ้านก็ต้องปิดไปให้หมด
-
แล้วทุกคนก็โดนสั่งห้ามว่า
-
ห้ามแอบดูตัวเจ้าหญิงเด็ดขาด
-
แต่อะลาดินนะคะ ด้วยความที่เป็นคนซน
-
ก็มีความรู้สึกว่าแบบอยากเห็นหน้าเจ้าหญิงอ่ะ
-
เค้าลือกันว่า เจ้าหญิงสวยไม่ใช่เหรอ
-
ดังนั้นนะคะ
-
อะลาดินก็เลยเอาตัวเองเนี่ย ไปซ่อนอยู่ในโรงอาบน้ำ
-
อยู่หลังประตูแล้วก็แอบส่องเจ้าหญิงค่ะ
-
ส่องไปส่องมา ปรากฏว่าเห็นหน้าเจ้าหญิงนะคะ
-
ไม่ได้ส่องไปถึงตอนโป๊นะ
-
แต่แบบเห็นหน้าเจ้าหญิงอ่ะ
-
ทำให้อะลาดินนี่หลงรักเจ้าหญิงทันที
-
กลับไปบ้านนี่เป็นแบบไข้ใจเลย กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
-
ต่างๆ นานา
-
แม่ถามว่าเป็นอะไร ก็ไม่ยอมบอกนะคะ
-
จนในที่สุดแม่ก็เป็นห่วงอยู่หลายวันค่ะ
-
แม่ก็พยายามเค้นๆๆ ให้ได้
-
อะลาดินก็เลยเล่าให้แม่ฟังค่ะ
-
ว่าตัวเองเนี่ยไปแอบดูเจ้าหญิงมา แล้วแบบหลงรักเจ้าหญิงมาก
-
ลูกทนอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีเจ้าหญิง
-
แม่ แม่ต้องเดินทางเข้าวังนะ ไปหาสุลต่าน
-
แล้วไปขอเจ้าหญิงมาเป็นเมียลูกให้ได้
-
ใช่... ลูกชายช่างตัดเสื้อที่ตอนนี้ก็ยังอยู่กระท่อมๆ เดิม
-
อยากได้เจ้าหญิง ลูกของสุลต่าน
-
มาเป็นเมีย
-
ใช่ค่ะ
-
แม้ว่า แม่จะพูดอะไรนะคะ อะลาดินก็ไม่ฟังค่ะ
-
บอกอย่างเดียวว่า ฉันตายแน่ ถ้าฉันไม่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นเมีย
-
คือแบบชอบมาก หลงมาก รักมาก ต่างๆนะคะ
-
แม่ก็พยายามจะบอกว่า จะบ้าหรอ?
-
จะให้แม่เดินเข้าไปบอกสุลต่านว่า
-
ขอเจ้าหญิงมาเป็นเมียลูกชายหน่อย
-
เราเป็นครอบครัวช่างตัดเสื้อนะลูก
-
เราอยู่ในบ้านจนๆ
-
สุลต่านเนี่ย เค้าก็ต้องให้ลูกสาวแต่งงานกับเจ้าชายเมืองอื่น
-
หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นแบบเสนาบดีผู้ใหญ่ อะไรอย่างนี้
-
ไม่ใช่เวลาจะแต่งกับใครก็ได้
-
เจ้าจะเอาอะไรไปพิสูจน์กับเค้าว่า เราเนี่ยดูแลลูกสาวเค้าได้?
-
ซึ่งอะลาดินก็บอกแม่ว่า
-
แม่ไม่รู้อะไรซะละ ผมเนี่ยไปเช็คราคาตลาดมาแล้ว
-
แก้วแหวนเงินทองที่อยู่ในตลาดนะ
-
นี่ เพชรเค้าอ่ะ เม็ดกันแค่นี้
-
ในขณะที่เพชรในบ้านเราเนี่ยนะ ที่ผมไปเก็บมาจากสวนเนี่ย
-
ลูกขนาดนี่นะคะ
-
ดังนั้น แม่ไม่ต้องทำอะไรมาก
-
แม่หาตะกร้ามาใบนึงนะ โกยเพชรไปเลยแม่ โกยไป
-
เป็นลูกๆ ใหญ่ๆ ใช่มั้ย โกยไปหลายๆ ลูกเลย
-
แล้วก็เดินทางเข้าไปที่วัง แล้วไปบอกสุลต่านว่า
-
ขอผู้หญิงคนนี้เป็นเมียให้ผมหน่อย ได้โปรดเถอะ
-
ถ้าแม่ไม่ทำแบบนี้นะ แสดงว่าแม่เป็นแม่ที่ไม่สมบูรณ์
-
ไม่ทำหน้าที่หาเมียให้ลูก
-
ซึ่งแม้ว่าแม่จะพยายามเถียงต่างๆ ว่าแบบ
-
ให้แม่ไปขอใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ลูกสุลต่านได้มั้ย?
-
อะลาดินก็ไม่ฟังนะคะ
-
ในที่สุดค่ะ แม่ก็จำเป็นจะต้องตามใจอะลาดินนะคะ
-
ด้วยการเดินทางเข้าไปที่วังค่ะ
-
ซึ่งที่วังนะคะ บ่อยครั้งสุลต่านก็จะจัดเหมือนประชุมไง
-
แล้วก็แบบมีประชาชนเข้าเฝ้าได้ อะไรต่างๆ
-
แม้ว่าจะไม่ได้จัดทุกวันก็ตาม
-
แต่ว่าแม่ของอะลาดินเนี่ยก็เข้าไปเฝ้า
-
ซึ่งวันแรกก็แบบเกร็ง
-
นึกภาพนะว่า แม่ของอะลาดินเป็นผู้หญิงที่อยู่ในแบบสลัมอะไรอย่างนั้นเลย
-
ไปถึงเจอสุลต่าน ขาสั่นค่ะ
-
แน่นอน ไม่กล้ากราบทูลอะไรทั้งสิ้นนะคะ
-
ก็กลับบ้านมา
-
อะลาดินก็มีความโวยวายว่าแบบ
-
ทำไมแม่ไม่ไปพูดให้ผม ทำไมไม่พูดให้ผม นะคะ
-
หลังจากนั้นค่ะ แม่ของอะลาดินก็เวียนไปเข้าเฝ้า หลายต่อหลายวัน
-
แต่ว่าสุลต่านก็ไม่สนใจเค้าซะทีนะคะ
-
จนในที่สุดเสนาบดีผู้ใหญ่เนี่ยนะคะ ก็หันไปบอกสุลต่านค่ะ
-
ประมาณว่า
-
ท่านๆ สังเกตมั้ย
-
เดี๋ยวนี้นะ มีผู้หญิงคนนึงเนี่ยมาเฝ้าทุกครั้งเลยที่เราเปิดประชุมนะ
-
แล้วก็จะยืนเงียบๆ อยู่ที่มุมห้อง ไม่พูดอะไรเลย
-
แบกตะกร้าอยู่ใบนึง
-
ไม่รู้เป็นว่าตะกร้าอะไร
-
คราวหน้าท่านลองถามเค้าดูมั้ยว่ามีอะไรหรือเปล่า
-
เพราะว่า เค้าดูมีปัญหาร้อนใจจริงๆ นะคะ
-
วันรุ่งขึ้นค่ะ พอเปิดประชุมเนี่ย
-
แน่นอน แม่ของอะลาดินก็มาอีกรอบนะคะ
-
ดังนั้น สุลต่านก็เลยทำตามคำแนะนำของเสนาบดีค่ะ
-
ด้วยการเรียกแม่ของอะลาดินขึ้นมา
-
แล้วก็ถามว่า เจ้ามีอะไรต้องการจะบอกข้า บอกมาสิ
-
ซึ่งแม่ของอะลาดินนะคะ ก็บอกสุลต่านไปค่ะ
-
บอกว่า เออ ท่านสุลต่านผู้ยิ่งใหญ่
-
ข้าขออย่างนึงก่อนได้มั้ย ก่อนที่ข้าจะทูลอะไรก็ตาม
-
ขออย่างเดียวเลย ท่านอย่าโกรธข้านะ
-
ได้โปรด พลีส!
-
ซึ่งสุลต่านนะคะ
-
ก็เห็นแม่ของอะลาดินเป็นแค่แบบผู้หญิงแก่ๆ ธรรมดาคนนึง
-
ไม่น่าจะมีปัญญาทำอะไรให้ตัวเองโกรธนะคะ
-
สุลต่านก็เลยบอกว่า ได้ โอเค อ่ะ ไหนต้องการอะไรว่ามาซิ
-
แม่ของอะลาดินค่ะ ก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้สุลต่านฟังนะคะ
-
ประมาณว่า เนี่ย ลูกชายข้านะ ชื่อ อะลาดิน อยู่ในตลาด
-
ทีนี้วันนึงเจ้าหญิงเสด็จไปที่ตลาด
-
ลูกข้าเห็นก็เลยหลงรักเจ้าหญิง
-
เค้าก็เลยบอกว่า ให้เอาตะกร้าๆ นี้ มาสู่ขอเจ้าหญิงเป็นของตัวเอง
-
ซึ่งตอนแรกนะคะ สุลต่านก็มีความแบบหัวเราะ
-
หัวเราะแบบ หึ ไร้สาระ
-
คือไม่ได้โกรธนะ
-
แต่รู้สึกว่าแบบ จะบ้าเหรอ ใครจะยกให้ อะไรอย่างนี้
-
ก็มีความถามแม่อะลาดินนิดนึงว่า
-
อ่ะ เอาของในตะกร้ามาขอลูกสาวฉันน่ะ
-
ของในตะกร้ามีอะไร ไหนเปิดให้ดูหน่อยสิ
-
ซึ่งแม่ของอะลาดินนะคะ ก็เปิดตะกร้าให้สุลต่านดูค่ะ
-
เปิดออกมา พรึบ!
-
อู้หู สุลต่านช็อค
-
สุลต่านแบบ เฮ้ย เพชรในวังของเรายังไม่เม็ดใหญ่ขนาดนี้เลย
-
เพชรของเราอย่างมากก็เม็ดขนาดนี้
-
อยากได้อ่ะ
-
ดังนั้นนะคะ สุลต่านก็เลยตบปากรับคำเลยค่ะ
-
ประมาณว่า เอ้า ได้ๆๆ อยากแต่งงานกับลูกสาวข้าใช่มั้ย?
-
ได้ โอเค!
-
แต่ว่าเสนาบดีคนเมื่อกี้ก็แอบไปกระซิบสุลต่านนิดนึง
-
ประมาณว่า
-
ท่านๆๆ ใจเย็นก่อน จำได้มั้ย เราตกลงอะไรกันไว้
-
ท่านตกลงว่า จะให้ลูกสาวท่านแต่งงานกับลูกชายข้าไม่ใช่เหรอ?
-
ดังนั้นนะคะ สุลต่านก็เลยหันไปบอกแม่อะลาดิน บอกว่า
-
ได้ โอเค แต่งได้ แต่ว่าอีก 3 เดือนค่อยเจอกันแล้วกันนะคะ
-
ซึ่งแม่ของอะลาดินก็เอาคำพูดคำนี้กลับไปบ้าน
-
ไปบอกอะลาดินว่า
-
สุลต่านบอกว่าให้รอ 3 เดือน
-
ทั้งสองแม่ลูกก็ใช้ชีวิตต่อมาอย่างมีความสุขค่ะ
-
จนกระทั่งวันนึงนะคะ ยังไม่ถึง 3 เดือนดีเท่าไหร่เลย
-
ปรากฏว่า แม่ของอะลาดินเนี่ยไปเที่ยวตลาด
-
แล้วก็เกิดเหตุการณ์เหมือนตอนอะลาดินไปเป๊ะเลย
-
คือทุกคนสั่งกันแบบประมาณว่า ปิดๆๆๆ ปิดบ้านๆ
-
หลบไปให้หมดนะคะ
-
แม่ก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น
-
ก็เลยถามคนแถวนั้น
-
คนแถวนั้นก็บอกว่า โหย ยาย ยายไม่ใช่คนแถวนี้ใช่มั้ยล่ะ
-
ถึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
-
แม่ของอะลาดินก็มีความแบบ เอ้า ข้าเป็นคนแถวนี้นะ แต่ข้าไม่รู้เลย
-
เกิดอะไรขึ้นเหรอ เล่าให้ฟังหน่อยสิ
-
คนแถวนั้นนะคะ ก็เลยเล่าให้ฟังว่า
-
วันนี้เป็นวันแต่งงานของเจ้าหญิงของเมือง
-
เนี่ย ลูกชายของเสนาบดีเนี่ยนะ
-
เค้าจะมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมเข้าพิธีอภิเสกสมรสไงล่ะ
-
ยายไม่รู้เลยเหรอจ๊ะ?
-
ซึ่งแม่ของอะลาดินได้ยินแบบนั้นนะคะ ก็ตกใจมาก
-
แล้วกลับบ้านไปบอกอะลาดินค่ะ
-
ลูกชาย ตัดใจเถอะลูก พระราชาน่าจะลืมเราแล้วแหละ
-
3 เดือนเนี่ย ลืมคำสัญญาของเราไปเรียบร้อยแล้ว
-
เค้าจะให้เจ้าหญิงเนี่ยนะ แต่งงานกับลูกชายของเสนาบดีแล้ว
-
ลูกก็ไปหาผู้หญิงคนใหม่แล้วกัน ประมาณนั้นนะคะ
-
ซึ่งถามว่า อะลาดินยอมมั้ย?
-
อะลาดินไม่ยอมนะคะ
-
ดังนั้นนะคะ อะลาดินก็เลยนึกถึงตะเกียงวิเศษของตัวเองขึ้นมาค่ะ
-
ต้องบอกว่า ในเวอร์ชั่นนี้ ตะเกียงนี่ใช้เท่าไหร่ก็ได้นะ
-
อันลิมิต บอกเลยนะคะ
-
อะลาดินก็เลยหยิบตะเกียงขึ้นมา แล้วก็ถูๆๆ ค่ะ
-
แล้วก็สั่งจินนี่นะคะ บอกกว่า
-
สวัสดีจินนี่ ข้ามีเรื่องที่จะใช้เจ้านิดนึง
-
คือวันนี้ เจ้าหญิงของเมืองจะแต่งงาน
-
ข้าไม่อยากให้นางแต่ง
-
เอาเป็นว่าตอนที่นางเข้าพิธีแต่งงานอะไรก็เรื่องของนางแล้วกัน
-
แต่ทันทีที่ถึงเวลากลางคืน
-
พอลูกชายของเสนาบดีเนี่ย ขึ้นไปที่เตียงของเจ้าหญิง
-
ให้พาทั้งสองคนน่ะ มาที่นี่ ตอนนั้นเลย
-
อย่าให้ทันได้ทำอะไรกันเด็ดขาดนะคะ
-
ซึ่งแน่นอนว่า จินนี่ก็จะต้องเสกให้ตามที่อะลาดินต้องการค่ะ
-
คืนนั้นนะคะ พอเจ้าหญิงกับลูกชายของเสนาบดีกำลังจะขึ้นเตียงด้วยกัน
-
จินนี่ก็จัดการอุ้มทั้งคู่มาที่บ้านของอะลาดินเลยค่ะ
-
มาถึงปุ้ปอะลาดินก็สั่งจินนี่ บอกว่า
-
เอาลูกชายของเสนาบดีไปขังไว้ในตู้อะไรสักอย่างนึงละกัน
-
ไม่ต้องสนใจ
-
ส่วนเจ้าหญิงอ่ะ ทิ้งไว้ที่นี่
-
อะลาดินนะคะ ก็ผ่านคืนนั้นไปด้วยการให้เจ้าหญิงนอนบนเตียงของตัวเอง
-
ส่วนตัวเองหาของอะไรมากั้นเจ้าหญิงเอาไว้
-
คือไม่ได้อยากล่วงเกินอะไรทั้งสิ้น
-
แค่อยากถล่มงานแต่งงานเท่านั้นแหละ
-
เช้าวันรุ่งขึ้นนะคะ
-
อะลาดินก็สั่งให้จินนี่เนี่ย เอาทั้งคู่กลับไปไว้ที่เดิมค่ะ
-
ตอนเช้าเนี่ยนะคะ ทุกวันเป็นปกติค่ะ
-
สุลต่านรักลูกสาวมาก
-
ปกติแล้วสุลต่านจะเดินมาทักทายลูกสาว
-
แล้วก็ถามนู่นถามนี่อยู่แล้ว
-
วันนี้นะคะ แม้ว่าลูกสาวจะเพิ่งแต่งงานค่ะ
-
แต่ว่าสุลต่านเนี่ยหวงลูกสาวมาก
-
ก็เปิดประตูเข้ามาอย่างแรง
-
ปั้ง!
-
สวัสดีลูกสาว แต่งงานคืนแรกเป็นอย่างไรบ้าง?
-
เข้าไปทักถึงในห้องนอนเลยนะ
-
ลูกสาวก็มีความงอนพ่อ ก็ไม่พูดอะไร ไม่เล่าให้พ่อฟัง
-
แล้วก็ทำหน้ามีทุกข์ใจมากๆ นะคะ
-
สุลต่านก็งงว่าลูกสาวเป็นอะไร
-
ก็มีความไปบอกพระราชินี
-
พระราชินีมาถาม ลูกสาวก็เล่าให้ฟังประมาณว่า
-
เมื่อคืนข้าแบบว่า เกิดเรื่องเลวร้ายกับชีวิตข้ามากเลย
-
คือข้าโดนลักพาตัวไปที่ไหนก็ไม่รู้ น่ากลัวมากเลย
-
แล้วก็มีใครก็ไม่รู้มายุ่งกับข้า อะไรยังงี้
-
พระราชินีนะคะ ก็กลับไปเล่าให้สุลต่านฟัง
-
สุลต่านก็เข้าใจว่า ลูกสาวตัวเองเนี่ย ฝันร้าย อะไรทำนองนี้
-
วันนั้นก็ผ่านไปนะคะ
-
คืนนั้นมาถึง อะลาดินก็ทำแบบเดิมเป๊ะเลย
-
ก็ลักพาตัวทั้งคู่มา
-
เอาลูกชายของเสนาบดีไปขังไว้ในที่นึง
-
แล้วก็ให้เจ้าหญิงนอนในห้องของตัวเอง
-
ซึ่งเจ้าหญิงเนี่ยรู้สึกว่า 2 คืนนี้เป็น 2 คืนที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต
-
เพราะว่า เจ้าหญิงเนี่ยนะคะ เคยนอนแต่ในปราสาทสวยหรูอะไรต่างๆ ไง
-
นึกสภาพมานอนบ้านของอะลาดินที่เป็นแบบ กระต๊อบอ่ะ
-
นึกออกป้ะ
-
เจ้าหญิงก็รู้สึกว่าแบบ นี่คือการทรมานนะคะ
-
แต่จริงๆ คนที่ทรมานกว่าคือ ลูกชายของเสนาบดีค่ะ
-
ที่โดนขังไว้แบบไม่ได้นอนในเตียงด้วย
-
แล้วก็แบบหนาว อะไรแบบนอนขดอยู่ในตู้เล็กๆ
-
อะไรทำนองนี้นะคะ
-
เรื่องราวผ่านไปแบบนี้ 2 วันค่ะ
-
จนในที่สุดเนี่ย ลูกชายของเสนาบดีเนี่ยนะคะ
-
ทั้งโดนขัง ทั้งโดนจินนี่ขู่ ทั้งโดนอะไรต่างๆ
-
วันรุ่งขึ้นก็เลยกลับไปบอกพ่อตัวเองค่ะ
-
บอกว่า ให้ยกเลิกงานแต่งงานนี้ได้มั้ย
-
คือข้าแบบถึงจะรักเจ้าหญิงแค่ไหนก็ตาม
-
ถึงอยากจะเป็นลูกเขยของสุลต่านแค่ไหนก็ตาม
-
แต่โดนลักพาตัวแบบนี้ทุกคืน ข้าไม่ไหวจริงๆ
-
ยกเลิกงานแต่งเถอะ ได้โปรดนะคะ
-
ในที่สุดค่ะ งานแต่งก็เลยโดนยกเลิกไปซะอย่างนั้นนะคะ
-
หลังจากยกเลิกงานแต่งไปนะคะ
-
แน่นอน ตอนนี้เจ้าหญิงว่างแล้วค่ะ
-
ดังนั้นเมื่อเวลาครบ 3 เดือนเนี่ยนะคะ
-
อะลาดินก็ให้แม่ของตัวเองเนี่ยนะคะ
-
ไปทวงสัญญากับสุลต่านอีกรอบนึงค่ะ
-
ซึ่งสุลต่านเนี่ย ก็มีความแบบ ไม่อยากยกลูกสาวให้ไง
-
ดังนั้นก็ตั้งเงื่อนไขต่างๆ นานา มากมายนะคะ
-
ประมาณว่า เพชรที่เจ้าเสนอมาก็เยอะดีนะ แต่ลูกสาวข้าเป็นลูกของสุลต่าน
-
ดังนั้นนะ เจ้าจะต้องไปหาทาสผิวดำมาเท่านี้ สาวใช้ผิวขาวมาเท่านั้น
-
ให้ทุกคนเนี่ยแบกตะกร้าใส่เพชรแบบที่เจ้าเอามาโชว์ให้ข้าดูเนี่ย
-
เอามาให้หมดเลย
-
แล้วเอามาที่วังของข้า ข้าถึงจะยกลูกสาวให้
-
ถามว่า แม่ของอะลาดินกลัวมั้ย?
-
แม่ของอะลาดินก็แบบ จะบ้าเหรอ ฉันจะไปหามาจากไหน อะไรยังงี้
-
แต่พอกลับมาบอกลูกนะคะ ก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ
-
เพราะว่าอะลาดินก็ไปถูตะเกียงนะคะ
-
แล้วให้จินนี่เนี่ยเสกมาให้ทั้งหมด
-
เอามากองที่วังค่ะ
-
นอกจากนี้ก็ให้จินนี่เนี่ย เสกตัวเองให้แต่งตัวเป็นเหมือนเจ้าชายอะไรต่างๆ ด้วย
-
ทำให้สุลต่านเนี่ยนะคะ รู้สึกว่า
-
โอเค ฉันยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับอะลาดินก็ได้
-
แถมเอาพวกเพชรพลอยอะไรต่างๆ เนี่ยนะคะ ไปให้ลูกสาวดู
-
ลูกสาวก็มีความแบบ เออ โอเค คนนี้ผ่านนะ ดูรวยใช้ได้เลย
-
ก็ถูกสเปคใช้ได้นะคะ อะไรทำนองนี้
-
แต่หลังจากน้ันสุลต่านก็มีการตั้งเงื่อนไขอีกนะคะ ประมาณว่า
-
แต่ว่าข้าเนี่ยคิดถึงลูกสาว
-
อยากให้วังของลูกสาวเนี่ยอยู่ใกล้ๆ วังของข้า
-
แล้วต้องเป็นวังขนาดใหญ่ด้วย
-
ถามว่ามีปัญหามั้ย ก็ไม่มีอีกค่ะ
-
เพราะว่า อะลาดินก็ให้จินนี่เสกวังขนาดใหญ่ให้อีกนะคะ
-
แล้วก็ใหญ่มากๆ
-
เรียกได้ว่า เป็นวังที่สวย แล้วก็หรูกว่าวังของสุลต่านอีกค่ะ
-
อยู่ใกล้ๆ กับพระราชวังนะคะ
-
แล้วก็มีหน้าต่างที่มองเห็นกันจากวังของสุลต่านเลยทีเดียวนะคะ
-
ดังนั้นในที่สุดค่ะ อะลาดินกับเจ้าหญิงก็ได้แต่งงานกันนะคะ
-
และเรื่องราวก็เหมือนจะจบลงอย่างมีความสุข
-
แต่!! เรื่องน้ียังจบไม่ได้ค่ะ
-
เพราะว่า พ่อมดยังอยู่เลยนะคะ
-
พ่อมดที่กลับไปที่แอฟริกาเนี่ย
-
ก็ใช้ชีวิตต่อมาเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาค่อนข้างนานค่ะ
-
แล้วอยู่ดีๆ พ่อมดก็นึกถึงอะลาดินขึ้นมา ประมาณว่า
-
เอ๊~ อะลาดินนี่ตายไปหรือยังนะ?
-
ฉันควรจะหาใครไปเปิดไอ้ถ้ำๆ นั้น เพื่อเอาตะเกียงวิเศษของฉันมาหรือเปล่า?
-
คือจริงๆ แล้วพ่อมดเนี่ยนะคะ ศึกษาเวทมนตร์ต่างๆ มานับไม่ถ้วนค่ะ
-
แล้วก็รู้ว่า ที่เมืองจีนเนี่ย มีตะเกียงวิเศษอันนี้อยู่
-
เป็นของเหมือนจักรพรรดิโบราณ อะไรทำนองนี้
-
ซึ่งทำให้จักรพรรดิคนนี้ ร่ำรวยผิดปกติ
-
ก็คือ สร้างสวนสร้างอะไรที่อยู่ในถ้ำนั่นแหละ
-
ดังนั้นนะคะ พ่อมดก็เลยเหมือนแบบว่า
-
จัดการดูดวงให้ตัวเองต่างๆ นานา
-
มีการเอานู่นเอานี่มาดูดวง
-
ประมาณว่า อะลาดินตายไปแล้ว ฉันจะทำยังไงต่อดี
-
แต่! ผลของการดูดวง ออกมาแตกต่างจากที่พ่อมดคิดค่ะ
-
คืออะลาดินไม่ได้ตาย
-
และนอกจากนี้ ชีวิตของอะลาดินยังดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาอีก
-
ทำให้พ่อมดชัวร์แล้วว่า
-
เฮ้ย อะลาดินมันจะต้องเอาตะเกียงวิเศษของฉันไปใช้แน่ๆ เลย
-
พ่อมดก็เลยรีบเดินทางจากแอฟริกาค่ะ มาที่ประเทศจีนอีกรอบนึง
-
และในวันนึงนะคะ ที่อะลาดินกำลังออกไปทำอย่างอื่นนอกวังอยู่เนี่ย
-
พ่อมดก็เดินทางเข้าไปที่วังค่ะ พร้อมกับตะเกียงอันนึง
-
เป็นตะเกียงใหม่เอี่ยมเลย สีทองเหลือง
-
ไปถึงก็ไปตามตลาดก่อนเลย แล้วก็ตะโกนบอกว่า
-
ใครมีตะเกียงเก่าๆ เอามาแลกตะเกียงใหม่สิ
-
ซึ่งทำให้คนทั้งหลายเนี่ยมองพ่อมดว่าเป็นคนบ้า
-
แบบจะบ้าเหรอ อยู่ดีๆ เอาของใหม่มาแลกของเก่า อะไรยังงี้
-
จนกระทั่งนะคะ พ่อมดก็ตะโกนแบบนี้มาเรื่อยๆ
-
จนกระทั่งไปถึงวังของอะลาดินค่ะ
-
เผอิญว่า ตอนนั้นโชคดีเป็นพ่อมดค่ะ
-
เจ้าหญิงนั่งอยู่กับสาวใช้
-
และสาวเนี่ยใช้ได้ยินพ่อมดตะโกนประมาณว่า
-
เอาตะเกียงเก่ามาแลกตะเกียงใหม่สิ
-
ซึ่งสาวใช้ของเจ้าหญิงนะคะ ก็มีความคุยกับเจ้าหญิงประมาณว่า
-
เออ จริงๆ วังของเราเนี่ยก็สวยงามไปหมดเลยนะ
-
ทุกอย่างดูใหม่ ทุกอย่างดูเป็นเพชรพลอยสวยงามเต็มไปหมด
-
ขาดแค่อย่างเดียวเท่านั้นแหละ
-
ไม่รู้ผัวท่านทำแบบนี้ทำไม
-
คือเก็บตะเกียงเก่าๆ ที่ไม่เข้ากับวังเลยเนี่ย เอาไว้ในตู้
-
ซึ่งเจ้าหญิงก็เห็นด้วยนะคะ
-
ดังนั้นในที่สุด เจ้าหญิงก็เลยให้คนไปเชิญพ่อมดเนี่ยเข้ามา
-
แล้วก็เอาตะเกียงวิเศษของอะลาดิน แลกกับตะเกียงใหม่เรียบร้อยค่ะ
-
พอแลกไป
-
ถามว่า พ่อมดได้ตะเกียงอยู่ในมือแล้ว พ่อมดทำยังไงนะคะ
-
พ่อมดก็จัดการถูตะเกียงวิเศษทันที
-
แล้วก็เสกให้ปราสาททั้งหลัง รวมทั้งเจ้าหญิงเนี่ย หายแว็บไปเลย
-
คือจริงๆ แล้วพ่อมดเนี่ยเสกปราสาททั้งหลัง แล้วก็เจ้าหญิงให้ไปอยู่ที่แอฟริกา
-
ที่ที่อยู่ของตัวเองเนี่ยแหละค่ะ
-
เรียกได้ว่า ขี้เกียจเสกบ้านใหม่อ่ะ ว่างั้นเถอะ
-
อะลาดินเสกบ้านไว้สวยแล้ว
-
ก็เลยย้ายรกรากทั้งหมดไปอยู่ที่แอฟริกาเลยนะคะ
-
ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ค่ะ ทำให้ในเช้าวันรุ่งขึ้นเนี่ยนะคะ
-
สุลต่านตื่นมองไปที่หน้าต่าง
-
คือปกติทุกวัน สุลต่านจะตื่นขึ้นมาแล้วก็มองไปที่หน้าต่าง
-
เอ๊ะ ลูกสาวฉันยังอยู่ดีมั้ย อะไรยังงี้ ใช่มั้ย?
-
วันนี้อยู่ดีๆ ปราสาทเจ้าหญิงหายไปทั้งปราสาท
-
สุลต่านตกใจมาก
-
แล้วก็พยายามเรียกอะลาดินเข้ามา
-
แล้วก็จะประหารอะลาดินค่ะ
-
ข้อหาลักพาตัวลูกสาวสุดที่รักของตัวเองนะคะ
-
ซึ่งอะลาดินก็มีความแก้ตัวต่างๆ นานา แล้วก็บอกสุลต่านว่า
-
เดี๋ยวข้าจะพยายามพาเจ้าหญิงกลับมาให้ได้
-
ซึ่งอะลาดินเนี่ยก็ไม่รู้ว่า ตัวเองจะทำยังไงดี
-
คือแบบมองไปทางไหนก็ฉันทำอะไรไม่ได้เลยเนี่ย
-
ชีวิตนี้ฉันพึ่งทุกอย่างอยู่กับตะเกียงวิเศษ
-
ก็เลยทรุดตัวลงนั่งนะคะ
-
แล้วก็เผลอแบบว่า สวดมนต์ภาวนาอะไรอีกรอบนึง
-
มือก็เลยถูไปถูมา
-
แล้วก็ จำได้มั้ยคะว่า ที่มือของอะลาดินมีอะไรอยู่?
-
ที่มือของอะลาดิน มีแหวนวิเศษอีกวงนึงอยู่ค่ะ
-
อะลาดินถูไปโดนแหวนอีกรอบนะคะ
-
จินนี่จากแหวนวิเศษก็เลยออกมา แล้วก็ถามว่า
-
นายท่านต้องการให้ข้าช่วยอะไรหรือ?
-
ซึ่งแน่นอนค่ะว่า อะลาดินก็จะต้องบอกจินนี่ว่า
-
โอ้ ออกมาก็ดีเลย
-
คือตอนนี้ปราสาทของข้าไปที่ไหน
-
ช่วยย้ายปราสาททั้งหลังกลับมาให้ข้าได้มั้ย? นะคะ
-
จินนี่ในแหวนนะคะ ก็บอกอะลาดินบอกว่า
-
อ่ะ ตอนนี้ ปราสาทเนี่ยย้ายไปอยู่ที่แอฟริกาแล้ว
-
คือพ่อมดเอาไป
-
แต่ปัญหาก็คือ พ่อมดเนี่ยย้ายปราสาททั้งหลังไปด้วยพลังของตะเกียงวิเศษ
-
และจินนี่ในตะเกียงเนี่ยมีพลังมากกว่าข้าหลายเท่า
-
ข้าไม่สามารถลบล้างเวทมนตร์ของจินนี่ในตะเกียงวิเศษไ้ด้
-
ท่านขออย่างอื่นเถอะ
-
ดังนั้นค่ะ อะลาดินก็เลยบอกว่า
-
งั้นเอางี้ เสกข้าให้ไปที่แอฟริกาแทนแล้วกัน
-
จินนี่ในแหวนก็เลยเสกให้อะลาดินไปที่แอฟริกาค่ะ
-
ไปถึงอะลาดินก็งงๆ อยู่นะคะ ไม่รู้จะทำยังไงนะคะ
-
ก็เลยแอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ข้างปราสาทค่ะ
-
ปรากฏว่า คนใช้ของเจ้าหญิงเนี่ยก้มหน้ามองลงมา
แล้วก็เห็นอะลาดินพอดี
-
ก็เลยลงมา แอบเปิดประตูให้อะลาดินเนี่ย
-
เข้าไปที่วังของตัวเองนะคะ
-
อะลาดินกับเจ้าหญิงก็มีการคุยกันต่างๆ ค่ะ
-
ว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่อะลาดินหายไป
-
เจ้าหญิงก็เล่าให้ฟังว่า อ่อ พอเสกมาที่นี่ปุ้ปเนี่ยนะ
-
ปรากฏว่า พ่อมดเนี่ย เห็นหน้าข้าแล้วก็หลงรัก
-
ก็เลยพยายามมาจีบทุกวัน
-
ข้าก็บ่ายเบี่ยงอะไรต่างๆ นานาไปนี่แหละ
-
ท่านน่ะ จะช่วยให้ข้าออกไปได้ใช่มั้ย?
-
อะลาดินก็มีความถามเจ้าหญิงนะคะว่า
-
เออ เจ้ารู้มั้ยว่าเรื่องทั้งหมดนี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง?
-
เจ้าหญิงก็เล่าให้อะลาดินฟังค่ะว่า
-
ข้าเนี่ยเอาตะเกียงเก่าๆ ของท่านไปแลกกับตะเกียงทองเหลืองนี่แหละ
-
อะไรต่างๆ
-
อะลาดินก็ถามเจ้าหญิงอีกว่า
-
แล้วตะเกียงเก่าๆ อันนั้นน่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหนในวัง?
-
ซึ่งเจ้าหญิงก็บอกว่า
-
อ่อ เอามาไม่ได้หรอก ตอนนี้พ่อมดเก็บไว้กับตัว
-
คือไม่มีใครสามารถเอามาจากพ่อมดได้เลย
-
อะลาดินก็เลยเริ่มวางแผนนะคะ
-
โดยการบอกเจ้าหญิงว่า
-
วันนี้เดี๋ยวพ่อมดจะมาจีบอีกใช่มั้ย
-
เมื่อพ่อมดมาจีบนะ ไม่ต้องปฏิเสธเหมือนปกติ
-
ยิ้มเลย แบบอารมณ์ดี
-
อ่อ เชิญเข้ามาเลยจ้ะพี่ อะไรทำนองนี้นะ
-
เสร็จแล้วชวนพ่อมดดื่มไวน์
-
เอาให้ดื่มสักประมาณแก้วสองแก้ว เอาให้เมากรึ่มๆ
-
เสร็จแล้วนี่ เอายานี้ไป
-
ข้าไปซื้อยาในตลาดมาให้
-
เอายานี้หยอดลงในไวน์แก้วที่ 3 นะ ให้พ่อมดกิน
-
พ่อมดจะเป็นลม ล้มตึ้งลงไปเลย
-
แล้วตอนนั้นเดี๋ยวข้ามาช่วยเอง
-
หลังจากนั้นนะคะ เจ้าหญิงก็เลยดำเนินแผนตามที่อะลาดินสั่งไว้ค่ะ
-
ด้วยการหลอกล่อพ่อมดเข้ามา
-
พ่อมดก็มีความแบบ
-
ในที่สุดวันนี้สาวก็ตกหลุมรักฉันแล้ว หลังจากที่จีบมาหลายวัน
-
พอสาวชวนกินไวน์ก็กินเข้าไป กินๆๆ กินเข้าไปนะคะ
-
เริ่มเมากรึ่มๆ
-
ในที่สุดเจ้าหญิงก็บอกว่า
-
เอางี้ ท่านรู้มั้ยในธรรมเนียมเมืองจีนเนี่ย
-
เวลาเค้าแต่งงานกันน่ะ เค้าจะต้องมีการแลกแก้วกัน
-
แล้วก็เหมือนแบบดื่มเลิฟช็อตประมาณนั้น
-
การดื่มคู่รักแลกแก้วกัน ท่านมาแลกแก้วกับข้าเถอะ
-
ซึ่งพ่อมดนะคะ ก็ตกลงตามนั้น
-
และเจ้าหญิงก็แอบเอายาเนี่ย ใส่แก้วตัวเองเอาให้พ่อมดกินค่ะ
-
พ่อมดก็เลยล้มหงายตึ้งลงไปเลยนะคะ
-
ทำให้อะลาดินเนี่ยได้โอกาสค่ะ
-
เข้ามาแล้วก็หยิบตะเกียงวิเศษขึ้นมา ถูเรียกจินนี่ออกมา
-
แล้วก็เสกให้ปราสาททั้งหลัง รวมทั้งทุกคนเนี่ย กลับไปอยู่ที่เมืองจีนเหมือนเดิมค่ะ
-
หลังจากนั้น อะลาดินก็จัดการฆ่าพ่อมดทิ้งไปเรียบร้อยนะคะ
-
แล้วทั้งหมดก็กลับไปรายงานตัวกับสุลต่านค่ะ
-
เหมือนเรื่องราวจะจบลงเท่านี้แล้วใช่มั้ยคะ?
-
แล้วทุกคนก็อยู่ต่อไปกันอย่างมีความสุข
-
แต่!! เรื่องไม่จบค่ะ เพราะว่าพ่อมดมีพี่น้องจริงๆ อยู่ด้วยนะคะ
-
เป็นหมอผีจากแอฟริกาค่ะ
-
หลังจากที่พอพ่อมดตายไปเนี่ยนะคะ
-
หมอผีจากแอฟริกาที่เป็นน้องชายของพ่อมดเนี่ย
-
ก็สัมผัสได้ว่า เฮ้ย พี่ฉันตายไปแล้ว
-
แล้วก็รู้สึกอยากล้างแค้นอะลาดินมากๆ ค่ะ
-
ดังนั้นวันนึงนะคะ หมอผีที่เป็นน้องของพ่อมดเนี่ย
-
ก็เดินทางมาที่เมืองจีนค่ะ
-
แล้วก็มาซุ่มอยู่ที่เมืองจีน ประมาณว่า
-
ฉันจะหาโอกาสจัดการอะลาดินยังไงดี
-
ปรากฏว่า โชคเข้าข้างของหมอผีนะคะ
-
เพราะว่า ตอนนั้นมีผู้หญิงศักดิ์สิทธิ์คนนึงอยู่ในเมืองจีน
-
เป็นผู้หญิงที่ชื่อว่า ฟาติมา
-
ใช่ ชื่อจีนมากกกนะคะ ชื่อ ฟาติมา
-
เป็นผู้หญิงพิเศษที่มีความสามารถก็คือ
-
เดินไปจับตัวใครเนี่ย โรคร้ายต่างๆ ก็จะหายไป
-
ถือว่าเป็นผู้หญิงที่บำเพ็ญตะบะ แล้วก็เคารพต่อพระเจ้ามากๆ ประมาณนั้นค่ะ
-
ดังนั้นวันนึงนะคะ หมอผีก็เลยเข้าไปหาฟาติมาค่ะ
-
แล้วก็จัดการข่มขู่ฟาติมาต่างๆ
-
เอาเสื้อผ้าอะไรของฟาติมามา แล้วก็ฆ่าฟาติมาทิ้งไปนะคะ
-
ส่วนตัวเองค่ะ ปลอมตัวเป็นฟาติมา เดินไปในตลาดนะคะ
-
เดินไปเดินมา แล้วในที่สุด ก็ไปถึงวังของอะลาดินค่ะ
-
เมื่อไปถึงวังของอะลาดิน ตอนนั้นอะลาดินไม่อยู่อีกแล้วนะคะ
-
เจ้าหญิงเนี่ยก็บังเอิญได้ยินชื่อ เรื่องราวของฟาติมามาค่อนข้างนาน
-
ดังนั้นเมื่อฟาติมามาที่วังเนี่ย
-
เจ้าหญิงก็เลยเหมือนกึ่งๆ จะเชิญฟาติมาเข้ามานั่งพูดคุยด้วยค่ะ
-
คุยกันไปคุยกันมานะคะ
-
เจ้าหญิงก็รู้สึกประทับใจฟาติมาค่ะ
-
ที่เป็นคนที่แบบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ต่างๆ
-
ก็เลยชวนฟาติมาตัวปลอมเนี่ยนะคะ เข้ามาอยู่ในวังด้วยกันค่ะ
-
จัดห้องจัดอะไรให้เสร็จเรียบร้อย
-
ซึ่งฟาติมาตัวปลอม หรือว่าหมอผีเนี่ยนะ
-
ก็มีความนั่งคุยกับเจ้าหญิงทุกวัน อะไรอย่างนี้ จนสนิทกัน
-
ฟาติมาก็บอกเจ้าหญิงค่ะ บอกว่า
-
วังของท่านเนี่ย สวยมากเลยนะ
-
แต่จริงๆ อ่ะ เหมือนจะขาดอะไรบางอย่างไปนิดนึง
-
ถ้าวังของท่านเนี่ยนะ ได้มีการตกแต่งด้วยไข่ของนกในตำนานตัวนึงเนี่ย
-
เอามาห้อยลงมาจากเพดานนะ วังแห่งนี้จะสมบูรณ์ที่สุดเลย
-
ซึ่งหลังจากที่ฝังความคิดนี้เข้าไปในหัวของเจ้าหญิงปุ้ปเนี่ยนะคะ
-
ฟาติมาก็หลับห้องตัวเองไปค่ะ
-
ทิ้งให้เจ้าหญิงนั่งครุ่นคิดถึงนกในตำนานไปเรื่อยๆ
-
เมื่ออะลาดินกลับมานะคะ ก็สังเกตว่า
-
เฮ้ย วันนี้แฟนหน้าตาไม่แจ่มใสเลยอ่ะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า
-
ดังนั้น อะลาดินก็เลยหันไปถามเจ้าหญิงค่ะว่า
-
เออ เป็นอะไรมั้ย? มีอะไรหรือเปล่า?
-
อยากให้ข้าหาอะไรให้หรือเปล่า? ที่จะทำให้เจ้ามีความสุข
-
เจ้าหญิงนะคะ ก็เลยหันไปบอกอะลาดิน ประมาณว่า
-
เนี่ย ข้าคิดว่าวังของเราอ่ะสมบูรณ์หมดเลย แต่ขาดอย่างนึง
-
ข้าคิดว่า ตรงนั้นนะ ถ้าเกิดเราห้อยแบบไข่ของนกในตำนานเนี่ยนะ
-
นกตัวนั้นตัวนี้
-
น่าจะทำให้มันสวยนะ ทำนองนั้น
-
ซึ่งอะลาดินก็เห็นว่า
-
เออได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร จริงๆ ข้าอยากเสกอะไรก็ได้
-
ดังนั้นอะลาดินค่ะ ก็เลยเข้าไปในห้องของตัวเอง
-
แล้วก็ถูตะเกียงวิเศษนะคะ เรียกจินนี้ออกมา
-
แล้วก็สั่งจินนี่ว่า ช่วยเสกไข่นกในตำนานให้ข้าหน่อยได้มั้ย?
-
ข้าจะเอาไปแขวนตกแต่งปราสาท
-
ซึ่งบังเอิญว่า ข้อนี้ มันเป็นข้อห้ามของจินนี่
-
คือนกในตำนานมันเป็นเหมือนแบบนกศักดิ์สิทธิ์
-
การที่จะเอามาผูกมัดเพื่อตกแต่งเนี่ย มันเป็นข้อห้ามของจินนี่
-
คือใครขอเนี่ยนะ จะทำให้โดนสาปกลายเป็นแบบขี้เถ้าตรงนั้นเลย
-
ดังนั้นนะคะ จินนี่ในตะเกียงเนี่ย
-
ตอนแรกก็จะสาปแล้วแหละ แต่เหมือนจินนี่แบบสงสารอ่ะ
-
ก็บอกว่า นี่ๆ อะลาดิน ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้นะ
-
จริงๆ ที่เจ้าขอเนี่ย มันเป็นข้อห้าม
-
ข้าควรจะสาปเจ้าให้เป็นขี้เถ้าตรงนี้เลย
-
แต่ข้าจะบอกเจ้าให้ว่า
-
ความคิดทั้งหมดนี้มันเป็นความคิดที่ไม่โอเคเลย
-
ที่เจ้าจะเอานกศักดิ์สิทธิ์ในตำนานเนี่ยมาแขวนประดับห้อง
-
คือแบบมันไร้สาระน่ะ เก็ทป้ะ?
-
เจ้ารู้มั้ยว่า ความคิดนี้มาจากไหน?
-
มันไม่ได้มาจากเมียเจ้าหรอก แต่มันมาจากฟาติมา
-
ซึ่งฟาติมาเนี่ย ไม่ใช่ฟาติมาจริง เป็นฟาติมาปลอม
-
เป็นน้องของพ่อมดที่มาจากแอฟริกานั่นแหละ
-
เจ้าควรจะไปจัดการอินี่ทีซะ
-
ก่อนที่มันจะทำอันตรายอะไรเจ้าอีก
-
เพราะว่ามันน่ะ ตั้งใจมาแก้แค้นให้พี่ของมัน
-
ดังนั้นนะคะ อะลาดินก็เลยรีบไปหาฟาติมาปลอมค่ะ
-
แล้วก็จัดการเอามีดเนี่ยกระชวกพุงฟาติมาปลอม
-
ตายไปตรงนั้นเลยค่ะ
-
ทำให้เจ้าหญิงเนี่ยงงมาก ประมาณว่าแบบ
-
ท่าน! ท่านไปฆ่านักบุญแบบนี้ไม่ได้
-
เกิดอะไรขึ้น? ทำไม เค้าทำอะไรผิด? นะคะ
-
อะลาดินก็เลยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เจ้าหญิงฟังค่ะ
-
เจ้าหญิงก็ขอโทษขอโพยที่มั่วเป็นรอบที่สอง
-
แล้วก็เกือบทำให้ทุกคนซวยเป็นรอบที่สองนะคะ
-
หลังจากนั้นทั้งคู่ค่ะ ก็อยู่รวมกันอย่างมีความสุข
-
แล้วก็รักกันมากขึ้นนะคะ
-
แน่นอนนะคะ หลังจากที่อยู่กันมาอย่างยาวนาน
-
สุลต่านก็ต้องแก่ แล้วก็ตายจากไปค่ะ
-
หลังจากนั้น อะลาดินก็เลยขึ้นปกครองเป็นสุลต่านแห่งเมืองจีนองค์ถัดไปค่ะ
-
ใช่ค่ะ สุลต่านแห่งเมืองจีน
-
ไม่เข้าเลยเนอะ
-
แต่ว่าเรื่องราวอะลาดินอันยาวนานของเราก็จบลงตรงนี้เนี่ยแหละค่ะ
-
เป็นยังไงบ้างคะ? สนุกมั้ย?
-
เรื่องยาวมากกกกกก เล่าจนแบบหมดแรงเลยทีเดียวนะ
-
ดังนั้นวันนี้
-
ก็ถ้าใครชื่นชอบเรื่องนี้ อยากให้วิวเล่าเรื่องอะไรยาวๆ อีก
-
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ้ายบาย สวัสดีค่ะ
-
เฮอ! ช่วยด้วย เรื่องนี้ยาวมาก
-
ยาวแบบยาวววว
-
ส่วนใครจะไปหาอ่านนะคะ
-
จริงๆ ในอินเตอร์เน็ตหาไม่ยากนะ
-
ลองเสิร์ช อะลาดิน แล้วก็เสิร์จคำว่า เบอร์ตัน (Burton) นะคะ
-
สามารถหาอ่านเองได้
-
แต่ปัญหาคือ ภาษามันจะเก่านิดนึง แล้วก็โบราณนิดนึง
-
เพราะมันเป็นภาษาตั้งแต่แบบปี 1800 กว่าๆ
-
มันก็จะมีแบบ thee thou อะไรเยอะแยะ วุ่นวาย เวิ่นเว้อไปนิดนึง
-
เพราะว่าเป็นภาษาอังกฤษโบราณที่แปลมาจากอาหรับอีกทีนะคะ
-
แต่ว่าถ้าใครอยากฝึกภาษาอังกฤษก็ลองไปหาอ่านดูได้ค่ะ
-
วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ้ายบาย สวัสดีค่ะ