< Return to Video

จิตวิทยาของการหลงตัวเอง - ดับเบิลยู. คีท แคมป์เบลล์ (W. Keith Campbell)

  • 0:07 - 0:09
    ก่อนจะมีการเซลฟี่เป็นครั้งแรก
  • 0:09 - 0:11
    ชาวกรีกและโรมันโบราณมีตำนาน
  • 0:11 - 0:15
    เกี่ยวกับคนคนหนึ่งที่ออกจะลุ่มหลง
    กับภาพพจน์ของตัวเอง
  • 0:15 - 0:16
    ในเรื่องเล่าหนึ่ง
  • 0:16 - 0:21
    นาซิซัสเป็นชายหนุ่มรูปงาม
    ที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อจะหาคนรัก
  • 0:21 - 0:23
    หลังจากปฏิเสธนางไม้นามว่า เอคโค
  • 0:23 - 0:27
    เขาเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในแม่น้ำ
  • 0:27 - 0:29
    และตกหลุมรักหัวปักหัวปำ
  • 0:29 - 0:30
    นาซิซัสไม่อาจละจากภาพของตนเองได้
  • 0:30 - 0:32
    และจมน้ำตายในที่สุด
  • 0:32 - 0:37
    มีดอกไม้ที่ขึ้นตรงบริเวณที่เขาตายนั้น
    และเราก็เรียกมันว่า นาซิซัส
  • 0:37 - 0:40
    ตำนานได้จับแนวคิดหลักของการหลงตัวเอง
  • 0:40 - 0:44
    การนึกถึงตัวเองที่เยอะเกินไป
    และบางทีก็ก่อให้เกิดอันตราย
  • 0:44 - 0:48
    แต่มันไม่ได้เป็นแค่บุคลิกอย่างหนึ่ง
    ที่ต้องได้รับการแนะนำ
  • 0:48 - 0:53
    อันที่จริงแล้ว มันเป็นกลุ่มของลักษณะ
    ที่ถูกจัดจำแนกและศึกษาโดยนักจิตวิทยา
  • 0:53 - 0:59
    นักจิตวิทยานิยามการหลงตัวเอง
    ว่าเป็นอาการเพ้อหลงผิดคิดตนเขื่อง
  • 0:59 - 1:02
    พวกที่หลงตัวเองในระดับต่าง ๆ
    คิดว่าพวกเขาดูดีกว่า
  • 1:02 - 1:03
    ฉลาดกว่า
  • 1:03 - 1:05
    และมีความสำคัญมากกว่าคนอื่น
  • 1:05 - 1:08
    และนั่นทำให้พวกเขาเชื่อว่า
    พวกเขาสมควรได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
  • 1:08 - 1:13
    นักจิตวิทยาจัดการหลงตัวเองสองรูปแบบ
    เป็นลักษณะบุคลิก
  • 1:13 - 1:16
    การหลงตัวเองที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่
    และพวกที่ไม่มั่นคง
  • 1:16 - 1:18
    ยังมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ
    เกี่ยวกับการหลงตัวเอง
  • 1:18 - 1:22
    ในรูปแบบที่รุนแรงกว่านี้
  • 1:22 - 1:26
    การหลงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่
    เป็นรูปแบบที่เรารู้จักกันดี
  • 1:26 - 1:28
    ที่มีลักษณะคือ ชอบเข้าสังคม
  • 1:28 - 1:29
    ทำตัวเด่น
  • 1:29 - 1:31
    และเรียกร้องความสนใจ
  • 1:31 - 1:34
    พวกหลงตัวเองแบบคิดว่าตนยิ่งใหญ่
    ต้องการความสนใจและอำนาจ
  • 1:34 - 1:35
    บางครั้งก็แบบนักการเมือง
  • 1:35 - 1:36
    คนมีชื่อเสียง
  • 1:36 - 1:38
    หรือผู้นำทางสังคม
  • 1:38 - 1:43
    แต่ล่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่แสดงหา
    ตำแหน่งที่มีอำนาจเหล่านั้น จะเป็นคนหลงตัวเอง
  • 1:43 - 1:44
    หลายคนทำไปเพราะเหตุผลที่ดี
  • 1:44 - 1:46
    เช่นการเติมเต็มศักยภาพของตัวเอง
  • 1:46 - 1:48
    หรือช่วยเหลือให้ชีวิตของคนอื่นดีขึ้น
  • 1:48 - 1:51
    แต่พวกที่หลงตัวเองมองหาอำนาจ
  • 1:51 - 1:54
    เพื่อสถานะและความเป็นที่สนใจ
    ที่จะได้มาพร้อมกับตำแหน่งนั้น
  • 1:54 - 1:58
    ในขณะเดียวกัน พวกหลงตัวเองที่ไม่มั่นคง
    อาจเงียบและเก็บตัว
  • 1:58 - 2:00
    พวกเขารู้ถึงสิทธิเป็นอย่างดี
  • 2:00 - 2:03
    แต่ถูกข่มขู่และทำให้น้อยใจได้โดยง่าย
  • 2:03 - 2:07
    ในทั้งสองกรณ๊ ด้านมืดของการหลงตัวเอง
    แสดงออกมาในช่วงเวลาที่ยาวนาน
  • 2:07 - 2:10
    พวกที่หลงตัวเองมักแสดงอาการเห็นแก่ตัว
  • 2:10 - 2:14
    ฉะนั้นผู้นำที่หลงตัวเองอาจทำการตัดสินใจ
    ที่เสี่ยงหรือไม่ถูกทำนองคลองธรรม
  • 2:14 - 2:19
    และคู่ชีวิตที่หลงตัวเอง
    อาจไม่ซื่อสัตย์และซื่อตรง
  • 2:19 - 2:22
    เมื่อภาพพจน์อันแสนหวานของพวกเขา
    ถูกท้าทาย
  • 2:22 - 2:24
    พวกเขาจะไม่พอใจและก้าวร้าว
  • 2:24 - 2:27
    มันเหมือนกับโรคที่ผู้ป่วยรู้สึกดี
  • 2:27 - 2:30
    แต่คนที่อยู่รอบ ๆ เป็นทุกข์
  • 2:30 - 2:31
    ในแบบที่รุนแรง
  • 2:31 - 2:34
    พฤติกรรมนี้ถูกจัดว่า
    เป็นความผิดปกติทางจิต
  • 2:34 - 2:37
    ที่เรียกว่าความผิดปกติในบุคลิกภาพ
    แบบหลงตัวเอง
  • 2:37 - 2:40
    มันส่งผลต่อคนในกลุ่มประชากร
    หนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์
  • 2:40 - 2:42
    มักเกิดกับผู้ชาย
  • 2:42 - 2:45
    มันยังตรวจพบได้แต่ในผู้ใหญ่
  • 2:45 - 2:48
    คนหนุ่มสาว โดยเฉพาะเด็ก ๆ
    อาจจะอยากให้เป็นจุดสนใจ
  • 2:48 - 2:51
    แต่นั่นอาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง
    ของการพัฒนาตามปกติ
  • 2:51 - 2:55
    คู่มือการวินิจฉัยและสถิติ
  • 2:55 - 2:57
    ฉบับที่ห้าของสมาคมจิตเวชอเมริกัน
  • 2:57 - 3:02
    อธิบายลักษณะความผิดปกติทางบุคลิก
    ที่เกี่ยวกับการหลงตัวเองบางอย่างไว้
  • 3:02 - 3:05
    นั่นรวมถึงความเห็นตัวเองยิ่งใหญ่
  • 3:05 - 3:06
    ปัญหาเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจคนอื่น
  • 3:06 - 3:08
    การรู้ถึงสิทธิของตน
  • 3:08 - 3:11
    และความต้องการ
    การได้รับการชื่นชมและความสนใจ
  • 3:11 - 3:14
    สิ่งที่ทำให้ลักษณะเหล่านี้
    เป็นความผิดปกติทางบุคลิก
  • 3:14 - 3:18
    คือพวกมันครอบงำชีวิตของคน
    และทำให้เกิดปัญหาที่มีนัยสำคัญ
  • 3:18 - 3:21
    ลองนึกดูว่า แทนที่จะใส่ใจ
    คู่ชีวิตหรือลูก ๆ ของคุณ
  • 3:21 - 3:24
    คุณใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือหาความสนใจ
    หรือการยอมรับ
  • 3:24 - 3:26
    หรือลองคิดถึงว่าแทนที่จะเป็นว่า
  • 3:26 - 3:28
    คุณยอมรับการวิจารณ์ที่เชื่อถือได้
    ที่เกี่ยวกับการทำงานของคุณ
  • 3:28 - 3:31
    กลายเป็นคนบอกทุกคนที่อยากจะช่วยคุณ
  • 3:31 - 3:33
    ว่าพวกเขาน่ะผิดแล้ว
  • 3:33 - 3:35
    แล้วสาเหตุของการหลงตัวเองคืออะไร
  • 3:35 - 3:38
    การศึกษาฝาแฝดแสดงว่ามันเกี่ยวกับยีน
  • 3:38 - 3:41
    แม้ว่าเรายังไม่รู้ว่ายีนไหนที่เกี่ยวข้อง
  • 3:41 - 3:43
    แต่สิ่งแวดล้อมก็สำคัญเช่นกัน
  • 3:43 - 3:45
    พ่อแม่ที่ไม่ยอมให้ลูกติดดิน
  • 3:45 - 3:48
    อาจเลี้ยงลูกเขาให้เป็นคนหลงตัวเองได้
  • 3:48 - 3:53
    และพ่อแม่ที่บังคับควบคุมอย่างเข้มงวด
    ก็อาจทำให้ลูกเกิดความไม่มั่นคงได้
  • 3:53 - 3:55
    การหลงตัวเองเหมือนว่าจะมากขึ้น
  • 3:55 - 3:59
    ในวัฒนธรรมที่ให้คุณค่ากับบุคลิกภาพ
    และการยกยอตัวตน
  • 3:59 - 4:01
    ตัวอย่างเช่น ในประเทศสหรัฐฯ
  • 4:01 - 4:06
    การหลงตัวเองที่เป็นลักษณะทางบุคลิก
    เพิ่มขึ้นตั้งแต่ยุค 1970
  • 4:06 - 4:08
    เมื่อแรงผลักดันจากสังคมในยุค 60
  • 4:08 - 4:10
    ทำให้เกิดกระแสความเชื่อมั่นในตัวเอง
  • 4:10 - 4:13
    และการเพิ่มขึ้นในวัตถุนิยม
  • 4:13 - 4:17
    เร็ว ๆ นี้ สื่อสังคมออนไลน์โอกาส
    ในการยกยอตัวเองเป็นร้อยเท่าพันทวี
  • 4:17 - 4:18
    แต่ที่น่าสนใจก็คือ
  • 4:18 - 4:22
    มันยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
    ว่าสื่อสังคมออนไลน์ทำให้เกิดการหลงตัวเอง
  • 4:22 - 4:28
    มันน่าจะเป็นสือให้พวกที่หลงตัวเอง มองหา
    สถานะทางสังคมและความสนใจมากกว่า
  • 4:28 - 4:31
    แล้วคนที่หลงตัวเองจะปรับเปลี่ยน
    ลักษณะเชิงลบของพวกเขาได้หรือไม่
  • 4:31 - 4:32
    ได้สิ
  • 4:32 - 4:35
    อะไรก็ตามที่ส่งเสริมการสะท้อนความซื่อสัตย์
    ของพฤติกรรมตนเอง
  • 4:35 - 4:37
    และการใส่ใจคนอื่น
  • 4:37 - 4:42
    เช่นการบำบัดทางจิต หรือการฝึกความเห็นใจ
    ต่อคนอื่น อาจเป็นประโยชน์
  • 4:42 - 4:44
    ความยากก็คือมันอาจท้าทาย
  • 4:44 - 4:47
    สำหรับคนที่มีความผิดปกติทางบุคลิก
    แบบหลงตัวเอง
  • 4:47 - 4:49
    ที่จะทำพฤติกรรมด้านดีนั้นอย่างสม่ำเสมอ
  • 4:49 - 4:54
    สำหรับคนหลงตัวเอง การแสดงตัวตน
    เป็นเรื่องยาก จากแง่มุมที่ไม่มีการประจบประแจง
Title:
จิตวิทยาของการหลงตัวเอง - ดับเบิลยู. คีท แคมป์เบลล์ (W. Keith Campbell)
Speaker:
W. Keith Campbell
Description:

ชมบทเรียนทั้งหมด: http://ed.ted.com/lessons/the-psychology-of-narcissism-w-keith-campbell

การหลงตัวเองไม่ได้เป็นแค่บุคลิกอย่างหนึ่งที่ต้องได้รับการแนะนำ อันที่จริงแล้ว มันเป็นกลุ่มของลักษณะที่ถูกจัดจำแนกและศึกษาโดยนักจิตวิทยา แต่สาเหตุของมันคืออะไร และคนที่หลงตัวเองจะปรับเปลี่ยนลักษณะเชิงลบของพวกเขาได้หรือไม่ ดับเบิลยู. คีท แคมป์เบลล์ อธิบายจิตวิทยาเบื้องหลังการนึกถึงตัวเองที่เยอะเกินไปและบางทีก็ก่อให้เกิดอันตรายของคนที่หลงตัวเอง

บทเรียนโดย W. Keith Campbell, แอนิเมชันโดย TOGETHER

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TED-Ed
Duration:
05:10
Michelle Mehrtens edited Thai subtitles for The psychology of narcissism
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The psychology of narcissism
Rawee Ma accepted Thai subtitles for The psychology of narcissism
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The psychology of narcissism
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The psychology of narcissism
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The psychology of narcissism
Rawee Ma declined Thai subtitles for The psychology of narcissism
Rawee Ma edited Thai subtitles for The psychology of narcissism
Show all

Thai subtitles

Revisions Compare revisions