-
เฮ่อ บัดซบจริงๆเลย
-
ว่าแต่ทำไมต้องบัดซบด้วยอะ
-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
เชื่อว่ามีคำหลายๆคำนะคะที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา
-
ออกจะคุ้นหูกันด้วยซ้ำ
-
อย่างเช่นคำว่าบัดซบที่วิวยกตัวอย่างไปเมื่อครู่นี้นะคะ
-
ว่าแต่ว่าเรารู้กันจริงๆรึเปล่าคะว่า
-
คำคำนั้นหมายความว่ายังไง
-
โดยเฉพาะพวกคำอุทานต่างๆ
-
บอกเลยว่าพวกคำอุทานต่างๆเนี่ย
-
มีความหมายหลายต่อหลายคำเลยค่ะ
-
คือบางคำมันก็อาจจะเป็นแค่คำเลียนเสียงอะนะ
-
แต่ว่าหลายคำนี่ก็มีที่มาที่ไป
-
มีคำแปลของตัวเองด้วยนะคะ
-
ซึ่งหลายๆคนเนี่ยใช้ไปโดยที่ไม่รู้คำแปลเลยค่ะ
-
อย่างไรก็ตามนะคะ เมื่อไม่นานมานี้
-
วิวเพิ่งจะทำคลิปวิดีโอไปวิดีโอนึง
-
จำได้ไหมคะที่วิวมาบอกว่า
-
คำว่าโยมเนี่ยมีที่มาที่ไปยังไง แปลว่าอะไร
-
ซึ่งในคลิปวิดีโอนั้นนะคะวิวใช้หนังสืออ้างอิงเล่มนึงค่ะ
-
บังเอิญในเล่มนั้นเนี่ยนะคะ
-
มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาของคำอะไรต่างๆค่ะ
-
ดังนั้นในนั้นเนี่ยเต็มไปด้วยที่มาของคำ
-
เต็มไปหมดเลยนะคะ
-
วิวก็ไปอ่านเล่นอะไรต่างๆ แล้วก็พบกับ
-
คำแปลของคำจำนวนนึง
-
ที่เราใช้กันบ๊อยบ่อยค่ะ
-
นั่นก็คือคำอุทานที่ขึ้นด้วยคำว่า "บัด" ต่างๆ
-
ไม่ว่าจะเป็นบัดซบที่เมื่อกี้วิวพูดไป
-
บัดสีบัดเถลิงนะคะ
-
ซึ่งทั้งสามคำนี้
-
มีความหมายทั้งสิ้นเลยค่ะ
-
วันนี้วิวก็เลยจะหยิบเอาเรื่องราวที่วิวอ่านมาเนี่ยนะคะ
-
มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
-
สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
ต้องบอกว่าคำด่าหรือคำอุทานทั้งสามคำ
-
ที่วิวตั้งใจจะยกขึ้นมาคุยกับทุกคนในวันนี้
-
มีที่มาที่ใกล้เคียงกันมากๆเลยค่ะก็คือ
-
ล้วนแต่มาจากภาษาเขมรทั้งนั้นเลยนะคะ
-
ซึ่งในภาษาเขมรเนี่ยเขาแปลกันออกนะ
-
ว่ามันมีความหมายมาจากอะไรยังไง
-
แต่พอเราเก็บมาใช้กันในภาษาไทยนะคะ
-
เนื่องจากทุกวันนี้เราอาจจะไม่ได้คุ้นเคยกับภาษาเขมร
-
เหมือนกับคนไทยในสมัยที่เริ่มรับคำนี้เข้ามา
-
ต้องบอกว่าในสมัยก่อนคนไทยค่อนข้างจะได้รับ
-
อิทธิพลจากเขมรค่อนข้างเยอะเนอะดังนั้น
-
เรารับคำเขมรเข้ามาเต็มไปหมด
-
เอามาใช้เป็นราชาศัพท์
-
เอามาใช้เรียกชื่อนู้นชื่อนี้เต็มไปหมด
-
คนในสมัยนั้นเนี่ยเขาก็เลยน่าจะเก็บ
-
คำอุทานหรือคำด่าอะไรของเขมรมาด้วยค่ะ
-
ซึ่งคนในสมัยนั้นเนี่ยเขาอาจจะแปลออก
-
แต่เราเนี่ยแปลไม่ออกนะคะ
-
ต้องบอกว่าคลิปวิดีโอนี้ไม่ใช่ความเห็นของวิวเองนะคะ
-
แต่ว่าเป็นความเห็นนักภาษาศาสตร์ที่เขา
-
ไปศึกษาอะไรต่างๆ
-
แล้วก็พยายามดูที่มาของคำศัพท์นะคะ
-
ดังนั้นวิวลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้ว
-
ถ้าสมมติว่าใครอยากไปหาอ่านเพิ่มเติมอยากไปดูว่า
-
เออ มันน่าจะแปลแบบนั้นจริงไหม
-
ก็ลองไปดูได้นะคะ
-
ซึ่งอ้างอิงหลักๆที่วิวใช้ก็จะมีของอ.ศานติ ภักดีคำเนอะ
-
ซึ่งอาจารย์เนี่ยอ้างอิงมาจากหนังสือ
-
สัพะ พะจะนะ พาสา ไท นะคะ
-
ของบาทหลวงปาลเลอกัวซ์อีกทีนึงนะ
-
ดังนั้นก็เอาเป็นว่าวิวแค่ไปเจอมา
-
แล้วก็เอามาเล่าให้ทุกคนฟังแล้วกันค่ะ
-
ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญภาษาเขมรหรือว่า
-
ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านที่มาของคำศัพท์อะไรนะ
-
เพราะว่าภาษาเขมร วิวคืนครูไปหมดแล้วค่ะทุกคน
-
อย่างไรก็ตาม เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ
-
ต้องบอกว่าคำทั้งสามคำนี้นะคะ
-
ล้วนแต่มีที่มาเหมือนกันเลยค่ะ นั่นก็คือ
-
มาจากภาษาเขมรนั่นเอง
-
เพราะว่าในสมัยโบราณเนี่ย
-
เรามีการรับศัพท์เขมรมาใช้ค่อนข้างเยอะค่ะ
-
เช่นเดียวกับในช่วงเวลาที่เรารับ
-
อิทธิพลต่างๆจากเขมรมามากมายนะ
-
ยกตัวอย่างเช่นในสมัยอยุธยา เราก็จะเห็นว่า
-
เราเนี่ยรับอะไรจากเขมรมาเต็มไปหมด
-
เรารับราชาศัพท์มา
-
เรารับระเบียบการราชสำนักอะไรต่างๆ
-
ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่ได้รับมาตั้งแต่แค่สมัยอยุธยานะคะ
-
เรารับอิทธิพลจากเขมรมาค่อนข้างยาวนานแล้ว
-
เพราะว่าอะไร
-
เพราะว่าเขมรเนี่ยมีการติดต่อกับอินเดียนะคะ
-
ดังนั้นทางอินเดียอะไรต่างๆ ซึ่งเป็น
-
เจ้าอารยธรรมที่แบบสูงกว่าเนี่ย
-
เขาก็ส่งต่ออารยธรรมต่างๆ
-
มาที่เขมรและ
-
เราก็ไปรับมาจากเขมรอีกที
-
ดังนั้นมันจะมีความเป็นทอดๆนิดนึงก็คือ
-
มันมีความเป็นอินเดียอยู่แหละ
-
มันมีความเป็นสันสกฤตอะไรต่างๆ
-
แต่ว่าเป็นสันสกฤตที่
-
ผ่านสายคนเขมร ผ่านการพัฒนาจากคนเขมรมาแล้วนะ
-
ซึ่งถามว่าทั้งสามคำนี้มีอะไรร่วมกันอีก
-
นอกจากมีที่มาจากภาษาเขมรร่วมกัน
-
ก็ต้องบอกว่าทั้งสามคำเนี่ย
-
ประกอบไปด้วยคำคำเดียวกันค่ะ นั่นก็คือคำว่า
-
บัดนั่นเอง
-
ไม่ว่าจะเป็นบัดซบ บัดสีบัดเถลิง
-
บัดทั้งนั้นเลย
-
คำว่าบัดคำนี้แปลว่าอะไรรู้ไหมคะ
-
คำว่าบัดคำนี้ตามภาษาเขมร เขียนว่าแบบนี้
-
ออกเสียงว่าบัดเหมือนกันเป๊ะเลยค่ะ
-
คำคำนี้นะคะมีความหมายว่าแบบ
-
เสียหาย สูญสิ้น
-
ไม่เหลือแล้ว อะไรประมาณอย่างนี้นะ
-
ก็คือการสูญเสียอะไรบางอย่างค่ะ
-
ทีนี้ถามว่าแต่ละคำแปลว่าอะไร
-
เริ่มจากคำว่าซบก่อน
-
คำว่าซบคำนี้เนี่ยนะคะเป็นคำคำนึงค่ะซึ่ง
-
เอาจริงๆ อ.ศานติ ภักดีคำเนี่ยเขาหาไม่เจอค่ะว่า
-
เอ๊ สรุปแล้วมันมีที่มาจากอะไรยังไงนะคะ
-
แต่ก็สามารถพอจะสันนิษฐานได้จากคำที่ใกล้เคียงกัน
-
แล้วน่าจะตรงกับความหมายที่สุดนะคะ
-
คือเขาสันนิษฐานว่าเรารับมาจากคำว่า ซ็อบ ภาษาเขมรค่ะ
-
คำว่าซ็อบในที่นี้เป็นภาษาเขมร
-
ที่รับมาจากอินเดียอีกทีนึงนะคะ
-
คือรับมาจากภาษาสันสกฤตค่ะ
-
คำที่เป็นที่มาของคำว่าซ็อบก็คือคำว่า
-
สรรพนั่นเอง
-
สรรพ ส-ร-ร-พ
-
สรรพะ
-
สรรพะแปลว่าไร แปลว่าทุกสิ่งอย่าง
-
แปลว่าทุกอย่างรวมๆใช่ไหม
-
อย่างที่เราคุ้นกันดีกับคำว่าสรรพสิ่ง
-
อะไรแบบนี้
-
สรรพสิ่งทั้งปวง อย่างนั้นเลย
-
ดังนั้นเมื่อคำว่าสรรพกลายเป็นคำว่าซ็อบ
-
และคำว่าซ็อบกลายเป็นคำว่าซบเนี่ย
-
คำว่าซบก็เลยแปลว่า
-
ทุกสิ่งอย่าง ทั้งหมด อะไรอย่างนี้
-
เมื่อมารวมกับคำว่าบัดที่แปลว่าสูญเสีย
-
คำว่าบัดซบก็เลยแปลว่า
-
สูญเสียทุกสิ่งอย่าง
-
เวลาเราบอกว่าบัดซบจริงๆเลย มันก็เลยเป็นการ
-
อธิบายว่า โอ้ย ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว
-
ฉันสูญเสียทุกสิ่งอย่าง ประมาณนี้นะคะ
-
นี่ก็คือคำแรกนั่นเอง
-
ทีนี้เรามาดูที่คำถัดไปนะคะ
-
ที่เขามักจะใช้คู่กันนั่นก็คือ
-
บัดสีบัดเถลิงนั่นเอง
-
อะ เวลาเราเห็นอะไรที่เรา
-
ไม่พอใจซักอย่างที่แบบว่าเรารับไม่ได้ เราก็จะบอกว่า
-
ว้าย บัดสีบัดเถลิง รับไม่ได้ ใช่ไหมคะ
-
ทีนี้ถามว่าบัดสีบัดเถลิงมีที่มาจากอะไร
-
ก็ต้องบอกว่าคำว่าบัดสีเนี่ยปัจจุบันเราสะกดว่า
-
บัดแล้วก็ สอ อี สี
-
เหมือนกับสีแบบสีทาบ้านอย่างนี้ใช่ไหมคะ
-
แต่อย่างไรก็ตามค่ะ อ.ศานติบอกว่า
-
คำว่าสีในทีนี้แต่ก่อนน่าจะไม่ได้สะกดแบบนี้
-
คำว่าสีเนี่ยน่าจะสะกดว่า
-
ศรีแบบนี้ ศ ศาลา ร เรือ สระอีนะคะ
-
ซึ่งคำว่าศรีคำนี้เราคุ้นเคยกันดีแบบ
-
เป็นเกียรติเป็นศรีอะไรอย่างนี้ใช่ไหม
-
ถามว่าคำว่าศรีในที่นี้หมายความว่ายังไง
-
ก็หมายถึงความเป็นมงคลอะไรต่างๆ
-
รวมถึงเป็นชื่อของพระศรีซึ่งเป็น
-
พระชายาของพระวิษณุด้วยนะคะ
-
หรือว่าพระนารายณ์นั่นเอง
-
ก็คือเป็นความมงคลทั้งหลายนั่นแหละ
-
ดังนั้นเวลาเราบอกว่าบัดสีเนี่ย
-
บัดแปลว่าทำให้หายไป ทำให้สูญสิ้น
-
ศรีคืออะไร ศรีคือความเป็นมงคลอะไรต่างๆ
-
ดังนั้นคำว่าบัดสีคืออะไร
-
บัดสีคือการสูญเสียความเป็นมงคลที่ตัวเองมี
-
ซึ่งสมัยก่อนนี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหมคะ
-
ทุกคนจะต้องแบบ เฮ้ย เพื่อความเป็นเกียรติเป็นศรี
-
นำศักดิ์ศรีเพื่อเรา
-
นั่นไงความมู่หลาน Honor To Us All ก็มานะคะทุกคน
-
ซึ่งคำว่าศรีในที่นี้นะคะก็แน่นอน
-
เป็นชื่อของพระศรี เป็นภรรยาของพระวิษณุ
-
ดังนั้นนี่คืออีกหนึ่งคำค่ะที่
-
ชาวเขมรเนี่ยรับต่อมาจากภาษาสันสกฤตนะคะ
-
เราไปต่อที่คำถัดไปดีกว่า
-
นั่นก็คือคำว่าบัดเถลิงนั่นเอง
-
คำว่าบัดเราแปลไปแล้วเนอะ
-
ทีนี้คำว่าเถลิง เถลิงคืออะไร
-
คำว่าเถลิงเนี่ยนะคะหมายถึงการขึ้นค่ะ
-
ก็เหมือนศัพท์ที่เราใช้กันบ่อยๆ เช่น
-
เถลิงถวัลยราชสมบัติ
-
เถลิงอำนาจ ก็แปลว่าขึ้นสู่อำนาจ
-
ประมาณนั้นนะคะ
-
แล้วเมื่อเอามารวมกันเกิดอะไรขึ้น
-
ซึ่งในสมัยก่อนเนี่ยการขึ้นการมีอำนาจ
-
ก็ถือว่าเป็นเรื่องมงคลใช่ไหมคะ
-
ดังนั้นเมื่อเอามารวมกับคำว่าบัด
-
ซึ่งแปลว่าทำให้สูญเสีย สูญสิ้น ทำให้หมดไปเนี่ย
-
ก็แปลว่าสูญสิ้นแล้วจากการขึ้น
-
ในวงเล็บ สู่อำนาจหรือสู่ความดีงามอะไรต่างๆนะคะ
-
ดังนั้นเมื่อเอามารวมกันเนี่ย
-
บัดสีบัดเถลิงก็แปลว่าแบบ
-
สูญเสียความเป็นมงคล
-
สูญเสียการขึ้นสู่อำนาจประมาณว่า
-
ก็สูญเสียการขึ้นสู่อำนาจก็แปลว่าแกตกต่ำแล้ว
-
ประมาณนั้นแหละแบบอี๊ อัปมงคล ตกต่ำ
-
อะไรอย่างนี้นะคะ
-
ดังนั้นนะคะ เวลาคนสมัยก่อนเนี่ย
-
เขาเห็นคนทำอะไรที่เขาขัดใจมากๆ
-
เช่นแบบว่า ทำอะไรลามกอนาจารต่อหน้าที่สาธารณะ
-
เขาก็จะแบบอี๊ บัดสีบัดเถลิง แปลว่าอะไร
-
แปลว่าแบบโอ๊ย เห็นแล้วรับไม่ได้
-
นี่มันเสื่อมความเป็นมงคลสิ้นดี
-
อะไรเนี่ยมาแทงตาฉัน
-
ประมาณนั้นนะคะ
-
นั่นก็คือความหมายของคำว่าบัดสีบัดเถลิงนั่นเองค่ะ
-
เป็นไงบ้างคะได้ฟังความหมายของคำทั้งสามคำไป
-
ไม่ว่าจะเป็นบัดซบ บัดสี หรือบัดเถลิง
-
ก็จะได้ทำให้เวลาที่เราจะเอาไปอุทาน
-
หรือจะเอาไปว่าใครด่าใครเนี่ย
-
เราก็จะได้รู้ความหมายมันมากขึ้นนะคะว่า
-
เรากำลังว่าเขาว่าอะไรค่ะ
-
สำหรับวันนี้วิวก็
-
ขออนุญาตจบคลิปวิดีโอนี้แบบสั้นๆนิดนึงนะคะ
-
ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืม
-
กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็
-
กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ
-
คลิปนี้มาสั้นนิดนึงนะคะทุกคน
-
ขอสารภาพแบบจากใจจริงๆสุดๆเลยค่ะว่า
-
จริงๆแล้ววิวเตรียมอีกเรื่องนึงเอาไว้เล่าให้ทุกคนฟัง
-
แล้วก็หาข้อมูลมาค่อนข้างเยอะค่ะ
-
ซึ่งมันเป็นทฤษฎีที่แบบ
-
เออ คนเชื่อเยอะมากอะไรต่างๆ
-
แล้ววิวก็แบบเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วนะ
-
เตรียมไว้ยาวมากเป็นดราม่าระดับเทพค่ะ
-
ซึ่งเป็นที่มาของสถานที่นึงอะนะ
-
ปรากฏว่าวินาทีสุดท้ายก่อนกดอัดคลิป
-
เกิดคิดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ประมาณว่าแบบ
-
เฮ้ย เช็กอีกทีดีกว่า
-
เพื่อความชัวร์นะคะก็เลยไปเช็กวันที่
-
เช็กปีพ.ศ. อะไรต่างๆที่มันเกิดสถานที่นี้ขึ้น
-
แล้วก็พบว่าเฮ้ย ไอ้ทฤษฎีที่เขาเชื่อกันทั่วบ้านทั่วเมืองอะ
-
มันผิดทุกคน
-
คือเขาบอกว่าสถานที่นี้ตั้งชื่อตามสถานที่นี้
-
แต่ว่าพอไปดูจริงๆแล้วอะ
-
ไอ้ที่ที่มันตั้งตามอะ มันเกิดขึ้นก่อนซะอย่างนั้น
-
วิวก็เลยแบบว่าอ้าว อ้าว อ้าว
-
อ้าวข้อมูลผิดนะคะ
-
ดีนะที่ไปเช็กก่อนก็คือ
-
เรื่องนี้อยากบอกทุกคนว่า
-
อย่าเชื่อแค่เพราะว่ามันอยู่ในตำรา
-
หรืออย่าเชื่อเพราะว่ามันเป็นครูนะคะคือแบบ
-
กาลามสูตรใช้ได้จริงๆ ดังนั้นก็จะต้อง
-
เช็กข้อมูลดีๆนิดนึงค่ะ
-
ซึ่งเอาเป็นว่าทุกเรื่องที่วิวเล่าเนี่ยนะคะ
-
วิวก็พยายามจะใส่อ้างอิงไว้ให้ทุกคนด้านล่างค่ะ
-
ดังนั้นถ้าสมมติว่า
-
ใครฟังแล้วเนี่ยอยากให้ลองเข้าไปดูอ้างอิง
-
ลองเข้าไปอ่านอะไรต่างๆ เพื่อที่จะได้
-
พิจารณากันนิดนึงนะคะว่าเออ
-
เรื่องที่วิวรวบรวมมาให้เนี่ยมัน
-
ถูกต้องหรือเปล่า หรือว่ามันมีความเห็นต่างยังไง
-
มันมีทฤษฎีอะไรแตกต่างกันยังไงนะคะ
-
แต่สำหรับวันนี้วิวคิดว่า
-
วิวบ่นเยิ่นเย้อเกินเนื้อหาวิดีโอแล้วค่ะ
-
ก็ขอจบคลิปวิดีโอนี้แต่เพียงเท่านี้แล้วกันนะคะทุกคน
-
วันนี้ลาไปก่อนค่ะ
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ