WEBVTT 00:00:00.120 --> 00:00:01.700 เฮ่อ บัดซบจริงๆเลย 00:00:01.700 --> 00:00:03.520 ว่าแต่ทำไมต้องบัดซบด้วยอะ 00:00:03.860 --> 00:00:05.560 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 00:00:05.560 --> 00:00:09.000 เชื่อว่ามีคำหลายๆคำนะคะที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา 00:00:09.000 --> 00:00:10.440 ออกจะคุ้นหูกันด้วยซ้ำ 00:00:10.440 --> 00:00:13.520 อย่างเช่นคำว่าบัดซบที่วิวยกตัวอย่างไปเมื่อครู่นี้นะคะ 00:00:13.520 --> 00:00:16.240 ว่าแต่ว่าเรารู้กันจริงๆรึเปล่าคะว่า 00:00:16.240 --> 00:00:17.915 คำคำนั้นหมายความว่ายังไง 00:00:17.920 --> 00:00:19.760 โดยเฉพาะพวกคำอุทานต่างๆ 00:00:19.760 --> 00:00:21.440 บอกเลยว่าพวกคำอุทานต่างๆเนี่ย 00:00:21.440 --> 00:00:23.780 มีความหมายหลายต่อหลายคำเลยค่ะ 00:00:23.780 --> 00:00:25.720 คือบางคำมันก็อาจจะเป็นแค่คำเลียนเสียงอะนะ 00:00:25.720 --> 00:00:27.760 แต่ว่าหลายคำนี่ก็มีที่มาที่ไป 00:00:27.760 --> 00:00:29.260 มีคำแปลของตัวเองด้วยนะคะ 00:00:29.440 --> 00:00:32.320 ซึ่งหลายๆคนเนี่ยใช้ไปโดยที่ไม่รู้คำแปลเลยค่ะ 00:00:32.320 --> 00:00:34.020 อย่างไรก็ตามนะคะ เมื่อไม่นานมานี้ 00:00:34.020 --> 00:00:35.780 วิวเพิ่งจะทำคลิปวิดีโอไปวิดีโอนึง 00:00:35.780 --> 00:00:37.280 จำได้ไหมคะที่วิวมาบอกว่า 00:00:37.280 --> 00:00:40.180 คำว่าโยมเนี่ยมีที่มาที่ไปยังไง แปลว่าอะไร 00:00:40.180 --> 00:00:43.060 ซึ่งในคลิปวิดีโอนั้นนะคะวิวใช้หนังสืออ้างอิงเล่มนึงค่ะ 00:00:43.060 --> 00:00:44.220 บังเอิญในเล่มนั้นเนี่ยนะคะ 00:00:44.220 --> 00:00:47.020 มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาของคำอะไรต่างๆค่ะ 00:00:47.020 --> 00:00:49.460 ดังนั้นในนั้นเนี่ยเต็มไปด้วยที่มาของคำ 00:00:49.460 --> 00:00:50.460 เต็มไปหมดเลยนะคะ 00:00:50.460 --> 00:00:53.240 วิวก็ไปอ่านเล่นอะไรต่างๆ แล้วก็พบกับ 00:00:53.240 --> 00:00:55.180 คำแปลของคำจำนวนนึง 00:00:55.180 --> 00:00:57.060 ที่เราใช้กันบ๊อยบ่อยค่ะ 00:00:57.060 --> 00:01:00.820 นั่นก็คือคำอุทานที่ขึ้นด้วยคำว่า "บัด" ต่างๆ 00:01:00.820 --> 00:01:03.020 ไม่ว่าจะเป็นบัดซบที่เมื่อกี้วิวพูดไป 00:01:03.020 --> 00:01:04.800 บัดสีบัดเถลิงนะคะ 00:01:04.800 --> 00:01:06.320 ซึ่งทั้งสามคำนี้ 00:01:06.320 --> 00:01:08.180 มีความหมายทั้งสิ้นเลยค่ะ 00:01:08.180 --> 00:01:10.800 วันนี้วิวก็เลยจะหยิบเอาเรื่องราวที่วิวอ่านมาเนี่ยนะคะ 00:01:10.800 --> 00:01:12.340 มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ 00:01:12.345 --> 00:01:14.300 สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง 00:01:14.300 --> 00:01:15.980 สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 00:01:15.980 --> 00:01:17.880 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 00:01:22.040 --> 00:01:24.400 ต้องบอกว่าคำด่าหรือคำอุทานทั้งสามคำ 00:01:24.400 --> 00:01:26.760 ที่วิวตั้งใจจะยกขึ้นมาคุยกับทุกคนในวันนี้ 00:01:26.760 --> 00:01:29.540 มีที่มาที่ใกล้เคียงกันมากๆเลยค่ะก็คือ 00:01:29.540 --> 00:01:32.700 ล้วนแต่มาจากภาษาเขมรทั้งนั้นเลยนะคะ 00:01:33.120 --> 00:01:35.360 ซึ่งในภาษาเขมรเนี่ยเขาแปลกันออกนะ 00:01:35.360 --> 00:01:37.320 ว่ามันมีความหมายมาจากอะไรยังไง 00:01:37.320 --> 00:01:39.500 แต่พอเราเก็บมาใช้กันในภาษาไทยนะคะ 00:01:39.500 --> 00:01:42.340 เนื่องจากทุกวันนี้เราอาจจะไม่ได้คุ้นเคยกับภาษาเขมร 00:01:42.340 --> 00:01:45.980 เหมือนกับคนไทยในสมัยที่เริ่มรับคำนี้เข้ามา 00:01:45.980 --> 00:01:48.300 ต้องบอกว่าในสมัยก่อนคนไทยค่อนข้างจะได้รับ 00:01:48.300 --> 00:01:50.400 อิทธิพลจากเขมรค่อนข้างเยอะเนอะดังนั้น 00:01:50.400 --> 00:01:52.660 เรารับคำเขมรเข้ามาเต็มไปหมด 00:01:52.660 --> 00:01:53.860 เอามาใช้เป็นราชาศัพท์ 00:01:53.860 --> 00:01:55.855 เอามาใช้เรียกชื่อนู้นชื่อนี้เต็มไปหมด 00:01:55.860 --> 00:01:57.680 คนในสมัยนั้นเนี่ยเขาก็เลยน่าจะเก็บ 00:01:57.680 --> 00:02:00.260 คำอุทานหรือคำด่าอะไรของเขมรมาด้วยค่ะ 00:02:00.260 --> 00:02:02.500 ซึ่งคนในสมัยนั้นเนี่ยเขาอาจจะแปลออก 00:02:02.500 --> 00:02:04.000 แต่เราเนี่ยแปลไม่ออกนะคะ 00:02:04.000 --> 00:02:06.500 ต้องบอกว่าคลิปวิดีโอนี้ไม่ใช่ความเห็นของวิวเองนะคะ 00:02:06.500 --> 00:02:08.820 แต่ว่าเป็นความเห็นนักภาษาศาสตร์ที่เขา 00:02:08.820 --> 00:02:10.300 ไปศึกษาอะไรต่างๆ 00:02:10.300 --> 00:02:12.580 แล้วก็พยายามดูที่มาของคำศัพท์นะคะ 00:02:12.580 --> 00:02:15.040 ดังนั้นวิวลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้ว 00:02:15.040 --> 00:02:17.680 ถ้าสมมติว่าใครอยากไปหาอ่านเพิ่มเติมอยากไปดูว่า 00:02:17.680 --> 00:02:19.535 เออ มันน่าจะแปลแบบนั้นจริงไหม 00:02:19.540 --> 00:02:20.820 ก็ลองไปดูได้นะคะ 00:02:21.040 --> 00:02:24.920 ซึ่งอ้างอิงหลักๆที่วิวใช้ก็จะมีของอ.ศานติ ภักดีคำเนอะ 00:02:24.920 --> 00:02:26.880 ซึ่งอาจารย์เนี่ยอ้างอิงมาจากหนังสือ 00:02:26.880 --> 00:02:28.440 สัพะ พะจะนะ พาสา ไท นะคะ 00:02:28.440 --> 00:02:30.680 ของบาทหลวงปาลเลอกัวซ์อีกทีนึงนะ 00:02:30.680 --> 00:02:32.540 ดังนั้นก็เอาเป็นว่าวิวแค่ไปเจอมา 00:02:32.540 --> 00:02:33.880 แล้วก็เอามาเล่าให้ทุกคนฟังแล้วกันค่ะ 00:02:33.880 --> 00:02:35.880 ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญภาษาเขมรหรือว่า 00:02:35.880 --> 00:02:38.660 ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านที่มาของคำศัพท์อะไรนะ 00:02:38.660 --> 00:02:41.200 เพราะว่าภาษาเขมร วิวคืนครูไปหมดแล้วค่ะทุกคน 00:02:41.540 --> 00:02:43.960 อย่างไรก็ตาม เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ 00:02:43.960 --> 00:02:45.640 ต้องบอกว่าคำทั้งสามคำนี้นะคะ 00:02:45.640 --> 00:02:48.120 ล้วนแต่มีที่มาเหมือนกันเลยค่ะ นั่นก็คือ 00:02:48.340 --> 00:02:50.020 มาจากภาษาเขมรนั่นเอง 00:02:50.020 --> 00:02:51.400 เพราะว่าในสมัยโบราณเนี่ย 00:02:51.400 --> 00:02:54.180 เรามีการรับศัพท์เขมรมาใช้ค่อนข้างเยอะค่ะ 00:02:54.180 --> 00:02:55.980 เช่นเดียวกับในช่วงเวลาที่เรารับ 00:02:55.980 --> 00:02:58.080 อิทธิพลต่างๆจากเขมรมามากมายนะ 00:02:58.080 --> 00:03:00.780 ยกตัวอย่างเช่นในสมัยอยุธยา เราก็จะเห็นว่า 00:03:00.780 --> 00:03:03.300 เราเนี่ยรับอะไรจากเขมรมาเต็มไปหมด 00:03:03.300 --> 00:03:05.460 เรารับราชาศัพท์มา 00:03:05.460 --> 00:03:07.980 เรารับระเบียบการราชสำนักอะไรต่างๆ 00:03:07.980 --> 00:03:10.740 ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่ได้รับมาตั้งแต่แค่สมัยอยุธยานะคะ 00:03:10.740 --> 00:03:13.120 เรารับอิทธิพลจากเขมรมาค่อนข้างยาวนานแล้ว 00:03:13.120 --> 00:03:13.840 เพราะว่าอะไร 00:03:13.840 --> 00:03:17.000 เพราะว่าเขมรเนี่ยมีการติดต่อกับอินเดียนะคะ 00:03:17.000 --> 00:03:19.620 ดังนั้นทางอินเดียอะไรต่างๆ ซึ่งเป็น 00:03:19.620 --> 00:03:21.400 เจ้าอารยธรรมที่แบบสูงกว่าเนี่ย 00:03:21.400 --> 00:03:23.140 เขาก็ส่งต่ออารยธรรมต่างๆ 00:03:23.140 --> 00:03:25.120 มาที่เขมรและ 00:03:25.120 --> 00:03:26.700 เราก็ไปรับมาจากเขมรอีกที 00:03:26.700 --> 00:03:28.940 ดังนั้นมันจะมีความเป็นทอดๆนิดนึงก็คือ 00:03:28.940 --> 00:03:30.800 มันมีความเป็นอินเดียอยู่แหละ 00:03:30.800 --> 00:03:32.780 มันมีความเป็นสันสกฤตอะไรต่างๆ 00:03:32.780 --> 00:03:34.220 แต่ว่าเป็นสันสกฤตที่ 00:03:34.220 --> 00:03:37.800 ผ่านสายคนเขมร ผ่านการพัฒนาจากคนเขมรมาแล้วนะ 00:03:37.800 --> 00:03:40.200 ซึ่งถามว่าทั้งสามคำนี้มีอะไรร่วมกันอีก 00:03:40.200 --> 00:03:42.220 นอกจากมีที่มาจากภาษาเขมรร่วมกัน 00:03:42.220 --> 00:03:43.660 ก็ต้องบอกว่าทั้งสามคำเนี่ย 00:03:43.660 --> 00:03:46.360 ประกอบไปด้วยคำคำเดียวกันค่ะ นั่นก็คือคำว่า 00:03:46.365 --> 00:03:47.500 บัดนั่นเอง 00:03:47.500 --> 00:03:49.720 ไม่ว่าจะเป็นบัดซบ บัดสีบัดเถลิง 00:03:49.720 --> 00:03:51.000 บัดทั้งนั้นเลย 00:03:51.000 --> 00:03:52.920 คำว่าบัดคำนี้แปลว่าอะไรรู้ไหมคะ 00:03:53.220 --> 00:03:55.880 คำว่าบัดคำนี้ตามภาษาเขมร เขียนว่าแบบนี้ 00:03:56.280 --> 00:03:57.960 ออกเสียงว่าบัดเหมือนกันเป๊ะเลยค่ะ 00:03:57.960 --> 00:03:59.760 คำคำนี้นะคะมีความหมายว่าแบบ 00:03:59.980 --> 00:04:01.620 เสียหาย สูญสิ้น 00:04:01.620 --> 00:04:03.840 ไม่เหลือแล้ว อะไรประมาณอย่างนี้นะ 00:04:03.840 --> 00:04:06.080 ก็คือการสูญเสียอะไรบางอย่างค่ะ 00:04:06.080 --> 00:04:08.400 ทีนี้ถามว่าแต่ละคำแปลว่าอะไร 00:04:08.400 --> 00:04:09.740 เริ่มจากคำว่าซบก่อน 00:04:09.740 --> 00:04:12.400 คำว่าซบคำนี้เนี่ยนะคะเป็นคำคำนึงค่ะซึ่ง 00:04:12.400 --> 00:04:15.480 เอาจริงๆ อ.ศานติ ภักดีคำเนี่ยเขาหาไม่เจอค่ะว่า 00:04:15.480 --> 00:04:18.260 เอ๊ สรุปแล้วมันมีที่มาจากอะไรยังไงนะคะ 00:04:18.260 --> 00:04:21.800 แต่ก็สามารถพอจะสันนิษฐานได้จากคำที่ใกล้เคียงกัน 00:04:21.800 --> 00:04:23.920 แล้วน่าจะตรงกับความหมายที่สุดนะคะ 00:04:23.920 --> 00:04:27.600 คือเขาสันนิษฐานว่าเรารับมาจากคำว่า ซ็อบ ภาษาเขมรค่ะ 00:04:27.760 --> 00:04:29.840 คำว่าซ็อบในที่นี้เป็นภาษาเขมร 00:04:29.840 --> 00:04:31.920 ที่รับมาจากอินเดียอีกทีนึงนะคะ 00:04:31.920 --> 00:04:33.460 คือรับมาจากภาษาสันสกฤตค่ะ 00:04:33.620 --> 00:04:36.300 คำที่เป็นที่มาของคำว่าซ็อบก็คือคำว่า 00:04:36.640 --> 00:04:37.780 สรรพนั่นเอง 00:04:37.780 --> 00:04:39.620 สรรพ ส-ร-ร-พ 00:04:39.620 --> 00:04:40.440 สรรพะ 00:04:40.440 --> 00:04:42.200 สรรพะแปลว่าไร แปลว่าทุกสิ่งอย่าง 00:04:42.200 --> 00:04:44.200 แปลว่าทุกอย่างรวมๆใช่ไหม 00:04:44.200 --> 00:04:46.380 อย่างที่เราคุ้นกันดีกับคำว่าสรรพสิ่ง 00:04:46.660 --> 00:04:47.360 อะไรแบบนี้ 00:04:47.360 --> 00:04:49.660 สรรพสิ่งทั้งปวง อย่างนั้นเลย 00:04:49.660 --> 00:04:51.640 ดังนั้นเมื่อคำว่าสรรพกลายเป็นคำว่าซ็อบ 00:04:51.640 --> 00:04:53.400 และคำว่าซ็อบกลายเป็นคำว่าซบเนี่ย 00:04:53.620 --> 00:04:54.820 คำว่าซบก็เลยแปลว่า 00:04:54.820 --> 00:04:57.340 ทุกสิ่งอย่าง ทั้งหมด อะไรอย่างนี้ 00:04:57.340 --> 00:04:59.720 เมื่อมารวมกับคำว่าบัดที่แปลว่าสูญเสีย 00:04:59.720 --> 00:05:01.380 คำว่าบัดซบก็เลยแปลว่า 00:05:01.380 --> 00:05:03.180 สูญเสียทุกสิ่งอย่าง 00:05:03.440 --> 00:05:06.300 เวลาเราบอกว่าบัดซบจริงๆเลย มันก็เลยเป็นการ 00:05:06.300 --> 00:05:08.520 อธิบายว่า โอ้ย ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว 00:05:08.520 --> 00:05:11.120 ฉันสูญเสียทุกสิ่งอย่าง ประมาณนี้นะคะ 00:05:11.380 --> 00:05:13.060 นี่ก็คือคำแรกนั่นเอง 00:05:13.060 --> 00:05:14.560 ทีนี้เรามาดูที่คำถัดไปนะคะ 00:05:14.560 --> 00:05:16.160 ที่เขามักจะใช้คู่กันนั่นก็คือ 00:05:16.415 --> 00:05:17.840 บัดสีบัดเถลิงนั่นเอง 00:05:17.840 --> 00:05:19.155 อะ เวลาเราเห็นอะไรที่เรา 00:05:19.160 --> 00:05:22.060 ไม่พอใจซักอย่างที่แบบว่าเรารับไม่ได้ เราก็จะบอกว่า 00:05:22.060 --> 00:05:24.720 ว้าย บัดสีบัดเถลิง รับไม่ได้ ใช่ไหมคะ 00:05:24.960 --> 00:05:27.400 ทีนี้ถามว่าบัดสีบัดเถลิงมีที่มาจากอะไร 00:05:27.400 --> 00:05:30.420 ก็ต้องบอกว่าคำว่าบัดสีเนี่ยปัจจุบันเราสะกดว่า 00:05:30.420 --> 00:05:31.880 บัดแล้วก็ สอ อี สี 00:05:31.880 --> 00:05:34.540 เหมือนกับสีแบบสีทาบ้านอย่างนี้ใช่ไหมคะ 00:05:34.720 --> 00:05:36.900 แต่อย่างไรก็ตามค่ะ อ.ศานติบอกว่า 00:05:36.905 --> 00:05:40.255 คำว่าสีในทีนี้แต่ก่อนน่าจะไม่ได้สะกดแบบนี้ 00:05:40.255 --> 00:05:41.840 คำว่าสีเนี่ยน่าจะสะกดว่า 00:05:41.840 --> 00:05:45.040 ศรีแบบนี้ ศ ศาลา ร เรือ สระอีนะคะ 00:05:45.360 --> 00:05:47.640 ซึ่งคำว่าศรีคำนี้เราคุ้นเคยกันดีแบบ 00:05:47.640 --> 00:05:49.520 เป็นเกียรติเป็นศรีอะไรอย่างนี้ใช่ไหม 00:05:49.520 --> 00:05:51.880 ถามว่าคำว่าศรีในที่นี้หมายความว่ายังไง 00:05:51.880 --> 00:05:54.500 ก็หมายถึงความเป็นมงคลอะไรต่างๆ 00:05:54.500 --> 00:05:57.280 รวมถึงเป็นชื่อของพระศรีซึ่งเป็น 00:05:57.280 --> 00:05:59.580 พระชายาของพระวิษณุด้วยนะคะ 00:05:59.580 --> 00:06:00.700 หรือว่าพระนารายณ์นั่นเอง 00:06:00.700 --> 00:06:03.080 ก็คือเป็นความมงคลทั้งหลายนั่นแหละ 00:06:03.080 --> 00:06:05.020 ดังนั้นเวลาเราบอกว่าบัดสีเนี่ย 00:06:05.020 --> 00:06:07.060 บัดแปลว่าทำให้หายไป ทำให้สูญสิ้น 00:06:07.060 --> 00:06:09.760 ศรีคืออะไร ศรีคือความเป็นมงคลอะไรต่างๆ 00:06:09.760 --> 00:06:11.060 ดังนั้นคำว่าบัดสีคืออะไร 00:06:11.060 --> 00:06:14.600 บัดสีคือการสูญเสียความเป็นมงคลที่ตัวเองมี 00:06:14.600 --> 00:06:16.640 ซึ่งสมัยก่อนนี่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ใช่ไหมคะ 00:06:16.640 --> 00:06:20.000 ทุกคนจะต้องแบบ เฮ้ย เพื่อความเป็นเกียรติเป็นศรี 00:06:20.000 --> 00:06:21.940 นำศักดิ์ศรีเพื่อเรา 00:06:30.540 --> 00:06:33.900 นั่นไงความมู่หลาน Honor To Us All ก็มานะคะทุกคน 00:06:33.900 --> 00:06:35.860 ซึ่งคำว่าศรีในที่นี้นะคะก็แน่นอน 00:06:35.860 --> 00:06:38.180 เป็นชื่อของพระศรี เป็นภรรยาของพระวิษณุ 00:06:38.180 --> 00:06:39.940 ดังนั้นนี่คืออีกหนึ่งคำค่ะที่ 00:06:40.140 --> 00:06:42.860 ชาวเขมรเนี่ยรับต่อมาจากภาษาสันสกฤตนะคะ 00:06:43.100 --> 00:06:44.700 เราไปต่อที่คำถัดไปดีกว่า 00:06:44.700 --> 00:06:47.000 นั่นก็คือคำว่าบัดเถลิงนั่นเอง 00:06:47.000 --> 00:06:48.440 คำว่าบัดเราแปลไปแล้วเนอะ 00:06:48.440 --> 00:06:50.460 ทีนี้คำว่าเถลิง เถลิงคืออะไร 00:06:50.460 --> 00:06:53.860 คำว่าเถลิงเนี่ยนะคะหมายถึงการขึ้นค่ะ 00:06:53.860 --> 00:06:56.220 ก็เหมือนศัพท์ที่เราใช้กันบ่อยๆ เช่น 00:06:56.220 --> 00:06:58.120 เถลิงถวัลยราชสมบัติ 00:06:58.460 --> 00:07:01.200 เถลิงอำนาจ ก็แปลว่าขึ้นสู่อำนาจ 00:07:01.200 --> 00:07:02.280 ประมาณนั้นนะคะ 00:07:02.280 --> 00:07:04.480 แล้วเมื่อเอามารวมกันเกิดอะไรขึ้น 00:07:04.600 --> 00:07:07.160 ซึ่งในสมัยก่อนเนี่ยการขึ้นการมีอำนาจ 00:07:07.160 --> 00:07:08.900 ก็ถือว่าเป็นเรื่องมงคลใช่ไหมคะ 00:07:09.080 --> 00:07:10.820 ดังนั้นเมื่อเอามารวมกับคำว่าบัด 00:07:10.820 --> 00:07:13.440 ซึ่งแปลว่าทำให้สูญเสีย สูญสิ้น ทำให้หมดไปเนี่ย 00:07:13.700 --> 00:07:15.840 ก็แปลว่าสูญสิ้นแล้วจากการขึ้น 00:07:15.840 --> 00:07:19.620 ในวงเล็บ สู่อำนาจหรือสู่ความดีงามอะไรต่างๆนะคะ 00:07:19.880 --> 00:07:21.340 ดังนั้นเมื่อเอามารวมกันเนี่ย 00:07:21.340 --> 00:07:22.800 บัดสีบัดเถลิงก็แปลว่าแบบ 00:07:23.040 --> 00:07:24.740 สูญเสียความเป็นมงคล 00:07:24.740 --> 00:07:26.880 สูญเสียการขึ้นสู่อำนาจประมาณว่า 00:07:26.880 --> 00:07:29.180 ก็สูญเสียการขึ้นสู่อำนาจก็แปลว่าแกตกต่ำแล้ว 00:07:29.180 --> 00:07:31.460 ประมาณนั้นแหละแบบอี๊ อัปมงคล ตกต่ำ 00:07:31.460 --> 00:07:32.640 อะไรอย่างนี้นะคะ 00:07:32.640 --> 00:07:34.300 ดังนั้นนะคะ เวลาคนสมัยก่อนเนี่ย 00:07:34.300 --> 00:07:36.300 เขาเห็นคนทำอะไรที่เขาขัดใจมากๆ 00:07:36.300 --> 00:07:39.560 เช่นแบบว่า ทำอะไรลามกอนาจารต่อหน้าที่สาธารณะ 00:07:39.560 --> 00:07:41.780 เขาก็จะแบบอี๊ บัดสีบัดเถลิง แปลว่าอะไร 00:07:41.780 --> 00:07:43.480 แปลว่าแบบโอ๊ย เห็นแล้วรับไม่ได้ 00:07:43.480 --> 00:07:45.240 นี่มันเสื่อมความเป็นมงคลสิ้นดี 00:07:45.240 --> 00:07:46.560 อะไรเนี่ยมาแทงตาฉัน 00:07:46.800 --> 00:07:47.980 ประมาณนั้นนะคะ 00:07:47.980 --> 00:07:50.965 นั่นก็คือความหมายของคำว่าบัดสีบัดเถลิงนั่นเองค่ะ 00:07:50.965 --> 00:07:53.380 เป็นไงบ้างคะได้ฟังความหมายของคำทั้งสามคำไป 00:07:53.380 --> 00:07:56.160 ไม่ว่าจะเป็นบัดซบ บัดสี หรือบัดเถลิง 00:07:56.160 --> 00:07:58.740 ก็จะได้ทำให้เวลาที่เราจะเอาไปอุทาน 00:07:58.740 --> 00:08:00.380 หรือจะเอาไปว่าใครด่าใครเนี่ย 00:08:00.380 --> 00:08:03.040 เราก็จะได้รู้ความหมายมันมากขึ้นนะคะว่า 00:08:03.040 --> 00:08:05.180 เรากำลังว่าเขาว่าอะไรค่ะ 00:08:05.420 --> 00:08:06.620 สำหรับวันนี้วิวก็ 00:08:06.620 --> 00:08:09.240 ขออนุญาตจบคลิปวิดีโอนี้แบบสั้นๆนิดนึงนะคะ 00:08:09.240 --> 00:08:10.960 ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืม 00:08:10.960 --> 00:08:12.380 กดไลก์เป็นกำลังใจให้วิวแล้วก็ 00:08:12.380 --> 00:08:14.095 กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 00:08:14.095 --> 00:08:15.900 แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน 00:08:15.900 --> 00:08:16.660 บ๊ายบาย 00:08:16.660 --> 00:08:17.540 สวัสดีค่ะ 00:08:17.820 --> 00:08:19.460 คลิปนี้มาสั้นนิดนึงนะคะทุกคน 00:08:19.460 --> 00:08:22.600 ขอสารภาพแบบจากใจจริงๆสุดๆเลยค่ะว่า 00:08:22.800 --> 00:08:25.600 จริงๆแล้ววิวเตรียมอีกเรื่องนึงเอาไว้เล่าให้ทุกคนฟัง 00:08:25.600 --> 00:08:27.660 แล้วก็หาข้อมูลมาค่อนข้างเยอะค่ะ 00:08:27.660 --> 00:08:29.060 ซึ่งมันเป็นทฤษฎีที่แบบ 00:08:29.060 --> 00:08:30.860 เออ คนเชื่อเยอะมากอะไรต่างๆ 00:08:30.860 --> 00:08:32.680 แล้ววิวก็แบบเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วนะ 00:08:32.680 --> 00:08:34.680 เตรียมไว้ยาวมากเป็นดราม่าระดับเทพค่ะ 00:08:34.680 --> 00:08:36.840 ซึ่งเป็นที่มาของสถานที่นึงอะนะ 00:08:37.105 --> 00:08:40.105 ปรากฏว่าวินาทีสุดท้ายก่อนกดอัดคลิป 00:08:40.105 --> 00:08:42.100 เกิดคิดอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ประมาณว่าแบบ 00:08:42.400 --> 00:08:43.780 เฮ้ย เช็กอีกทีดีกว่า 00:08:43.780 --> 00:08:46.280 เพื่อความชัวร์นะคะก็เลยไปเช็กวันที่ 00:08:46.280 --> 00:08:49.000 เช็กปีพ.ศ. อะไรต่างๆที่มันเกิดสถานที่นี้ขึ้น 00:08:49.000 --> 00:08:52.820 แล้วก็พบว่าเฮ้ย ไอ้ทฤษฎีที่เขาเชื่อกันทั่วบ้านทั่วเมืองอะ 00:08:52.820 --> 00:08:54.000 มันผิดทุกคน 00:08:54.200 --> 00:08:57.580 คือเขาบอกว่าสถานที่นี้ตั้งชื่อตามสถานที่นี้ 00:08:57.585 --> 00:08:58.860 แต่ว่าพอไปดูจริงๆแล้วอะ 00:08:58.860 --> 00:09:01.540 ไอ้ที่ที่มันตั้งตามอะ มันเกิดขึ้นก่อนซะอย่างนั้น 00:09:01.540 --> 00:09:04.160 วิวก็เลยแบบว่าอ้าว อ้าว อ้าว 00:09:04.160 --> 00:09:05.520 อ้าวข้อมูลผิดนะคะ 00:09:05.760 --> 00:09:07.720 ดีนะที่ไปเช็กก่อนก็คือ 00:09:07.720 --> 00:09:09.260 เรื่องนี้อยากบอกทุกคนว่า 00:09:09.440 --> 00:09:11.540 อย่าเชื่อแค่เพราะว่ามันอยู่ในตำรา 00:09:11.540 --> 00:09:13.460 หรืออย่าเชื่อเพราะว่ามันเป็นครูนะคะคือแบบ 00:09:13.660 --> 00:09:15.860 กาลามสูตรใช้ได้จริงๆ ดังนั้นก็จะต้อง 00:09:15.860 --> 00:09:17.540 เช็กข้อมูลดีๆนิดนึงค่ะ 00:09:17.540 --> 00:09:19.060 ซึ่งเอาเป็นว่าทุกเรื่องที่วิวเล่าเนี่ยนะคะ 00:09:19.060 --> 00:09:21.540 วิวก็พยายามจะใส่อ้างอิงไว้ให้ทุกคนด้านล่างค่ะ 00:09:21.540 --> 00:09:22.960 ดังนั้นถ้าสมมติว่า 00:09:22.960 --> 00:09:25.260 ใครฟังแล้วเนี่ยอยากให้ลองเข้าไปดูอ้างอิง 00:09:25.260 --> 00:09:27.300 ลองเข้าไปอ่านอะไรต่างๆ เพื่อที่จะได้ 00:09:27.300 --> 00:09:29.140 พิจารณากันนิดนึงนะคะว่าเออ 00:09:29.140 --> 00:09:30.880 เรื่องที่วิวรวบรวมมาให้เนี่ยมัน 00:09:30.880 --> 00:09:33.080 ถูกต้องหรือเปล่า หรือว่ามันมีความเห็นต่างยังไง 00:09:33.080 --> 00:09:35.080 มันมีทฤษฎีอะไรแตกต่างกันยังไงนะคะ 00:09:35.380 --> 00:09:36.420 แต่สำหรับวันนี้วิวคิดว่า 00:09:36.420 --> 00:09:38.340 วิวบ่นเยิ่นเย้อเกินเนื้อหาวิดีโอแล้วค่ะ 00:09:38.340 --> 00:09:40.800 ก็ขอจบคลิปวิดีโอนี้แต่เพียงเท่านี้แล้วกันนะคะทุกคน 00:09:40.800 --> 00:09:41.940 วันนี้ลาไปก่อนค่ะ 00:09:41.940 --> 00:09:42.780 บ๊ายบาย 00:09:42.780 --> 00:09:43.740 สวัสดีค่ะ