-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
กลับมาแล้วนะคะ ตามคำเรียกร้องกับเรื่อง
-
Harry Potter and the Cursed Child หรือว่า
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องสาป เป็นตอนที่ 3 แล้วค่ะ
-
ซึ่งบอกเลยว่ากระแสเรียกร้องนี่แรงมากๆ
-
ระดับที่ถ้าสมมติว่าวิวดองคลิปนี้นี่
น่าจะโดนอะไรหนักพอสมควรนะคะ
-
ดังนั้นกลับมาต่ออย่างรวดเร็วค่ะ
-
ซึ่งขอบอกเลยว่าตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะ
-
จะไม่ได้เล่ายืดยาวออกไปมากกว่านี้แล้ว
-
เพราะว่าแค่นี้ก็ลงรายละเอียดมากพอ
เกินกว่าที่คาดไว้ไปเยอะมากแล้วจริงๆค่ะ
-
ดังนั้นนะคะถ้าใครอยากติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรก
-
ก็สามารถกดไปดูได้ตรงนี้นะคะ
-
ฟังตั้งแต่พาร์ตที่ 1 พาร์ตที่ 2
จนมาถึงพาร์ตที่ 3 นี้ได้เลยค่ะ
-
และที่สำคัญอย่าลืมกดติดตามวิว
ให้ครบทุกช่องทางนะคะ
-
เพราะว่าแต่ละช่องทางก็มี
เนื้อหาที่แตกต่างกันออกไป
-
แล้วก็ขอบอกเลยว่าสนุกไม่แพ้
เรื่องราวของแฮร์รี่ พอตเตอร์เลยค่ะ
-
สำหรับตอนนี้นะคะ
พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก
-
แล้วก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าได้สาระรึเปล่า
แต่ว่าอยากเล่ารึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
ความเดิมจากตอนที่แล้วนะคะ
เดลฟี่ค่ะ เป็นผู้หญิงคนนึงเนี่ย
-
ล่อลวงให้อัลบัสแล้วก็สกอร์เปียสนะคะ
-
ซึ่งเป็นลูกของแฮร์รี่กับลูกของมัลฟอยเนี่ย
-
พยายามย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตค่ะ
-
เพื่อที่จะช่วยชีวิตเซดริก ดิกกอรี่นะคะ
-
จนกระทั่งทั้งสองเนี่ยนะคะทำ timeline
ของโลกเวทมนตร์เนี่ยพังพินาศ
-
แล้วก็เกือบจะทำให้ลอร์ดโวลเดอมอร์เนี่ยนะคะ
กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งนึง
-
แต่ว่าด้วยความช่วยเหลือของเซเวอรัส สเนป
-
แล้วก็รอนกับเฮอร์ไมโอนี่
ในอีกเวอร์ชันนึงเนี่ยนะคะ
-
ก็ทำให้ทั้งคู่เนี่ยได้กลับไปแก้ไข
สิ่งที่ตัวเองทำทั้งหมด
-
แล้วก็ทำให้โลกปลอดภัยอีกครั้งนึง
-
เหมือนเรื่องราวจะจบลงตรงนี้นะคะ
-
แต่ว่าเรื่องไม่จบค่ะ เพราะว่า
-
เมื่อทั้งสองเนี่ยตัดสินใจว่าชั้นไม่ไว้ใจใครทั้งสิ้น
-
ชั้นจะไปทำลายเครื่องย้อนเวลาด้วยตัวเอง
-
ปรากฏว่าเดลฟี่ก็ดันโผล่มาตรงนั้นนะคะแล้วก็
-
จัดการพูดนู่นพูดนี่ค่ะ หลังจากนั้นก็
มีการปลดอาวุธทั้งสองนะคะ
-
แล้วก็หักไม้กายสิทธิ์ของทั้งสองคนทิ้งค่ะ
-
หลังจากนั้นก็พาทั้งสองคนไปที่สนามควิดดิชนะคะ
-
และที่นั่นค่ะทำให้ทุกคนงงงวยมากว่า
เดลฟี่ เดลฟี่ต้องการอะไรเหรอ นะคะ
-
ซึ่งเดลฟี่นะคะก็พยายามจะบอกว่า
-
เราต้องช่วยเซดริกดิ
เพื่อทำให้คำทำนายเป็นจริง
-
ทุกคนก็แบบคำทำนาย คำทำนายอะไร
-
ไหน คำทำนายอะไร นะคะ
-
เดลฟี่ก็เลยพูดคำทำนายนึงขึ้นมาค่ะ
-
คำทำนายนั้นก็คือ
-
เมื่อตัวสำรองได้รับความช่วยเหลือ
-
เมื่อเด็กที่พ่อไม่ต้องการเนี่ยฆ่าพ่อตัวเอง
-
เมื่อนั้นนะคะเจ้าแห่งศาสตร์มืด
จะกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งนึง
-
ซึ่งเดลฟี่นะคะก็ตีความคำทำนายนี้
ให้ทั้งสองคนฟังว่า
-
นี่แหละ คำทำนายนี้คือคำทำนายที่
ชั้นพยายามจะต้องทำให้สำเร็จ
-
เมื่อตัวสำรองก็คือเซดริก ดิกกอรี่เนี่ยรอดชีวิต
-
เมื่อเด็กที่พ่อไม่ต้องการหรือว่าอัลบัสเนี่ยนะ
-
ฆ่าพ่อตัวเองด้วยการเข้าไปยุ่ง
กับกาลเวลาทำให้พ่อเนี่ยไม่ได้เกิดมา
-
เมื่อนั้นแหละ เจ้าแห่งศาสตร์มืด
หรือว่าลอร์ดโวลเดอมอร์
-
ก็จะกลับมาอีกครั้ง
ชั้นต้องการสิ่งนี้นะคะ
-
ซึ่งทั้งสองคนก็บอกว่า ฮึ ไม่เอา
ทำไมชั้นต้องร่วมมือกับเธอด้วยนะคะ
-
ซึ่งทำให้เดลฟี่ค่ะโกรธนะคะ
แล้วก็หยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาค่ะ
-
แล้วก็เสกคำสาปกรีดแทงเนี่ยนะคะใส่อัลบัส
แบบ ครูซิโอ! ประมาณนี้เลยนะคะ
-
ซึ่งอัลบัสก็ลงไปดิ้นพล่านค่ะ
แต่ก็ยังไม่ยอมนะคะ
-
ซึ่งในตอนที่เถียงกันเรื่องคำทำนายนะคะ
ก็มีประโยคสำคัญประโยคนึงหลุดออกมาค่ะ
-
นั่นก็คือตอนที่เดลฟี่บอกว่า
-
ชั้นจะต้องทำคำทำนายนี้ให้สำเร็จ
คำทำนายมันเขียนไว้อยู่แล้วนะคะ
-
อัลบัสก็มีความบอกเดลฟี่ไปค่ะว่า
ไม่จริง คำทำนายมันไม่จำเป็นต้องสำเร็จหรอก
-
คำทำนายอะนะ มันเป็นสิ่งที่แก้ได้
-
ที่คำทำนายมันจะสำเร็จเพราะว่า
เธอเนี่ยเชื่อว่าคำทำนายมันสำเร็จ
-
แล้วเธอก็พยายามจะลากชั้นเนี่ย
มาทำให้คำทำนายสำเร็จนั่นแหละ
-
ถ้าสมมติว่าชั้นขัดขืนเนี่ยนะ ถ้าชั้นไม่ยอมทำ
-
แค่นี้คำทำนายก็จะไม่สำเร็จแล้ว
-
เพราะฉะนั้นชั้นไม่ทำ นะคะ
-
ดังนั้นค่ะ จากเดลฟี่ที่กำลังทรมานอัลบัสอยู่นะคะ
-
ก็เลยเปลี่ยนใจค่ะ ประมาณว่า
-
ได้ ชั้นบังคับแกไม่ได้ใช่ไหม
แต่ชั้นรู้ว่าจุดอ่อนของแกคือที่ไหน
-
ว่าแล้วนะคะเดลฟี่ก็หันไม้กายสิทธิ์ของเค้านะคะ
-
ไปที่สกอร์เปียสแทนค่ะ
-
แล้วก็บอกว่า อัลบัส จะทำหรือไม่ทำ
-
ถ้าเธอไม่ทำ ชั้นจะสาปเพื่อนเธอแทน
-
ว่าแล้วนะคะก็เสกคำสาปกรีดแทง
ใส่สกอร์เปียสแทนค่ะ
-
ก็เสกไป เสกไป
-
เรียกได้ว่าอัลบัสนี่ก็ซีดกว่าเดิมเลยนะคะ
-
คือเดลฟี่พยายามจะพูดค่ะประมาณว่า
-
ชั้นพยายามหาจุดอ่อนของเธอมานานแล้ว
-
เป็นความทะเยอทะยาน
ที่อยากจะเก่งกว่าพ่อรึเปล่านะ
-
หรือจะเป็นเรื่องอะไร
หรือจะเป็นเรื่องที่พ่อเกลียด
-
แต่สุดท้ายนะ หลังจากที่ชั้นรีเสิร์ชมานานแล้วชั้นก็รู้
-
ว่าจุดอ่อนของแกน่ะ มันอยู่ที่หัวใจ
-
ที่มันทำเป็นแข็งแรง ที่ชั้นแสดง ที่แท้แทบขาดใจ
-
ไม่ใช่ เล่นมุกอะไรก็ไม่รู้ กลับมา
-
เดลฟี่นะคะบอกอัลบัสว่า จุดอ่อนของแกมันคือ
-
ความเป็นเพื่อน มันคือ friendship
เหมือนกับพ่อของแกน่ะแหละ
-
ดังนั้นถ้าแกไม่ยอมทำนะ
ชั้นจะฆ่าเพื่อนแกทิ้ง
-
ซึ่งระหว่างนั้นนะคะก็บังเอิญมี
เด็กคนนึงค่ะชื่อว่า เครก เนี่ยนะคะ
-
เป็นเด็กที่อยู่ในฮอกวอตส์ตอนนั้นแหละ
-
จริงๆแล้วเป็นตัวประกอบแบบ
แทบไม่มีบทบาทอะไรเลยนะ
-
แต่เป็นตัวที่ชอบวิ่งออกมาแล้วก็
เสนอหน้าประมาณว่ารู้เรื่องทุกอย่างอะ
-
เครกก็แบบเกิดอะไรขึ้นน่ะ เกิดอะไรขึ้น
-
โผล่เข้ามาในสนามควิดดิชตอนนั้นพอดีนะคะ
-
ซึ่งทำให้เดลฟี่ค่ะ หันไปหาเครกนะคะ
-
แล้วก็อะวาดา เคดาฟรา
-
ฆ่าเครกทิ้งไปตรงนั้นเลยนะคะ
-
ซึ่งทำให้ทั้งสองคนตกใจมากประมาณว่า
-
เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น นะคะ
-
ซึ่งเดลฟี่นะคะก็เลยบอกว่า
เห็นไหม ชั้นไม่ได้ล้อเล่นนะ
-
ชั้นต้องการให้แกกลับไป
แล้วไปช่วยเซดริกจริงๆ
-
นี่ไม่ใช่เกม เพราะว่า
-
ถ้าเกิดสมมติว่าแกไม่ทำ
ชั้นจะฆ่าเพื่อนของแกแน่ๆ อัลบัส
-
ชั้นนี่แหละคือลูกสาวของลอร์ดโวลเดอมอร์
-
ซึ่งทำให้ทั้งคู่นะคะตกใจมาก อย่างไรก็ตามค่ะ
-
เดลฟี่ก็หักไม้กายสิทธิ์เค้าไปแล้ว
-
แล้วก็ใช้คาถาผูกทั้งสองคนเอาไว้ค่ะ
-
ทำให้ทั้งสองคนเนี่ยโดนมัด
แบบขยับตัวไม่ได้เลยนะ
-
หลังจากนั้นค่ะ เดลฟี่ก็เลยจัดการย้อนเวลาค่ะ
-
กลับไปในการประลองเวทไตรภาคีค่ะ
ในภารกิจที่ 3 นะคะ
-
แล้วก็ลากทั้งสองคนเข้าไปในเขาวงกตค่ะ
-
ปรากฏว่าก็มีการโต้เถียงกันนะคะประมาณว่าแบบ
-
แกต้องเป็นคนช่วยเซดริก นู่นนี่นั่น
-
แล้วก็มีการเสกคำสาปกรีดแทงเป็นระยะๆนะคะ
-
แต่ระหว่างที่กำลังเสกนั่นเสกนี่อยู่เนี่ยนะคะ
-
บังเอิญว่ามีเสียงนึงตะโกนขึ้นมาค่ะ ประมาณว่า
-
เอ็กซ์เปลลิอามัส นะคะ
-
แล้วก็มีการปลดอาวุธเดลฟี่ออกไปค่ะ
-
ทำให้เดลฟี่เนี่ยนะคะหยุดชะงักค่ะ
-
แล้วก็มีการเสกคาถาให้
เดลฟี่ขยับตัวไม่ได้ชั่วคราวนะคะ
-
ทั้งคู่ก็หันไปค่ะว่าแบบเฮ้ย ใครมาช่วยเราน่ะ
-
ปรากฏว่าหันไปนะคะ คนที่เจอก็คือ
-
เซดริกนั่นเอง ซึ่งเซดริกก็งงนะประมาณว่าแบบ
-
ชั้นต้องจัดการแกสองคนด้วยไหม
-
แกสองคนเป็นภารกิจของชั้น
ด้วยรึเปล่าที่อยู่ในเขาวงกต
-
ซึ่งทั้งสองคนก็แบบเอ่อะ...เอ่อ...
ไม่ใช่ ชั้นไม่ใช่ภารกิจ....
-
เอ่อ...ภารกิจของเธอคือ...
-
เอ่อ...อะไรดีนะ
-
อ๋อ ภารกิจของเธอคือปล่อยชั้น
ปล่อยชั้น อย่าให้ชั้นโดนมัดอยู่แบบนี้
-
ซึ่งเซดริกก็งงๆนะคะแต่ก็
ปล่อยทั้งคู่ออกมาจากการโดนมัดค่ะ
-
ซึ่งเซดริกนะคะก็พูดประมาณว่า
-
อะ ชั้นปล่อยทั้งสองคนแล้ว
งั้นชั้นต้องไปทำภารกิจต่อแล้วนะ
-
ชั้นจะต้องชนะการประลองเวทนี้ให้ได้
-
ซึ่งทั้งสองคนนะคะก็หนักใจนิดนึงแต่ก็แบบ
-
อืม ก็รู้ว่านี่เป็นการส่งเซดริกไปตายนะ
-
ก็แบบใช่ เซดริก เซดริกจะต้องไป
ชนะการประลองเวทไตรภาคีนะ
-
แต่ก่อนที่เซดริกจะหันหลังแล้วเดินจากไปค่ะ
-
ทั้งสองคนก็ตะโกนบอกเซดริก
ไปประโยคนึงนะคะ
-
ประโยคนั้นก็คือ เซดริก ก่อนจะไป
เรามีอะไรอยากบอกนายอะ
-
เรื่องที่เราอยากบอกก็คือ
พ่อนายรักนายมากนะ
-
ซึ่งเซดริกก็คงงงๆ
-
คือไม่รู้ชะตากรรมตัวเองไง
-
อยู่ดีๆมีคนบอกว่าพ่อรักชั้นมากก็จะแบบ
-
บอกทำไมอะ
-
แต่เซดริกก็จากไปนะคะ
-
ซึ่งระหว่างนั้นค่ะเผอิญว่าเดลฟี่เนี่ยนะคะ
เหมือนกับเวทมนตร์คลายพอดี
-
ก็เลยคลานๆๆนะคะ
-
คลานไปที่เครื่องย้อนเวลาค่ะ
-
เสร็จแล้วก็จัดการหมุนๆๆๆๆนะคะ
-
ทำท่าจะย้อนเวลาไปคนเดียวค่ะ
-
ซึ่งทำให้ทั้งสองคนเนี่ยตกใจมาก
เพราะว่าถ้าเกิดตัวเองสองคนติดอยู่ตรงนี้
-
ก็คือติดอยู่ในระหว่างเวลา
-
ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ตามก็เลย
ต้องตามเครื่องย้อนเวลาไปค่ะ
-
ก็เลยกระโจนไปเกาะเดลฟี่นะคะ
-
และทั้งหมดก็ย้อนเวลากลับไปค่ะ
-
หลังจากที่ย้อนเวลาไปค่ะ พอไปถึงปุ๊บ
-
ปรากฏว่าเดลฟี่เนี่ยนะคะหายตัวไปทันที
-
ในขณะที่เครื่องย้อนเวลาค่ะ
ด้วยความที่มันทำงานหนักเกินเหตุนะคะ
-
มันก็ระเบิดบึ้ม
-
แล้วก็แตกสลายไปค่ะ
-
ทำให้เด็กทั้งสองคนเนี่ยตกใจมากว่า
-
เฮ้ย ชั้นติดอยู่ในระหว่างกาลเวลา
-
ชั้นจะทำยังไงดี
-
แล้วนี่คือที่ไหน เวลาไหน เมื่อไหร่ ยังไงนะคะ
-
ทั้งสองค่ะรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในฮอกวอตส์ต่อไปไม่ได้
-
เพราะเดี๋ยวใครมาเจอ
แล้วเดี๋ยวจะเป็นเรื่องนะคะ
-
ดังนั้นก็เลยหนีออกมานอกฮอกวอตส์ค่ะ
-
แล้วก็ลงไปที่สถานีรถไฟนะคะ
-
ที่นั่นค่ะ ตอนแรกก็กำลังงงๆว่า
-
แล้วเราจะทำยังไงดี เราไม่มีอะไรเลย
ไม้กายสิทธิ์ก็ไม่มี ไม้กวาดก็ไม่มี
-
อยู่เวลาไหนก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลยนะคะ
-
แต่ตอนนั้นค่ะ นายสถานีก็เดินเข้ามาพอดีประมาณว่า
-
เฮ้ย เด็กสองคนจะไปไหนอะ
-
ถ้าสมมติว่าจะรอรถไฟเนี่ยนะ
ตอนนี้ตารางเวลามันเลื่อนนะ
-
นี่ๆๆ แล้วก็ชี้ไปที่ตารางเวลานะคะ
-
ซึ่งทำให้ทั้งสองคนค่ะเงยหน้ามอง
ไปที่ตารางเวลาแล้วก็พบกับวันที่นะคะ
-
ทำให้ทั้งคู่รู้ว่าเฮ้ย นี่มันเป็นเวลาหนึ่งวันก่อนวันที่
-
ลอร์ดโวลเดอมอร์จะพยายามฆ่าแฮร์รี่
ตอนที่แฮร์รี่เป็นเด็กทารกนี่หน่า
-
ดังนั้นนะคะทั้งคู่ก็เลยคิดได้ค่ะว่า เฮ้ย
ด้วยความที่ตอนนั้นน่ะ จำได้ไหม
-
เราบอกเดลฟี่ไปว่าคำทำนายเนี่ยแก้ไขได้
ถ้าสมมติว่าเราขัดขืนคำทำนาย
-
ดังนั้นเดลฟี่เนี่ยไม่ได้พยายามจะทำให้
คำทำนายเรื่องเซดริกเป็นจริงอีกแล้ว
-
แต่ตอนนี้เดลฟี่กำลังจะทำลาย
คำทำนายที่ยิ่งใหญ่กว่า
-
ก็คือคำทำนายเรื่องของลอร์ดโวลเดอมอร์
กับแฮร์รี่ พอตเตอร์นั่นเอง
-
ถ้าโวลเดอมอร์ไม่ได้พยายามฆ่าแฮร์รี่
ไม่ได้ mark สัญลักษณ์ว่า
-
แฮร์รี่คือคนที่เท่าเทียมกับลอร์ดโวลเดอมอร์
-
ลอร์ดโวลเดอมอร์ก็จะไม่โดนทำลายนะคะ
-
และก็จะยังคงมีอำนาจแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ
-
ก็คือไม่ได้สร้างแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่มี
แผลเป็นสายฟ้าขึ้นมานั่นเองนะคะ
-
ดังนั้นทั้งคู่ก็ตกใจค่ะแล้วก็ตัดสินใจ
-
เดินทางไปที่ก็อดดริกส์โฮลโล่นะคะ
-
หรือว่าบ้านของพ่อแม่แฮร์รี่นั่นเอง
-
เพื่อที่จะมาคิดกันต่อว่าทำยังไงดี
-
ตอนนั้นเนี่ยนะคะทั้งคู่ก็
มีความเถียงกันต่างๆค่ะว่า
-
ทำไงดีนะ ทำไงดีนะ ทำไงดีนะ
-
เราจะต้องยับยั้งเดลฟี่ไม่ให้
เข้าไปเจอลอร์ดโวลเดอมอร์
-
ไม่ให้ไปห้ามลอร์ดโวลเดอมอร์ไม่ให้ฆ่าแฮร์รี่
-
แต่เราจะห้ามยังไง ไม้กายสิทธิ์เราก็ไม่มี
-
เดลฟี่นี่ก็เป็นแม่มดที่มีความสามารถ
-
เราควรจะทำยังไงดีนะ
-
ว่าแล้วนะคะทั้งคู่ก็แอบมอง
บ้านของพ่อแม่แฮร์รี่ไปเรื่อยๆค่ะ
-
ก็กำลังคิดว่า เอ๊ หรือเราจะเข้าไปบอกปู่กะย่าเราดีนะ
-
ปู่กะย่าเราก็เป็นพ่อมดแม่มดที่ค่อนข้างจะเก่ง
-
คือเด็กอะนะพอเห็นอะไรอย่างนี้
ก็ไปบอกบรรพบุรุษตัวเองก็น่าจะช่วยมากกว่า
-
แต่ทั้งคู่ก็เถียงกันประมาณว่า
-
ไม่ได้ จะไปบอกไม่ได้ จะให้ไปบอกว่ายังไง
-
นี่ วันนี้จะเป็นวันตายของเธอสองคน
-
จะไม่ได้เห็นลูกตัวเองโตนะ
อะไรอย่างนี้เหรอ มันก็ไม่ใช่ไหม
-
แต่ถ้าสมมติไปบอกแล้วเวลาเปลี่ยน
เวลาแบบมั่วสั่วทำยังไง
-
สมมติว่าลิลี่รู้อยู่แล้วว่ายังไงแฮร์รี่ก็รอด
-
ก็ไม่ได้มีความรู้สึกแรงกล้า
ที่จะต้อง protect แฮร์รี่ขนาดนั้น
-
ดังนั้นเดี๋ยวคำสาปอะไร mix up
-
โอ๊ยไม่ได้หรอก ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้นะคะ
-
คิดไปคิดมาบอกดัมเบิลดอร์ดีไหม
-
ดัมเบิลดอร์เนี่ยเป็นคนที่รับได้ทุกอย่างแหละ
พ่อมดยิ่งใหญ่ระดับดัมเบิลดอร์
-
แต่ทั้งคู่ก็แบบไม่ใช่และ ไม่ใช่ ไม่ใช่ ไม่ใช่
-
ดัมเบิลดอร์ก็ไม่ควรจะรู้อนาคตไหม
-
ถ้าเค้ารู้อนาคต เดี๋ยวเค้าไม่ทำนั่น
ไม่ทำนี่ ไม่ทำโน่น
-
เดี๋ยววุ่นวายไปหมดอีก
-
ก็เลยคิดว่าไม่ได้ หรือทำยังไงดี
-
เราต้องการคนจากอนาคตนี่แหละมาแก้ไขสิ่งนี้
-
เพราะว่าคนของอนาคตเนี่ย
รู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่แล้ว
-
ว่าแต่เราจะส่งข้อความไปยังอนาคตยังไงดี
-
ทั้งคู่ก็มีความเถียงกันนะคะว่า
-
หรือว่าเราจะแอบซ่อนอยู่ตรงนี้
ในรูเนี่ยประมาณ 40 ปี
-
เพื่อที่จะรอให้เราโต ทุกคนโต
แล้วก็ไปบอกพ่อแม่เราในอนาคตดี
-
ซึ่งทั้งสองคนก็ตกลงกันว่า
เฮ้ย วิธีการนั้นมันไม่เวิร์กหรอก
-
คือต่อให้เรารอจนถึงตอนนั้นเนี่ย
-
แค่เดลฟี่เนี่ยจัดการบอกลอร์ดโวลเดอมอร์เสร็จ
-
เค้าก็ไล่ฆ่าเราแล้ว
-
ไม่เหลือเวลาให้เราไปบอกพ่อเราหรอก
-
ทำไงดีนะ ทำไงดีนะ ทำไงดีนะ
-
ซึ่งบังเอิญระหว่างนั้นค่ะ
-
ตอนนั้นเนี่ยลิลี่ หมายถึงลิลี่ พอตเตอร์เนี่ยนะ
-
เข็นแฮร์รี่ออกมาหน้าบ้านพอดีค่ะ
-
แล้วก็มีความแบบเอาผ้าห่มมาคลุมให้ลูก
-
ประมาณว่าแบบโอ๊ยลูก วันนี้หนาวหน่อยนะ
เอามาห่มคลุม ฟุ่บ! นะคะ
-
ซึ่งทำให้อัลบัสนะคะได้ไอเดียว่า
-
เฮ้ย นี่ๆๆ ผ้าห่มผืนนั้นน่ะ
-
มันเป็นผ้าห่มผืนเดียวกับที่แฮร์รี่เนี่ย
มองทุกครั้งที่มีปัญหา
-
และพ่อยังมีผ้าห่มผืนนี้อยู่
-
เราจะต้องส่งข้อความผ่านผ้าห่มผืนนี้แหละ
-
เอ้า ไหนสกอร์เปียสในฐานะเนิร์ด
-
บอกชั้นมาซิว่ามีสารประกอบอะไร
อยู่ใน love potion หรือว่ายาเสน่ห์บ้าง
-
มันมี pearl dust หรือว่าผงไข่มุกเหรอ
-
แล้วผงไข่มุกทำปฏิกิริยากับอะไร
-
คุยกันไปคุยกันมานะคะก็ได้สารตัวนึงมาค่ะ
-
ซึ่งเวลาเขียนลงไปเนี่ย
มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
-
ซักก็ไม่ออก อะไรก็ไม่ออก
-
แต่ถ้าสารตัวนี้ไปเจอกับ
pearl dust ที่อยู่ในยาเสน่ห์เนี่ยนะคะ
-
มันจะลุกเป็นไฟขึ้นมาค่ะ
-
ทั้งคู่ก็เลยไปขโมยสารชนิดนี้นะคะ
จากบ้านของบาธิลดา แบ็กช็อต
-
ที่บ้านอยู่ข้างบ้านของแฮร์รี่
-
น่ะ จำได้ใช่ไหม คนที่เป็นคนเขียน
ตำราประวัติศาสตร์ คนนั้นนี่แหละค่ะ
-
ไปขโมยสารมาแล้วก็จัดการ
เขียนลงไปที่ผ้าห่มผืนนี้นะคะ
-
ซึ่งในเรื่องนี่ก็ไม่ได้ระบุนะว่า
บุกไปถึงตัวเด็กได้ยังไง ไปเขียนได้ยังไง
-
ก็...
-
เอาเป็นว่าระบบการรักษา
ความปลอดภัยของแฮร์รี่ในยุคเด็กนี่
-
อ่อนด้อยมากนะคะ
-
ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารอดจาก
โวลเดอมอร์มาได้ยังไงอะนะ
-
จริงๆแค่เอาผู้เสพความตาย
มาหักคงหักคอนี่ก็น่าจะได้แล้วนะ
-
อย่างไรก็ตาม ช่างมันค่ะ
-
สิ่งที่เค้าเขียนไว้นะคะก็คือ
-
Dad Help Godric's Hollow
แล้วก็เขียนวันเวลาเรียบร้อยค่ะ
-
ทีนี้นะคะตัดภาพกลับไปที่เวลาปัจจุบันค่ะ
-
พวกพ่อๆแม่ๆนี่ก็เครียดกันมากนะคะว่าแบบ
-
ลูกหาย โอ๊ยตายแล้ว
-
เดลฟี่เป็นลูกของลอร์ดโวลเดอมอร์ด้วย
-
ตอนนี้รู้ความจริงแล้วทำยังไงดีนะคะ
-
ซึ่งเฮอร์ไมโอนี่นะคะไม่อยากทำตัวเอง
เป็นคอร์นีเลียส ฟัดจ์ค่ะ
-
ที่พยายามแบบปิดหูปิดตา ไม่จริง ไม่จริง
ไม่ได้มีเรื่องร้ายอะไรเกิดขึ้นนะคะ
-
เฮอร์ไมโอนี่ก็เลยมีการเรียกประชุม
เหล่าพ่อมดแม่มดค่ะ
-
แล้วก็ชี้แจงตามตรงนะคะว่า
-
ตอนนี้โลกของเรากำลังประสบปัญหานะเพราะว่า
-
มันมีเครื่องย้อนเวลาและตอนนี้
-
ลูกของลอร์ดโวลเดอมอร์ได้เครื่องย้อนเวลาไป
แล้วย้อนเวลาไปตอนไหนก็ไม่รู้นะคะ
-
ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่เนี่ยโดนด่าหนักมาก
-
โดนด่าๆๆๆๆจากทุกคน
-
รวมถึงศาสตราจารย์มักกอนนากัลด้วยนะคะ
-
ซึ่งตอนนั้นนะคะหลายๆคนก็
ก้าวมาปกป้องเฮอร์ไมโอนี่ค่ะ
-
เริ่มจากแฮร์รี่ก่อน ก้าวขึ้นมาบอกว่า
-
เดี๋ยว นี่มันไม่ใช่ความผิด
ของเฮอร์ไมโอนี่คนเดียว
-
เธอพยายามทำดีที่สุดแล้ว อะไรอย่างนี้
-
ก็มีการก้าวขึ้นมาปกป้อง
-
หลังจากที่แฮร์รี่ขึ้นมาปกป้องเฮอร์ไมโอนี่
-
จินนี่ก็ลุกขึ้นมาปกป้องแฮร์รี่ ประมาณว่า
-
นี่มันเป็นลูกของชั้นด้วย
ชั้นจะต้องปกป้องลูกของชั้น
-
อะไรอย่างนี้นะคะ
-
และในที่สุดรอนก็ก้าวขึ้นมาบนเวที
อีกคนนึงค่ะแล้วก็บอกว่า
-
จริงๆชั้นก็ไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องนี้เป็นยังไง
ชั้นก็ไม่ได้ทำงานกระทรวง
-
แล้วก็ลูกชั้นก็ปลอดภัยดี นอนอยู่ที่บ้านน่ะนะ
-
แต่ว่าเห็นทุกคนก้าวขึ้นมาบนนี้เยอะแล้ว
ชั้นก็ก้าวขึ้นมาด้วยแล้วกัน เย้~ นะคะ
-
ก็คือรอนเป็นตัวโจ๊กของเรื่องนี้นั่นเองน่ะนะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ทั้งหมดก็จับมือกันไว้นะคะ
-
แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไงค่ะ
-
แต่เวลาผ่านไปไม่นานนะคะ
บังเอิญว่ามีคนนึงเข้าพบแฮร์รี่ค่ะ
-
คนคนนั้นก็คือเดรโก มัลฟอยนั่นเอง
-
มัลฟอยเนี่ยเดินเข้ามา
ในห้องทำงานของแฮร์รี่นะคะ
-
แล้วก็บอกแฮร์รี่ว่า
-
เนี่ย จริงๆแล้วนะถ้าความจริงแบบที่
สกอร์เปียสบอกเป็นจริงเนี่ย
-
นี่คือห้องทำงานของชั้นนะ
หลังจากที่แกตายไปเนี่ย
-
อื้ม แต่อย่างไรก็ตามนะ
ชั้นมีของสิ่งนึงจะมาให้แก
-
คือไอเครื่องย้อนเวลาที่แกจับมาได้จาก
ทีโอดอร์ น็อตต์เนี่ยนะมันเป็นแค่รุ่น prototype
-
แล้วมันก็ใข้ได้ง่อยๆ
-
ใช้ได้แค่ห้านาทีแล้วมันก็จะ
หมุนๆๆๆแล้วย้อนกลับมาปัจจุบัน
-
ซึ่งมันก็เป็นแค่ของง่อยๆชิ้นนึงง่ะ
-
ซึ่งก็ทำให้แฮร์รี่เริ่มเอ๊ะๆว่าแบบ
-
มัลฟอย ทำไมมัลฟอยรู้ละเอียดจังเลย
-
เดรโก ไหนอธิบายมาซิว่าเกิดอะไรขึ้น
-
สุดท้ายนะคะ เดรโกก็เลยเฉลยออกมาค่ะว่า
-
เครื่องย้อนเวลาทั้งหมดนี้ คนที่สั่งทำขึ้นมาก็คือ
-
พ่อของเค้านั่นเอง
-
เพราะว่าพ่อเค้าเป็นนักสะสมของศาสตร์มืดนะ
-
ก็เลยอยากได้เครื่องย้อนเวลามาเป็นของตัวเอง
-
แต่เครื่องย้อนเวลาที่พ่อเค้ามีเนี่ย
มันเป็นเครื่องจริง
-
มันเป็นเครื่องที่ไม่มีปัญหาเลย
ว่าจะย้อนได้กี่นาทีกี่ชั่วโมง
-
ย้อนเท่าไหร่ก็ได้
-
และเดรโก มัลฟอยนะคะ
ถือเครื่องย้อนเวลานี้ของพ่ออยู่ค่ะ
-
แต่ไม่ยอมส่งให้กระทรวงตั้งแต่แรกเพราะว่า
-
ถ้าส่งให้กระทรวงตั้งแต่แรกเนี่ยนะ
-
ข่าวลือที่ว่าสกอร์เปียสเป็นลูกของ
โวลเดอมอร์ก็จะจริงมากๆเลยใช่ไหม
-
เพราะว่าก็มีเครื่องย้อนเวลาอยู่จริง
-
มัลฟอยนะคะก็เลยเล่าให้แฮร์รี่ฟังค่ะ
ว่าเรื่องราวจริงๆน่ะเป็นยังไง
-
คือมัลฟอยนะคะแต่งงานกับผู้หญิงคนนึง
-
แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่อยู่
ในตระกูลที่โดนสายเลือดต้องสาป
-
ก็คือร่างกายจะไม่แข็งแรง ประมาณนั้นแหละ
-
แบบแทบจะมีทายาทไม่ไหวเลยจริงๆนะ
เรียกได้ว่าร่างกายอ่อนแอมาก
-
คือเหมือนแบบต้นตระกูลโดนสาป
-
แล้วคำสาปก็ส่งลงมารุ่นต่อรุ่น ต่อรุ่น ต่อรุ่นนะคะ
-
แล้วมาปรากฏผลในตัวของแม่สกอร์เปียสพอดีค่ะ
-
พ่อของเดรโกตอนแรกก็
ไม่อยากให้แต่งด้วยหรอก
-
เพราะว่าแบบเอ๊ย ไม่ได้ เธอจะต้องมีลูก
เพื่อตระกูลมัลฟอยอันยิ่งใหญ่
-
จะได้สืบสายเลือดต่อไปนะคะ
-
ส่วนเดรโกเนี่ยจริงๆรัก
ผู้หญิงคนนี้มากแล้วก็รู้สึกว่าแบบ
-
ไม่เป็นไรเลย เธอไม่ต้องมีลูกก็ได้
เราอยู่กันสองคนก็ได้นะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ผู้หญิงคนนี้รู้ว่า
เดรโกเป็นคนที่ขี้เหงาขนาดไหน
-
คือความอบอุ่นจากพ่อก็ไม่ได้ อะไรก็ไม่ได้
-
และถ้าปล่อยให้เดรโกอยู่คนเดียวเนี่ย
มันจะรู้สึกแย่มาก
-
แล้วเค้าก็รู้ตัวนะคะว่าเค้าเนี่ยอายุสั้น
-
คืออยู่ไปไม่ยาวแน่ๆ
-
ก็เลยอยากมีลูกนะคะ
-
เพื่อที่ลูกเนี่ยจะได้อยู่เป็นเพื่อนเดรโก
ในตอนที่ตัวเองตายจากไปแล้วค่ะ
-
ดังนั้นก็เลยฝืนมีลูกนะคะ
-
ปรากฏว่าฝืนมีลูกออกมาเนี่ย
ทั้งสองคนก็ดีใจมากค่ะแต่ว่า
-
ร่างกายของผู้หญิงเนี่ยก็อ่อนแอหนักมาก
-
เดรโกเนี่ยนะคะก็เลยพาครอบครัวตัวเองค่ะ
-
หลบไปอยู่ที่นึงเพื่อที่จะ
รักษาสุขภาพผู้หญิงประมาณนี้
-
ซึ่งทำให้ข่าวลือแพร่กระจายไปค่ะเพราะว่า
-
ก็เหมือนกับว่าหายตัวไปในช่วงมีลูกพอดีนั่นแหละ
-
ซึ่งหลังจากนั้นนะคะ
แฮร์รี่ก็เลยเข้าใจเดรโกมากขึ้นค่ะ
-
ประมาณว่าแบบโถ เดรโก ชั้นเข้าใจแล้วว่า
-
ทำไมเธอถึงไม่เอาเครื่องย้อนเวลา
มาให้ชั้นตั้งแต่แรก ประมาณนี้นะคะ
-
เดรโกนะคะก็เลยบอกว่า
ให้เราใช้เครื่องย้อนเวลานี้
-
ย้อนเวลาไปช่วยลูกๆของเรากันเถอะ
-
แต่แฮร์รี่ก็บอกว่าแล้วจะย้อนไปตอนไหนล่ะ
-
คือเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกของเราเนี่ย
ไปอยู่ที่ไหนในกาลเวลา
-
คือเราย้อนไปมั่วไม่ได้ไง
-
เราต้องรอให้ลูกของเราเนี่ย
ส่งสัญญาณมาก่อนว่าเค้าอยู่ที่ไหนนะคะ
-
คืนนั้นค่ะแฮร์รี่เครียดมากนะคะก็เลย
เข้าไปในห้องของอัลบัสค่ะ เข้าไปนั่งเครียดอยู่
-
ซึ่งจริงๆแล้วในห้องของอัลบัสเนี่ย
จินนี่เก็บรักษาไว้นะคะ
-
ไม่ให้ใครเข้าไปในห้องนี้เลย
-
ตั้งแต่วันที่อัลบัสหายตัวไปค่ะ
-
แฮร์รี่เข้าไปก็ไปนั่งเครียดนะคะ
จินนี่ก็มาปลอบประมาณว่าแบบ
-
ไม่เป็นไรน้า เธอทำดีที่สุดแล้ว
-
ลูกเนี่ยแค่ต้องการให้เห็นความรักเท่านั้นแหละ
-
คือแฮร์รี่เนี่ยรู้สึกว่า
ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของชั้น
-
ชั้นเป็นคนไล่ลูกตัวเองไปหา
ลูกของลอร์ดโวลเดอมอร์
-
ถ้าชั้นรักเค้ามากกว่านี้
ถ้าชั้นเลี้ยงเค้าดีกว่านี้เนี่ยนะ
-
ลูกก็คงไม่ทิ้งไปแบบนั้นนะคะ
-
แต่จินนี่บอกว่า แฮร์รี่รักลูกแล้วแหละ
-
แต่ว่าแฮร์รี่ดันไม่เคยแสดงให้
ลูกเห็นว่าตัวเองรักเค้าขนาดไหน
-
ก็กำลังคุยกันเรื่องนี้อยู่ค่ะ
-
ปรากฏว่าระหว่างนั้นเนี่ยนะคะ
-
แฮร์รี่ก็นั่งพลิกผ้าห่มของตัวเองไปเรื่อยๆค่ะ
-
ผ้าห่มที่ได้มาจากแม่นี่แหละ
-
พลิกไปพลิกมา เอ๊ะ
ทำไมมันมีรอยไหม้ตรงนี้
-
ชั้นไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
-
ทั้งคู่ก็เลยพยายามช่วยกันอ่านนะคะ
-
เพราะว่าก็เริ่มแก่แล้ว สายตาเริ่มไม่ดีนะ
-
ตอนแรกก็แบบ Dad Hello
-
คืออะไร Dad Hello คืออะไร
-
ฮึ อะไรงงๆ
-
มีตัวเลขด้วย นี่เป็นอะไร รหัสไปรษณีย์เหรอ
-
หรือว่า Mos Code
-
หรือว่าเป็น GPS ของพวกมักเกิ้ล
-
อะไรอย่างนี้นะคะก็มีการคุยๆกัน
-
ปรากฏว่าแกะไปแกะมา
-
อ่านออกค่ะ ประมาณว่า
-
Dad Help Godric's Hollow
-
แล้วก็เป็นวันเวลานะคะ
-
ซึ่งแฮร์รี่จำได้ว่านี่คือวันเวลาที่พ่อแม่ของชั้นตายค่ะ
-
ก็เลยรู้ว่าลูกๆของเราเนี่ยไปซ่อนตัวอยู่ตรงนี้นั่นเอง
-
ดังนั้นแฮร์รี่นะคะก็เลยรีบติดต่อไปที่เฮอร์ไมโอนี่ค่ะ
-
และทั้งหมดนะคะก็รีบไป
รวมตัวกันที่ก็อดดริกส์โฮลโล่ค่ะ
-
เพื่อที่จะย้อนเวลาไปช่วยลูกๆค่ะ
-
ซึ่งตรงนี้ก็เป็นฉากที่ตลกนิดนึงนะ
-
คือไปถึงแล้วทุกคนก็ประมาณว่า
เอาล่ะ เราจะมาร่วมมือกันช่วยลูกของเรา
-
คนที่จะไปนะคะก็มีเฮอร์ไมโอนี่
มีรอน มีแฮร์รี่ มีจินนี่
-
แล้วก็มีเดรโกนั่นเองค่ะ ห้าคนนะคะ
-
ซึ่งไปถึงเนี่ย ทุกคนก็เหมือนจะร่วมมือกันและ
-
แต่อย่างแรกเลยค่ะ ตัวบุกเริ่มก่อน
-
รอนนะคะ รอนเป็นตัวเปิดเลย ไปถึงจะ
กระชากคอเดรโกนะคะประมาณว่าแบบ
-
แก ถึงเราจะร่วมมือกัน
แต่ว่าคราวก่อนที่เจอกันเนี่ย
-
แกด่าเมียชั้นไว้ไม่โอเคเลย
-
ชั้นต้องปกป้องเมียชั้น
-
คือคราวที่แล้วเหมือนแบบ
ด้วยความเสียใจที่ลูกตัวเองหายไปอะ
-
เดรโกก็เลยพูดจาแรงๆ
ใส่เฮอร์ไมโอนี่ไปนิดนึงนะคะ
-
ซึ่งทำให้รอนไม่พอใจมากๆ
-
รอนเนี่ยใช้คำประมาณว่าแบบ
-
แกมาพูดอย่างนี้กับภรรยาของชั้นไม่ได้
-
ส่วนเฮอร์ไมโอนี่ก็ลุกขึ้นมาประมาณว่า
-
ซึ่งภรรยาของเธอเนี่ยไม่ต้องการ
ให้เธอมาช่วยปกป้อง
-
หลบไป หลบไป
-
รอนนี่ก็แบบมีความกลัวเมียนิดนึง
-
ก็จะแบบอยู่ข้างหลัง
หลบอยู่ข้างหลังเฮอร์ไมโอนี่แล้วก็แบบ
-
อย่านะ อย่าให้ชั้นได้ยินว่า
แกด่าเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้งนึงนะ
-
ไม่งั้นชั้นจะ...
-
เฮอร์ไมโอนี่นะคะ
ก็พูดแทรกขึ้นมาประมาณว่า
-
ไม่งั้นเธอจะต้องไปกอดเค้า
-
คือประมาณว่ารอนกับเดรโก
แกเนี่ยกอดกันรักกันซะดีๆนะคะ
-
ทั้งหมดก็เลยเหมือนดีกันค่ะประมาณว่าแบบ
-
เราอยู่ทีมเดียวกันฮัลโหล ร่วมมือกันซะดีๆ
-
ว่าแล้วทั้งหมดก็ย้อนเวลากลับไปค่ะ
-
ย้อนกลับไปในวันที่พ่อแม่
ของแฮร์รี่กำลังจะตายนะคะ
-
พอย้อนกลับไปนะคะ
-
อัลบัสก็เห็นหน้าแม่ของตัวเองหรือว่าจินนี่นะคะ
ก็วิ่งมากอดอย่างรวดเร็วค่ะ
-
แฮร์รี่ก็ยืนอยู่ข้างๆประมาณว่าแบบ
-
อืมๆๆ ดีกันแล้ว ดีกันแล้ว ประมาณนี้นะคะ
-
ตัดภาพไปที่สกอร์เปียสค่ะ
สกอร์เปียสก็เดินเข้ามา เดรโกก็แบบ
-
เรา...เราจะต้องกอดกันแบบนั้นบ้างไหม
-
คือนึกออกไหม มัลฟอยมันแบบมัลฟอยอะ
อะไรประมาณนี้นะคะก็แบบ
-
กอดกันแบบ awkward นิดนึงนะคะ
-
อย่างไรก็ตามทั้งหมดก็คุยกันค่ะประมาณว่า
-
แล้วเดลฟี่หายไปไหน
อ๋อ เดลฟี่หายตัวไปแล้ว
-
แล้วก็คิดกันได้นะคะว่าเฮ้ย จริงๆแล้วเนี่ย
-
เดลฟี่ไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาฆ่าแฮร์รี่
-
แต่เดลฟี่มาที่นี่เพื่อมาห้ามลอร์ดโวลเดอมอร์
ไม่ให้ฆ่าแฮร์รี่ต่างหาก
-
เพราะว่าถ้าสมมติว่าลอร์ดโวลเดอมอร์
ฆ่าแฮร์รี่ก็จะตรงตามคำทำนายประมาณนี้นะคะ
-
แต่ที่เดลฟี่เนี่ยมาก่อนเวลาถึง 24 ชั่วโมง
-
เพราะว่าเดลฟี่ไม่รู้เวลาว่าลอร์ดโวลเดอมอร์
จะมาที่ก็อดดริกส์โฮลโล่เวลาไหนนะคะ
-
ทั้งหมดก็เลยตกลงวางแผนกันค่ะ
-
ไปซุ่มกันอยู่ในโบสถ์ใกล้ๆ ประมาณนั้นนะคะ
-
เพราะว่าเป็นจุดที่สามารถเห็นทุกอย่างในเมืองได้
-
แล้วทั้งหมดก็ตกลงกันเลยว่า
-
เฮ้ย เราจะต้องปลอมตัวนี่แหละ
-
ให้ใครซักคนนึงปลอมตัวเป็น
ลอร์ดโวลเดอมอร์เพื่อล่อเดลฟี่ออกมา
-
เรารอลอร์ดโวลเดอมอร์ตัวจริงมาไม่ไหวหรอก
-
เรากำจัดลอร์ดโวลเดอมอร์พร้อมกับเดลฟี่
ซึ่งเป็นแม่มดที่มีพลังมากๆ สองคนพร้อมกันไม่ไหวนะ
-
ดังนั้นเราจะต้องแกล้งทำตัวเป็น
ลอร์ดโวลเดอมอร์ออกไปเดินไปเดินมา
-
เดลฟี่เห็นลอร์ดโวลเดอมอร์
-
เดลฟี่ก็จะออกมา พอออกมาเท่านั้นแหละ
-
เราก็สามารถจัดการเดลฟี่ได้นะคะ
-
ซึ่งทุกคนก็เถียงกันนะคะว่า
แล้วใครจะปลอมตัวเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์
-
แล้วทุกคนก็เสนอตัว
-
รอนก็บอกว่าชั้นเป็นคนที่ชิลล์ที่สุด
-
ถ้าชั้นปลอมตัวเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์เนี่ย
-
ชั้นก็จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบอะไร
-
จากการที่ในหัวมีเสียงหัวเราะ
ของลอร์ดโวลเดอมอร์อยู่
-
เฮอร์ไมโอนี่ก็บอกว่า
-
แต่ชั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเวทมนตร์
ชั้นควรจะรับหน้าที่อันหนักหนาสาหัสนี้
-
เดรโกนะคะก็เสนอขึ้นมาว่า
-
แต่ชั้นเป็นคนที่รู้เรื่องศาสตร์มืดดีที่สุดน้า
-
แล้วชั้นก็มีความเป็นผู้เสพความตาย
อะไรอย่างนี้ ชั้นน่าจะเหมาะสุดรึเปล่า
-
ในขณะที่ทุกคนเถียงกันนะคะ
แฮร์รี่ก็พูดขึ้นมาว่า
-
ไม่ได้หรอก มันต้องเป็นชั้นนี่แหละ
-
เพราะว่า หนึ่ง ชั้นรู้ว่าโวลเดอมอร์คิดอะไร
-
ชั้นเคยมีโวลเดอมอร์อยู่ในหัวชั้น จำได้ไหม
ว่าชั้นเคยเป็นฮอร์ครักซ์ของเค้า
-
นอกจากนี้นะแน่นอนว่าเดลฟี่โผล่มา
-
มันจะต้องมีการพิสูจน์ตัวตนด้วยการ
พูดภาษาพาร์เซลแน่นอนนะคะ
-
ดังนั้นพวกแกทุกคนพูดไม่ได้ ชั้นพูดได้คนเดียว
-
ดังนั้นต้องเป็นชั้นแล้วแหละ
-
แม้ว่าจินนี่จะมีความแบบไม่อยากให้เป็นเท่าไหร่
-
เพราะว่ากลัวนะคะ กลัวว่าแฮร์รี่จะ
ติดอยู่ในร่างของโวลเดอมอร์ตลอดไป
-
แต่แฮร์รี่ก็จำเป็นต้องทำค่ะ
-
สุดท้ายแฮร์รี่นะคะก็เลย
-
แปลงร่างเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์โดยการที่
ใช้เวทมนตร์ของทุกคนเนี่ยเสกๆๆๆเข้าไป
-
เพราะว่าถ้าทำน้ำยาสรรพรสคงทำไม่ทัน
-
แล้วก็ประกอบกับว่าถ้าทำน้ำยาสรรพรส
มันจะต้องมีส่วนบางส่วนของลอร์ดโวลเดอมอร์
-
มาใส่เข้าไปในน้ำยาใช่ไหม
-
คงไม่มีใครไปเก็บผมโวลเดอมอร์ซึ่งก็ไม่มีผม
-
ไปเก็บเล็บเท้าเหรอ ก็ไม่ใช่ใช่ไหมคะ
-
ดังนั้นสุดท้ายนะคะทุกคนก็เลย
ใช้วิธีเสกเวทมนตร์ใส่แฮร์รี่ค่ะ
-
ให้แฮร์รี่กลายเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์นะคะ
-
และตามแผนก็คือให้แฮร์รี่เดินออกไปแล้วก็
-
หลอกล่อให้เดลฟี่เข้ามาในโบสถ์นี้ค่ะ
-
พอเข้ามาในโบสถ์
ทุกคนก็จะรุมเสกคาถาใส่เดลฟี่
-
เพราะว่าเดลฟี่นี่เป็นแม่มดที่ทรงพลังมากๆนะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ถึงเวลาจริงแฮร์รี่ก็ออกไป
เดินในร่างลอร์ดโวลเดอมอร์ค่ะ เดินๆๆ
-
ปรากฏว่าเดลฟี่ก็โผล่มาจริงๆค่ะ
-
ทั้งคู่ก็มีการคุยกันอะไรต่างๆ
-
แฮร์รี่ก็พยายามแอ๊บเนียนนะคะ
-
ตอนแรกเดลฟี่ก็เชื่อค่ะ
-
แฮร์รี่ก็พยายามจะหลอกล่อเดลฟี่ประมาณว่า
-
เดินมาตรงนี้สิลูก
-
เข้ามาอยู่ในแสงให้พ่อเห็นหน้าเจ้าชัดๆซิ
-
ประมาณนั้นนะคะ
-
แต่ขณะที่เดลฟี่กำลังจะเดินออกมาค่ะ
-
ปรากฏว่าเวทมนตร์ที่เสกไว้เนี่ย
มันหมดพอดีนะคะ
-
แฮร์รี่ก็ค่อยๆคืนร่างเป็นร่างตัวเองค่ะ
-
เดลฟี่ก็เลยไม่เชื่อนะคะ
-
สุดท้ายนะคะ ตอนนี้เดลฟี่เข้ามาในโบสถ์แล้วแหละ
-
แล้วคนอื่นก็ซ่อนตัวอยู่
-
กำลังจะเข้ามาในโบสถ์เพื่อมารุมเดลฟี่กันค่ะ
-
แต่เดลฟี่เนี่ยนะคะ
อาศัยจังหวะนั้นเสกคาถาค่ะ
-
ปิดประตูโบสถ์ ปึง!
เรียกได้ว่าล็อกจากด้านในนะคะ
-
แล้วก็สู้กับแฮร์รี่อยู่ตามลำพังภายในโบสถ์ค่ะ
-
ซึ่งทำให้คนอื่นเนี่ยกังวลมาก
เพราะแฮร์รี่สู้ไม่ไหวหรอกนะ
-
อย่างไรก็ตามนะคะ จะเปิดประตูก็เปิดไม่ได้
เพราะว่าประตูมันล็อกจากด้านใน
-
สุดท้ายนะคะ อัลบัสค่ะ
ซึ่งเป็นเด็กตัวเล็กเนี่ยก็เลยเสนอว่า
-
จริงๆแล้วเนี่ยนะโบสถ์มันมีรูอยู่นิดนึง
-
ทุกคนเข้าไปไม่ได้หรอก
แต่ชั้นเนี่ยเข้าไปได้
-
ขอคลานเข้าไปแล้วไป
เปิดประตูให้จากด้านในได้ไหม
-
ซึ่งทุกคนก็เป็นห่วงอัลบัสนะคะ
-
แต่มันก็ไม่มีทางอื่น มันเป็นทางเดียว
-
อัลบัสก็เลยคลานเข้าไปด้านในค่ะ
แล้วก็ปลดล็อกประตูนะคะ
-
ทำให้ทุกคนเข้าไปรุมยำเดลฟี่ได้นะคะ ได้สำเร็จ
-
แล้วเดลฟี่ก็มีการท้าทายประมาณว่า
-
ฆ่าชั้นสิ ฆ่าชั้นสิ ประมาณนี้นะคะ
-
แต่ทุกคนค่ะก็ด้วยความเป็นตัวเอกนะคะ ก็เป็นคนดี
-
ก็เลยจัดการแค่เสกคาถา
แบบมัดเดลฟี่ไว้อะไรอย่างนี้
-
เพื่อที่จะเอาเดลฟี่ไปเข้าอัซคาบันในโลกปัจจุบันค่ะ
-
หลังจากนั้นก็คือทุกคนเนี่ยอยู่ที่ก็อดดริกส์โฮลโล่
-
แล้วก็รู้ว่าโวลเดอมอร์กำลังจะมาค่ะ
-
ดังนั้นแฮร์รี่ก็เลยได้มีโอกาสนะคะ
เห็นภาพโวลเดอมอร์ฆ่าพ่อแม่ของตัวเองค่ะ
-
แต่ว่าทุกคนก็อยู่เป็นเพื่อนแฮร์รี่
แล้วก็คอยปลอบใจนะคะ
-
หลังจากนั้นค่ะ ทั้งหมดก็ย้อนเวลา
กลับไปโลกปัจจุบันนะคะ
-
และทุกคนก็เหมือนเคลียร์ใจกันได้ ประมาณนั้นเลย
-
ที่สำคัญนะคะ ในโลกปัจจุบันเนี่ย
เรื่องราวก็เริ่มเปลี่ยนไป
-
เพราะว่าสกอร์เปียสเนี่ย หลังจากที่ไป
เผชิญเรื่องราวอะไรต่างๆมามากมาย
-
ก็เริ่มเป็นคนที่มีความมั่นใจมากขึ้น
-
โดยสิ่งแรกที่เค้าทำค่ะก็คือ
-
ไปหาโรสนะคะ ลูกของรอนกับเฮอร์ไมโอนี่
-
ที่ตัวเองแอบชอบ
-
แล้วก็ไปขอเป็นแฟน ประมาณนั้น
-
ซึ่งถามว่าโรสตกลงไหม
-
ก็ไม่ตกลงหรอก
แต่ว่าสกอร์เปียสเนี่ยดีใจ
-
เพราะว่าเหมือนกับว่า
ในที่สุดชั้นก็กล้าพูดแล้วนะ
-
เหมือนกับว่าชั้นปลูกต้นรักในใจเธอแล้ว
-
มันจะเติบโตงอกงามไปถึงขนาดไหนในอนาคต
-
มันก็เป็นเรื่องของอนาคตนะคะ
-
และที่สำคัญนะคะ ตอนแรกสกอร์เปียส
เป็นพวกไม่เข้าสังคมเลยเนี่ยนะ
-
แต่ว่าพอโรสชวน บอกว่า
ไปดูควิดดิชกันไหมอะไรอย่างนี้
-
สกอร์เปียสก็เริ่มโอเค
-
แล้วก็เริ่มมีความแบบชั้นอาจไปฝึกควิดดิช
จนได้อยู่ในทีมของบ้านเลยก็ได้นะ อะไรอย่างนี้
-
แล้วก็ชวนอัลบัสไปด้วยค่ะ
-
แต่ว่าอัลบัสเนี่ยไม่ไป บอกว่า
-
ตัวเองเนี่ยมีนัดกับพ่อนะคะ
-
ซึ่งแฮร์รี่นี่ก็พาอัลบัสไปที่นึงค่ะ
-
ที่ที่นั่นก็คือเป็นเนินแห่งนึง
อัลบัสก็มีความถามพ่อว่า
-
ที่นี่ที่ไหนเหรอ อะไรอย่างนี้นะคะ
-
พ่อเนี่ยก็บอกว่า อ๋อ ที่นี่คือหลุมฝังศพของเซดริก
-
เราจะมาเคารพหลุมฝังศพของเซดริกด้วยกันนะคะ
-
และที่นั่นค่ะก็กลายเป็นที่ฝังศพของเครก
-
เด็กผู้ชายคนนึงที่ตายไป
ตอนที่เดลฟี่เสกคาถาใส่นั่นเองค่ะ
-
ทั้งคู่ก็เลยเหมือนแชร์ความรู้สึกกันประมาณว่าเนี่ย
-
เราเข้าใจกันและกันนะเพราะว่า
-
พ่อก็ไม่อยากให้เซดริกตาย
ลูกก็ไม่อยากให้เครกตาย
-
แต่ว่าเรื่องอย่างนี้มันก็เกิดขึ้น
-
เราก็จะต้องรู้สึกผิดอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ
-
ทั้งคู่ก็มีความเคลียร์ใจกันนะคะ
-
พ่อก็แบบแสดงให้เห็นว่า
ตัวเองรักลูกขนาดไหนแต่ว่า
-
ทั้งหมดนี้พ่อเป็นพ่อที่ไม่ดีหรอก เพราะว่าไร
-
เพราะว่าพ่อพยายามจะเป็นพ่อที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้
-
แต่พ่อไม่ได้มีตัวอย่างไง นึกออกไหม
-
แต่คือแบบเกิดมาก็...ก็ไม่มีใครเลี้ยงอะ
-
ก็อยู่ในบ้านเดอร์สลีย์ โดน abuse
-
โดนแบบว่าใช้ความรุนแรงอะไรต่างๆ
-
ก็เลยไม่เข้าใจว่า
-
การเป็นพ่อที่ถูกต้องเนี่ย ต้องเป็นยังไง
-
เค้าก็พยายามเรียนรู้อยู่
-
เรามาเรียนรู้การเป็นพ่อ
การเป็นลูกไปพร้อมๆกันนะ
-
คือแบบก็ไม่มีตัวอย่างให้ดู ประมาณนั้นนะคะ
-
ฝั่งอัลบัสค่ะก็เล่าให้พ่อฟังบอกว่า
-
เออ จริงๆแล้วพ่อรู้ไหมว่า
เรื่องนี้ผมอยากเล่าให้พ่อฟังก็คือ
-
พ่อบอกว่าพ่อไม่ได้มีโอกาส
เห็นพ่อของตัวเองใช่ไหม
-
คือผมเนี่ยได้เห็น วันนั้นน่ะที่ผมไปนั่ง
อยู่ที่ก็อดดริกส์โฮลโล่เนี่ย
-
ก่อนที่พ่อจะมา ผมก็ได้อยู่ตรงนั้น
ตั้งแบบหลายชั่วโมง
-
ผมก็ได้เห็นตอนที่พ่อแม่ของพ่อเนี่ยเล่นกับพ่อ
-
ก็เล่าให้ฟังนะคะว่าเรื่องราวเป็นยังไงบ้าง
เล่นอะไรกันบ้างอะไรอย่างนี้
-
ซึ่งทำให้ทั้งคู่เนี่ยเคลียร์ใจกัน
-
แล้วก็กลับมาเลิฟๆกันอีกรอบนึงค่ะ
-
และเรื่องราวทั้งหมดก็จบลงตรงนี้นี่แหละค่ะ
-
เป็นไงบ้าง ยาวนานจริงๆนะคะ
สำหรับสามตอนของ
-
Harry Potter and the Cursed Child
-
หรือว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเด็กต้องสาปค่ะ
-
ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน
-
บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ
-
จริงๆนะถึงวิวบอกว่า
วิวลงรายละเอียดเยอะแล้ว
-
ถึงอะไรยังไงก็ตาม
-
แต่อยากให้ทุกคนเนี่ย
ลองไปหาเล่มจริงมาอ่านเพราะว่า
-
มันจะมีรายละเอียดมุกตลกอะไรเล็กๆน้อยๆ
มากมายที่มันแทรกอยู่แล้วมันสนุกมาก
-
อย่างเช่นตอนที่สกอร์เปียสกับอัลบัสเนี่ย
ตกลงกันไว้ว่าจะส่งข้อมูลไปที่อนาคตเนี่ย
-
มันก็มีความแบบว่าหรือเราจะเดินไปหา
-
เบบี้แฮร์รี่ แฮร์รี่ตอนเด็กดี
แล้วตะโกนใส่ประมาณว่า
-
ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย
-
แล้วหวังว่าจิตใต้สำนึกของแฮร์รี่จะนึกออก
-
ในตอนเด็กว่าแบบ
-
เคยมีคนตะโกนคำว่าช่วยด้วยใส่
อะไรอย่างนี้รึเปล่า
-
มันจะมีมุกอะไรอย่างนี้อีกเยอะมากนะคะ
-
ดังนั้นลองไปหาอ่านดู
-
แล้วถ้าใครมีโอกาสก็
ไปดูละครเวทีได้ที่อังกฤษนะคะ
-
บอกเลยว่ามันส์แล้วก็
เทคนิคการทำละครเวทีดีจริงๆ
-
นี่พูดเหมือนเค้าจ่ายนะ แต่เค้าไม่ได้จ่าย
ซักแอะ ซักแดงเลยนะคลิปนี้
-
ยังไงก็ช่างมันละกันค่ะ
-
เอาเป็นว่าใครอยากฟังเรื่องอะไรอีก
คอมเมนต์มาด้านล่างแล้วกันนะคะ
-
สำหรับวันนี้วิวลาไปก่อนค่ะทุกคน
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ