ทำไมระบบเผด็จถึงน่าเย้ายวน -- และข้อมูลของคุณเติมพลังอำนาจให้มันได้อย่างไร
-
0:01 - 0:02สวัสดีครับ ทุกท่าน
-
0:04 - 0:08มันแปลก ๆ ดี เพราะว่าผมเขียนเอาไว้ว่า
มนุษย์จะกลายเป็นแบบดิจิตัล -
0:09 - 0:11แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
-
0:11 - 0:13และมันจะมาเกิดขึ้นกับผม
-
0:14 - 0:16แต่นี่แหละครับ ผมในโลกเสมือน
-
0:16 - 0:19เอาล่ะครับทุกคน มาเริ่มกันเลยครับ
-
0:20 - 0:22มาเริ่มกันที่คำถามนะครับ
-
0:23 - 0:26มีผู้ชมท่านใดบ้างที่เป็นเผด็จการครับ
-
0:26 - 0:28(เสียงหัวเราะ)
-
0:28 - 0:30ครับ มันก็ยากนะครับที่จะตอบ
-
0:30 - 0:34เพราะว่าเราลืมกันไปแล้วว่าเผด็จการคืออะไร
-
0:34 - 0:37คนใช้คำว่า "เผด็จการ"
-
0:37 - 0:40ประหนึ่งคำครหาต่อสิ่งทั่วไป
-
0:40 - 0:44หรือไม่ก็ใช้มันสับสนปนเปกับคำว่าชาตินิยม
-
0:45 - 0:50ถ้าเช่นนั้น ลองมาใช้เวลาสองสามนาที
เพื่อให้ความกระจ่างว่าเผด็จการคืออะไร -
0:50 - 0:53และมันแตกต่างจากชาตินิยมอย่างไรนะครับ
-
0:54 - 0:59ชาตินิยมในระดับกลาง ๆ
แสดงถึงความใจกว้างที่สุดอย่างหนึ่ง -
0:59 - 1:00ของมนุษยชาติ
-
1:01 - 1:05ประเทศคือกลุ่มทางสังคม
ของคนแปลกหน้าหลายล้าน -
1:05 - 1:07ที่ไม่ได้รู้จักกันและกันจริง ๆ
-
1:07 - 1:11ยกตัวอย่างเช่น ผมไม่รู้จักคนแปดล้านคน
-
1:11 - 1:13ที่เป็นประชากรอิสราเอลเช่นเดียวกับผม
-
1:14 - 1:16แต่เพราะด้วยชาตินิยมนี้เอง
-
1:16 - 1:20เราทุกคนต่างห่วงอาทรกันและกัน
และร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ -
1:20 - 1:22มันดีมาก ๆ เลยครับ
-
1:22 - 1:28คนบางคนอย่าง จอห์น เลนนอน
มีจินตนาการว่าโลกที่ปราศจากชาตินิยม -
1:28 - 1:32จะเป็นแดนสวรรค์ที่สงบสุข
-
1:32 - 1:33แต่ที่น่าจะเป็นไปได้มากกว่า
-
1:33 - 1:38เมื่อไร้ซึ่งชาตินิยม เราอาจดำรงชีวิตกัน
แบบเผ่าแห่งความโกลาหล -
1:39 - 1:44ถ้าคุณพิจารณาประเทศที่มั่งคั่ง
และสงบสุขที่สุดในโลก -
1:44 - 1:48อย่างเช่น สวีเดน สวิสเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น
-
1:48 - 1:53คุณจะเห็นว่าพวกเขา
มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก -
1:54 - 1:58ในทางตรงข้าม ประเทศที่
ขาดความรู้สึกชาตินิยม -
1:58 - 2:01อย่างเช่น คองโก โซมาลี อัฟกานิสถาน
-
2:01 - 2:04มีแนวโน้มที่จะรุนแรง และยากจน
-
2:05 - 2:09แล้วเผด็จการคืออะไร
แล้วมันต่างจากชาตินิยมตรงไหน -
2:10 - 2:15เอาล่ะครับ ชาตินิยมบอกผมว่า
ประเทศของผมนั้นมีเอกลักษณ์ -
2:15 - 2:19และผมก็มีภาระหน้าที่จำเพาะ
ต่อประเทศของผม -
2:20 - 2:26ในทางตรงข้าม เผด็จการบอกผมว่า
ประเทศของผมนั้นยิ่งใหญ่ -
2:26 - 2:30และผมก็มีภาระหน้าที่เฉพาะ
เพียงเพื่อประเทศของผม -
2:31 - 2:36ผมไม่ต้องใส่ใจใคร ๆ
หรืออะไรอื่นนอกจากประเทศของผม -
2:36 - 2:40แน่ล่ะ โดยทั่วไป ผู้คนมีอัตลักษณ์
-
2:40 - 2:43และความภัคดีมากมายต่อกลุ่มที่แตกต่างกัน
-
2:43 - 2:48ยกตัวอย่างเช่น ผมอาจเป็นผู้ที่รักชาติ
ภัคดีต่อประเทศของผม -
2:48 - 2:51และในเวลาเดียวกัน
ผมก็ภัคดีต่อครอบครัวของผม -
2:51 - 2:53เพื่อนบ้านของผม วิชาชีพของผม
-
2:54 - 2:55มนุษยชาติโดยรวม
-
2:55 - 2:57ความจริง และความงาม
-
2:57 - 3:02แน่ล่ะว่า เมื่อผมมีอัตลักษณ์
และความภัคดีที่หลากหลาย -
3:02 - 3:05บางครั้งก็สร้างความขัดแย้ง
และความซับซ้อนขึ้น -
3:06 - 3:09แต่ว่า แล้วใครหรือที่บอกคุณ
ว่าชีวิตเราจะเรียบง่าย -
3:10 - 3:12ชีวิตคนเรานั้นซับซ้อน
-
3:12 - 3:13ยอมรับเสียเถอะครับ
-
3:14 - 3:20เผด็จการคือสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อมนุษย์พยายามที่จะละเลยความซับซ้อน -
3:20 - 3:23และทำให้ชีวิตง่ายเกินไปสำหรับตนเอง
-
3:24 - 3:30เผด็จการปฎิเสธอัตลักษณ์ทั้งหมด
ยกเว้นอัตลักษณ์ของชาติ -
3:30 - 3:35และเน้นย้ำว่า ผมมีภาระหน้าที่
เพียงเพื่อประเทศของผม -
3:35 - 3:40ถ้าประเทศของผมต้องการ
ให้ผมสละชีพเพื่อครอบครัว -
3:40 - 3:42ผมก็ต้องทำเช่นนั้นเพื่อครอบครัวของผม
-
3:42 - 3:46ถ้าประเทศของผมต้องการ
ให้ฆ่าคนเป็นล้าน ๆ -
3:46 - 3:49ผมก็จะต้องฆ่าคนเป็นล้าน ๆ
-
3:49 - 3:56และถ้าประเทศของผมต้องการ
ให้ผมทรยศต่อความจริงและความงาม -
3:56 - 3:59ผมก็ควรที่จะทรยศต่อความตริงและความงาม
-
4:00 - 4:04ยกตัวอย่างเช่น เผด็จการ
ประเมินค่าศิลปะอย่างไร -
4:05 - 4:10เผด็จการตัดสินว่าภาพยนตร์
จะเป็นภาพยนตร์ที่ดีหรือแย่อย่างไร -
4:11 - 4:15ครับ มันง่ายมาก ๆ เลยครับ
-
4:15 - 4:17พวกเขามีมาตรวัดเพียงชนิดเดียว
-
4:18 - 4:21ถ้าภาพยนตร์นั้น
สนองต่อความสนใจของประเทศ -
4:21 - 4:23มันคือภาพยนตร์ที่ดี
-
4:23 - 4:26ถ้าภาพยนตร์ไม่ได้สนองตอบ
ต่อความสนใจของประเทศ -
4:26 - 4:27ก็เป็นภาพยนตร์ไม่ดี
-
4:27 - 4:28แค่นั้นแหละครับ
-
4:28 - 4:33คล้ายกัน เผด็จการตัดสินอย่างไร
ว่าเราจะสอนอะไรให้กับเด็ก ๆ ที่โรงเรียน -
4:34 - 4:36เช่นกันครับ มันง่ายมากเลย
-
4:36 - 4:38พวกเขาใช้มาตรวัดเดียวเท่านั้น
-
4:38 - 4:43คุณสอนอะไรก็ตามที่สนองตอบ
ต่อความสนใจของประเทศให้กับลูก ๆ -
4:43 - 4:46ความจริงนั้นไม่ได้สลักสำคัญเลยแม้แต่น้อย
-
4:48 - 4:54เอาล่ะครับ ความสยดสยอง
ของสงครามโลกครั้งที่สองและการสังหารหมู่ -
4:54 - 4:58ย้ำเตือนเราถึงผลพวงอันโหดร้าย
ของแนวคิดดังกล่าว -
4:59 - 5:03แต่โดยทั่วไป เมื่อเราพูดถึง
ความชั่วร้ายของเผด็จการ -
5:03 - 5:06เราทำเช่นนั้นในแบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ
-
5:06 - 5:11เพราะว่าเรามักจะบรรยายว่าเผด็จการ
เป็นอสุรกายที่แฝงกายอยู่ -
5:11 - 5:15โดยปราศจากการอธิบายจริง ๆ
ว่าทำไมมันถึงล่อตาล่อใจนัก -
5:15 - 5:20มันคล้าย ๆ กับภาพยนตร์ฮอลลีวูด
ที่บรรยายถึงคนร้าย -- -
5:20 - 5:24อย่าง โวลเดอมอร์ หรือเซารอน
หรือดาร์ธเวเดอร์ -- -
5:24 - 5:27ว่าเป็นคนที่อัปลักษณ์ ใจร้าย และโหดเหี้ยม
-
5:27 - 5:29พวกเขาโหดเหี้ยมกับคนของตัวเองด้วยซ้ำ
-
5:30 - 5:33เวลาผมดูภาพยนตร์เหล่านี้
ผมไม่เคยเข้าใจเลย -- -
5:33 - 5:40ใครจะไปหลงเชื่ออยากจะเป็นติดตาม
คนน่ารังเกียจอย่างวโวลเดอมอร์ -
5:41 - 5:44ปัญหาที่เกี่ยวกับปิศาจเหล่านี้ก็คือ
ก็เพราะว่าในชีวิตจริง -
5:44 - 5:47ปิศาจพวกนี้ไม่ได้น่าตาอัปลักษณ์
-
5:48 - 5:50พวกมันดูงามยิ่งนัก
-
5:50 - 5:53นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่คริสต์ศาสนา
รู้จักมันเป็นอย่างดี -
5:53 - 5:57นั่นคือสาเหตุว่าทำไมศิลปะในศาสนาคริสต์
[ถึงแตกต่าง] เมื่อเทียบกับของฮอลิวู๊ด -
5:57 - 6:01ซาตามมักจะถูกบรรยายว่า
เป็นชายงามหล่อเหลา -
6:01 - 6:06นั่นคือสาเหตุว่าทำไมมันถึงยากยิ่ง
ที่จะยั้งใจจากการยั่วเย้าของซาตาน -
6:06 - 6:11และทำไมมันถึงยากยิ่ง
ที่จะยั้งใจจากการยั่วเย้าของเผด็จการ -
6:11 - 6:14เผด็จการทำให้มนุษย์มองตนเอง
-
6:14 - 6:19ว่าอยู่ในสิ่งที่งามที่สุด
และสำคัญที่สุดในโลก -
6:19 - 6:20นั่นก็คือประเทศของเรา
-
6:20 - 6:22และจากนั้นคนก็จะคิดว่า
-
6:22 - 6:25"พวกเขาสอนเราว่า
เผด็จการมันน่ารังเกียจ -
6:25 - 6:28แต่พอฉันมองกระจก
ฉันกลับเห็นบางสิ่งที่งามที่สุด -
6:28 - 6:31มันคงไม่ใช่เผด็จการหรอกมั้ง"
-
6:31 - 6:32ผิดครับ
-
6:32 - 6:34นั่นแหละ ปัญหาของเผด็จการ
-
6:34 - 6:36เมื่อคุณมองกระจกแห่งเผด็จการ
-
6:36 - 6:41คุณเห็นตัวเองงามเสียยิ่งกว่าตัวจริงของคุณ
-
6:41 - 6:46ในช่วงยุค 1930 เมื่อชาวเยอรมัน
มองกระจกเผด็จการ -
6:46 - 6:50พวกเขาเห็นประเทศเยอรมันนี
เป็นสิ่งที่งามที่สุดในโลก -
6:50 - 6:54ถ้าตอนนี้ ชาวรัสเซียมองดูกระจกเผด็จการ
-
6:54 - 6:57พวกเขาก็จะเห็นว่ารัสเซียงามที่สุดในโลก
-
6:58 - 7:01และถ้าอิสราเอลมองกระจกเผด็จการ
-
7:01 - 7:05พวกเขาก็จะเห็นว่าอิสราเอล
เป็นสิ่งที่งามที่สุดในโลก -
7:07 - 7:12มันไม่ได้หมายความว่า ตอนนี้เราเผชิญหน้า
กับสิ่งที่มาจากยุค 1930 -
7:12 - 7:16เผด็จการและระบอบเผด็จการอาจกลับมา
-
7:16 - 7:19แต่มันจะกลับมาในรูปแบบใหม่
-
7:19 - 7:22รูปแบบซึ่งมีความสอดคล้องมากกว่า
-
7:22 - 7:26กับโลกในศตวรรษที่ 21
แห่งเทคโนโลยีใหม่ -
7:27 - 7:28แต่โบราณ
-
7:28 - 7:32ดินแดนเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในโลก
-
7:33 - 7:37อย่างไรก็ตาม การเมืองก็ได้รับ
ความยากลำบากในการควบคุมดินแดน -
7:37 - 7:43และระบอบเผด็จการจงใจให้ดินแดนทั้งหมด
ถูกครอบครองโดยผู้ปกครองเพียงคนเดียว -
7:43 - 7:45หรือโดยกลุ่มคณาธิปไตยเล็ก ๆ
-
7:46 - 7:51และในยุคปัจจุบัน
จักรกลได้เข้ามามีบทบาทเหนือดินแดน -
7:51 - 7:55การเมืองก็ได้รับความยากลำบาก
ในการควบคุมจักรกล -
7:55 - 7:57และระบอบเผด็จการก็จงใจ
-
7:57 - 8:01ที่จะกำหนดให้จักรกลส่วนมาก
-
8:01 - 8:05ตกอยู่ในกำมือของรัฐบาล
หรือในกลุ่มอภิชนกลุ่มเล็ก ๆ -
8:05 - 8:10ตอนนี้ ข้อมูลเข้ามาแทนที่
ทั้งดินแดนและจักรกล -
8:10 - 8:12และกลายมาเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุด
-
8:13 - 8:18การเมืองก็เจออุปสรรค
ในการควบคุมการถ่ายเทของข้อมูล -
8:18 - 8:21และตอนนี้ ระบอบเผด็จการก็จงใจ
-
8:21 - 8:26ที่จะให้ข้อมูลส่วนใหญ่
ตกอยู่ในกำมือของรัฐบาล -
8:26 - 8:28หรือในกลุ่มอภิชนกลุ่มเล็ก ๆ
-
8:29 - 8:34ภัยสูงสุดที่ประชาธิปไตยลัทธิเสรีนิยม
กำลังเผชิญอยู่ -
8:34 - 8:37ก็คือการปฏิวัติเทคโนโลยีสารสนเทศ
-
8:37 - 8:42จะทำให้ระบอบเผด็จการมีประสิทธิภาพ
และมีความสามารถในการควบคุมมากขึ้น -
8:43 - 8:44ในศตวรรษที่ 20
-
8:44 - 8:49ประชาธิปไตยและระบบทุนนิยม
เอาชนะเผด็จการและคอมมิวนิสต์ได้ -
8:49 - 8:55ก็เพราะว่าประชาธิปไตยทำได้ดีกว่า
ในเรื่องการจัดการข้อมูลและการตัดสินใจ -
8:55 - 8:58ด้วยเทคโนโลยีแห่งศตวรรษที่ 20
-
8:58 - 9:04มันไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
ที่จะควบคุมข้อมูลมหาศาล -
9:04 - 9:07และอำนาจที่มากมายไว้ในที่เดียว
-
9:07 - 9:12แต่มันก็ไม่ได้เป็นกฎตามธรรมชาติ
-
9:12 - 9:17ที่การจัดการข้อมูลที่ถูกรวมศูนย์
จะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าเสมอไป -
9:17 - 9:20เมื่อเทียบกับการกระจายการจัดการข้อมูล
-
9:21 - 9:24การผุดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์
และการเรียนรู้ของจักรกล -
9:24 - 9:30มันอาจช่วยให้การจัดการข้อมูล
ที่มีปริมาณมากมายมหาศาลนี้ -
9:30 - 9:33มีประสิทธิภาพสูงมากในที่เดียว
-
9:33 - 9:36เพื่อทำการตัดสินใจทั้งหมดในที่ที่เดียว
-
9:36 - 9:40และจากนั้นการจัดการข้อมูลที่ถูกรวมศูนย์
ก็จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น -
9:40 - 9:42เมื่อเทียบกับ
การจัดการข้อมูลที่ถูกกระจายออกไป -
9:43 - 9:47และแล้ว จุดบกพร่องหลัก
ของผู้ใช้อำนาจปกครองแบบเผด็จการ -
9:47 - 9:48ในศตวรรษที่ 20 --
-
9:48 - 9:53ความพยายามของพวกเขา
ที่จะควบคุมข้อมูลไว้ในที่เดียว -- -
9:53 - 9:56มันได้กลายเป็นจุดแข็งที่สุดของพวกเขา
-
9:59 - 10:04ภัยทางเทคโนโลยีอื่น
ที่กำลังสั่นคลอนอนาคตของประชาธิปไตย -
10:04 - 10:09ก็คือการผสมผสานเทคโนโลยีสารสนเทศ
กับเทคโนโลยีทางชีวภาพ -
10:09 - 10:13ซึ่งอาจส่งผลลัพธ์
เป็นการสร้างอัลกอริธึม -
10:13 - 10:17ที่รู้จักตัวตนของผมดีกว่าตัวผมเอง
-
10:18 - 10:20และเมื่อคุณได้อัลกอริธึมดังกล่าวมาแล้ว
-
10:20 - 10:23ระบบภายนอก อย่างเช่น รัฐบาล
-
10:23 - 10:26ไม่สามารถที่จะคาดการณ์การตัดสินใจของผมได้
-
10:26 - 10:30มันยังสามารถกำกับความรู้สึก
และอารมณ์ของผมได้ด้วย -
10:31 - 10:36ผู้นำเผด็จการอาจไม่สามารถ
จัดการสาธารณะสุขที่ดีให้กับผมได้ -
10:36 - 10:39แต่เขาจะสามารถทำให้ผมรักเขาได้
-
10:39 - 10:42และทำให้ผมชังฝ่ายตรงข้ามได้
-
10:43 - 10:48ประชาธิปไตยจะต้องดิ้นรนเอาตัวรอด
จากการพัฒนานั้นอย่างยากลำบาก -
10:49 - 10:51เพราะสุดท้ายแล้ว
-
10:51 - 10:55ประชาธิปไตยไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
ความมีเหตุผลของมนุษย์ -
10:55 - 10:57มันขึ้นอยู่กับความรู้สึกของมนุษย์
-
10:58 - 11:01ระหว่างการเลือกตั้งและการรณรงค์หาเสียง
-
11:01 - 11:04คุณจะไม่ถูกถามว่า "คุณคิดอย่างไร"
-
11:04 - 11:07แต่จะถูกถามว่า "รู้สึกอย่างไร"
-
11:08 - 11:13และถ้าใครบางคนสามารถกำกับ
อารมณ์องคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ -
11:13 - 11:17ประชาธิปไตยก็จะกลายเป็น
การแสดงหุ่นเชิดทางอารมณ์ -
11:18 - 11:23แล้วเราจะทำอย่างไร
เพื่อที่จะป้องกันการกลับมาของเผด็จการ -
11:23 - 11:25และการผุดขึ้นของระบอบเผด็จการใหม่
-
11:26 - 11:32คำถามแรกเลยที่เรากำลังเผชิญก็คือ
ใครล่ะที่ควบคุมข้อมูล -
11:33 - 11:34ถ้าคุณเป็นวิศวกร
-
11:35 - 11:38ก็จงหาวิธีป้องกัน ไม่ให้ข้อมูลที่มากเกินไป
-
11:39 - 11:41ตกอยู่ในกำมือของคนไม่กี่คน
-
11:42 - 11:45และหาทางที่จะทำให้เรามั่นใจว่า
-
11:45 - 11:49อย่างน้อยการจัดการข้อมูลที่กระจายออกไป
มีประสิทธิภาพทัดเทียม -
11:49 - 11:52กับการจัดการข้อมูลที่ถูกรวมศูนย์
-
11:52 - 11:56นี่จะเป็นการป้องกันประชาธิปไตย
ได้อย่างดีที่สุด -
11:56 - 11:59แล้วพวกเราคนอื่น ๆ
ที่ไม่ได้เป็นวิศวกรล่ะ -
11:59 - 12:03คำถามแรกที่กำลังเผชิญหน้าเราก็คือ
-
12:03 - 12:07ทำอย่างไรเราจึงจะไม่ถูกกำกับ
-
12:07 - 12:10โดยผู้ที่ควบคุมข้อมูล
-
12:11 - 12:15ศัตรูแห่งประชาธิปไตยลัทธิเสรีนิยม
มีวิธีการของพวกเขา -
12:16 - 12:18ล้วงเอาความรู้สึกของพวกเรา
-
12:18 - 12:21ไม่ใช่อีเมล ไม่ใช่บัญชีธนาคาร --
-
12:21 - 12:26พวกเขาล้วงเอาความรู้สึกกลัว
เกลียดและโอหังของเรา -
12:26 - 12:28และจากนั้นใช้ความรู้สึกเหล่านี้
-
12:28 - 12:32เพื่อทำให้เกิดขั้วฝ่ายและเกิดการทำลายล้าง
ประชาธิปไตยจากภายใน -
12:33 - 12:35อันที่จริงแล้ว นี่คือวิธีการ
-
12:35 - 12:40ที่ซิลิคอน แวลลีย์ เป็นผู้บุกเบิก
เพื่อที่จะขายสินค้าให้เรา -
12:40 - 12:45แต่ตอนนี้ ศัตรูแห่งประชาธิปไตย
กำลังใช้วิธีการเดียวกันนี้ -
12:45 - 12:49ในการขายความกลัว
เกลียดและโอหังให้กับเรา -
12:50 - 12:54พวกเขาไม่สามารถสร้างความรู้สึกเหล่านี้
ได้จากอากาศธาตุ -
12:54 - 12:58พวกเขาศึกษา
จุดอ่อนที่มีอยู่แล้วของพวกเรา -
12:58 - 13:01และจากนั้นก็ใช้มันโจมตีพวกเรา
-
13:01 - 13:05ดังนั้น หน้าที่ความรับผิดชอบ
ของพวกเราทุกคน -
13:05 - 13:08ก็คือ การรู้จักเข้าใจจุดอ่อนของพวกเรา
-
13:08 - 13:11และเราจะต้องมั่นใจว่า
มันจะไม่กลายมาเป็นอาวุธ -
13:11 - 13:14ในมือของศัตรูแห่งประชาธิปไตย
-
13:15 - 13:18การรู้จักเข้าใจจุดอ่อนของพวกเราเอง
-
13:18 - 13:23จะยังช่วยให้เราหลีกเลี่ยงกับดัก
ของกระจกเผด็จการ -
13:24 - 13:28ดังที่เราได้อธิบายไปก่อนหน้านี้แล้ว
เผด็จการหาประโยชน์จากความโอหังของเรา -
13:29 - 13:35มันทำให้เรามองเห็นตัวของเรา
งามยิ่งว่าที่เราเป็นอยู่อย่างแท้จริง -
13:35 - 13:36นี่คือการทำให้ลุ่มหลง
-
13:36 - 13:39แต่ถ้าคุณรู้จักตนเองดีแล้ว
-
13:39 - 13:42คุณจะไม่หลงไปกับสิ่งสรรเสริญเกินจริงนี้
-
13:43 - 13:47ถ้าใครบางคนเอากระจกมาตั้งไว้ตรงหน้าคุณ
-
13:47 - 13:52ซ่อนทุกมุมแห่งความอัปลักษณ์ของคุณ
และทำให้คุณมองเห็นตัวเอง -
13:52 - 13:56งามกว่าและดูมีค่าความสำคัญ
-
13:56 - 13:58มากกว่าตัวตนของคุณจริง ๆ แล้วล่ะก็
-
13:58 - 14:01จงทุบกระจกนั้นซะ
-
14:02 - 14:03ขอบคุณครับ
-
14:03 - 14:09(เสียงปรบมือ)
-
14:11 - 14:12คริส แอนเดอร์สัน: ยูวาล ขอบคุณครับ
-
14:12 - 14:13พระเจ้าช่วย
-
14:14 - 14:16มันยอดจริง ๆ ครับที่ได้เจอคุณอีกครั้ง
-
14:16 - 14:18แล้ว ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด
-
14:18 - 14:20คุณกำลังเตือนพวกเรา
ถึงภัยสองประการในที่นี้ -
14:20 - 14:25ประการแรกก็คือความเป็นไปได้
ที่เผด็จการในรูปแบบที่น่าเย้ายวนจะผุดขึ้น -
14:25 - 14:29แต่ที่ใกล้เคียงกับสิ่งนั้น ระบอบเผด็จการ
ที่อาจไม่ได้เป็นเผด็จการเสียทีเดียว -
14:29 - 14:32แต่ควบคุมข้อมูลทุกอย่าง
-
14:32 - 14:34ผมสงสัยว่า จะมีอะไร
ที่เราต้องตระหนักอีกไหม -
14:34 - 14:36ที่บางคนในที่นี้
ได้แสดงความเห็นกันแล้ว -
14:36 - 14:41ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล
แต่เป็นบริษัทใหญ่ที่ควบคุมข้อมูลทั้งหมด -
14:41 - 14:42คุณจะเรียกมันว่าอะไรครับ
-
14:42 - 14:45และเราควรจะต้องเป็นกังวลกับมันแค่ไหน
-
14:45 - 14:48ยูวาล โนอาห์ ฮาราริ: ท้ายที่สุดนะครับ
มันไม่ได้ต่างกันมากหรอก -
14:48 - 14:50ระหว่างบริษัทกับรัฐบาล
-
14:50 - 14:54เพราะอย่างที่ผมบอก คำถามของเราคือ
ใครกันล่ะที่ควบคุมข้อมูล -
14:54 - 14:55นั่นแหละ รัฐบาลที่แท้จริง
-
14:55 - 14:58ถ้าคุณเรียกมันว่าบริษัทหรือรัฐบาล --
-
14:58 - 15:01ถ้ามันเป็นบริษัท
และมันควบคุมข้อมูลจริง ๆ -
15:01 - 15:03นั่นแหละครับ รัฐบาลตัวจริงของเรา
-
15:03 - 15:06ความแตกต่าง
เป็นเรื่องของภาพลักษณ์มากกว่าความจริง -
15:07 - 15:09คริส: แต่อย่างไรก็ตาม
อย่างน้อยถ้ามันเป็นบริษัท -
15:09 - 15:13ก็คงจะมีกลไกการตลาดสักอย่าง
ที่จะทลายมันลงมาได้ -
15:13 - 15:15ผมหมายถึง
ถ้าเพียงแค่ผู้บริโภคตัดสินใจ -
15:15 - 15:18ว่าบริษัทนี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจ
ของพวกเขาต่อไปอีกแล้ว -
15:18 - 15:20มันก็จะเปิดประตูให้กับอีกตลาดหนึ่ง
-
15:20 - 15:21มันง่ายที่เราจะคิดไปในแนวทางนั้น
-
15:21 - 15:24มากกว่าที่จะจินตนาการว่า
เกิดการลุกฮือของประชาชนโค่นล้มรัฐบาล -
15:24 - 15:26ที่ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง
-
15:26 - 15:28ยูวาล:ครับ เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น
-
15:28 - 15:33แต่ก็อีกล่ะครับ ถ้าบริษัทรู้จักคุณดี
มากกว่าที่คุณรู้จักตัวเองจริง ๆ -- -
15:33 - 15:38อย่างน้อย มันก็สามารถกำกับอารมณ์
ในส่วนที่ลึกที่สุดและความปรารถนาของคุณได้ -
15:38 - 15:40และคุณก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
-
15:40 - 15:42คุณจะคิดว่านี่เป็นตัวตนของคุณเอง
-
15:43 - 15:47ฉะนั้น ในทางทฤษฎีนี้ ครับ ทางทฤษฎี
คุณสามารถลุกขึ้นสู้กับบริษัทได้ -
15:47 - 15:51เช่นเดียวกับที่ทางทฤษฎี
คุณก็สามารถลุกขึ้นสู้กับระบอบเผด็จการได้ -
15:51 - 15:54แต่ในความเป็นจริง
มันยากเป็นอย่างยิ่งครับ -
15:55 - 15:59คริส: แล้วใน "โฮโม ดีอัส" คุณอ้างว่า
นี่จะเป็นศตวรรษ -
15:59 - 16:03ที่มนุษย์จะกลายเป็นพระเจ้า
-
16:03 - 16:06ไม่ว่าจะจากการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์
-
16:06 - 16:09หรือด้วยพันธุวิศวกรรม
-
16:09 - 16:14แนวคิดเกี่ยวกับระบอบการเมือง
ที่เปลี่ยนไปและลมสลายนี้ -
16:14 - 16:17มีผลต่อมุมมองของคุณ
ในเรื่องความเป็นไปได้อย่างไรครับ -
16:18 - 16:21ยูวาล: ผมคิดว่าจะทำให้มันเป็นไปได้มากขึ้น
-
16:21 - 16:24และจะทำให้มันก็จะเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น
-
16:24 - 16:29เพราะว่าในช่วงเวลาแห่งวิกฤติ
มนุษย์จะยอมเสี่ยง -
16:29 - 16:31ในเรื่องที่ตามปกติแล้วพวกเขาจะไม่ทำ
-
16:31 - 16:33และมนุษย์จะยอม
-
16:34 - 16:37ใช้เทคโนโลยีที่ให้ผลลัพธ์สูง
ที่มีความเสี่ยงมากทุกอย่าง -
16:38 - 16:42วิกฤติการณ์เหล่านี้อาจทำหน้าทีเดียวกัน
-
16:42 - 16:45กับสงครามโลกทั้งสองครั้งในศตวรรษที่ 20
-
16:45 - 16:48สงครามโลกทั้งสองครั้ง
-
16:48 - 16:52ได้เร่งการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใหม่
และอันตรายอย่างรวดเร็ว -
16:52 - 16:55และสิ่งเดียวกันนี้ก็อาจเกิดขึ้น
ในศตวรรษที่ 21 -
16:56 - 17:00ผมหมายความว่า คุณต้องบ้าหน่อย ๆ
ใช้เทคโนโลยีบางอย่างก่อนเวลาอันควร -
17:00 - 17:02เช่น พันธุวิศวกรรม
-
17:02 - 17:05แต่ตอนนี้คุณมีคนบ้า ๆ มากขึ้น
-
17:05 - 17:08แล้วพวกเขาก็มีอำนาจ
อยู่ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก -
17:08 - 17:11ฉะนั้น ความเป็นไปได้จึงกำลังจะมากขึ้น
ไม่ใช่น้อยลอง -
17:12 - 17:15คริส: ถ้าอย่างนั้น ยูวาล สรุปว่า
ด้วยวิสัยทัศน์ที่เด่นชัดของคุณนี้ -
17:15 - 17:17ถ้าลองหมุนเวลาไปอีก 30 ปีข้างหน้า
-
17:17 - 17:20คุณเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้น --
มนุษยชาติตะเกียกตะกายผ่านมันไปได้ -
17:20 - 17:23แล้วหันกลับมาพูดว่า "ว้าว
เกือบไปแล้วเชียว รอดแล้วเรา" -
17:23 - 17:25หรือว่าไม่ใช่แบบนั้นครับ
-
17:25 - 17:28ยูวาล: ถึงตอนนี้ เราได้เอาชนะวิกฤตการณ์
ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด -
17:28 - 17:31โดยเฉพาะถ้าคุณพิจารณา
เรื่องประชาธิปไตยลัทธิเสรีนิยม -
17:31 - 17:34และถ้าคุณคิดว่าตอนนี้มันแย่มาก
-
17:34 - 17:41ลองตรองดูว่ามันแย่กว่านี้มากแค่ไหน
เมื่อย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1938 หรือ 1968 -
17:41 - 17:44นี่มันเทียบกับไม่ได้เลย
เป็นแค่วิกฤติการณ์เล็ก ๆ เท่านั้นเอง -
17:44 - 17:46แต่เราก็แน่ใจไม่ได้หรอก
-
17:46 - 17:48เพราะว่า ในฐานะที่ผมเป็นนักประวัติศาสตร์
-
17:48 - 17:53ผมรู้ว่าคุณไม่ควรที่จะดูถูก
ระดับความโง่ของมนุษย์ -
17:53 - 17:54(เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
-
17:54 - 17:58มันเป็นหนึ่งในอำนาจอันทรงพลัง
ที่ก่อร่างสร้างประวัติศาสตร์ของเรา -
17:59 - 18:02คริส: ยูวาล ช่างน่ายินดีเหลือเกิน
ที่คุณมาอยู่กับเราในวันนี้ -
18:02 - 18:04ขอบคุณมากครับ
ที่มาในรูปแบบภาพและเสียง -
18:04 - 18:06สวัสดียามเย็นนะครับ สำหรับกรุงเทลอาวีฟ
-
18:06 - 18:07ยูวาล ฮาราริ ครับทุกท่าน
-
18:07 - 18:09ยูวาล: ขอบคุณมากครับ
-
18:09 - 18:10(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ทำไมระบบเผด็จถึงน่าเย้ายวน -- และข้อมูลของคุณเติมพลังอำนาจให้มันได้อย่างไร
- Speaker:
- ยูวาล โนอาห์ ฮาราริ (Yuval Noah Harari)
- Description:
-
ในการบรรยายที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีและอำนาจ ยูวาล โนอาห์ ฮาราริ นักเขียนและนักประวัติศาสตร์ อธิบายความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเผด็จการและชาตินิยม -- และการรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันของข้อมูลของเราหมายถึงอนาคตของประชาธิปไตย ถ่ายทอดสดในรูปแบบโฮโรแกรมจากกรุงเทลอะวีฟ ฮาราริย้ำเตือนว่าอันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับประชาธิปไตยลัทธิเสรีนิยมก็คือการปฏิวัติของเทคโนโลยีข้อมูลจะทำให้ระบอบเผด็จการมีประสิทธิภาพและมีความสามารถในการควบคุมมากขึ้น "ศัตรูแห่งประชาธิปไตยลัทธิเสรีนิยมดึงเอาความรู้สึกกลัวและเกลียดและโอหังของเรา และจากนั้นใช้ความรู้สึกเหล่านี้เพื่อทำให้เกิดขั้วฝ่ายและเกิดการทำลายล้าง" ฮาราริ กล่าวว่า "มันคือความรับผิดชอบของเราทุกคนที่จะรับรู้ความอ่อนแอของเราและเราจะต้องมั่นใจว่ามันจะไม่กลายเป็นอาวุธ" (การบรรยายนี้ตามด้วยการสัมภาษณ์สั้น ๆ โดยผู้ดูแล TED คริส แอนเดอร์สัน)
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 18:22
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it | |
![]() |
Sritala Dhanasarnsombut declined Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it | |
![]() |
Sritala Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why fascism is so tempting -- and how your data could power it |