< Return to Video

ชื่อวันมาจากไหน? | Point of View x Nestle School Channel

  • 0:00 - 0:02
    สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
  • 0:02 - 0:06
    อยากรู้กันไหมคะว่าแต่ละวันในสัปดาห์
    ภาษาอังกฤษ ชื่อของเค้ามาจากอะไร
  • 0:06 - 0:08
    ทำไมเป็น monday
    ทำไมไม่เป็น moonday อย่างนี้นะคะ
  • 0:08 - 0:10
    คลิปนี้วิวจะมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
  • 0:10 - 0:14
    อย่างไรก็ตามค่ะ นี่เป็นแค่เกร็ดสนุกๆ
    ไม่สามารถนำไปใช้สอบได้ใช่ไหมคะ
  • 0:14 - 0:16
    แต่ถ้าน้องๆคนไหนจะต้องสอบ ไม่ว่าจะเป็น
  • 0:16 - 0:21
    O-NET 9วิชาสามัญ GAT PAT
    BMAT SATmath หรือแม้แต่กสพท.
  • 0:21 - 0:23
    Nestle School Channel เค้าฝากวิวมากระซิบค่ะว่า
  • 0:23 - 0:26
    เค้าเป็นแชนเนลที่มีขึ้นเพื่อติวสอบโดยเฉพาะเลยนะคะ
  • 0:26 - 0:29
    เนื้อหาตรงตามหลักสูตรกระทรวงเป๊ะๆๆๆ
  • 0:29 - 0:32
    ที่สำคัญนะคะ ใช้รุ่นพี่ระดับ
    ท็อปประเทศเป็นคนติวเลยค่ะ
  • 0:32 - 0:35
    และมีการเฉลยข้อสอบละเอียดยิบเลยนะ ทุกวิชาเลย
  • 0:35 - 0:37
    ดังนั้นอย่าลืมเข้าไปดูกันนะคะ
  • 0:37 - 0:39
    ส่วนใครที่เข้าไปดูแล้ว
    อย่าลืมกด subscribe กันนะคะ
  • 0:39 - 0:41
    จะได้ไม่พลาดเลยเวลาที่ต้องติวสอบค่ะ
  • 0:41 - 0:43
    และเหมือนว่าเค้าจะมีเป็นแอปด้วยเนอะ
  • 0:43 - 0:44
    ลองดูกันได้ค่ะ
  • 0:46 - 0:49
    เอาล่ะ จบเรื่องที่เค้าฝากมาบอกแล้วนะคะทุกคน
  • 0:49 - 0:51
    แล้วก็เปลี่ยนชุดให้เห็นกันชัดๆ
    ไปเลยว่าถ่ายคนละวันน่ะนะ
  • 0:51 - 0:53
    ช่างมันเถอะค่ะทุกคน อย่าสนใจชุดวิวเลยเนอะ
  • 0:53 - 0:55
    สนใจเรื่องที่วิวจะพูดดีกว่าค่ะ
  • 0:55 - 1:00
    คือช่วงนี้เนี่ยนะคะ วิวยังค่อนข้างอินกับ
    เรื่องวัน เรื่องเวลา เรื่องที่มาของคำอยู่ค่ะ
  • 1:00 - 1:04
    จากเดิมที่เราเคยทำคลิปเรื่อง
    ทำไมวันปีใหม่ต้องเป็น 1 มกราคม
  • 1:04 - 1:06
    กับ ทำไมเราต้องหยุดเสาร์อาทิตย์ ไป
  • 1:06 - 1:11
    เราก็พูดถึงปฏิทิน พูดถึงการจัดเวลา
    อะไรกันไปเยอะแยะมากมายเลยใช่ไหมคะ
  • 1:11 - 1:14
    ทีนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่ยัง
    คาใจของวิวอยู่ค่ะก็คือ
  • 1:14 - 1:16
    ชื่อวันต่างๆในสัปดาห์มีที่มาจากที่ไหน
  • 1:16 - 1:20
    ทำไมชื่อวันของแต่ละประเทศในโลก
    ที่มันดูแบบคนละอารยธรรมกันเลย
  • 1:20 - 1:22
    มันยังดูแปลออกมาแล้วยังเกี่ยวกันอยู่
  • 1:22 - 1:24
    เช่น วันจันทร์ ก็จันทร์ พระจันทร์ใช่ไหม
  • 1:24 - 1:27
    แล้วทำไมภาษาอังกฤษมันก็เป็น monday
  • 1:27 - 1:29
    mon ก็ดูคล้ายๆ moon นะ
    ใช่คำเดียวกันรึเปล่า
  • 1:29 - 1:31
    หรือว่าถ้าสมมติว่าไปเรียนภาษาญี่ปุ่น
  • 1:31 - 1:32
    gestuyobi
  • 1:32 - 1:34
    getsu ก็แปลว่าพระจันทร์นี่หน่า
  • 1:34 - 1:37
    ทำไมวันจันทร์มันถึงเป็น
    พระจันทร์หมดเลย อะไรอย่างนี้นะคะ
  • 1:37 - 1:40
    ดังนั้นวิวก็เลยไปหาคำตอบ
    มาให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วค่ะ
  • 1:40 - 1:43
    แต่ตอนนี้นะคะอย่าลืมกดติดตามวิว
    ให้ครบทุกช่องทางก่อนค่ะ
  • 1:43 - 1:45
    เพราะว่าแต่ละช่องทางนี่
    เนื้อหาไม่เหมือนกันเลยนะคะทุกคน
  • 1:45 - 1:47
    หลายคนยังไม่รู้ว่าวิวมี Instagram ด้วยนะคะ
  • 1:47 - 1:49
    เอาล่ะ เลิกโฆษณาได้แล้วค่ะ
  • 1:49 - 1:52
    ตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
    สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
  • 1:52 - 1:54
    ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
  • 1:57 - 2:01
    ก่อนที่เราจะไปพูดถึงชื่อวันภาษาอื่นกันนะคะ
    เรามาเริ่มจากภาษาไทยของเราก่อนเลยค่ะ
  • 2:01 - 2:04
    คงไม่ต้องไล่เรียงให้ฟังนะคะว่า
    ชื่อวันภาษาไทยมีชื่ออะไรบ้าง
  • 2:04 - 2:06
    เพราะเราก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วอะนะ
    เรียนตั้งแต่อนุบาลแล้ว
  • 2:06 - 2:08
    อย่างไรก็ตามค่ะ ชื่อวันภาษาไทยเนี่ย
  • 2:08 - 2:10
    มีที่มาจากอินเดียค่ะ
  • 2:10 - 2:12
    คือเราได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียนะคะ โดยที่
  • 2:12 - 2:15
    เราตั้งชื่อวันตามดาวนพเคราะห์ค่ะ
  • 2:15 - 2:18
    ดาวนพเคราะห์นี่ก็คือดาวเคราะห์ที่มีเทพประจำอยู่
  • 2:18 - 2:21
    ที่เราเชื่อว่าส่งผลอะไรต่อชีวิตเรา อย่างนี้ใช่ไหมคะ
  • 2:21 - 2:23
    ซึ่งชื่อก็บอกว่านพเคราะห์ค่ะ
  • 2:23 - 2:24
    นพ แปลว่า เก้า
  • 2:24 - 2:27
    เอ้า มีเก้าดวง เก้าองค์ แล้ววันมีแค่เจ็ด
  • 2:27 - 2:29
    แล้วพระราหูกับพระเกตุหายไปไหนนะคะ
  • 2:29 - 2:34
    ก็ต้องบอกว่าดาวนพเคราะห์ของเราเนี่ยค่ะ
    เค้ามีความเชื่อเรื่องเลขประจำวันอยู่ค่ะ
  • 2:34 - 2:36
    ก็จะไล่ไปตั้งแต่พระอาทิตย์เป็นหมายเลขหนึ่ง
  • 2:36 - 2:40
    พระจันทร์เป็นหมายเลขสอง สาม สี่ ห้า
    จนไปถึงหมายเลขเจ็ด ก็คือพระเสาร์นั่นเอง
  • 2:40 - 2:42
    ดังนั้นนะคะตอนที่เค้าตั้งชื่อวันเนี่ย
  • 2:42 - 2:44
    เค้าก็เลยเอาชื่อเทพนพเคราะห์ที่มี
  • 2:44 - 2:46
    หมายเลขประจำวันตั้งแต่
    หมายเลขหนึ่งถึงหมายเลขเจ็ด
  • 2:46 - 2:49
    ก็คือพระอาทิตย์จนถึงพระเสาร์เนี่ยมาตั้งชื่อวันค่ะ
  • 2:49 - 2:50
    ส่วนพระราหูกับพระเกตุนะคะ
  • 2:50 - 2:53
    หมายเลขแปดกับหมายเลขเก้า
    นี่ก็หลุดไปอย่างน่าเสียดายค่ะ
  • 2:53 - 2:57
    ทีนี้เอาจริงๆทุกคนรู้แหละว่าแต่ละวันชื่ออะไรบ้าง
  • 2:57 - 3:01
    แต่ว่ารู้กันไหมคะว่าแต่ละวันในสัปดาห์ของเรา
    ภาษาไทยเราเนี่ย แปลว่าอะไรนะคะ
  • 3:01 - 3:02
    เรามาแปลทีละวันกันดีกว่าค่ะ
  • 3:02 - 3:04
    วันแรกนะคะก็คือวันอาทิตย์นั่นเอง
  • 3:04 - 3:07
    อันนี้ชัดเจนนะคะ มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า Aditya
  • 3:07 - 3:08
    ก็คือพระอาทิตย์นั่นเอง
  • 3:08 - 3:10
    ส่วนวันที่สองตรงตัวเช่นกันค่ะ
  • 3:10 - 3:14
    วันจันทร์ก็คือมาจาก Candra
    หรือว่าพระจันทร์นั่นเองนะคะ
  • 3:14 - 3:16
    ตรงตัวมาก ไม่รู้จะแปลทำไม
  • 3:16 - 3:18
    แต่มันมีเหตุผลที่ต้องแปลค่ะ เพราะว่า
  • 3:18 - 3:20
    วันที่สามของเราเนี่ย วันอังคารใช่ไหมคะ
  • 3:20 - 3:23
    วันอังคารเนี่ยมาจากภาษาสันสกฤตคำว่า Angara
  • 3:23 - 3:25
    อังคาระ อังการะ อะไรประมาณนี้
  • 3:25 - 3:27
    ซึ่งวิวไม่เป๊ะภาษาสันสกฤตขนาดนั้นนะ
  • 3:27 - 3:29
    ซึ่งคำว่าอังคารในภาษาสันสกฤตเนี่ยนะคะ
  • 3:29 - 3:31
    แปลว่าเถ้าถ่านหรือถ่านที่ติดไฟอยู่ค่ะ
  • 3:31 - 3:33
    ก็เค้าจินตนาการดาวอังคารกันน่ะ
  • 3:33 - 3:38
    เป็นแบบดาวสีแดงๆ น่าจะเป็นถ่านไฟ
    ที่ลุกจนก้อนแดงอะไรอย่างนี้อยู่นะคะ
  • 3:38 - 3:39
    ซึ่งตรงนี้
  • 3:39 - 3:43
    นี่คือสาเหตุที่ทำให้เวลาคนที่เรารักเสียไป
    เราจะต้องไปลอยอังคารค่ะ
  • 3:43 - 3:45
    อังคารในทีนี้คือคำเดียวกันนะคะ
  • 3:45 - 3:50
    เค้าหมายถึงเถ้าถ่านที่เกิดจาก
    การเผาไหม้กระดูกของคนนั่นเองค่ะ
  • 3:50 - 3:53
    ส่วนวันพุธนี่ก็คือพุธ หมายถึงผู้ทรงความรู้นะคะ
  • 3:53 - 3:54
    ก็หมายถึงพระพุธอะนะ
  • 3:54 - 3:56
    อาจจะไม่ได้หมายถึงพระพุทธเจ้านะจ๊ะทุกคน
  • 3:56 - 3:59
    ส่วนวันพฤหัสเนี่ยนะคะก็มาจากภาษาสันสกฤต
  • 3:59 - 4:01
    คำว่า Brhaspati นะคะก็คือ
  • 4:01 - 4:04
    พระพฤหัสบดีผู้เป็นครูของเหล่าเทพทั้งหลายค่ะ
  • 4:04 - 4:07
    และวันศุกร์นะคะก็มาจาก
    พระศุกร์นั่นเอง อันนี้ชัดเจนนะ
  • 4:07 - 4:10
    เค้าหมายถึงผู้มีบุญ ผู้สุกสว่าง อะไรประมาณนี้
  • 4:10 - 4:11
    ซึ่งถ้าตามตำนานเทพนพเคราะห์เนี่ย
  • 4:11 - 4:14
    พระศุกร์ก็จะเป็นอาจารย์ของ
    เหล่าอสูรทั้งหลายใช่ไหมคะ
  • 4:14 - 4:18
    และวันเสาร์นี่ก็คือพระเสาร์นะคะ
    หมายถึงฟากฟ้า หมายถึงสวรรค์ อะไรประมาณนี้
  • 4:18 - 4:21
    นี่ก็คือชื่อวันของไทยที่ตั้งตามชื่อเทพนพเคราะห์นะคะ
  • 4:21 - 4:24
    ซึ่งถ้ามีโอกาส เดี๋ยวไว้เล่าเรื่อง
    เทพนพเคราะห์ให้ฟังค่ะ
  • 4:24 - 4:28
    ทีนี้เราบอกว่าเรารับมาจากอินเดีย
    แล้วถามว่าอินเดียเรียกชื่อวันเหมือนเรารึเปล่า
  • 4:28 - 4:30
    เราสามารถเดินไปหาคนอินเดียแล้วบอกว่า
  • 4:30 - 4:33
    เฮ้ย วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ อย่างนี้ได้รึเปล่า
  • 4:33 - 4:34
    ก็ต้องบอกว่าไม่ได้นะคะ
  • 4:34 - 4:37
    ถึงจะเป็นเทพองค์เดียวกัน
    ถึงจะมาจากภาษาสันสกฤต
  • 4:37 - 4:40
    แต่ว่าในอินเดียเค้าใช้ชื่อแตกต่างกันไปค่ะ
  • 4:40 - 4:42
    ชื่อของอินเดียก็จะใช้ตามนี้ค่ะ
  • 4:42 - 4:46
    อ่านดูเผินๆอาจจะไม่ค่อยเหมือนของไทย
    แต่ว่าถ้าไปแปลจริงๆก็จะเห็นว่าเหมือนนะ
  • 4:46 - 4:48
    อย่าง Somavar วันจันทร์เนี่ย
    Soma ก็แปลว่าพระจันทร์
  • 4:48 - 4:51
    Ravivar วันอาทิตย์
    Ravi ก็คือพระอาทิตย์นั่นเองนะคะ
  • 4:51 - 4:53
    ส่วนวันพฤหัสนี่ก็เป็น Guruvar
  • 4:53 - 4:54
    Guru ก็คือครู
  • 4:54 - 4:59
    ครูก็คือครูของเหล่าเทพที่วิวเล่าไปว่า
    พระพฤหัสเป็นครูของเหล่าเทพนั่นเองค่ะ
  • 4:59 - 5:02
    ประมาณนี้เลย เราจะไม่ไปเจาะลึก
    ที่ไทยกับอินเดียเท่าไหร่
  • 5:02 - 5:05
    นี่ขนาดบอกว่าไม่เจาะลึกนะคะ
    ปาไปกี่นาทีแล้วเนี่ยทุกคน
  • 5:05 - 5:06
    ยาวมากนะ
  • 5:06 - 5:08
    อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าวิวนอกเรื่องนะคะ
  • 5:08 - 5:10
    เดี๋ยวเรื่องนี้มันจะกลับมาเกี่ยวกันตอนสุดท้ายค่ะ
  • 5:10 - 5:14
    เรากลับไปที่ประเด็นหลักของคลิปนี้ดีกว่า
    ก็คือเรื่อง ชื่อวันภาษาอังกฤษนะคะ
  • 5:14 - 5:17
    เราทุกคนรู้แหละว่าชื่อวันภาษาอังกฤษไล่ตั้งแต่
  • 5:17 - 5:19
    Sunday Monday Tuesday Wednesday
  • 5:19 - 5:22
    Thursday Friday แล้วก็ Saturday เนี่ยนะคะ
  • 5:22 - 5:25
    อยากรู้ไหมว่าแต่ละวันเนี่ย
    มีที่มาจากอะไรและแปลว่าอะไรค่ะ
  • 5:25 - 5:27
    อะ ชื่อวันมีคำแปลนะคะทุกคน
  • 5:27 - 5:30
    ถ้าเราจะดูที่มาของชื่อวันภาษาอังกฤษเนี่ยนะคะ
  • 5:30 - 5:32
    เราต้องดูย้อนกลับไปไกลแสนไกลค่ะ
  • 5:32 - 5:33
    ในสมัยบาบิโลเนียนะคะ
  • 5:33 - 5:37
    จำกันได้ไหมคะที่วิวเคยเล่าไปตอนพวกกำเนิดปฏิทิน
  • 5:37 - 5:39
    ในตอนที่เล่าเรื่อง 1 มกรา
  • 5:39 - 5:41
    กับตอนที่เล่าเรื่องว่า
    ทำไมสัปดาห์นึงมีเจ็ดวัน
  • 5:41 - 5:46
    ว่าชาวบาบิโลเนียเป็นชาติแรกๆในโลกเลย
    ที่แบ่งสัปดาห์นึงออกเป็นทั้งหมดเจ็ดวันค่ะ
  • 5:46 - 5:49
    ซึ่งแน่นอนว่าพอมีการแบ่งออกมาแล้วเนี่ย
  • 5:49 - 5:52
    เค้าก็จะต้องมีการตั้งชื่อวันของเค้าใช่ไหมคะ
  • 5:52 - 5:54
    ถามว่าชาวบาบิโลเนียตั้งตามอะไร
  • 5:54 - 5:57
    แน่นอนว่าเค้าก็ต้องตั้งตาม
    ชื่อเทพเจ้าของเค้านี่แหละค่ะ
  • 5:57 - 6:01
    ซึ่งเทพเจ้าของชาวบาบิโลเนียเนี่ยนะคะ
    เค้าก็จะตั้งชื่อตามชื่อดาวเคราะห์นี่แหละค่ะ
  • 6:01 - 6:04
    คือเค้ามองขึ้นไปบนฟ้า
    เห็นดาวต่างๆ ดาวเคราะห์นู้นนี้นั้น
  • 6:04 - 6:07
    อ๊ะ วันนี้ดาวนี้ขึ้นเห็นชัด
    วันนี้ดาวนี้ขึ้นเด่นชัด
  • 6:07 - 6:09
    อ้าว วันนี้พระจันทร์ วันนี้พระอาทิตย์
  • 6:09 - 6:13
    สุดท้ายเค้าก็เลยเลือกดาวเคราะห์
    มาได้ทั้งหมดเจ็ดดวงด้วยกันค่ะ
  • 6:13 - 6:15
    โดยที่เค้านับพระจันทร์เป็นดาวเคราะห์ด้วยนะ
  • 6:15 - 6:18
    แล้วก็ตั้งชื่อเทพให้กับดาวเหล่านั้น
    แล้วก็เอามาใช้เป็นชื่อวันด้วยค่ะ
  • 6:18 - 6:21
    ซึ่งคอนเซ็ปต์นี้ ชาวบาบิโลเนียไม่ได้เก็บไว้คนเดียวค่ะ
  • 6:21 - 6:25
    พอมีอีกอารยธรรมขึ้นมาเนี่ย บางทีมันก็ส่งต่อ
    อารยธรรมซึ่งกันและกันได้ใช่ไหมคะ
  • 6:25 - 6:30
    ดังนั้นเมื่อชาวกรีกเห็นชาวบาบิโลเนีย
    เรียกวันต่างๆในสัปดาห์ว่าแบบนั้น
  • 6:30 - 6:33
    ชาวกรีกก็เลยรู้สึกว่าแบบ
    เฮ้ย น่าสนใจ เอาบ้างดีกว่าค่ะ
  • 6:33 - 6:36
    ชาวกรีกก็เลยหันมาตั้งชื่อวันของตัวเองนะคะ
    ตามเทพเจ้าเหมือนกัน
  • 6:36 - 6:38
    แต่ชาวกรีกนี่มีเทพเจ้าของตัวเอง
  • 6:38 - 6:41
    จะไปใช้ชื่อเทพเจ้าของชาวบาบิโลเนีย
    มันก็เสียฟอร์มใช่ไหม
  • 6:41 - 6:45
    ดังนั้นค่ะ ชาวกรีกก็เลยตั้งชื่อวัน
    ตามเทพเจ้าของตัวเองนะคะ
  • 6:45 - 6:47
    แต่ชื่อของกรีกมันจะต้องไม่เหมือนไทยแน่นอน
  • 6:47 - 6:50
    ชื่อของกรีก เทพประจำดวงดาวเหล่านั้นก็คือ
  • 6:50 - 6:51
    หนึ่ง Helios นะคะ
  • 6:51 - 6:53
    Helios นี่คือเทพแห่งพระอาทิตย์ของกรีกเนอะ
  • 6:53 - 6:57
    แล้วก็ไล่มาที่พระจันทร์ค่ะ
    พระจันทร์นี่คือ Selene นะคะ
  • 6:57 - 7:00
    Selene นี่ถ้าใครคุ้นๆ
    Selene Serene อะไรอย่างนี้
  • 7:00 - 7:02
    ใครดู Sailor Moon น่าจะคุ้นกันดี
  • 7:02 - 7:05
    Queen Serenity นะคะก็ชื่อมาจาก
    เทพแห่งพระจันทร์ของกรีกนี่แหละค่ะ
  • 7:05 - 7:07
    ส่วนถัดไปนะคะวันอังคารของชาวกรีกเนี่ย
  • 7:07 - 7:11
    เค้าก็ตั้งชื่อตาม Ares หรือว่า
    เทพเจ้าแห่งสงครามนั่นเองค่ะ
  • 7:11 - 7:14
    และวันพุธเนี่ยนะคะ ชาวกรีกยกให้ Hermes ค่ะ
  • 7:14 - 7:16
    หรือว่าเทพแห่งการสื่อสารนะ
  • 7:16 - 7:18
    ส่วนวันพฤหัสเนี่ยนะคะ
    ถือว่าเป็นจอมเทพเลยเพราะว่า
  • 7:18 - 7:21
    ชาวกรีกยกวันนี้ให้กับ Zeus นั่นเองค่ะ
  • 7:21 - 7:22
    และวันศุกร์เนี่ยนะคะ
  • 7:22 - 7:26
    นึกภาพดาวศุกร์ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ
    ความงาม ความรักอะไรแบบนี้ใช่ไหมคะ
  • 7:26 - 7:30
    ดังนั้นชาวกรีกยกวันนี้ให้กับ Aphrodite ค่ะ
    หรือว่าเทพแห่งความรักนั่นเอง
  • 7:30 - 7:34
    และสุดท้ายวันเสาร์เนี่ยนะคะ
    ชาวกรีกก็ยกวันนี้ให้กับ Kronos ค่ะ
  • 7:34 - 7:37
    หรือว่าเทพแห่งกาลเวลาแล้วก็
    เทพแห่งการเพาะปลูกของเค้านะคะ
  • 7:37 - 7:43
    ทีนี้แน่นอนว่าพอไอเดียนี้แพร่ไปถึงกรีกแล้ว
    ก็ต้องมีอีกชนชาตินึงค่ะที่ได้รับไอเดียนี้ไป
  • 7:43 - 7:46
    ก็คือชนชาติที่เอาแทบทุกอย่างมาจากกรีก
    แล้วมาแปลงเป็นของตัวเองนั่นแหละค่ะ
  • 7:46 - 7:49
    ชนชาตินั้นก็คือพวกชาวโรมันนะคะ
  • 7:49 - 7:53
    ซึ่งชาวโรมันก็เหมือนกับชาวกรีกแหละ
    เห็นชาวกรีกใช้อยู่ รับของเค้ามาแหละ
  • 7:53 - 7:57
    แต่จะไปใช้ชื่อตามเค้าก็รู้สึกว่าแบบ
    เสียศักดิ์ศรีอะ เหมือนเป็นเมืองขึ้นเลย
  • 7:57 - 8:00
    ชั้นตั้งชื่อตามเทพของชั้นเองดีกว่า
    ซึ่งก็แค่แปลมานิดหน่อยอะนะ
  • 8:00 - 8:03
    ดังนั้นชาวโรมันนะคะในช่วงศตวรรษที่ 1-3 เนี่ย
  • 8:03 - 8:06
    จำกันได้ใช่ไหมที่วิวเคยเล่าไปว่า
    มันมีการเปลี่ยนแปลง
  • 8:06 - 8:08
    จากสัปดาห์นึงมีแปดวันให้เหลือเจ็ดวัน
  • 8:08 - 8:11
    เพราะได้รับอิทธิพลจากกรีก
    แล้วก็บาบิโลเนียเนี่ยแหละค่ะ
  • 8:11 - 8:16
    ชาวโรมันก็เลยตั้งชื่อวันนะคะตามเทพเจ้า
    ของตัวเองทั้งหมดเจ็ดองค์ด้วยกันค่ะ
  • 8:16 - 8:17
    โดยไล่ดังนี้
  • 8:17 - 8:20
    แอบกระซิบนิดนึงนะ ทั้งกรีกและโรมันนี่
    วิวทำให้เป็นภาษาสมัยใหม่เนอะ
  • 8:20 - 8:23
    อาจจะไม่ใช่ภาษาละตินสมัยนั้น
    หรือภาษากรีกสมัยนั้น
  • 8:23 - 8:26
    เพราะว่าวิวอ่านไม่ออกนะคะ
    แต่ว่าขึ้นไว้ให้แถวนี้แล้ว
  • 8:26 - 8:28
    ถ้าใครออกเสียงได้ก็คอมเมนต์ได้นะคะ
  • 8:28 - 8:29
    อะ กลับมาที่เรื่องของเราต่อค่ะ
  • 8:29 - 8:33
    ทีนี้ชาวโรมันตั้งชื่อวันต่างๆตามเทพยังไงบ้าง
  • 8:33 - 8:37
    วันแรกนะคะ เราคุ้นเคยกับเทพแห่ง
    พระอาทิตย์ของโรมันได้แก่ Apollo
  • 8:37 - 8:41
    กับน้องสาวของเค้าที่ชื่อว่า Diana
    ที่เป็นเทพแห่งดวงจันทร์ใช่ไหมคะ
  • 8:41 - 8:44
    แต่ Apollo กับ Diana นี่จริงๆ
    เป็นคอนเซ็ปต์ที่มาในยุคหลังค่ะ
  • 8:44 - 8:45
    ในยุคแรกๆสุดๆเลยนะคะ
  • 8:45 - 8:48
    เทพแห่งพระอาทิตย์กับ
    เทพแห่งพระจันทร์ของโรมัน
  • 8:48 - 8:49
    ก็ได้รับอิทธิพลมาจากกรีกนี่แหละค่ะ
  • 8:49 - 8:51
    ก็ชื่อเทพที่ชื่อว่า Sol
  • 8:51 - 8:54
    Sol ไม่แน่ใจว่าออกเสียงว่ายังไงนะคะ
  • 8:54 - 8:55
    อันนี้คือเทพแห่งพระอาทิตย์เนอะ
  • 8:55 - 8:57
    ก็เลยเอามาตั้งชื่อเป็นวันอาทิตย์ค่ะ
  • 8:57 - 9:01
    ก็เหมือนศัพท์คำว่า Solar อะไรแบบนี้
    ที่เราพูดถึงพระอาทิตย์ คำเดียวกันนี่แหละค่ะ
  • 9:01 - 9:05
    ส่วนวันจันทร์เนี่ยนะคะ แน่นอนว่า
    พระจันทร์ก็จะต้องไม่ใช่ Diana ใช่ไหม
  • 9:05 - 9:06
    เพราะว่าไม่ได้มาคู่กัน
  • 9:06 - 9:08
    คนที่มาคู่กับ Sol นะคะก็คือ
  • 9:08 - 9:09
    Luna นั่นเอง
  • 9:09 - 9:12
    Luna ที่แปลว่าพระจันทร์นั่นเองนะคะ
  • 9:12 - 9:13
    ถัดไปค่ะวันอังคาร
  • 9:13 - 9:16
    ถามว่าวันอังคารของชาวโรมัน
    ยกให้กับเทพองค์ไหนนะคะ
  • 9:16 - 9:20
    ก็ต้องบอกว่าเค้ายกให้กับเทพ Mars
    หรือว่าเทพแห่งสงครามนั่นเองค่ะ
  • 9:20 - 9:24
    และถัดไปนะคะ วันพุธเนี่ยเค้าก็
    ยกให้กับเทพ Mercury นั่นเองค่ะ
  • 9:24 - 9:26
    ส่วนวันพฤหัสนะคะก็ยังเป็นของจอมเทพอยู่ค่ะ
  • 9:26 - 9:27
    ก็คือ Jupiter นั่นเอง
  • 9:27 - 9:30
    และวันศุกร์ก็ยังเป็นของเทพแห่งความรักนะคะ
  • 9:30 - 9:32
    แต่ว่าเปลี่ยนจาก Aphrodite เป็น Venus เนอะ
  • 9:32 - 9:33
    ก็เทพองค์เดียวกันนี่แหละ
  • 9:33 - 9:36
    ส่วนวันเสาร์วันสุดท้ายเนี่ยนะคะ
    ก็ยกให้กับ Saturn นั่นเองค่ะ
  • 9:36 - 9:40
    ปรากฏว่าไอเดียนี้นะคะ ในอาณาจักรโรมัน
    ก็ใช้กันอย่างแพร่หลายมากๆค่ะ
  • 9:40 - 9:43
    และอาณาจักรโรมันในยุคนั้นเป็นยุคที่
  • 9:43 - 9:44
    เรียกได้ว่ามีอำนาจมากๆนะคะ
  • 9:44 - 9:47
    ดังนั้นไอเดียนี้ก็เลยแพร่กระจายไปทั่วโลกเลยค่ะ
  • 9:47 - 9:52
    คือแพร่จากอาณาจักรโรมันไปจนถึงอินเดียแล้วก็จีนค่ะ
  • 9:52 - 9:54
    ชาวอินเดียกับชาวจีนก็เลยรับอิทธิพล
  • 9:54 - 9:57
    การเรียกชื่อวันตามเทพเจ้าแบบนี้จากโรมันไปนะคะ
  • 9:57 - 10:01
    อย่างไรก็ตาม ช่างฝั่งเอเชียก่อนนะคะ
    เราตัดกลับมาที่อาณาจักรโรมันของเราค่ะ
  • 10:01 - 10:04
    นอกจากแพร่ให้ชาวบ้านแล้วเนี่ย
    ปรากฏว่าตัวเองก็ไม่ได้อยู่นิ่งนะคะ
  • 10:04 - 10:06
    เพราะว่าในช่วงศตวรรษที่ 4 ค่ะ
  • 10:06 - 10:08
    เกิดเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์นึงขึ้นก็คือ
  • 10:08 - 10:13
    ในอาณาจักรโรมันเนี่ย มีจักรพรรดิองค์แรก
    ของอาณาจักรโรมันที่นับถือศาสนาใหม่
  • 10:13 - 10:15
    คือไม่ได้นับถือเทพเจ้าโรมัน
  • 10:15 - 10:17
    แต่ว่านับถือศาสนาคริสต์ค่ะ
  • 10:17 - 10:19
    นั่นก็คือจักรพรรดิคอนสแตนตินนั่นเอง
  • 10:19 - 10:23
    ดังนั้นคอนสแตนตินก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนวันค่ะ
  • 10:23 - 10:26
    คือตอนแรกเวลานับสัปดาห์ที่วิว
    เอาพระอาทิตย์ขึ้นมาก่อนตลอด
  • 10:26 - 10:27
    จริงๆไม่ใช่นะคะ
  • 10:27 - 10:31
    ชาวโรมันแต่เดิม วันแรกของสัปดาห์คือวันเสาร์ค่ะ
  • 10:31 - 10:34
    แต่เมื่อจักรพรรดิคอนสแตนติน
    หันมานับถือศาสนาคริสต์นะคะ
  • 10:34 - 10:38
    เค้าก็รู้สึกว่าแบบเฮ้ย ไม่ได้
    วันอาทิตย์คือวันที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์
  • 10:38 - 10:40
    เพราะว่านี่คือวันที่หยุดพักของพระเจ้า
  • 10:40 - 10:42
    เป็นวันที่เราต้องไปเข้าโบสถ์อะไรต่างๆ
  • 10:42 - 10:44
    ดังนั้นจักรพรรดิคอนสแตนตินนะคะ
  • 10:44 - 10:47
    ก็เลยเปลี่ยนวันแรกของสัปดาห์ให้เป็นวันอาทิตย์ค่ะ
  • 10:47 - 10:51
    เอาล่ะ หลังจากโอ้เอ้มานานนะคะ
    ตอนนี้เราจะผ่านไปอย่างรวดเร็วค่ะ
  • 10:51 - 10:56
    เพราะว่าหลังจากที่อาณาจักรโรมันยึดครอง
    อำนาจในยุโรปมานานแสนนานค่ะ
  • 10:56 - 10:59
    ปรากฏว่าแน่นอนว่าทุกอย่าง
    มีเกิดขึ้นก็ต้องมีเสื่อมไปค่ะ
  • 10:59 - 11:03
    อาณาจักรโรมันก็ค่อยๆเสื่อมอำนาจลง
    เสื่อมอำนาจลง เสื่อมอำนาจลงค่ะ
  • 11:03 - 11:08
    ส่งผลให้ในยุโรปเนี่ยนะคะ เกิดการ
    แบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นสองฝ่ายด้วยกันค่ะ
  • 11:08 - 11:10
    คือไม่ได้แบ่งจริงๆถึงขนาดตีกันนะแต่ว่า
  • 11:10 - 11:12
    มันก็แบ่งกันค่อนข้างชัดอยู่
  • 11:12 - 11:16
    คือแบ่งเป็นพวกประเทศที่
    ยังใช้ภาษาของชาวโรมันอยู่
  • 11:16 - 11:17
    ก็คือพวกที่ใช้ภาษาละตินค่ะ
  • 11:17 - 11:20
    กับอีกพวกเนี่ยนะคะก็เป็น
    กลุ่มคนที่ใช้อีกภาษานึงนะคะ
  • 11:20 - 11:22
    ก็คือพวก Northern Germanic นะคะ
  • 11:22 - 11:25
    หรือพวกใช้ภาษา Germanic นั่นเอง
    ที่มาจากภาคเหนือเนอะ
  • 11:25 - 11:29
    ทีนี้แน่นอนว่าพอมีกลุ่มคนใหม่เข้ามา
    ก็เหมือนเดิมค่ะ แพตเทิร์นเดิมเลยคือ
  • 11:29 - 11:31
    กลุ่มคนใหม่ พวก Germanic เนี่ย
  • 11:31 - 11:33
    ก็ได้รับอิทธิพลจากชาวโรมันนะคะ
  • 11:33 - 11:36
    เอาการตั้งชื่อวันในภาษาละตินของชาวโรมันไป
  • 11:36 - 11:39
    แต่จะเอาไปหมดเนี่ยมันก็เสียศักดิ์ศรี
    ชั้นก็มีเทพของชั้นเหมือนกัน
  • 11:39 - 11:41
    แล้วเทพของชั้นเนี่ยแตกต่างจากเทพของแกด้วยนะ
  • 11:41 - 11:45
    ดังนั้นนะคะชาว Germanic ก็เลย
    มีการเอาเทพของตัวเองเนี่ย
  • 11:45 - 11:48
    เข้าไปตั้งชื่อวันแทนที่เทพของชาวโรมันค่ะ
  • 11:48 - 11:51
    แต่ไม่ได้เอาไปทั้งหมดนะ เพราะว่า
    การตั้งชื่อวันของชาวโรมันนั้นฮิตมากจริงๆ
  • 11:51 - 11:54
    ดังนั้นก็เลยเหลือไว้ให้ทั้งหมดสามวันค่ะ
  • 11:54 - 11:57
    ส่วนอีกสี่วันในสัปดาห์เนี่ย
    ยึดเป็นของเทพตัวเองไปนะคะ
  • 11:57 - 12:00
    แล้วถามว่าเทพของชาว Germanic นี่คือเทพกลุ่มไหน
  • 12:00 - 12:03
    ก็ต้องว่าเป็นเทพกลุ่มที่เราเริ่ม
    คุ้นเคยกันมากขึ้นแล้วค่ะ นั่นก็คือ
  • 12:03 - 12:05
    เทพ Teutonic และเทพ Norse นั่นเอง
  • 12:05 - 12:07
    เทพนอร์สนี่หลายคนน่าจะคุ้นกันเพราะว่า
  • 12:07 - 12:09
    เป็นแฟนมาร์เวลใช่ไหม เหมือนวิว
  • 12:09 - 12:13
    ก็คือดูเรื่อง Thor มาก็จะรู้จัก Thor
    รู้จัก Odin รู้จัก Loki อะไรต่างๆใช่ไหม
  • 12:13 - 12:16
    เดี๋ยวเรามาดูกันว่าพวกนี้
    เกี่ยวข้องยังไงกับชื่อวันนะคะ
  • 12:16 - 12:19
    อย่างไรก็ตาม เราจะ fast forward ค่ะ
    เลื่อนเวลาไปอย่างรวดเร็วนะคะ
  • 12:19 - 12:22
    ในที่สุดระยะเวลายุคกลางของยุโรปก็มาถึงค่ะ
  • 12:22 - 12:24
    ยุคกลางหรือว่ายุคมืดนั่นเอง
  • 12:24 - 12:27
    ยุคสมัยแห่งอัศวิน แห่งปราสาทอะไรต่างๆนะคะ
  • 12:27 - 12:30
    เรื่องราวที่กระทบกับชื่อวันของเราเกิดขึ้นในยุคนี้ค่ะ
  • 12:30 - 12:34
    คือในยุคนั้นเนี่ยนะคะ พวกชาว Germanic เนี่ย
    มีกลุ่มนึงเป็นกลุ่มที่สำคัญมาก
  • 12:34 - 12:36
    นั่นก็คือกลุ่มที่ชื่อว่า Anglo-Saxon ค่ะ
  • 12:36 - 12:39
    คือพวกชาว Anglo-Saxon เนี่ยเข้าไปยึดพื้นที่ที่นึง
  • 12:39 - 12:42
    ซึ่งจะส่งผลต่อภาษาอังกฤษอย่างหนักเลยในทุกวันนี้
  • 12:42 - 12:47
    นั่นก็คือพื้นที่บริเวณเกาะ Britain หรือว่า
    ที่ตั้งของสหราชอาณาจักรทุกวันนี้นั่นเองอะนะ
  • 12:47 - 12:51
    ดังนั้นนะคะ เมื่อพวก Anglo-Saxon
    เข้าไปยึดพื้นที่บริเวณนั้นเนี่ย
  • 12:51 - 12:53
    ก็พาเอาภาษา Germanic เนี่ยเข้าไปด้วย
  • 12:53 - 12:55
    พอเอาภาษาเข้าไปก็ไม่ได้มีภาษาอย่างเดียวหรอก
  • 12:55 - 12:58
    ก็ต้องเอาการนับชื่อวันเข้าไปด้วยใช่ไหมคะ
  • 12:58 - 13:01
    และภาษาของชาว Anglo-Saxon ในตอนนั้นก็คือ
  • 13:01 - 13:03
    บรรพบุรุษของภาษาอังกฤษในทุกวันนี้นี่แหละค่ะ
  • 13:03 - 13:07
    ดังนั้นตอนนี้สรุปง่ายๆนะคะ เราก็น่าจะ
    เห็นการเดินทางของชื่อวันแล้วแหละ
  • 13:07 - 13:09
    ว่าตั้งแต่ชาวบาบิโลเนียตั้งขึ้นมา
  • 13:09 - 13:11
    ชาวกรีกเอาเทพตัวเองไปแทน
  • 13:11 - 13:12
    ชาวโรมันเอาเทพตัวเองไปแทน
  • 13:12 - 13:17
    และหนึ่งในชาว Germanic ในสมัยนั้น
    ก็คือพวก Anglo-Saxon เนี่ยก็พาเอาอิทธิพลนี้
  • 13:17 - 13:21
    เข้ามายังบริเวณที่เป็นประเทศอังกฤษ
    หรือว่าสหราชอาณาจักรในปัจจุบันนี้
  • 13:21 - 13:25
    แล้วภาษาของเค้าก็จะส่งผลต่อ
    Old English แล้วก็ Middle English
  • 13:25 - 13:29
    ที่เป็นบรรพบุรุษของภาษาอังกฤษ
    ในทุกวันนี้นั่นเองค่ะ
  • 13:29 - 13:32
    ยาวนานมาก ยังไม่ได้แปลชื่อวันเลยนะทุกคน
  • 13:32 - 13:34
    ขอไม่ลงรายละเอียดเรื่อง
    Old English กับ Middle English นะ
  • 13:34 - 13:35
    เพราะเดี๋ยวจะมึนเข้าไปอีกนะคะ
  • 13:35 - 13:39
    ดังนั้นหลังจากนอกเรื่องไปไกลนะคะ
    เรากลับมาที่ประเด็นของเราดีกว่าว่า
  • 13:39 - 13:42
    ชื่อวันในภาษาอังกฤษแต่ละวัน
    แปลว่าอะไรและมีที่มาจากอะไรค่ะ
  • 13:42 - 13:45
    แอบบอกตรงนี้นิดนึงนะคะว่า
    เนื่องจากนี่คือภาษาอังกฤษเนอะ
  • 13:45 - 13:48
    ดังนั้นต้นตระกูลของมันก็จะมาจากภาษา Old English
  • 13:48 - 13:52
    ซึ่งวิวไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้น
    บางทีวิวอาจจะออกเสียงผิดอะไรบ้างนะคะ
  • 13:52 - 13:54
    อย่างไรก็ตามวิวจะลงคำอ่านไว้ให้นะคะ
  • 13:54 - 13:58
    ดังนั้นถ้าสมมติว่าใครอยากรู้วิธีออกเสียง
    อะไรจริงๆก็ลองไปเสิร์ชดูได้ค่ะ
  • 13:58 - 13:59
    เริ่มจากวันแรกก่อนเลย
  • 13:59 - 14:03
    วันแรกนะคะก็คือวันอาทิตย์
    หรือว่า Sunday นั่นเอง
  • 14:03 - 14:06
    อันนี้ชัดเจนว่าเป็นวันที่เค้า
    เก็บมาจากชาวโรมันนะคะ
  • 14:06 - 14:08
    ไม่ได้เปลี่ยนจากภาษาละตินขนาดนั้น
  • 14:08 - 14:10
    เพราะว่า Sunday ก็คือ Day of the Sun นะคะ
  • 14:10 - 14:11
    ชัดเจนที่สุด
  • 14:11 - 14:15
    แต่อย่างไรก็ตามค่ะ เมื่อไปพิจารณา
    ภาษาในยุโรปตอนนี้ก็จะเห็นว่า
  • 14:15 - 14:19
    มันแบ่งเป็นสองกลุ่มใช่ไหม
    ที่บอกว่าเป็นกลุ่ม Germanic กับกลุ่มละติน
  • 14:19 - 14:22
    เอ้า ทำไมพวกชาวละติน
    เค้าถึงไม่ใช้คำอะไรที่ขึ้นต้นด้วยตัว S
  • 14:22 - 14:24
    เหมือนพวก Sunday
    เหมือนพวกอะไรอย่างนี้แล้ว
  • 14:24 - 14:28
    ก็ต้องบอกว่าหลังที่ส่งอิทธิพลให้คนอื่นไปเนี่ย ปึงๆๆๆ
  • 14:28 - 14:30
    ปรากฏว่าพวกชาวโรมันที่ใช้ภาษาละตินเนี่ย
  • 14:30 - 14:33
    ก็ได้รับอิทธิพลจากศาสนาคริสต์
    ที่วิวเล่าให้ฟังไปใช่ไหมคะ
  • 14:33 - 14:37
    เค้าก็เลยเปลี่ยนวันนี้จากวันของพระอาทิตย์
    เปลี่ยนเป็นวันของพระเจ้าค่ะ
  • 14:37 - 14:41
    ซึ่งในภาษาละตินเนี่ยเค้าจะเรียกวันนี้ว่า
    Domenica นะคะ หรือว่า Day of God
  • 14:41 - 14:44
    ดังนั้นพวกประเทศที่ใช้ภาษาละตินเป็นรากนี่ก็จะใช้
  • 14:44 - 14:46
    ชื่อวันอาทิตย์เนี่ยขึ้นต้นด้วยตัว D
  • 14:46 - 14:48
    ทั้งหลายทั้งแหล่อย่างที่ขึ้นไว้ให้เห็นตรงนี้นะ
  • 14:48 - 14:51
    ก็จะแตกต่างจากพวกภาษาตระกูล Germanic นะคะ
  • 14:51 - 14:53
    อย่างไรก็ตาม ช่างมันค่ะ เดี๋ยวลึกไปนะ
  • 14:53 - 14:55
    ข้ามไปที่วันจันทร์ดีกว่าค่ะ
  • 14:55 - 14:57
    วันจันทร์นี่ก็เช่นเคยนะคะ Monday
  • 14:57 - 14:58
    Day of the Moon
  • 14:58 - 15:02
    ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ได้รับอิทธิพลมาจาก
    โรมันโดยไม่ได้เปลี่ยนไปค่ะ
  • 15:02 - 15:04
    แต่ถามว่าเค้าเปลี่ยนจาก Luna มาเป็น Moon
  • 15:04 - 15:06
    จาก L มาเป็น M ได้ยังไงนะคะ
  • 15:06 - 15:09
    ก็ต้องบอกว่าฝั่งทาง Germanic เนี่ย
    เค้าไม่ได้เรียกพระจันทร์ว่า Luna ค่ะ
  • 15:09 - 15:12
    เค้าเรียกพระจันทร์ว่า Mani นะคะ
    ไม่แน่ใจวิธีออกเสียงนะ
  • 15:12 - 15:15
    ดังนั้นมันก็เลยกลายมาเป็น
    Moon ในทุกวันนี้นี่แหละค่ะ
  • 15:15 - 15:18
    ถัดไปอย่างรวดเร็วนะคะ ไปที่วันอังคารค่ะ
  • 15:18 - 15:23
    วันอังคารจะเป็นวันแรกเลยค่ะ
    ที่เค้าเอาเทพของกรีกโรมันทิ้งไปเลย
  • 15:23 - 15:24
    แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นเทพของตัวเองค่ะ
  • 15:24 - 15:27
    เค้าบอกว่าอะ ชาวละตินใช้ Mars ใช่ไหม
  • 15:27 - 15:28
    Mars เป็นเทพแห่งสงคราม
  • 15:28 - 15:31
    เราก็มีเทพแห่งสงคราม
    ของเราเหมือนกัน ของนอร์สเนี่ย
  • 15:31 - 15:34
    ดังนั้นเค้าก็เลยเปลี่ยนเอา Mars ออกค่ะ
  • 15:34 - 15:36
    แล้วก็เปลี่ยนวันอังคารหรือว่า Tuesday เนี่ย
  • 15:36 - 15:37
    เป็นชื่อของเทพ Tyr นะคะ
  • 15:37 - 15:39
    ซึ่งเป็นเทพแห่งสงครามของนอร์สเนอะ
  • 15:39 - 15:41
    ซึ่งชื่อเทพ Tyr ของชาวนอร์สเนี่ยนะคะ
  • 15:41 - 15:45
    เมื่อเปลี่ยนเป็นภาษา Germanic เนี่ย
    เค้าจะเรียกเทพองค์นี้ว่า Tiu ค่ะ
  • 15:45 - 15:47
    ดังนั้น Tuesday ก็คือ Day of Tiu
  • 15:47 - 15:50
    หรือว่าวันของเทพเจ้า Tyr นั่นเองค่ะ
  • 15:50 - 15:52
    ถัดไปนะคะที่ Wednesday หรือว่าวันพุธ
  • 15:52 - 15:56
    วันพุธนี่ถ้าพูดถึงกรีกโรมันก็จะเป็น
    เทพเจ้าแห่งการสื่อสารอะไรต่างๆใช่ไหม
  • 15:56 - 16:00
    แต่พวกชาว Germanic นะคะบอกว่า
    ไม่อะ วันนี้ชั้นไม่อยากสื่อสารกับใคร
  • 16:00 - 16:03
    ชั้นอยากยกวันพุธให้กับมหาเทพสูงสุดของชั้น
  • 16:03 - 16:06
    ดังนั้นมหาเทพสูงสุดของชาวนอร์สคืออะไรคะทุกคน
  • 16:06 - 16:09
    ทุกคนรู้อยู่แล้วแหละ
    พ่อของ Thor นั่นก็คือ Odin นั่นเองค่ะ
  • 16:09 - 16:11
    แต่ Wednesday มันก็ไม่ใช่ Odin's Day นี่หน่า
  • 16:11 - 16:14
    ก็ต้องว่า Odin เนี่ยเป็นภาษาของชาวนอร์ส
  • 16:14 - 16:15
    แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น Germanic เนี่ย
  • 16:15 - 16:17
    เค้าจะเรียก Odin ว่า Woden ค่ะ
  • 16:17 - 16:20
    Woden Odin คล้ายๆกันเนอะ
  • 16:20 - 16:23
    ดังนั้น Wednesday นะคะก็คือ Woden's Day
  • 16:23 - 16:24
    ที่เพี้ยนมาเรื่อยๆจาก Germanic
  • 16:24 - 16:27
    เปลี่ยนมาเป็น Old English
    เปลี่ยนมาเป็นอะไรต่างๆนี่แหละค่ะ
  • 16:27 - 16:30
    ทีนี้ถัดไปที่วัน Thursday หรือวันพฤหัสนะคะ
  • 16:30 - 16:32
    ถามว่า Thursday เนี่ยเป็นวันของใคร
  • 16:32 - 16:36
    ใครที่เคยดู Thor ภาคหนึ่งก็จะรู้นะว่า
    Thursday ก็คือ Thor's Day นะคะ
  • 16:36 - 16:38
    แล้วมันมาเป็น Thor's ได้ยังไง
  • 16:38 - 16:41
    ก็ต้องบอกว่าจากเดิม Thursday เนี่ย
    เป็นวันของเทพ Jupiter ใช่ไหม
  • 16:41 - 16:43
    ซึ่งเป็นเทพที่สำคัญที่สุดของชาวโรมัน
  • 16:43 - 16:46
    ดังนั้นค่ะสำหรับชาวนอร์ส
    แม้ว่า Odin จะเป็นเทพสูงสุด
  • 16:46 - 16:49
    แต่เทพที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนี่ย
    ดันเป็น Thor ใช่ไหม
  • 16:49 - 16:53
    เค้าก็เลยยกวันนี้ให้กับ Thor
    หรือว่าเทพเจ้าแห่งสายฟ้านั่นเองค่ะ
  • 16:53 - 16:55
    ทีนี้ไปที่ Friday ของเรานะคะ
  • 16:55 - 16:57
    Friday เนี่ยจากเดิมเป็นของเทพ Venus ใช่ไหมคะ
  • 16:57 - 16:58
    เทพแห่งความรัก
  • 16:58 - 17:01
    แน่นอนว่าชาวนอร์สก็มีของตัวเองเหมือนกันค่ะ
  • 17:01 - 17:05
    เทพแห่งความรักของชาวนอร์สเนี่ยก็คือ
    Frigg หรือว่า Freya นั่นเองนะคะ
  • 17:05 - 17:10
    ดังนั้นวันศุกร์ก็เลยกลายเป็น Freya's Day
    หรือว่า Friday ในที่สุดค่ะ
  • 17:10 - 17:13
    และในที่สุดเราก็มาถึงวันสุดท้าย
    ของสัปดาห์อย่างรวดเร็วนะคะ
  • 17:13 - 17:15
    นั่นก็คือ Saturday นั่นเอง
  • 17:15 - 17:18
    ซึ่ง Saturday ก็ชัดเจนนะว่ายังมาจาก
    เทพ Saturn ของชาวโรมันอยู่
  • 17:18 - 17:22
    คือชาว Germanic ไม่ได้ไปเปลี่ยน
    อะไรของเค้ามากมายค่ะ
  • 17:22 - 17:25
    เป็นไงบ้างคะ นี่คือคำแปลของ
    ชื่อวันในสัปดาห์ทั้งเจ็ดนะคะ
  • 17:25 - 17:27
    เกริ่นอย่างยาวนาน แปลแป๊บเดียวเอง
  • 17:27 - 17:30
    จะเห็นว่าหลายๆวันแปลคล้ายๆกับของเราเลย
  • 17:30 - 17:32
    แต่บางวันก็ดูแปลแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิงนะคะ
  • 17:32 - 17:33
    เพราะว่าอะไร
  • 17:33 - 17:35
    เพราะว่าอย่างที่วิวเล่าไปนั่นแหละว่า
  • 17:35 - 17:39
    เราไปรับอิทธิพลจากโรมันไง
    ก่อนที่โรมันจะส่งอิทธิพลไปทาง Germanic
  • 17:39 - 17:41
    ดังนั้นเรารับก่อนที่เค้าจะแตกไปอีกแขนงนึงนะ
  • 17:41 - 17:46
    ดังนั้นมันก็เลยมีบางส่วนที่ยังเหมือนกันอยู่
    แล้วก็มีบางส่วนที่แตกต่างกันไปนั่นเองค่ะ
  • 17:46 - 17:48
    เป็นไงบ้างคะ นี่แหละเรื่องราวที่วิวอยากให้ทุกคนเห็นค่ะ
  • 17:48 - 17:51
    คือเรื่องการแปลมันเป็นอะไรที่นิดๆหน่อยๆ
    ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น
  • 17:51 - 17:54
    แต่ส่วนที่สนุกกว่าก็คือ
    การเดินทางของภาษานั่นเอง
  • 17:54 - 17:58
    ซึ่งถ้าแค่โยงภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ
    เข้าด้วยกันแล้วยังสนุกไม่พอนะ
  • 17:58 - 18:02
    หลายคนที่มีโอกาสได้เรียนภาษาญี่ปุ่น
    และภาษาจีนก็น่าจะรู้ว่า
  • 18:02 - 18:04
    เฮ้ย มันเกี่ยวข้องกันเข้าไปอีก
  • 18:04 - 18:07
    คือภาษาจีนนี่อาจจะไม่ได้เกี่ยว
    ขนาดนั้นแล้วในปัจจุบันเพราะว่า
  • 18:07 - 18:10
    จีนไม่ได้ใช้วิธีการนับเหมือน
    ในสมัยราชวงศ์ชิงแล้วนะคะ
  • 18:10 - 18:14
    จีนปัจจุบันนับวันก็ Xingqi yi, Xingqi er, Xingqi san
  • 18:14 - 18:17
    ก็คือวันที่หนึ่ง วันที่สอง วันที่สามของสัปดาห์
    เพื่อความง่ายใช่ไหมคะ
  • 18:17 - 18:19
    เพราะแม้ว่าชาวจีนจะได้รับอิทธิพลจากโรมันเนี่ย
  • 18:19 - 18:23
    แต่ว่าชาวจีนเค้าก็เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้ใช้แบบเดิม
    เหมือนในสมัยราชวงศ์ชิงแล้วใช่ไหม
  • 18:23 - 18:27
    แต่อย่างไรก็ตามนะคะ ก่อนที่จีนจะล้มล้างตัวเอง
    เลิก เปลี่ยน ไม่ใช้แล้วเนี่ย
  • 18:27 - 18:30
    จีนก็ยังมีโอกาสแพร่กระจายความเชื่อนี้ค่ะ
  • 18:30 - 18:32
    ไปยังญี่ปุ่นแล้วก็เกาหลีนะคะ
  • 18:32 - 18:35
    ตัวภาษาเกาหลีเนี่ย วิวไม่รู้ภาษาเกาหลี
    ดังนั้นขออนุญาตไม่พูดถึงเนอะ
  • 18:35 - 18:38
    แต่ภาษาญี่ปุ่น ถ้าใครรู้ภาษาญี่ปุ่นจะเห็นว่า
  • 18:38 - 18:40
    ในบางวันเนี่ยนะคะก็ยังมีความเกี่ยวพันกันอยู่
  • 18:40 - 18:42
    เอ๊ะ ทำไมมันแปลเหมือนๆกัน
  • 18:42 - 18:45
    เช่น วันจันทร์ของชาวญี่ปุ่นนะคะ
    เราก็จะเรียกวันนั้นว่า Getsuyobi
  • 18:45 - 18:46
    Getsu แปลว่าอะไร
  • 18:46 - 18:48
    Getsunova รู้จักกันใช่ไหม
  • 18:48 - 18:49
    Getsu แปลว่าพระจันทร์
  • 18:49 - 18:52
    อ้าว วันจันทร์ก็พูดถึงพระจันทร์เหมือนกันเลย
  • 18:52 - 18:54
    หรือว่าวันอังคารเราก็พูดถึง Kayobi ใช่ไหม
  • 18:54 - 18:55
    Ka แปลว่าไฟ
  • 18:55 - 18:57
    เอ๊ วันอังคารของเราก็พูดถึงถ่านติดไฟ
  • 18:57 - 19:00
    เออ มันก็มีความเกี่ยวพันอะไรกันอยู่
    ประมาณนี้แหละค่ะ
  • 19:00 - 19:04
    มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะคะทุกคน
    มันก็มีที่มาที่ไปอย่างที่เล่ามาทั้งหมดนี่ล่ะค่ะ
  • 19:04 - 19:06
    เป็นไงบ้าง เป็นอีกหนึ่งคลิปที่
  • 19:06 - 19:09
    เรียกได้ว่าเนื้อหาเข้มข้นมากๆจริงๆนะคะ มึนกันไหม
  • 19:09 - 19:11
    ถ้าสมมติใครชื่นชอบให้วิวเอาอะไรแบบนี้มาเล่าอีก
  • 19:11 - 19:15
    ก็อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
    แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
  • 19:15 - 19:16
    แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน
  • 19:16 - 19:17
    บ๊ายบาย
  • 19:17 - 19:18
    สวัสดีค่ะ
  • 19:18 - 19:21
    เอาจริงๆนะคะทุกคน คลิปนี้เราพูดถึง
    ภาษาต่างๆมากมาย
  • 19:21 - 19:24
    และภาษาทั้งในฝั่งตะวันตก
    พวกภาษาตระกูลละตินทั้งหลาย
  • 19:24 - 19:27
    ภาษาสเปน ภาษาอะไรต่างๆเนี่ย
  • 19:27 - 19:31
    รวมไปถึงภาษาฝั่งตะวันออกอย่าง
    พวกญี่ปุ่น จีน เกาหลีอะไรเนี่ย
  • 19:31 - 19:32
    มันก็เกี่ยวพันกันไปหมด
  • 19:32 - 19:36
    ดังนั้นเชื่อว่าคนที่ติดตามวิวเนี่ย
    น่าจะรู้ภาษาต่างๆมากกว่าวิวเยอะค่ะ
  • 19:36 - 19:40
    ถ้าสมมติว่าใครมีอะไรอยากพิมพ์คุยกันก็
    พิมพ์คุยกันมาด้านล่างได้นะคะ
  • 19:40 - 19:42
    ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันนะคะทุกคน
  • 19:42 - 19:43
    วันนี้ลาไปก่อนค่ะ
  • 19:43 - 19:44
    บ๊ายบาย
  • 19:44 - 19:44
    สวัสดีค่ะ
Title:
ชื่อวันมาจากไหน? | Point of View x Nestle School Channel
Description:

more » « less
Duration:
19:45

Thai subtitles

Revisions