1 00:00:00,000 --> 00:00:01,720 สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ 2 00:00:01,720 --> 00:00:05,700 อยากรู้กันไหมคะว่าแต่ละวันในสัปดาห์ ภาษาอังกฤษ ชื่อของเค้ามาจากอะไร 3 00:00:05,700 --> 00:00:08,340 ทำไมเป็น monday ทำไมไม่เป็น moonday อย่างนี้นะคะ 4 00:00:08,340 --> 00:00:09,940 คลิปนี้วิวจะมาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ 5 00:00:09,940 --> 00:00:13,780 อย่างไรก็ตามค่ะ นี่เป็นแค่เกร็ดสนุกๆ ไม่สามารถนำไปใช้สอบได้ใช่ไหมคะ 6 00:00:13,780 --> 00:00:16,160 แต่ถ้าน้องๆคนไหนจะต้องสอบ ไม่ว่าจะเป็น 7 00:00:16,160 --> 00:00:21,060 O-NET 9วิชาสามัญ GAT PAT BMAT SATmath หรือแม้แต่กสพท. 8 00:00:21,060 --> 00:00:23,300 Nestle School Channel เค้าฝากวิวมากระซิบค่ะว่า 9 00:00:23,300 --> 00:00:26,180 เค้าเป็นแชนเนลที่มีขึ้นเพื่อติวสอบโดยเฉพาะเลยนะคะ 10 00:00:26,180 --> 00:00:28,720 เนื้อหาตรงตามหลักสูตรกระทรวงเป๊ะๆๆๆ 11 00:00:28,720 --> 00:00:31,780 ที่สำคัญนะคะ ใช้รุ่นพี่ระดับ ท็อปประเทศเป็นคนติวเลยค่ะ 12 00:00:31,780 --> 00:00:35,080 และมีการเฉลยข้อสอบละเอียดยิบเลยนะ ทุกวิชาเลย 13 00:00:35,080 --> 00:00:36,560 ดังนั้นอย่าลืมเข้าไปดูกันนะคะ 14 00:00:36,560 --> 00:00:39,140 ส่วนใครที่เข้าไปดูแล้ว อย่าลืมกด subscribe กันนะคะ 15 00:00:39,140 --> 00:00:41,360 จะได้ไม่พลาดเลยเวลาที่ต้องติวสอบค่ะ 16 00:00:41,360 --> 00:00:43,100 และเหมือนว่าเค้าจะมีเป็นแอปด้วยเนอะ 17 00:00:43,100 --> 00:00:44,200 ลองดูกันได้ค่ะ 18 00:00:46,280 --> 00:00:48,620 เอาล่ะ จบเรื่องที่เค้าฝากมาบอกแล้วนะคะทุกคน 19 00:00:48,620 --> 00:00:51,400 แล้วก็เปลี่ยนชุดให้เห็นกันชัดๆ ไปเลยว่าถ่ายคนละวันน่ะนะ 20 00:00:51,400 --> 00:00:53,340 ช่างมันเถอะค่ะทุกคน อย่าสนใจชุดวิวเลยเนอะ 21 00:00:53,340 --> 00:00:54,940 สนใจเรื่องที่วิวจะพูดดีกว่าค่ะ 22 00:00:54,940 --> 00:00:59,740 คือช่วงนี้เนี่ยนะคะ วิวยังค่อนข้างอินกับ เรื่องวัน เรื่องเวลา เรื่องที่มาของคำอยู่ค่ะ 23 00:00:59,740 --> 00:01:04,100 จากเดิมที่เราเคยทำคลิปเรื่อง ทำไมวันปีใหม่ต้องเป็น 1 มกราคม 24 00:01:04,100 --> 00:01:06,060 กับ ทำไมเราต้องหยุดเสาร์อาทิตย์ ไป 25 00:01:06,060 --> 00:01:10,720 เราก็พูดถึงปฏิทิน พูดถึงการจัดเวลา อะไรกันไปเยอะแยะมากมายเลยใช่ไหมคะ 26 00:01:10,720 --> 00:01:13,720 ทีนี้ก็ยังมีอีกหนึ่งประเด็นที่ยัง คาใจของวิวอยู่ค่ะก็คือ 27 00:01:13,720 --> 00:01:16,300 ชื่อวันต่างๆในสัปดาห์มีที่มาจากที่ไหน 28 00:01:16,300 --> 00:01:19,860 ทำไมชื่อวันของแต่ละประเทศในโลก ที่มันดูแบบคนละอารยธรรมกันเลย 29 00:01:19,860 --> 00:01:21,820 มันยังดูแปลออกมาแล้วยังเกี่ยวกันอยู่ 30 00:01:21,820 --> 00:01:24,460 เช่น วันจันทร์ ก็จันทร์ พระจันทร์ใช่ไหม 31 00:01:24,460 --> 00:01:26,680 แล้วทำไมภาษาอังกฤษมันก็เป็น monday 32 00:01:26,680 --> 00:01:29,000 mon ก็ดูคล้ายๆ moon นะ ใช่คำเดียวกันรึเปล่า 33 00:01:29,000 --> 00:01:31,320 หรือว่าถ้าสมมติว่าไปเรียนภาษาญี่ปุ่น 34 00:01:31,320 --> 00:01:32,080 gestuyobi 35 00:01:32,080 --> 00:01:33,940 getsu ก็แปลว่าพระจันทร์นี่หน่า 36 00:01:33,940 --> 00:01:37,020 ทำไมวันจันทร์มันถึงเป็น พระจันทร์หมดเลย อะไรอย่างนี้นะคะ 37 00:01:37,020 --> 00:01:39,800 ดังนั้นวิวก็เลยไปหาคำตอบ มาให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วค่ะ 38 00:01:39,800 --> 00:01:42,560 แต่ตอนนี้นะคะอย่าลืมกดติดตามวิว ให้ครบทุกช่องทางก่อนค่ะ 39 00:01:42,560 --> 00:01:44,940 เพราะว่าแต่ละช่องทางนี่ เนื้อหาไม่เหมือนกันเลยนะคะทุกคน 40 00:01:44,940 --> 00:01:47,080 หลายคนยังไม่รู้ว่าวิวมี Instagram ด้วยนะคะ 41 00:01:47,080 --> 00:01:48,560 เอาล่ะ เลิกโฆษณาได้แล้วค่ะ 42 00:01:48,560 --> 00:01:51,900 ตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ 43 00:01:51,900 --> 00:01:53,620 ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ 44 00:01:56,900 --> 00:02:01,080 ก่อนที่เราจะไปพูดถึงชื่อวันภาษาอื่นกันนะคะ เรามาเริ่มจากภาษาไทยของเราก่อนเลยค่ะ 45 00:02:01,080 --> 00:02:04,060 คงไม่ต้องไล่เรียงให้ฟังนะคะว่า ชื่อวันภาษาไทยมีชื่ออะไรบ้าง 46 00:02:04,060 --> 00:02:06,480 เพราะเราก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วอะนะ เรียนตั้งแต่อนุบาลแล้ว 47 00:02:06,480 --> 00:02:08,280 อย่างไรก็ตามค่ะ ชื่อวันภาษาไทยเนี่ย 48 00:02:08,280 --> 00:02:10,020 มีที่มาจากอินเดียค่ะ 49 00:02:10,020 --> 00:02:12,460 คือเราได้รับอิทธิพลมาจากอินเดียนะคะ โดยที่ 50 00:02:12,460 --> 00:02:15,140 เราตั้งชื่อวันตามดาวนพเคราะห์ค่ะ 51 00:02:15,140 --> 00:02:18,060 ดาวนพเคราะห์นี่ก็คือดาวเคราะห์ที่มีเทพประจำอยู่ 52 00:02:18,060 --> 00:02:21,020 ที่เราเชื่อว่าส่งผลอะไรต่อชีวิตเรา อย่างนี้ใช่ไหมคะ 53 00:02:21,020 --> 00:02:22,940 ซึ่งชื่อก็บอกว่านพเคราะห์ค่ะ 54 00:02:22,940 --> 00:02:24,000 นพ แปลว่า เก้า 55 00:02:24,000 --> 00:02:26,660 เอ้า มีเก้าดวง เก้าองค์ แล้ววันมีแค่เจ็ด 56 00:02:26,660 --> 00:02:28,700 แล้วพระราหูกับพระเกตุหายไปไหนนะคะ 57 00:02:28,700 --> 00:02:33,580 ก็ต้องบอกว่าดาวนพเคราะห์ของเราเนี่ยค่ะ เค้ามีความเชื่อเรื่องเลขประจำวันอยู่ค่ะ 58 00:02:33,580 --> 00:02:35,880 ก็จะไล่ไปตั้งแต่พระอาทิตย์เป็นหมายเลขหนึ่ง 59 00:02:35,880 --> 00:02:39,900 พระจันทร์เป็นหมายเลขสอง สาม สี่ ห้า จนไปถึงหมายเลขเจ็ด ก็คือพระเสาร์นั่นเอง 60 00:02:39,900 --> 00:02:41,680 ดังนั้นนะคะตอนที่เค้าตั้งชื่อวันเนี่ย 61 00:02:41,680 --> 00:02:43,700 เค้าก็เลยเอาชื่อเทพนพเคราะห์ที่มี 62 00:02:43,700 --> 00:02:45,940 หมายเลขประจำวันตั้งแต่ หมายเลขหนึ่งถึงหมายเลขเจ็ด 63 00:02:45,940 --> 00:02:48,940 ก็คือพระอาทิตย์จนถึงพระเสาร์เนี่ยมาตั้งชื่อวันค่ะ 64 00:02:48,940 --> 00:02:50,400 ส่วนพระราหูกับพระเกตุนะคะ 65 00:02:50,400 --> 00:02:53,440 หมายเลขแปดกับหมายเลขเก้า นี่ก็หลุดไปอย่างน่าเสียดายค่ะ 66 00:02:53,440 --> 00:02:56,680 ทีนี้เอาจริงๆทุกคนรู้แหละว่าแต่ละวันชื่ออะไรบ้าง 67 00:02:56,680 --> 00:03:00,740 แต่ว่ารู้กันไหมคะว่าแต่ละวันในสัปดาห์ของเรา ภาษาไทยเราเนี่ย แปลว่าอะไรนะคะ 68 00:03:00,740 --> 00:03:02,180 เรามาแปลทีละวันกันดีกว่าค่ะ 69 00:03:02,180 --> 00:03:03,920 วันแรกนะคะก็คือวันอาทิตย์นั่นเอง 70 00:03:03,920 --> 00:03:06,740 อันนี้ชัดเจนนะคะ มาจากภาษาสันสกฤตคำว่า Aditya 71 00:03:06,740 --> 00:03:08,380 ก็คือพระอาทิตย์นั่นเอง 72 00:03:08,380 --> 00:03:10,160 ส่วนวันที่สองตรงตัวเช่นกันค่ะ 73 00:03:10,160 --> 00:03:14,180 วันจันทร์ก็คือมาจาก Candra หรือว่าพระจันทร์นั่นเองนะคะ 74 00:03:14,180 --> 00:03:15,880 ตรงตัวมาก ไม่รู้จะแปลทำไม 75 00:03:15,880 --> 00:03:17,860 แต่มันมีเหตุผลที่ต้องแปลค่ะ เพราะว่า 76 00:03:17,860 --> 00:03:20,060 วันที่สามของเราเนี่ย วันอังคารใช่ไหมคะ 77 00:03:20,060 --> 00:03:23,200 วันอังคารเนี่ยมาจากภาษาสันสกฤตคำว่า Angara 78 00:03:23,200 --> 00:03:24,760 อังคาระ อังการะ อะไรประมาณนี้ 79 00:03:24,760 --> 00:03:26,720 ซึ่งวิวไม่เป๊ะภาษาสันสกฤตขนาดนั้นนะ 80 00:03:26,720 --> 00:03:28,720 ซึ่งคำว่าอังคารในภาษาสันสกฤตเนี่ยนะคะ 81 00:03:28,720 --> 00:03:31,380 แปลว่าเถ้าถ่านหรือถ่านที่ติดไฟอยู่ค่ะ 82 00:03:31,380 --> 00:03:33,280 ก็เค้าจินตนาการดาวอังคารกันน่ะ 83 00:03:33,280 --> 00:03:37,600 เป็นแบบดาวสีแดงๆ น่าจะเป็นถ่านไฟ ที่ลุกจนก้อนแดงอะไรอย่างนี้อยู่นะคะ 84 00:03:37,600 --> 00:03:38,680 ซึ่งตรงนี้ 85 00:03:38,680 --> 00:03:43,440 นี่คือสาเหตุที่ทำให้เวลาคนที่เรารักเสียไป เราจะต้องไปลอยอังคารค่ะ 86 00:03:43,440 --> 00:03:45,260 อังคารในทีนี้คือคำเดียวกันนะคะ 87 00:03:45,260 --> 00:03:49,640 เค้าหมายถึงเถ้าถ่านที่เกิดจาก การเผาไหม้กระดูกของคนนั่นเองค่ะ 88 00:03:49,640 --> 00:03:52,620 ส่วนวันพุธนี่ก็คือพุธ หมายถึงผู้ทรงความรู้นะคะ 89 00:03:52,620 --> 00:03:54,380 ก็หมายถึงพระพุธอะนะ 90 00:03:54,380 --> 00:03:56,460 อาจจะไม่ได้หมายถึงพระพุทธเจ้านะจ๊ะทุกคน 91 00:03:56,460 --> 00:03:58,780 ส่วนวันพฤหัสเนี่ยนะคะก็มาจากภาษาสันสกฤต 92 00:03:58,780 --> 00:04:01,000 คำว่า Brhaspati นะคะก็คือ 93 00:04:01,000 --> 00:04:04,360 พระพฤหัสบดีผู้เป็นครูของเหล่าเทพทั้งหลายค่ะ 94 00:04:04,360 --> 00:04:07,080 และวันศุกร์นะคะก็มาจาก พระศุกร์นั่นเอง อันนี้ชัดเจนนะ 95 00:04:07,080 --> 00:04:09,900 เค้าหมายถึงผู้มีบุญ ผู้สุกสว่าง อะไรประมาณนี้ 96 00:04:09,900 --> 00:04:11,440 ซึ่งถ้าตามตำนานเทพนพเคราะห์เนี่ย 97 00:04:11,440 --> 00:04:14,500 พระศุกร์ก็จะเป็นอาจารย์ของ เหล่าอสูรทั้งหลายใช่ไหมคะ 98 00:04:14,500 --> 00:04:18,280 และวันเสาร์นี่ก็คือพระเสาร์นะคะ หมายถึงฟากฟ้า หมายถึงสวรรค์ อะไรประมาณนี้ 99 00:04:18,280 --> 00:04:21,260 นี่ก็คือชื่อวันของไทยที่ตั้งตามชื่อเทพนพเคราะห์นะคะ 100 00:04:21,260 --> 00:04:23,820 ซึ่งถ้ามีโอกาส เดี๋ยวไว้เล่าเรื่อง เทพนพเคราะห์ให้ฟังค่ะ 101 00:04:23,820 --> 00:04:28,100 ทีนี้เราบอกว่าเรารับมาจากอินเดีย แล้วถามว่าอินเดียเรียกชื่อวันเหมือนเรารึเปล่า 102 00:04:28,100 --> 00:04:30,060 เราสามารถเดินไปหาคนอินเดียแล้วบอกว่า 103 00:04:30,060 --> 00:04:32,940 เฮ้ย วันจันทร์ วันอังคาร วันพุธ อย่างนี้ได้รึเปล่า 104 00:04:32,940 --> 00:04:34,380 ก็ต้องบอกว่าไม่ได้นะคะ 105 00:04:34,380 --> 00:04:36,960 ถึงจะเป็นเทพองค์เดียวกัน ถึงจะมาจากภาษาสันสกฤต 106 00:04:36,960 --> 00:04:39,680 แต่ว่าในอินเดียเค้าใช้ชื่อแตกต่างกันไปค่ะ 107 00:04:39,680 --> 00:04:42,000 ชื่อของอินเดียก็จะใช้ตามนี้ค่ะ 108 00:04:42,000 --> 00:04:45,740 อ่านดูเผินๆอาจจะไม่ค่อยเหมือนของไทย แต่ว่าถ้าไปแปลจริงๆก็จะเห็นว่าเหมือนนะ 109 00:04:45,740 --> 00:04:48,500 อย่าง Somavar วันจันทร์เนี่ย Soma ก็แปลว่าพระจันทร์ 110 00:04:48,500 --> 00:04:51,340 Ravivar วันอาทิตย์ Ravi ก็คือพระอาทิตย์นั่นเองนะคะ 111 00:04:51,340 --> 00:04:53,140 ส่วนวันพฤหัสนี่ก็เป็น Guruvar 112 00:04:53,140 --> 00:04:54,360 Guru ก็คือครู 113 00:04:54,360 --> 00:04:58,860 ครูก็คือครูของเหล่าเทพที่วิวเล่าไปว่า พระพฤหัสเป็นครูของเหล่าเทพนั่นเองค่ะ 114 00:04:58,860 --> 00:05:01,800 ประมาณนี้เลย เราจะไม่ไปเจาะลึก ที่ไทยกับอินเดียเท่าไหร่ 115 00:05:01,800 --> 00:05:04,560 นี่ขนาดบอกว่าไม่เจาะลึกนะคะ ปาไปกี่นาทีแล้วเนี่ยทุกคน 116 00:05:04,560 --> 00:05:05,560 ยาวมากนะ 117 00:05:05,560 --> 00:05:07,560 อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าวิวนอกเรื่องนะคะ 118 00:05:07,560 --> 00:05:09,980 เดี๋ยวเรื่องนี้มันจะกลับมาเกี่ยวกันตอนสุดท้ายค่ะ 119 00:05:09,980 --> 00:05:14,200 เรากลับไปที่ประเด็นหลักของคลิปนี้ดีกว่า ก็คือเรื่อง ชื่อวันภาษาอังกฤษนะคะ 120 00:05:14,200 --> 00:05:16,760 เราทุกคนรู้แหละว่าชื่อวันภาษาอังกฤษไล่ตั้งแต่ 121 00:05:16,760 --> 00:05:19,100 Sunday Monday Tuesday Wednesday 122 00:05:19,100 --> 00:05:21,620 Thursday Friday แล้วก็ Saturday เนี่ยนะคะ 123 00:05:21,620 --> 00:05:25,440 อยากรู้ไหมว่าแต่ละวันเนี่ย มีที่มาจากอะไรและแปลว่าอะไรค่ะ 124 00:05:25,440 --> 00:05:27,120 อะ ชื่อวันมีคำแปลนะคะทุกคน 125 00:05:27,120 --> 00:05:29,580 ถ้าเราจะดูที่มาของชื่อวันภาษาอังกฤษเนี่ยนะคะ 126 00:05:29,580 --> 00:05:31,860 เราต้องดูย้อนกลับไปไกลแสนไกลค่ะ 127 00:05:31,860 --> 00:05:33,420 ในสมัยบาบิโลเนียนะคะ 128 00:05:33,420 --> 00:05:36,920 จำกันได้ไหมคะที่วิวเคยเล่าไปตอนพวกกำเนิดปฏิทิน 129 00:05:36,920 --> 00:05:38,740 ในตอนที่เล่าเรื่อง 1 มกรา 130 00:05:38,740 --> 00:05:41,300 กับตอนที่เล่าเรื่องว่า ทำไมสัปดาห์นึงมีเจ็ดวัน 131 00:05:41,300 --> 00:05:46,260 ว่าชาวบาบิโลเนียเป็นชาติแรกๆในโลกเลย ที่แบ่งสัปดาห์นึงออกเป็นทั้งหมดเจ็ดวันค่ะ 132 00:05:46,260 --> 00:05:49,060 ซึ่งแน่นอนว่าพอมีการแบ่งออกมาแล้วเนี่ย 133 00:05:49,060 --> 00:05:51,520 เค้าก็จะต้องมีการตั้งชื่อวันของเค้าใช่ไหมคะ 134 00:05:51,520 --> 00:05:53,540 ถามว่าชาวบาบิโลเนียตั้งตามอะไร 135 00:05:53,540 --> 00:05:56,620 แน่นอนว่าเค้าก็ต้องตั้งตาม ชื่อเทพเจ้าของเค้านี่แหละค่ะ 136 00:05:56,620 --> 00:06:00,640 ซึ่งเทพเจ้าของชาวบาบิโลเนียเนี่ยนะคะ เค้าก็จะตั้งชื่อตามชื่อดาวเคราะห์นี่แหละค่ะ 137 00:06:00,640 --> 00:06:04,020 คือเค้ามองขึ้นไปบนฟ้า เห็นดาวต่างๆ ดาวเคราะห์นู้นนี้นั้น 138 00:06:04,020 --> 00:06:07,340 อ๊ะ วันนี้ดาวนี้ขึ้นเห็นชัด วันนี้ดาวนี้ขึ้นเด่นชัด 139 00:06:07,340 --> 00:06:08,900 อ้าว วันนี้พระจันทร์ วันนี้พระอาทิตย์ 140 00:06:08,900 --> 00:06:12,620 สุดท้ายเค้าก็เลยเลือกดาวเคราะห์ มาได้ทั้งหมดเจ็ดดวงด้วยกันค่ะ 141 00:06:12,620 --> 00:06:14,560 โดยที่เค้านับพระจันทร์เป็นดาวเคราะห์ด้วยนะ 142 00:06:14,560 --> 00:06:18,260 แล้วก็ตั้งชื่อเทพให้กับดาวเหล่านั้น แล้วก็เอามาใช้เป็นชื่อวันด้วยค่ะ 143 00:06:18,260 --> 00:06:20,960 ซึ่งคอนเซ็ปต์นี้ ชาวบาบิโลเนียไม่ได้เก็บไว้คนเดียวค่ะ 144 00:06:20,960 --> 00:06:25,280 พอมีอีกอารยธรรมขึ้นมาเนี่ย บางทีมันก็ส่งต่อ อารยธรรมซึ่งกันและกันได้ใช่ไหมคะ 145 00:06:25,280 --> 00:06:29,500 ดังนั้นเมื่อชาวกรีกเห็นชาวบาบิโลเนีย เรียกวันต่างๆในสัปดาห์ว่าแบบนั้น 146 00:06:29,500 --> 00:06:32,560 ชาวกรีกก็เลยรู้สึกว่าแบบ เฮ้ย น่าสนใจ เอาบ้างดีกว่าค่ะ 147 00:06:32,560 --> 00:06:36,340 ชาวกรีกก็เลยหันมาตั้งชื่อวันของตัวเองนะคะ ตามเทพเจ้าเหมือนกัน 148 00:06:36,340 --> 00:06:38,360 แต่ชาวกรีกนี่มีเทพเจ้าของตัวเอง 149 00:06:38,360 --> 00:06:41,300 จะไปใช้ชื่อเทพเจ้าของชาวบาบิโลเนีย มันก็เสียฟอร์มใช่ไหม 150 00:06:41,300 --> 00:06:45,040 ดังนั้นค่ะ ชาวกรีกก็เลยตั้งชื่อวัน ตามเทพเจ้าของตัวเองนะคะ 151 00:06:45,040 --> 00:06:47,040 แต่ชื่อของกรีกมันจะต้องไม่เหมือนไทยแน่นอน 152 00:06:47,040 --> 00:06:49,900 ชื่อของกรีก เทพประจำดวงดาวเหล่านั้นก็คือ 153 00:06:49,900 --> 00:06:51,180 หนึ่ง Helios นะคะ 154 00:06:51,180 --> 00:06:53,440 Helios นี่คือเทพแห่งพระอาทิตย์ของกรีกเนอะ 155 00:06:53,440 --> 00:06:56,600 แล้วก็ไล่มาที่พระจันทร์ค่ะ พระจันทร์นี่คือ Selene นะคะ 156 00:06:56,600 --> 00:07:00,060 Selene นี่ถ้าใครคุ้นๆ Selene Serene อะไรอย่างนี้ 157 00:07:00,060 --> 00:07:01,560 ใครดู Sailor Moon น่าจะคุ้นกันดี 158 00:07:01,560 --> 00:07:05,120 Queen Serenity นะคะก็ชื่อมาจาก เทพแห่งพระจันทร์ของกรีกนี่แหละค่ะ 159 00:07:05,120 --> 00:07:07,240 ส่วนถัดไปนะคะวันอังคารของชาวกรีกเนี่ย 160 00:07:07,240 --> 00:07:10,900 เค้าก็ตั้งชื่อตาม Ares หรือว่า เทพเจ้าแห่งสงครามนั่นเองค่ะ 161 00:07:10,900 --> 00:07:13,660 และวันพุธเนี่ยนะคะ ชาวกรีกยกให้ Hermes ค่ะ 162 00:07:13,660 --> 00:07:15,700 หรือว่าเทพแห่งการสื่อสารนะ 163 00:07:15,700 --> 00:07:18,380 ส่วนวันพฤหัสเนี่ยนะคะ ถือว่าเป็นจอมเทพเลยเพราะว่า 164 00:07:18,380 --> 00:07:20,900 ชาวกรีกยกวันนี้ให้กับ Zeus นั่นเองค่ะ 165 00:07:20,900 --> 00:07:21,946 และวันศุกร์เนี่ยนะคะ 166 00:07:21,946 --> 00:07:25,660 นึกภาพดาวศุกร์ ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับ ความงาม ความรักอะไรแบบนี้ใช่ไหมคะ 167 00:07:25,660 --> 00:07:30,220 ดังนั้นชาวกรีกยกวันนี้ให้กับ Aphrodite ค่ะ หรือว่าเทพแห่งความรักนั่นเอง 168 00:07:30,220 --> 00:07:33,820 และสุดท้ายวันเสาร์เนี่ยนะคะ ชาวกรีกก็ยกวันนี้ให้กับ Kronos ค่ะ 169 00:07:33,820 --> 00:07:37,240 หรือว่าเทพแห่งกาลเวลาแล้วก็ เทพแห่งการเพาะปลูกของเค้านะคะ 170 00:07:37,240 --> 00:07:43,000 ทีนี้แน่นอนว่าพอไอเดียนี้แพร่ไปถึงกรีกแล้ว ก็ต้องมีอีกชนชาตินึงค่ะที่ได้รับไอเดียนี้ไป 171 00:07:43,000 --> 00:07:46,460 ก็คือชนชาติที่เอาแทบทุกอย่างมาจากกรีก แล้วมาแปลงเป็นของตัวเองนั่นแหละค่ะ 172 00:07:46,460 --> 00:07:48,920 ชนชาตินั้นก็คือพวกชาวโรมันนะคะ 173 00:07:48,920 --> 00:07:52,900 ซึ่งชาวโรมันก็เหมือนกับชาวกรีกแหละ เห็นชาวกรีกใช้อยู่ รับของเค้ามาแหละ 174 00:07:52,900 --> 00:07:56,700 แต่จะไปใช้ชื่อตามเค้าก็รู้สึกว่าแบบ เสียศักดิ์ศรีอะ เหมือนเป็นเมืองขึ้นเลย 175 00:07:56,700 --> 00:08:00,280 ชั้นตั้งชื่อตามเทพของชั้นเองดีกว่า ซึ่งก็แค่แปลมานิดหน่อยอะนะ 176 00:08:00,280 --> 00:08:03,380 ดังนั้นชาวโรมันนะคะในช่วงศตวรรษที่ 1-3 เนี่ย 177 00:08:03,380 --> 00:08:06,120 จำกันได้ใช่ไหมที่วิวเคยเล่าไปว่า มันมีการเปลี่ยนแปลง 178 00:08:06,120 --> 00:08:08,100 จากสัปดาห์นึงมีแปดวันให้เหลือเจ็ดวัน 179 00:08:08,100 --> 00:08:10,660 เพราะได้รับอิทธิพลจากกรีก แล้วก็บาบิโลเนียเนี่ยแหละค่ะ 180 00:08:10,660 --> 00:08:15,580 ชาวโรมันก็เลยตั้งชื่อวันนะคะตามเทพเจ้า ของตัวเองทั้งหมดเจ็ดองค์ด้วยกันค่ะ 181 00:08:15,580 --> 00:08:16,700 โดยไล่ดังนี้ 182 00:08:16,700 --> 00:08:19,940 แอบกระซิบนิดนึงนะ ทั้งกรีกและโรมันนี่ วิวทำให้เป็นภาษาสมัยใหม่เนอะ 183 00:08:19,940 --> 00:08:22,920 อาจจะไม่ใช่ภาษาละตินสมัยนั้น หรือภาษากรีกสมัยนั้น 184 00:08:22,920 --> 00:08:25,680 เพราะว่าวิวอ่านไม่ออกนะคะ แต่ว่าขึ้นไว้ให้แถวนี้แล้ว 185 00:08:25,680 --> 00:08:27,760 ถ้าใครออกเสียงได้ก็คอมเมนต์ได้นะคะ 186 00:08:27,760 --> 00:08:29,360 อะ กลับมาที่เรื่องของเราต่อค่ะ 187 00:08:29,360 --> 00:08:32,700 ทีนี้ชาวโรมันตั้งชื่อวันต่างๆตามเทพยังไงบ้าง 188 00:08:32,700 --> 00:08:37,380 วันแรกนะคะ เราคุ้นเคยกับเทพแห่ง พระอาทิตย์ของโรมันได้แก่ Apollo 189 00:08:37,380 --> 00:08:40,920 กับน้องสาวของเค้าที่ชื่อว่า Diana ที่เป็นเทพแห่งดวงจันทร์ใช่ไหมคะ 190 00:08:40,920 --> 00:08:43,720 แต่ Apollo กับ Diana นี่จริงๆ เป็นคอนเซ็ปต์ที่มาในยุคหลังค่ะ 191 00:08:43,720 --> 00:08:45,000 ในยุคแรกๆสุดๆเลยนะคะ 192 00:08:45,000 --> 00:08:47,540 เทพแห่งพระอาทิตย์กับ เทพแห่งพระจันทร์ของโรมัน 193 00:08:47,540 --> 00:08:49,160 ก็ได้รับอิทธิพลมาจากกรีกนี่แหละค่ะ 194 00:08:49,160 --> 00:08:50,980 ก็ชื่อเทพที่ชื่อว่า Sol 195 00:08:50,980 --> 00:08:53,740 Sol ไม่แน่ใจว่าออกเสียงว่ายังไงนะคะ 196 00:08:53,740 --> 00:08:55,400 อันนี้คือเทพแห่งพระอาทิตย์เนอะ 197 00:08:55,400 --> 00:08:57,360 ก็เลยเอามาตั้งชื่อเป็นวันอาทิตย์ค่ะ 198 00:08:57,360 --> 00:09:01,100 ก็เหมือนศัพท์คำว่า Solar อะไรแบบนี้ ที่เราพูดถึงพระอาทิตย์ คำเดียวกันนี่แหละค่ะ 199 00:09:01,100 --> 00:09:05,020 ส่วนวันจันทร์เนี่ยนะคะ แน่นอนว่า พระจันทร์ก็จะต้องไม่ใช่ Diana ใช่ไหม 200 00:09:05,020 --> 00:09:06,300 เพราะว่าไม่ได้มาคู่กัน 201 00:09:06,300 --> 00:09:08,420 คนที่มาคู่กับ Sol นะคะก็คือ 202 00:09:08,420 --> 00:09:09,440 Luna นั่นเอง 203 00:09:09,440 --> 00:09:11,600 Luna ที่แปลว่าพระจันทร์นั่นเองนะคะ 204 00:09:11,600 --> 00:09:13,180 ถัดไปค่ะวันอังคาร 205 00:09:13,180 --> 00:09:15,580 ถามว่าวันอังคารของชาวโรมัน ยกให้กับเทพองค์ไหนนะคะ 206 00:09:15,580 --> 00:09:19,860 ก็ต้องบอกว่าเค้ายกให้กับเทพ Mars หรือว่าเทพแห่งสงครามนั่นเองค่ะ 207 00:09:19,860 --> 00:09:23,680 และถัดไปนะคะ วันพุธเนี่ยเค้าก็ ยกให้กับเทพ Mercury นั่นเองค่ะ 208 00:09:23,680 --> 00:09:25,920 ส่วนวันพฤหัสนะคะก็ยังเป็นของจอมเทพอยู่ค่ะ 209 00:09:25,920 --> 00:09:27,240 ก็คือ Jupiter นั่นเอง 210 00:09:27,240 --> 00:09:29,960 และวันศุกร์ก็ยังเป็นของเทพแห่งความรักนะคะ 211 00:09:29,960 --> 00:09:32,140 แต่ว่าเปลี่ยนจาก Aphrodite เป็น Venus เนอะ 212 00:09:32,140 --> 00:09:33,180 ก็เทพองค์เดียวกันนี่แหละ 213 00:09:33,180 --> 00:09:36,300 ส่วนวันเสาร์วันสุดท้ายเนี่ยนะคะ ก็ยกให้กับ Saturn นั่นเองค่ะ 214 00:09:36,300 --> 00:09:40,200 ปรากฏว่าไอเดียนี้นะคะ ในอาณาจักรโรมัน ก็ใช้กันอย่างแพร่หลายมากๆค่ะ 215 00:09:40,200 --> 00:09:42,760 และอาณาจักรโรมันในยุคนั้นเป็นยุคที่ 216 00:09:42,760 --> 00:09:44,360 เรียกได้ว่ามีอำนาจมากๆนะคะ 217 00:09:44,360 --> 00:09:47,460 ดังนั้นไอเดียนี้ก็เลยแพร่กระจายไปทั่วโลกเลยค่ะ 218 00:09:47,460 --> 00:09:51,620 คือแพร่จากอาณาจักรโรมันไปจนถึงอินเดียแล้วก็จีนค่ะ 219 00:09:51,620 --> 00:09:53,620 ชาวอินเดียกับชาวจีนก็เลยรับอิทธิพล 220 00:09:53,620 --> 00:09:56,820 การเรียกชื่อวันตามเทพเจ้าแบบนี้จากโรมันไปนะคะ 221 00:09:56,820 --> 00:10:01,060 อย่างไรก็ตาม ช่างฝั่งเอเชียก่อนนะคะ เราตัดกลับมาที่อาณาจักรโรมันของเราค่ะ 222 00:10:01,060 --> 00:10:04,320 นอกจากแพร่ให้ชาวบ้านแล้วเนี่ย ปรากฏว่าตัวเองก็ไม่ได้อยู่นิ่งนะคะ 223 00:10:04,320 --> 00:10:06,040 เพราะว่าในช่วงศตวรรษที่ 4 ค่ะ 224 00:10:06,040 --> 00:10:08,400 เกิดเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์นึงขึ้นก็คือ 225 00:10:08,400 --> 00:10:13,480 ในอาณาจักรโรมันเนี่ย มีจักรพรรดิองค์แรก ของอาณาจักรโรมันที่นับถือศาสนาใหม่ 226 00:10:13,480 --> 00:10:15,100 คือไม่ได้นับถือเทพเจ้าโรมัน 227 00:10:15,100 --> 00:10:17,120 แต่ว่านับถือศาสนาคริสต์ค่ะ 228 00:10:17,120 --> 00:10:19,240 นั่นก็คือจักรพรรดิคอนสแตนตินนั่นเอง 229 00:10:19,240 --> 00:10:22,520 ดังนั้นคอนสแตนตินก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนวันค่ะ 230 00:10:22,520 --> 00:10:26,380 คือตอนแรกเวลานับสัปดาห์ที่วิว เอาพระอาทิตย์ขึ้นมาก่อนตลอด 231 00:10:26,380 --> 00:10:27,440 จริงๆไม่ใช่นะคะ 232 00:10:27,440 --> 00:10:30,660 ชาวโรมันแต่เดิม วันแรกของสัปดาห์คือวันเสาร์ค่ะ 233 00:10:30,660 --> 00:10:34,040 แต่เมื่อจักรพรรดิคอนสแตนติน หันมานับถือศาสนาคริสต์นะคะ 234 00:10:34,040 --> 00:10:38,440 เค้าก็รู้สึกว่าแบบเฮ้ย ไม่ได้ วันอาทิตย์คือวันที่สำคัญที่สุดของสัปดาห์ 235 00:10:38,440 --> 00:10:40,160 เพราะว่านี่คือวันที่หยุดพักของพระเจ้า 236 00:10:40,160 --> 00:10:42,160 เป็นวันที่เราต้องไปเข้าโบสถ์อะไรต่างๆ 237 00:10:42,160 --> 00:10:44,240 ดังนั้นจักรพรรดิคอนสแตนตินนะคะ 238 00:10:44,240 --> 00:10:47,120 ก็เลยเปลี่ยนวันแรกของสัปดาห์ให้เป็นวันอาทิตย์ค่ะ 239 00:10:47,120 --> 00:10:50,680 เอาล่ะ หลังจากโอ้เอ้มานานนะคะ ตอนนี้เราจะผ่านไปอย่างรวดเร็วค่ะ 240 00:10:50,680 --> 00:10:55,820 เพราะว่าหลังจากที่อาณาจักรโรมันยึดครอง อำนาจในยุโรปมานานแสนนานค่ะ 241 00:10:55,820 --> 00:10:59,480 ปรากฏว่าแน่นอนว่าทุกอย่าง มีเกิดขึ้นก็ต้องมีเสื่อมไปค่ะ 242 00:10:59,480 --> 00:11:03,340 อาณาจักรโรมันก็ค่อยๆเสื่อมอำนาจลง เสื่อมอำนาจลง เสื่อมอำนาจลงค่ะ 243 00:11:03,340 --> 00:11:07,960 ส่งผลให้ในยุโรปเนี่ยนะคะ เกิดการ แบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นสองฝ่ายด้วยกันค่ะ 244 00:11:07,960 --> 00:11:10,220 คือไม่ได้แบ่งจริงๆถึงขนาดตีกันนะแต่ว่า 245 00:11:10,220 --> 00:11:11,900 มันก็แบ่งกันค่อนข้างชัดอยู่ 246 00:11:11,900 --> 00:11:15,500 คือแบ่งเป็นพวกประเทศที่ ยังใช้ภาษาของชาวโรมันอยู่ 247 00:11:15,500 --> 00:11:17,460 ก็คือพวกที่ใช้ภาษาละตินค่ะ 248 00:11:17,460 --> 00:11:20,300 กับอีกพวกเนี่ยนะคะก็เป็น กลุ่มคนที่ใช้อีกภาษานึงนะคะ 249 00:11:20,300 --> 00:11:21,900 ก็คือพวก Northern Germanic นะคะ 250 00:11:21,900 --> 00:11:25,240 หรือพวกใช้ภาษา Germanic นั่นเอง ที่มาจากภาคเหนือเนอะ 251 00:11:25,240 --> 00:11:29,440 ทีนี้แน่นอนว่าพอมีกลุ่มคนใหม่เข้ามา ก็เหมือนเดิมค่ะ แพตเทิร์นเดิมเลยคือ 252 00:11:29,440 --> 00:11:31,140 กลุ่มคนใหม่ พวก Germanic เนี่ย 253 00:11:31,140 --> 00:11:33,180 ก็ได้รับอิทธิพลจากชาวโรมันนะคะ 254 00:11:33,180 --> 00:11:36,140 เอาการตั้งชื่อวันในภาษาละตินของชาวโรมันไป 255 00:11:36,140 --> 00:11:39,280 แต่จะเอาไปหมดเนี่ยมันก็เสียศักดิ์ศรี ชั้นก็มีเทพของชั้นเหมือนกัน 256 00:11:39,280 --> 00:11:41,460 แล้วเทพของชั้นเนี่ยแตกต่างจากเทพของแกด้วยนะ 257 00:11:41,460 --> 00:11:44,640 ดังนั้นนะคะชาว Germanic ก็เลย มีการเอาเทพของตัวเองเนี่ย 258 00:11:44,640 --> 00:11:47,500 เข้าไปตั้งชื่อวันแทนที่เทพของชาวโรมันค่ะ 259 00:11:47,500 --> 00:11:51,200 แต่ไม่ได้เอาไปทั้งหมดนะ เพราะว่า การตั้งชื่อวันของชาวโรมันนั้นฮิตมากจริงๆ 260 00:11:51,200 --> 00:11:53,780 ดังนั้นก็เลยเหลือไว้ให้ทั้งหมดสามวันค่ะ 261 00:11:53,780 --> 00:11:56,600 ส่วนอีกสี่วันในสัปดาห์เนี่ย ยึดเป็นของเทพตัวเองไปนะคะ 262 00:11:56,600 --> 00:11:59,520 แล้วถามว่าเทพของชาว Germanic นี่คือเทพกลุ่มไหน 263 00:11:59,520 --> 00:12:03,000 ก็ต้องว่าเป็นเทพกลุ่มที่เราเริ่ม คุ้นเคยกันมากขึ้นแล้วค่ะ นั่นก็คือ 264 00:12:03,000 --> 00:12:05,340 เทพ Teutonic และเทพ Norse นั่นเอง 265 00:12:05,340 --> 00:12:07,440 เทพนอร์สนี่หลายคนน่าจะคุ้นกันเพราะว่า 266 00:12:07,440 --> 00:12:08,980 เป็นแฟนมาร์เวลใช่ไหม เหมือนวิว 267 00:12:08,980 --> 00:12:13,220 ก็คือดูเรื่อง Thor มาก็จะรู้จัก Thor รู้จัก Odin รู้จัก Loki อะไรต่างๆใช่ไหม 268 00:12:13,220 --> 00:12:15,780 เดี๋ยวเรามาดูกันว่าพวกนี้ เกี่ยวข้องยังไงกับชื่อวันนะคะ 269 00:12:15,780 --> 00:12:19,180 อย่างไรก็ตาม เราจะ fast forward ค่ะ เลื่อนเวลาไปอย่างรวดเร็วนะคะ 270 00:12:19,180 --> 00:12:22,100 ในที่สุดระยะเวลายุคกลางของยุโรปก็มาถึงค่ะ 271 00:12:22,100 --> 00:12:23,620 ยุคกลางหรือว่ายุคมืดนั่นเอง 272 00:12:23,620 --> 00:12:26,860 ยุคสมัยแห่งอัศวิน แห่งปราสาทอะไรต่างๆนะคะ 273 00:12:26,860 --> 00:12:29,900 เรื่องราวที่กระทบกับชื่อวันของเราเกิดขึ้นในยุคนี้ค่ะ 274 00:12:29,900 --> 00:12:33,620 คือในยุคนั้นเนี่ยนะคะ พวกชาว Germanic เนี่ย มีกลุ่มนึงเป็นกลุ่มที่สำคัญมาก 275 00:12:33,620 --> 00:12:36,080 นั่นก็คือกลุ่มที่ชื่อว่า Anglo-Saxon ค่ะ 276 00:12:36,080 --> 00:12:39,120 คือพวกชาว Anglo-Saxon เนี่ยเข้าไปยึดพื้นที่ที่นึง 277 00:12:39,120 --> 00:12:41,800 ซึ่งจะส่งผลต่อภาษาอังกฤษอย่างหนักเลยในทุกวันนี้ 278 00:12:41,800 --> 00:12:47,380 นั่นก็คือพื้นที่บริเวณเกาะ Britain หรือว่า ที่ตั้งของสหราชอาณาจักรทุกวันนี้นั่นเองอะนะ 279 00:12:47,380 --> 00:12:51,160 ดังนั้นนะคะ เมื่อพวก Anglo-Saxon เข้าไปยึดพื้นที่บริเวณนั้นเนี่ย 280 00:12:51,160 --> 00:12:53,340 ก็พาเอาภาษา Germanic เนี่ยเข้าไปด้วย 281 00:12:53,340 --> 00:12:55,300 พอเอาภาษาเข้าไปก็ไม่ได้มีภาษาอย่างเดียวหรอก 282 00:12:55,300 --> 00:12:58,060 ก็ต้องเอาการนับชื่อวันเข้าไปด้วยใช่ไหมคะ 283 00:12:58,060 --> 00:13:00,800 และภาษาของชาว Anglo-Saxon ในตอนนั้นก็คือ 284 00:13:00,800 --> 00:13:03,340 บรรพบุรุษของภาษาอังกฤษในทุกวันนี้นี่แหละค่ะ 285 00:13:03,340 --> 00:13:07,100 ดังนั้นตอนนี้สรุปง่ายๆนะคะ เราก็น่าจะ เห็นการเดินทางของชื่อวันแล้วแหละ 286 00:13:07,100 --> 00:13:09,200 ว่าตั้งแต่ชาวบาบิโลเนียตั้งขึ้นมา 287 00:13:09,200 --> 00:13:10,780 ชาวกรีกเอาเทพตัวเองไปแทน 288 00:13:10,780 --> 00:13:12,460 ชาวโรมันเอาเทพตัวเองไปแทน 289 00:13:12,460 --> 00:13:17,140 และหนึ่งในชาว Germanic ในสมัยนั้น ก็คือพวก Anglo-Saxon เนี่ยก็พาเอาอิทธิพลนี้ 290 00:13:17,140 --> 00:13:21,100 เข้ามายังบริเวณที่เป็นประเทศอังกฤษ หรือว่าสหราชอาณาจักรในปัจจุบันนี้ 291 00:13:21,100 --> 00:13:25,460 แล้วภาษาของเค้าก็จะส่งผลต่อ Old English แล้วก็ Middle English 292 00:13:25,460 --> 00:13:28,900 ที่เป็นบรรพบุรุษของภาษาอังกฤษ ในทุกวันนี้นั่นเองค่ะ 293 00:13:28,900 --> 00:13:31,540 ยาวนานมาก ยังไม่ได้แปลชื่อวันเลยนะทุกคน 294 00:13:31,540 --> 00:13:33,940 ขอไม่ลงรายละเอียดเรื่อง Old English กับ Middle English นะ 295 00:13:33,940 --> 00:13:35,360 เพราะเดี๋ยวจะมึนเข้าไปอีกนะคะ 296 00:13:35,360 --> 00:13:38,740 ดังนั้นหลังจากนอกเรื่องไปไกลนะคะ เรากลับมาที่ประเด็นของเราดีกว่าว่า 297 00:13:38,740 --> 00:13:42,460 ชื่อวันในภาษาอังกฤษแต่ละวัน แปลว่าอะไรและมีที่มาจากอะไรค่ะ 298 00:13:42,460 --> 00:13:45,360 แอบบอกตรงนี้นิดนึงนะคะว่า เนื่องจากนี่คือภาษาอังกฤษเนอะ 299 00:13:45,360 --> 00:13:48,480 ดังนั้นต้นตระกูลของมันก็จะมาจากภาษา Old English 300 00:13:48,480 --> 00:13:51,920 ซึ่งวิวไม่ได้มีความรู้ขนาดนั้น บางทีวิวอาจจะออกเสียงผิดอะไรบ้างนะคะ 301 00:13:51,920 --> 00:13:54,060 อย่างไรก็ตามวิวจะลงคำอ่านไว้ให้นะคะ 302 00:13:54,060 --> 00:13:57,880 ดังนั้นถ้าสมมติว่าใครอยากรู้วิธีออกเสียง อะไรจริงๆก็ลองไปเสิร์ชดูได้ค่ะ 303 00:13:57,880 --> 00:13:59,320 เริ่มจากวันแรกก่อนเลย 304 00:13:59,320 --> 00:14:02,540 วันแรกนะคะก็คือวันอาทิตย์ หรือว่า Sunday นั่นเอง 305 00:14:02,540 --> 00:14:06,060 อันนี้ชัดเจนว่าเป็นวันที่เค้า เก็บมาจากชาวโรมันนะคะ 306 00:14:06,060 --> 00:14:07,900 ไม่ได้เปลี่ยนจากภาษาละตินขนาดนั้น 307 00:14:07,900 --> 00:14:10,400 เพราะว่า Sunday ก็คือ Day of the Sun นะคะ 308 00:14:10,400 --> 00:14:11,120 ชัดเจนที่สุด 309 00:14:11,120 --> 00:14:15,340 แต่อย่างไรก็ตามค่ะ เมื่อไปพิจารณา ภาษาในยุโรปตอนนี้ก็จะเห็นว่า 310 00:14:15,340 --> 00:14:18,620 มันแบ่งเป็นสองกลุ่มใช่ไหม ที่บอกว่าเป็นกลุ่ม Germanic กับกลุ่มละติน 311 00:14:18,620 --> 00:14:21,880 เอ้า ทำไมพวกชาวละติน เค้าถึงไม่ใช้คำอะไรที่ขึ้นต้นด้วยตัว S 312 00:14:21,880 --> 00:14:24,100 เหมือนพวก Sunday เหมือนพวกอะไรอย่างนี้แล้ว 313 00:14:24,100 --> 00:14:27,620 ก็ต้องบอกว่าหลังที่ส่งอิทธิพลให้คนอื่นไปเนี่ย ปึงๆๆๆ 314 00:14:27,620 --> 00:14:30,280 ปรากฏว่าพวกชาวโรมันที่ใช้ภาษาละตินเนี่ย 315 00:14:30,280 --> 00:14:33,180 ก็ได้รับอิทธิพลจากศาสนาคริสต์ ที่วิวเล่าให้ฟังไปใช่ไหมคะ 316 00:14:33,180 --> 00:14:37,040 เค้าก็เลยเปลี่ยนวันนี้จากวันของพระอาทิตย์ เปลี่ยนเป็นวันของพระเจ้าค่ะ 317 00:14:37,040 --> 00:14:41,100 ซึ่งในภาษาละตินเนี่ยเค้าจะเรียกวันนี้ว่า Domenica นะคะ หรือว่า Day of God 318 00:14:41,100 --> 00:14:44,080 ดังนั้นพวกประเทศที่ใช้ภาษาละตินเป็นรากนี่ก็จะใช้ 319 00:14:44,080 --> 00:14:46,040 ชื่อวันอาทิตย์เนี่ยขึ้นต้นด้วยตัว D 320 00:14:46,040 --> 00:14:48,460 ทั้งหลายทั้งแหล่อย่างที่ขึ้นไว้ให้เห็นตรงนี้นะ 321 00:14:48,460 --> 00:14:50,980 ก็จะแตกต่างจากพวกภาษาตระกูล Germanic นะคะ 322 00:14:50,980 --> 00:14:53,180 อย่างไรก็ตาม ช่างมันค่ะ เดี๋ยวลึกไปนะ 323 00:14:53,180 --> 00:14:54,960 ข้ามไปที่วันจันทร์ดีกว่าค่ะ 324 00:14:54,960 --> 00:14:56,960 วันจันทร์นี่ก็เช่นเคยนะคะ Monday 325 00:14:56,960 --> 00:14:58,000 Day of the Moon 326 00:14:58,000 --> 00:15:01,800 ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ได้รับอิทธิพลมาจาก โรมันโดยไม่ได้เปลี่ยนไปค่ะ 327 00:15:01,800 --> 00:15:04,100 แต่ถามว่าเค้าเปลี่ยนจาก Luna มาเป็น Moon 328 00:15:04,100 --> 00:15:05,520 จาก L มาเป็น M ได้ยังไงนะคะ 329 00:15:05,520 --> 00:15:08,860 ก็ต้องบอกว่าฝั่งทาง Germanic เนี่ย เค้าไม่ได้เรียกพระจันทร์ว่า Luna ค่ะ 330 00:15:08,860 --> 00:15:12,300 เค้าเรียกพระจันทร์ว่า Mani นะคะ ไม่แน่ใจวิธีออกเสียงนะ 331 00:15:12,300 --> 00:15:15,120 ดังนั้นมันก็เลยกลายมาเป็น Moon ในทุกวันนี้นี่แหละค่ะ 332 00:15:15,120 --> 00:15:17,720 ถัดไปอย่างรวดเร็วนะคะ ไปที่วันอังคารค่ะ 333 00:15:17,720 --> 00:15:22,700 วันอังคารจะเป็นวันแรกเลยค่ะ ที่เค้าเอาเทพของกรีกโรมันทิ้งไปเลย 334 00:15:22,700 --> 00:15:24,300 แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นเทพของตัวเองค่ะ 335 00:15:24,300 --> 00:15:26,800 เค้าบอกว่าอะ ชาวละตินใช้ Mars ใช่ไหม 336 00:15:26,800 --> 00:15:28,200 Mars เป็นเทพแห่งสงคราม 337 00:15:28,200 --> 00:15:31,080 เราก็มีเทพแห่งสงคราม ของเราเหมือนกัน ของนอร์สเนี่ย 338 00:15:31,080 --> 00:15:33,720 ดังนั้นเค้าก็เลยเปลี่ยนเอา Mars ออกค่ะ 339 00:15:33,720 --> 00:15:35,700 แล้วก็เปลี่ยนวันอังคารหรือว่า Tuesday เนี่ย 340 00:15:35,700 --> 00:15:37,460 เป็นชื่อของเทพ Tyr นะคะ 341 00:15:37,460 --> 00:15:39,260 ซึ่งเป็นเทพแห่งสงครามของนอร์สเนอะ 342 00:15:39,260 --> 00:15:41,480 ซึ่งชื่อเทพ Tyr ของชาวนอร์สเนี่ยนะคะ 343 00:15:41,480 --> 00:15:44,800 เมื่อเปลี่ยนเป็นภาษา Germanic เนี่ย เค้าจะเรียกเทพองค์นี้ว่า Tiu ค่ะ 344 00:15:44,800 --> 00:15:47,360 ดังนั้น Tuesday ก็คือ Day of Tiu 345 00:15:47,360 --> 00:15:49,700 หรือว่าวันของเทพเจ้า Tyr นั่นเองค่ะ 346 00:15:49,700 --> 00:15:51,820 ถัดไปนะคะที่ Wednesday หรือว่าวันพุธ 347 00:15:51,820 --> 00:15:56,080 วันพุธนี่ถ้าพูดถึงกรีกโรมันก็จะเป็น เทพเจ้าแห่งการสื่อสารอะไรต่างๆใช่ไหม 348 00:15:56,080 --> 00:15:59,520 แต่พวกชาว Germanic นะคะบอกว่า ไม่อะ วันนี้ชั้นไม่อยากสื่อสารกับใคร 349 00:15:59,520 --> 00:16:02,640 ชั้นอยากยกวันพุธให้กับมหาเทพสูงสุดของชั้น 350 00:16:02,640 --> 00:16:05,500 ดังนั้นมหาเทพสูงสุดของชาวนอร์สคืออะไรคะทุกคน 351 00:16:05,500 --> 00:16:08,780 ทุกคนรู้อยู่แล้วแหละ พ่อของ Thor นั่นก็คือ Odin นั่นเองค่ะ 352 00:16:08,780 --> 00:16:11,300 แต่ Wednesday มันก็ไม่ใช่ Odin's Day นี่หน่า 353 00:16:11,300 --> 00:16:13,820 ก็ต้องว่า Odin เนี่ยเป็นภาษาของชาวนอร์ส 354 00:16:13,820 --> 00:16:15,400 แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น Germanic เนี่ย 355 00:16:15,400 --> 00:16:17,420 เค้าจะเรียก Odin ว่า Woden ค่ะ 356 00:16:17,420 --> 00:16:20,460 Woden Odin คล้ายๆกันเนอะ 357 00:16:20,460 --> 00:16:22,620 ดังนั้น Wednesday นะคะก็คือ Woden's Day 358 00:16:22,620 --> 00:16:24,500 ที่เพี้ยนมาเรื่อยๆจาก Germanic 359 00:16:24,500 --> 00:16:27,360 เปลี่ยนมาเป็น Old English เปลี่ยนมาเป็นอะไรต่างๆนี่แหละค่ะ 360 00:16:27,360 --> 00:16:30,160 ทีนี้ถัดไปที่วัน Thursday หรือวันพฤหัสนะคะ 361 00:16:30,160 --> 00:16:32,040 ถามว่า Thursday เนี่ยเป็นวันของใคร 362 00:16:32,040 --> 00:16:36,340 ใครที่เคยดู Thor ภาคหนึ่งก็จะรู้นะว่า Thursday ก็คือ Thor's Day นะคะ 363 00:16:36,340 --> 00:16:37,800 แล้วมันมาเป็น Thor's ได้ยังไง 364 00:16:37,800 --> 00:16:41,020 ก็ต้องบอกว่าจากเดิม Thursday เนี่ย เป็นวันของเทพ Jupiter ใช่ไหม 365 00:16:41,020 --> 00:16:43,420 ซึ่งเป็นเทพที่สำคัญที่สุดของชาวโรมัน 366 00:16:43,420 --> 00:16:46,160 ดังนั้นค่ะสำหรับชาวนอร์ส แม้ว่า Odin จะเป็นเทพสูงสุด 367 00:16:46,160 --> 00:16:49,240 แต่เทพที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนี่ย ดันเป็น Thor ใช่ไหม 368 00:16:49,240 --> 00:16:53,180 เค้าก็เลยยกวันนี้ให้กับ Thor หรือว่าเทพเจ้าแห่งสายฟ้านั่นเองค่ะ 369 00:16:53,180 --> 00:16:55,300 ทีนี้ไปที่ Friday ของเรานะคะ 370 00:16:55,300 --> 00:16:57,400 Friday เนี่ยจากเดิมเป็นของเทพ Venus ใช่ไหมคะ 371 00:16:57,400 --> 00:16:58,240 เทพแห่งความรัก 372 00:16:58,240 --> 00:17:00,560 แน่นอนว่าชาวนอร์สก็มีของตัวเองเหมือนกันค่ะ 373 00:17:00,560 --> 00:17:05,020 เทพแห่งความรักของชาวนอร์สเนี่ยก็คือ Frigg หรือว่า Freya นั่นเองนะคะ 374 00:17:05,020 --> 00:17:09,920 ดังนั้นวันศุกร์ก็เลยกลายเป็น Freya's Day หรือว่า Friday ในที่สุดค่ะ 375 00:17:09,920 --> 00:17:13,140 และในที่สุดเราก็มาถึงวันสุดท้าย ของสัปดาห์อย่างรวดเร็วนะคะ 376 00:17:13,140 --> 00:17:14,580 นั่นก็คือ Saturday นั่นเอง 377 00:17:14,580 --> 00:17:18,420 ซึ่ง Saturday ก็ชัดเจนนะว่ายังมาจาก เทพ Saturn ของชาวโรมันอยู่ 378 00:17:18,420 --> 00:17:21,700 คือชาว Germanic ไม่ได้ไปเปลี่ยน อะไรของเค้ามากมายค่ะ 379 00:17:21,700 --> 00:17:24,880 เป็นไงบ้างคะ นี่คือคำแปลของ ชื่อวันในสัปดาห์ทั้งเจ็ดนะคะ 380 00:17:24,880 --> 00:17:27,020 เกริ่นอย่างยาวนาน แปลแป๊บเดียวเอง 381 00:17:27,020 --> 00:17:29,600 จะเห็นว่าหลายๆวันแปลคล้ายๆกับของเราเลย 382 00:17:29,600 --> 00:17:32,500 แต่บางวันก็ดูแปลแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิงนะคะ 383 00:17:32,500 --> 00:17:33,080 เพราะว่าอะไร 384 00:17:33,080 --> 00:17:34,860 เพราะว่าอย่างที่วิวเล่าไปนั่นแหละว่า 385 00:17:34,860 --> 00:17:38,720 เราไปรับอิทธิพลจากโรมันไง ก่อนที่โรมันจะส่งอิทธิพลไปทาง Germanic 386 00:17:38,720 --> 00:17:41,460 ดังนั้นเรารับก่อนที่เค้าจะแตกไปอีกแขนงนึงนะ 387 00:17:41,460 --> 00:17:45,580 ดังนั้นมันก็เลยมีบางส่วนที่ยังเหมือนกันอยู่ แล้วก็มีบางส่วนที่แตกต่างกันไปนั่นเองค่ะ 388 00:17:45,580 --> 00:17:48,060 เป็นไงบ้างคะ นี่แหละเรื่องราวที่วิวอยากให้ทุกคนเห็นค่ะ 389 00:17:48,060 --> 00:17:51,260 คือเรื่องการแปลมันเป็นอะไรที่นิดๆหน่อยๆ ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น 390 00:17:51,260 --> 00:17:54,280 แต่ส่วนที่สนุกกว่าก็คือ การเดินทางของภาษานั่นเอง 391 00:17:54,280 --> 00:17:58,500 ซึ่งถ้าแค่โยงภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ เข้าด้วยกันแล้วยังสนุกไม่พอนะ 392 00:17:58,500 --> 00:18:02,420 หลายคนที่มีโอกาสได้เรียนภาษาญี่ปุ่น และภาษาจีนก็น่าจะรู้ว่า 393 00:18:02,420 --> 00:18:04,140 เฮ้ย มันเกี่ยวข้องกันเข้าไปอีก 394 00:18:04,140 --> 00:18:07,000 คือภาษาจีนนี่อาจจะไม่ได้เกี่ยว ขนาดนั้นแล้วในปัจจุบันเพราะว่า 395 00:18:07,000 --> 00:18:10,320 จีนไม่ได้ใช้วิธีการนับเหมือน ในสมัยราชวงศ์ชิงแล้วนะคะ 396 00:18:10,320 --> 00:18:13,660 จีนปัจจุบันนับวันก็ Xingqi yi, Xingqi er, Xingqi san 397 00:18:13,660 --> 00:18:16,880 ก็คือวันที่หนึ่ง วันที่สอง วันที่สามของสัปดาห์ เพื่อความง่ายใช่ไหมคะ 398 00:18:16,880 --> 00:18:19,240 เพราะแม้ว่าชาวจีนจะได้รับอิทธิพลจากโรมันเนี่ย 399 00:18:19,240 --> 00:18:23,480 แต่ว่าชาวจีนเค้าก็เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้ใช้แบบเดิม เหมือนในสมัยราชวงศ์ชิงแล้วใช่ไหม 400 00:18:23,480 --> 00:18:27,320 แต่อย่างไรก็ตามนะคะ ก่อนที่จีนจะล้มล้างตัวเอง เลิก เปลี่ยน ไม่ใช้แล้วเนี่ย 401 00:18:27,320 --> 00:18:29,900 จีนก็ยังมีโอกาสแพร่กระจายความเชื่อนี้ค่ะ 402 00:18:29,900 --> 00:18:32,100 ไปยังญี่ปุ่นแล้วก็เกาหลีนะคะ 403 00:18:32,100 --> 00:18:35,180 ตัวภาษาเกาหลีเนี่ย วิวไม่รู้ภาษาเกาหลี ดังนั้นขออนุญาตไม่พูดถึงเนอะ 404 00:18:35,180 --> 00:18:37,620 แต่ภาษาญี่ปุ่น ถ้าใครรู้ภาษาญี่ปุ่นจะเห็นว่า 405 00:18:37,620 --> 00:18:40,260 ในบางวันเนี่ยนะคะก็ยังมีความเกี่ยวพันกันอยู่ 406 00:18:40,260 --> 00:18:41,640 เอ๊ะ ทำไมมันแปลเหมือนๆกัน 407 00:18:41,640 --> 00:18:45,180 เช่น วันจันทร์ของชาวญี่ปุ่นนะคะ เราก็จะเรียกวันนั้นว่า Getsuyobi 408 00:18:45,180 --> 00:18:46,320 Getsu แปลว่าอะไร 409 00:18:46,320 --> 00:18:47,820 Getsunova รู้จักกันใช่ไหม 410 00:18:47,820 --> 00:18:49,200 Getsu แปลว่าพระจันทร์ 411 00:18:49,200 --> 00:18:51,760 อ้าว วันจันทร์ก็พูดถึงพระจันทร์เหมือนกันเลย 412 00:18:51,760 --> 00:18:54,100 หรือว่าวันอังคารเราก็พูดถึง Kayobi ใช่ไหม 413 00:18:54,100 --> 00:18:54,920 Ka แปลว่าไฟ 414 00:18:54,920 --> 00:18:57,300 เอ๊ วันอังคารของเราก็พูดถึงถ่านติดไฟ 415 00:18:57,300 --> 00:18:59,940 เออ มันก็มีความเกี่ยวพันอะไรกันอยู่ ประมาณนี้แหละค่ะ 416 00:18:59,940 --> 00:19:03,620 มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญนะคะทุกคน มันก็มีที่มาที่ไปอย่างที่เล่ามาทั้งหมดนี่ล่ะค่ะ 417 00:19:03,620 --> 00:19:05,660 เป็นไงบ้าง เป็นอีกหนึ่งคลิปที่ 418 00:19:05,660 --> 00:19:08,900 เรียกได้ว่าเนื้อหาเข้มข้นมากๆจริงๆนะคะ มึนกันไหม 419 00:19:08,900 --> 00:19:11,260 ถ้าสมมติใครชื่นชอบให้วิวเอาอะไรแบบนี้มาเล่าอีก 420 00:19:11,260 --> 00:19:14,720 ก็อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ 421 00:19:14,720 --> 00:19:16,300 แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน 422 00:19:16,300 --> 00:19:17,220 บ๊ายบาย 423 00:19:17,220 --> 00:19:17,960 สวัสดีค่ะ 424 00:19:17,960 --> 00:19:21,380 เอาจริงๆนะคะทุกคน คลิปนี้เราพูดถึง ภาษาต่างๆมากมาย 425 00:19:21,380 --> 00:19:24,500 และภาษาทั้งในฝั่งตะวันตก พวกภาษาตระกูลละตินทั้งหลาย 426 00:19:24,500 --> 00:19:26,680 ภาษาสเปน ภาษาอะไรต่างๆเนี่ย 427 00:19:26,680 --> 00:19:30,900 รวมไปถึงภาษาฝั่งตะวันออกอย่าง พวกญี่ปุ่น จีน เกาหลีอะไรเนี่ย 428 00:19:30,900 --> 00:19:32,020 มันก็เกี่ยวพันกันไปหมด 429 00:19:32,020 --> 00:19:36,080 ดังนั้นเชื่อว่าคนที่ติดตามวิวเนี่ย น่าจะรู้ภาษาต่างๆมากกว่าวิวเยอะค่ะ 430 00:19:36,080 --> 00:19:39,720 ถ้าสมมติว่าใครมีอะไรอยากพิมพ์คุยกันก็ พิมพ์คุยกันมาด้านล่างได้นะคะ 431 00:19:39,720 --> 00:19:41,720 ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันนะคะทุกคน 432 00:19:41,720 --> 00:19:42,840 วันนี้ลาไปก่อนค่ะ 433 00:19:42,840 --> 00:19:43,540 บ๊ายบาย 434 00:19:43,540 --> 00:19:44,440 สวัสดีค่ะ