-
สวัสดีค่ะ วิวจาก Channel Point of View ค่ะ
-
กลับมาทุกวันพุธเช่นเคยนะคะ ที่วิวจะนำเอา
-
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
-
เล่มนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ
-
หลังจากที่ออกจากไทม์ไลน์หลักไปพูดถึงเมืองขีดขิน
ไปพูดถึงทรพีอะไรซะนานนะคะ
-
ในที่สุดเราก็เข้าใกล้เส้นเรื่องหลักของเรามากขึ้นแล้วค่ะ
-
วันนี้จะเป็นตอนสำคัญอีกตอนหนึ่งนะคะ
-
เดี๋ยวมาดูกันว่าเนื่อหาเป็นยังไงค่ะ
-
แต่ก่อนอื่น
-
ใครที่ยังไม่ได้กดปุ่ม subscribe ให้วิวนะคะ
กดปุ่ม subscribe ให้วิวก่อน กดปุ่ม subscribe เสร็จแล้ว
-
อย่าลืมกดเสร็จแล้วกดปุ่มกระดิ่งเล็กๆ ที่อยู่ด้านข้างด้วย
มันจะได้แจ้งเตือนทุกครั้งเลยที่วิวอัพคลิปวีดีโอใหม่ๆ ค่ะ
-
ส่วนใครที่รู้สึกว่าวิวเล่าชักช้า เนิบนาบ ไม่ทันใจเลยนะคะ แล้วก็ฟังความเร็วสปีดนี้ทันนะคะ
-
สามารถกดไปดูตรงนี้ได้เลยค่ะ วิวเคยเล่ารามเกียรติ์ตั้งแต่ต้นจนจบเรื่องให้จบภายใน 10 นาที เอาไว้นะคะ
-
แต่ถ้าใครอยากติดตามซีรีส์นี้ตั้งแต่ต้นมาจนถึงตอนนี้
แบบต่อเนื่อง non stop ก็สามารถกดไปดูตรงนี้ได้เช่นกันค่ะ
-
วิวทำเป็น playlist ไว้ให้แล้วนะคะ
-
โอเคค่ะ ไม่นอกเรื่องไปมากกว่านี้แล้ว
-
ถ้าพร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุกและสาระแล้วก็
ไปฟังกันเลยค่ะ
-
หลังจากที่เราไปพูดถึงเมืองอื่นมานานแสนนานค่ะ
-
เราควรจะกลับมาพูดถึงกรุงศรีอโยธยาของเราดีกว่า
-
ความเดิมตอนที่แล้วเราพูดถึงเมืองแห่งนี้ไปนะคะ
-
คือพระรามเพิ่งจะแต่งงานกับนาสีดาแล้วก็จะกลับมาอยู่ที่เมืองนี้ใช่ไหมคะ
-
หลังจากที่พระรามแต่งงานกับนางสีดามาได้สักพักหนึ่งค่ะ
ท้าวทศรถก็เริ่มรู้สึกว่า
-
เออ ฉันเนี่ยแก่แล้วนะ
-
คือมีลูกมีเต้าลูกก็แต่งงานแล้ว
-
อืม ตามสไตล์ของพวกนิทานอินเดียต่างๆ นะคะ พอเริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่ก็จะเริ่ม
-
ยกสมบัติพัสถานอะไรต่างๆ ให้ลูกดูแลต่อใช่ไหมค่ะ
เพราะว่าตัวเองก็จะต้องแบบว่า
-
ไปบำเพ็ญตบะ ไปนู่นไปนี่ คือเรียกได้ว่า
ออกจากทางโลกเข้าสู้ทางธรรมแล้ว
-
ท้าวทศรถก็เช่นเดียวกันค่ะ
-
ท้าวทศรถเนี่ยนะคะ ก็เริ่มแบ่งพระสมบัติในสมองค่ะ ประมาณว่า
-
อ่อ ฉันมีลูกชายทั้งหมด 4 คน
-
แน่ๆ อยู่แล้วล่ะ ว่าพระพรตเนี่ยเป็นทายาทเมืองไกยเกษ
-
ก็จะต้องไปดูแลเมืองไกยเกษ
-
แล้วพระสัตรุดเนี่ยสนิทกับพระพรต
ดังนั้นให้พระสัตรุดไปอยู่กับพระพรตแล้วกัน
-
ลูก 2 คน ไปอยู่เมืองไกยเกษ ส่วนลูกรามกับลูกลักษมณ์เนี่ยนะ ก็อยู่ที่กรุงศรีอโยธยานี่แหละ
-
เมืองไกยเกษฉันไม่มีอำนาจอะไรไปปลดกษัตริย์เขา
แล้วตั้งลูกฉันตอนนี้
-
แต่เมืองนี้ฉันมีอำนาจจะปลดตัวเอง
-
ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ฉันอยากจะลงจากราชสมบัติ
-
แล้วก็ยกราชสมบัติทั้งหมดให้ลูกรามไปดูแลแทนนะคะ
-
ดังนั้นค่ะ ท้าวทศรถก็เลยปรึกษา
กับเหล่าเสนาอำมาตย์ทั้งหลาย
-
แล้วก็เรียกพระรามเข้ามาค่ะมาสั่งความต่างๆ ประมาณว่า
-
ลูก พ่อเนี่ยแก่แล้วนะลูก
-
พ่อคิดว่าพ่อควรจะยกราชสมบัติต่างๆ ให้ลูกเอาไปดูแลนะ
-
เดี๋ยวพ่อหาฤกษ์ดีๆ นะ แล้วก็ตั้งลูกขึ้นมาปกครองเมืองแทนพ่อละกัน
-
ฝั่งพระรามนะคะ คิดอยู่ในใจแต่ไม่ได้พูดออกไป
พระรามก็คิดว่าแบบ
-
เอ๊ะ เดี๋ยวนะ นี่ฉันเป็นพระนารายณ์อวตารนะ
-
เชิญอวตารฉันมาปราบยักษ์ไม่ใช่เหรอ
-
แล้วถ้าให้ฉันมาปกครองบ้านเมืองเนี่ย
-
แล้วฉันจะไปปราบยักษ์ตอนไหน ฉันก็อยู่แต่ในเมือง
ฉันจะไปเจอยงเจอยักษ์ได้ยังไง
-
เอ๋ แต่พ่อให้อะ จะขัดพ่อก็ไม่ใช่เรื่องอยู่
-
อะอะอะ ตามน้ำไปก่อนละกัน
-
พระรามนะคะ ก็เลยตกลงตามนั้นไปค่ะ
-
ท้าวทศรถก็ไปจัดแจง จัดงานต่างๆ นานา
-
อะ ให้ไปเชิญพระฤาษีองค์นั้นพระฤาษีองค์นี้
ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของพระรามเข้ามาในเมือง
-
ให้โหรดูดงดูดวงว่าวันไหนเป็นฤกษ์ดีที่สุด
ที่จะให้พระรามขึ้นครองราช
-
ซึ่งบังเอิญนะคะ ว่าชะตากรรมของพระรามไง
จะต้องออกไปปราบยักษ์
-
ดังนั้นโหรเนี่ย ปกติก็ดูแม่น โอ้ วันนี้วันดี วันนี้วันร้าย
อะไรอย่างงี้
-
แต่วันนี้เทวดาดลใจให้กลับร้ายเป็นดีไปหมดเลย แบบ
-
จริงๆ วันนี้นะ ถ้าพระรามขึ้นครองราชนะ
ไม่ได้ขึ้นครองราชหรอก
-
จะต้องระหกระเหินเดินป่าอะไรอย่างงี้
-
แต่ปรากฏโหรก็แบบดูไปดูมา
-
อู้ย วันนี้วันดีมากเลือกวันนี้แหละ นะคะ แล้วก็
-
จัดการบอกท้าวทศรถไป ท้าวทศรถก็เลยเชื่อโหรตามนั้นค่ะ
-
นอกจากนี้นะคะ ท้าวทศรถก็ยังให้คนไปเชิญพระพรต
กับพระสัตรุดกลับมาจากเมืองไกยเกษ
-
เพื่อกลับมาร่วมงานนี้อีกด้วยนะคะ
-
ทุกคนนี่ก็แฮปปี้กระดี๊กระด๊า ทุกคนรักพระรามน่ะนะ
-
ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง
-
จำได้ไหมค่ะว่าใครเกลียดพระราม
คนนั้นนะคะ ก็คือนางค่อมกุจจี
-
สาวรับใช้คนสนิทของนางไกยเกษี
-
เมียอีกองค์หนึ่งของท้าวทศรถนั่นเอง
-
นางค่อมนี่แบบ
-
ฉันหงุดหงิด ฉันไม่โอเคเลย ทำไมพระรามถึงจะได้ครองราช
-
ไอ้ ไอ้ ไอ้เด็กเปรตพระรามเนี่ยนะ จะได้ครองราช
-
ไม่อะ ฉันยอมไม่ได้
-
จำไม่ได้เหรอ ตอนเด็กๆ เนี่ยมันเอาลูกกระสุนมายิงหลังฉัน
แอ่นไปแอ่นมา
-
ไม่เอาๆๆ ยอมไม่ได้
-
ว่าแล้วนะคะ นางค่อมก็รีบแจ้นไปหานางไกยเกษีค่ะ ไปฟ้อง
-
ไปถึงก็ร้องห่มร้องไห้ใหญ่โต
-
นางไกยเกษีก็ถามว่าแบบ
-
เอ้ย นางค่อมเป็นอะไร ไหนเล่าให้ข้าฟังซิ เกิดอะไรขึ้น
ทำไมร้องไห้ใหญ่โตขนาดนั้น
-
นางค่อมก็เลยแสดงละครเต็มที่เลย ประมาณว่าแบบ
-
พระแม่ ดูสิ ทุกคนล้วนมองข้ามหัวพระแม่ไปหมดเลย
ทำไม นี่เห็นไหม
-
เขาจะตั้งพระรามขึ้นมาเป็นกษัตริย์เมืองอโยธยาแล้ว
-
แล้วพระพรตแย่กว่าพระรามตรงไหน
พระพรตก็เป็นถึงลูกกษัตริย์
-
แล้วพระองค์นี่ก็เป็นลูกสาวของเมืองไกยเกษที่ยิ่งใหญ่
-
เชื้อสายพระองค์ก็ใช่ย่อย
ทำไมพระพรตถึงไม่ได้ครองกรุงศรีอโยธยา
-
แล้วคิดดูนะ จริงๆ แล้วพระรามกับพระพรตนี่ก็แบบ
-
ถึงจะบอกว่าพระรามเป็นพี่ แต่เป็นพี่กี่นาทีเอง
ท่านแค่เบ่งออกมาช้ากว่านางเกาสุริยานิดเดียว
-
จริงๆ พระพรตก็มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ทุกอย่าง
-
ฝั่งนางไกยเกษีนะคะ บังเอิญเทวดาดลใจ
คือเทวดาก็อยากให้ให้พระรามออกไปปราบยักษ์เหมือนกันไง
-
เทวดาก็ดลใจทำให้นางไกยเกษีเนี่ย
-
เกิดอิจฉาขึ้นมา นางไกยเกษีก็แบบ
-
เอ่อ จริงด้วย ทำไมอะ ทำไมพระรามได้
แล้วทำไมลูกข้าไม่ได้ปกครองบ้านเมืองอะ
-
ทำไม ทำไมลูกพรตของข้าไม่ได้ปกครองบ้านเมือง
-
เราจะทำยังไงดี นางค่อม เราจะต้องแก้ไขปัญหานี้ยังไง
-
นางค่อมนะคะ คิดแผนทั้งหมดมาแล้วในหัว นางค่อมก็แบบ
-
โอ้ย พระแม่จะไปยากอะไร
-
จำได้ไหม ตอนนู่นน่ะ เมื่อนานมาแล้ว
-
ท่านน่ะ เคยติดตามท้าวทศรถไปปราบปทูตทันต์
-
ถ้าท่านจำไม่ได้นะ ท่านกดตรงนี้เลย นี่ๆๆ ตรงมุมๆ เนี่ย
-
ข้าลงการ์ดไว้ให้แล้ว อ่าวไม่ใช่ อันนี้เนียนโฆษณา นะคะ
-
ตอนนั้นน่ะ ท่านจำได้ไหมว่าท่านได้อะไรมา
-
ท่านได้คำสัญญาจากท้าวทศรถมาข้อหนึ่งว่า
-
ท่านสามารถขออะไรก็ได้ แล้วตอนนั้นท่านยังไม่ได้ใช้ไง
-
นี่ไงเอามาใช้ตอนนี้เลย
ก็ไปขอให้พระพรตได้ขึ้นครองราชแทนสิ
-
นางไกยเกษีได้ยินอย่างนั้น
-
อู้ว!
-
เห็นด้วย
-
เป็นความคิดที่ดีมาก ว่าแล้วนะคะ นางไกยเกษีก็แบบ
-
ไม่อาบน้ำ ไม่แต่งตัว สยายผม ทำผมแบบเศร้าเต็มที่อะ
ทำเหมือนคนอกหักอะ
-
นั่งรอเวลาอยู่
-
ฝั่งท้าวทศรถนะคะ คืนก่อนที่จะตั้งพระรามเป็นพระราชาค่ะ
-
อยู่ดีๆ ก็นึกถึงนางไกยเกษีขึ้นมาประมาณว่าแบบ
-
เออ ปกตินะทุกวันเนี่ย
-
เวลาฉันออกไปหานางสนมกำนัลทั้งหลาย
ทุกคนก็จะต้องนั่งกันอยู่พร้อมหน้า
-
แต่นี่ไม่เห็นนางไกยเกษีมาหลายวันแล้วน๊า
-
เกิดอะไรขึ้น คิดถึงจังเลย
-
ว่าแล้วนะคะ ท้าวทศรถก็เลยไปหานางไกยเกษีถึงในห้องเลยค่ะ
-
ก็ไปถึง แต่งไปซะหล่อเลย กะว่า สวัสดีจ้าไกยเกษี
เรามาฉลองการขึ้นครองราชของพระรามด้วยกันเถอะ
-
ปรากฏว่าไปถึง แหวกม่านเข้าไปในห้อง แหวกไป ฟึ่บ!
-
ไกยเกษีน้องเป็นอะไรใครทำอะไรน้อง
-
คือภาพที่เห็นนะคะไกยเกษีนั่งทึ้งหัวตัวเองอยู่บนเตียง
นั่งร้องไห้ฟูมฟาย นั่งแบบ
-
เรื่องมันเศร้านะคะ
-
ถามยังไงก็ไม่ยอมตอบสักที
-
สุดท้ายนางไกยเกษีก็มารยาหญิงนะคะ ปาดน้ำตา
-
แล้วก็ลุกขึ้นมาบอกว่า
-
ท้าวทศรถ ข้าเสียใจมาก ท่านจำได้ไหมว่า
ท่านเคยสัญญาอะไรกับข้าไว้ข้อหนึ่ง
-
ตอนที่เราไปปราบปทูตทันต์ด้วยกันน่ะ
-
ท่านสัญญาว่า ข้าขออะไรท่านก็จะให้
-
แต่จนถึงบัดนี้
-
เวลามันผ่านมันตั้ง 10 กว่าปีแล้ว ท่านยังไม่เคยให้ข้าเลย
-
ท้าวทศรถได้ยินแบบนั้นนะคะ งง
-
งง คือประมาณว่าแบบ
-
ก็ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าแล้วไง ข้าบอกว่าขออะไรก็ได้
เจ้าบอกว่าไว้ก่อน เจ้าไม่ขอเอง
-
จนถึงทุกวันนี้เจ้าก็ยังไม่ขอ แล้วจะมาทวงอะไรตอนนี้
-
อะอะ ไกยเกษี แต่ข้านี่เป็นคนรักษาความสัตย์อะนะ
-
คือข้าสัญญาอะไรไว้ ข้าก็ต้องทำตาม
-
อยากได้อะไรบอกข้ามาซิ
-
ไกยเกษีได้ยินอย่างนั้นนะคะ เข้าทาง
-
เสร็จข้าล่ะ ไกยเกษีลุกขึ้นมาแล้วก็บอกว่า
-
พระองค์ ข้าเนี่ย ขออย่างหนึ่งได้ไหม
ไหนๆ ท่านก็รักษาความสัตย์แล้ว
-
ข้าขอสิ่งนี้ละกัน ข้าขอว่า
-
ให้พระรามเนี่ย ที่จะขึ้นครองราชพรุ่งนี้ ออกไปเดินป่าสัก 14 ปี ออกไปบำเพ็ญตบะ ไปบำเพ็ญพรต สะสมบุญบารมีก่อน
-
ส่วนลูกของข้าเนี่ย พระพรตที่กำลังเดินทางมาที่เมืองเนี่ยนะ
-
ให้พระพรตเนี่ย ขึ้นครองราชแทนก่อนได้ไหมสัก 14 ปี
-
แล้วเดี๋ยวพอพระรามกลับมาเนี่ยนะ
ค่อยให้พระพรตลงแล้วให้พระรามขึ้นครองราชแทน
-
ไม่งั้นนะ ลูกข้าไม่มีวันขึ้นครองราชเด็ดขาดเลย
-
ท้าวทศรถได้ยินอย่างนั้นนะคะ
-
โกรธมาก ท้าวทศรถแบบ
-
อะไร เรื่องดีๆ ตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่ขอ มาขอเรื่องอะไรเนี่ย
-
สุดท้ายนะคะ ทั้งสองคน เถียงกันไปเถียงกันมา
-
ฝั่งท้าวทศรถนะคะ ก็พยายามจะขอร้องความเห็นใจประมาณว่าแบบ
-
ได้โปรดเถอะไกยเกษี เห็นใจพี่บ้าง
โปรดอย่าสร้างรอยช้ำ ซ้ำเป็นรอยสอง รักแรกช้ำ...
-
ไม่ใช่! ละเล่นมุกซะ เพลงเก่าเลยนะคะ
-
คือท้าวทศรถก็พยายามจะบอกว่าแบบ เออ เห็นใจพี่หน่อยเถอะนะ ขออย่างอื่นได้ไหม คือพี่อะไม่อยากเสียสัตย์
-
คือถ้าน้องขอพี่ก็ต้องให้
-
แต่ว่าพี่ก็จัดงานขึ้นมาแล้ว
งานมันจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ชั่วโมงนี้แล้ว
-
ได้โปรดเถอะ เปลี่ยนเป็นขออย่างอื่น เห็นใจพี่ เห็นใจลูก เห็นใจอะไร
-
พระรามก็เหมือนลูกของน้องไม่ใช่เหรอ
-
แล้วมันจะมีทำเนียมที่ไหน ที่จะให้น้องเนี่ย ขึ้นครองราชก่อนพี่
-
คือพระพรตเป็นน้อง พระพรตเป็นน้อง เข้าใจไหมไกยเกษี
-
ฝั่งไกยเกษีก็แบบ แล้วไงอะ เป็นน้องแล้วไง
งี้ก็แปลว่าชีวิตนี้พระพรตก็ไม่มีวันขึ้นครองราชสิ
-
แล้วทำไมอะ แล้วทำไมพี่จะต้องให้พระรามขึ้นครองราชด้วย
-
พระพรตกับพระรามก็เหมือนกันอะ ยังไม่มีความดีความชอบ
ยังไม่ได้ทำอะไรเลย
-
ให้ประเทศชาตินี้ คือถ้าพี่จะครองต่อไปก็เรื่องของพี่
-
แต่ทำไมอยู่ดีๆ ต้องอยากยกให้ลูกด้วย
แล้วทำไมต้องเป็นลูกคนอื่น ทำไมไม่เป็นลูกฉัน
-
ว่าแล้วนะคะ ทั้งคู่ก็เถียงกันไปเถียงกันมา
-
สุดท้ายนะคะ ท้าวทศรถนี่โกรธมาก โกรธถึงขั้นแบบ
แบบหยิบพระขรรค์จะมาฟันนางไกยเกษีตายแล้วนะ แต่แบบ
-
ทำใจไม่ได้จริงๆ เพราะว่าท้าวทศรถเป็นคนที่ถือความสัตย์มากๆ ค่ะ
-
สุดท้ายก็แทบจะกระอักเลือดค่ะ ประมาณว่า
-
ได้ ฉันก็คงต้องทำตามที่เธอบอกน่ะนะ แต่ขอให้รู้ไว้ว่า
วันใดที่พระรามก้าวออกไปจากเมืองนี้ จะเป็นวันตายของพี่
-
ด้วยอะไรดลใจนางไกยเกษีนะคะ นางไกยเกษีก็เลยไม่แคร์ แบบ don't mind don't care
-
ก็พี่จะตายก็ได้ แต่พี่จะต้องรักษาความสัตย์
ลูกฉันจะต้องได้ขึ้นครองราชนะคะ
-
คงคิดประมาณว่าท้าวทศรถไม่ตายจริงหรอกจะบ้าเหรอ
คนอะไรเสียใจตาย นะ
-
สุดท้ายนะคะ ท้าวทศรถก็นั่งร้องไห้ฟูมฟาย
ในห้องของไกยเกษีจนเช้าค่ะ ด้วยความแบบ
-
อึดอัดใจสุดขีดว่าแบบ
-
ฉันทำอะไรก็ไม่ได้ ฉันจะต้องทำตามอีนี่พูดเหรอ
-
ส่วนไกยเกษีนะคะ
-
ก็ให้นางค่อมค่ะ ออกไปเฝ้าหน้าปราสาท ส่วนตัวเองค่ะ ออกไปเฝ้าหน้าห้อง
-
เพื่อที่ว่าจะได้ไม่มีใครมีโอกาสไปเฝ้าท้าวทศรถค่ะ
-
จนรุ่งเช้านะคะ พระราชพิธีก็เริ่มต้นขึ้นค่ะ ทุกคนก็เดินทางกันเข้ามามากมาย
-
ตามที่ได้นัดเอาไว้นะคะ ตรงนั้นก็จัดเรียบร้อย
ตรงนี้ก็จัดเรียบร้อย
-
ทุกคนมาประชุมพร้อมกันเรียบร้อยแล้ว ขาดอยู่แค่คนเดียวก็คือ
-
ท้าวทศรถ ประธานในพิธีนั้นเอง ทุกคนก็ถามหากัน ประมาณว่า
-
ท้าวทศรถหายไปไหน ท้าวทศรถหายไปไหน
-
ท้าวทศรถหายไปไหน
-
ส่วนนางไกยเกษีหรือว่าเมียๆ คนอื่นก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไร
ไม่ได้เข้าร่วมพิธีอยู่แล้ว
-
ก็เลยไม่มีใครถามหา
-
หากันไปหากันมาหาไม่เจอค่ะ
-
สุดท้ายก็เลยส่งเสนาบดีคนหนึ่งเนี่ย
ให้ไปตามท้าวทศรถที่ปราสาท
-
พอไปถึงนะคะ นางไกยเกษีก็สั่งมาประมาณว่า
-
อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก ท้าวทศรถแค่มีอะไรบางอย่าง
อยากคุยกับพระรามน่ะ
-
ให้เสนาเนี่ยไปเชิญพระรามจากในพิธี
ขึ้นมาหาท้าวทศรถที่ปราสาทซิ
-
ซึ่งเสนาบดีก็งงๆ นะคะ เสนาก็แบบ ทำไมอะทำไมต้องเชิญพระรามขึ้นมาในปราสาทด้วย
-
นี่พระราชพิธีมันจะเริ่มแล้ว ฤกษ์งามยามดี ที่อุตสาห์ดูดวงไว้มันจะผ่านพ้นไปแล้วเนี่ย
-
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นะ แต่ก็ไปเชิญพระรามมาค่ะ
-
พอไปเชิญพระรามเสร็จนางไกยเกษีก็
-
เตรียมชุดไว้ให้ละ เป็นชุดนักบวช เป็นแบบชุดบวชฤาษีอะ
-
ก็ส่งให้พระรามแล้วก็บอกว่า
-
อะ พระราม เนี่ยนะตามคำสั่งของพ่อเจ้า พ่อบอกว่าให้เจ้าออกไปบวชอยู่ป่าเป็นเวลา 14 ปี
-
เสร็จนะ หลังจาก 14 ปี เจ้าค่อยกลับมาครองราช
-
ตอนนี้อย่าเพิ่งครองเลย วันนี้ไม่เหมาะเท่าไหร่หรอก
-
ซึ่งก็ทำให้พระรรามเนี่ยงงพอสมควรนะคะ พระรามก็แบบ
-
เอ้า เอ้าไหนพ่อบอกว่าให้ครองราชวันนี้
-
เออ แต่ก็ดีนะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ดี
-
ก็คิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วแหละ ว่าอยากหาโอกาสออกไปปราบยงปราบยักษ์
-
ยังไม่ควรจะขึ้นครองราชตอนนี้
-
ถ้าขึ้นครองราชตอนนี้ก็ไม่ได้ปราบยักษ์สิ
-
พระรามนะคะ ก็เลยถือเครื่องแต่งตัวทั้งหมดเนี่ย
-
ไปหาแม่ตัวเอง ก็คือพระนางเกาสุริยานั้นเอง
-
เพื่อไปบอกลาเเม่นะคะ
-
ซึ่งเรื่องราวต่อจากนี้นะคะ ก็จะเป็นดราม่าใหญ่โตวุ่นวาย
ไปอีกเยอะเลยค่ะ
-
แต่วิวคิดว่าคลิปนี้ยาวพอสมควรแล้ว
-
เราควรจะตัดจบซะก่อนแล้วไปต่อที่อาทิตย์หน้าดีกว่าค่ะ
-
ว่าหลังจากที่เรื่องราวการต้องออกบวชของพระรามเนี่ย
-
เผยแพร่ออกไป ทุกคนเริ่มรับรู้แล้ว
-
จะเกิดดราม่าอะไรขึ้นะคะ
-
สำหรับใครนะคะที่ชื่นชอบคลิปที่ทั้งสนุกและมีสาระแบบนี้นะคะ ก็อย่าลืม
-
กด like เป็นกำลังใจให้วิว
แล้วก็กด share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันค่ะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ บ๊าย บาย
-
สวัสดีค่ะ
-
จริงๆ เท่าที่ดูกันนะคะ ก็มีแต่พวกผู้ใหญ่นี่แหละ
ที่มีปัญหากับการออกบวชของพระรามน่ะนะ
-
ส่วนตัวพระรามเองนี่ออกจะชิลๆๆๆ
-
จริงๆ ถ้านางไกยเกษีเนี่ย
-
เก็บพรข้อนี้เอาไว้
-
แล้วตัดสินใจไปคุยกับพระรามก่อนว่าแบบ
-
พระรามลูกอย่าเพิ่งขึ้นครองราชเลย ลองไปออกบวชปราบยักษ์ดูก่อนไหม
-
บางทีเผลอๆ พระรามอาจจะแฮปปี้ แล้วก็
-
ยินดีออกบวชแล้วก็ไม่ต้องเสียคำขอข้อนั้นไป
แล้วนางไกยเกษีก็จะไม่ดูเป็นตัวร้ายขนาดนี้
-
ก็เป็นได้เนาะ ก็
-
แต่ก็นะ นางไกยเกษีจริงๆ ก็ไม่รู้นี่ว่าพระรามจริงๆ แล้ว
ไม่ได้อยากขึ้นครองราชนะคะ
-
เอาเป็นว่ามันก็เป็นความไม่เข้าใจกันในครอบครัว
-
นะคะ แล้วก็เป็นความคาดหวังของพ่อแม่
ที่คาดหวังจะให้ลูกของตัวเองได้ดีที่สุด
-
ประมาณนั้นแหละค่ะ
-
ก็ ทุกเรื่องจำเป็นจะต้องมีตัวร้ายน่ะนะ
-
เพราะว่าไม่งั้นพระรามก็ไม่ได้ออกไปปราบยักษ์
แล้วยักษ์มันก็จะต้องอยู่ตรงนั้นต่อไป
-
ดังนั้นอย่าเกลียดนางไกยเกษีขนาดนั้นเลย
-
น่ะนะคะ
-
อะ
-
คลิปนี้พอแค่นี้ดีกว่าค่ะ วันนี้ลาไปก่อนนะคะ บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ