มุมมองของพืช
-
0:00 - 0:02มันเป็นแนวคิดง่าย ๆ เกี่ยวกับธรรมชาติ
-
0:02 - 0:04ผมอยากที่จะพูดเพื่อธรรมชาติ
-
0:04 - 0:06เพราะว่าเราไม่ได้พูดถึงมันมากมาย
ในสองสามวันที่ผ่านมานี้ -
0:06 - 0:11ผมอยากจะพูดให้กับดิน ผึ้ง
ต้นไม้ และสัตว์ทั้งหลาย -
0:11 - 0:16และบอกคุณเกี่ยวกับเครื่องมือ
เครื่องมือแสนธรรมดาที่ผมได้พบ -
0:16 - 0:21ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีอะไรมากไปกว่าวงจรไฟฟ้า
มันไม่ใช่เทคโนโลยีอะไร -
0:21 - 0:27ผมคิดว่ามันช่างทรงพลังต่อการเปลี่ยนแปลง
ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับโลกธรรมชาติ -
0:27 - 0:30และสิ่งมีชีวิตสายพันธ์ุอื่น ๆ ที่เราพึ่งพาอาศัย
-
0:30 - 0:33และเครื่องมือนั้นก็แสนธรรมดา
อย่างที่คริส [แอนเดอร์สัน] ได้ชี้แจงไว้ -
0:33 - 0:38มองดูพวกเราและโลก
จากมุมมองของพืชหรือสัตว์ -
0:38 - 0:42มันไม่ใช่ความคิดผมหรอกครับ
คนอื่นเคยพูดถึงมาแล้ว -
0:42 - 0:45แต่ผมได้พยายามที่จะนำมันไปสู่อีกขั้น
-
0:46 - 0:48ให้ผมได้บอกคุณว่าผมไปได้ถึงไหน
-
0:48 - 0:51คล้าย ๆ ความคิดอื่น ๆ ของผม
เหมือนกับอีกหลายเครื่องมือที่ผมใช้ -
0:51 - 0:55ผมได้พบมันในสวน
ผมเป็นคนสวนที่อุทิศตัวอย่างมาก -
0:55 - 0:59และมันก็วันหนึ่งเมื่อเจ็ดปีก่อน
ผมกำลังปลูกมันฝรั่งอยู่ -
0:59 - 1:01มันเป็นสัปดาห์แรกในเดือนพฤษภาคม
-
1:01 - 1:06ที่นี่ นิว อิงแลนด์
ที่ซึ่งต้นแอปเปิ้ลเพิ่งจะเริ่มผลิดอก -
1:06 - 1:08พวกมันเหมือนเมฆขาวบนนั้น
-
1:08 - 1:11ผมก็อยู่ตรงนี้ ปลูกพืชหัวของผม
-
1:11 - 1:13ขุดมันขึ้นมาและปลูกมัน
-
1:13 - 1:16และพวกผึ้งก็ทำงานอยู่บนต้นไม้
-
1:16 - 1:18บัมเบิลบี ก็ทำให้สิ่งนี้สั่น
-
1:18 - 1:21และสิ่งหนึ่งที่ผมชอบเสียจริง ๆ
เกี่ยวกับการทำสวน -
1:21 - 1:24ก็คือ มันไม่ได้ดึงความสนใจของคุณ
ไปเสียหมด -
1:24 - 1:26คุณไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
มันไม่เหมือนกับการทำงานไม้ -
1:26 - 1:30และใจคุณก็ว่างพอสำหรับการครุ่นคิด
-
1:30 - 1:34และคำถามที่ผมให้กับตัวเอง
ในบ่ายวันนั้นในสวน -
1:34 - 1:37ขณะที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่
กับพวกบัมเบิลบี -
1:37 - 1:41ก็คือ ผมและบัมเบิลบีนั้นมีอะไรเหมือนกัน
-
1:41 - 1:45บทบาทของเราในสวนนี้
เหมือนหรือต่างกันอย่างไร -
1:45 - 1:47และผมก็ได้รู้ว่า จริง ๆ แล้ว
พวกเราก็มีอะไรค่อนข้างคล้ายกัน -
1:47 - 1:53เราทั้งคู่ต่างแพร่ยีนของสายพันธุ์เรา
ไม่ใช่สายพันธ์ุอื่น -
1:53 - 1:58และเราทั้งคู่ -- บางที ถ้าผมสามารถ
จะจินตนาการถึงมุมมองของผึ้งได้-- -
1:58 - 2:00คิดว่าเรานั้นก็กำกับหน้าที่ของเรา
-
2:00 - 2:04ผมตัดสินใจว่าจะปลูกมันฝรั่งชนิดไหน --
-
2:04 - 2:08ผมเลือกพันธุ์ ยูคอน โกลด์
หรือ เยลโล่ว ฟินน์ หรืออะไรก็ตาม -
2:08 - 2:13และผมได้รวบรวมยีนเหล่านี้
จากหนังสือรายชื่อเมล็ดจากทั่วประเทศ -
2:13 - 2:15ซื้อมัน และผมก็ปลูกมัน
-
2:15 - 2:19และไม่น่าสงสัย
ผึ้งนั้นทึกทักเอาว่ามันได้ตัดสินใจ -
2:19 - 2:22"ฉันจะไปที่ต้นแอปเปิ้ลนั่น
ฉันจะไปยังดอกไม้ -
2:22 - 2:25ฉันจะไปเอาน้ำหวาน และฉันจะไปยังใบไม้"
-
2:25 - 2:30พวกเรามีไวยกรณ์ที่แนะว่าพวกเราเป็นใคร
-
2:30 - 2:35ว่าพวกเราเป็นผู้มีอำนาจหลักสูงสุด
ในธรรมชาติ ผึ้งก็คงจะคิดเช่นนั้น -
2:35 - 2:41ผมปลูกมันฝรั่ง ผมกำจัดวัชพืชในสวน
ผมเลี้ยงสายพันธุ์อื่น ๆ -
2:41 - 2:43แต่ในวันนั้น มันปรากฏต่อผมว่า
-
2:43 - 2:46ถ้าหากไวยกรณ์นั้นไม่ได้เป็นไปมากกว่า
ความโอหังจากเราเองล่ะ -
2:46 - 2:50เพราะแน่ล่ะว่า ผึ้งก็คิดว่า
เขาหรือเธอนั้นก็เป็นผู้กำกับควบคุม -
2:50 - 2:52แต่เรารู้ดีกว่า
-
2:52 - 2:56เรารู้ว่าที่เกิดอะไรขึ้นระหว่างผึ้งและดอกไม้
-
2:56 - 3:00ก็คือผึ้งนั้นโดนควบคุมจัดการ
โดยดอกไม้อย่างแยบยล -
3:00 - 3:03และเมื่อผมพูดถึงจัดการ
ผมกำลังพูดในแนวคิดของดาวินนะครับ -
3:03 - 3:06ผมหมายความว่า มันได้มีวิวัฒนาการ
ลักษณะชุดหนึ่งที่จำเพาะมาก -
3:06 - 3:11สี กลิ่น รสชาติ รูปแบบ ที่ล่อผึ้งเข้ามา
-
3:11 - 3:15และผู้ก็ถูกล่อหลอก
ให้ไปยังน้ำหวานอย่างชาญฉลาด -
3:15 - 3:18แล้วก็นำเอาผงอะไรบางอย่างติดขาไปด้วย
-
3:18 - 3:20และก็ไปยังดอกไม้ดอกถัดไป
-
3:20 - 3:23ผึ้งนั้นไม่ได้เป็นผู้ควบคุมจัดการ
-
3:23 - 3:25และผมก็ตระหนักว่า ผมก็ไม่ใช่เช่นกัน
-
3:25 - 3:28ผมถูกลวงโดยมันฝรั่งพวกนั้น
ไม่ใช่อะไรอื่นเลย -
3:28 - 3:33ให้ผมปลูกพวกมัน เพื่อที่จะกระจายยีนของมัน
ให้มันมีที่อยู่มากขึ้นอีกนิด -
3:33 - 3:37และนั้นก็เป็นตอนที่ผมได้ความคิดที่ว่า
"อืม มันจะเกิดอะไรขึ้น -
3:37 - 3:40ถ้าพวกเราลองมองดูพวกเราในมุมมอง
ของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นที่กำลังใช้เราอยู่" -
3:40 - 3:45และสำหรับผมแล้วเกษตรกรรมก็ไม่เหมือนกับ
ประดิษฐกรรม ไม่ใช่เทคโนโลยีของมนุษย์ -
3:45 - 3:47แต่เป็นเหมือนการพัฒนา
แบบมีวิวัฒนาการร่วมกัน -
3:47 - 3:53ที่กลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดมาก ๆ
ส่วนใหญ่เป็นหญ้าที่กินได้ กำลังเอาเปรียบเรา -
3:53 - 3:58หาหนทางสำเร็จว่า
จะให้เราถางป่าบนโลกนี้ได้อย่างไร -
3:58 - 4:01เป็นการแข่งขันของพวกหญ้า ใช่ไหมครับ
-
4:01 - 4:03และทันใดนั้นเอง ทุก ๆ อย่างก็ดูต่างไป
-
4:03 - 4:07และทันใดนั้นเอง การตัดหญ้าในสนามวันนั้น
ก็กลายเป็นประสบการณ์ที่ต่างไปโดยสิ้นเชิง -
4:07 - 4:10ผมคิดเสมอ และที่จริง
ได้เขียนถึงสิ่งนี้ในหนังสือเล่มแรก -
4:10 - 4:11มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการทำสวน
-
4:11 - 4:16สนามหญ้านั้น
เป็นธรรมชาติภายใต้รองเท้าวัฒนธรรม -
4:16 - 4:18ที่ซึ่งเป็นดินแดนแห่งระบอบเผด็จการ
-
4:18 - 4:22และเมื่อเราตัดหญ้า เราได้กระทำการป่าเถื่อน
กดขี่สายพันธุ์เหล่านั้น -
4:22 - 4:26และไม่เคยอนุญาตให้มันได้ทิ้งเมล็ด
หรือตาย หรือสืบพันธ์ุ -
4:26 - 4:28และสนามหญ้ามันก็เป็นเช่นนั้น
-
4:28 - 4:32แต่แล้วผมก็ได้ตระหนัก "ไม่สิ
นั่นเป็นสิ่งที่จริง ๆ แล้ว หญ้าอยากให้เราทำ" -
4:32 - 4:39ผมเป็นเหยื่อ เป็นไอ้โง่แห่งสนามหญ้า
ที่มีเป้าหมายจะเอาชนะบรรดาต้นไม้ -
4:39 - 4:42ซึ่งพวกมันแข่งกันแย่งแสงอาทิตย์
-
4:42 - 4:46และการที่เราตัดหญ้า
เราป้องกันต้นไม้งอกขึ้นมาใหม่ -
4:46 - 4:49ซึ่งใน นิว อิงแลนด์ มันเกิดขึ้นเร็วมาก ๆ
-
4:49 - 4:52ดังนั้น ผมเริ่มที่จะมองมันในแนวทางนี้
-
4:52 - 4:54และเขียนหนังสือทั้งเล่มเกี่ยวกับมัน ชื่อว่า
"The Botany of Desire" -
4:54 - 4:58และผมรู้ว่าในแบบเดียวกัน
คุณสามารถมองที่ดอกไม้ -
4:58 - 5:03และสรุปสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ
เกี่ยวกับรสนิยมและความต้องการของผึ้ง -
5:03 - 5:09ว่า พวกมันชอบความหวาน ว่าพวกมันชอบสีนี้
ไม่ชอบสีนั้น ว่าพวกมันชอบความสมมาตร -
5:09 - 5:12เราจะได้รู้อะไรกันเกี่ยวกับตัวเราเอง
ด้วยการทำในแบบเดียวกันนี้ -
5:12 - 5:15มันฝรั่งบางชนิด ยาบางชนิด
-
5:15 - 5:21กัญชาพันธ์ุผสมระหว่าง ซาติว่า-อินดิกา
จะมีอะไรบอกกับเรา -
5:21 - 5:26และนั้น ไม่ใช่ว่ามันเป็นหนทางที่น่าสนใจ
ในการมองโลกเรางั้นหรือ -
5:26 - 5:30เอาล่ะ สิ่งที่ท้าทายความคิด --
ผมบอกได้เลยว่ามันโอหังจริง ๆ -
5:30 - 5:33ก็คือว่า มันใช้เราทำอะไร
-
5:33 - 5:37และเมื่อคุณพูดถึงธรรมชาติ ซึ่งเป็นผู้กระทำ
ที่แท้จริงในฐานะที่ผมเป็นนักเขียน -
5:37 - 5:40มันเข้ากันได้อย่างไรกับการทดสอบ
แบบอัลโด ลีโอโพล (Aldo Leopold) -
5:40 - 5:44ซึ่งหมายถึงว่า มันทำให้เราเป็นพลเมืองที่ดีขึ้น
ของสังคมชีวิตหรือเปล่า -
5:44 - 5:51มันให้เราทำในสิ่งที่จะนำไปสู่การส่งเสริม
และความเป็นอมตะของชีวชาติ -
5:51 - 5:52แทนที่จะเป็นการทำลายหรือเปล่า
-
5:52 - 5:54และผมอยากบอกว่า แนวคิดนี้ทำในสิ่งนี้
-
5:54 - 5:57ดังนั้น ให้ผมได้บอกว่าคุณจะได้อะไร
เมื่อมองโลกในรูปแบบนี้ -
5:57 - 6:02นอกเหนือจากความเข้าใจสนุก ๆ
เกี่ยวกับความคิดของคน -
6:02 - 6:09ลองดูโลกอย่างชาญฉลาด
จากมุมมองของสายพันธุ์อื่น -
6:09 - 6:12ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งประหลาด ๆ นี้
-
6:12 - 6:16ซึ่งก็คือ -- และมันเป็นดั่งแดน
แห่งประวัติศาสตร์ทางสติปัญญา -- -
6:16 - 6:21ที่เราได้มีการปฏิวัติแนวคิดแบบดาวิเนี่ยน
เมื่อ 150 ปีก่อน -
6:21 - 6:24อ้า แฝดจิ๋วของผม (เสียงหัวเราะ)
-
6:26 - 6:32เรามีการปฏิวัติทางแนวคิดแบบดาวิเนี่ยน
ซึ่งต้องขอบคุณดาวิน -
6:32 - 6:34เราได้พบว่าเราก็เป็นแค่สายพันธุ์หนึ่ง
ในบรรดาสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ -
6:34 - 6:38วิวัฒนาการมีผลกับเราเหมือนกับที่
มันมีต่อสิ่งมีชีวิตอื่น -
6:38 - 6:40เราถูกควบคุมโดยมัน และใช้มันด้วย
-
6:40 - 6:44เราอยู่ในสายใยแห่งผืนชีวิต
-
6:44 - 6:48แต่สิ่งที่แปลกก็คือ พวกเราไม่ได้รับบทเรียนนี้
ในอีก 150 ปีต่อมา -
6:48 - 6:50ไม่มีใครเชื่อสักคน
-
6:50 - 6:55เรายังคงเป็นคาร์ทีเซียน (Cartesian)
เป็นศิษย์เดการ์ด (Descartes) -
6:55 - 7:00ที่เชื่อว่าความรู้สีกนึกคิด สติสัมปชัญญะ
ทำให้เราต่างออกไป -
7:00 - 7:03เชื่อว่าโลกนั้นแบ่งเป็นผู้กระทำ
และผู้ถูกกระทำ -
7:03 - 7:06เชื่อว่ามีธรรมชาติอยู่ข้างหนึ่ง
วัฒนธรรมอีกข้างหนึ่ง -
7:06 - 7:11เมื่อใดที่คุณได้เริ่มใช้มุมมองของพืช
หรือมุมมองของสัตว์ -
7:11 - 7:15คุณจะตระหนักว่าความคิดที่เย่อหยิ่งนี้
-
7:15 - 7:19คือความคิดที่บอกว่า
ธรรมชาตินั้นอยู่ตรงข้ามกับวัฒนธรรม -
7:19 - 7:23คือความคิดที่ว่าสติสัมปชัญญะคือทุกสิ่ง
-
7:23 - 7:26และนั่นก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
-
7:26 - 7:29ลองดูโลกในมุมมองของสายพันธ์ุอื่น
-
7:29 - 7:33เป็นการบำบัดโรคทะนงตนของมนุษย์
-
7:33 - 7:38คุณจะตระหนักในทันทีว่า สติสัมปชัญญะ
-
7:38 - 7:42ที่เราให้คุณค่าและคิดว่า
-
7:42 - 7:44เป็นความสำเร็จสูงสุดของธรรมชาติ
-
7:44 - 7:49สติสัมปชัญญะของมนุษย์นั้น ที่จริงก็เป็นแค่
เครื่องมือหนึ่งที่จะเข้ากันได้กับโลกนี้ -
7:49 - 7:53และมันเป็นธรรมชาติที่เราอาจคิดว่า
มันเป็นเครื่องมือสุดที่ยอด -
7:53 - 7:55แต่มีนักแสดงตลกคนหนึ่งได้กล่าวว่า
-
7:55 - 7:59"รู้ไม๊ ใครบอกผมว่า
สติสัมปชัญญะนั้นทั้งดีทั้งเลิศ -
7:59 - 8:01อ้อ ก็สติสัมปชัญญะไง"
-
8:01 - 8:05ดังนั้น เมื่อคุณมองดูพืช
คุณจะรู้ว่ามีเครื่องมืออื่น -
8:05 - 8:07และพวกมันก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
-
8:07 - 8:11ผมจะยกสักสองตัวอย่าง
จากสวนอีกเหมือนกัน -
8:11 - 8:16ถั่วลิม่า คุณรู้ไหมว่าถั่วลิม่าทำอย่างไร
เมื่อมันถูกเห็บแมงมุมโจมตี -
8:16 - 8:19มันปล่อยสารเคมีร้ายกาจออกมาสู่โลก
-
8:19 - 8:22และเรียกบรรดาตัวเห็บไรชนิดอื่น ๆ
-
8:22 - 8:26ให้เข้ามาและโจมตีเห็บแมงมุม
เป็นการป้องกันถั่วลิม่า -
8:26 - 8:32แล้วพืชมีอะไร ในเมื่อเรามีสติสัมปชัญญะ
มีการสร้างเครื่องมือ มีภาษา -
8:32 - 8:34พวกมันมีชีวเคมี
-
8:34 - 8:39และพวกมันมีสิ่งนั้นในระดับเพรียบพร้อม
เกินกว่าที่เราจะคาดคิด -
8:39 - 8:44ความซับซ้อน ความช่ำชองของพวกมัน
เป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์ -
8:44 - 8:46และผมคิดว่ามันเป็นเหมือนข่าวฉาว
เรื่องจีโนมมนุษย์ -
8:46 - 8:51เราคิดว่ายีนมนุษย์มี 40,000 ถึง 50,000 ยีน
-
8:51 - 8:55และเราพบแค่เพียง 23,000 ยีน
-
8:55 - 9:03เพื่อที่จะเปรียบเทียบ ข้าวนั้นมี 35,000 ยีน
-
9:03 - 9:06ดังนั้นใครกันแน่ที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนกว่า
-
9:06 - 9:07เอาล่ะ พวกเราทั้งหมดนั้นก็ซับซ้อนพอ ๆ กัน
-
9:07 - 9:10พวกเรามีวิวัฒนาการมานานพอ ๆ กัน
-
9:10 - 9:12แต่เพียงต่างสายกัน
-
9:13 - 9:21ดังนั้น การบำบัดควาทะนงตน คือวิธีการที่ทำให้เราเข้าใจ
แนวคิดแบบดาวิเนียน -
9:21 - 9:24และนั่นคือสิ่งที่ผมทำในฐานะนักเขียน และนักเล่าเรื่อง
-
9:24 - 9:31ซึ่งก็คือ พยายามทำให้คนรู้สึกว่าเรารู้อะไร และเล่าเรื่อง
-
9:31 - 9:32ซึ่งช่วงให้เราคิดในแนวนิเวศวิทยา
-
9:32 - 9:34เอาล่ะ
-
9:34 - 9:36และผมกำลังจะพาคุณไปยังไร่นา
-
9:36 - 9:40เพราะว่าผมใช้แนวคิดนี้ในการพัฒนา
ความเข้าใจของผมต่อระบบอาหาร -
9:40 - 9:45และสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ อันที่จริงแล้ว ก็คือ
เราทุกคนตอนนี้กำลังถูกควบคุมโดยข้าวโพด -
9:45 - 9:50และการบรรยายเกี่ยวกับเอธานอลก่อนหน้านี้
ในวันนี้ -
9:50 - 9:55สำหรับผมแล้ว เป็นความพยายามสูงสุด
ของข้าวโพด (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) -
9:55 - 10:03มันเป็นส่วนหนึ่ง
ของแผนการครองโลกของข้าวโพด -
10:03 - 10:04(เสียงหัวเราะ)
-
10:04 - 10:08และคุณจะได้เห็น ว่าข้าวโพดถูกปลูก
เพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วเป็นอย่างมาก -
10:08 - 10:10และพวกมันก็จะมีที่อยู่มากขึ้น
-
10:10 - 10:12เพราะว่าเราตัดสินว่า
เอธานอลกำลังจะช่วยพวกเรา -
10:12 - 10:16ฉะนั้น มันช่วยให้ผมเข้าใจ
เกษตรกรรมเชิงอุตสาหกรรม -
10:16 - 10:18ซึ่งแน่นอน มันเป็นระบบคาร์ทีเซียน
-
10:18 - 10:21มันขึ้นอยู่กับแนวคิด
ที่เราเหนี่ยวนำสายพันธุ์อื่น ๆ ให้ได้ดังใจเรา -
10:21 - 10:24และนั่นแหละ เราเป็นผู้ควบคุม
และเราสร้างโรงงานเหล่านี้ -
10:24 - 10:27และเรามีการป้อนเทคโนโลยีเหล่านี้
และเราได้อาหารออกมา -
10:27 - 10:29หรือพลังงาน หรืออะไรก็ตามที่เราต้องการ
-
10:30 - 10:32ให้ผมพาคุณไปไร่นาที่ต่างออกไป
-
10:32 - 10:35นี่คือไร่นาในเชนันโดอาห์ แวลลีย์
ที่เวอร์จิเนีย -
10:35 - 10:38ผมไปค้นหาไร่นาที่ซึ่งแนวคิด
-
10:38 - 10:42เกี่ยวกับการมองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมอง
ของสายพันธุ์อื่นได้ถูกปรับใช้ -
10:42 - 10:44และผมพลมันในชายคนหนึ่ง
ชาวนาที่มีชื่อว่า โจเอล ซาลาติน -
10:44 - 10:47และผมใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์
เป็นลูกมือในไร่นาของเขา -
10:47 - 10:53และได้ข่าวที่ให้ความหวงกับความสัมพันธ์
ระหว่างเราและธรรมชาติกลับมา -
10:53 - 10:56ซึ่งผมไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มา 25 ปีแล้ว
ตลอดการเขียนเรื่องเกี่ยวกับธรรมชาติ -
10:56 - 10:57และมันก็คือ
-
10:57 - 11:00ไร่นานี้เรียกว่า โพลีเฟส ซึ่งหมายถึง
-
11:00 - 11:04แนวคิดก็คือ เขามีสัตว์หกสายพันธุ์ต่าง ๆ กัน
เช่นเดียวกันกับ พืชต่าง ๆ -
11:04 - 11:07ที่เติบโตในการจัดการซิมไบโอติก
ที่ซับซ้อน -
11:07 - 11:09มันเป็นเกษตรกรรมถาวร
พวกคุณบางคนคงรู้จักมันมาบ้าง -
11:09 - 11:17ซึ่งก็คือ วัว หมู แกะ และไก่งวง และ
-
11:17 - 11:19เขามีอะไรอีกนะ
-
11:19 - 11:21ทั้งหมดหกสาพันธุ์ อ้อใช่ กระต่าย
-
11:21 - 11:24และทุก ๆ สายพันธุ์ ก็ทำหน้าที่ทางนิเวศวิทยา
ให้กับสายพันธุ์อื่น -
11:24 - 11:27เช่นว่า มูลของสายพันธุ์หนึ่ง
เป็นมื้อเที่ยงให้กับอีกสายพันธุ์ -
11:27 - 11:29และพวกมันดูแลกำจัดศัตรูให้กับอีกสายพันธุ์
-
11:29 - 11:32มันเป็นการเต้นรำที่ซับซ้อนและสวยงาม
-
11:32 - 11:35แต่ผมกำลังจะสรุปส่วนหนึ่งของมัน
-
11:35 - 11:41และนั่นก็คือความสัมพันธ์
ระหว่างวัวและไก่ไข่ของเขา -
11:41 - 11:46และผมจะแสดงให้คุณเห็น
ว่าถ้าคุณใช้วิธีนี้คุณจะได้อะไร -
11:46 - 11:48และมันเป็นมากกว่าการปลูกอาหาร
อย่างที่คุณเห็น -
11:48 - 11:50มันเป็นวิธีที่แตกต่างที่จะคิด
เกี่ยวกับธรรมชาติ -
11:50 - 11:54และเป็นวิธีการที่จะออกไปจากความคิด
ที่ผลรวมเป็นศูนย์ -
11:54 - 11:57แนวคิดแบบคาร์ทีเซียน ที่ถ้าไม่ธรรมชาติชนะ
เราก็ชนะ -
11:57 - 12:00และเพื่อเราจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
ธรรมชาติถูกบั่นทอน -
12:01 - 12:03ฉะนั้น วันหนึ่ง วัวในคอก
-
12:03 - 12:06เทคโนโลยีเดียวที่เกี่ยวข้อง
คือรั้วไฟฟ้าถูก ๆ -
12:06 - 12:08เกี่ยวกับแบตตารีรถยนต์ที่ค่อนข้างใหม่
-
12:08 - 12:12แม้ผมจะสามารถหิ้วตัวล๊อค
ไปหนึ่งในสี่เอเคอร์ ติดตั้งมันใน 15 นาที -
12:12 - 12:16วัวกินหญ้าในหนึ่งวัน
พวกมันย้ายที่จริงไหมครับ -
12:16 - 12:18พวกมันกินทุกอย่างลงไป ก้มหน้าก้มตากิน
-
12:18 - 12:20เขารอสามวัน
-
12:20 - 12:23และจากนั้นเราพ่วงบางสิ่งที่เรียกว่า
เอคโมบายล์ (Eggmobile) -
12:23 - 12:26เอคโมบายล์นี้เป็นเครื่องมือที่ง่อนแง่นมาก
-
12:26 - 12:29มันเหมือนเรือใบแพรี่ที่ทำจากกระดาน
-
12:29 - 12:31แต่มีไก่อยู่ 350 ตัว
-
12:31 - 12:37เขาพ่วงสิ่งนี้เข้ากับตัวล๊อค
สามวันต่อมา และเปิดสะพาน -
12:37 - 12:41ลดมันลง และไก่ 350 ตัว
ก็กรูกันลงสะพานมา -
12:41 - 12:43ร้องกุ๊ก ๆ กันอย่างที่บรรดาไก่ทำ
-
12:43 - 12:47และพวกมันก็ทำทางลัดสำหรับอึวัว
-
12:48 - 12:50และสิ่งที่มันทำค่อนข้างน่าสนใจ
-
12:50 - 12:52พวกมันขุดผ่านอึวัวไป
-
12:52 - 12:56สำหรับหนอนแมลง ตัวอ่อนแมลง
ตัวอ่อนของแมลงวัน -
12:56 - 12:58และเหตุผลที่เขารอสามวัน
-
12:58 - 13:03ก็เพราะว่าเขารู้ว่าในวันที่สี่หรือห้า
ตัวอ่อนเหล่านี้จะฟักตัวออกมา -
13:03 - 13:05และเขาเจอปัญหาใหญ่จากแมลง
-
13:05 - 13:11แต่เขารอนานขนาดนั้น เพื่อเลี้ยง
จนมันตัวใหญ่น่ากินที่สุดเท่าที่จะทำได้ -
13:11 - 13:14เพราะว่าพวกมันคือโปรตีนที่ไก่ชอบที่สุด
-
13:14 - 13:16ฉะนั้น ไก่ก็เต้นเบรกเดนซ์กันนิดหน่อย
-
13:16 - 13:20และพวกมันก็ดันไปรอบ ๆ มูล
เพื่อจะจับตัวอ่อนแมลง -
13:20 - 13:23และจากกระบวนการนี้
พวกมันกระจายมูลไปรอบ ๆ -
13:23 - 13:27เป็นการบริการทางระบบนิเวศที่สอง
ที่มีประโยชน์มาก -
13:27 - 13:30และสาม ในขณะที่พวกมันอยู่ในที่ล๊อค
-
13:30 - 13:33แต่ละ พวกมันขับถ่ายกันอย่างบ้าคลั่ง
-
13:33 - 13:39และมูลที่มีไนโตรเจนมากของพวกมัน
ก็เป็นปุ๋ยให้กับไร่นา -
13:39 - 13:41จากนั้นพวกมันก็เคลื่อนไปยังที่ถัดไป
-
13:41 - 13:49และในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
หญ้าก็เติบโตแทงใบขึ้นสูง -
13:49 - 13:51และภายในสี่หรือหน้าสัปดาห์
เขาสามารถทำซ้ำได้อีกครั้ง -
13:51 - 13:54เขาเล็มหญ้า ตัด
และนำสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์อื่นเข้ามา -
13:54 - 13:59เช่นแกะ หรือเขาสามารถ
ทำฟางสำหรับหน้าหนาวได้ -
13:59 - 14:03ทีนี้ ผมอยากให้คุณมองใกล้ ๆ
ดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น -
14:03 - 14:04มันเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมาก
-
14:04 - 14:06และที่ผมต้องบอกคุณก็คือ
ใน 100 เอเคอร์ -
14:06 - 14:11เขาได้เนื้อ 40,000 ปอนด์
หมู 30,000 ปอนด์ และไข่ 25,000 โหล -
14:11 - 14:14ไก่กระทง 20,000 ไก่งวง 1,000
กระต่าย 1,000 -
14:14 - 14:16อาหารปริมาณมากมายเลย
-
14:16 - 14:18คุณรู้ไหมครับ คุณได้ยินมาว่า
"เกษตรอินทรีย์จะเลี้ยงโลกได้ไหม" -
14:18 - 14:23ดูสิครับว่าคุณสามารถผลิตอาหาร
ได้มากแค่ไหนใน 100 เอเคอร์ ถ้าคุณทำแบบนี้ -
14:23 - 14:26ครับ ให้สิ่งที่แต่ละสายพันธุ์อยากได้
-
14:26 - 14:30ให้มันรู้ว่ามันต้องการอะไร
ความโดดเด่นทางกายภาพของมัน -
14:30 - 14:32นำมันเข้ามามีบทบาท
-
14:32 - 14:35แต่มองดูมันจากมุมมองของหญ้า
-
14:35 - 14:37สำหรับหญ้าแล้วคุณกำลังทำอะไร
-
14:37 - 14:43เมื่อสัตว์พวกวัวกินหญ้า หญ้าถูกตัด
ให้มีความสูงลดลง -
14:43 - 14:45และในทันที มันทำอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ
-
14:45 - 14:49พวกคุณที่ทำสวนรู้ว่า มีสิ่งที่เรียกว่า
อัตราส่วนระหว่างรากและยอด -
14:49 - 14:53และพืชต้องการที่จะรักษามวลราก
-
14:53 - 14:56ในระดับที่สมดุลอย่างคร่าว ๆ กับมวลใบ
เพื่อที่จะอยู่ได้อย่างมีสุข -
14:56 - 15:00ฉะนั้น เมื่อมันเสียมวลใบไป
พวกมันทิ้งราก -
15:00 - 15:03พวกมันกร่อนตัวเอง และรากก็ตาย
-
15:03 - 15:06และสายพันธุ์ที่อยู่ในดินก็ทำงาน
-
15:06 - 15:10โดยการย่อยรากเหล่านั้น
ย่อยพวกมัน -
15:10 - 15:16ไส้เดือน รา และแบคทีเรีย
และผลก็คือดินใหม่ -
15:16 - 15:19นี่เป็นวิธีการสร้างดิน
-
15:19 - 15:20มันสร้างจากข้างล่างขึ้นมา
-
15:20 - 15:22นี่คือการสร้างทุ่งหญ้า
-
15:22 - 15:24ความสัมพันธ์ระหว่างวัวไบสัน
กับหญ้า -
15:25 - 15:28และสิ่งที่ผมตระหนักเมื่อผมเข้าใจก็คือ
-
15:28 - 15:32ถ้าคุณถาม โจเอล ซาลาติน ว่าเขาเป็นใคร
เขาจะตอบว่าเขาไม่ใช่คนเลี้ยงไก่ -
15:32 - 15:37เขาไม่ใช่คนเลี้ยงแกะ เขาไม่ใช่คนเลี้ยงวัว
เขาเป็นคนปลูกหญ้า -
15:37 - 15:41เพราะว่าหญ้าจริง ๆ แล้วเป็นสายพันธุ์หลัก
ที่สำคัญต่อระบบดังกล่าว -
15:41 - 15:50ถ้าคุณลองคิดดู นั่นมันไม่ขัดแย้งอย่างสมบูรณ์
กับแนวคิดเกี่ยวกับธรรมชาติที่เรามี -
15:50 - 15:56ซึ่งคือการทำให้เราได้ในสิ่งที่เราต้องการ
ธรรมชาติถูกบั่นทอน -
15:56 - 15:58คิดถึงพวกเรามากกว่าธรรมชาติ
-
15:58 - 16:03นี่คืออาหารที่ออกมาจากไร่นานี้
และตอนปลายฤดู -
16:03 - 16:09ก็มีดินมากกว่า มีปุ๋ยมากกว่า
และมีความหลากหลายทางชีวภาพมากกว่า -
16:10 - 16:13มันเป็นสิ่งที่น่าทำมาก ๆ
-
16:13 - 16:15มีชาวนามากมายกำลังทำสิ่งนี้ในปัจจุบัน
-
16:15 - 16:18นี่มันเป็นยิ่งกว่าเกษตรอินทรีย์
-
16:18 - 16:21ซึ่งยังเป็นระบบคาร์ทีเซียน
ไม่มากก็น้อย -
16:21 - 16:27และสิ่งที่มันบอกคุณก็คือ
ถ้าคุณเริ่มที่จะสนใจสายพันธุ์อื่น ๆ -
16:27 - 16:34สนใจดิน ที่แม้ว่าจะไม่ได้มีอะไร
มากไปกว่าแนวคิดนี้ -
16:34 - 16:38เพราะว่ามันไม่มีเทคโนโลยีอะไรมากเกี่ยวข้อง
เว้นแต่รั้วเหล่านั้น -
16:38 - 16:43ซึ่งมันถูกมาก เราสามารถติดตั้งพวกมัน
ทั่วทั้งอัฟริกาเมื่อไรก็ได้ -
16:43 - 16:47เราสามารถได้อาหารที่เราต้องการจากโลก
-
16:47 - 16:51และช่วยรักษาโลกไปด้วยในเวลาเดียวกัน
-
16:52 - 16:54นี่เป็นวิธีที่จะสร้างโลกใหม่
-
16:54 - 16:56และที่มันน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับแนวคิดนี้ก็คือ
-
16:56 - 17:00เมื่อเราเริ่มที่จะรู้ซึ้งถึงแนวคิดแบบดาวิเนี่ยน
-
17:00 - 17:05สิ่งที่เราคิดว่าเป็นอะไรไม่ได้มากกว่าความคิด
-
17:05 - 17:07ก็สามารถที่จะเป็นอะไรบางอย่าง
ที่น่าคาดหวังเป็นอย่างยิ่ง -
17:07 - 17:08ขอบคุณมากครับ
- Title:
- มุมมองของพืช
- Speaker:
- ไมเคิล พอลแลน (Michael Pollan)
- Description:
-
ถ้าสติสัมปชัญญะของมนุษย์ทั้งหมดไม่ได้เป็นและจบลงที่แบบดาวิเนียนล่ะ ถ้าเราทุกคนเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งของแผนเกมส์อันชาญฉลาดของข้าวโพดที่คิดจะครองโลกล่ะ นักเขียนไมเคิล พอลแลน บอกให้เรามองโลกจากมุมมองของพืช
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:08
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for A plant's-eye view | |
![]() |
Rawee Ma accepted Thai subtitles for A plant's-eye view | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for A plant's-eye view | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for A plant's-eye view | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for A plant's-eye view | |
![]() |
Rawee Ma declined Thai subtitles for A plant's-eye view | |
![]() |
Rawee Ma edited Thai subtitles for A plant's-eye view | |
![]() |
Rawee Ma edited Thai subtitles for A plant's-eye view |