เราจะถ่ายภาพหลุมดำได้อย่างไร
-
0:01 - 0:03ในภาพยนตร์เรื่อง "อินเตอร์สเตลลาร์"
-
0:03 - 0:07เราได้เห็นหลุมดำขนาดใหญ่แบบใกล้ ๆ
-
0:07 - 0:09ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นก๊าซสว่างจ้า
-
0:09 - 0:11แรงโน้มถ่วงที่รุนแรงของหลุมดำขนาดใหญ่ยักษ์
-
0:11 - 0:12บิดแสงให้โค้งงอเป็นวงแหวน
-
0:12 - 0:15อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ภาพถ่ายจริง ๆ
-
0:15 - 0:16แต่เป็นภาพโดยคอมพิวเตอร์กราฟฟิก
-
0:16 - 0:20และการตีความตามจินตนาการ
ว่าหลุมดำควรจะมีหน้าตาอย่างไร -
0:20 - 0:22ร้อยกว่าปีก่อน
-
0:22 - 0:25อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ตีพิมพ์
ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของเขาเป็นครั้งแรก -
0:25 - 0:27หลายปีหลังจากนั้น
-
0:27 - 0:30นักวิทยาศาสตร์ได้นำเสนอหลักฐาน
ที่สนับสนุนทฤษฎีนี้ -
0:30 - 0:33แต่สิ่งหนึ่งที่เราคาดการได้จากทฤษฎีนี้
ซึ่งก็คือหลุมดำ -
0:33 - 0:35ยังไม่ได้รับการสังเกตโดยตรง
-
0:35 - 0:38แม้ว่าเราจะมีแนวคิดอยู่บ้าง
ว่าหลุมดำน่าจะมีหน้าตาอย่างไร -
0:38 - 0:41เราไม่เคยที่จะถ่ายภาพมันได้จริง ๆ มาก่อน
-
0:41 - 0:45อย่างไรก็ตาม คุณอาจประหลาดใจ
ที่รู้ว่า นั่นมันกำลังจะเปลี่ยนไป -
0:45 - 0:50เราอาจได้เห็นภาพแรกของหลุมดำ
ในอีกสองสามปีข้างหน้า -
0:50 - 0:54การถ่ายภาพแรกนั้นจะตกเป็นหน้าที่
ของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ -
0:54 - 0:55กล้องโทรทรรศน์ขนาดเท่าโลก
-
0:55 - 0:58และกระบวนวิธีที่ก่อร่างภาพ
ที่เป็นผลลัพธ์ขึ้นมา -
0:58 - 1:02แม้ว่า ฉันไม่อาจแสดงให้คุณเห็น
ถึงภาพจริงของหลุมดำได้ในวันนี้ -
1:02 - 1:05ฉันก็อยากที่จะให้คุณได้ดูอย่างคร่าว ๆ
ถึงความพยายาม -
1:05 - 1:06ที่จะทำให้ได้ภาพแรกนั้นมา
-
1:07 - 1:09ฉันชื่อ เคที โบวแมน
-
1:09 - 1:12เป็นนักศึกษาปริญญาเอก
ที่มหาวิทยาลัย MIT -
1:12 - 1:14ฉันทำงานวิจัยในห้องทดลองวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
-
1:14 - 1:17ที่มีจุดประสงค์คือทำให้คอมพิวเตอร์
มองภาพผ่านรูปและวีดีโอ -
1:17 - 1:19ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่นักดาราศาสตร์
-
1:19 - 1:20วันนี้ ฉันอยากจะแสดงให้คุณเห็น
-
1:20 - 1:23ว่าฉันสามารถที่จะมีส่วนร่วม
ในโครงการที่น่าตื่นเต้นนี้ได้อย่างไร -
1:23 - 1:26ถ้าคุณออกไป
นอกเขตแสงไฟของเมืองยามค่ำคืนนี้ -
1:26 - 1:29คุณอาจโชคดีได้เห็นทิวทัศน์ที่น่าทึ่ง
-
1:29 - 1:30ของกาแล็กซีทางช้างเผือก
-
1:30 - 1:33และถ้าคุณสามารถมองผ่านดาวนับล้าน
-
1:33 - 1:36ไกลออกไป 26,000 ปีแสง
สู่ใจกลางของทางช้างเผือกที่บิดเกลียว -
1:36 - 1:40เราจะไปถึงกลุ่มดาว ณ ใจกลาง
-
1:40 - 1:43เพ่งผ่านฝุ่นในกาแล็กซี่
ด้วยกล้องโทรทรรศน์อินฟาเรด -
1:43 - 1:47นักดาราศาสตร์ได้เฝ้าดูดาวเหล่านี้
มาตลอด 16 ปี -
1:47 - 1:51แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุด
คือสิ่งที่พวกเขาไม่ได้เห็น -
1:51 - 1:54เหมือนว่าดาวเหล่านี้
มีวงโคจรอยู่รอบ ๆ สิ่งล่องหน -
1:54 - 1:56โดยการติดตามเส้นทางโคจรของดาว
-
1:56 - 1:57นักดาราศาสตร์ได้สรุปว่า
-
1:57 - 2:01สิ่งเดียวที่เล็กและหนักพอ
ที่จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่เช่นนี้ได้ -
2:01 - 2:03ก็คือหลุมดำที่มีมวลมหาศาล
-
2:03 - 2:07มันคือวัตถุที่มีความหนาแน่นมาก
ที่ดูดทุกสิ่งที่ย่างกรายเข้าไปใกล้มันเกินไป -
2:07 - 2:08แม้แต่แสง
-
2:08 - 2:11แต่จะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าเรามองลึกลงไปอีก -
2:11 - 2:16มันจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเห็น
อะไรที่ตามนิยามแล้วเราไม่อาจมองเห็น -
2:17 - 2:20ค่ะ กลายเป็นว่า ถ้าเรามองลึกเข้าไป
ในความยาวคลื่นวิทยุ -
2:20 - 2:22เราน่าจะได้เห็นวงแหวนของแสง
-
2:22 - 2:24ที่เกิดจากเลนส์แรงโน้มถ่วง
ของพลาสมาร้อน -
2:24 - 2:26ที่ยิงออกมารอบ ๆ หลุมดำ
-
2:26 - 2:27อีกนัยหนึ่งก็คือ
-
2:27 - 2:30หลุมดำทอดเงา
ไปบนวัตถุพื้นหลังที่สว่าง -
2:30 - 2:32ทำให้เกิดรูปทรงกลมของความมืด
-
2:32 - 2:36วงแหวนที่สว่างเผยถึงขอบที่เท่า ๆ กัน
ของหลุมดำ -
2:36 - 2:38ที่ซึ่งแรงดึงจากแรงโน้มถ่วง
มีความรุนแรงมาก -
2:38 - 2:40จนแม้แต่แสงก็ไม่อาจเล็ดลอดออกมาได้
-
2:40 - 2:43สมการของไอสไตน์ได้ทำนายถึง
ขนาดและรูปร่างของวงแหวนนี้เอาไว้ -
2:43 - 2:46ฉะนั้นการถ่ายภาพมันได้
ไม่เพียงแต่ว่าจะเจ๋ง -
2:46 - 2:48แต่มันยังอาจช่วยให้เรา
ยืนยันความถูกต้องของสมการนี้ได้ -
2:48 - 2:51ในสภาวะที่สุดโต่ง
อย่างบริเวณรอบ ๆ หลุมดำ -
2:51 - 2:53อย่างไรก็ตาม หลุมดำนี้
ห่างไกลจากเรามาก -
2:53 - 2:57จากโลกของเรา วงแหวนนี้ดูเล็กมาก ๆ
-
2:57 - 3:00ในขนาดเดียวกับผลส้ม
ที่ตั้งอยู่บนพื้นผิวของดวงจันทร์ -
3:01 - 3:04นั่นทำให้การถ่ายภาพของมันยากมาก ๆ
-
3:05 - 3:06ทำไม่น่ะหรือคะ
-
3:07 - 3:10คำตอบตกอยู่ที่สมการง่าย ๆ
-
3:10 - 3:12เนื่องจากปรากฏการณ์
ที่เรียกว่า การเลี้ยวเบน -
3:12 - 3:14มันคือข้อจำกัดพื้นฐาน
-
3:14 - 3:16ต่อวัตถุที่มีขนาดเล็กที่สุดที่เราสามารถเห็นได้
-
3:17 - 3:20สมการที่ทำให้เกิดผลลัพธ์นี้กล่าวว่า
เพื่อที่จะเห็นสิ่งที่เล็กลงไปอีก -
3:20 - 3:23เราจะต้องสร้างกล้องโทรทรรศน์
ที่ใหญ่ขึ้นไปอีก -
3:23 - 3:26แต่แม้ด้วยกล้องโทรทรรศน์
ที่มีกำลังขยายสูงสุดบนโลก -
3:26 - 3:29มันก็ไม่อาจให้ความละเอียดมากพอ
-
3:29 - 3:31ที่จะเห็นภาพพื้นผิวของดวงจันทร์ได้
-
3:31 - 3:34อันที่จริง ที่แสดงอยู่นี้
คือภาพที่มีความสูงสุด -
3:34 - 3:36ของดวงจันทร์ที่ถ่ายได้จากโลก
-
3:36 - 3:38มันมีความละเอียดประมาณ 13,000 จุด
-
3:38 - 3:43แต่ละจุดบรรจุผลส้มได้ 1.5 ล้านผล
-
3:43 - 3:45แล้วเราต้องการกล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่แค่ไหน
-
3:45 - 3:48เพื่อที่จะเห็นผลส้มบนพื้นผิวดวงจันทร์
-
3:48 - 3:50แล้วถ้าเป็นหลุมดำล่ะ
-
3:50 - 3:53ค่ะ กลายเป็นว่าจากตัวเลข
-
3:53 - 3:55คุณสามารถคำนวณได้โดยง่ายว่า
เราต้องการกล้องโทรทรรศน์ -
3:55 - 3:57ที่มีขนาดเท่ากับโลกทั้งใบ
-
3:57 - 3:58(เสียงหัวเราะ)
-
3:58 - 4:00ถ้าเราสามารถสร้างกล้องโทรทรรศน์
ที่มีขนาดเท่าโลกได้ -
4:00 - 4:03เราก็จะมองเห็นวงแหวนของแสงได้ชัดเจน
-
4:03 - 4:05ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกเหตุการณ์ที่เส้นขอบ
ของหลุมดำ -
4:05 - 4:08แม้ว่าภาพจะไม่ได้แสดงรายละเอียด
ทั้งหมดที่เราต้องการเห็น -
4:08 - 4:10ในการผลิตภาพจำลองด้วยคอมพิวเตอร์
-
4:10 - 4:12มันอาจทำเราได้แอบมองจริง ๆ เป็นครั้งแรก
-
4:12 - 4:14ว่าสิ่งแวดล้อมรอบหลุมดำเป็นอย่างไร
-
4:14 - 4:16อย่างไรก็ตาม คุณก็คงนึกออกว่า
-
4:16 - 4:20การสร้างกล้องโทรทรรศน์ที่เป็นจานเดี่ยว
ที่มีขนาดเท่ากับโลกนั้นเป็นไปไม่ได้ -
4:20 - 4:22แต่วลีติดหูของ มิก แจ็กเกอร์
-
4:22 - 4:23"คุณไม่อาจได้สิ่งที่อยากได้เสมอไป
-
4:23 - 4:26แต่ถ้าคุณลองดูบ้างแล้วล่ะก็
คุณอาจจะพบว่า -
4:26 - 4:27คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการ"
-
4:27 - 4:29และด้วยการเชื่อมกล้องโทรทรรศน์
จากทั่วโลก -
4:29 - 4:33ความร่วมมือระดับนานาชาติ
ที่เรียกว่า อีเวนท์ ฮอไรซัน เทเลสโคป -
4:33 - 4:36ก็สร้างกล้องโทรทรรศน์เชิงคอมพิวเตอร์
ที่มีขนาดเท่ากับโลกขึ้นมา -
4:36 - 4:38ซึ่งมันสามารถแยกแยะโครงสร้าง
-
4:38 - 4:40ในระดับขอบฟ้าเหตุการณ์ของหลุมดำ
-
4:40 - 4:43เครือข่ายกล้องโทรทรรศน์นี้
ถูกวางแผนว่าจะถ่ายภาพแรก -
4:43 - 4:45ของหลุมดำในปีหน้า
-
4:45 - 4:49กล้องโทรทรรศน์แต่ละตัว
ในเครือข่ายทั่วโลกทำงานรวมกัน -
4:49 - 4:51ด้วยการเชื่อมโยง
ผ่านนาฬิการะดับอะตอมที่แม่นยำ -
4:51 - 4:54กลุ่มนักวิจัยในแต่ละพื้นที่จะจับแสง
-
4:54 - 4:57โดยการรวบรวมข้อมูล
หลายพันเทราไบต์ -
4:57 - 5:02ข้อมูลเหล่านี้จะถูกประมวลผล
ในห้องทดลองที่แมสซาชูเซส -
5:02 - 5:04แล้วเราทำได้อย่างไร
-
5:04 - 5:07จำได้ไหมคะ ว่าถ้าเราอยากเห็นหลุมดำ
ณ ใจกลางกกาแล็กซี่ของเรา -
5:07 - 5:10เราต้องสร้างกล้องโทรทรรศน์
ที่มีขนาดใหญ่เท่าโลก ซึ่งเป็นไปไม่ได้ -
5:10 - 5:12ลองสมมติกันสักครู่หนึ่ง
ว่าเราสามารถสร้าง -
5:12 - 5:14กล้องโทรทรรศน์ที่มีขนาดเท่าโลกได้
-
5:14 - 5:17นั่นคงจะประมาณว่า
เราเปลี่ยนโลกของเรา -
5:17 - 5:19ให้กลายเป็นลูกบอลดิสโก้
-
5:19 - 5:21กระจกแต่ละบานจะเก็บแสง
-
5:21 - 5:23ที่เราจะสามารถนำไปรวมกัน
เพื่อประกอบขึ้นเป็นภาพ -
5:23 - 5:26อย่างไรก็ตาม สมมติว่าเรา
เอากระจกส่วนใหญ่ออกไปซะ -
5:26 - 5:28และยังมีกระจกเหลืออยู่บ้าง
-
5:28 - 5:31เราอาจจะลองรวมข้อมูลเหล่านี้เข้าด้วยกัน
-
5:31 - 5:33แต่ตอนนี้มันมีรูมากมาย
-
5:33 - 5:37กระจกที่เหลืออยู่แทนตำแหน่ง
ที่เรามีกล้องโทรทรรศน์ -
5:37 - 5:42มันถือเป็นจำนวนที่น้อยมาก
สำหรับการวัดเพื่อจะสร้างภาพขึ้นมา -
5:42 - 5:45แต่แม้ว่าเราจะจัดเก็บแสง
ณ ตำแหน่งของกล้องโทรทรรศน์ไม่กี่แห่ง -
5:45 - 5:49เมื่อโลกหมุน เราก็จะได้เห็นการวัดใหม่
-
5:49 - 5:53หรือกล่าวได้ว่า เมื่อลูกบอลดิสโก้หมุนไป
กระจกก็เปลี่ยนตำแหน่งตามไปด้วย -
5:53 - 5:56และเราก็ได้สังเกต
ส่วนของภาพที่แตกต่างออกไป -
5:56 - 6:00กระบวนวืธีสร้างภาพที่เราพัฒนาขึ้น
จะเติมเต็มช่องว่างที่หายไปของลูกบอลดิสโก้ -
6:00 - 6:03เพื่อที่จะสร้างเป็นนภาพของหลุมดำขึ้นมา
-
6:03 - 6:05ถ้าเรามีกล้องโทรทรรศน์
ที่ตั้งอยู่ทุกหนทุกแห่งบนโลก -
6:05 - 6:07อีกนัยหนึ่งก็คือ ลูกบอลดิสโก้ทั้งลูก
-
6:07 - 6:09นี่คงจะเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
-
6:09 - 6:12อย่างไรก็ตาม เราเห็นเพียงบางตัวอย่าง
และด้วยเหตุผลนี้เอง -
6:12 - 6:14มันมีภาพที่เป็นไปได้มากมาย
-
6:14 - 6:17ที่สอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์
กับการวัดจากกล้องโทรทรรศน์ของเรา -
6:17 - 6:20อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าทุก ๆ ภาพ
จะถูกสร้างขึ้นมาแบบทัดเทียมกัน -
6:21 - 6:25บางภาพก็มองดูเหมือนกับสิ่งที่เราคิดว่าเป็นภาพ
มากกว่าภาพอื่น ๆ -
6:25 - 6:29ฉะนั้น บทบาทของฉันในการช่วยถ่ายภาพแรก
ของหลุมดำ -
6:29 - 6:32ก็คือการออกแบบกระบวนวิธี
ที่จะหาภาพที่สมเหตุสมผล -
6:32 - 6:34ที่ลงตัวกับการวัดจากกล้องโทรทรรศน์
-
6:35 - 6:39เช่นเดียวกับศิลปินด้านนิติเวช
ที่ร่างภาพโดยใช้คำบรรยายที่จำกัด -
6:39 - 6:42แต่ละชิ้นถูกประกอบเข้าด้วยกัน
โดยใช้ความรู้เรื่องโครงสร้างของหน้า -
6:42 - 6:46กระบวนวิธีในการสร้างภาพที่ฉันพัฒนาขึ้น
ใช้ข้อมูลที่จำกัดจากกล้องโทรทรรศน์ -
6:46 - 6:50เพื่อพาเราไปยังภาพที่ยังดูเหมือน
กับสิ่งที่อยู่ในอวกาศของเรา -
6:50 - 6:54การใช้กระบวนวิธีเหล่านี้
เราสามารถปะติดปะต่อภาพเข้าด้วยกัน -
6:54 - 6:56จากข้อมูลที่มีอยู่อย่างบางตา และรกรุงรัง
-
6:56 - 7:00นี่คือตัวอย่างการสร้างภาพ
โดยใช้ข้อมูลจำลอง -
7:00 - 7:02เมื่อเราแกล้งเล็งกล้องโทรทรรศน์ของเรา
-
7:02 - 7:05ไปยังหลุมดำ ณ ใจกลางกาแล็กซี่
-
7:05 - 7:09แม้ว่านี่เป็นเพียงการจำลอง
การสร้างภาพขึ้นมานี้ให้ความหวังกับเรา -
7:09 - 7:13ว่าไม่ช้าไม่นาน เราจะสามารถ
ถ่ายภาพแรกของหลุมดำได้อย่างน่าเชื่อถือ -
7:13 - 7:15และด้วยมัน เราจะสามารถ
กะขนาดของวงแหวนของมันได้ -
7:16 - 7:19แม้ว่าเราจะอยากจะพูดถึงรายละเอียด
ของกระบวนวิธีนี้ -
7:19 - 7:22โชคดีสำหรับคุณค่ะ เราไม่มีเวลา
-
7:22 - 7:24แต่ฉันอยากที่จะให้คุณได้แนวคิดคร่าว ๆ
-
7:24 - 7:26ว่าเรากำหนดหน้าตาของอวกาศของเราอย่างไร
-
7:26 - 7:30และเราใช้การสร้างภาพนี้
และยืนยันผลลัพธ์ของเราได้อย่างไร -
7:30 - 7:33เมื่อภาพที่เป็นไปได้มีจำนวนไม่จำกัด
-
7:33 - 7:35นั่นอธิบายได้อย่างสมบูรณ์
ว่าการวัดกล้องโทรทรรศน์ของเรา -
7:35 - 7:38เราจะต้องเลือกระหว่างพวกมันในบางแง่มุม
-
7:38 - 7:40เราจะต้องทำด้วยการจัดอันดับภาพ
-
7:40 - 7:43ตามความน่าจะเป็น
ว่าพวกมันจะเป็นหลุมดำมากแค่ไหน -
7:43 - 7:45จากนั้นเลือกภาพที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด
-
7:45 - 7:47ฉันหมายความว่าอย่างไรน่ะหรือคะ
-
7:48 - 7:50เอาเป็นว่าเราพยายามสร้างแบบจำลอง
-
7:50 - 7:53ที่บอกเราว่ามีความน่าจะเป็นแค่ไหน
ที่ภาพนั้นจะปรากฏบนเฟสบุ๊ก -
7:53 - 7:55เราอยากจะให้แบบจำลองบอกว่า
-
7:55 - 7:58มันไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ใครสักคน
จะโพสภาพรุงรังทางซ้ายนี้ -
7:58 - 8:01และน่าจะเป็นไปได้ที่ใครสักคน
จะถ่ายภาพเซลฟี่ -
8:01 - 8:02อย่างภาพทางขวามือ
-
8:02 - 8:04ภาพตรงกลางค่อนข้างมัว
-
8:04 - 8:06ฉะนั้น แม้ว่ามันน่าจะอยู่บนเฟสบุ๊ก
-
8:07 - 8:08เมื่อเปรียบเทียบกับภาพที่รกรุงรัง
-
8:08 - 8:11มันน่าจะมีโอกาสน้อยกว่า
ที่เราจะได้เห็นมันเมื่อเทียบกับภาพถ่ายเซลฟี่ -
8:11 - 8:13แต่เมื่อมันเป็นภาพที่เกี่ยวกับหลุมดำ
-
8:13 - 8:17เราพบกับปริศนาจริง ๆ
เราไม่เคยเห็นหลุมดำมาก่อน -
8:17 - 8:19ในกรณีนั้น อะไรที่ควรจะเป็นภาพหลุมดำ
-
8:19 - 8:22และเราควรอนุมานอย่างไร
เกี่ยวกับโครงสร้างของหลุมดำ -
8:22 - 8:25เราควรพยายามใช้ภาพ
จากการจำลองที่เราได้ทำ -
8:25 - 8:27อย่างภาพหลุมดำจากเรื่อง "อินเทอร์สเตลล่า"
-
8:27 - 8:30แต่ถ้าเราทำอย่างนี้
มันอาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ -
8:30 - 8:34จะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าทฤษฎีของไอสไตน์ไม่ถูกต้อง -
8:34 - 8:38เราอาจจะยังต้องการสร้างภาพที่แม่นยำ
ของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ขึ้นมาใหม่ -
8:38 - 8:41ถ้าเราใช้สมการของไอสไตน์มากเกินไป
ในกระบวนวิธีของเรา -
8:41 - 8:44เราจะลงเอยที่การเห็นสิ่งที่เราอยากเห็น
-
8:44 - 8:46หรืออีกนัยหนึ่ง
เราอยากเปิดตัวเลือกเอาไว้ -
8:46 - 8:49สำหรับช้างตัวใหญ่
ที่อยู่ ณ ใจกลางของกาแล็กซี่ -
8:49 - 8:50(เสียงหัวเราะ)
-
8:50 - 8:53ชนิดของภาพที่ต่างกัน
มีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน -
8:53 - 8:57เราสามารถบอกได้อย่างง่ายดาย
ถึงความแตกต่างระหว่างภาพหลุมดำจำลอง -
8:57 - 8:59และภาพที่เราถ่ายได้ในชีวิตประจำวันบนโลก
-
8:59 - 9:02เราต้องการวิธีการที่จะบอกกระบวนวิธีของเรา
ว่าภาพมีหน้าตาอย่างไร -
9:02 - 9:05โดยปราศจากการบังคับองค์ประกอบชนิดหนึ่ง ๆ
ของภาพมากเกินไป -
9:06 - 9:08วิธีหนึ่งที่เราสามารถก้าวข้ามมันไปได้
-
9:08 - 9:11ก็คือโดยการบังคับองค์ประกอบ
ของภาพในลักษณะต่าง ๆ -
9:11 - 9:15และดูว่าชนิดต่าง ๆ ของภาพ
จะมีผลต่อการสร้างภาพของเราอย่างไร -
9:16 - 9:19ถ้าชนิดของภาพทั้งหมด
ให้ภาพที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กัน -
9:19 - 9:21เราก็จะมั่นใจได้มากขึ้น
-
9:21 - 9:25ว่าการสมมติภาพขึ้นมานี้
จะไม่ลำเอียงมากเกินไป -
9:26 - 9:28มันคล้าย ๆ การให้คำบรรยายเดียวกัน
-
9:29 - 9:32กันศิลปินร่างภาพสามคนที่กระจายอยู่ทั่วโลก
-
9:32 - 9:33ถ้าเราทุกคนผลิตภาพที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กัน
-
9:34 - 9:36เราก็จะเริ่มมั่นใจมากขึ้น
-
9:36 - 9:40ว่าพวกเราไม่บังคับให้เกิดความอคติทางวัฒนธรรม
ในการวาดภาพจนเกินไป -
9:40 - 9:43วิธีการหนึ่งที่เราสามารถลองบังคับ
องค์ประกอบภาพที่แตกต่างกันได้ -
9:43 - 9:46คือการใช้ชิ้นส่วนของภาพที่มีอยู่
-
9:46 - 9:48เราจึงนำชุดของภาพจำนวนมาก
-
9:48 - 9:51และแยกพวกมันเป็นชิ้นภาพเล็ก ๆ
-
9:51 - 9:55จากนั้นเราก็มองมัน
เหมือนเป็นชื้นปริศนาเล็ก ๆ -
9:55 - 10:00และใช้ชิ้นปริศนาที่เห็นบ่อย ๆ
เพื่อปะติดปะต่อภาพ -
10:00 - 10:02ที่เข้ากันได้กับการวัดจากกล้องโทรทรรศน์
-
10:03 - 10:07ชนิดของภาพที่ต่างกัน
มีชุดของชิ้นปริศนาที่แตกต่างกันมาก -
10:07 - 10:10แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเราใช้ข้อมูลเดียวกัน -
10:10 - 10:14แต่ใช้ชุดของชิ้นข้อมูลที่ต่างกัน
เพื่อสร้างภาพขึ้นใหม่ -
10:14 - 10:19เรามาเริ่มกันที่ชิ้นปริศนาภาพจำลองหลุมดำ
-
10:19 - 10:20เอาล่ะ มันดูสมเหตุสมผล
-
10:20 - 10:23มันดูเหมือนสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้
ว่าหลุมดำจะมีหน้าตาอย่างไร -
10:23 - 10:24แต่เราได้มันมา
-
10:24 - 10:27เพราะว่าเราใช้ชิ้นภาพเล็ก ๆ
ของภาพจำลองหลุมดำหรือเปล่า -
10:27 - 10:29ลองใช้ชุดของชิ้นภาพปริศนาอีกชุด
-
10:29 - 10:32จากวัตถุในอวกาศที่ไม่ใช่หลุมดำ
-
10:33 - 10:35เอาล่ะ เราได้ภาพที่มีหน้าตาคล้าย ๆ กัน
-
10:35 - 10:37แล้วชิ้นส่วนต่าง ๆ จากชีวิตประจำวันเรา
-
10:37 - 10:40อย่างภาพที่คุณถ่ายได้
จากกล้องส่วนบุคคลของคุณล่ะ -
10:41 - 10:43เยี่ยมมากค่ะ เราเห็นภาพเดียวกัน
-
10:43 - 10:47เมื่อเราได้ภาพเดียวกันนี้
จากชุดชื้นปริศนาที่ต่างกันแล้ว -
10:47 - 10:49เราก็จะมั่นใจมากขึ้น
-
10:49 - 10:51ว่าการสมมติภาพที่เราสร้างขึ้นมานี้
-
10:51 - 10:54ไม่ได้เป็นภาพผลลัพธ์
ที่เกิดจากความลำเอียงจนมากเกินไป -
10:54 - 10:57อีกสิ่งหนึ่งที่เราทำได้คือ
การนำชุดชื้นปริศนาเดียวกันนี้ -
10:57 - 11:00อย่างเช่นภาพที่ได้จากภาพในชีวิตประจำวัน
-
11:00 - 11:03ใช้สร้างแหล่งภาพขึ้นมาใหม่
-
11:03 - 11:05ในแบบจำลองของเรา
-
11:05 - 11:08เราสมมติให้หลุมดำมีหน้าตา
คล้ายกับวัตถุในอวกาศที่ไม่ใช่หลุมดำ -
11:08 - 11:12เช่นเดียวกับภาพในชีวิตประจำวัน
อย่างช้างที่อยู่ ณ ใจกลางกาแล็กซี่ -
11:12 - 11:15เมื่อผลลัพธ์ของกระบวนวิธีทางด้านล่าง
มีหน้าตาคล้ายกันมาก ๆ -
11:15 - 11:18กับภาพจริงของการจำลองที่อยู่ด้านบน
-
11:18 - 11:21เราก็จะมั่นใจในกระบวนวิธีของเราได้มากขึ้น
-
11:21 - 11:23และฉันอยากที่จะย้ำตรงนี้ว่า
-
11:23 - 11:25ภาพเหล่านี้ถูกสร้างขึ้น
-
11:25 - 11:28โดยการปะติดปะต่อชิ้นส่วนเล็ก ๆ
จากภาพถ่ายในชีวิตประจำวัน -
11:28 - 11:30อย่างเช่นภาพที่คุณถ่ายไว้
โดยกล้องส่วนบุคคลของคุณ -
11:30 - 11:33ฉะนั้น ภาพหลุมดำที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
-
11:33 - 11:37สุดท้ายแล้ว อาจถูกสร้างขึ้นโดยการปะติดปะต่อ
ภาพที่เราเห็นกันเป็นประจำ -
11:37 - 11:40ของคน ตึกรามบ้านช่อง
ต้นไม้ แมวและหมา -
11:40 - 11:43แนวคิดเรื่องการสร้างภาพในลักษณะนี้
-
11:43 - 11:45จะทำให้การถ่ายภาพแรกของหลุมดำเป็นไปได้
-
11:45 - 11:48และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า มันจะยืนยัน
ความถูกต้องของทฤษฎีชื่อก้อง -
11:48 - 11:50ที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อถือ
และพึ่งพามันเป็นพื้นฐาน -
11:50 - 11:53แต่แน่นอนว่า การทำให้แนวคิด
การสร้างภาพแบบนี้ใช้การได้นั้น -
11:53 - 11:56ไม่อาจเกิดขึ้นได้เลย
ถ้าปราศจากกลุ่มนักวิจัยที่น่าทึ่ง -
11:56 - 11:58ที่ฉันรู้สึกเป็นเกียรติเหลือเกิน
ที่ได้ร่วมงานกับพวกเขา -
11:58 - 11:59มันยังทำให้ฉันประหลาดใจอยู่เลย
-
11:59 - 12:03ว่าถึงแม้ว่าฉันเริ่มทำโครงการนี้
โดยปราศจากพื้นฐานเรื่องฟิสิกส์อวกาศ -
12:03 - 12:05สิ่งที่เราได้จากความร่วมมือ
ที่มีความเป็นเอกลักษณ์นี้ -
12:05 - 12:08อาจส่งผลให้เราได้ภาพแรกของหลุมดำ
-
12:08 - 12:11แต่โครงการใหญ่อย่าง
อีเวน ฮอไรซัน เทเลสโคป นี้ -
12:11 - 12:14ประสบความสำเร็จได้ด้วย
ความเชี่ยวชาญหลากสาขา -
12:14 - 12:15จากบุคคลที่หลากหลาย
ที่นำมันเข้ามาปะติดปะต่อกัน -
12:15 - 12:17เราคือเบ้าหลอมของนักดาราศาสตร์
-
12:17 - 12:19นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ และวิศวกร
-
12:19 - 12:22นี่คือสิ่งที่จะทำให้มันเกิดขึ้นได้จริง
-
12:22 - 12:25เพื่อที่จะทำให้เกิดบางสิ่ง
ที่ครั้งหนึ่งเราคิดว่าเป็นไปไม่ได้ -
12:25 - 12:27ฉันอยากสนับสนุนให้ทุก ๆ คน
-
12:27 - 12:29ช่วยกันขยายพรมแดนทางวิทยาศาสตร์
-
12:29 - 12:33แม้ว่าในตอนแรกมันอาจจะดูเป็นปริศนา
เฉกเช่นเดียวกับหลุมดำ -
12:33 - 12:34ขอบคุณค่ะ
-
12:34 - 12:37(เสียงปรบมือ)
- Title:
- เราจะถ่ายภาพหลุมดำได้อย่างไร
- Speaker:
- เคที โบวแมน (Katie Bouman)
- Description:
-
ในใจกลางทางช้างเผือก มีหลุมดำขนาดใหญ่ที่ส่งก๊าซร้อนที่แผ่ออกมาเป็นวง ดูดทุกสิ่งที่ย่างกรายเข้ามาใกล้เกินไป แม้กระทั่งแสงสว่าง เราไม่สามารถเห็นมันได้ แต่ขอบที่เสมอกันของมันทำให้เกิดเงา และภาพของเงาก็อาจช่วยให้คำตอบกับคำถามที่สำคัญเกี่ยวกับจักรวาลได้ นักวิทยาศาสตร์เคยคิดว่า การถ่ายภาพอะไรเช่นนั้น เราต้องการก้องโทรทรรศน์ที่มีขนาดเท่ากับโลก จนกระทั่งเคที โบวแมน และกลุ่มนักดาราศาสตร์ ได้พบกับทางเลือกที่ชาญฉลาดยิ่งกว่า
มาเรียนรู้เพิ่มเติมกันว่าเราจะสามารถเห็นความมืดสนิทได้อย่างไร - Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 12:51
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How to take a picture of a black hole | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to take a picture of a black hole | ||
Sakunphat Jirawuthitanant accepted Thai subtitles for How to take a picture of a black hole | ||
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to take a picture of a black hole | ||
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to take a picture of a black hole | ||
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to take a picture of a black hole | ||
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to take a picture of a black hole | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to take a picture of a black hole |