< Return to Video

เรียนรู้อะไรก็ได้ใน 20 ชั่วโมง: จอช คาฟแมน (Josh Kaufman)

  • 0:09 - 0:11
    สวัสดีครับทุกท่าน
  • 0:12 - 0:17
    เมื่อสองปีที่แล้ว ชีวิตผมได้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
  • 0:17 - 0:19
    ผมและภรรยา เคลซี
  • 0:19 - 0:23
    ได้ให้กำเนิดลูกสาวของเรา ลีล่า ออกมาดูโลก
  • 0:23 - 0:27
    การได้เป็นพ่อแม่ เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมาก
  • 0:27 - 0:31
    โลกทั้งใบของคุณเปลี่ยนแปลงไปในชั่วข้ามคืน
  • 0:31 - 0:33
    ลำดับความสำคัญทั้งหมดในชีวิต เปลี่ยนไปกะทันหัน
  • 0:33 - 0:39
    เปลี่ยนเร็วเสียจนบางครั้ง เราทำตามไม่ทัน
  • 0:39 - 0:44
    นอกจากนั้น คุณยังต้องเรียนรู้อะไรมากมาย
    เกี่ยวกับการเลี้ยงเด็ก
  • 0:44 - 0:47
    ตัวอย่างเช่น การแต่งตัวให้ลูก
  • 0:47 - 0:48
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:48 - 0:50
    นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับผม
  • 0:50 - 0:54
    นี่เป็นเสื้อผ้าที่ใส่จริงๆ ผมคิดว่า มันเป็นไอเดียที่เข้าท่า
  • 0:54 - 1:00
    แม้แต่ลีล่าเองก็ยังรู้ว่า นั่นไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:00 - 1:04
    มีเรื่องต่างๆ ที่ต้องเรียนรู้
    และความวุ่นวายโกลาหลเกิดพร้อมๆ กัน
  • 1:04 - 1:09
    ส่วนที่เพิ่มเข้าไปในความโกลาหล
    ก็คือทั้งเคลซีและผมต่างก็ทำงานที่บ้าน
  • 1:09 - 1:11
    เราเป็นผู้ประกอบการ เรามีธุรกิจส่วนตัวของเราเอง
  • 1:11 - 1:17
    เคลซีพัฒนาคอร์สออนไลน์ สำหรับครูสอนโยคะ
  • 1:17 - 1:18
    ส่วนผมเป็นนักเขียน
  • 1:18 - 1:21
    เอาละ ผมทำงานที่บ้าน เคลซีเองก็ทำงานที่บ้าน
  • 1:21 - 1:24
    เรามีเด็กทารก และเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด
  • 1:24 - 1:27
    ให้แน่ใจว่า เราได้ทำสิ่งที่ต้องทำทุกอย่าง
  • 1:27 - 1:31
    และชีวิตก็ช่างวุ่นวายเสียเหลือเกิน
  • 1:32 - 1:37
    ในเวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ ในประสบการณ์สุดยอดนี้
  • 1:37 - 1:40
    เมื่ออาการอดนอนเริ่มส่งผลให้เห็น
  • 1:40 - 1:42
    ประมาณสัปดาห์ที่แปด
  • 1:42 - 1:46
    ผมเกิดความคิดขึ้นมา มันเป็นความคิดแบบเดียวกับที่
  • 1:46 - 1:50
    พ่อแม่คนอื่นๆ ทุกช่วงอายุ ทุกชนชาติ
  • 1:50 - 1:52
    ทุกคนเคยมีความคิดนี้ ซึ่งก็คือ
  • 1:52 - 1:58
    ฉันคงไม่มีเวลาว่างอีกแล้ว ... ตลอดทั้งชาตินี้
  • 1:58 - 1:59
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:59 - 2:02
    ใครบางคนเคยบอกว่า มันก็จริง
  • 2:02 - 2:05
    มันก็ไม่จริงเสียทีเดียว
  • 2:05 - 2:10
    แต่ว่ามันให้ความรู้สึก ในตอนนั้น ว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
  • 2:10 - 2:12
    และนั่นทำให้ผมกังวลใจมาก
  • 2:12 - 2:15
    เพราะหนึ่งในกิจกรรมที่ผมชอบทำมาก
  • 2:15 - 2:19
    มากกว่าอย่างอื่น คือการได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
  • 2:19 - 2:22
    การได้ทุ่มเทลงไปเรียนรู้สิ่งที่เคยสงสัยอยากรู้
  • 2:22 - 2:25
    ได้ลองทำ และเรียนรู้ผ่านการลองผิดลองถูก
  • 2:25 - 2:28
    และในท้ายที่สุด ก็กลายเป็นผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ
  • 2:28 - 2:32
    และหากไม่มีเวลาว่างอีกต่อไปแล้ว
  • 2:32 - 2:36
    ผมไม่รู้ว่า จะสามารถได้ทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นอีกได้อย่างไร
  • 2:36 - 2:39
    เอาละ ผมเป็นพวกบ้าวิชาการอย่างหนัก
  • 2:39 - 2:42
    ผมต้องการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
    ต้องการเติบโตต่อไปเรื่อยๆ
  • 2:42 - 2:45
    ดังนั้น สิ่งที่ผมตัดสินใจที่จะทำก็คือ
  • 2:45 - 2:48
    ไปห้องสมุด ไปร้านหนังสือ
  • 2:48 - 2:50
    มองหาผลงานวิจัยที่มีเรื่องเกี่ยวกับ
  • 2:50 - 2:54
    ทำอย่างไรที่จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
  • 2:54 - 2:57
    ผมได้อ่านหนังสือหลายเล่ม เว็บไซต์หลายแห่ง
  • 2:57 - 2:59
    และได้ลองพยายามตอบคำถามที่ว่า
  • 2:59 - 3:03
    ต้องใช้เวลานานแค่ไหน
    กว่าที่จะพัฒนาทักษะใหม่สักอย่างหนึ่ง
  • 3:03 - 3:05
    คุณรู้ไหมว่าผมพบอะไร?
  • 3:05 - 3:09
    หนึ่งหมื่นชั่วโมงครับ!
  • 3:09 - 3:11
    มีใครเคยได้ยินเรื่องนี้บ้างไหม?
  • 3:11 - 3:14
    มันต้องใช้เวลา 10,000 ชั่วโมง
    หากคุณต้องการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ บางอย่าง
  • 3:14 - 3:16
    ถ้าคุณต้องการที่จะทำให้ได้ผลดี
  • 3:16 - 3:18
    มันต้องใช้เวลาถึง 10,000 ชั่วโมงเพื่อไปถึงจุดนั้น
  • 3:18 - 3:21
    ผมได้อ่านเรื่องนี้ในหนังสือหลายเล่ม เว็บไซต์หลายแห่ง
  • 3:21 - 3:28
    ระหว่างอ่านข้อมูลเหล่านั้น ผมก็คิดอยู่ในใจว่า
  • 3:28 - 3:31
    ไม่นะ!!
  • 3:31 - 3:35
    ผมไม่มีเวลาหรอก ไม่มีเวลาถึง 10,000 ชั่วโมง
  • 3:35 - 3:39
    ผมคงไม่สามารถเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
  • 3:39 - 3:42
    ได้อีกต่อไปแล้ว
    (เสียงหัวเราะ)
  • 3:42 - 3:43
    แต่ว่านั่นไม่จริงเลย
  • 3:43 - 3:47
    เวลา 10,000 ชั่วโมง ลองคิดดูคร่าวๆ นะครับ
  • 3:47 - 3:52
    เวลา 10,000 ชั่วโมงคือการทำงานเต็มเวลาตลอด 5 ปี
  • 3:52 - 3:54
    นั่นนานมากเลย
  • 3:54 - 3:56
    และเราเองต่างก็เคยมีประสบการณ์
    เรียนรู้อะไรใหม่ๆ มาบ้าง
  • 3:56 - 4:00
    มันไม่ได้ใช้เวลานานยาวนานขนาดนั้น ใช่ไหมครับ?
  • 4:00 - 4:04
    แล้วมันเป็นยังไงล่ะ ดูเหมือนมีอะไรทะแม่งๆ อยู่นะ
  • 4:04 - 4:07
    ระหว่างสิ่งที่งานวิจัยบอก กับสิ่งที่เราคาดหวัง
    และเคยประสบมาแล้ว
  • 4:07 - 4:09
    มันดูไม่สอดคล้องกันเลย
  • 4:09 - 4:13
    และสิ่งที่ผมค้นพบ ปัญหาอยู่ตรงนี้ครับ
  • 4:13 - 4:20
    กฎ 10,000 ชั่วโมงนี่มาจากการศึกษา
    ของการฝึกฝนให้เก่งถึงระดับผู้เชี่ยวชาญ
  • 4:20 - 4:22
    มีศาสตราจารย์ท่านหนึ่งในมหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา
  • 4:22 - 4:24
    ท่านชื่อ เค แอนเดอร์ส อีริคสัน
    (K. Anders Ericsson)
  • 4:24 - 4:27
    ท่านเป็นผู้ให้กำเนิด กฎ 10,000 ชั่วโมง
  • 4:27 - 4:31
    มันมาจากการที่ท่านได้ศึกษานักกีฬาอาชีพ
  • 4:31 - 4:36
    นักดนตรีระดับโลก นักหมากรุกชั้นเซียน
  • 4:36 - 4:41
    เหล่าพวกผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่ต้องใช้
    ทักษะเฉพาะทางอย่างยิ่งยวด
  • 4:41 - 4:44
    และเขาพยายามที่จะหาว่า มันต้องใช้เวลานานแค่ไหน
  • 4:44 - 4:47
    กว่าที่จะไต่ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดในสาขาเหล่านั้นได้
  • 4:47 - 4:50
    และสิ่งที่เขาพบก็คือ มันเป็นเรื่องของ
    การฝึกซ้อมอย่างมุ่งมั่น
  • 4:50 - 4:52
    เป็นเรื่องของการใช้เวลาของแต่ละคน
  • 4:52 - 4:55
    ในการซักซ้อมทักษะต่างๆ ที่จำเป็นในสาขานั้นๆ
  • 4:55 - 4:57
    ยิ่งใช้เวลาฝึกซ้อมมากเท่าไหร่ ยิ่งเชี่ยวชาญมากเท่านั้น
  • 4:57 - 5:00
    และกลุ่มคนพิเศษ ที่อยู่บนยอดสูงสุดของสาขาเหล่านั้น
  • 5:00 - 5:05
    ต่างก็ได้ทุ่มเวลาประมาณ 10,000 ชั่วโมง
    ไปในการฝึกซ้อม
  • 5:05 - 5:09
    เราคงเคยได้ยินเรื่องที่เนื้อหาเปลี่ยนไป
    จากการเล่าปากต่อปากกันมาแล้ว
  • 5:09 - 5:11
    นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
  • 5:11 - 5:13
    มีนักเขียนท่านหนึ่งชื่อ มาลคอล์ม แกลดเวลล์
  • 5:13 - 5:18
    เขียนหนังสือเล่มหนึ่งในปี 2007 ชื่อ สัมฤทธิ์พิศวง (Outliers)
  • 5:18 - 5:22
    และเนื้อหาสำคัญของหนังสือ
    มีการกล่าวถึงกฎ 10,000 ชั่วโมงนี้ด้วย
  • 5:22 - 5:26
    ฝึกซ้อมให้มาก ฝึกซ้อมให้ดี แล้วคุณจะทำได้ดีมากๆ
  • 5:26 - 5:27
    คุณจะสามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดสุดยอดในสาขาของคุณได้
  • 5:27 - 5:29
    ดังนั้น สาระสำคัญ
  • 5:29 - 5:32
    ที่ด็อกเตอร์อีริคสันได้กล่าวไว้ก็คือ
  • 5:32 - 5:37
    มันใช้เวลาถึง 10,000 ชั่วโมง ที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุด
    ในวงการที่มีการแข่งขันสูง
  • 5:37 - 5:42
    ในสาขาที่เฉพาะเจาะจงมากๆ นั่นคือความหมายที่แท้จริง
  • 5:42 - 5:45
    แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ หลังจากที่หนังสือ
    สัมฤทธิ์พิศวง ออกตีพิมพ์
  • 5:45 - 5:47
    มันก็ทะยานขึ้นไปติดอันดับหนังสือขายดีในทันที
  • 5:47 - 5:50
    แล้วก็ติดอันดับอยู่ยาวนานถึงสามเดือนเต็ม
  • 5:50 - 5:54
    ในทันใดนั้นเอง กฎ 10,000 ชั่วโมง
    ก็เป็นที่แพร่หลายไปทั่ว
  • 5:54 - 6:00
    และก็เกิดเหตุการณ์ที่ข้อมูลถูกบิดเบือนปากต่อปาก
    ในระดับทั้งสังคม
  • 6:00 - 6:05
    สาระสำคัญที่ว่า มันใช้เวลา 10,000 ชั่วโมง
    ที่จะไต่ไปให้ถึงจุดสูงสุดของวงการที่ใช้ทักษะเฉพาะ
  • 6:05 - 6:10
    กลายเป็นว่า มันต้องใช้เวลา 10,000 ชั่วโมง
    เพื่อที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในอะไรสักอย่าง
  • 6:10 - 6:11
    ซึ่งต่อมากลายเป็น
  • 6:11 - 6:16
    ว่าต้องใช้ 10,000 ชั่วโมง
    เพื่อจะทำอะไรบางอย่างได้ดีพอ
  • 6:16 - 6:17
    และต่อมาได้เพี้ยนไปเป็น
  • 6:17 - 6:21
    ว่าต้องใช้ 10,000 ชั่วโมง เพื่อที่จะเรียนรู้อะไรบางอย่าง
  • 6:21 - 6:25
    แต่ประโยคสุดท้ายนี่แหละครับ
    ต้องใช้เวลา 10,000 ชั่วโมงเพื่อเรียนรู้อะไรบางอย่าง
  • 6:25 - 6:29
    มันไม่จริง มันไม่จริงเลย
  • 6:29 - 6:33
    แล้วงานวิจัยจริงๆ แล้วบอกว่าอะไร
  • 6:33 - 6:36
    ผมใช้เวลาเป็นอย่างมากในห้องสมุดของซีเอสยู
  • 6:36 - 6:40
    ในส่วนของจิตวิทยาการเรียนรู้
    เพราะผมเป็นพวกบ้าวิชาการ
  • 6:40 - 6:44
    เมื่อคุณอ่านผลการศึกษาของการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
  • 6:44 - 6:48
    คุณจะได้เห็นแผนภาพในลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
  • 6:48 - 6:52
    นักวิจัย ไม่ว่าจะทางที่เกี่ยวกับทักษะ
    การเคลื่อนไหวทางกาย
  • 6:52 - 6:54
    หรือทักษะทางสมองและความคิด
  • 6:54 - 6:57
    พวกเขาต่างก็ชอบที่จะศึกษาทักษะ
    ที่สามารถจับเวลาได้
  • 6:57 - 6:59
    เพราะพวกเขาสามารถแสดงผลปริมาณเป็นตัวเลขได้
  • 6:59 - 7:02
    พวกเขาจะให้ผู้เข้าร่วมวิจัย ทำงานเล็กๆ ซักอย่างหนึ่ง
  • 7:02 - 7:04
    งานที่จำเป็นต้องใช้ทักษะทางร่างกาย
  • 7:04 - 7:09
    หรืองานบางอย่างที่ต้องใช้เทคนิคทางการคิด
  • 7:09 - 7:13
    และพวกเขาจะจับเวลาว่า
    ผู้เข้าร่วมใช้เวลานานแค่ไหนในการทำงาน
  • 7:13 - 7:16
    และนี่คือสิ่งที่แผนภาพนี้บอกเรา เมื่อเราเริ่ม
  • 7:16 - 7:20
    ตอนที่ให้ผู้เข้าร่วมเริ่มทำงาน มันจะใช้เวลานานมาก
  • 7:20 - 7:23
    เพราะมันเป็นเรื่องใหม่ และผลที่ได้ก็แย่มาก
  • 7:23 - 7:27
    พอได้ฝึกฝนไปซักพัก พวกเขาจะทำได้ดีขึ้น
    ดีขึ้น และดีขึ้น
  • 7:27 - 7:31
    ดังนั้นในช่วงแรกของการฝึกซ้อม
    จะมีประสิทธิภาพสูงมาก
  • 7:31 - 7:36
    ผู้คนจะสามารถทำอะไรบางอย่างได้ดี
    โดยใช้การฝึกฝนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
  • 7:36 - 7:40
    ทีนี้ สิ่งที่น่าสนใจที่ควรจะสังเกตไว้ก็คือ
  • 7:40 - 7:43
    สำหรับทักษะที่เราต้องการจะเรียนเพื่อใช้สำหรับตัวเอง
  • 7:43 - 7:46
    เราไม่สนใจเรื่องของเวลามากเท่าไหร่นัก ใช่ไหมครับ?
  • 7:46 - 7:49
    เราแค่สนใจว่า เราจะทำได้ดีแค่ไหน
    ไม่ว่าเราจะนิยามคำว่าดีอย่างไรก็ตาม
  • 7:49 - 7:55
    ดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนตรงนี้จากเวลา
    ให้เป็นคุณภาพของงาน
  • 7:55 - 7:59
    แผนภาพจะเปลี่ยนไป กลายเป็นภาพ
    ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว
  • 7:59 - 8:01
    นี่คือเส้นโค้งของการเรียนรู้
  • 8:01 - 8:04
    เรื่องราวเกี่ยวกับเส้นโค้งของการเรียนรู้ก็คือ
    เมื่อคุณเริ่มต้น
  • 8:04 - 8:07
    คุณขาดความสามารถนั้นๆ และคุณก็รู้ตัว ใช่ไหมครับ?
  • 8:07 - 8:09
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:09 - 8:12
    พอได้ฝึกซ้อมสักหน่อย คุณก็จะเริ่มดีขึ้น ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • 8:12 - 8:16
    ดังนั้นระดับการปรับปรุงในช่วงแรกๆ
    จะเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก
  • 8:16 - 8:19
    และจนถึงจุดหนึ่ง จะเหมือนขึ้นถึงที่ราบยอดเนิน
  • 8:19 - 8:22
    และต่อจากนั้น การพัฒนาปรับปรุงก็จะยากมากขึ้น
  • 8:22 - 8:25
    จะต้องใช้เวลามากขึ้นมาก
  • 8:25 - 8:29
    คำถามก็คือ นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการ ใช่ไหมครับ
  • 8:29 - 8:32
    ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ที่จะเริ่มทำอะไรบางอย่าง
  • 8:32 - 8:35
    จากคนที่ไม่รู้อะไรเลย ทำไม่เป็นเลย
  • 8:35 - 8:38
    ไปจนถึงจุดที่ทำได้ดีพอสมควร
  • 8:38 - 8:42
    ในเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • 8:42 - 8:45
    งั้น มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันละ
  • 8:45 - 8:50
    ผลการวิจัยของผมบอกว่า 20 ชั่วโมงครับ
  • 8:50 - 8:53
    เท่านั้นเอง คุณสามารถเริ่มเรียนรู้จากศูนย์
  • 8:53 - 8:56
    เพื่อพัฒนาทักษะอะไรก็ได้ที่คุณอยากเรียน
  • 8:56 - 8:59
    อยากจะเรียนรู้ภาษาใหม่ หรือว่าอยากเรียนวาดรูป
  • 8:59 - 9:02
    หรืออยากหัดโยนเลี่อยยนต์ติดไฟโชว์
  • 9:02 - 9:03
    (เสียงหัวเราะ)
  • 9:03 - 9:09
    ถ้าคุณสละเวลา 20 ชั่วโมงให้กับการตั้งใจ
    ทุ่มเทฝึกฝน ทักษะเหล่านั้น
  • 9:09 - 9:11
    คุณจะพบกับความประหลาดใจ
  • 9:11 - 9:14
    ประหลาดใจในแง่ที่ว่า คุณทำได้ดีเป็นอย่างมาก
  • 9:14 - 9:16
    เวลา 20 ชั่วโมงสามารถจัดสรรได้
  • 9:16 - 9:20
    ใช้เวลาประมาณวันละ 45 นาที
    ติดต่อกันประมาณหนึ่งเดือน
  • 9:20 - 9:22
    ต่อให้ข้ามไปบ้างบางวันด้วยซ้ำ
  • 9:22 - 9:25
    ลงทุนเวลา 20 ชั่วโมง ไม่ได้ยากมากนัก
  • 9:25 - 9:28
    อย่างไรก็ตาม มันก็มีวิธีการอยู่เหมือนกัน
  • 9:28 - 9:31
    ไม่ใช่ว่า คุณแค่ใช้เวลามั่วๆ ไปเรื่อยๆ 20 ชั่วโมง
  • 9:31 - 9:33
    แล้วคาดหวังว่าจะมีพัฒนาการได้เป็นอย่างดี
  • 9:33 - 9:36
    มันมีหนทางที่จะฝึกฝนอย่างชาญฉลาด
  • 9:36 - 9:38
    มีหนทางที่จะฝึกฝนให้มีประสิทธิภาพ
  • 9:38 - 9:41
    ซึ่งจะทำให้แน่ใจได้ว่า คุณได้ลงทุนเวลา 20 ชั่วโมงนั้น
  • 9:41 - 9:44
    ไปอย่างคุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • 9:44 - 9:48
    วิธีการเป็นอย่างนี้ครับ ใช้ได้กับทุกเรื่อง
  • 9:48 - 9:51
    ขั้นแรกคือการแยกส่วนของทักษะนั้นๆ
  • 9:51 - 9:56
    ตัดสินใจให้ได้ว่า คุณต้องการจะทำอะไรให้ได้บ้าง
  • 9:56 - 10:02
    แล้วก็พิจารณาทักษะนั้น แยกส่วนมันออกเป็นกลุ่มย่อยๆ
  • 10:02 - 10:06
    สิ่งต่างๆ ที่เราเรียกรวมๆ กันว่าเป็นทักษะนั้น
  • 10:06 - 10:11
    ความจริงแล้วเป็นกลุ่มของกิจกรรมหลายอย่าง
    ที่แตกต่างกัน
  • 10:11 - 10:14
    ยิ่งคุณสามารถแยกส่วนประกอบของทักษะ
    เหล่านั้นได้มากเท่าไหร่
  • 10:14 - 10:17
    คุณจะยิ่งสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
  • 10:17 - 10:19
    ว่าส่วนใหนของทักษะนั้นที่จะช่วยให้คุณ
  • 10:19 - 10:21
    ทำสิ่งที่คุณต้องการได้
  • 10:21 - 10:24
    และคุณสามารถฝึกฝนกิจกรรมย่อยๆ นั้นได้ก่อน
  • 10:24 - 10:26
    และถ้าคุณฝึกฝนกิจกรรมสำคัญที่สุดก่อนแล้ว
  • 10:26 - 10:29
    คุณจะพัฒนาความสามารถในทักษะนั้น
  • 10:29 - 10:32
    ได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด
  • 10:32 - 10:34
    ข้อที่สองคือ เรียนรู้ให้มากพอที่จะแก้ไขตัวเองได้
  • 10:34 - 10:38
    ให้หาตัวช่วยสามถึงห้าอย่าง
    ในหัวข้อที่คุณต้องการจะเรียนรู้
  • 10:38 - 10:44
    อาจจะเป็นหนังสือ ดีวีดี อาจจะเป็นคอร์สอบรม หรืออื่นๆ
  • 10:44 - 10:49
    แต่อย่าใช้ตัวช่วยเหล่านั้นเป็นข้ออ้าง
    ผัดผ่อนการลงมือฝึกฝน
  • 10:49 - 10:51
    ผมรู้ว่าผมทำอย่างนั้น ใช่มั้ยครับ
  • 10:51 - 10:53
    หาหนังสือมา 20 เล่ม เกี่ยวกับหัวข้อนั้น เช่น
  • 10:53 - 10:55
    "ผมจะเริ่มเรียนเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
  • 10:55 - 10:58
    เมื่อผมอ่านหนังสือ 20 เล่มนี้จบแล้ว"
  • 10:58 - 11:00
    ไม่ใช่หรอกครับ นั่นน่ะ ผลัดวันประกันพรุ่ง
  • 11:00 - 11:04
    ที่คุณต้องการก็คือ เรียนรู้แค่ให้มากพอ
  • 11:04 - 11:06
    ที่คุณจะสามารถลงมือฝึกฝน
  • 11:06 - 11:11
    และสามารถแก้ไขหรือปรับปรุงตัวเองได้
    ในระหว่างการฝึก
  • 11:11 - 11:14
    การเรียนรู้กลายเป็นวิถีทางที่จะรู้ได้ดีขึ้น
  • 11:14 - 11:17
    ในระหว่างการฝึก ว่าคุณผิดพลาดที่ตรงไหน
  • 11:17 - 11:20
    แล้วก็จะได้ทำอะไรบางสิ่งบางอย่างให้แตกต่างไปจากเดิม
  • 11:20 - 11:24
    ข้อที่สามก็คือ การขจัดอุปสรรคทั้งหลายของการฝึกฝน
  • 11:24 - 11:27
    สิ่งยั่วเย้าต่างๆ เช่น ทีวี อินเตอร์เน็ต
  • 11:27 - 11:30
    สิ่งทั้งหลาย ที่เข้ามาขวาง
  • 11:30 - 11:33
    การนั่งลงทำงานและฝึกฝนของคุณ
  • 11:33 - 11:37
    และยิ่งคุณใช้ความตั้งใจสักเล็กน้อย
  • 11:37 - 11:40
    ขจัดสิ่งยั่วยวนใจที่มาขัดขวางการฝึกฝนของคุณได้เท่าไหร่
  • 11:40 - 11:46
    คุณยิ่งจะมีโอกาสนั่งลงทำงานฝึกฝน
    ได้อย่างตั้งใจ ใช่ไหมครับ?
  • 11:46 - 11:51
    และข้อที่สี่ก็คือ ฝึกฝนอย่างน้อย 20 ชั่วโมง
  • 11:51 - 11:55
    ทักษะโดยส่วนใหญ่แล้วจะมี สิ่งที่ผมเรียกว่า
    กำแพงแห่งความคับข้องใจ
  • 11:55 - 11:58
    มันคือความรู้สึกที่ว่า เรารู้ตัวว่า
    ไม่มีความสามารถด้านนั้น
  • 11:58 - 12:02
    มันทำให้เกิดความคับข้องใจมาก
    ไม่มีใครอยากรู้สึกว่าตัวเองโง่
  • 12:02 - 12:07
    และความรู้สึกว่าโง่ ก็เป็นกำแพงขวาง
    ไม่ให้เราลงมือทำงานเพื่อฝึกตัวเอง
  • 12:07 - 12:12
    การสร้างพันธะล่วงหน้า
    ว่าจะใช้เวลาฝึกฝนทักษะที่ต้องการ
  • 12:12 - 12:14
    เป็นเวลาอย่างน้อย 20 ชั่วโมง
  • 12:14 - 12:19
    จะทำให้คุณสามารถก้าวข้าม
    กำแพงแห่งความคับข้องใจนี้ไปได้
  • 12:19 - 12:23
    และทำให้ยึดติดอยู่กับการฝึกฝน
    นานพอที่จะเก็บเกี่ยวผลรางวัลนั้นได้
  • 12:23 - 12:25
    แค่นั้นเองครับ ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนเลย
  • 12:25 - 12:30
    เพียงแค่สี่ขั้นตอนง่ายๆ
    ที่คุณสามารถใช้ในการเรียนรู้อะไรก็ได้
  • 12:31 - 12:35
    เอาล่ะ มันก็พูดง่ายนะครับ ในทางทฤษฎี
  • 12:35 - 12:38
    แต่ถ้าพูดเรื่องการฝึกฝนละก็ จะสนุกกว่ามาก
  • 12:38 - 12:42
    หนึ่งในหลายอย่างที่ผมอยากเรียนรู้มานานแล้ว
  • 12:42 - 12:44
    คือการเล่นอูคูเลเล่
  • 12:44 - 12:48
    มีใครเคยดู TEDTalk ของ เจค ชิมาบูโคโร
    (Jake Shimabukuro) ไหมครับ
  • 12:48 - 12:51
    ที่เขาเล่นอูคูเลเล่ ที่พอเราฟังแล้ว
  • 12:51 - 12:52
    เขาเหมือนเป็นเทพเจ้าอูคูเลเล่เลย
  • 12:52 - 12:54
    น่าทึ่งมาก
  • 12:54 - 12:57
    ตอนที่ผมได้ดู
    ผมร้องว่า "นี่มันเจ๋งมาก!"
  • 12:57 - 13:01
    เป็นเครื่องดนตรีที่ประณีตมาก ผมอยากหัดเล่นบ้าง
  • 13:01 - 13:04
    ดังนั้น ผมตัดสินใจที่จะทดสอบทฤษฎีนี้
  • 13:04 - 13:08
    ผมต้องการที่จะลงทุน 20 ชั่วโมงในการฝึกซ้อมอูคูเลเล่
  • 13:08 - 13:10
    แล้วดูว่า จะไปได้แค่ไหนกัน
  • 13:10 - 13:14
    สิ่งแรกที่ต้องทำเกี่ยวกับการเล่นอูคูเลเล่ก็คือ
  • 13:14 - 13:18
    ก่อนที่จะฝึกซ้อมได้ เราต้องมีอูคูเลเล่ตัวหนึ่งก่อน
    ใช่ไหมครับ?
  • 13:18 - 13:22
    ดังนั้นผมก็มีอูคูเลเล่ตัวหนึ่ง แล้วผู้ช่วยที่น่ารักของผมล่ะ?
  • 13:22 - 13:25
    (เสียงหัวเราะ)
  • 13:25 - 13:30
    ขอบคุณครับ ผมคิดว่าผมต้องใช้สายที่นี่นะ
  • 13:32 - 13:36
    มันไม่เพียงเป็นอูคูเลเล่นะ มันเป็นอูคูเลเล่ไฟฟ้า
    (เสียงหัวเราะ)
  • 13:36 - 13:37
    ใช่แล้วครับ
  • 13:41 - 13:45
    ในช่วงสองสามชั่วโมงแรก
    ก็เหมือนกับช่วงแรกของทุกอย่างนั่นแหละ
  • 13:45 - 13:49
    คุณต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือ ที่จะใช้ในการฝึกซ้อมเสียก่อน
  • 13:49 - 13:51
    ทำให้แน่ใจว่า เครื่องมือต่างๆ พร้อมใช้งาน
  • 13:51 - 13:53
    อูคูเลเล่ของผมตอนมาไม่ได้ขึ้นสายมาด้วย
  • 13:53 - 13:55
    ผมต้องหาวิธีขึ้นสายให้มัน
  • 13:55 - 13:57
    นั่นเป็นเรื่องสำคัญ ใช่ไหมครับ
  • 13:57 - 13:58
    แล้วก็เรียนวิธีตั้งสาย เรียนวิธีเทียบเสียง
  • 13:58 - 14:00
    ให้แน่ใจว่า ได้ทำทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ
  • 14:00 - 14:05
    เพื่อให้สามารถเริ่มต้นฝึกซ้อมได้
  • 14:05 - 14:11
    สิ่งหนึ่งที่ผมทำ เมื่อผมพร้อมที่จะเริ่มฝึกเล่นแล้วก็คือ
  • 14:11 - 14:16
    ผมลองค้นฐานข้อมูลหนังสือเพลงออนไลน์
    ดูว่าจะเล่นเพลงอย่างไร
  • 14:16 - 14:19
    และมันก็บอกว่า อูคูเลเล่สามารถเล่นพร้อมๆ กัน
    หลายสายได้
  • 14:19 - 14:21
    นั่นคือเล่นเป็นคอร์ด นั่นเยี่ยมไปเลย
  • 14:21 - 14:24
    คุณเล่นประสานคู่ไปกับตัวคุณเอง ใช่คุณเองนั่นแหละ
    (เสียงหัวเราะ)
  • 14:24 - 14:28
    และเมื่อผมเริ่มมองหาเพลงที่จะเล่น
  • 14:28 - 14:32
    ผมมีคู่มือคอร์ดอูคูเลเล่ ที่มีคอร์ดมากมายเป็นร้อยคอร์ด
  • 14:32 - 14:36
    ดูพวกนั้นแล้วก็ "โห... น่ากลัวจัง"
  • 14:36 - 14:38
    แต่พอคุณได้ดูเพลงต่างๆ จริงๆ แล้ว
  • 14:38 - 14:43
    คุณจะพบคอร์ดเดิมๆ ซ้ำๆ กัน ใช่มั้ยครับ
  • 14:43 - 14:46
    มันกลายเป็นว่า การเล่นอูคูเลเล่ก็เหมือนกับ
    การทำอะไรอีกหลายๆ อย่าง
  • 14:46 - 14:50
    มันมีเรื่องที่สำคัญจริงๆ อยู่แค่ไม่กี่อย่างเท่านั้น
  • 14:50 - 14:52
    และเทคนิคเหล่านั้นคุณจะได้ใช้มันตลอดเวลา
  • 14:52 - 14:58
    ในเพลงเกือบทั้งหมด คุณจะใช้แค่เพียง
    สี่ หรือ ไม่ก็ห้าคอร์ดเท่านั้น
  • 14:58 - 15:00
    แค่นั้นเอง แค่นั้นก็เป็นเพลงได้แล้ว
  • 15:00 - 15:05
    คุณไม่ต้องรู้จักคอร์ดเป็นร้อย
    ขอแค่รู้สี่หรือห้าก็เพียงพอแล้ว
  • 15:05 - 15:07
    ในขณะที่ผมทำการค้นคว้าอยู่นั้น
  • 15:07 - 15:11
    ผมได้พบเพลงเมดเล่ย์ ที่รวมเพลงป็อป
    หลายๆ เพลงไว้ด้วยกัน
  • 15:11 - 15:16
    โดยวงชื่อ แอกซิส ออฟ ออซั่ม (Axis of Awesome)
    (เสียงเป่าปาก)
  • 15:16 - 15:19
    บางคนก็รู้จักวงนี้นะครับ
  • 15:19 - 15:23
    วงแอกซิส ออฟ ออซั่ม บอกไว้ว่า คุณสามารถเรียน
  • 15:23 - 15:27
    หรือเล่นเพลงป็อปเพลงไหนก็ได้ ในช่วงห้าสิบปีที่ผ่านมา
  • 15:27 - 15:29
    เพียงแค่คุณรู้คอร์ดสี่คอร์ด
  • 15:29 - 15:33
    คอร์ดเหล่านั้นคือ จี ดี อีไมเนอร์ และซี
  • 15:33 - 15:38
    แค่สี่คอร์ดนี้ก็เล่นเพลงป็อปได้ทุกเพลงแล้ว ใช่ไหมครับ
  • 15:38 - 15:39
    ผมก็คิดว่า มันเยี่ยมมาก
  • 15:39 - 15:43
    ผมอยากจะเล่นเพลงป็อปได้ทุกเพลงเหมือนกัน
    (เสียงหัวเราะ)
  • 15:43 - 15:46
    ดังนั้น มันเลยเป็นเพลงแรกที่ผมตัดสินใจที่จะเรียน
  • 15:46 - 15:49
    และผมอยากเล่นให้คุณฟัง พร้อมหรือยังครับ?
  • 15:49 - 15:51
    (เสียงปรบมือ)
    เอาละ
  • 15:51 - 15:55
    (เสียงดนตรี)
  • 16:04 - 16:06
    (เสียงร้อง)
    ♫ เป็นแค่เด็กหญิงจากเมืองเล็กๆ ♫
  • 16:06 - 16:09
    ♫ อาศัยอยู่ในโลกอันเปล่าเปลี่ยว ♫
  • 16:09 - 16:15
    ♫ เธอขึ้นรถไฟเที่ยวดึก ท่องเที่ยวไป ... ♫
  • 16:15 - 16:18
    ♫ ได้ข่าวว่าคุณลงหลักปักฐานแล้ว ♫
    (เสียงหัวเราะ)
  • 16:18 - 16:22
    ♫ ว่าคุณเจอหญิงในฝัน ♫
  • 16:22 - 16:25
    ♫ ว่าคุณแต่งงานแล้ว ♫
  • 16:25 - 16:27
    ♫ ทุกค่ำคืน ในฝันของฉัน ♫
    (เสียงหัวเราะ)
  • 16:27 - 16:30
    ♫ ฉันเห็นคุณ ฉันรู้สึกถึงคุณ ♫
  • 16:30 - 16:36
    ♫ ฉันจึงรู้ว่ายังมีคุณด้วยต่อไป ♫
    (เสียงหัวเราะ)
  • 16:36 - 16:42
    ♫ ฉันจะไม่ลังเลอีกต่อไป
    ผมรอไม่ได้แล้ว ผมเป็นของคุณ ♫
  • 16:42 - 16:48
    ♫ เพราะคุณนั้นน่าทึ่งเหลือเกิน
    และเราก็ได้ทำสิ่งน่าทึ่งร่วมกัน ♫
  • 16:48 - 16:53
    ♫ ถ้าฉันทำได้ ฉันก็จะทำ
    ฉันจะไปทุกที่ที่เธอไป ♫
  • 16:53 - 16:58
    ♫ เธอรู้สึกถึงความรักในค่ำคืนนี้ไหม ♫
    (เสียงหัวเราะ)
  • 16:58 - 17:03
    ♫ มีเธอฉันก็อยู่ไม่ได้ ไม่มีเธอฉันก็ขาดใจ ♫
  • 17:03 - 17:05
    ♫ เมื่อฉันตกอยู่ ♫
  • 17:05 - 17:07
    ♫ เมื่อฉันตกอยู่ในความยากลำบาก
    พระแม่มารี ก็ปรากฏกาย ♫
  • 17:07 - 17:12
    ♫ บางครั้งฉันรู้สึกไร้เหมือนไร้คู่
    ไม่มีเธอ ก็ไม่ต้องร้องไห้ ♫
  • 17:12 - 17:14
    ♫ แม่จ๋า นี่มันฝันไปชัดๆ ♫
  • 17:14 - 17:16
    ♫ ฉันมาจากดินแดนซีกโลกใต้ ♫
    (เสียงหัวเราะ)
  • 17:16 - 17:19
    ♫ กาลครั้งหนึ่ง มีนักเดินทางผู้ร่าเริง
    ตั้งแคมป์อยู่ใกล้แอ่งน้ำ ♫
  • 17:19 - 17:22
    ♫ เฮ้ ฉันเพิ่งพบคุณ นี่มันอาจฟังดูแปลก ♫
    (เสียงหัวเราะ)
  • 17:22 - 17:26
    ♫ แต่เอาเบอร์ฉันไป แล้วโทรมาบ้างนะ ♫
  • 17:26 - 17:30
    ♫ เฮ้ เซ็กซี เลดี้ อบ อบ อบ อบ
    อบ ปะ กังนัมไสตล์ ♫
    (เสียงหัวเราะ)
  • 17:30 - 17:36
    ♫ ถึงเวลาต้องลาจาก ♫
  • 17:36 - 17:46
    ♫ ถึงเวลาต้องจบแล้ว ทุกการเริ่มต้น
    ล้วนมาจากจุดจบก่อนหน้า ♫
  • 17:46 - 17:50
    (เสียงดนตรีและเสียงร้องจบลง)
    (เสียงปรบมือ)
  • 17:57 - 18:01
    ขอบคุณครับ ขอบคุณ
  • 18:03 - 18:07
    ผมรักเพลงนั้นนะครับ
    (เสียงหัวเราะ)
  • 18:07 - 18:10
    และผมมีความลับจะบอกกับคุณ
  • 18:10 - 18:14
    โดยการเล่นเพลงนี้ให้คุณฟัง
  • 18:14 - 18:19
    ผมเพิ่งจะทำเวลาครบ 20 ชั่วโมง
    ในการฝึกเล่นอูคูเลเล่ครับ
  • 18:19 - 18:23
    (เสียงปรบมือ)
    ขอบคุณครับ
  • 18:25 - 18:29
    มันเป็นเรื่องวิเศษมากครับ แทบจะทุกสิ่งทุกอย่าง
    ที่คุณสามารถคิดได้
  • 18:29 - 18:31
    คุณอยากจะลองทำอะไรดีล่ะ
  • 18:31 - 18:35
    อุปสรรคสำคัญของการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไม่ใช่ความฉลาด
  • 18:35 - 18:41
    ไม่ใช่เรื่องขั้นตอนที่เรียนรู้เทคนิค
    หรือวิธีการ ในการทำสิ่งต่างๆ
  • 18:41 - 18:45
    อุปสรรคสำคัญเป็นเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ เรากลัวครับ
  • 18:45 - 18:47
    ความรู้สึกว่าตัวเองโง่ เป็นความรู้สึกที่แย่มาก
  • 18:47 - 18:49
    ในช่วงแรกเริ่มของการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
  • 18:49 - 18:52
    คุณจะรู้สึกว่าตัวเองโง่มากๆ
  • 18:52 - 18:56
    ดังนั้นอุปสรรคสำคัญไม่ใช่เรื่องความฉลาด
    เป็นเรื่องอารมณ์
  • 18:56 - 18:59
    แต่การลงทุน 20 ชั่วโมงสำหรับอะไรก็ตาม
  • 18:59 - 19:01
    มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย คุณอยากเรียนอะไรล่ะครับ?
  • 19:01 - 19:05
    คุณอยากจะเรียนภาษาใหม่หรือเปล่า
    หรือว่าอยากจะเรียนทำอาหาร?
  • 19:05 - 19:07
    อยากจะเรียนวาดภาพ?
  • 19:07 - 19:11
    อะไรที่ทำให้คุณตื่นเต้นสนใจ?
    อะไรทำให้คุณกระตือรือล้น?
  • 19:11 - 19:15
    ลองออกไปแล้วก็ทำสิ่งเหล่านั้นสิครับ
    มันใช้แค่ 20 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
  • 19:15 - 19:16
    ขอให้สนุกนะครับ
  • 19:16 - 19:19
    (เสียงปรบมือ)
Title:
เรียนรู้อะไรก็ได้ใน 20 ชั่วโมง: จอช คาฟแมน (Josh Kaufman)
Description:

จอช คาฟแมนเป็นผู้เขียนหนังสือขายดี 'The Personal MBA: Master the Art of Business' และ 'The First 20 Hours: Mastering the Toughest Part of Learning Anything' จอชเชี่ยวชาญในการสอนผู้คนทุกเพศทุกวัยในการพัฒนาทักษะและความรู้ ในการพูดครั้งนี้ เขาเล่าถึงประสบการณ์การเลี้ยงลูกที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ด้วยแนวทางที่แตกต่างออกไป

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDxTalks
Duration:
19:27
  • แปลดีมากเลยครับ ผมมีเปลี่ยนบางคำให้เป็นภาษาเขียน เช่น ซัก -> สัก, มั้ย -> ไหม แบ่งบรรทัดที่ยาวๆ ออกเป็นสองบรรทัด และตอนท้ายผมแปลเนื้อเพลงเป็นภาษาไทยด้วย แต่ถ้ามีจุดไหนคิดว่าแบบเดิมดีกว่า ก็แจ้งได้นะครับ ยินดีแก้คืนให้ครับ - ปั้น

  • I think it's ready to be published krab. Thank you.

Thai subtitles

Revisions Compare revisions