-
รูปข้างล่างแสดงกราฟของ f ไพรม์
-
อนุพันธ์ของฟังก์ชันที่หาอนุพันธ์ได้สองครั้ง f
-
บนช่วง มันคือช่วงปิด
-
จากลบ 3 ถึง 4
-
กราฟของ f ไพรม์มีเส้นสัมผัสแนวนอน
-
ที่ x เท่ากับ 1, x เท่ากับ 1,
-
และ x เท่ากับ 3
-
คุณมีเส้นสัมผัสแนวนอนตรง
-
เส้นสัมผัสแนวนอนตรงนี้
-
ขอผมวาดให้สวยขึ้นหน่อย
-
ตรงนี้
-
เส้นสัมผัสแนวนอนตรงนี้
-
และเส้นสัมผัสแนวนอนตรงนี้
-
เอาล่ะ
-
พื้นที่ของเขตที่ล้อมรอบ
-
ด้วยแกน x กับกราฟของ f ไพรม์
-
บนช่วงลบ 2 ถึง 1
-
ช่วงปิดจากลบ 2 ถึง 1
-
เขตนี่ตรงนี้
-
และเขตจาก 1 ถึง 4
-
พื้นที่นี่ตรงนี้
-
เขาบอกเราว่า
-
มีพื้นที่เท่ากับ 9 และ 12 ตามลำดับ
-
พื้นที่นั้นคือ 9 และพื้นที่นั้นคือ 12
-
ข้อ a
-
หาพิกัด x ทั้งหมดที่ f มีค่าสูงสุดสัมพัทธ์
-
ให้เหตุผลสำหรับคำตอบ
-
พิกัด x ทั้งหมดที่ f
-
มีค่าสูงสุดสัมพัทธ์
-
คุณอาจบอกว่า
-
โอ้ เดี๋ยวก่อน ดูเหมือนว่าจุดสูงสุดสัมพัทธ์
-
อยู่ตรงนี้ แต่ไม่ใช่ f
-
นี่คือกราฟของ f ไพรม์
-
ลองคิดดูเมื่อเราใช้
-
เราไม่มีกราฟของ f ตรงหน้าเรา
-
ลองคิดดูว่าอะไรต้องเป็นจริง
-
เพื่อให้ f มีค่าสูงสุดสัมพัทธ์ที่จุดหนึ่ง
-
เราน่าจะคุ้นเคย
-
ว่าค่าสูงสุดสัมพัทธ์เป็นอย่างไร
-
มันจะดูเหมือนเนิน อย่างนั้น
-
คุณบอกได้ว่ามันเป็นแบบนั้นก็ได้
-
แต่เนื่องจากฟังก์ชันนี้เป็นฟังก์ชัน
ที่หาอนุพันธ์ได้
-
บนช่วง เราจึงไม่นาจะ
-
มีค่าสูงสุดสัมพัทธ์ที่เป็นแบบนั้น
-
แล้วเรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับจุดสูงสุดสัมพัทธ์?
-
สมมุติว่านั่นคือจุดสูงสุดสัมพัทธ์ของเรา
-
เมื่อเราเข้าหาค่าสูงสุดสัมพัทธ์
-
จากค่า เมื่อเรามีค่า x ที่เข้าหา
-
ค่า x ของจุดสูงสุดสัมพัทธ์
-
เมื่อเราเข้าหามันจากข้างล่าง ค่า x นั้น
-
เราเห็นว่าเรามีความชันเป็นบวก
-
ฟังก์ชันของเราต้องเพิ่มขึ้น
-
ตรงนี้
-
ตรงนี้ เราเห็นว่า f กำลังเพิ่มขึ้น
-
จะเป็นจุดสูงสุดสัมพัทธ์
-
f กำลังเพิ่มขึ้น
-
นั่นหมายความว่าอนุพันธ์ของ f
-
อนุพันธ์ของ f ต้องมากกว่า 0
-
แล้วหลังจากเราผ่านจุดสูงสุดนั้น
-
หลังจากเราผ่านจุดสูงสุด
-
เราเห็นว่าฟังก์ชันต้องลดลง
-
ใช้อีกสีนะ
-
เราเห็นว่าฟังก์ชันของเราลดลง
-
ตรงนี้ f ลดลง
-
ลดลง ซึ่งหมายความว่า
-
f ไพรม์ของ x ต้องน้อยกว่า 0
-
จุดสูงสุดสัมพัทธ์ของเรา
-
จึงควรเกิดขึ้นตรงค่า x
-
มันควรเกิดขึ้นที่ค่า x
-
ตรงที่อนุพันธ์อันดับหนึ่งเปลี่ยน
-
จากมากกว่า 0
-
เป็นน้อยกว่า 0
-
ค่า x ใด
-
ขอผมบอกอย่างนี้หน่อย
-
เรามี
-
f มี ขอผมเขียนย่อนะ
-
ค่าสูงสุดสัมพัทธ์ที่ค่า x
-
โดย
-
f ไพรม์เปลี่ยน
-
เปลี่ยน
-
เปลี่ยนจาก
-
บวก บวก
-
เป็นลบ ขอผมเขียนให้สวยหน่อย
-
เป็นลบ
-
เป็นลบ
-
เราเห็น f ไพรม์เปลี่ยนตรงไหน
-
จากบวกเป็นลบ?
-
ตรงนี้ เราเห็นว่ามันเกิดขึ้นครั้งเดียว
-
เราเห็นตรงนี้ f ไพรม์เป็นบวก บวก บวก
-
แล้วมันก็เป็นลบ ลบ ลบ
-
เราเห็น
-
เราเห็น f ไพรม์เป็นบวกตรงนี้
-
แล้ว ตรงที่เราเจอ x เท่ากับลบ 2
-
f ไพรม์กลายเป็นลบ
-
f ไพรม์กลายเป็นลบ
-
เราจึงรู้ว่าฟังก์ชันเอง
-
ไม่ใช่ f ไพรม์
-
f ต้องเพิ่มขึ้นตรงนี้
-
เพราะ f ไพรม์เป็นบวก
-
แล้วฟังก์ชันของเราที่ f
-
ลดลงตรงนี้
-
เพราะ f ไพรม์เป็นลบ
-
แล้วอันนี้เกิดขึ้นที่ x เท่ากับ 2
-
ขอผมเขียนมันลงไปนะ
-
อันนี้เกิดขึ้นที่ x เท่ากับ 2
-
อันนี้เกิดขึ้น
-
เกิดขึ้นที่ x เท่ากับ 2
-
เราก็เสร็จแล้ว