-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
อยากรู้กันมั้ยคะว่าทำไม
เราต้องใช้หญ้าแพรกไหว้ครู
-
แต่ก่อนที่จะไปรู้กันเนี่ย
บอกเลยนะคะว่าพูดถึงครู
-
ครูไม่ได้มีแค่ในห้องเรียนค่ะ
-
สมัยนี้นะคะเราสามารถ
เรียนรู้นอกห้องเรียนได้ด้วย
-
และที่สำคัญตรงกับหลักสูตรกระทรวงเป๊ะๆๆๆเลยนะคะ
-
ไม่ว่าใครจะเอาไปใช้สอบ O-NET GAT-PAT กสพท.
-
9วิชาสามัญ SATmath หรือว่า BMAT นะคะ
-
ก็สามารถเข้าไปทบทวนและลองทำข้อสอบ
พร้อมๆกับรุ่นพี่ระดับ Top ประเทศ
-
ที่จะมาเฉลยละเอียดยิบได้ในช่อง
Nestle School Channel ค่ะ
-
บอกเลยว่าเนื้อหาละเอียดยิบ
ไม่ได้ต่างจากที่ครูสอนในห้องเรียนเลยค่ะ
-
ส่วนใครที่เข้าไปดูแล้ว
อย่าลืมกด Subscribe กันนะคะ
-
จะได้ไม่พลาดเลยเวลาที่ต้องติวสอบค่ะ
-
ที่สำคัญเขามีเป็น App ด้วยนะคะ
-
ลองไปใช้งานกันได้ค่ะ
-
เอาละ จบเรื่องที่เค้าฝากมาบอกแล้วนะคะ
-
เข้าเรื่องของเรากันดีกว่าค่ะ
-
จริงๆแล้วช่วงสัปดาห์นี้ก็เป็นวันครูด้วยใช่ไหมคะ
-
ดังนั้นไม่แปลกเลยถ้าเราจะมาคุยเรื่องครูกันค่ะว่า
-
เฮ้ย ทำไมอยู่ดีๆเราต้องเอาหญ้าแพรกมาไหว้ครู
-
ซึ่งเรื่องนี้บอกว่าวิวขออนุญาต
ตอบด้วยดราม่าระดับเทพค่ะ
-
รับรองว่าเรื่องในวันนี้ดราม่าแน่ๆนะคะ
-
ดังนั้นนะคะอย่าลืม
กดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางค่ะ
-
จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆแล้วก็คลิปวิดีโอสนุกๆ
จากช่อง Point of View นะคะ
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่
ทั้งสนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
ถ้าเราจะมาพูดถึงว่า
ทำไมเราต้องใช้หญ้าแพรกไหว้ครูนะคะ
-
เราต้องมาดูที่พิธีไหว้ครูของไทยก่อนว่า
-
เฮ้ย มันมีต้นไม้ใบหญ้าอะไรที่
เกี่ยวข้องกับการไหว้ครูบ้างนะคะ
-
ซึ่งเอาจริงๆในสมัยนี้
เวลาเราจัดพานไหว้ครูหรืออะไร
-
ทุกวันนี้เราก็จัดกันเอามันส์ใช่ไหม
-
จัดให้แบบว่าตื่นเต้นอลังการ
เป็นการประกวดแฟนซีอะไรกันไปต่างๆแล้ว
-
แต่จริงๆนะคะในสมัยก่อนมันมีความเชื่ออยู่ค่ะว่า
-
มันจะมีต้นไม้ดอกไม้จำพวกนึงเนี่ย
ที่เรานิยมนำมาไหว้ครูกันค่ะ
-
ประกอบไปด้วย หนึ่ง หญ้าแพรกนะคะ
ที่เราจะเล่าถึงในวันนี้
-
สองคือดอกมะเขือ สามคือดอกเข็ม
-
และสุดท้ายนะคะ ไม่ใช่ดอกไม้ใบหญ้าค่ะ
แต่ว่าเป็นข้าวตอกนั่นเอง
-
ทีนี้ถามว่าทำไมต้องใช้สิ่งเหล่านี้ในการไหว้ครูนะคะ
-
เค้าบอกว่าแต่ละอย่างเนี่ย
มันก็มีความหมายของมันเองค่ะ
-
อะ หญ้าแพรกเนี่ยนะคะ
ตามความเชื่อไทยเค้าเชื่อกันว่า
-
สาเหตุที่เราต้องนำหญ้าแพรกมาไหว้ครูเพราะว่า
-
หญ้าแพรกเป็นตัวแทนของความอดทนค่ะ
-
คือหญ้าแพรกเนี่ยเป็นหญ้าที่ทนมากนะ
เรียกได้ว่าไปปลูกตรงไหนก็ขึ้นนะ
-
กระทืบ กระทืบ กระทืบก็ไม่ตาย
-
อากาศร้อนแห้งแล้งอะไรต่างๆ
หญ้าแพรกอาจจะแค่เหี่ยว อาจจะแค่เหลือง
-
แต่สุดท้ายเมื่อเจอฝน หญ้าแพรกก็จะกลับมา
งอกงามเหมือนเดิมอีกครั้งนึงนะคะ
-
ดังนั้นนะคะเราก็เลยนำหญ้าแพรกไปไหว้ครูกันค่ะ
-
เพื่อเป็นตัวแทนของความเข้มแข็งอดทน
ในการเรียน อะไรทำนองนี้นะคะ
-
ส่วนดอกมะเขือเนี่ยเป็นตัวแทนของความอ้อนน้อมค่ะ
-
คือดอกมะเขือเนี่ยนะคะเป็น
ดอกไม้ที่มันจะไม่ชูขึ้นด้านบนค่ะ
-
มันจะเป็นดอกไม้ที่ค้อมลงอย่างนี้นะคะ
-
คือถ้าเรานึกถึงดอกไม้ ปกติดอกกุหลาบ
ดอกอะไรอย่างนี้ ส่วนใหญ่มันจะชูขึ้นฟ้าใช่ไหม
-
แต่ดอกมะเขือนะคะ
จะเป็นดอกค้อมลงค่ะ เพราะว่าอะไร
-
เพราะว่าดอกมะเขือมันจะกลายเป็น
ก้านของลูกมะเขือในอนาคตไง
-
ถ้ามันชูขึ้น ลูกมะเขือมันก็หนัก
มันก็พุ่งขึ้น มันก็ไม่รอดนะคะ
-
ดังนั้นค่ะ เค้าก็เลยบอกว่า
-
เออ ดอกมะเขือนี่แหละ
ตัวแทนของความอ่อนน้อมถ่อมตน
-
ถ้าไม่อ่อนน้อมมันจะไม่เจริญงอกงามเป็นผลนะจ๊ะ
-
ก็เลยนำมาใช้ไหว้ครูนั่นเองค่ะ
-
ส่วนดอกเข็มเนี่ยอันนี้เป็นคอนเซปต์ค่อนข้างใหม่
-
เค้าบอกว่าการที่เรานำดอกเข็มไปไหว้ครูนะคะ
จะทำให้สติปัญญาของเราเฉียบแหลมประดุจเข็ม
-
น่ะ ประมาณนั้นเลย
-
ส่วนข้าวตอก อันนี้เป็นปริศนาธรรมนิดนึง
-
รู้จักข้าวตอกกันไหมทุกคน
-
ข้าวตอกคือการที่เอาข้าวนะคะมาคั่วๆๆๆ
-
ปกติเค้าจะคั่วกันในกระทะค่ะ
-
แล้วก็มันก็จะกระเด็น กระเด็น กระเด็น
-
เหมือนที่เค้าบอกว่า
ดังเป็นข้าวตอกแตกประมาณนั้นแหละ
-
พอคั่วๆๆ ข้าวมันแตก
มันก็จะกลายเป็นข้าวตอกนะคะ
-
ซึ่งมันเอามาใช้ประโยชน์ได้
นำมาใช้กิน ใช้ทำนู่นใช้ทำนี่ค่ะ
-
ทีนี้ถามว่าข้าวตอกเป็นตัวแทนของอะไร
-
ข้าวตอกนะคะเป็นตัวแทนของความมีระเบียบค่ะ
-
เอ๊า แล้วเป็นข้าวตอกแตก
แล้วมันมีระเบียบยังไงนะคะ
-
ก็ต้องบอกว่าพอพูดถึงการคั่วข้าวตอกนี่ล่ะค่ะ
เวลาข้าวตอกอยู่ในกระทะเนี่ยนะคะ
-
เมล็ดข้าวแต่ละเมล็ดจะโดนโยนลงไปในกระทะค่ะ
ระหว่างคั่วมันก็จะแตกไปนู่น แตกไปนี่
-
ซึ่งข้าวตอกไหนที่อยู่ในระเบียบวินัยนะคะ
มันก็จะยังอยู่ในกระทะ
-
อาจจะมีการดิ้นซนบ้าง เด้งบ้าง
ดึ๊งๆๆๆ อะไรอย่างนี้
-
แต่มันก็ยังอยู่ในกระทะค่ะ
-
ซึ่งเมล็ดข้าวเหล่านี้ที่ยังอยู่ในกระทะเนี่ยนะคะ
-
มันก็จะกลายเป็นข้าวตอกที่สามารถ
นำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไปค่ะ
-
แตกต่างจากเมล็ดข้าวหลายๆเมล็ดนะคะ
-
ที่พอโยนลงไปเนี่ยมันแตก
แล้วมันก็จะเด้งออกมาจากกระทะ
-
เป๊าะๆๆๆ
-
ดังนั้นข้าวเมล็ดไหนนะคะที่กระเด็น
ออกไปนอกกระทะแบบไม่มีระเบียบเนี่ย
-
ก็จะกลายเป็นข้าวที่ไม่มีประโยชน์นั่นเองค่ะ
-
สื่อให้เห็นว่าความเชื่อไทยสมัยก่อนเนี่ย
คนที่เป็นนักเรียนก็ต้องอยู่ในระเบียบวินัยนะคะ
-
ประมาณนี้เลย
อันนี้คือความเชื่อแบบไทย
-
ทีนี้เราช่างสามอันหลังไปค่ะ
เรามาพูดถึงหญ้าแพรกกันวันนี้
-
คือจะบอกว่าหญ้าแพรกเนี่ย ถึงความเชื่อแบบไทย
จะบอกว่าเป็นความเข้มแข็งอดทนอะไรต่างๆนะคะ
-
แต่หญ้าแพรกเนี่ยไปเกี่ยวกับ
ความเชื่อของทางอินเดียด้วยค่ะ
-
ซึ่งมันแซ่บกว่าของไทยไง
-
ดังนั้นวันนี้นะคะเราจะมาเล่าเรื่อง
เกี่ยวกับความเชื่ออินเดียกันค่ะ
-
พูดถึงหญ้าแพรกเนี่ยนะ บอกเลยว่าหญ้าแพรก
เป็นหญ้าที่ค่อนข้างจะฮอตฮิตในอินเดียนะ
-
มีการกล่าวถึงหลายต่อหลายครั้งเลยทีเดียว
-
อย่างในคัมภีร์ปุราณะนะคะ
หลายฉบับก็กล่าวถึงหญ้าแพรกค่ะ
-
เช่น ปุราณะที่ชื่อว่า Bhavisya Purana เนี่ยนะคะ
ก็มีการกล่าวถึงหญ้าแพรกว่า
-
หญ้าแพรกเป็นหญ้าที่เกิดขึ้นจาก
มือของพระวิษณุหรือพระนารายณ์
-
ดังนั้นนี่คือหญ้าศักดิ์สิทธิ์
-
หรือว่าใน Vamana Purana นะคะก็บอกว่า
-
หญ้าแพรกนี่คือหญ้าที่อยู่กับ
หางของพญานาควาสุกรี
-
ซึ่งพญานาควาสุกรีเราก็รู้ใช่ไหมคะ
ว่าเป็นพญานาคสำคัญขนาดไหน
-
แต่วันนี้วิวไม่ได้จะมาเล่าสองตำนานนี้ค่ะ
-
ตำนานที่เราจะมาเล่าถึงเนี่ย
เกี่ยวข้องกับเทพองค์นึงที่หลายๆคนถามถึง
-
และอยากให้วิวเล่าเรื่อง
เทพองค์นี้มานานมากแล้วนะคะ
-
เทพองค์นั้นก็คือ พระพิฆเนศ
หรือว่า พระคเณศ นั่นเองค่ะ
-
ซึ่งในวันนี้นะคะ
วิวจะเล่าเรื่องพระคเณศเนี่ย
-
โฟกัสไปเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีไหว้ครูนะคะ
-
อาจจะไม่ได้ไปเล่าถึง
ประวัติต่างๆที่เหลืออะไรนะคะ
-
ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังในโอกาสหน้าค่ะ
-
อะ พูดถึงพระคเณศของเรา
เกี่ยวข้องยังไงกับหญ้าแพรก
-
และเกี่ยวข้องยังไงกับครูนะคะ
-
ก็ต้องบอกว่าถ้าใครเป็นคนที่บูชาพระคเณศเนี่ย
-
หรือใครเคยไปเที่ยวที่
เทวสถานโบสถ์พราหมณ์เนี่ยนะคะ
-
ก็จะเห็นว่าพระคเณศเนี่ย
เวลาเราจะบูชาพระคเณศเนี่ยนะคะ
-
ก็จะมีของต่างๆที่เราเชื่อกันว่า
เป็นของโปรดของพระคเณศ
-
ที่เอาไปบูชาแล้วพระคเณศจะเลิฟๆเรามากๆนะคะ
-
ยกตัวอย่างเช่น ขนมโมทกะ เป็นต้น
-
อันนี้วิวก็เขียนไว้ในหนังสือเล่มนึงแล้ว
-
ที่ชื่อว่า วรรณคดีไทยไดเจสต์ เป็นหนังสือรวม
เกร็ดเรื่องราวเกี่ยวกับวรรณคดีแซ่บๆ เล่มสีชมพูๆนะคะ
-
สามารถซื้อหากันได้ตามลิงก์ด้านล่าง
-
และ ขายทำไม กลับมาก่อนค่ะ
-
แต่วันนี้เราจะไม่ได้พูดถึงขนมโมทกะนะคะ
-
เราจะพูดอีกอย่างนึงค่ะ
-
คือเวลาที่ใครไปไหว้พระคเณศเนี่ยนะคะ
รวมที่โบสถ์พราหมณ์ด้วยเนี่ย
-
จะเห็นว่าเรานิยมนำ
หญ้าแพรกไปไหว้พระคเณศกันค่ะ
-
และที่สำคัญนะคะ
เวลาเอาหญ้าแพรกไปไหว้พระคเณศเนี่ย
-
ไม่ใช่ว่าเอาหญ้าเป็นต้นๆไปไหว้ได้เฉยๆนะคะ
-
เค้าต้องเอาไปเป็นกำๆค่ะ
แล้วส่วนใหญ่นิยมประมาณ 21 กำ
-
หรือว่า 21 ต้น ประมาณนี้นะคะ
-
อะ ทีนี้ถามว่าแล้วทำไมพระคเณศ
ถึงโปรดหญ้าแพรกนะคะ
-
ก็ต้องบอกว่ามีตำนานที่ใช้
อธิบายเรื่องนี้ถึงสามตำนานด้วยกันค่ะ
-
เลเวลความแซ่บแตกต่างกันไป
และเลเวลความละเอียดก็แตกต่างกันไป
-
สองตำนานแรกจะเป็นสองตำนานที่แซ่บกว่า
แต่มีรายละเอียดน้อยมากนะคะ
-
ส่วนตำนานที่สามเนี่ยจะเป็นตำนานที่แพร่หลายกว่า
-
แล้วก็อาจจะแซ่บน้อยกว่านิดนึงนะจ๊ะ
-
ตำนานแรกนะคะกล่าวถึงวันนึงค่ะ
-
เค้าว่ากันว่ามีอยู่ช่วงนึงนะคะ
พระคเณศกำลังอยู่ในช่วงทำสมาธิอะไรต่างๆค่ะ
-
ทีนี้มีนางอัปสรอยู่นางนึงเนี่ยนะคะ
เกิดหลงรักพระคเณศค่ะ
-
รู้สึกว่าแบบโอ๊ย พระคเณศหล่อจังเลย
อยากได้พระคเณศเป็นแฟน
-
อยากได้เป็นสามี นี่แหละคู่ครองในฝันของชั้น
-
ดังนั้นนะคะนางอัปสรก็เลยพุ่งตรงมาหา
พระคเณศที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ค่ะ
-
แล้วก็อ้อนวอนต่างๆ ประมาณว่า
-
ได้โปรดเถอะท่าน ได้โปรดมาเป็นผัวดิชั้นเถอะ
-
ชั้นชอบท่านมากเลย อะไรทำนองนี้นะคะ
-
ซึ่งพระคเณศค่ะ ด้วยความที่นั่งสมาธิอยู่
แล้วก็ไม่ชอบนางไง
-
พระคเณศก็เลยปฏิเสธไปนะคะ ประมาณว่าแบบ
-
ไม่เอาอะ ชั้นไม่อยากได้เธอเป็นเมีย
-
ไม่เอานะ ชั้นนั่งสมาธิของชั้นอยู่ดีๆ
อย่ามายุ่ง นะคะ
-
ซึ่งทำให้นางอัปสรตนนั้นนะคะ โกรธมากค่ะ
-
นางอัปสรแบบนี่อะไร
นี่คือการหักหน้าผู้หญิงอย่างใหญ่หลวง
-
คือชั้นอุตส่าห์มาอ้อนวอนขอร้อง
ขอให้เธอมาเป็นของชั้น
-
แล้วเธอยังจะมาหักหน้าชั้นแบบนี้อีก ชั้นรับไม่ได้
-
ดังนั้นนางอัปสรนางนั้นนะคะ
ก็เลยสาปพระคเณศค่ะ
-
สาปบอกว่าในเมื่อเธอมาโกรธชั้น ไม่รับรักชั้น
-
ดังนั้นชั้นขอสาปให้เธอหัวร้อน
-
ขอให้เธอจงหัวร้อนตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เปรี้ยง! นะคะ
-
แล้วนางอัปสรนางนั้นก็จากไปค่ะ
-
ทิ้งให้พระคเณศนะคะหัวร้อนอยู่อย่างนั้น
-
คือไม่รู้ว่าหัวร้อนเพราะโกรธ
หรือว่าหัวร้อนเพราะโดนสาปอะนะ
-
ก็เรียกได้ว่าร้อน
แล้วไม่ใช่ร้อนแบบโกรธเฉยๆ
-
คือร้อนจริงๆ ร้อนแบบเหมือนเป็นไข้นะคะ
-
คือสมัยก่อนมันคงไม่มีที่แปะลดไข้อะนะ
-
ดังนั้นพระคเณศนะคะก็เลยพยายาม
หานู่นหานี่หานั่นมาแปะหัวตัวเองค่ะ
-
แปะยังไงก็ไม่หายนะคะ
-
จนสุดท้ายไปได้ของอย่างนึงมาค่ะ
-
เดาไม่ยากหรอก เกริ่นชื่อเรื่องมาขนาดนี้แล้ว
-
พระคเณศไปได้หญ้าแพรกมานี่แหละค่ะ
-
เอามาแปะหัว
-
แล้วก็ค้นพบว่า อุ้ย มันเย็นสบาย
มีฤทธิ์ลดความร้อน ชั้นหัวเย็นแล้ว
-
ตั้งแต่นั้นมานะคะ หญ้าแพรกก็เลย
กลายเป็นของโปรดของพระคเณศค่ะ
-
และนี่คือตำนานที่หนึ่งนะคะ
-
ตำนานที่สองค่ะ คล้ายๆกับตำนานแรกนะคะ
-
แต่ว่าลง detail มากขึ้นอีกนิดนึง
-
ตำนานนี้จะมีความดราม่ามาก
สมกับชื่อหัวข้อดราม่าระดับเทพของเราจริงๆ
-
ตำนานนี้นะคะกล่าวถึงนางอัปสรตนนึงค่ะ
ชื่อว่า Durva นะคะ
-
Durva อะไรประมาณอย่างนี้แหละ
คืออ่านมาเป็นภาษาอังกฤษอะนะ
-
ซึ่งนี่คือชื่อภาษาสันสกฤตของหญ้าแพรกนะคะ
-
นางเนี่ยหลงรักพระคเณศมานานแล้วค่ะ
-
เหมือนเรื่องแรกเป๊ะเลย
-
ต่างกันนิดนึงคือเรื่องแรกนางนกใช่ไหม
-
แต่ว่าเรื่องนี้ค่ะ นางอัปสร Durva เนี่ยรักพระคเณศ
-
แล้วพระคเณศก็รักด้วย
-
สองคนนี้รักกันค่ะ
-
คือเหมือนกับว่ากำลังเล็งๆกันอยู่
แบบว่าชั้นชอบเธอ ชั้นชอบเธอ
-
แต่ว่ามีคนนึงนะคะที่ไม่ปลื้ม
-
ตามสไตล์เลย คนที่ไม่ปลื้มก็คือ
-
แม่ผัวนั่นเองค่ะ
-
พระอุมาซึ่งเป็นแม่ของพระคเณศนะคะ
-
ไม่ชอบนางอัปสรตนนี้เลยประมาณว่าแบบ
-
เธอเป็นนางอัปสรผู้ต่ำต้อย ลูกชั้นเป็นถึง
ลูกแห่งเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
-
เธอจะมาคู่ควรอะไรกับลูกชั้น
-
ดังนั้นนะคะ ถามว่าพระอุมาใจร้อนมั้ย
-
ใจร้อนแน่นอน พระอุมาไม่ทนนะคะ
-
ปกติเจอแม่ผัวก็แย่พอแล้วนะ
-
นี่คือเจอแม่ผัวเลเวลแบบพระอุมาทุกคน
ใครจะไปสู้นะคะ
-
ดังนั้นค่ะ เมื่อไม่ปลื้ม
พระอุมาก็หาทางขัดขวางค่ะ
-
ด้วยวิธีง่ายๆเลยคือ
-
อะ ชั้นไม่ชอบใช่ไหม สาปมันเลย
-
ดังนั้น Durva ชั้นขอสาปเธอให้กลายเป็นต้นไม้
-
แล้วชั้นจะไม่ให้เธอเป็นต้นไม้สวยงาม
มีดอกออกผลมาให้ลูกชั้นชื่นชมหรอก
-
ชั้นจะขอสาปให้เธอเป็นแค่หญ้า
-
เป็นหญ้าธรรมดาสามัญที่หาเจอได้ทุกที่
-
ให้คนเดินเหยียบไปเหยียบมา
-
ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครสังเกต
-
พระคเณศลูกชั้นจะได้ลืมเธอ นะคะ
-
แต่ปรากฏว่าแม้นางว่าจะโดนสาป
เป็นหญ้าแล้วนะคะ พระคเณศก็ไม่ลืมค่ะ
-
และที่สำคัญนางก็มีการสวดมนต์อ้อนวอน
ต่อพระอุมาเรื่อยๆนะคะ ประมาณว่า
-
หนูไม่ได้อะไรผิด อย่าว่าไรหนูเลย
-
สวดมนต์อ้อนวอน สวดมนต์อ้อนวอน
-
ซึ่งตามสเต็ปเนี่ยเราก็รู้กันว่า
พระอิศวร พระอุมาเหมือนกันแหละค่ะ
-
ใครสวดมนต์อ้อนวอนเยอะๆก็จะใจอ่อนอะนะ
-
ดังนั้นพระอุมาสุดท้ายก็ใจอ่อนนะคะ
-
ก็เลยลงมาให้พรค่ะ
-
แต่จะให้พรแบบอะ เธอกลับมา
เป็นคนได้แล้ว มันก็ไม่ได้ไงคือ
-
คำสาปที่สาปไปแล้วมันก็เป็นคำสาปที่
ไม่มีใครล้มล้างได้นะคะแม้แต่ตัวเองก็ตาม
-
ทำได้แต่บิดคำสาปเล็กๆน้อยๆ
-
ดังนั้นพระอุมาก็เลยบิดคำสาปให้ค่ะบอกว่า
-
อะ ไม่เป็นไรนะ ถึงเธอจะเป็นหญ้า
แต่ชั้นก็ขอให้เธอเป็นหญ้าโปรดพระคเณศแล้วกัน
-
ไม่คุ้มเลยเนอะทุกคน
คือแบบแล้วไงอะ เค้ารักกันอะ
-
เค้าก็จะแต่งงานกันอะ
-
แล้วเป็นหญ้าของโปรด แล้วไงอะคะ
-
แต่อย่างไรก็ตามนะคะช่างมันค่ะ
นี่คือตำนานที่สองนะคะ
-
ว่าทำไมพระคเณศถึงชอบหญ้าแพรกค่ะ
-
และเราก็มาถึงตำนานที่สามนะคะ
-
ซึ่งเป็นตำนานที่ค่อนข้างจะฮอตฮิตที่สุด
เป็นตำนานที่หลายๆคนรู้จักดีที่สุดนะคะ
-
ตำนานนี้กล่าวถึงอสูรตนนึงค่ะ
-
อสูรตนนี้เป็นลูกของพระยมนะคะ
กับนางอัปสรนางนึง
-
คือพระยมกับนางอัปสรเนี่ย
เกิดการเริงระบำกันเกิดขึ้นค่ะ
-
มีการเต้น แดนซ์กันอยู่ ณ ลานแดนซ์ที่นึงนะคะ
-
ระหว่างที่แดนซ์นะคะ
ก็มีอสูรตนนึงเนี่ยงอกออกมาค่ะ
-
คือการแดนซ์กันเนี่ยมันอาจจะไม่ใช่
การกระทำที่มีเกียรติอะไรขนาดนั้นนะ
-
สิ่งที่งอกออกมาก็เลยไม่ใช่เทพค่ะ
แต่ว่าเป็นอสูรนะคะ
-
ซึ่งอสูรตนนี้นะคะชื่อว่า Analasura ค่ะ
-
Analasura เนี่ยเกิดมาแล้วก็
มีความสามารถมากๆนะคะ
-
ประกอบกับเค้าเนี่ยนับถือพระศิวะค่ะ
-
ก็ไปนั่งสมาธิอะไรต่างๆ
-
แบบที่วิวบอกเลยว่าพระศิวะเนี่ยใจง่ายนะคะ
-
นั่งสมาธิอะไรนิดๆหน่อยๆ อะ ให้พร
-
ถามว่าให้พรว่าอะไร
-
อะ Analasura
Anala แปลว่าไฟใช่ไหม
-
งั้นข้าขอให้พรให้เจ้าตาเป็นไฟแล้วกัน
-
Analasura นะคะก็เลย
กลายเป็นอสูรที่มีฤทธิ์มากค่ะ
-
แล้วก็มีดวงตาเป็นไฟ
แผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างได้นะคะ
-
Analasura เนี่ยหลังจากได้พรไปแล้ว
ก็กำเริบเสิบสานค่ะ
-
ออกอาละวาดไปทั่วเลยนะคะสามโลก
อาละวาดตรงนั้น ตรงนี้ ตรงนู้น
-
สุดท้ายถึงขั้นขึ้นไปอาละวาดบุกสวรรค์นะคะ
แล้วก็ยึดสวรรค์เลยทีเดียว
-
เหล่าเทพเหล่าอะไรต่างๆก็เดือดร้อนกันไปหมดเลย
-
รวมถึงพระอินทร์ก็โดนขับไล่ลงมาจากสวรรค์ด้วย
-
เหล่าเทพก็ไม่รู้จะทำยังไงนะคะ
-
ก็พยายามจะหาทางกำจัด
Analasura ด้วยวิธีต่างๆ
-
ซึ่งตรงนี้ตำนานแต่ละตำนานเล่าไม่เหมือนกันนะ
-
บางตำนานก็บอกว่าเหล่าเทพก็ไปหาพระศิวะ
-
บางตำนานก็บอกว่าไปหาพระวิษณุ
-
ซึ่งพระศิวะกับพระวิษณุเนี่ย
บอกเหมือนกันเลยประมาณว่า
-
โอ๊ย ไม่ต้องถึงมือข้าหรอก เดี๋ยวอีกแป๊บนึง
พระพิฆเนศก็ทนไม่ไหวแล้วไปจัดการให้แหละ
-
ส่วนอีกตำนานนึงเนี่ยนะคะก็บอกว่า
พระคเณศหรือพระพิฆเนศเนี่ย
-
อยู่ดีๆก็อยากจัดการอสูรตนนี้ด้วยตนเองนะคะ
-
อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์สุดท้ายเนี่ยก็เกิดขึ้นก็คือ
-
พระคเณศเนี่ยนะคะเดินทางมา
เพื่อมาสู้กับ Analasura ค่ะ
-
ซึ่งมาถึงเนี่ยพระคเณศก็ไม่ได้มา
ในร่างแบบพระคเณศนะจ๊ะ
-
แต่ว่ามาในร่างเด็กน้อยคนนึงค่ะ
-
ก็มาแล้วก็มาสู้กับ Analasura
-
ขณะที่สู้กันไปสู้กันมาเนี่ยนะคะ
อยู่ดีๆมีจังหวะนึงค่ะ
-
Analasura รู้สึกรำคาญประมาณว่าแบบ
-
โอ๊ย ไอเด็กคนนี้ ชั้นสู้ไม่ชนะซะที ทำไงดี
-
ว่าแล้วนะคะ Analasura
ก็กะว่าจะขยายร่างตัวเองค่ะ
-
แล้วก็กินเด็กน้อยคนนี้เข้าไปเลย
-
แต่จังหวะนั้นนะคะ
พระพิฆเนศอาศัยจังหวะเดียวกันเนี่ย
-
ขยายร่างตัวเองใหญ่เบิ้มกว่าค่ะ
ใหญ่แบบใหญ่เบิ้มมม!
-
เบิ้มขึ้นมาเลยนะคะ แล้วก็
-
จัดการงับ Analasura เข้าไปในคำเดียวเลยค่ะ
-
เรียกได้ว่ากลืนลงท้องไปเลย
-
ทำให้พระคเณศเนี่ยนะคะ
สามารถปราบ Analasura ได้ในที่สุดค่ะ
-
แต่ ถามว่าเรื่องของเราจบรึยัง
-
ยังไม่เกี่ยวกับหญ้าแพรกเลยใช่ไหม
-
ยังไม่จบค่ะ เพราะว่า
-
ไม่ต้องพระคเณศที่กินอสูรตาไฟ
ลงไปตั้งหนึ่งตนหรอก
-
นึกสภาพพวกเรากินอะไรแปลกๆ เกิดอะไรขึ้นคะ
-
แน่นอนว่ากระเพาะต้องมีปัญหาน่ะนะ
-
พระคเณศค่ะ กิน Analasura ลงไป
เคี้ยวก็ไม่เคี้ยว เป็นตาไฟอีก
-
ท้องอืด ท้องเฟ้อ
-
คือในท้องเนี่ยนะคะ เกิดความรู้สึกร้อนรุ่มค่ะ
เหมือนมีไฟไปเผาไหม้อยู่ในท้อง
-
พระคเณศก็ทรมานมากนะคะ
-
เหล่าเทพทั้งหลายค่ะก็พยายามจะช่วยพระคเณศ
-
พระอุมาในฐานะแม่เนี่ยเริ่มก่อนเลย
-
เอาผงจันทน์นะคะ ผงจันทน์ที่เป็นพวก
เครื่องหอมต่างๆของอินเดียใช่ไหม
-
ผสมน้งผสมน้ำเอามาลูบตัวพระคเณศก่อน ลูบๆๆ
-
ลดความร้อนนะลูก ลดความร้อน
-
ถามว่าความร้อนลดลงไหม
-
ไม่ลดค่ะ
-
พระอิศวรไม่มีอะไรอยู่กับตัว
อ้อ ของตัวเองมีงูที่พันอยู่
-
เออ งูมันก็เป็นสัตว์เลื้อยคลานก็น่าจะเย็นๆนะ
-
อะ เอางูไปพันตัวพระคเณศ
-
ก็ไม่ช่วย ความร้อนก็ยังอยู่ในตัวพระคเณศ
-
พระคเณศก็นอนบิดเลยนะคะ
ประมาณว่าแบบโอ๊ย ทรมาน ทรมานมาก
-
โอ๊ยมันร้อนไปหมด นะคะ
-
เหล่าเทพก็ยังไม่หยุดความพยายามค่ะ
-
เทพองค์ถัดไปที่มาช่วยนะคะก็คือพระวรุณนั่นเอง
-
หรือว่า Varuna นะคะ
ซึ่งเป็นเทพแห่งฝน
-
อะ ฟังดูน่าจะช่วยใช่ไหม
-
เทพแห่งฝนค่ะก็เสกฝนเรียกลมเรียกฝนมา
โปรยน้ำหอบใหญ่เลยค่ะใส่พระคเณศ
-
ถามว่าช่วยไหม
-
บอกเลยว่าไม่ค่ะ
-
ความร้อนก็ยังพวยพุ่งออกจาก
ตัวพระคเณศเหมือนเดิมนะคะ
-
พระจันทร์ค่ะ พระจันทร์บอกว่า
-
เออ ชั้นก็เป็นก้อนพระจันทร์กลมๆ น่าจะเย็นๆน้า
-
คือสมัยก่อน นึกภาพพระจันทร์กับพระอาทิตย์
พระจันทร์มันก็น่าจะเย็นอะนะ
-
พระจันทร์ก็เลยเอาตัวเองนะคะ
ไปแปะไว้บนหน้าผากพระคเณศ
-
เหมือนกับเจลลดไข้ประมาณนั้น
-
กะว่ามันจะช่วยให้มันเย็นลงได้นะคะ
-
ถามว่าช่วยไหม
-
บอกเลยว่าไม่ค่ะ เพราะว่า
พระคเณศยังร้อนเหมือนเดิม
-
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือเกิด
พระคเณศอีกปางนึงขึ้นมานะคะ
-
ก็คือปางพระคเณศที่มีพระจันทร์เสี้ยวอยู่บนหัว
ที่เรียกว่า พาลจันทร์ นั่นแหละค่ะ
-
หลายๆคนที่บูชาพระคเณศกันน่าจะเคยเห็นนะคะ
-
ส่วนเทพองค์ถัดไปที่มาช่วยนะคะ
ก็คือพระวิษณุหรือพระนารายณ์นั่นเอง
-
พระวิษณุนี่ก็ไม่มีอะไร มีดอกบัวอยู่
-
ก็เลยเอาดอกบัวมาวางบนพระคเณศ กะว่าจะช่วย
-
ก็ไม่ช่วยอยู่ดี
-
ตัวพระคเณศก็ยังร้อนๆๆอยู่นะคะ
-
จนในที่สุดค่ะ เรื่องราวทั้งหมดนี้
ร้อนไปถึง พระกศยปเทพบิดร นะคะ
-
พระกศยปนี่ก็บอกว่า อ่าว
พระคเณศตัวร้อนเหรอ มาๆๆ ข้าช่วย
-
ว่าแล้วนะคะพระกศยปก็เอาหญ้าแพรกนี่ล่ะค่ะ
ทั้งหมด 21 กอเนี่ยนะคะ
-
มาถักๆๆๆ แล้วก็เอาไปวางบนตัวพระคเณศค่ะ
-
ตอนแรกทุกคนก็แบบ
โอ๊ย แค่หญ้ามันจะไปรอดเหรอ
-
แต่ปรากฏว่าตัวพระคเณศเย็นลงจริงๆค่ะ
-
แล้วในที่สุดพระคเณศก็กลับมา
แฮปปี้กระดี๊กระด๊าเหมือนเดิมนะคะ
-
ตั้งแต่นั้นมาค่ะ
พระคเณศก็เลยประกาศว่า
-
หนึ่งในของโปรดของชั้นก็คือหญ้าแพรกนั่นเอง
-
จงใช้หญ้าแพรกบูชาชั้นนะคะ
-
และนี่ก็คือเรื่องราวที่ว่าทำไมเรา
ถึงใช้หญ้าแพรกบูชาพระคเณศ
-
ทีนี้ แล้วใช้หญ้าแพรกบูชาพระคเณศ
เกี่ยวอะไรกับการใช้หญ้าแพรกไหว้ครู
-
ก็ต้องบอกว่าปกติเวลาเราจัดพิธีไหว้ครูต่างๆค่ะ
-
หนึ่งในเทพที่เรามักจะนำไปตั้งไว้ใน
ที่บูชาด้วยนะคะก็คือพระคเณศนั่นเอง
-
โดยเฉพาะการบูชาในสายศิลปวิทยาแขนงต่างๆ
-
คือถ้าในอินเดียเนี่ย เวลาที่จะบูชาก่อนที่จะ
เริ่มศึกษาวิชาความรู้ศิลปวิทยาอะไรต่างๆ
-
ส่วนมากจะตั้งทั้งหมดสององค์ด้วยกันค่ะ
-
องค์แรกคือพระสรัสวตี (สุรัสวดี)
ที่เป็นเทพแห่งศิลปวิทยาการอะไรต่างๆนะคะ
-
ส่วนพระคเณศเนี่ยตั้งไว้คู่กัน
-
ถามว่าทำไมต้องตั้งพระคเณศไว้
-
พระคเณศเป็นเทพแห่งศิลปะเหรอ
-
ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ค่ะ
-
สาเหตุที่ต้องตั้งพระคเณศไว้เนี่ย เพราะว่า
-
พระคเณศคือปฐมบูชานะคะ
-
คือเทพที่จะต้องบูชาก่อนที่จะบูชาเทพอื่นค่ะ
-
ไม่งั้นการบูชาเทพอื่นจะไม่เป็นผลเลยนะ
-
อันนี้คือความเชื่อในนิกายนึงนะต้องบอกก่อน
-
บางนิกายอาจจะเชื่อไม่เหมือนกันนะคะ
-
แล้วถามว่าทำไมพระคเณศถึงได้มาเป็นปฐมบูชา
-
ทำไมเราต้องบูชาพระคเณศก่อน
-
ก็เพราะว่าพระคเณศคือเทพแห่งอุปสรรคค่ะ
-
อ่าว แล้วเราบูชาอุปสรรคทำไม
-
คือเราไม่ได้บูชาให้เกิดอุปสรรคนะคะ
-
เวลาเราบูชาพระคเณศเนี่ย
เราบูชาให้บอกว่า
-
เออ อะไรก็ตามที่เรากำลังจะทำเนี่ย
ขออย่าให้มันเกิดอุปสรรคมาขัดขวางเลยนะ
-
ดังนั้นก็เหมือนเวลาก่อนที่เราจะเข้าไปเรียนหนังสือ
ก่อนที่เราจะเรียนรู้ศิลปวิทยาต่างๆค่ะ
-
การบูชาพระคเณศก็เหมือนกับการบอกว่า
-
เอาล่ะ ขอให้สิ่งที่ชั้นจะเรียนรู้ต่อไปนี้
สิ่งที่ชั้นจะศึกษาต่อไปนี้
-
อย่าได้เกิดอุปสรรคใดๆมาขัดขวางเลยนะคะ
-
และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้พระคเณศไปอยู่ในพิธีไหว้ครู
-
และน่าจะเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้ไทยเราเนี่ย
-
รับความเชื่อเรื่องการนำหญ้าแพรกมาไหว้ครู
เข้ามาอยู่ในพิธีไหว้ครูแบบไทยค่ะ
-
โอ้โห เป็นไงบ้างคะเรื่องราว สนุกสนานไหม
-
จริงๆเรื่องไหว้ครูนี่ก็เกริ่นมาเล็กๆน้อยๆแหละ
-
ไม่ได้ตั้งใจจะเล่าหรอก
-
หลักๆที่อยากเล่าก็คือเรื่องความแซ่บ
ของพระคเณศเรานี่ล่ะค่ะ
-
เป็นยังไงบ้าง ชอบคลิปนี้กันไหม
-
ถ้าใครชื่นชอบคลิปแบบนี้นะคะ
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
-
และพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะทุกคน
-
บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ
-
ช่วงนี้จะมีคลิปที่เป็นเกร็ดความรู้
ค่อนข้างเยอะนะคะ ชอบกันไหม
-
ชอบไม่ชอบยังไง คอมเมนต์มาด้านล่างได้นะคะ
-
หรือว่าใครอยากรู้เรื่องไหนเป็นพิเศษ
-
อยากได้คำตอบเรื่องไหนแล้ววิวยังไม่ได้ตอบ
ก็คอมเมนต์ขอมาได้เช่นกันค่ะ
-
ถ้าเป็นไปได้ วิวก็จะพยายาม
หาคำตอบมาให้ทุกคนนะคะ
-
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนละกันค่ะ
-
บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ