< Return to Video

พลังของคนที่ชอบเก็บตัวหรือมีโลกส่วนตัวสูง

  • 0:00 - 0:02
    ตอนที่ฉันอายุ 9 ขวบ
  • 0:02 - 0:04
    ฉันได้ไปค่ายฤดูร้อนเป็นครั้งแรก
  • 0:04 - 0:06
    และแม่จัดกระเป๋าเดินทาง
  • 0:06 - 0:08
    ที่เต็มไปด้วยหนังสือให้ฉัน
  • 0:08 - 0:11
    สำหรับฉันแล้ว มันเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมเลย
  • 0:11 - 0:12
    เพราะในครอบครัวเรา
  • 0:12 - 0:15
    การอ่านเป็นกิจกรรมหลักของเรา
  • 0:15 - 0:17
    สำหรับคุณ อาจดูเหมือนต่อต้านสังคมเล็กน้อย
  • 0:17 - 0:21
    แต่สำหรับเรา มันแค่เป็นวิธีในการเข้าสังคม
    ที่แตกต่างออกไป
  • 0:21 - 0:24
    คุณจะได้สัมผัสถึงไออุ่นรัก
    จากครอบครัวที่นั่งถัดจากคุณ
  • 0:24 - 0:26
    และยังมีอิสระที่จะเข้าไปในผจญภัย
  • 0:26 - 0:28
    ในดินแดนภายในจิตใจของคุณเอง
  • 0:28 - 0:30
    และฉันก็คิดว่า
  • 0:30 - 0:32
    ค่ายฤดูร้อนก็น่าจะเป็นแบบนี้
    แต่อาจจะดีกว่าหน่อย
  • 0:32 - 0:36
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:36 - 0:38
    มีจินตนาการเห็นเด็กหญิง 10 คนนั่งในห้อง
  • 0:38 - 0:40
    อ่านหนังสือชิวๆ ในชุดนอนแบบเดียวกัน
  • 0:40 - 0:42
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:42 - 0:45
    การเข้าค่ายเหมือนปาร์ตี้ที่ไม่มีแอลกอฮอล์
  • 0:45 - 0:48
    และในวันแรก
  • 0:48 - 0:50
    ที่ปรึกษาเรา เรียกพวกเรามารวมกัน
  • 0:50 - 0:52
    และสอนเราเชียร์ ซึ่งบอกว่าจะต้องพูดเชียร์
  • 0:52 - 0:56
    ทุกวันเพื่อให้เข้าถึงหัวใจของการเข้าค่าย
  • 0:56 - 0:59
    มันคือ:
  • 0:59 - 1:00
    "R-O-W-D-I-E
  • 1:00 - 1:02
    นั่นคือวิธีที่เราสะกด rowdie (เกเร)
  • 1:02 - 1:05
    Rowdie, rowdie, จัดไป rowdie "
  • 1:05 - 1:08
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:08 - 1:09
    ใช่
  • 1:09 - 1:11
    อืม ฉันคิดไม่ออกเลยว่าชีวิตฉัน
  • 1:11 - 1:13
    ทำไมเราควรจะ rowdy มากนัก
  • 1:13 - 1:16
    หรือทำไมเราต้องสะกดคำนี้ไม่ถูกต้อง
  • 1:16 - 1:23
    (หัวเราะ)
  • 1:23 - 1:26
    แต่ฉันต้องท่องคำเชียร์ ไปพร้อมกับคนอื่นๆ
  • 1:26 - 1:27
    ฉันทำดีที่สุดแล้ว
  • 1:27 - 1:29
    และฉันเพียงแค่รอเวลา
  • 1:29 - 1:32
    ที่จะออกจากค่ายและอ่านหนังสือของฉัน
  • 1:32 - 1:35
    แต่พอหยิบหนังสือออกจากกระเป๋าเดินทาง
  • 1:35 - 1:37
    สาวสุดเจ๋งก็มาถามฉันว่า
  • 1:37 - 1:39
    "ทำไมถึงดูสุขุมจัง"
  • 1:39 - 1:41
    สุขุม แน่นอน ความหมายมันตรงข้ามกับ
  • 1:41 - 1:43
    ความหมายของ R-O-W-D-I-E
  • 1:43 - 1:45
    แล้วครั้งที่สองที่ฉันจะหยิบขึ้นมาอ่านอีก
  • 1:45 - 1:49
    ที่ปรึกษาก็มาหาฉันด้วยสีหน้าที่ดูกังวล
  • 1:49 - 1:51
    และเธอย้ำจุดยืนของการเข้าค่ายฤดูร้อน
  • 1:51 - 1:52
    ว่าเราควรออกไป
  • 1:52 - 1:55
    เข้าสังคมให้มาก
  • 1:55 - 1:57
    ดังนั้น...ฉันจึงนำหนังสือ
  • 1:57 - 2:01
    กลับเข้าไปไว้ในกระเป๋าเดินทาง
  • 2:01 - 2:04
    และวางไว้ใต้เตียงของฉัน
  • 2:04 - 2:06
    และก็อยู่อย่างนั้นตลอดการอยู่ค่ายฤดูร้อน
  • 2:06 - 2:08
    ฉันรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้ เพราะ
  • 2:08 - 2:11
    ฉันรู้สึกว่าหนังสือต้องการฉัน
  • 2:11 - 2:12
    เรียกหาฉัน
  • 2:12 - 2:15
    แต่ฉันกลับไม่สนใจและไม่เปิดดกระเป๋าอีก
  • 2:15 - 2:17
    จนกระทั่งฉันกลับบ้านพร้อมครอบครัว
  • 2:17 - 2:19
    หลังจากค่ายฤดูร้อนจบลง
  • 2:19 - 2:22
    ตอนนี้ ฉันเล่าเรื่องเข้าค่ายฤดูร้อน
  • 2:22 - 2:25
    ฉันบอกคุณเลยว่า อีก 50 คนชอบการเข้าค่าย
  • 2:25 - 2:28
    ทุกครั้งที่ฉันได้รับคำพูดที่บอกว่า
  • 2:28 - 2:31
    การที่ฉันเงียบและเก็บตัว
  • 2:31 - 2:33
    ไม่ใช่การทำตัวที่ถูกที่ควรเท่าไร
  • 2:33 - 2:37
    และฉันควรจะเปิดตัวออกมาบ้าง
  • 2:37 - 2:39
    ฉันรู้สึกลึกๆ ว่ามันไม่จริงนะ
  • 2:39 - 2:41
    คนชอบเก็บตัวหลายคนเจ๋งอย่างที่พวกเขาเป็น
  • 2:41 - 2:45
    หลายปีเลยที่ฉันปฎิเสธความรู้สึกนี้
  • 2:45 - 2:47
    ฉันเป็นทนายความในบริษัทยักษ์ใหญ่
  • 2:47 - 2:50
    แทนที่จะเป็นนักเขียนอย่างที่อยากจะเป็น
  • 2:50 - 2:52
    ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากจะพิสูจน์ตัวเอง
  • 2:52 - 2:54
    ว่า ฉันกล้าและมีความมุ่งมั่นด้วย
  • 2:54 - 2:57
    และฉันก็มักจะไปบาร์ที่มีคนเยอะๆ
  • 2:57 - 3:00
    ทั้งที่จริงๆ แล้วอยากจะไปที่ที่ดี
    สำหรับทานมื้อเย็นกับเพื่อนๆ มากกว่า
  • 3:00 - 3:03
    ฉันทำสิ่งที่ปั่นป่วนตัวเอง
  • 3:03 - 3:04
    อัตโนมัติ
  • 3:04 - 3:08
    โดยไม่รู้เลยว่า ฉันเป็นคนทำตัวเองแท้ๆ
  • 3:08 - 3:11
    นี่เป็นสิ่งที่คนชอบเก็บตัวหลายคนทำ
  • 3:11 - 3:14
    และมันทำให้เราล้มเหลวแน่ๆ
  • 3:14 - 3:16
    ทั้งเพื่อนร่วมงาน ชุมชนของเราล้มเหลวไปด้วย
  • 3:16 - 3:18
    ถ้าจะให้พูดให้มันใหญ่ขึ้น
  • 3:18 - 3:19
    เป็นการล้มเหลวระดับโลก
  • 3:19 - 3:22
    เพราะเมื่อนึกถึงการสร้างสรรค์
    และการเป็นผู้นำ
  • 3:22 - 3:24
    เราต้องการให้คนที่ชอบเก็บตัวได้ทำ
    ในสิ่งที่พวกเขาถนัดที่สุด
  • 3:24 - 3:28
    หนึ่งในสาม ถึงครึ่งของประชากร
    คือคนที่ชอบเก็บตัว
  • 3:28 - 3:29
    หนึ่งในสามถึงครึ่ง
  • 3:29 - 3:32
    ก็คือหนึ่งในสองหรือสามคนที่คุณรู้จัก
  • 3:32 - 3:34
    หรือแม้ตัวคุณเอง อาจจะเป็นคนที่ชอบเก็บตัว
  • 3:34 - 3:36
    ฉันพูดถึงเพื่อนร่วมงานของคุณ
  • 3:36 - 3:39
    คู่สมรสของคุณและลูกๆ ของคุณ
  • 3:39 - 3:41
    หรือคนนั่งถัดจากคุณตอนนี้-
  • 3:41 - 3:43
    ทุกคนล้วนมีอคตินี้
  • 3:43 - 3:46
    ค่อนข้างจะเป็นจริงอยู่ลึกๆ ในสังคมของเรา
  • 3:46 - 3:48
    เราเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ยังเล็ก
  • 3:48 - 3:52
    โดยที่ยังไม่รู้ภาษามาอธิบาย
    สิ่งที่เราทำด้วยซ้ำ
  • 3:52 - 3:54
    มาดูอคตินี้กันให้ชัดยิ่งขึ้น
  • 3:54 - 3:56
    คุณจำเป็นต้องเข้าใจว่าการเก็บตัวคืออะไร
  • 3:56 - 3:58
    มันต่างจากความเขินอาย
  • 3:58 - 4:00
    ความเขินอายเป็นการกลัว
    การตัดสินจากสังคม
  • 4:00 - 4:02
    การเก็บตัว เป็นอะไรที่เกี่ยวกับ
  • 4:02 - 4:04
    การตอบสนองต่อการกระตุ้น
  • 4:04 - 4:06
    รวมทั้งกระตุ้นจากสังคม ดังนั้น
  • 4:06 - 4:09
    คนที่ไม่ชอบเก็บตัวก็อยากจะได้การกระตุ้น
  • 4:09 - 4:11
    ในขณะที่คนชอบเก็บตัว
    จะรู้สึกถึงการมีชีวิต
  • 4:11 - 4:13
    เวลาที่ตื่นตัวและทำอะไรต่ออะไรได้มากที่สุด
  • 4:13 - 4:15
    เมื่อพวกเขาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ
  • 4:15 - 4:18
    ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา--
    และไม่แน่นอน--
  • 4:18 - 4:20
    แต่เกิดขึ้นซะเป็นส่วนใหญ่
  • 4:20 - 4:22
    ดังนั้นการที่จะทำให้
  • 4:22 - 4:24
    ความสามารถของเราเพิ่มสูงสุด
  • 4:24 - 4:26
    ก็ต้องให้พวกเราอยู่ในที่ที่เหมาะสม
  • 4:26 - 4:30
    ในโซนที่มีการกระตุ้นที่เหมาะกับพวกเรา
  • 4:30 - 4:32
    แต่ขณะนี้ หลายที่มีความอคติเข้ามา
  • 4:32 - 4:34
    สถาบันที่สำคัญที่สุดของเรา
  • 4:34 - 4:36
    โรงเรียนของเราและที่ทำงาน
  • 4:36 - 4:38
    ถูกออกแบบมาเพื่อคนที่ไม่ชอบเก็บตัว
  • 4:38 - 4:41
    และสำหรับคนเหล่านี้จำเป็นต้องมี
    การกระตุ้นมากมาย
  • 4:41 - 4:44
    และยังมีระบบความเชื่อในปัจจุบันนี้
  • 4:44 - 4:46
    ฉันเรียกการคิดตามกลุ่มแบบใหม่
  • 4:46 - 4:48
    ซึ่งยึดถึงความคิดสร้างสรรค์
  • 4:48 - 4:50
    และประสิทธิภาพทั้งหมด
  • 4:50 - 4:54
    มาจากการที่ต้องรวมกันเป็นกลุ่มสุดๆ
  • 4:54 - 4:57
    ถ้าคุณมองภาพห้องเรียนในปัจจุบันนี้:
  • 4:57 - 4:59
    สมัยที่ฉันไปโรงเรียน
  • 4:59 - 5:00
    เรานั่งเป็นแถว
  • 5:00 - 5:02
    เรานั่งอยู่ในแถวของโต๊ะเช่นนี้
  • 5:02 - 5:04
    และทำงานส่วนใหญ่ด้วยตัวเอง
  • 5:04 - 5:07
    แต่ปัจจุบัน ชั้นเรียนทั่วไป
  • 5:07 - 5:10
    มีโต๊ะเรียนที่เด็ก สี่ หรือ ห้า หรือ หก หรือ เจ็ดคน
  • 5:10 - 5:12
    หันหน้าเข้าหากัน
  • 5:12 - 5:14
    และต้องทำงานกันเป็นกลุ่ม
  • 5:14 - 5:17
    แม้ในวิชาคณิตศาสตร์และการเขียนเชิงสร้างสรรค์
  • 5:17 - 5:19
    ที่คุณคิดว่าจะต้องเป็นการคิดเองคนเดียว
  • 5:19 - 5:21
    ปัจจุบันนี้ เด็กถูกคาดหวังให้
  • 5:21 - 5:24
    ต้องทำเหมือนเป็นสมาชิกคณะกรรมการ
  • 5:24 - 5:26
    สำหรับเด็กที่ต้องการทำด้วยตัวเอง
  • 5:26 - 5:27
    หรือทำงานคนเดียว
  • 5:27 - 5:30
    เด็กเหล่านั้นจะถูกมองว่าแตกจากกลุ่ม
  • 5:30 - 5:34
    หรือมองว่าเป็นปัญหา
  • 5:34 - 5:36
    และครูส่วนใหญ่รายงานความเชื่อที่ว่า
  • 5:36 - 5:38
    นักเรียนในอุดมคติ คือกลุ่มที่ไม่ชอบเก็บตัว
  • 5:38 - 5:40
    ดูต่อต้านนักเรียนที่ชอบเก็บตัว
  • 5:40 - 5:43
    แม้กลุ่มที่ชอบเก็บตัวจะได้รับเกรดดีกว่า
  • 5:43 - 5:45
    และมีความรู้มากกว่า
  • 5:45 - 5:47
    จากผลการวิจัย
  • 5:47 - 5:48
    (หัวเราะ)
  • 5:48 - 5:52
    เอาล่ะ มันเกิดขึ้นในที่ทำงานของเราเช่นกัน
  • 5:52 - 5:55
    ที่ทำงานเราส่วนใหญ่เป็นที่ทำงานแบบเปิด
  • 5:55 - 5:56
    ไม่มีผนังกั้น
  • 5:56 - 5:58
    ที่ที่เราหันเข้าหาเสียงรบกวนต่างๆ
  • 5:58 - 6:00
    และสายตาของเพื่อนร่วมงาน
  • 6:00 - 6:02
    และเมื่อพูดถึงความเป็นผู้นำ
  • 6:02 - 6:05
    คนที่ชอบเก็บตัวมักจะพลาดตำแหน่งผู้นำเสมอ
  • 6:05 - 6:07
    แม้ว่าจะมีความระมัดระวังมาก
  • 6:07 - 6:09
    และดูเหมือนจะไม่ค่อยทำอะไรที่เสี่ยง
  • 6:09 - 6:12
    ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราน่าจะชอบในปัจจุบันนี้
  • 6:12 - 6:15
    งานวิจัยที่น่าสนใจของอดัม แกรนท์ (Adam Grant)
    ที่โรงเรียนวาร์ตัน (Wharton)
  • 6:15 - 6:17
    พบว่าผู้นำที่ชอบเก็บตัว
  • 6:17 - 6:20
    มักจะทำงานได้ดีกว่าผู้นำที่ไม่ชอบเก็บตัว
  • 6:20 - 6:23
    เนื่องจากเมื่อพวกเขาบริหารพนักงานเชิงรุก
  • 6:23 - 6:26
    พวกเขาจะให้พนักงานทำงาน
    ด้วยความคิดพนักงานเอง
  • 6:26 - 6:28
    ในขณะที่เป็นผู้นำที่ไม่ชอบเก็บตัว
  • 6:28 - 6:29
    มักจะตื่นเต้นกับสิ่งที่เขาใส่ความคิดของเขา
  • 6:29 - 6:32
    ลงในสิ่งต่างๆอย่างไม่ได้ตั้งใจ
  • 6:32 - 6:34
    ทำให้ความคิดของคนอื่นไม่สามารถแสดงออกมาได้
  • 6:34 - 6:36
    ง่ายๆ เหมือนฟองอากาศขึ้นสู่ผิวน้ำ
  • 6:36 - 6:41
    ข้อเท็จจริงก็คือ ผู้นำในอดีตหลายคน
    เป็นคนที่ชอบเก็บตัว
  • 6:41 - 6:42
    ตัวอย่างเช่น
  • 6:42 - 6:45
    อิลินอร์ รูสเวลต์ (Eleanor Roosevelt)
    โรซ่า พาร์ค (Rosa Parks) คานธี (Gandhi)
  • 6:45 - 6:48
    คนเหล่านี้ นิยามตัวเองเป็นคนเงียบๆ
  • 6:48 - 6:50
    พูดน้อยและขี้อาย
  • 6:50 - 6:51
    และพวกเขาก็เด่นดัง
  • 6:51 - 6:54
    แม้ว่าทุกส่วนในร่างกายของพวกเขา
  • 6:54 - 6:56
    จะไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น
  • 6:56 - 6:59
    กลายเป็นว่ามันเหมือนพลังพิเศษ
  • 6:59 - 7:01
    เนื่องจากเรารู้สึกได้ว่าผู้นำที่ถือหางเสือ
  • 7:01 - 7:03
    เหล่านี้ ไม่ไช่เพราะชอบกำกับคนอื่น ๆ
  • 7:03 - 7:05
    และไม่ใช่เพราะอยากโดดเด่น
  • 7:05 - 7:07
    พวกเขาอยู่ตรงนั้น เพราะไม่มีทางเลือก
  • 7:07 - 7:11
    และพวกเขาทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นสิ่งที่ถูก
  • 7:11 - 7:12
    ตอนนี้
  • 7:12 - 7:15
    ฉันคิดว่า ณ จุดนี้ สิ่งสำคัญที่ฉันจะพูด
  • 7:15 - 7:18
    ก็คือ จริงๆ ฉันรักที่คนที่ไม่เก็บตัว
  • 7:18 - 7:21
    ฉันอยากจะบอกว่า เพื่อนสนิทของฉันหลายคน
  • 7:21 - 7:25
    เป็นคนไม่ชอบเก็บตัว รวมทั้งสามีที่ฉันรัก
  • 7:25 - 7:27
    และแน่นอน เราอยู่ในจุดที่แตกต่างกัน
  • 7:27 - 7:30
    บนลักษณะของคนที่เก็บตัวและคนไม่ชอบเก็บตัว
  • 7:30 - 7:33
    แม้คาร์ล ยุง (Carl Jung) นักจิตวิทยา
    ที่ใช้สองคำนี้เป็นคนแรกๆ
  • 7:33 - 7:35
    กล่าวว่า ไม่มีคนที่ชอบเก็บตัวสุดขั้ว
  • 7:35 - 7:37
    และคนที่ไม่ชอบเก็บตัวสุดขั้วเช่นกัน
  • 7:37 - 7:39
    เขากล่าวว่า คนที่เป็นสุดขั้ว
    คงจะต้องอยู่โรงพยาบาลบ้า
  • 7:39 - 7:42
    ถ้ามีคนแบบนั้นอยู่จริงๆ
  • 7:42 - 7:43
    และบางคนตกอยู่ตรงกลาง
  • 7:43 - 7:46
    ของการเป็นคนชอบเก็บตัวและชอบแสดงตัว
  • 7:46 - 7:47
    เราเรียกว่า ประเภทปกติ (Ambivert)
  • 7:47 - 7:52
    ฉันมักคิดว่าพวกเขามีสิ่งที่ดีที่สุดในโลกเลย
  • 7:52 - 7:55
    แต่พวกเรารู้ตัวเราเองว่าเป็นแบบใดแบบหนึ่ง
  • 7:55 - 7:58
    สิ่งที่ฉันกำลังบอกก็คือเราต้องการความสมดุล
  • 7:58 - 8:02
    เราต้องการทั้งหยินและหยางของทั้งสองแบบ
  • 8:02 - 8:04
    มันค่อนข้างสำคัญอย่างยิ่ง
  • 8:04 - 8:06
    เมื่อพูดถึงความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพ
  • 8:06 - 8:07
    เพราะเมื่อนักจิตวิทยาดู
  • 8:07 - 8:10
    ชีวิตของคนที่มีความสร้างสรรค์มากๆ
  • 8:10 - 8:11
    พวกเขาพบว่า
  • 8:11 - 8:14
    คนเหล่านี้เก่งในการแลกเปลี่ยนความคิด
  • 8:14 - 8:16
    และมีความคิดก้าวหน้า
  • 8:16 - 8:18
    แต่มีความเป็นคนชอบเก็บตัวค่อนข้างมาก
  • 8:18 - 8:20
    และนี่เป็นเพราะความสันโดษ
  • 8:20 - 8:23
    ที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญการสร้างสรรค์
  • 8:23 - 8:25
    อย่างเช่น ดาร์วิน (Darwin)
  • 8:25 - 8:26
    เขาเดินเข้าไปในป่าเพียงคนเดียว
  • 8:26 - 8:30
    เพื่อเน้นย้ำการปฎิเสธคำเชิญ
    งานเลี้ยงอาหารค่ำ
  • 8:30 - 8:33
    ธีโอดอร์ เกเซล์ (Theodor Geisel)
    ที่รู้จักกันในนาม ดร.ซู๊ส (Seuss)
  • 8:33 - 8:36
    เขาฝันถึงการสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์มากมาย
  • 8:36 - 8:37
    ในห้องทำงานที่หอระฆังที่อยู่
  • 8:37 - 8:39
    หลังบ้านของเขาในลาจอนลา (La Jolla)
    แคลิฟอร์เนีย
  • 8:39 - 8:41
    และเขากลัวที่จะพบปะเด็กๆ
  • 8:41 - 8:43
    ที่อ่านหนังสือของเขา
  • 8:43 - 8:45
    เพราะกลัวว่าเด็กๆ จะคาดหวังว่า
  • 8:45 - 8:48
    เขาจะสนุกสนานเหมือนซานตาคลอส
  • 8:48 - 8:52
    และจะผิดหวังกับบุคลิกภาพของเขา
  • 8:52 - 8:54
    สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak)
    สร้างเครื่องคอมพิวเตอร์แอปเปิ้ลเครื่องแรก
  • 8:54 - 8:56
    ตอนที่นั่งคนเดียวในห้องทำงานเล็กๆ
  • 8:56 - 8:58
    ที่ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (Hewlett-Packard)
    ที่ทำงานของเขา
  • 8:58 - 9:01
    เขาบอกว่า เขาอาจจะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ
  • 9:01 - 9:04
    ถ้าเขาเก็บตัวจนเกินไปจนไม่กล้าออกจากบ้าน
  • 9:04 - 9:06
    เมื่อเขาโตขึ้น
  • 9:06 - 9:08
    เอาล่ะ
  • 9:08 - 9:09
    แน่นอน
  • 9:09 - 9:11
    ไม่ได้หมายความว่าเราควรหยุดร่วมมือกัน
  • 9:11 - 9:15
    เช่น กรณีสตีฟ วอซเนียก ทำงานร่วมกับสตีฟ จอบส์
  • 9:15 - 9:18
    สร้างแอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์-
  • 9:18 - 9:21
    แต่มันหมายถึงว่า ความสันโดษก็สำคัญเช่นกัน
  • 9:21 - 9:24
    สำหรับบางคน มันคืออากาศที่เขาใช้หายใจ
  • 9:24 - 9:27
    ในความเป็นจริง เรารู้กันมานานหลายศตวรรษ
  • 9:27 - 9:30
    ถึงพลังที่เหนือธรรมชาติของความสันโดษ
  • 9:30 - 9:34
    มันแปลกที่เราเริ่มที่จะลืมว่า
    เมื่อไม่นานมานี่
  • 9:34 - 9:37
    ถ้าคุณมองดูศาสนาสำคัญๆ ของโลก
  • 9:37 - 9:38
    คุณจะพบนักค้นหา
  • 9:38 - 9:41
    โมเสส พระเยซู พระพุทธเจ้า มูฮัมหมัด
  • 9:41 - 9:45
    นักคันหาคือคนที่ปิดตัวเองอยู่ในความลำบาก
  • 9:45 - 9:48
    ที่ต่อจากนั้น พวกเขาค้นพบสิ่งที่ลึกซึ้ง
    และศักดิ์สิทธิ์
  • 9:48 - 9:51
    และนำกลับมาให้ชุมชน
  • 9:51 - 9:55
    ดังนั้น ถ้าไม่มีความลำบากก็ไม่มีการค้นพบ
  • 9:55 - 9:56
    จึงไม่น่าแปลกใจว่า
  • 9:56 - 10:00
    ถ้ามองดูที่ปรัชญาร่วมสมัย
  • 10:00 - 10:03
    จะเห็นว่า เราไม่สามารถอยู่ในสังคม
  • 10:03 - 10:06
    โดยไม่มีการเลียนแบบความคิด
    หรือสัญชาตญาณของกันและกัน
  • 10:06 - 10:09
    แม้แต่สิ่งที่เป็นส่วนตัวหรือสิ่งที่อยู่ภายใน
  • 10:09 - 10:10
    เช่น ถ้าคุณมีคนที่คุณสนใจ
  • 10:10 - 10:12
    คุณจะเริ่มเลียนแบบความเชื่อของคนรอบๆ ตัว
  • 10:12 - 10:15
    โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำแบบนั้นอยู่
  • 10:15 - 10:17
    คนในสังคม จะทำตามความคิด แนวคิด
  • 10:17 - 10:20
    ของคนที่มีอำนาจหรือคนที่เก่งๆ
  • 10:20 - 10:22
    แม้ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรก็ตาม
  • 10:22 - 10:24
    ระหว่างนักพูดที่เก่งที่สุด
    กับการมีความคิดดีที่สุด
  • 10:24 - 10:26
    หมายถึง ไม่เกี่ยวกันเลย
  • 10:26 - 10:28
    ดังนั้น...
  • 10:28 - 10:31
    (เสียงหัวเราะ)
  • 10:31 - 10:33
    คุณอาจจะติดตามหรือเลียนแบบ
    คนที่มีความคิดดีๆ
  • 10:33 - 10:36
    หรือคุณอาจจะไม่
  • 10:36 - 10:38
    และคุณอยากจะปล่อยให้ขึ้นกับโชคชะตา
  • 10:38 - 10:40
    คงจะดีถ้าทุกคนค้นพบด้วยตนเอง
  • 10:40 - 10:42
    สร้างความคิดของตนเอง
  • 10:42 - 10:44
    ไม่ถูกบิดเบือนแนวคิดจากกลุ่มหรือสังคม
  • 10:44 - 10:46
    แล้วมาร่วมกันเป็นทีม
  • 10:46 - 10:49
    พูดคุยแนวคิดในสภาพแวดล้อมที่มี
    การจัดการอย่างเป็นระบบ
  • 10:49 - 10:52
    และให้ได้ผลลัพธ์จากจุดนั้น
  • 10:52 - 10:54
    คราวนี้ ถ้ามันเป็นจริงได้
  • 10:54 - 10:56
    แล้วทำไมเราถึงไปในทางที่ผิดล่ะ
  • 10:56 - 10:58
    ทำไมถึงใช้วิธีนี้ในโรงเรียนและที่ทำงาน
  • 10:58 - 11:00
    ทำไมถึงทำให้กลุ่มคนที่ชอบเก็บตัวรู้สึกผิด
  • 11:00 - 11:04
    ที่อยากจะทำอะไรด้วยตัวเองบ้างบางครั้ง
  • 11:04 - 11:08
    มีคำตอบหนึ่งอยู่ในวัฒนธรรมเก่าแก่ของเรา
  • 11:08 - 11:09
    สังคมตะวันตก
  • 11:09 - 11:11
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา
  • 11:11 - 11:13
    ชื่นชอบคนที่ลงทำมากกว่า
  • 11:13 - 11:16
    คนที่ชอบคิดพิจารณา
  • 11:16 - 11:20
    อืม..คนที่ชอบคิดพิจารณา
  • 11:20 - 11:22
    แต่ ในอเมริกายุคแรก ๆ
  • 11:22 - 11:25
    เราอยู่แบบที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่า
    วัฒนธรรมทางลักษณะคน
  • 11:25 - 11:28
    ซึ่งในจุดนั้น เราให้ค่าของคน
  • 11:28 - 11:30
    จากภายในและความถูกต้องทางศีลธรรมของเขา
  • 11:30 - 11:32
    ถ้าคุณดูหนังสือการพัฒนาตนเองในยุคนี้
  • 11:32 - 11:34
    จะเจอชื่อหนังสือ อย่างเช่น
  • 11:34 - 11:37
    "บุคลิกคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก"
  • 11:37 - 11:40
    ในหนังสือจะมีบุคคลต้นแบบ เช่น
    อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln)
  • 11:40 - 11:42
    ผู้ที่ได้รับการยกย่องในด้านความสุภาพ
    และการถ่อมตัว
  • 11:42 - 11:44
    ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน (Ralph Waldo Emerson)
  • 11:44 - 11:48
    เรียกเขาว่า "ผู้ที่ไม่ถูกความเป็นชนชั้นสูงรุกราน"
  • 11:48 - 11:50
    แต่แล้วในศตวรรษที่ 20
  • 11:50 - 11:52
    และเราเข้าสู่วัฒนธรรมใหม่ๆ ที่
  • 11:52 - 11:54
    นักประวัติศาสตร์เรียกวัฒนธรรมของบุคลิกภาพ
  • 11:54 - 11:57
    สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราผลักดันเศรษฐกิจการเกษตร
  • 11:57 - 11:59
    เข้าไปสู่โลกของธุรกิจขนาดใหญ่
  • 11:59 - 12:02
    ผู้คนย้ายจากเมืองเล็กเข้าสู่เมืองใหญ่
  • 12:02 - 12:06
    แทนที่จะทำงานกับผู้คนที่รู้จักมาตลอด
  • 12:06 - 12:09
    กลับไปทำงานกับคนแปลกหน้าเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
  • 12:09 - 12:11
    จึงค่อนข้างเข้าใจได้ว่า
  • 12:11 - 12:13
    ลักษณะที่ดึงดูดและมีความสามารถพิเศษต่างๆ
  • 12:13 - 12:15
    กลายเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ
  • 12:15 - 12:18
    และแน่นอน หนังสือการพัฒนาตนเอง เปลี่ยนแปลง
  • 12:18 - 12:21
    เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ เหล่านี้
    จะมีหนังสืออย่างเช่น
  • 12:21 - 12:23
    "วิธีชนะใจเพื่อนและโน้มน้าวผู้อื่น"
  • 12:23 - 12:25
    โดยจะมีบุคคลต้นแบบเหมือน
  • 12:25 - 12:28
    เป็นนักขายที่ยิ่งใหญ่
  • 12:28 - 12:30
    และนี่คือโลกที่เราอาศัยอยู่ในวันนี้
  • 12:30 - 12:34
    นี่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเรา
  • 12:34 - 12:36
    สิ่งที่จะพูดไม่ได้หมายความว่า
  • 12:36 - 12:39
    ทักษะทางสังคมไม่สำคัญ
  • 12:39 - 12:40
    และไม่ได้ต้องการจะบอกว่า
  • 12:40 - 12:43
    ให้ยกเลิกการทำงานเป็นทีม
  • 12:43 - 12:47
    ศาสนาเดียวกันกับที่ส่งนักปราชญ์ของพวกเขา
    ไปยังยอดเขาเพียงลำพัง
  • 12:47 - 12:50
    สอนเราให้รักและไว้วางใจ
  • 12:50 - 12:51
    ปัญหาที่เรากำลังเผชิญในวันนี้
  • 12:51 - 12:53
    ในด้านวิทยาศาสตร์ และเศรษฐศาสตร์
  • 12:53 - 12:55
    คือมันกว้างมากและค่อนข้างซับซ้อน
  • 12:55 - 12:57
    ที่เราต้องการกองกำลังให้มาร่วมกัน
  • 12:57 - 12:59
    มาแก้ไขปัญหาการทำงานร่วมกัน
  • 12:59 - 13:01
    ที่ฉันกำลังจะบอกคือ มันจะอิสระมากกว่า
  • 13:01 - 13:04
    ถ้าให้กลุ่มคนที่ชอบเก็บตัวเป็นอย่างที่พวกเขาเป็น
  • 13:04 - 13:06
    มันเหมือนกับว่าพวกเขา
  • 13:06 - 13:09
    จะคิดวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนใคร
    เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
  • 13:09 - 13:12
    ในตอนนี้ สิ่งที่ฉันจะบอกคุณ
  • 13:12 - 13:16
    ว่าอะไรอยู่ในกระเป๋าเดินทางของฉันวันนี้
  • 13:19 - 13:21
    คุณคิดว่าอะไร
  • 13:21 - 13:23
    หนังสือ
  • 13:23 - 13:24
    กระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยหนังสือ
  • 13:24 - 13:27
    นี่คือ มาร์กาเรต แอ็ทวูด (Margaret Atwood)
    "ตาแมว"
  • 13:27 - 13:30
    นี่คือนวนิยาย โดย มิลาน คูนเดร่า
    (Milan Kundera)
  • 13:30 - 13:32
    และนี่ "ข้อแนะนำสำหรับความงงงวย"
  • 13:32 - 13:34
    โดย มามอนนีดี (Maimonides)
  • 13:34 - 13:38
    จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่หนังสือของฉัน
  • 13:38 - 13:40
    ฉันนำหนังสือเหล่านี้มา เพราะเป็น
  • 13:40 - 13:44
    หนังสือของผู้เขียนที่ปู่ของฉันชื่นชอบ
  • 13:44 - 13:46
    ปู่ของฉันเป็นอาจารย์ในศาสนายิว (rabbi)
  • 13:46 - 13:48
    และเขาเป็นพ่อม่าย
  • 13:48 - 13:50
    ที่อาศัยในอพาร์ทเมนท์เล็กๆ ในบรู๊คลินเพียงลำพัง
  • 13:50 - 13:53
    เป็นสถานที่ที่หนึ่งในโลกที่ฉันชอบ
    หลังจากฉันโตขึ้น
  • 13:53 - 13:57
    ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความอ่อนโยน
    และช่างเอาใจของปู่
  • 13:57 - 14:00
    อีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันเต็มไปด้วยหนังสือ
  • 14:00 - 14:02
    ฉันหมายถึงโต๊ะและเก้าอี้ทุกตัวในห้องนั้น
  • 14:02 - 14:04
    ที่นอกจากจะใช้งานตามลักษณะของมันแล้ว
  • 14:04 - 14:08
    ยังใช้เป็นพื้นที่สำหรับกองหนังสืออีกด้วย
  • 14:08 - 14:10
    เหมือนกับคนอื่นๆ ในครอบครัวฉันนั่นแหละ
  • 14:10 - 14:13
    ปู่มีสิ่งที่ชอบทำที่สุดในโลกก็คือการอ่าน
  • 14:13 - 14:16
    แต่ปู่ก็ยังรักการพบปะกัน
  • 14:16 - 14:19
    คุณจะรู้สึกถึงความรักในคำสอนที่ปู่ให้ได้
  • 14:19 - 14:23
    ทุกอาทิตย์ เป็นเวลา 62 ปีที่ปู่เป็นอาจารย์
  • 14:23 - 14:25
    เขาจะเก็บพืชผลที่ได้จากอ่านในแต่ละสัปดาห์
  • 14:25 - 14:29
    และเรียบเรียงความคิดของผู้คนและแนวคิดเก่าแก่
  • 14:29 - 14:30
    ผู้คนจึงมาจากทั่วโลก
  • 14:30 - 14:33
    เพื่อมาฟังคำสอนจากเขา
  • 14:33 - 14:37
    สิ่งที่เกี่ยวกับคุณปู่ก็คือ
  • 14:37 - 14:38
    ภายใต้บทบาทพิธีการนี้
  • 14:38 - 14:41
    ปู่ถ่อมตัวและเป็นคนชอบเก็บตัว
  • 14:41 - 14:42
    มากจนกระทั่ง
  • 14:42 - 14:44
    เวลาที่เขาจะให้คำสอน
  • 14:44 - 14:46
    เขาจะมีปัญหาในการสบตา
  • 14:46 - 14:47
    แม้ว่าจะกับกลุ่มคนเดิมๆ
  • 14:47 - 14:50
    ที่ปู่ให้คำสอนมาตลอด 62 ปี
  • 14:50 - 14:52
    แม้จะยืนห่างจากโพเดียมก็ตาม
  • 14:52 - 14:54
    เมื่อคุณทักปู่ด้วยคำว่า สวัสดี
  • 14:54 - 14:56
    ปู่มักจะจบการสนทนาเร็วกว่าปกติ
  • 14:56 - 15:00
    เพราะกังวลว่าเขาจะใช้เวลาของคุณมากเกินไป
  • 15:00 - 15:03
    เมื่อเขาเสียชีวิตตอนอายุ 94 ปี
  • 15:03 - 15:06
    ตำรวจต้องปิดถนนบริเวณใกล้เคียง
  • 15:06 - 15:08
    เพื่อรองรับผู้คนที่ออกมาอย่างหนาแน่น
  • 15:08 - 15:10
    เพื่อไว้อาลัยให้เขา
  • 15:12 - 15:14
    ดังนั้นวันนี้ฉันพยายามเรียนรู้
  • 15:14 - 15:15
    ตัวอย่างจากปู่
  • 15:15 - 15:17
    ในรูปแบบของตัวเอง
  • 15:17 - 15:18
    ฉันเพิ่งจะตีพิมพ์หนังสือ
  • 15:18 - 15:19
    เกี่ยวกับคนชอบเก็บตัว
  • 15:19 - 15:23
    ใช้เวลาทั้งหมด 7 ปีในการเขียน
  • 15:23 - 15:25
    สำหรับฉัน เป็น 7 ปีแห่งความสุข
  • 15:25 - 15:28
    เพราะฉันได้อ่าน เขียน
  • 15:28 - 15:30
    คิด และค้นคว้าข้อมูล
  • 15:30 - 15:32
    มันเหมือนเป็นรูปแบบของฉัน
  • 15:32 - 15:35
    ในการใช้เวลาอยู่ในห้องสมุดของปู่
    เพียงลำพัง
  • 15:35 - 15:39
    ตอนนี้ งานของฉันมันช่างแตกต่าง
  • 15:39 - 15:40
    งานของฉันคือการออกมาพูดตรงนี้
  • 15:40 - 15:45
    พูดเกี่ยวกับคนที่ชอบเก็บตัว
  • 15:45 - 15:48
    (เสียงหัวเราะ)
  • 15:48 - 15:49
    มันยากมากสำหรับฉัน
  • 15:49 - 15:51
    ด้วยเกียรติที่ฉันได้รับ
  • 15:51 - 15:53
    ที่ได้มาอยู่กับพวกคุณที่นี่ เวลานี้
  • 15:53 - 15:57
    นี่ไม่ใช่ลักษณะธรรมชาติของฉัน
  • 15:57 - 15:59
    ดังนั้นฉันต้องเตรียมตัวเพื่อช่วงเวลาแบบนี้
  • 15:59 - 16:00
    ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้
  • 16:00 - 16:03
    ฉันใช้เวลาปีที่แล้วฝึกการพูดในที่สาธารณะ
  • 16:03 - 16:05
    ทุกโอกาสที่ฉันสามารถทำได้
  • 16:05 - 16:09
    เรียกปีนี้ว่า ปีแห่งการพูดที่อันตรายของฉัน
  • 16:09 - 16:10
    (เสียงหัวเราะ)
  • 16:10 - 16:12
    มันค่อนข้างช่วยฉันได้มากเลยทีเดียว
  • 16:12 - 16:14
    แต่รู้ไหม สิ่งที่ช่วยฉันได้มาก ก็คือ
  • 16:14 - 16:16
    ความรู้สึก ความเชื่อ ความหวัง
  • 16:16 - 16:18
    ที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติของพวกเรา
  • 16:18 - 16:21
    การชอบเก็บเนื้อเก็บตัว การอยู่เงียบๆ
    และความสันโดษ
  • 16:21 - 16:22
    เราเหมือนทรงตัวอยู่บนก้อนอิฐ
  • 16:22 - 16:24
    บนการเปลี่ยนแปลงของบทชีวิต
  • 16:24 - 16:26
    ฉันหมายถึง พวกเราเป็นอย่างนั้น
  • 16:26 - 16:27
    ฉันจะหยุดตรงนี้
  • 16:27 - 16:29
    โดยให้คุณ ทำ 3 สิ่ง
  • 16:29 - 16:32
    สำหรับการร่วมวิสัยทัศน์นี้
  • 16:32 - 16:33
    หนึ่ง:
  • 16:33 - 16:35
    หยุดความบ้าในการทำงานกลุ่ม
  • 16:35 - 16:36
    แค่หยุดมันซะ
  • 16:36 - 16:39
    (หัวเราะ)
  • 16:39 - 16:41
    ขอบคุณ
  • 16:41 - 16:44
    (เสียงปรบมือ)
  • 16:44 - 16:46
    เพื่อให้ชัดเจนในสิ่งที่ฉันจะพูด
  • 16:46 - 16:48
    เพราะลึกๆ ฉันเชื่อว่าที่ทำงานของเรา
  • 16:48 - 16:49
    ควรสนับสนุนให้
  • 16:49 - 16:51
    มีความเป็นการเอง การคุยกัน
  • 16:51 - 16:52
    และการปฏิสัมพันธ์กัน
  • 16:52 - 16:54
    คุณรู้ใช่ไหม การที่คนมาร่วมกัน
  • 16:54 - 16:56
    มาแลกเปลี่ยนความคิดกัน
  • 16:56 - 16:57
    มันดีมากเลย
  • 16:57 - 16:59
    มันดีมากสำหรับคนที่ชอบเก็บตัว
  • 16:59 - 17:00
    และดีสำหรับคนที่ไม่ชอบเก็บตัว
  • 17:00 - 17:01
    เราต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้
  • 17:01 - 17:03
    และต้องการความเป็นอิสระมากกว่านี้
  • 17:03 - 17:05
    และอิสระในการทำงานด้วยตัวเอง
  • 17:05 - 17:06
    ในโรงเรียนก็เหมือนกัน
  • 17:06 - 17:08
    เราต้องสอนเด็กให้ทำงานร่วมกัน
  • 17:08 - 17:09
    และแน่นอน
  • 17:09 - 17:11
    เราต้องสอนให้เขาทำงานด้วยตัวเอง
  • 17:11 - 17:13
    มันสำคัญสำหรับเด็กที่ไม่ชอบเก็บตัวเช่นกัน
  • 17:13 - 17:15
    พวกเขาต้องคิดด้วยตัวเอง
  • 17:15 - 17:18
    เพราะความคิดในส่วนลึกจะเกิดจากตรงนี้เอง
  • 17:18 - 17:21
    เอาล่ะ หมายเลขสอง: ไปยังที่ที่ลำบาก
  • 17:21 - 17:22
    เหมือนกับที่พระพุทธเจ้าทำ
  • 17:22 - 17:24
    คุณต้องค้นพบด้วยตัวเอง
  • 17:24 - 17:26
    ฉันไม่ได้จะพูดว่า
  • 17:26 - 17:29
    เราต้องออกไปและสร้างบ้านไม้ของเราในป่า
  • 17:29 - 17:32
    และไม่คุยกับใครอีกเลย
  • 17:32 - 17:34
    แต่ฉันจะบอกว่า เราสามารถยืนด้วยตัวเอง
  • 17:34 - 17:38
    เข้าไปภายในหัวของเราเองบ่อยขึ้น
  • 17:39 - 17:42
    หมายเลข 3:
  • 17:42 - 17:44
    ดูที่สิ่งอยู่ภายในกระเป๋าเดินทางของคุณ
  • 17:44 - 17:46
    และคิดว่าทำไมคุณถึงใส่มันไว้
  • 17:46 - 17:48
    ดังนั้นคนที่ไม่ชอบเก็บตัว
  • 17:48 - 17:50
    บางทีกระเป๋าเดินทางของคุณอาจจะเต็ม
  • 17:50 - 17:51
    ไปด้วยหนังสือ
  • 17:51 - 17:53
    หรืออาจจะเต็มไปด้วยแก้วแชมเปญ
  • 17:53 - 17:56
    หรืออุปกรณ์กระโดดร่ม
  • 17:56 - 17:57
    ไม่ว่าจะเป็นอะไร
  • 17:57 - 18:00
    ฉันหวังว่า คุณนำมันออกมาใช้
    เมื่อมีโอกาส
  • 18:00 - 18:03
    และให้เราเห็นถึงพลังและความสุขของคุณ
  • 18:03 - 18:05
    ส่วนคนชอบเก็บตัว ขอให้คุณเป็นคุณ
  • 18:05 - 18:07
    คุณอาจจะมีแรงผลักดันที่จะปกป้อง
  • 18:07 - 18:11
    สิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางของคุณอย่างเต็มเปี่ยม
  • 18:11 - 18:12
    มันก็ดี
  • 18:12 - 18:14
    เพียงแต่บางครั้ง แค่บางครั้ง
  • 18:14 - 18:17
    ฉันหวังว่า คุณจะเปิดกระเป๋าเดินทางของคุณ
  • 18:17 - 18:18
    ให้คนอื่นดู เพราะโลกต้องการคุณ
  • 18:18 - 18:20
    และต้องการสิ่งที่คุณมี
  • 18:21 - 18:23
    ฉันขอให้คุณได้ในสิ่งที่ดีที่สุด
  • 18:23 - 18:25
    ในการเดินทางของคุณ
  • 18:25 - 18:27
    และความกล้าที่จะพูดเบาๆ
  • 18:27 - 18:29
    ขอบคุณมากๆ ค่ะ
  • 18:29 - 18:33
    (เสียงปรบมือ)
  • 18:33 - 18:36
    ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ
  • 18:36 - 18:38
    ขอบคุณค่ะ
  • 18:38 - 18:42
    (เสียงปรบมือ)
Title:
พลังของคนที่ชอบเก็บตัวหรือมีโลกส่วนตัวสูง
Speaker:
ซูซาน เคน (Susan Cain)
Description:

ในสังคมที่การออกงานพบปะผู้คนเป็นอะไรที่ดูดีและมีหน้าตา อาจเป็นเรื่องยากและออกจะน่าอาย สำหรับคนที่ชอบเก็บตัวหรือมีโลกส่วนตัวสูง แต่อย่างที่ซูซาน เคน กล่าวในการพูดที่น่าฟังนี้ว่า คนที่ชอบเก็บตัวมีพรสวรรค์และความสามารถที่ยอดเยี่ยมที่นำมาสู่โลกและควรจะสนับสนุนและเฉลิมฉลอง

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
18:43
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The power of introverts
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The power of introverts
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The power of introverts
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The power of introverts
Bongkot Charoensak accepted Thai subtitles for The power of introverts
Bongkot Charoensak edited Thai subtitles for The power of introverts
Bongkot Charoensak edited Thai subtitles for The power of introverts
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for The power of introverts
Show all

Thai subtitles

Revisions