คณิตศาสตร์อันเหลือเชื่อเบื้องหลังภาพ "ราตรีประดับดาว" ของแวน โก๊ะ - นาตาลียา เซนต์ แคลร์ (Natalya St. Clair)
-
0:00 - 0:10ลักษณะที่โดดเด่นที่สุด
ประการหนึ่งของสมองมนุษย์ -
0:10 - 0:14คือความสามารถในการมองเห็น
และอธิบายรูปแบบต่าง ๆ -
0:14 - 0:16ในบรรดารูปแบบยากที่สุด
ที่เราพยายามจะทำความเข้าใจ -
0:16 - 0:21คือแนวคิดเรื่องการไหลปั่นป่วน
ในพลศาสตร์ของไหล -
0:21 - 0:23นักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน
แวร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก กล่าวว่า -
0:23 - 0:27"หากได้พบพระเจ้าแล้ว
ผมจะเอ่ยถามคำถามสองข้อ -
0:27 - 0:31ว่าทำไมถึงสร้างสัมพัทธภาพ
แล้วทำไมถึงสร้างความปั่นป่วน -
0:31 - 0:35ผมเชื่อเหลือเกินว่า
พระองค์จะทรงตอบข้อแรกได้" -
0:35 - 0:38ความปั่นป่วนนั้นก็เข้าใจยาก
ไม่แพ้ความเข้าใจในเชิงคณิตศาสตร์ -
0:38 - 0:42เพียงแต่ว่าเราสามารถ
ใช้ศิลปะมาอธิบายรูปร่างของมันได้ -
0:42 - 0:47มิถุนายน ค.ศ. 1889 วินเซนต์ แวน โก๊ะ
ได้วาดภาพทิวทัศน์ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น -
0:47 - 0:52จากหน้าต่างในห้องโรงพยาบาลจิตเวช
แซ็งต์-ปอล-เดอ-โมโซล -
0:52 - 0:54ในเมืองแซ็งต์-เรมี-เดอ-พรอว็องซ์
-
0:54 - 0:57ซึ่งเขามาเข้ารับการรักษา
ภายหลังตัดหูตนเอง -
0:57 - 0:58ขณะอยู่ในภาวะวิกลจริต
-
0:59 - 1:02ในภาพ "ราตรีประดับดาว"
(Starry Night) ฝีพู่กันเป็นวง -
1:02 - 1:08รังสรรค์ภาพท้องฟ้ายามค่ำคืน
ที่เต็มไปด้วยเกลียวเมฆและกลุ่มดาว -
1:08 - 1:12แวน โก๊ะ และจิตรกรอิมเพรสชันนิสต์
ท่านอื่น ถ่ายทอดแสงแตกต่างไปจาก -
1:12 - 1:13จิตรกรรุ่นก่อนหน้า
-
1:13 - 1:16ราวกับว่าจะสามารถบันทึก
การเคลื่อนไหวของแสงได้ -
1:16 - 1:18เช่น
ลายผิวน้ำยามต้องแสงอาทิตย์ -
1:18 - 1:22หรือแสงดาว
ระยิบระยับและพร่างพราว -
1:22 - 1:24แหวกว่ายไปตามคลื่นเมฆขาว
ในท้องฟ้าครามยามราตรี -
1:25 - 1:27ผลที่ได้นี้เกิดจากความส่องสว่าง
-
1:27 - 1:31ซึ่งหมายถึงความเข้มของแสง
ในสีสันบนผืนผ้าใบ -
1:31 - 1:34ที่เปลือกสมองส่วนการมองเห็น
ส่วนดั้งเดิมของเรา -
1:34 - 1:38สามารถเห็นความต่างของแสง
และการเคลื่อนไหว แต่ไม่เห็นสี -
1:38 - 1:41ซึ่งจะผสมสองเนื้อสี
ที่คนละสีให้เข้ากัน -
1:41 - 1:43หากมีความส่องสว่างเท่ากัน
-
1:43 - 1:45แต่เซลล์ประสาทแขนงย่อยที่มีใน
สัตว์กลุ่มไพรเมทในสมองของเรา -
1:45 - 1:48จะเห็นสีที่ตัดกันโดยไม่ผสมปนเป
-
1:49 - 1:51เมื่อเกิดการตีความ
ทั้งสองอย่างพร้อมกัน -
1:51 - 1:57แสงในหลายผลงานของจิตรกรเหล่านี้
จึงดูสั่นไหว เปล่งแสง วูบวาบอย่างประหลาด -
1:58 - 2:00นี่คือวิธีการที่ผลงานของแวน โก๊ะ
และจิตรกรอิมเพรสชันนิสต์คนอื่น ๆ -
2:00 - 2:03ใช้การป้ายสีด้วยฝีแปรงอย่างรวดเร็ว
-
2:03 - 2:07เพื่อถ่ายทอดการเคลื่อนที่ของแสง
ที่สมจริงอย่างน่าทึ่ง -
2:08 - 2:1160 ปีต่อมา นักคณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย
อังเดรย์ คอลโมโกรอฟ -
2:11 - 2:14ทำให้เราเข้าใจความปั่นปวน
ในเชิงคณิตศาสตร์มากขึ้น -
2:14 - 2:18เมื่อเขาเสนอสมมติฐานว่า
พลังงานในของไหลปั่นป่วนที่ระยะ อาร์ -
2:18 - 2:22แปรผันตรงกับระยะอาร์ยกกำลัง 5 ส่วน 3
-
2:22 - 2:24การทดลองการวัดพบว่าคอลโมโกรอฟ
-
2:24 - 2:28คำนวณได้ใกล้เคียงการไหลปั่นป่วนอย่างมาก
-
2:28 - 2:30แม้ว่าคำอธิบายที่สมบูรณ์ของ
ความปั่นป่วน -
2:30 - 2:33จะยังคงเป็นหนึ่งในโจทย์ปัญหา
ที่ยังแก้ได้ไม่หมดของฟิสิกส์ -
2:33 - 2:37การไหลปั่นป่วนมีลักษณะคล้ายตนเอง
หากมีระดับขั้นพลังงาน -
2:38 - 2:41พูดอีกอย่างคือ กระแสวนขนาดใหญ่
ถ่ายทอดพลังงานให้กระแสวนที่เล็กกว่า -
2:41 - 2:43ซึ่งจะถ่ายทอดในระดับต่อไปเรื่อย ๆ
-
2:44 - 2:47ตัวอย่างเช่น จุดแดงใหญ่บนดาวพฤหัส
-
2:47 - 2:51การก่อตัวของเมฆ
และอนุภาคฝุ่นระหว่างดวงดาว -
2:52 - 2:55ในปี ค.ศ. 2004 นักวิทยาศาสตร์
ส่องกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล -
2:55 - 3:00พบกระแสวนของฝุ่นและแก๊ส
รอบดาวดวงหนึ่งที่ห่างไกล -
3:00 - 3:03และชวนให้พวกเขานึกถึง
ภาพ "ราตรีประดับดาว" ของแวน โก๊ะ -
3:04 - 3:07การค้นพบนี้เป็นแรงบันดาลใจให้
นักวิทยาศาสตร์จากเม็กซิโก สเปน และอังกฤษ -
3:07 - 3:11สนใจศึกษาความส่องสว่าง
ในภาพเขียนของแวะ โก๊ะอย่างละเอียด -
3:11 - 3:16พวกเขาค้นพบว่า
มีรูปแบบโครงสร้างการไหลปั่นป่วนที่ชัดเจน -
3:16 - 3:20คล้ายสมการของคอลโมโกรอฟ
ที่ซ่อนอยู่ในหลาย ๆ ภาพของแวน โก๊ะ -
3:21 - 3:23นักวิจัยจึงแปลงภาพเป็นไฟล์ดิจิทัล
-
3:23 - 3:27และวัดเทียบความสว่างที่แปรผัน
ในระหว่างทุก ๆ สองพิกเซล -
3:27 - 3:30เมื่อพิจารณาจากส่วนโค้ง
ที่วัดการแยกพิกเซลแล้ว -
3:30 - 3:34นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าภาพที่แวน โก๊ะวาด
ในช่วงที่มีอาการกระวนกระวายทางจิต -
3:34 - 3:37มีลักษณะคล้ายการไหลปั่นป่วนอย่างน่าทึ่ง
-
3:38 - 3:42ในขณะที่ภาพตนเองสูบกล้องยาเส้น
ที่วาดในช่วงที่ชีวิตของแวน โก๊ะ สุขสงบนั้น -
3:42 - 3:44กลับไม่มีความคล้ายคลึงเช่นนี้อยู่
-
3:44 - 3:47รวมไปถึงผลงานของจิตรกรท่านอื่น
-
3:47 - 3:49ที่ดูเผิน ๆ แล้วปั่นป่วนพอกัน
-
3:49 - 3:51เช่นภาพ "หวีดสยอง" ของมุงค์
-
3:51 - 3:55แม้จะสรุปง่ายไปหน่อยหากกล่าวว่า
อัจฉริยภาพในช่วงปั่นป่วนของแวน โก๊ะ -
3:55 - 3:57ทำให้เขาวาดภาพความปั่นป่วนได้
-
3:57 - 4:02แต่สิ่งที่ยากเกินบรรยายคือแสดงออกถึง
ความงดงามที่ถูกปลุกเร้าแห่งข้อเท็จจริง -
4:02 - 4:04ในห้วงความทรมานแสนสาหัส
-
4:04 - 4:08แวน โก๊ะสามารถรับรู้และแสดง
-
4:08 - 4:10แนวคิดหนึ่งที่ยากอย่างยิ่งยวด
-
4:10 - 4:14ที่ธรรมชาติมอบให้มวลมนุษยชาติ
-
4:14 - 4:16และผสานมโนภาพ
ที่ไม่เหมือนใครของเขา -
4:16 - 4:20เข้ากับความลี้ลับ
ของการเคลื่อนที่ ของไหล และแสง
- Title:
- คณิตศาสตร์อันเหลือเชื่อเบื้องหลังภาพ "ราตรีประดับดาว" ของแวน โก๊ะ - นาตาลียา เซนต์ แคลร์ (Natalya St. Clair)
- Speaker:
- Natalya St. Clair
- Description:
-
ชมบทเรียนเต็มได้ที่ : http://ed.ted.com/lessons/the-unexpected-math-behind-van-gogh-s-starry-night-natalya-st-clair
นักฟิสิกส์ แวร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก เคยกล่าวไว้ว่า "หากได้พบพระเจ้าแล้ว ผมจะถามคำถามสองข้อ ว่าทำไมถึงสร้างสัมพัทธภาพขึ้นมา แล้วทำไมถึงสร้างความปั่นป่วน ผมเชื่อเหลือเกินว่าพระองค์จะทรงตอบข้อแรกได้" ความปั่นป่วนนั้นก็เข้าใจยากไม่แพ้การทำความเข้าใจในเชิงคณิตศาสตร์ เพียงแต่ว่าเราสามารถใช้ศิลปะมาอธิบายรูปร่างของมันได้
นาตาลียา เซนต์ แคลร์ อธิบายให้เห็นภาพว่าแวน โก๊ะ เข้าถึงความลี้ลับของการเคลื่อนที่ ของไหล และแสง ในผลงานของเขาอย่างไรบทเรียนโดย Natalya St. Clair แอนิเมชันโดย Avi Ofer
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 04:39
Michelle Mehrtens edited Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" | ||
Retired user accepted Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" | ||
Panaya Hasitabhan edited Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" | ||
Retired user declined Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" | ||
Retired user edited Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" | ||
Retired user edited Thai subtitles for The unexpected math behind Van Gogh's "Starry Night" |