ทำไมหมวกกันน๊อคไม่สามารถป้องกันการกระแทกสมองได้ -- แล้วจะใช้อะไรดีล่ะ
-
0:00 - 0:05ในปัจจุบัน คำว่าการกระทบกระแทกสมอง
ก่อให้เกิดความน่ากลัวมากยิ่งกว่าแต่ก่อน -
0:05 - 0:07และผมก็รู้จากประสบการณ์โดยตรง
-
0:08 - 0:10ผมเล่นอเมริกันฟุตบอลมา 10 ปี
-
0:10 - 0:13ถูกอัดที่หัวมาเป็นพัน ๆ ครั้ง
-
0:13 - 0:16และผมต้องบอกคุณว่า สิ่งที่แย่ยิ่งกว่านั้น
-
0:16 - 0:21คืออุบัติเหตุจากรถจักรยานสองครั้ง
ที่ทำให้สมองของผมได้รับการกระแทก -
0:21 - 0:24และผมก็ยังได้รับผลกระทบ
จากอุบัติเหตุครั้งล่าสุดอยู่ -
0:24 - 0:26ในวันนี้ ณ ตอนนี้
-
0:28 - 0:30เราหวาดกลัวต่อการกระทบกระแทกสมอง
-
0:30 - 0:32ที่ไม่มีหลักฐานมาสนับสนุน
-
0:34 - 0:37มีข้อมูลที่แสดงว่า
ประวัติการกระทบกระแทกซ้ำ ๆ -
0:37 - 0:40สามารถนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อม
ดังเช่น โรคอัลไซเมอร์ -
0:40 - 0:42และอาการทางสมองบาดเจ็บเรื้อรัง
-
0:42 - 0:45นั่นเป็นประเด็นในภาพยนตร์ของวิล สมิท
เรื่อง "Concussion" -
0:47 - 0:50ฉะนั้น ทุกคนก็เลยคิดภาพแต่ในกรอบ
เรื่องอเมริกันฟุตบอลและสิ่งที่เห็นในกองทัพ -
0:50 - 0:51แต่คุณอาจไม่รู้ว่า
-
0:52 - 0:56การขี่รถจักรยานเป็นสาเหตุหลักของ
การกระทบกระแทกสมองในเด็ก -
0:56 - 0:58มันเป็นกีฬาที่เกี่ยวข้องกับ
การกระทบกระแทกสมอง -
0:59 - 1:02และอีกอย่างหนึ่งที่ผมควรจะบอกคุณ
-
1:02 - 1:03ที่คุณอาจไม่รู้
-
1:03 - 1:06ก็คือหมวกกันน๊อคที่ใส่กันตอนขี่รถจักรยาน
และตอนเล่นอเมริกันฟุตบอล -
1:06 - 1:07และในอีกหลาย ๆ กิจกรรมนั้น
-
1:08 - 1:10ไม่ได้ถูกออกแบบหรือถูกทดสอบมา
-
1:10 - 1:14ว่าพวกมันป้องกันการกระทบกระแทกสมอง
ของลูก ๆ ของคุณได้ดีแค่ไหน -
1:14 - 1:16อันที่จริงแล้ว พวกมันถูกออกแบบและทดสอบ
-
1:16 - 1:19ในเรื่องของความสามารถในการป้องกัน
หัวกระโหลกแตกร้าว -
1:20 - 1:25และผมก็ได้รับคำถามนี้จากพ่อแม่เสมอ ๆ
-
1:25 - 1:27พวกเขาถามผมว่า
-
1:27 - 1:29"คุณจะอนุญาตให้ลูกของคุณ
เล่นอเมริกันฟุตบอลหรือเปล่า" -
1:29 - 1:33หรือ "ฉันควรอนุญาตให้ลูกของฉัน
เล่นอเมริกันฟุตบอลหรือเปล่า" -
1:33 - 1:35และในฐานะคนในวงการ ผมคิดว่า
-
1:36 - 1:40เรายังให้คำตอบอย่างมั่นใจไม่ได้เลย
-
1:41 - 1:45ฉะนั้น ผมพิจารณาคำถามนั่น
จากมุมมองที่แตกต่างออกไป -
1:45 - 1:49และผมก็อยากจะรู้ว่าเราจะป้องกัน
การกระทบกระแทกสมองได้อย่างไร -
1:49 - 1:50นั่นมันเป็นไปได้หรือเปล่า
-
1:50 - 1:53และผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่า
มันเป็นไปไม่ได้ -
1:55 - 1:57แต่สิ่งที่เรากำลังศึกษากันอยู่
ในห้องทดลองของผม -
1:57 - 2:01กำลังเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม
เกี่ยวกับการกระทบกระแทกสมอง -
2:01 - 2:04ซึ่งจะทำให้เรามีความเข้าใจที่ดีขึ้น
-
2:04 - 2:07เหตุผลที่เราสามารถป้องกันกระโหลกร้าว
ได้ด้วยหมวกกันน๊อค -
2:07 - 2:09ก็เพราะว่ามันค่อนข้างง่าย
เรารู้ว่ากลไกของมันเป็นอย่างไร -
2:09 - 2:11การกระทบกระแทกสมอง
ยังเป็นปริศนาที่เราไม่เข้าใจ -
2:12 - 2:16ฉะนั้น เพื่อให้คุณพอเห็นภาพว่า
การกระทบกระแทกสมองเป็นอย่างไร -
2:17 - 2:19ผมอยากให้คุณชมวีดีโอนี้
-
2:19 - 2:22ที่คุณจะพบมันได้
เมื่อทำการค้นหาผ่านกูเกิล -
2:22 - 2:23"การกระทบกระแทกสมองคืออะไร"
-
2:23 - 2:25เว็บไซต์ของซีดีซี (CDC) ปรากฏขึ้นมา
-
2:25 - 2:28และวีดีโอนี้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด
-
2:28 - 2:31สิ่งที่คุณเห็นคือศีรษะที่เคลื่อนไปข้างหน้า
-
2:31 - 2:33สมองที่ยังอยู่ในส่วนด้านหลัง
-
2:33 - 2:34และจากนั้นสมองก็ค่อยเคลื่อนตามมา
-
2:34 - 2:37และกระแทกเข้ากับกระโหลก
-
2:37 - 2:39มันเด้งกลับออกจากกระโหลก
-
2:39 - 2:43และจากนั้นก็เคลื่อนไปยังอีกด้านหนึ่ง
ของกระโหลก -
2:43 - 2:47และสิ่งที่คุณจะสังเกตก็คือสิ่งที่ถูกเน้นไว้
ในวีดีโอจากซีดีซีนี้ -
2:47 - 2:49ซึ่งผมจะขอย้ำว่างานนี้
ได้รับเงินสนับสนุนจาก NFL -
2:49 - 2:52ก็คือส่วนผิวนอกของสมอง
-
2:52 - 2:56ที่ซึ่งกระแทกเข้ากับกระโหลก
-
2:56 - 3:00ดูเหมือนว่ามันได้รับบาดเจ็บหรือเสียหาย
ฉะนั้นมันก็คือผิวส่วนนอกของสมอง -
3:00 - 3:02และที่ผมอยากจะทำสำหรับวีดีโอนี้ก็คือ
-
3:02 - 3:05บอกกับคุณว่ามันมีบางแง่มุม
ที่อาจเป็นความจริง -
3:05 - 3:08ที่บ่งบอกว่านักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า
มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทบกระแทก -
3:08 - 3:11แต่มันอาจยังมีส่วนที่ผิดอยู่หลายจุด
ในวีดีโอนี้ -
3:11 - 3:14สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นด้วย และผมก็คิดว่า
ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย -
3:14 - 3:16ก็คือสมองมีการเคลื่อนไหวแบบนี้
-
3:16 - 3:19มันอยู่ในส่วนด้านหลังของกระโหลก
-
3:19 - 3:21และจากนั้นเคลื่อนตามมา
เคลื่อนไปข้างหน้าและหลัง และแกว่ง -
3:21 - 3:23นั่นเป็นสิ่งที่เราคิดว่าเกิดขึ้นจริง
-
3:24 - 3:27อย่างไรก็ดี ระดับการเคลื่อนที่
ที่คุณได้เห็นในวีดีโอนี้ -
3:27 - 3:29บางที อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมด
-
3:29 - 3:32ในส่วนโค้งโพรงกระโหลก
มีพื้นที่อยู่น้อยมาก -
3:32 - 3:34มีเพียงไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้นเอง
-
3:34 - 3:37และมันก็เต็มไปด้วยน้ำในสมอง
-
3:37 - 3:39ซึ่งทำหน้าที่เป็นชั้นป้องกัน
-
3:39 - 3:43และสมองทั้งหมดก็อาจเคลื่อนที่น้อยมาก
ภายในกระโหลก -
3:45 - 3:47อีกปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับวีดีโอนี้
-
3:47 - 3:48ก็คือสมองที่เราเห็น
-
3:48 - 3:51ถูกแสดงในลักษณะก้อนของแข็ง
ที่เคลื่อนไปรอบ ๆ -
3:51 - 3:53และนั่นก็ไม่ใช่ความจริงเช่นกัน
-
3:54 - 3:57สมองของคุณเป็นส่วนที่นุ่มที่สุดส่วนหนึ่ง
ของร่างกาย -
3:57 - 3:59และคุณอาจคิดว่ามันเหมือนกับเยลลี่
-
3:59 - 4:01ฉะนั้น เมื่อศีรษะของคุณ
เคลื่อนไปข้างหน้าและหลัง -
4:01 - 4:04สมองของคุณจะหมุนและบิดไปมา
-
4:04 - 4:06และเนื้อเยื่อก็จะถูกยืด
-
4:06 - 4:09และผมก็คิดว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่
ก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ -
4:10 - 4:13การกระทบกระแทกนั้นไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้น
-
4:13 - 4:14บนผิวนอกของสมอง
-
4:15 - 4:17แต่เกิดกับส่วนที่ลึกมากกว่านั้น
-
4:17 - 4:18ลงไปตามแกนกลางของสมอง
-
4:19 - 4:22ทีนี้ วิธีการที่เรากำลังจัดการกับปัญหานี้ก็คือ
-
4:22 - 4:24พยายามทำความเข้าใจ
กลไกของการกระทบกระแทก -
4:24 - 4:26และพยายามเข้าใจว่าเราจะป้องกันมันได้อย่างไร
-
4:26 - 4:29โดยใช้อุปกรณ์ที่มีหน้าตาแบบนี้
-
4:29 - 4:30มันคือฟันยาง
-
4:31 - 4:34มันมีตัวตรวจจับอยู่ภายใน
ที่เหมือนกันกับตัวตรวจจับ -
4:34 - 4:35ที่มีอยู่ในโทรศัพท์มือถือของคุณ
ซึ่งได้แก่ -
4:35 - 4:38ตัววัดความเร่ง ไจโรสโคป
-
4:38 - 4:39และเมื่อใครก็ตามได้รับการปะทะเข้าที่ศีรษะ
-
4:40 - 4:42มันจะบอกคุณว่าศีรษะของเขาเคลื่อนไปอย่างไร
-
4:42 - 4:45โดยบันทึกไว้ที่อัตราพันตัวอย่างต่อวินาที
-
4:47 - 4:49หลักการเบื้องหลังฟันยางก็คือ
-
4:49 - 4:51มันพอดีกับฟันของคุณ
-
4:51 - 4:54ฟันของคุณเป็นส่วนหนึ่งที่แข็งที่สุด
ในร่างกาย -
4:54 - 4:56ฉะนั้น มันถูกฝังอยู่แน่นในกระโหลกของคุณ
-
4:56 - 4:58และให้การวัดที่แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
-
4:58 - 5:00ว่ากระโหลกเคลื่อนที่อย่างไร
-
5:00 - 5:03ผู้คนได้พยายามวิธีการอื่น ๆ
ด้วยหมวกกันน๊อค -
5:03 - 5:06เราได้ใช้ตัวตรวจวัดอย่างอื่น
ที่ติดไว้ที่ผิวหนัง -
5:06 - 5:09และพวกมันก็เคลื่อนที่มากเกินไป
-
5:09 - 5:12และเราก็พบว่านี่เป็นเพียงวิธีการเดียว
ที่เชื่อถือได้ -
5:12 - 5:13ที่จะวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
5:15 - 5:20ฉะนั้นตอนนี้ เรามีอุปกรณ์นี้แล้ว
เราสามารถทำได้มากกว่าการศึกษาศพ -
5:20 - 5:22เพราะว่าคุณสามารถเรียนรู้อะไรมากมาย
เกี่ยวกับการกระทบกระแทก -
5:22 - 5:23จากการศึกษาศพ
-
5:23 - 5:26และเราต้องการที่จะเรียนรู้และศึกษา
คนที่มีชีวิตอยู่เช่นกัน -
5:26 - 5:30ฉะนั้น สถานที่ใดบ้างที่เราจะสามารถ
หากลุ่มของอาสาสมัตรได้ -
5:30 - 5:34เพื่อที่จะให้พวกเขาเอาศีรษะไปกระแทกกัน
ได้บ่อยครั้ง -
5:34 - 5:36และมีการกระทบกระแทกเสมอ ๆ
-
5:36 - 5:38ครับ ผมเป็นหนึ่งในพวกนั้น
-
5:38 - 5:40และมันก็คือทีมอเมริกันฟุตบอลสแตนฟอร์ด
ที่แสนจะเป็นมิตร -
5:42 - 5:43ฉะนั้น นี่แหละครับห้องทดลองของเรา
-
5:43 - 5:45และผมอยากที่จะแสดงให้คุณดู
-
5:45 - 5:48การกระทบกระแทกครั้งแรก
ที่เราวัดด้วยอุปกรณ์นี้ -
5:48 - 5:52หนึ่งในสิ่งที่ผมควรจะบอกก็คือ
อุปกรณ์มีไจโรสโคปอยู่ในนั้น -
5:52 - 5:55และนั่นทำให้เราสามารถวัดการหมุนของศีรษะได้
-
5:55 - 5:58ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่คิดว่า
นั่นเป็นปัจจัยสำคัญ -
5:58 - 6:00ที่อาจเริ่มบอกกับเราว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเกิดการกระทบกระแทก -
6:01 - 6:02ฉะนั้น โปรดดูวีดีโอนี้นะครับ
-
6:03 - 6:07ผู้บรรยาย: คูก้าบุกเข้ามากันอีก
แต่ถือว่าโชคดี -
6:07 - 6:08มีช่องแล้วครับ
-
6:10 - 6:12ผมว่าเขาจะไม่เป็นไรนะ
-
6:12 - 6:14(เสียงผู้ชมร้องอื้ออึง)
-
6:19 - 6:20ทางด้านบนของจอของคุณ
-
6:20 - 6:22คุณจะเห็นเขาเข้ามาหลังเส้นแนว
-
6:22 - 6:24และถูกแยกออกไปอย่างปลอดภัย
-
6:28 - 6:31มันพุงเข้ามาหาคุณที่ความเร็วจริง
คุณจะได้ยินสิ่งนี้ -
6:33 - 6:35การชนที่เกิดจาก --
-
6:36 - 6:39เดวิด คามาริโญ: ขอโทษครับ
ให้คุณดูสามครั้งนี่อาจจะมากไปหน่อย -
6:39 - 6:40แต่คุณก็คงจะเข้าใจแล้วว่ามันเป็นอย่างไร
-
6:40 - 6:43ฉะนั้น เมื่อคุณดูจากภาพนี้
-
6:43 - 6:47ที่คุณเห็นได้ก็คือเขาถูกชนเข้าอย่างแรง
และเขาก็เจ็บ -
6:47 - 6:49แต่เมื่อเราสกัดข้อมูลออกมา
-
6:49 - 6:51จากฟันยางที่เราให้เขาใส่ไว้
-
6:51 - 6:54เราสามารถเห็นรายละเอียดได้มากกว่า
ละเอียดกว่า -
6:54 - 6:56และหนึ่งในสิ่งที่เราสังเกตเห็น
-
6:56 - 7:00ก็คือเขาถูกชนทางด้านซ้ายล่างของหน้ากาก
-
7:00 - 7:03และนั่นก็ทำบางสิ่ง
ซึ่งเป็นการกระทบกระแทกเบา ๆ -
7:03 - 7:05ศีรษะไม่ได้เคลื่อนไปทางขวา
-
7:05 - 7:07อันที่จริง มันหมุนไปทางซ้ายก่อน
-
7:07 - 7:10จากนั้นเมื่อคอเริ่มย่อลงมา
-
7:10 - 7:13แรงของการกระแทกทำให้มันเคลื่อนไปทางด้านหลัง
-
7:13 - 7:19ฉะนั้นการเคลื่อนที่ไปทางซ้ายและขวา
เป็นเหมือนกับการเคลื่อนที่ของแส้ -
7:19 - 7:23และเราคิดว่านั่นนอาจเป็นสิ่งที่นำไปสู่
การบาดเจ็บของสมอง -
7:23 - 7:27ทีนี้ อุปกรณ์นี้จำกัดเพียงแค่ว่า
มันสามารถวัดการเคลื่อนของกระโหลก -
7:27 - 7:31แต่ที่เราอยากจะรู้ก็คือ
มันเกิดอะไรขึ้นในสมอง -
7:31 - 7:34ฉะนั้น เราจึงร่วมมือกับกลุ่มของ
สวิน แคลิเวน ในสวีเดน -
7:34 - 7:38พวกเขาพัฒนาแบบจำลองสมองที่มีขนาดจำกัด
-
7:38 - 7:40และในแบบจำลองนี้
-
7:40 - 7:43การใช้ข้อมูลจากฟันยางของเรา
จากการบาดเจ็บที่ผมแสดงให้คุณดู -
7:43 - 7:45และที่คุณเห็นนี้ก็คือสมอง --
-
7:45 - 7:48นี่เป็นภาพตัดขวางที่ทางด้านหน้า
-
7:48 - 7:50ของสมองที่ถูกบิดและถูกกระทบกระแทก
อย่างที่ผมได้พูดถึง -
7:50 - 7:53คุณจะเห็นว่ามันไม่เหมือนกับในวีดีโอของ CDC
-
7:53 - 7:55ทีนี้ สีที่คุณดูอยู่นี้
-
7:55 - 7:59บอกว่าเนื้อเยื่อสมองถูกยืดไปมากน้อยแค่ไหน
-
7:59 - 8:01และส่วนสีแดงนั้นหมายถึง 50 เปอร์เซ็นต์
-
8:01 - 8:05นั่นหมายถึงสมองได้ถูกยืดไป 50 เปอร์เซ็นต์
ของความยาวตามปกติ -
8:05 - 8:06เนื้อเยื่อในบริเวณนั้น
-
8:07 - 8:10และสิ่งสำคัญก็คือที่ผมอยากจะให้คุณสนใจ
ก็คือจุดแดงนี้ -
8:10 - 8:13จุดแดงนี้ใกล้กับส่วนกลางของสมอง
-
8:13 - 8:15และถ้าจะเปรียบเทียบ
-
8:15 - 8:19คุณไม่ค่อยเห็นสีแบบนั้นในส่วนผิวนอก
-
8:19 - 8:22ดังที่วีดีโอของ CDC แสดง
-
8:23 - 8:25ทีนี้ เพื่อที่จะอธิบายในรายละเอียด
-
8:25 - 8:28เกี่ยวกับว่าเราคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เมื่อเกิดการกระทบกระแทก -
8:28 - 8:30สิ่งหนึ่งที่ผมควรพูดถึง
-
8:30 - 8:33ก็คือเราและคนอื่น ๆ ได้สังเกต
ว่าการกระทบกระแทกจะเกิดขึ้นได้มากกว่า -
8:33 - 8:37เมื่อคุณถูกกระแทก
และศีรษะของคุณหมุนไปในทิศทางนี้ -
8:37 - 8:39มันเกิดได้บ่อย ๆ ในกีฬาอย่างอเมริกันฟุตบอล
-
8:39 - 8:43แต่มันน่าจะเป็นอันตรายมากกว่านั้น
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในสถานการณ์นี้ -
8:43 - 8:46ครับ สิ่งหนึ่งที่คุณจะสังเกตก็คือ
ในสมองของมนุษย์ -
8:46 - 8:47ที่แตกต่างจากของสัตว์อื่น ๆ
-
8:47 - 8:50คือเรามีพูใหญ่สองข้าง
-
8:50 - 8:52เรามีสมองซีกขวาและสมองซีกซ้าย
-
8:52 - 8:55และสิ่งสำคัญก็คือ ที่เราสังเกตเห็นในรูปนี้
-
8:55 - 8:58ก็คือลึกลงไปในส่วนกลาง
สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา -
8:58 - 9:01นี่คือเนื้อเยื่อส่วนใหญ่
ที่อยู่ลึกลงไปในสมอง -
9:01 - 9:04และในเนื้อเยื่อนั้น
ที่คุณมองไม่เห็นในภาพนี้ -
9:04 - 9:05และคุณต้องเชื่อผม
-
9:06 - 9:07ก็คือมันมีแผ่นที่เป็นเส้นใยของเนื้อเยื่อ
-
9:07 - 9:08ที่เรียกว่า แฟลกซ์
-
9:08 - 9:12และมันก็วางตัวจากส่วนหน้าของศีรษะ
ไปจนถึงส่วนหลังของศีรษะ -
9:12 - 9:13และมันก็ค่อนข้างที่จะแข็ง
-
9:13 - 9:17และที่มันเกิดขึ้นก็คือ เมื่อคุณถูกกระแทก
-
9:17 - 9:20และศีรษะของคุณหมุนในทิศทางซ้ายขวา
-
9:20 - 9:24แรงสามารถถูกส่งผ่านไปได้อย่างรวดเร็ว
ลงไปตามแกนกลางของสมองของคุณ -
9:24 - 9:26ทีนี้ สิ่งที่อยู่ทางด้านล่างของเนื้อเยื่อคืออะไร
-
9:27 - 9:30มันเป็นเส้นสายของสมอง
-
9:30 - 9:34และอันที่จริงมัดสีแดงนี้
ที่อยู่ทางด้านล่างของเนื้อเยื่อ -
9:34 - 9:37คือมัดใยเดี่ยวขนาดใหญ่
-
9:37 - 9:41นั่นคือเส้นสายที่เชื่อมต่อ
ซีกขวาและซ้ายของสมองของคุณ -
9:41 - 9:43มันเรียกว่า คอร์ปัส แคลโลซัม
-
9:43 - 9:45และเราคิดว่านั่นอาจเป็น
-
9:45 - 9:49หนึ่งในกลไกที่สำคัญที่สุด
ของการกระทบกระแทก -
9:49 - 9:54และเมื่อแรงนั้นเคลื่อนลงมา
พวกมันกระทบเข้ากับคอร์ปัส แคลโลซัม -
9:54 - 9:57มันทำให้เกิดการแยกตัว
ระหว่างสมองซีกขวาและซ้าย -
9:57 - 9:59และสามารถอธิบายอาการบางอย่าง
ของการกระทบกระแทกสมองได้ -
10:01 - 10:03การค้นพบนี้ยังสอดคล้องกัน
กับสิ่งที่เราเห็น -
10:04 - 10:08ในโรคสมองนี้ที่ผมพูดถึง
โรคทางสมองที่บาดเจ็บเรื้อรัง -
10:08 - 10:13นี่คือภาพของอดีตนักอเมริกันฟุตบอลอาชีพ
วัยกลางคน -
10:13 - 10:17และสิ่งที่ผมอยากจะเน้นก็คือ
ถ้าคุณดูที่คอร์ปัส แคลโลซัม -
10:17 - 10:21และผมจะย้อนกลับไปให้คุณดูขนาด
ของคอร์ปัส แคลโลซัม ปกติ -
10:21 - 10:25และขนาดของมันในคน
ที่มีโรคทางสมองที่บาดเจ็บเรื้อรัง -
10:26 - 10:28มันลีบลงไปมาก
-
10:28 - 10:31และมันก็เป็นเช่นเดียวกัน
สำหรับพื้นที่ในส่วนล่าง -
10:31 - 10:33ส่วนล่างเหล่านี้มีขนาดใหญ่กว่ามาก
-
10:33 - 10:36และเนื้อเยื่อทั้งหมดใกล้กับส่วนกลางของสมอง
-
10:36 - 10:37ค่อย ๆ ตายเมื่อเวลาผ่านไป
-
10:37 - 10:41ฉะนั้น สิ่งที่เราได้เรียนรู้มีความสอดคล้องกัน
-
10:42 - 10:44ทีนี้ มันมีข่าวดีครับ
-
10:44 - 10:48ผมหวังว่าจะให้คุณรับรู้ได้ถึงความหวัง
ในช่วงตอนจบของการบรรยายนี้ -
10:48 - 10:50หนึ่งในสิ่งที่เราสังเกต
-
10:50 - 10:52โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับกลไกล
ของการบาดเจ็บนี้ -
10:52 - 10:56ก็คือ แม้ว่าจะมีการส่งแรงอย่างรวดเร็ว
ลงไปตามเนื้อเยื่อ -
10:56 - 10:59มันก็ยังต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
-
10:59 - 11:04และสิ่งที่เราคิดก็คือ ถ้าเราสามารถ
ทำให้ศีรษะเคลื่อนช้าลงมากพอ -
11:04 - 11:07เพื่อที่สมองจะไม่ค้างอยู่ด้านหลังกระโหลก
-
11:07 - 11:11แต่มันจะเคลื่อนไปกับกระโหลก
อย่างประสานกันแล้ว -
11:11 - 11:14เราอาจสามารถป้องกันกลไกล
ที่ทำให้เกิดการกระทบกระแทกสมองได้ -
11:14 - 11:17ฉะนั้น เราจะทำให้
ศีรษะเคลื่อนช้าลงได้อย่างไร -
11:19 - 11:20(เสียงหัวเราะ)
-
11:20 - 11:22หมวกกันน๊อคขนาดใหญ่
-
11:23 - 11:26ด้วยพื้นที่ที่มากขึ้น คุณมีเวลามากขึ้น
-
11:26 - 11:29และนี่มันก็น่าขำสักหน่อย
สำหรับพวกคุณบางคนที่เห็นสิ่งนี้ -
11:29 - 11:32นี่คือฟุตบอลลูกโป่ง
มันเป็นกีฬาจริง ๆ นะครับ -
11:32 - 11:33อันที่จริง ผมเห็นวัยรุ่นบางคน
-
11:33 - 11:36เล่นกีฬานี้ใกล้ ๆ กับบ้านของผม
-
11:36 - 11:39และเท่าที่ผมรู้ มันไม่เคยมีรายงาน
เรื่องการกระทบกระแทกสมองเลย -
11:39 - 11:40(เสียงหัวเราะ)
-
11:40 - 11:45แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว หลักการนี้มันได้ผล
-
11:45 - 11:46แต่มันออกจะดูมากไปหน่อย
-
11:46 - 11:51มันไม่ใช่หลักการที่จะทำได้จริง ๆ สำหรับ
การขี่รถจักรยานหรือการเล่นอเมริกันฟุตบอล -
11:52 - 11:56เราก็เลยเกิดความร่วมมือกับบริษัทในสวีเดน
ที่ชื่อว่า โฮฟดิง (Hövding) -
11:56 - 11:58พวกคุณบางคนคงเคยเห็นผลงานของพวกเขาแล้ว
-
11:58 - 12:03และพวกเขาก็ใช้หลักการเดียวกัน
ของอากาศเพื่อที่จะทำให้คุณมีพื้นที่มากขึ้น -
12:03 - 12:04เพื่อป้องกันการกระทบกระแทก
-
12:05 - 12:07เด็ก ๆ ครับ อย่าเล่นเองที่บ้านนะครับ
ขอร้องล่ะ -
12:09 - 12:11นี่คือสตันต์แมนที่ไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อค
-
12:12 - 12:14แต่ว่าเขามีปลอกคอ
-
12:14 - 12:17และปลอกคอนี้มีตัวตรวจจับอยู่
-
12:17 - 12:21มันเป็นตัวตรวจจับประเภทเดียวกัน
กับที่อยู่ในฟันยาง -
12:21 - 12:24มันตรวจจับว่าเมื่อเราที่เขาน่าจะหกล้ม
-
12:24 - 12:26และมันก็มีถุงลมที่ระเบิดตัวออกมาและทำงาน
-
12:26 - 12:30โดยหลักการแล้ว มันทำงานแบบเดียวกัน
กับถุงลมในรถยนต์ของคุณ จำเป็นอย่างยิ่ง -
12:30 - 12:33และในการทดลองอุปกรณ์ของพวกเขา
ในห้องทดลองของผม -
12:33 - 12:37เราพบว่ามันสามารถลดความเสี่ยง
ของการกระทบกระแทกในบางสถานการณ์ได้ -
12:37 - 12:39เมื่อเปรียบเทียบกับ
หมวกกันน๊อคจักรยานตามปกติ -
12:39 - 12:41มันเป็นการพัฒนาที่ค่อนข้างน่าตื่นเต้น
-
12:42 - 12:46แต่เพื่อที่เราจะรู้ถึงประโยชน์ของเทคโนโลยี
-
12:46 - 12:48ที่เราสามารถป้องกันการกระทบกระแทกได้
-
12:48 - 12:51มันจะต้องเป็นไปตามมาตราฐาน
-
12:51 - 12:53นั่นคือความเป็นจริง
-
12:53 - 12:56อุปกรณ์นี้มีวางขายอยู่ในยุโรป
-
12:56 - 13:00แต่ไม่มีขายในอเมริกา
และบางที่มันก็คงยังไม่มีขายในเร็ว ๆ นี้ -
13:00 - 13:01ผมจะบอกพวกคุณว่าทำไม
-
13:01 - 13:05มันมีเหตุผลที่ดีและไม่ดี
-
13:05 - 13:07หมวกกันน๊อคจักรยานถูกควบคุมโดยรัฐฯ
-
13:07 - 13:11คณะกรรมการคุ้มครองความปลอดภัยสินค้า
สำหรับผู้บริโภคได้รับสิทธิ -
13:11 - 13:13ในการรับรองหมวกกันน๊อคจักรยาน
ที่จะวางจำหน่าย -
13:13 - 13:15และนี่คือการทดสอบที่พวกเขาใช้
-
13:15 - 13:18ซึ่งมันกลับไปยังสิ่งที่ผมบอกกับคุณ
ในตอนต้นเกี่ยวกับโครงสร้างของกระโหลก -
13:18 - 13:20นั่นเป็นเหตุผลของการทดสอบนี้
-
13:20 - 13:21และนั่นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำ
-
13:21 - 13:24มันสามารถช่วยชีวิตคุณได้
แต่มันไม่เพียงพอ ผมบอกได้เลย -
13:24 - 13:27ยกตัวอย่างเช่น สิ่งหนึ่งที่การทดสอบนี้
ไม่ได้ประเมิน -
13:27 - 13:30ก็คือมันไม่ได้บอกคุณ
ว่าถุงลมนี้กำลังจะทำงาน -
13:30 - 13:34อย่างถูกที่ถูกเวลา และจะไม่ทำงาน
เมื่อมันไม่เป็นที่ต้องการหรือเปล่า -
13:34 - 13:36คล้ายกัน มันไม่ได้บอกคุณ
-
13:36 - 13:39ว่าหมวกกันน๊อคนี้
จะป้องการการเกิดการกระทบกระแทกได้หรือไม่ -
13:39 - 13:43และถ้าคุณดูหมวกกันน๊อคของนักอเมริกันฟุตบอล
ซึ่งไม่ได้ถูกควบคุม -
13:43 - 13:45พวกมันได้รับการทดสอบคล้ายกันมาก
-
13:46 - 13:48พวกมันไม่ได้ถูกควบคุม
โดยรัฐฯ ไม่ว่าโดยวิธีใด -
13:48 - 13:51พวกมันถูกควบคุมโดยหน่วยงานอุตสาหกรรม
ซึ่งนั่นเป็นการทำงานของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ -
13:51 - 13:54แต่ด้วยหน่วยงานอุตสาหกรรม
ผมบอกคุณได้ว่าพวกเขา -
13:54 - 13:55ไม่ค่อยที่จะปรับเปลี่ยนมาตราฐาน
-
13:55 - 13:59ฉะนั้น ในห้องทดลองของผม
ไม่เพียงแต่ศึกษากลไกการกระทบกระแทก -
13:59 - 14:02แต่เรายังต้องการที่จะเข้าใจ
ว่าเราจะมีมาตราฐานที่ดีกว่านี้ได้อย่างไร -
14:02 - 14:07และเราก็หวังว่ารัฐฯ จะใช้ข้อมูลพวกนี้
-
14:07 - 14:08เพื่อกระตุ้นสนับสนุนนวัตกรรม
-
14:08 - 14:10โดยให้ผู้บริโภครู้ว่า
-
14:10 - 14:14พวกเขาได้รับการป้องกันจากหมวกกันน๊อคแค่ไหน
-
14:14 - 14:17และผมอยากที่จะพาพวกคุณกลับไป
ยังคำถามแรกที่ผมถาม -
14:17 - 14:21ซึ่งก็คือ ผมรู้สึกสบายใจหรือไม่
ที่จะให้ลูกของผมเล่นอเมริกันฟุตบอล -
14:21 - 14:22หรือขึ่รถจักรยาน
-
14:22 - 14:26และนี่อาจเป็นเพียงผลลัพธ์
จากประสบการณ์การได้รับบาดเจ็บของผม -
14:26 - 14:30ผมรู้สึกประหม่าที่เห็นโรส
ลูกสาวของผมขี่จักรยาน -
14:31 - 14:33เธออายุขวบครึ่ง
-
14:33 - 14:38และเธอก็อยากที่จะซิ่งลงไปตามถนน
ในซานฟรานซิสโก -
14:38 - 14:40นี่คือด้านล่างของถนนเหล่านี้
-
14:40 - 14:46และเป้าหมายส่วนตัวของผม
ก็คือ -- และผมก็เชื่อว่ามันเป็นไปได้ -- -
14:46 - 14:48คือพัฒนาเทคโนโลยีนี้ต่อไป
-
14:48 - 14:51และอันที่จริง เรากำลังศึกษาบางสิ่ง
ในห้องทดลองของผมโดยเฉพาะ -
14:51 - 14:54ที่จะใช้พื้นที่ในหมวกกันน๊อค
ได้อย่างเหมาะสมที่สุด -
14:54 - 14:56และผมก็มั่นใจว่าเราจะสามารถทำได้
-
14:56 - 14:59ก่อนที่เธอพร้อมที่จะขี่จักรยานสองล้อ
-
14:59 - 15:01ว่าจะมีอะไรสักอย่าง
-
15:01 - 15:04ที่สามารถที่จะลดความเสี่ยง
ของการกระทบกระแทกสมองได้จริง ๆ -
15:04 - 15:07และเป็นไปตามการควบคุมของร่างกาย
-
15:07 - 15:09และสิ่งที่ผมอยากจะทำก็คือ --
-
15:09 - 15:12และผมก็รู้ว่าสำหรับพวกคุณบางคน
-
15:12 - 15:14ผมมีเวลาสองสามปี --
-
15:14 - 15:18ที่จะสามารถบอกกับผู้ปกครองและ
ปู่ย่าตายายได้เมื่อผมถูกถาม -
15:18 - 15:23ว่ามันปลอดภัยและดีต่อสุขภาพของลูก ๆ ของคุณ
หรือไม่ที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้ -
15:23 - 15:26และผมก็โชคดีมาก
ที่มีทีมที่แสนวิเศษที่สแตนฟอร์ด -
15:26 - 15:27ที่ทำงานกันอย่างหนัก
-
15:27 - 15:32ผมหวังว่าจะกลับมาในอีกสองสามปี
พร้อมกับเรื่องราวในตอนจบ -
15:32 - 15:34แต่สำหรับตอนนี้ ผมจะบอกคุณว่า
-
15:34 - 15:37อย่างได้เอาแต่กลัวเมื่อคุณได้ยินคำว่า
การกระทบกระแทกสมอง -
15:37 - 15:38มันยังมีหวังครับ
-
15:38 - 15:39ขอบคุณครับ
-
15:39 - 15:44(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ทำไมหมวกกันน๊อคไม่สามารถป้องกันการกระแทกสมองได้ -- แล้วจะใช้อะไรดีล่ะ
- Speaker:
- เดวิด คามาริโญ (David Camarillo)
- Description:
-
การกระทบกระแทกสมองคืออะไร บางที มันอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิด ในการบรรยายจากผลงานวิจัยล่าสุดนี้ นักชีววิศวกรรม (และอดีตนักฟุตบอล) เดวิด คามาริโญ แสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นระหว่างการกระแทก - และทำไมหมวกกีฬาสำหรับกันน๊อคไม่อาจช่วยป้องกันสมองได้ นี่คือโฉมหน้าของการป้องกันการกระแทกล้ำยุค
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 15:56
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might | |
![]() |
Rawee Ma accepted Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might | |
![]() |
Rawee Ma declined Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might | |
![]() |
Rawee Ma edited Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why helmets don't prevent concussions -- and what might |