-
-
สิ่งที่เรามีตรงนี้สีเหลืองคือ
กราฟของ y เท่ากับ f ของ x
-
แล้วตรงนี้สีชมพู ผมได้
-
วาดกราฟ y เท่ากับอนุพันธ์ของ f
-
คือ f ไพรม์ของ x
-
แล้วตรงนี้สีฟ้า ผมได้วาดกราฟ
-
y เท่ากับอนุพันธ์อันดับสองของฟังก์ชันเรา
-
นี่คืออนุพันธ์ของตัวนี้
-
ของอนุพันธ์อันดับหนึ่งตรงนี้
-
และเราเห็นตัวอย่างไปแล้วว่าเรา
-
หาจุดสูงสุดและต่ำสุดได้อย่างไร
-
แน่นอน ถ้าเรามีกราฟตรงหน้า
-
มันไม่ยากนักที่สมองมนุษย์จะระบุ
-
ว่าอันนี้เป็นจุดสูงสุดท้องถิ่น
-
ฟังก์ชันอาจมีค่ามากขึ้นต่อไป
-
แล้วก็ระบุว่าจุดนี้คือจุดต่ำสุดท้องถิ่น
-
ฟังก์ชันอาจมีค่าต่ำลงต่อไป
-
แต่เราเห็นว่า ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีกราฟนี้ตรงหน้า
-
ถ้าเราหาอนุพันธ์ของฟังก์ชัน
-
เราอาจ -- ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถหา
-
อนุพันธ์ของฟังก์ชันได้ -- เรา
-
ก็อาจระบุจุดเหล่านี้เป็นจุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดได้
-
วิธีที่เราทำ คือเราบอกว่า โอเค
-
จุดวิกฤตของฟังก์ชันนี้คืออะไร?
-
จุดวิกฤตคือจุดที่อนุพันธ์ของฟังก์ชัน
-
ไม่นิยามหรือเป็น 0
-
นี่คืออนุพันธ์ของฟังก์ชัน
-
มันคือ 0 ตรงนี้และตรงนี้
-
เราเรียกพวกมันว่าจุดวิกฤตได้
-
และผมไม่เห็นจุดอื่นใดที่
-
อนุพันธ์ไม่นิยาม
-
เราจึงเรียกจุดนี้กับจุดนี้ว่าจุดวิกฤต
-
พวกมันเป็นจุดตัวแทนที่ฟังก์ชันของเรา
-
อาจมีค่าต่ำสุดหรือสูงสุด
-
และวิธีที่เราหาว่ามันคือ
-
จุดต่ำสุดหรือสูงสุดหรือไม่ คือ
-
ดูพฤติกรรมของอนุพันธ์รอบจุดนั้น
-
และตรงนี้เราเห็นว่าอนุพันธ์เป็นบวก
-
เมื่อเราเข้าหาจุดนั้น
-
-
แล้วมันกลายเป็นลบ
-
มันไปจากบวกเป็นลบ
-
เมื่อเราข้ามจุดนั้น
-
ซึ่งหมายความว่าฟังก์ชันกำลังเพิ่ม
-
ถ้าอนุพันธ์เป็นบวก
-
นั่นหมายความว่าฟังก์ชันจะเพิ่มขึ้นเมื่อเราเข้าหา
-
จุดนั้น แล้วลดลงเมื่อเราออกจากจุดนั้น
-
ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ดีว่าจุดนี้
-
เป็นจุดสูงสุด
-
ถ้าเราเพิ่มขึ้นเมื่อเราเข้าใกล้มัน
-
และลดลงเมื่อเราออกจากมัน แล้วจุดนั้น
-
จะเป็นจุดสูงสุดแน่นอน
-
เช่นเดียวกัน ตรงนี้เราเห็น
-
ว่าอนุพันธ์เป็นลบเมื่อเราเข้าใกล้จุดนั้น
-
ซึ่งหมายความว่าฟังก์ชันกำลังลดลง
-
และเราเห็นว่าอนุพันธ์เป็นบวก
-
เมื่อเราออกจุดนั้น
-
เราไปจากอนุพันธ์เป็นลบ
-
ไปยังอนุพันธ์เป็นลบ ซึ่งหมายความว่า
-
ฟังก์ชันจะไปจากลดเป็นเพิ่ม
-
รอบจุดนั้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี
-
หรือมันเป็นการบ่งชี้ ว่าจุดวิกฤตนี้
-
เป็นจุดที่ฟังก์ชันมีค่าต่ำสุด
-
สิ่งที่ผมอยากทำตอนนี้ คือขยายสิ่งต่างๆ
-
โดยใช้แนวคิดเรื่องความเว้า หรือคอนเควิตี้
-
-
และผมรู้ว่าผมออกเสียงผิด
-
มันอาจเป็น คอนแควิตี้
-
แต่เวลาคิดถึงความเว้า เรา
-
จะเริ่มดูอนุพันธ์อันดับสอง แทนที่จะ
-
มองเป็นแค่การเปลี่ยนผ่าน เวลาคิดว่าจุดนี้
-
เป็นจุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุด
-
ลองคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
-
ในช่วงแรกนี้ ส่วนนี้ของเส้นโค้ง
-
บนนี้ โดยมันดูเหมือนเส้นโค้งที่กำลัง
-
คว่ำ มันดูเหมือนตัว A
-
ที่ไม่มีเส้นขวาง หรือ U กลับหัว
-
แล้วเราจะคุยกันว่า
-
เกิดอะไรขึ้นกับส่วนโค้งหงายตัว U นี้
-
ตลอดช่วงแรกนี้
-
ตรงนี้ ถ้าเราเริ่มตรงนี้ ความชัน
-
-- ขอผมทำด้วย - ผมขอทำด้วย
-
สีเดิมแล้วกัน เพราะมัน
-
คือสีเดียวกับที่ผมใช้กับอนุพันธ์
-
ความชันเป็นบวกมาก
-
แล้วมันเป็นบวกน้อยลง
-
แล้วมันกลายเป็นบวกน้อยลงอีก
-
มันกลายเป็น 0
-
แล้วมันลดลงเรื่อยๆ
-
ทีนี้ มันเป็นลบนิดหน่อย ลบนิดหน่อย
-
แล้วมันกลายเป็นลบยิ่งขึ้น
-
แล้วมันเป็นลบยิ่งขึ้นไปอีก
-
แล้วมันหยุดลดลงแถวนี้
-
ความชันหยุดลดตรงแถวนี้
-
และคุณเห็นว่าในอนุพันธ์
-
ความชันกำลังลดลง ลดลง ลดลง
-
ลดลง กระทั่งจุดนั้น แล้วมันก็เริ่มเพิ่มขึ้น
-
ส่วนทั้งหมดนี่ตรงนี้
-
ความชันกำลังลดลง
-
-
แล้วคุณเห็นตรงนี้ เมื่อเราหาอนุพันธ์
-
อนุพันธ์ตรงนี้ ตลอดช่วงนี้
-
กำลังลดลง
-
แล้วเราเห็นด้วยว่า เมื่อเราหาอนุพันธ์อันดับสอง
-
ถ้าอนุพันธ์กำลังลดลง
-
นั่นหมายความว่าอนุพันธ์อันดับสอง อนุพันธ์
-
ของอนุพันธ์ จะเป็นลบ
-
แล้วเราเห็นว่า มันเป็นเช่นนั้นจริง
-
ตลอดช่วงทั้งหมดนี้ อนุพันธ์อันดับสอง
-
เป็นลบจริง
-
ทีนี้ เกิดอะไรขึ้นเมื่อเราเปลี่ยนผ่าน
-
ไปยังส่วนหงายของ U ตรงนี้?
-
ตรงนี้ อนุพันธ์เป็นลบทีเดียว
-
มันเป็นลบทีเดียวตรงนี้
-
แต่มันยังเป็นลบ แต่มัน
-
เป็นลบน้อยลง ลบน้อยลง และลบน้อยลง
-
ลบน้อยลง แล้วก็ลบน้อยลง ลบน้อยลง
-
แล้วมันกลายเป็น 0
-
มันกลายเป็น 0 ตรงนี้
-
แล้วมันก็กลายเป็นบวกมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น
-
แล้วคุณเห็นตรงนี้
-
ตลอดช่วงทั้งหมดนี้ ความชันหรืออนุพันธ์
-
กำลังเพิ่มขึ้น
-
ความชันจะเพิ่มขึ้น
-
และคุณเห็นมันตรงนี้
-
ตรงนี้ ความชันเป็น 0
-
ความชันของอนุพันธ์เป็น 0
-
อนุพันธ์เองไม่ได้เปลี่ยนในขณะนี้
-
แล้วคุณเห็นว่าความชันกำลังเพิ่มขึ้น
-
เหมือนเดิม เรามองภาพมัน
-
ในอนุพันธ์อันดับสอง อนุพันธ์ของอนุพันธ์
-
ถ้าอนุพันธ์เพิ่มขึ้น
-
นั่นหมายความว่า อนุพันธ์ของมันต้องเป็นบวก
-
และมันเป็นจริงที่อนุพันธ์เป็นบวก
-
แล้วเรามีคำเรียก U คว่ำนี้
-
และ U หงายนี้ เราเรียนมันว่าเว้าลง
-
-
ขอผมบอกให้ชัดนะ
-
เว้าลง
-
และเราเรียกส่วนนี้ว่า เว้าขึ้น
-
-
ลองทบทวนกันว่าเราระบุ
-
ช่วงเว้าลง กับช่วงเว้าขึ้นว่าอย่างไร
-
ถ้าเราพูดถึงการเว้าลง
-
เราเห็นหลายอย่าง
-
เราเห็นว่าความชันกำลังลดลง
-
-
ซึ่งก็คือวิธีบอกว่า f
-
ไพรม์ของ x กำลังลดลง
-
-
ซึ่งเป็นวิธีบอกอีกอย่างว่า อนุพันธ์อันดับสองต้อง
-
เป็นลบ
-
ถ้าอนุพันธ์อันดับหนึ่งลดลง
-
อนุพันธ์อันดับสองต้องเป็นลบ
-
ซึ่งเป็นวิธีบอกอีกอย่างว่า อนุพันธ์อันดับสอง
-
ตลอดช่วงนั้นต้องเป็นลบ
-
ถ้าคุณมีอนุพันธ์อันดับสองเป็นลบ
-
แล้วคุณจะมีช่วงเว้าลง
-
เช่นเดียวกัน -- ผมมีปัญหาการพูด
-
คำนั้นเหลือเกิน -- ลองคิดถึงการเว้าขึ้น
-
โดยคุณมี U หงาย เว้าขึ้น
-
ในช่วงเหล่านี้ ความชันจะเพิ่มขึ้น
-
เรามีความชันเป็นลบ ลบน้อยลง ลบน้อยลง 0
-
บวก บวกขึ้น บวกขึ้น บวกขึ้นอีก
-
ความชันจึงเพิ่มขึ้น
-
-
ซึ่งหมายความว่าอนุพันธ์ของฟังก์ชันกำลังเพิ่มขึ้น
-
และคุณเห็นมันตรงนี้
-
อนุพันธ์นี้มีค่าเพิ่มขึ้น
-
ซึ่งหมายความว่าอนุพันธ์อันดับสองในช่วง
-
โดยเราเหว้าขึ้นต้องมากกว่า 0
-
ถ้าอนุพันธ์อันดับสองมากกว่า 0
-
นั่นหมายความว่าอนุพันธ์อันดับหนึ่ง
-
เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าความชันกำลังเพิ่มขึ้น
-
เราจะอยู่ในช่วงเว้าขึ้น
-
ทีนี้ จากนิยามทั้งหมดนี้ที่เราเพิ่ม
-
กำหนดสำหรับการเว้าลงและเว้าขึ้น
-
เราหาวิธีบอก
-
ว่าจุดวิกฤตเป็นจุดต่ำสุด
-
หรือจุดสูงสุดได้ไหม?
-
ถ้าคุณมีจุดสูงสุด
-
ถ้าคุณมีจุดวิกฤตที่ฟังก์ชัน
-
เว้าลง แล้วคุณจะอยู่ที่จุดสูงสุด
-
เว้าลง ขอบอกให้ชัดตรงนี้นะ
-
หมายความว่ามันคว่ำอย่างนี้
-
และเมื่อเราพูดถึงจุดวิกฤต
-
ถ้าเราสมมุติว่ามันเว้าลงตรงนี้
-
เราสมมุติว่าเราหาอนุพันธ์ได้ตลอดช่วงนี้
-
แล้วจุดวิกฤตจะ
-
เป็นจุดที่ความชันเป็น 0
-
มันจะเป็นจุดนั่นตรงนั้น
-
ถ้าคุณเว้าลง และคุณ
-
มีจุดที่ f ไพรม์ของ อย่างเช่น a เท่ากับ 0
-
แล้วเราจะได้จุดสูงสุดที่ a
-
-
เช่นเดียวกัน ถ้าเราเว้าขึ้น
-
นั่นหมายความว่าฟังก์ชันของเราเป็นแบบนี้
-
และถ้าเราเจอจุด แน่นอน จุดวิกฤต
-
จะเป็นตำแหน่งที่ฟังก์ชันไม่นิยาม
-
แต่ถ้าเราสมมุติว่าอนุพันธ์แรกของเรา
-
และอนุพันธ์อันดับสองนิยามตรงนี้
-
แล้วจุดวิกฤตจะเป็นจุด
-
ที่อนุพันธ์อันดับหนึ่งเท่ากับ 0
-
f ไพรม์ของ a เท่ากับ 0
-
และถ้า f ไพรม์ของ a เท่ากับ 0
-
และถ้าเราเว้าขึ้นในช่วง
-
รอบ a ถ้าอนุพันธ์อันดับสองมากกว่า 0
-
มันจะเห็นได้ชัด คุณเห็นตรงนี้
-
ว่าเราจะได้จุดต่ำสุดที่ a