ยอดอาวุธแบบใหม่ ในการต่อสู้กับมะเร็ง
-
0:01 - 0:03โรคมะเร็งส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน --
-
0:03 - 0:06โดยเฉพาะผู้ป่วยที่กลับมาเป็นซํ้าแล้วซํ้าเล่า
-
0:06 - 0:09ผู้ป่วยที่โรคลุกลามไปมากและดื้อยา
-
0:09 - 0:12ผู้ป่วยที่ขัดขืนการรักษาทางเวชกรรม
-
0:12 - 0:14แม้ว่าเราจะโยนยาที่ดีที่สุดของเราไปให้พวกเขา
-
0:15 - 0:18ส่วนวิศวกรก็ปฏิบัติงานที่ระดับโมเลกุล
-
0:18 - 0:21ทำงานกับสัดส่วนขนาดที่เล็กที่สุด
-
0:21 - 0:23สามารถเอื้อให้มีวิธีการใหม่ ๆ
ที่น่าตื่นเต้นขึ้นมาได้ -
0:23 - 0:26เพื่อสู้กับรูปแบบของมะเร็ง
ที่ลุกลามอย่างรวดเร็วที่สุด -
0:27 - 0:30มะเร็งเป็นโรคที่ฉลาดมาก ๆ
-
0:30 - 0:32มีรูปแบบของมะเร็งบางชนิด
-
0:32 - 0:37ที่นับว่าโชคดี เราได้เรียนรู้
วิธีที่จะจัดการกับมันค่อนข้างดี -
0:37 - 0:40ด้วยยาและการผ่าตัดที่เป็นที่รู้จัก
และยอมรับกัน -
0:41 - 0:43แต่ก็ยังมีรูปแบบของมะเร็งบางชนิด
-
0:43 - 0:45ที่ไม่ตอบสนองกับวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้
-
0:45 - 0:48และเนื้องอกนั้นก็ไม่ตาย หรือไม่ก็กลับมาอีก
-
0:48 - 0:50แม้กระทั่ง หลังการโจมตีทำลายล้างของยา
-
0:50 - 0:54เราสามารถคิดถึงรูปแบบของมะเร็ง
ที่ลุกลามรวดเร็วมากเหล่านี้ได้ -
0:54 - 0:57ว่าคล้ายกับตัวยอดวายร้าย
ในหนังสือการ์ตูน -
0:57 - 1:00พวกมันฉลาด พวกมันปรับตัวได้
-
1:00 - 1:03และพวกมันก็เก่งมากที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้
-
1:04 - 1:06และก็เหมือนกับตัววายร้ายส่วนมากในปัจจุบัน
-
1:07 - 1:11อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของมันนั้นได้มาจาก
การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม -
1:13 - 1:16ยีนที่ถูกเปลี่ยนแปลงไป
ในเซลล์เนื้องอกเหล่านี้ -
1:16 - 1:21สามารถเข้ารหัสเป็นรูปของการอยู่รอด
แบบใหม่ซึ่งเราคาดไม่ถึง -
1:21 - 1:23ทำให้เซลล์มะเร็งรอดชีวิตมาได้
-
1:23 - 1:26แม้จากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
ที่ดีที่สุดของเรา -
1:27 - 1:31ยกตัวอย่างหนึ่ง คือ เล่ห์กล
ที่ยีนยอมให้เซลล์ตัวหนึ่ง -
1:31 - 1:34แม้ขณะที่ยาเข้าไปใกล้เซลล์
-
1:34 - 1:37ให้ผลักดันยาออกไป
-
1:38 - 1:40ก่อนที่ยาจะสามารถทำให้เกิดผลใด ๆ ขึ้นได้
-
1:40 - 1:44ลองนึกดูซิคะ -- เซลล์พ่นยาให้พ้นออกไป
อย่างได้ผล -
1:44 - 1:47นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของเล่ห์กล
มากมายหลายอย่าง -
1:47 - 1:50ที่อยู่ในถุงของยอดวายร้าย มะเร็ง
-
1:50 - 1:52ทั้งหมดนี้ เนื่องมาจากยีนที่กลายพันธุ์ไป
-
1:53 - 1:57ดังนั้น เราจึงมียอดวายร้ายที่มีพลังอำนาจ
อย่างเหลือเชื่อ -
1:57 - 2:01และเราจำต้องมีแบบของการโจมตี
ที่ใหม่และทรงพลัง -
2:02 - 2:05แท้จริงแล้วเราสามารถปิดสวิตช์ยีน
ไปเสียก็ได้ -
2:05 - 2:09กุญแจสำคัญคือ ชุดของโมเลกุล
ที่รู้จักกันว่า siRNA -
2:09 - 2:13siRNA นั้น คือลำดับสั้น ๆ ของรหัสพันธุกรรม
-
2:13 - 2:16ที่นำทางให้เซลล์ไปสกัดกั้นยีนบางตัวไว้
-
2:17 - 2:21โมเลกุลของ siRNA แต่ละตัวนั้น
สามารถปิดสวิตช์ยีนเฉพาะบางตัว -
2:21 - 2:22ภายในเซลล์ได้
-
2:23 - 2:25เวลานานหลายปีแล้วตั้งแต่การค้นพบเรื่องนี้
-
2:25 - 2:27นักวิทยาศาสตร์ตื่นเต้นกันมาก
-
2:27 - 2:31เกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถนำยีนสกัดกั้นนี้
มาใช้ทางการแพทย์ -
2:31 - 2:33แต่มันก็มีปัญหา
-
2:33 - 2:35siRNA นั้น ทำงานได้อย่างดีภายในเซลล์
-
2:36 - 2:39แต่ถ้ามันไปสัมผัสกับเอนไซม์
-
2:39 - 2:41ที่อยู่ในกระแสเลือดหรือเนื้อเยื่อ
ของเราแล้ว -
2:41 - 2:43มันก็จะเสื่อมสภาพไปภายในไม่กี่วินาที
-
2:44 - 2:48มันจึงต้องถูกห่อหุ้มปกป้องไว้
ตลอดการเดินทางของมันไปทั่วร่างกาย -
2:48 - 2:51บนเส้นทางของมันไปสู่เป้าหมายปลายทาง
ภายในเซลล์มะเร็ง -
2:52 - 2:54ดังนั้น นี่คือกลยุทธ์ของเรา
-
2:54 - 2:58อันดับแรก เราจะให้ siRNA
หรือตัวสกัดกั้นยีนนี้กับเซลล์มะเร็ง -
2:58 - 3:00ทำให้ยีนที่ยังรอดอยู่นั้นอยู่นิ่ง
-
3:00 - 3:02แล้วเราก็จะทุบตีมันอย่างแรง
ด้วยยาเคมีบำบัด -
3:03 - 3:04แต่เราจะทำวิธีการนั้นอย่างไรหรือ
-
3:05 - 3:07การใช้วิศวกรรมเชิงโมเลกุลนั้น
-
3:08 - 3:11เราสามารถออกแบบอาวุธชั้นยอด
ขึ้นได้จริง ๆ -
3:12 - 3:14ที่จะสามารถเดินทางไปตามกระแสเลือด
ได้ตลอด -
3:14 - 3:17มันต้องเล็กจิ๋วจนพอที่จะผ่านเข้าไป
ตามกระแสเลือดได้ตลอด -
3:17 - 3:20มันต้องเล็กพอที่จะผ่านทะลุเข้าไป
ในเนื้อเยื่อของเนื้องอกนั้น -
3:20 - 3:25และมันจะต้องเล็กจิ๋วพอที่จะยังคงอยู่ได้
ภายในเซลล์มะเร็ง -
3:25 - 3:27และเพื่อที่จะทำงานนี้ได้อย่างดี
-
3:27 - 3:31มันจะต้องมีขนาดประมาณเศษหนึ่งส่วนร้อย
ของเส้นผมของมนุษย์ -
3:32 - 3:36เอาละ เรามาดูกันใกล้ ๆ กว่านี้
ถึงวิธีที่เราสามารถสร้างอนุภาคนาโนนี้ได้ -
3:37 - 3:40อันดับแรก เรามาเริ่มต้นกัน
ด้วยแกนอนุภาคนาโนนั้น -
3:40 - 3:43มันเป็นแคปซูลเล็กจิ๋ว
ที่บรรจุตัวยาเคมีบำบัด -
3:44 - 3:48นี่เป็นยาพิษที่จะปลิดชีวิตของเซลล์เนื้องอก
ได้จริง ๆ -
3:48 - 3:52รอบ ๆ แกนนี้ เราจะห่อหุ้มไว้ด้วย
แผ่นชั้นที่บางมาก ๆ -
3:52 - 3:55ของ siRNA ที่บางขนาดนาโนเมตร
-
3:55 - 3:56นี่เป็นตัวสกัดกั้นยีนของเรา
-
3:57 - 4:01เพราะว่า siRNA นั้น มีประจุเป็นลบอย่างแรง
-
4:01 - 4:02เราจึงสามารถปกป้องมันได้
-
4:02 - 4:07ด้วยแผ่นชั้นป้องกันโพลิเมอร์อย่างดี
ที่อัดประจุบวกไว้ -
4:08 - 4:11โมเลกุลสองชนิดมีประจุไฟฟ้าตรงกันข้ามกัน
ติดแน่นเข้าด้วยกัน -
4:11 - 4:12โดยการดึงดูดของประจุไฟฟ้า
-
4:12 - 4:14และนั่นทำให้เราได้มีชั้นป้องกัน
-
4:14 - 4:17ที่กัน siRNA นั้น ไม่ให้เสื่อมสภาพไป
ในกระแสเลือด -
4:18 - 4:19เราทำเกือบจะเสร็จแล้ว
-
4:19 - 4:21(เสียงหัวเราะ)
-
4:21 - 4:25แต่มีอุปสรรคใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง
ที่เราจะต้องคิด -
4:25 - 4:27ที่จริง มันอาจจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด
ในทั้งหมด -
4:27 - 4:29คือ เราจะนำอาวุธชั้นยอดนี้ ไปใช้อย่างไร
-
4:29 - 4:32ดิฉันหมายถึง อาวุธที่ดีทุกชนิดนั้น
จำต้องเล็งไปที่เป้า -
4:32 - 4:36เราต้องเล็งอาวุธชั้นยอดนี้
ไปที่เซลล์ยอดวายร้าย -
4:36 - 4:38ที่อยู่ในเนื้องอกนั้น
-
4:38 - 4:41แต่ร่างกายของเรามีระบบภูมิคุ้มกัน
เพื่อป้องกันตามธรรมชาติ -
4:42 - 4:44เซลล์ทั้งหลายที่อยู่ในกระแสเลือดนั้น
-
4:44 - 4:46และค้นหาจนพบสิ่งต่าง ๆ ที่แปลกปลอม
-
4:46 - 4:49เพื่อที่มันจะสามารถทำลาย
หรือขจัดสิ่งเหล่านั้นไป -
4:49 - 4:53และลองเดาซิคะ อนุภาคนาโนของเรานั้น
ก็ถือได้ว่าเป็นวัตถุแปลกปลอม -
4:54 - 4:58เราต้องให้อนุภาคนาโนของเรา
หลบหลีกผ่านระบบป้องกันของเนื้องอกนั้น -
4:58 - 5:04เราต้องทำให้มันผ่านกลไก
ของการกำจัดวัตถุแปลกปลอมนี้ไป -
5:04 - 5:06ด้วยการปลอมตน
-
5:06 - 5:10ดังนั้น เราจึงเพิ่มชั้นประจุไฟฟ้าลบ
ขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น -
5:10 - 5:11รอบ ๆ อนุภาคนาโนนี้
-
5:11 - 5:13ซึ่งใช้เพื่อจุดประสงค์ 2 อย่าง
-
5:13 - 5:17อย่างแรก ชั้นด้านนอกนี้
เป็นชั้นที่มีประจุตามธรรมชาติ -
5:17 - 5:21เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ซึ่งมีโมเลกุลของนํ้าสูง
ที่อยู่ในร่างกายของเรา -
5:21 - 5:26มันสร้างเมฆหมอกของโมเลกุลนํ้าขึ้นมา
รอบ ๆ อนุภาคนาโนนั้น -
5:26 - 5:29ซึ่งให้เราได้ผลของการซ่อนตัว
ซึ่งทำให้ล่องหนไปได้ -
5:30 - 5:33การซ่อนตัวที่ทำให้ล่องหนไปได้นี้
ทำให้อนุภาคนาโนนั้น -
5:33 - 5:35เดินทางไปตามกระแสเลือดได้ตลอด
-
5:35 - 5:37ยาวนานและไกลพอจนไปถึงเนื้องอกนั้น
-
5:37 - 5:40โดยไม่ถูกกำจัดไปเสียก่อนโดยร่างกาย
-
5:40 - 5:45อย่างที่สอง ชั้นนี้มีโมเลกุล
-
5:45 - 5:48ซึ่งจะไปติดกับเซลล์เนื้องอกของเราโดยเฉพาะ
-
5:48 - 5:53ในทันทีที่เข้าไปติดเซลล์มะเร็ง
ก็จะรับเอาอนุภาคนาโนนั้นไว้ -
5:53 - 5:57และถึงตอนนี้ เราก็มีอนุภาคนาโนของเรา
ภายในเซลล์มะเร็ง -
5:57 - 5:59และพร้อมที่จะใช้งาน
-
5:59 - 6:02ตกลงค่ะ ดิฉันก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ลงมือเลย
-
6:02 - 6:08(เสียงปรบมือ)
-
6:08 - 6:11siRNA นั้น จะถูกใช้งานเป็นลำดับแรก
-
6:12 - 6:14มันจะปฏิบัติงานเป็นเวลาหลายชั่วโมง
-
6:14 - 6:19ให้เวลาเพียงพอเพื่อให้สงบนิ่ง
และปิดกั้นยีนที่ยังคงรอดชีวิตอยู่เหล่านั้น -
6:19 - 6:23ตอนนี้ เราได้ทำให้ยอดพลังยีนเหล่านั้น
ไร้ประสิทธิภาพไปแล้ว -
6:24 - 6:27ที่ยังคงอยู่ คือ เซลล์มะเร็ง
ที่ไม่มีการป้องกันเป็นพิเศษ -
6:27 - 6:30และแล้ว ยาเคมีบำบัดก็ออกมาจากแกน
-
6:30 - 6:33และเข้าทำลายเซลล์เนื้องอกนั้น
อย่างสะอาดและอย่างมีประสิทธิภาพ -
6:34 - 6:37เมื่อมีตัวสกักกั้นยีนเพียงพอ
-
6:37 - 6:40เราก็สามารถจัดการกับแบบต่าง ๆ มากมาย
ของการกลายพันธุ์ได้ -
6:40 - 6:42ทำให้มีโอกาส ที่จะเก็บกวาดเนื้องอกออกไป
-
6:42 - 6:44โดยไม่ต้องทิ้งตัวการร้ายใด ไว้เบื้องหลัง
-
6:45 - 6:48ค่ะ ยุทธ์การของเราทำงานอย่างไรหรือ
-
6:50 - 6:54เราได้ทดลองอนุภาคโครงสร้างนาโนเหล่านี้
ในสัตว์ -
6:54 - 6:57โดยใช้มะเร็งเต้านมชนิดไตรโลปะ
(triple-negative) ที่ลุกลามรวดเร็วมาก -
6:57 - 7:00มะเร็งเต้านมแบบไตรโลปะนี้แสดงให้เห็นยีน
-
7:00 - 7:03ที่ถ่มยามะเร็งออกมาในทันที
ที่มันถูกนำเข้าไป -
7:04 - 7:09โดยปกติแล้ว ด็อกโซรูบิซิน--เรียกมันว่า
"ด็อกซ์" แล้วกัน เป็นยามะเร็ง -
7:09 - 7:12เป็นยาอันดับแรก ๆ ของการรักษา
โรคมะเร็งเต้านม -
7:12 - 7:18ค่ะ อันดับแรก เราได้รักษาสัตว์ของเรา
ด้วยแกนด็อกซ์ ใช้ด็อกซ์เท่านั้นค่ะ -
7:19 - 7:21เนื้องอกลดอัตราการเติบโตลง
-
7:21 - 7:22แต่มันยังคงโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
-
7:22 - 7:25เพิ่มขนาดเป็นสองเท่าในเวลาสองสัปดาห์
-
7:25 - 7:28แล้วเราจึงลองใช้อาวุธชั้นยอดของเรา
ที่ผสมผสานหลายอย่างไว้ -
7:29 - 7:34อนุภาคชั้นนาโนที่มี siRNA
แนบกับเครื่องปั๊มคีโม -
7:34 - 7:37บวกกับ เรามีด็อกซ์อยู่ในแกน
-
7:37 - 7:41ดูซิคะ -- เราพบว่าไม่เพียงแค่เนื้องอก
ที่หยุดเติบโตเท่านั้น -
7:41 - 7:44จริง ๆ มันยังลดขนาดลงไปด้วย
-
7:44 - 7:46และยังถูกกำจัดไปในบางราย
-
7:46 - 7:49เนื้องอกนั้น จริง ๆ แล้วยังถดถอยลงไป
-
7:50 - 7:57(เสียงปรบมือ)
-
7:58 - 8:02สิ่งที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับวิธีการนี้คือ
สามารถทำขึ้น ให้เหมาะเฉพาะรายได้ -
8:02 - 8:04เราสามารถเพิ่มชั้นของ siRNA ต่าง ๆ มากมาย
เข้าไปได้ -
8:05 - 8:08เพื่อให้จัดการกับการแปลงพันธุ์แบบต่าง ๆ
และกลไกต่อต้านแบบต่าง ๆ ของเนื้องอก -
8:08 - 8:11และเราก็สามารถใส่ยาต่าง ๆ
เข้าไปในแกนอนุภาคนาโนนั้นได้ -
8:12 - 8:15เมื่อแพทย์เรียนรู้ถึงวิธีการทดสอบผู้ป่วย
-
8:15 - 8:19และเข้าใจชนิดของยีนเนื้องอกดังกล่าวนั้น
-
8:19 - 8:23ก็สามารถช่วยเราตัดสินได้ว่า ผู้ป่วยคนใด
จะได้รับประโยชน์จากยุทธวิธีนี้ -
8:23 - 8:25และตัวสกัดกั้นยีนตัวใดเราจะสามารถใช้ได้
-
8:26 - 8:29มะเร็งรังไข่เร้าความสนใจของดิฉัน
เป็นพิเศษ -
8:29 - 8:31เป็นมะเร็งที่ลุกลามรวดเร็วมาก
-
8:31 - 8:34บางส่วนก็เพราะว่า มักจะค้นพบ
ในระยะสุดท้ายมาก ๆ -
8:34 - 8:36เมื่อโรคลุกลามไปมากแล้ว
-
8:36 - 8:38และมีการกลายพันธุ์ของยีนไปหลายอย่าง
-
8:39 - 8:42หลังจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดในรอบแรก
-
8:42 - 8:46มะเร็งนี้จะกลับมาอีก ร้อยละ 75 ของผู้ป่วย
-
8:46 - 8:49และมันมักจะกลับมา ในรูปของการดื้อยา
-
8:50 - 8:52มะเร็งรังไข่ที่มีความรุนแรงโรคสูง
-
8:52 - 8:54เป็นยอดวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีอยู่
-
8:54 - 8:56ขณะนี้ เรากำลังเล็งอาวุธชั้นยอดของเรา
-
8:56 - 8:57ไปสู่การพ่ายแพ้ของมัน
-
8:59 - 9:01ในฐานะเป็นนักวิจัย
-
9:01 - 9:04โดยปกติ จึงไม่ได้ทำงานกับผู้ป่วย
-
9:04 - 9:07แต่เมื่อไม่นานมานี้ ดิฉันได้พบกับ
ผู้เป็นแม่คนหนึ่ง -
9:07 - 9:12ซึ่งเป็นผู้ที่รอดชีวิตจากมะเร็งรังไข่
เธอชื่อ มิมี่ และลูกสาวชื่อ เพจ -
9:12 - 9:16ดิฉันเกิดแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้ง
จากการมองโลกในแง่ดีและความแข็งแกร่ง -
9:16 - 9:18ที่ทั้งผู้เป็นแม่และลูกสาวแสดงออกมา
-
9:19 - 9:22และจากเรื่องราวความกล้าหาญ
และการเกื้อกูลกันของพวกเขา -
9:23 - 9:27ในเหตุการณ์นี้ เราพูดกันถึง
เทคโนโลยี่ต่าง ๆ -
9:27 - 9:28ที่มุ่งมาที่มะเร็ง
-
9:28 - 9:30และมิมี่ถึงกับนํ้าตาไหล
-
9:30 - 9:33เมื่อเธออธิบายว่า การเรียนรู้
เกี่ยวกับความพยายามเหล่านี้ -
9:33 - 9:35ทำให้เธอมีความหวังสำหรับคนรุ่นต่อไป
ในอนาคต -
9:35 - 9:37รวมทั้งลูกสาวของเธอเองด้วย
-
9:37 - 9:39เรื่องนี้ซึ้งใจดิฉันอย่างมาก
-
9:40 - 9:43มันไม่ได้เป็นแค่การสร้างวิทยาศาสตร์
ที่สวยงามโดยแท้ขึ้นมา -
9:43 - 9:45มันเกี่ยวกับของการเปลี่ยนชีวิตของผู้คน
-
9:46 - 9:50มันเกี่ยวกับความเข้าใจถึง พลังอำนาจของ
งานวิศวกรรม -
9:50 - 9:51ในเรื่องขนาดของโมเลกุล
-
9:51 - 9:56ดิฉันรู้ว่า เมื่อนักเรียน เช่น เพจ
เดินหน้าไปสู่งานอาชีพของพวกเขา -
9:56 - 9:57พวกเขาจะเปิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ
-
9:57 - 10:00ในการจัดการกับ ปัญหาสุขภาพที่ใหญ่
บางอย่างในโลก-- -
10:00 - 10:05รวมถึงมะเร็งรังไข่ โรคทางสมอง
โรคติดเชื้อ -- -
10:06 - 10:10ซึ่งก็เหมือนกับวิศวกรรมเคมี ได้พบวิธี
เพื่อเปิดประตูให้ดิฉัน -
10:10 - 10:13และได้ให้วิธีการเชิงวิศวกรรม
-
10:13 - 10:17ในเรื่องสัดส่วนขนาดที่เล็กที่สุด ซึ่งก็คือ
ขนาดของโมเลกุล -
10:17 - 10:19เพื่อจะบำบัดรักษาได้ ในระดับมนุษย์
-
10:20 - 10:21ขอบคุณค่ะ
-
10:21 - 10:30(เสียงปรบมือ)
- Title:
- ยอดอาวุธแบบใหม่ ในการต่อสู้กับมะเร็ง
- Speaker:
- พอลล่า แฮมมอนด์
- Description:
-
มะเร็งเป็นโรคที่ฉลาดมาก ปรับตัวได้ดี การที่จะเอาชนะมันนั้น พอลล่า แฮมมอนด์ ซึ่งเป็นนักวิจัยและนักการศึกษาทางการแพทย์ บอกว่า เราจำต้องมีรูปแบบของการจู่โจมที่ใหม่และทรงพลัง พร้อมกับเพื่อนร่วมงานของเธอที่ MIT แฮมมอนด์ได้สร้างอนุภาคนาโน ขนาดเศษหนึ่งส่วนร้อยเท่าของเส้นผมมนุษย์ ซึ่งสามารถรักษามะเร็งที่ลุกลามอย่างรวดเร็วและดื้อยาได้ มาเรียนรู้เพิ่มขึ้น เกี่ยวกับยอดอาวุธโมเลกุลนี้ และมาร่วมกับการแสวงหาของแฮมมอนด์ เพื่อต่อสู้กับโรคที่กระทบถึงเราทุกคน
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 10:42
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer | |
![]() |
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer | |
![]() |
Rawee Ma accepted Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer | |
![]() |
Rawee Ma edited Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer | |
![]() |
yamela areesamarn edited Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer | |
![]() |
yamela areesamarn edited Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer | |
![]() |
yamela areesamarn edited Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer | |
![]() |
yamela areesamarn edited Thai subtitles for A new superweapon in the fight against cancer |
Kelwalin Dhanasarnsombut
talk ดีมากเลย อยากช่วยรีวิวเมื่อคุณแปลจบค่ะ
one ในที่นี้ ในตอนแรก ๆ น่าจะหมายถึง "มะเร็ง" มากกว่าคนป่วย นะคะ