WEBVTT 00:00:00.838 --> 00:00:03.021 โรคมะเร็งส่งผลกระทบต่อพวกเราทุกคน -- 00:00:03.045 --> 00:00:06.412 โดยเฉพาะผู้ป่วยที่กลับมาเป็นซํ้าแล้วซํ้าเล่า 00:00:06.436 --> 00:00:09.432 ผู้ป่วยที่โรคลุกลามไปมากและดื้อยา 00:00:09.456 --> 00:00:11.835 ผู้ป่วยที่ขัดขืนการรักษาทางเวชกรรม 00:00:11.859 --> 00:00:14.375 แม้ว่าเราจะโยนยาที่ดีที่สุดของเราไปให้พวกเขา 00:00:15.247 --> 00:00:18.167 ส่วนวิศวกรก็ปฏิบัติงานที่ระดับโมเลกุล 00:00:18.191 --> 00:00:20.839 ทำงานกับสัดส่วนขนาดที่เล็กที่สุด 00:00:20.863 --> 00:00:23.386 สามารถเอื้อให้มีวิธีการใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นขึ้นมาได้ 00:00:23.410 --> 00:00:26.338 เพื่อสู้กับรูปแบบของมะเร็ง ที่ลุกลามอย่างรวดเร็วที่สุด NOTE Paragraph 00:00:27.260 --> 00:00:29.737 มะเร็งเป็นโรคที่ฉลาดมาก ๆ 00:00:30.346 --> 00:00:31.923 มีรูปแบบของมะเร็งบางชนิด 00:00:31.947 --> 00:00:36.682 ที่นับว่าโชคดี เราได้เรียนรู้ วิธีที่จะจัดการกับมันค่อนข้างดี 00:00:36.706 --> 00:00:40.098 ด้วยยาและการผ่าตัดที่เป็นที่รู้จัก และยอมรับกัน 00:00:40.627 --> 00:00:42.604 แต่ก็ยังมีรูปแบบของมะเร็งบางชนิด 00:00:42.628 --> 00:00:44.860 ที่ไม่ตอบสนองกับวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ 00:00:44.884 --> 00:00:47.512 และเนื้องอกนั้นก็ไม่ตาย หรือไม่ก็กลับมาอีก 00:00:47.536 --> 00:00:49.665 แม้กระทั่ง หลังการโจมตีทำลายล้างของยา NOTE Paragraph 00:00:50.053 --> 00:00:54.047 เราสามารถคิดถึงรูปแบบของมะเร็ง ที่ลุกลามรวดเร็วมากเหล่านี้ได้ 00:00:54.071 --> 00:00:56.937 ว่าคล้ายกับตัวยอดวายร้าย ในหนังสือการ์ตูน 00:00:57.455 --> 00:01:00.160 พวกมันฉลาด พวกมันปรับตัวได้ 00:01:00.184 --> 00:01:02.993 และพวกมันก็เก่งมากที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ 00:01:03.744 --> 00:01:06.406 และก็เหมือนกับตัววายร้ายส่วนมากในปัจจุบัน 00:01:06.996 --> 00:01:10.906 อำนาจที่ยิ่งใหญ่ของมันนั้นได้มาจาก การกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม 00:01:12.740 --> 00:01:15.682 ยีนที่ถูกเปลี่ยนแปลงไป ในเซลล์เนื้องอกเหล่านี้ 00:01:15.706 --> 00:01:20.973 สามารถเข้ารหัสเป็นรูปของการอยู่รอด แบบใหม่ซึ่งเราคาดไม่ถึง 00:01:20.997 --> 00:01:23.472 ทำให้เซลล์มะเร็งรอดชีวิตมาได้ 00:01:23.496 --> 00:01:25.861 แม้จากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด ที่ดีที่สุดของเรา NOTE Paragraph 00:01:26.789 --> 00:01:31.296 ยกตัวอย่างหนึ่ง คือ เล่ห์กล ที่ยีนยอมให้เซลล์ตัวหนึ่ง 00:01:31.320 --> 00:01:33.804 แม้ขณะที่ยาเข้าไปใกล้เซลล์ 00:01:34.390 --> 00:01:37.039 ให้ผลักดันยาออกไป 00:01:37.850 --> 00:01:40.023 ก่อนที่ยาจะสามารถทำให้เกิดผลใด ๆ ขึ้นได้ 00:01:40.047 --> 00:01:43.733 ลองนึกดูซิคะ -- เซลล์พ่นยาให้พ้นออกไป อย่างได้ผล 00:01:44.393 --> 00:01:47.323 นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียวของเล่ห์กล มากมายหลายอย่าง 00:01:47.347 --> 00:01:49.947 ที่อยู่ในถุงของยอดวายร้าย มะเร็ง 00:01:49.971 --> 00:01:52.131 ทั้งหมดนี้ เนื่องมาจากยีนที่กลายพันธุ์ไป NOTE Paragraph 00:01:52.717 --> 00:01:57.438 ดังนั้น เราจึงมียอดวายร้ายที่มีพลังอำนาจ อย่างเหลือเชื่อ 00:01:57.462 --> 00:02:00.584 และเราจำต้องมีแบบของการโจมตี ที่ใหม่และทรงพลัง 00:02:01.704 --> 00:02:04.788 แท้จริงแล้วเราสามารถปิดสวิตช์ยีน ไปเสียก็ได้ 00:02:05.328 --> 00:02:08.669 กุญแจสำคัญคือ ชุดของโมเลกุล ที่รู้จักกันว่า siRNA 00:02:09.143 --> 00:02:12.746 siRNA นั้น คือลำดับสั้น ๆ ของรหัสพันธุกรรม 00:02:13.253 --> 00:02:16.334 ที่นำทางให้เซลล์ไปสกัดกั้นยีนบางตัวไว้ 00:02:16.982 --> 00:02:20.557 โมเลกุลของ siRNA แต่ละตัวนั้น สามารถปิดสวิตช์ยีนเฉพาะบางตัว 00:02:20.581 --> 00:02:22.151 ภายในเซลล์ได้ 00:02:23.292 --> 00:02:25.313 เวลานานหลายปีแล้วตั้งแต่การค้นพบเรื่องนี้ 00:02:25.337 --> 00:02:27.287 นักวิทยาศาสตร์ตื่นเต้นกันมาก 00:02:27.311 --> 00:02:30.668 เกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถนำยีนสกัดกั้นนี้ มาใช้ทางการแพทย์ NOTE Paragraph 00:02:31.216 --> 00:02:32.934 แต่มันก็มีปัญหา 00:02:32.958 --> 00:02:35.418 siRNA นั้น ทำงานได้อย่างดีภายในเซลล์ 00:02:35.854 --> 00:02:38.848 แต่ถ้ามันไปสัมผัสกับเอนไซม์ 00:02:38.872 --> 00:02:41.372 ที่อยู่ในกระแสเลือดหรือเนื้อเยื่อ ของเราแล้ว 00:02:41.396 --> 00:02:43.251 มันก็จะเสื่อมสภาพไปภายในไม่กี่วินาที 00:02:43.769 --> 00:02:48.085 มันจึงต้องถูกห่อหุ้มปกป้องไว้ ตลอดการเดินทางของมันไปทั่วร่างกาย 00:02:48.109 --> 00:02:51.179 บนเส้นทางของมันไปสู่เป้าหมายปลายทาง ภายในเซลล์มะเร็ง NOTE Paragraph 00:02:51.740 --> 00:02:54.057 ดังนั้น นี่คือกลยุทธ์ของเรา 00:02:54.468 --> 00:02:58.271 อันดับแรก เราจะให้ siRNA หรือตัวสกัดกั้นยีนนี้กับเซลล์มะเร็ง 00:02:58.295 --> 00:02:59.891 ทำให้ยีนที่ยังรอดอยู่นั้นอยู่นิ่ง 00:02:59.915 --> 00:03:02.003 แล้วเราก็จะทุบตีมันอย่างแรง ด้วยยาเคมีบำบัด 00:03:02.501 --> 00:03:04.179 แต่เราจะทำวิธีการนั้นอย่างไรหรือ 00:03:04.764 --> 00:03:06.544 การใช้วิศวกรรมเชิงโมเลกุลนั้น 00:03:07.705 --> 00:03:10.893 เราสามารถออกแบบอาวุธชั้นยอด ขึ้นได้จริง ๆ 00:03:11.648 --> 00:03:13.899 ที่จะสามารถเดินทางไปตามกระแสเลือด ได้ตลอด 00:03:13.923 --> 00:03:16.919 มันต้องเล็กจิ๋วจนพอที่จะผ่านเข้าไป ตามกระแสเลือดได้ตลอด 00:03:16.943 --> 00:03:19.814 มันต้องเล็กพอที่จะผ่านทะลุเข้าไป ในเนื้อเยื่อของเนื้องอกนั้น 00:03:20.368 --> 00:03:24.513 และมันจะต้องเล็กจิ๋วพอที่จะยังคงอยู่ได้ ภายในเซลล์มะเร็ง 00:03:25.049 --> 00:03:26.651 และเพื่อที่จะทำงานนี้ได้อย่างดี 00:03:26.675 --> 00:03:31.480 มันจะต้องมีขนาดประมาณเศษหนึ่งส่วนร้อย ของเส้นผมของมนุษย์ NOTE Paragraph 00:03:32.224 --> 00:03:35.605 เอาละ เรามาดูกันใกล้ ๆ กว่านี้ ถึงวิธีที่เราสามารถสร้างอนุภาคนาโนนี้ได้ 00:03:37.146 --> 00:03:39.543 อันดับแรก เรามาเริ่มต้นกัน ด้วยแกนอนุภาคนาโนนั้น 00:03:39.567 --> 00:03:43.367 มันเป็นแคปซูลเล็กจิ๋ว ที่บรรจุตัวยาเคมีบำบัด 00:03:44.089 --> 00:03:47.566 นี่เป็นยาพิษที่จะปลิดชีวิตของเซลล์เนื้องอก ได้จริง ๆ 00:03:48.152 --> 00:03:51.937 รอบ ๆ แกนนี้ เราจะห่อหุ้มไว้ด้วย แผ่นชั้นที่บางมาก ๆ 00:03:51.961 --> 00:03:54.794 ของ siRNA ที่บางขนาดนาโนเมตร 00:03:54.818 --> 00:03:56.452 นี่เป็นตัวสกัดกั้นยีนของเรา 00:03:57.093 --> 00:04:00.682 เพราะว่า siRNA นั้น มีประจุเป็นลบอย่างแรง 00:04:00.706 --> 00:04:02.263 เราจึงสามารถปกป้องมันได้ 00:04:02.287 --> 00:04:07.012 ด้วยแผ่นชั้นป้องกันโพลิเมอร์อย่างดี ที่อัดประจุบวกไว้ 00:04:07.503 --> 00:04:10.760 โมเลกุลสองชนิดมีประจุไฟฟ้าตรงกันข้ามกัน ติดแน่นเข้าด้วยกัน 00:04:10.784 --> 00:04:12.220 โดยการดึงดูดของประจุไฟฟ้า 00:04:12.244 --> 00:04:14.378 และนั่นทำให้เราได้มีชั้นป้องกัน 00:04:14.402 --> 00:04:17.453 ที่กัน siRNA นั้น ไม่ให้เสื่อมสภาพไป ในกระแสเลือด 00:04:18.106 --> 00:04:19.406 เราทำเกือบจะเสร็จแล้ว NOTE Paragraph 00:04:19.430 --> 00:04:20.890 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:04:20.914 --> 00:04:24.992 แต่มีอุปสรรคใหญ่อีกเรื่องหนึ่ง ที่เราจะต้องคิด 00:04:25.016 --> 00:04:27.408 ที่จริง มันอาจจะเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ในทั้งหมด 00:04:27.432 --> 00:04:29.406 คือ เราจะนำอาวุธชั้นยอดนี้ ไปใช้อย่างไร 00:04:29.430 --> 00:04:31.984 ดิฉันหมายถึง อาวุธที่ดีทุกชนิดนั้น จำต้องเล็งไปที่เป้า 00:04:32.008 --> 00:04:36.073 เราต้องเล็งอาวุธชั้นยอดนี้ ไปที่เซลล์ยอดวายร้าย 00:04:36.097 --> 00:04:38.047 ที่อยู่ในเนื้องอกนั้น NOTE Paragraph 00:04:38.071 --> 00:04:41.344 แต่ร่างกายของเรามีระบบภูมิคุ้มกัน เพื่อป้องกันตามธรรมชาติ 00:04:41.916 --> 00:04:43.867 เซลล์ทั้งหลายที่อยู่ในกระแสเลือดนั้น 00:04:43.891 --> 00:04:46.236 และค้นหาจนพบสิ่งต่าง ๆ ที่แปลกปลอม 00:04:46.260 --> 00:04:48.559 เพื่อที่มันจะสามารถทำลาย หรือขจัดสิ่งเหล่านั้นไป 00:04:48.583 --> 00:04:53.019 และลองเดาซิคะ อนุภาคนาโนของเรานั้น ก็ถือได้ว่าเป็นวัตถุแปลกปลอม 00:04:53.718 --> 00:04:57.817 เราต้องให้อนุภาคนาโนของเรา หลบหลีกผ่านระบบป้องกันของเนื้องอกนั้น 00:04:57.841 --> 00:05:04.095 เราต้องทำให้มันผ่านกลไก ของการกำจัดวัตถุแปลกปลอมนี้ไป 00:05:04.119 --> 00:05:05.539 ด้วยการปลอมตน NOTE Paragraph 00:05:05.563 --> 00:05:09.908 ดังนั้น เราจึงเพิ่มชั้นประจุไฟฟ้าลบ ขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น 00:05:09.932 --> 00:05:11.256 รอบ ๆ อนุภาคนาโนนี้ 00:05:11.280 --> 00:05:12.718 ซึ่งใช้เพื่อจุดประสงค์ 2 อย่าง 00:05:13.140 --> 00:05:17.108 อย่างแรก ชั้นด้านนอกนี้ เป็นชั้นที่มีประจุตามธรรมชาติ 00:05:17.132 --> 00:05:20.845 เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ซึ่งมีโมเลกุลของนํ้าสูง ที่อยู่ในร่างกายของเรา 00:05:21.456 --> 00:05:26.289 มันสร้างเมฆหมอกของโมเลกุลนํ้าขึ้นมา รอบ ๆ อนุภาคนาโนนั้น 00:05:26.313 --> 00:05:29.384 ซึ่งให้เราได้ผลของการซ่อนตัว ซึ่งทำให้ล่องหนไปได้ 00:05:30.257 --> 00:05:32.974 การซ่อนตัวที่ทำให้ล่องหนไปได้นี้ ทำให้อนุภาคนาโนนั้น 00:05:32.998 --> 00:05:34.604 เดินทางไปตามกระแสเลือดได้ตลอด 00:05:34.628 --> 00:05:37.393 ยาวนานและไกลพอจนไปถึงเนื้องอกนั้น 00:05:37.417 --> 00:05:39.556 โดยไม่ถูกกำจัดไปเสียก่อนโดยร่างกาย NOTE Paragraph 00:05:40.121 --> 00:05:44.513 อย่างที่สอง ชั้นนี้มีโมเลกุล 00:05:44.537 --> 00:05:47.736 ซึ่งจะไปติดกับเซลล์เนื้องอกของเราโดยเฉพาะ 00:05:48.190 --> 00:05:52.710 ในทันทีที่เข้าไปติดเซลล์มะเร็ง ก็จะรับเอาอนุภาคนาโนนั้นไว้ 00:05:52.734 --> 00:05:57.108 และถึงตอนนี้ เราก็มีอนุภาคนาโนของเรา ภายในเซลล์มะเร็ง 00:05:57.132 --> 00:05:58.805 และพร้อมที่จะใช้งาน NOTE Paragraph 00:05:59.304 --> 00:06:01.541 ตกลงค่ะ ดิฉันก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ลงมือเลย NOTE Paragraph 00:06:01.565 --> 00:06:07.747 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:06:08.057 --> 00:06:11.283 siRNA นั้น จะถูกใช้งานเป็นลำดับแรก 00:06:12.287 --> 00:06:13.913 มันจะปฏิบัติงานเป็นเวลาหลายชั่วโมง 00:06:13.937 --> 00:06:18.505 ให้เวลาเพียงพอเพื่อให้สงบนิ่ง และปิดกั้นยีนที่ยังคงรอดชีวิตอยู่เหล่านั้น 00:06:19.398 --> 00:06:23.336 ตอนนี้ เราได้ทำให้ยอดพลังยีนเหล่านั้น ไร้ประสิทธิภาพไปแล้ว 00:06:23.725 --> 00:06:26.954 ที่ยังคงอยู่ คือ เซลล์มะเร็ง ที่ไม่มีการป้องกันเป็นพิเศษ 00:06:26.978 --> 00:06:29.880 และแล้ว ยาเคมีบำบัดก็ออกมาจากแกน 00:06:29.904 --> 00:06:33.488 และเข้าทำลายเซลล์เนื้องอกนั้น อย่างสะอาดและอย่างมีประสิทธิภาพ 00:06:34.228 --> 00:06:36.565 เมื่อมีตัวสกักกั้นยีนเพียงพอ 00:06:36.589 --> 00:06:39.799 เราก็สามารถจัดการกับแบบต่าง ๆ มากมาย ของการกลายพันธุ์ได้ 00:06:39.823 --> 00:06:42.184 ทำให้มีโอกาส ที่จะเก็บกวาดเนื้องอกออกไป 00:06:42.208 --> 00:06:44.399 โดยไม่ต้องทิ้งตัวการร้ายใด ไว้เบื้องหลัง NOTE Paragraph 00:06:44.811 --> 00:06:47.527 ค่ะ ยุทธ์การของเราทำงานอย่างไรหรือ 00:06:49.543 --> 00:06:53.504 เราได้ทดลองอนุภาคโครงสร้างนาโนเหล่านี้ ในสัตว์ 00:06:53.528 --> 00:06:57.111 โดยใช้มะเร็งเต้านมชนิดไตรโลปะ (triple-negative) ที่ลุกลามรวดเร็วมาก 00:06:57.135 --> 00:06:59.690 มะเร็งเต้านมแบบไตรโลปะนี้แสดงให้เห็นยีน 00:06:59.714 --> 00:07:03.189 ที่ถ่มยามะเร็งออกมาในทันที ที่มันถูกนำเข้าไป NOTE Paragraph 00:07:03.742 --> 00:07:08.913 โดยปกติแล้ว ด็อกโซรูบิซิน--เรียกมันว่า "ด็อกซ์" แล้วกัน เป็นยามะเร็ง 00:07:08.937 --> 00:07:11.746 เป็นยาอันดับแรก ๆ ของการรักษา โรคมะเร็งเต้านม 00:07:12.178 --> 00:07:17.948 ค่ะ อันดับแรก เราได้รักษาสัตว์ของเรา ด้วยแกนด็อกซ์ ใช้ด็อกซ์เท่านั้นค่ะ 00:07:18.661 --> 00:07:20.868 เนื้องอกลดอัตราการเติบโตลง 00:07:20.892 --> 00:07:22.332 แต่มันยังคงโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 00:07:22.356 --> 00:07:24.684 เพิ่มขนาดเป็นสองเท่าในเวลาสองสัปดาห์ NOTE Paragraph 00:07:25.297 --> 00:07:28.395 แล้วเราจึงลองใช้อาวุธชั้นยอดของเรา ที่ผสมผสานหลายอย่างไว้ 00:07:29.415 --> 00:07:33.827 อนุภาคชั้นนาโนที่มี siRNA แนบกับเครื่องปั๊มคีโม 00:07:33.851 --> 00:07:36.846 บวกกับ เรามีด็อกซ์อยู่ในแกน 00:07:36.870 --> 00:07:41.185 ดูซิคะ -- เราพบว่าไม่เพียงแค่เนื้องอก ที่หยุดเติบโตเท่านั้น 00:07:41.209 --> 00:07:43.725 จริง ๆ มันยังลดขนาดลงไปด้วย 00:07:43.749 --> 00:07:46.164 และยังถูกกำจัดไปในบางราย 00:07:46.188 --> 00:07:49.444 เนื้องอกนั้น จริง ๆ แล้วยังถดถอยลงไป NOTE Paragraph 00:07:49.859 --> 00:07:56.841 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:07:57.820 --> 00:08:01.628 สิ่งที่ยิ่งใหญ่เกี่ยวกับวิธีการนี้คือ สามารถทำขึ้น ให้เหมาะเฉพาะรายได้ 00:08:01.652 --> 00:08:04.488 เราสามารถเพิ่มชั้นของ siRNA ต่าง ๆ มากมาย เข้าไปได้ 00:08:04.512 --> 00:08:08.070 เพื่อให้จัดการกับการแปลงพันธุ์แบบต่าง ๆ และกลไกต่อต้านแบบต่าง ๆ ของเนื้องอก 00:08:08.094 --> 00:08:11.379 และเราก็สามารถใส่ยาต่าง ๆ เข้าไปในแกนอนุภาคนาโนนั้นได้ 00:08:11.946 --> 00:08:15.153 เมื่อแพทย์เรียนรู้ถึงวิธีการทดสอบผู้ป่วย 00:08:15.177 --> 00:08:18.951 และเข้าใจชนิดของยีนเนื้องอกดังกล่าวนั้น 00:08:18.975 --> 00:08:22.717 ก็สามารถช่วยเราตัดสินได้ว่า ผู้ป่วยคนใด จะได้รับประโยชน์จากยุทธวิธีนี้ 00:08:22.741 --> 00:08:25.019 และตัวสกัดกั้นยีนตัวใดเราจะสามารถใช้ได้ NOTE Paragraph 00:08:26.410 --> 00:08:29.313 มะเร็งรังไข่เร้าความสนใจของดิฉัน เป็นพิเศษ 00:08:29.337 --> 00:08:31.310 เป็นมะเร็งที่ลุกลามรวดเร็วมาก 00:08:31.334 --> 00:08:34.219 บางส่วนก็เพราะว่า มักจะค้นพบ ในระยะสุดท้ายมาก ๆ 00:08:34.243 --> 00:08:35.690 เมื่อโรคลุกลามไปมากแล้ว 00:08:35.714 --> 00:08:37.990 และมีการกลายพันธุ์ของยีนไปหลายอย่าง 00:08:38.566 --> 00:08:41.555 หลังจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดในรอบแรก 00:08:41.579 --> 00:08:45.969 มะเร็งนี้จะกลับมาอีก ร้อยละ 75 ของผู้ป่วย 00:08:46.333 --> 00:08:49.159 และมันมักจะกลับมา ในรูปของการดื้อยา 00:08:50.215 --> 00:08:51.909 มะเร็งรังไข่ที่มีความรุนแรงโรคสูง 00:08:51.933 --> 00:08:54.100 เป็นยอดวายร้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ 00:08:54.124 --> 00:08:56.036 ขณะนี้ เรากำลังเล็งอาวุธชั้นยอดของเรา 00:08:56.060 --> 00:08:57.376 ไปสู่การพ่ายแพ้ของมัน NOTE Paragraph 00:08:59.375 --> 00:09:00.637 ในฐานะเป็นนักวิจัย 00:09:00.661 --> 00:09:03.516 โดยปกติ จึงไม่ได้ทำงานกับผู้ป่วย 00:09:04.164 --> 00:09:06.581 แต่เมื่อไม่นานมานี้ ดิฉันได้พบกับ ผู้เป็นแม่คนหนึ่ง 00:09:06.605 --> 00:09:11.502 ซึ่งเป็นผู้ที่รอดชีวิตจากมะเร็งรังไข่ เธอชื่อ มิมี่ และลูกสาวชื่อ เพจ 00:09:12.257 --> 00:09:16.361 ดิฉันเกิดแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้ง จากการมองโลกในแง่ดีและความแข็งแกร่ง 00:09:16.385 --> 00:09:18.478 ที่ทั้งผู้เป็นแม่และลูกสาวแสดงออกมา 00:09:19.495 --> 00:09:22.187 และจากเรื่องราวความกล้าหาญ และการเกื้อกูลกันของพวกเขา 00:09:23.119 --> 00:09:26.522 ในเหตุการณ์นี้ เราพูดกันถึง เทคโนโลยี่ต่าง ๆ 00:09:26.546 --> 00:09:27.925 ที่มุ่งมาที่มะเร็ง 00:09:28.355 --> 00:09:29.664 และมิมี่ถึงกับนํ้าตาไหล 00:09:29.688 --> 00:09:32.515 เมื่อเธออธิบายว่า การเรียนรู้ เกี่ยวกับความพยายามเหล่านี้ 00:09:32.539 --> 00:09:34.749 ทำให้เธอมีความหวังสำหรับคนรุ่นต่อไป ในอนาคต 00:09:34.773 --> 00:09:36.658 รวมทั้งลูกสาวของเธอเองด้วย 00:09:37.449 --> 00:09:38.863 เรื่องนี้ซึ้งใจดิฉันอย่างมาก 00:09:39.524 --> 00:09:42.703 มันไม่ได้เป็นแค่การสร้างวิทยาศาสตร์ ที่สวยงามโดยแท้ขึ้นมา 00:09:43.140 --> 00:09:45.239 มันเกี่ยวกับของการเปลี่ยนชีวิตของผู้คน 00:09:46.330 --> 00:09:49.541 มันเกี่ยวกับความเข้าใจถึง พลังอำนาจของ งานวิศวกรรม 00:09:49.565 --> 00:09:51.446 ในเรื่องขนาดของโมเลกุล NOTE Paragraph 00:09:51.470 --> 00:09:55.553 ดิฉันรู้ว่า เมื่อนักเรียน เช่น เพจ เดินหน้าไปสู่งานอาชีพของพวกเขา 00:09:55.577 --> 00:09:57.017 พวกเขาจะเปิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ 00:09:57.041 --> 00:10:00.431 ในการจัดการกับ ปัญหาสุขภาพที่ใหญ่ บางอย่างในโลก-- 00:10:00.455 --> 00:10:05.454 รวมถึงมะเร็งรังไข่ โรคทางสมอง โรคติดเชื้อ -- 00:10:06.104 --> 00:10:10.045 ซึ่งก็เหมือนกับวิศวกรรมเคมี ได้พบวิธี เพื่อเปิดประตูให้ดิฉัน 00:10:10.437 --> 00:10:13.071 และได้ให้วิธีการเชิงวิศวกรรม 00:10:13.095 --> 00:10:16.627 ในเรื่องสัดส่วนขนาดที่เล็กที่สุด ซึ่งก็คือ ขนาดของโมเลกุล 00:10:16.651 --> 00:10:19.214 เพื่อจะบำบัดรักษาได้ ในระดับมนุษย์ NOTE Paragraph 00:10:19.797 --> 00:10:20.955 ขอบคุณค่ะ NOTE Paragraph 00:10:20.979 --> 00:10:29.539 (เสียงปรบมือ)