จะทำให้สิ่งที่สำคัญสำหรับคุณดีขึ้นได้อย่างไร
-
0:01 - 0:05พวกเราส่วนใหญ่ พยายามทำให้ดีที่สุด
ไม่ว่าทำอะไรในชีวิต -
0:05 - 0:07ไม่ว่าจะเป็นการงาน ครอบครัว โรงเรียน
-
0:07 - 0:09หรือสิ่งอื่นใด
-
0:09 - 0:11ผมก็เหมือนกัน พยายามทำให้ดีที่สุด
-
0:12 - 0:15แต่เมื่อจุดหนึ่งในอดีต ผมก็รู้สึกตัวว่า
-
0:15 - 0:19ผมไม่ได้ดีขึ้นเท่าไหร่
ในเรื่องที่ผมใส่ใจมากที่สุด -
0:19 - 0:22ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเป็นสามี
หรือการเป็นเพื่อน -
0:22 - 0:24หรือการทำงาน
หรือการเป็นเพื่อนร่วมงาน -
0:24 - 0:26ผมไม่ได้ทำหน้าที่เหล่านั้นได้ดีขึ้น
-
0:26 - 0:29แม้ว่าผมจะให้เวลากับมันไปมาก
-
0:29 - 0:30ทุ่มเทไปมากกับมัน
-
0:31 - 0:35ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เริ่มเข้าใจ
จากการที่ได้พูดคุย และจากงานวิจัยว่า -
0:35 - 0:37ภาวะที่ไม่คืบหน้า แม้ว่าจะทุ่มเทให้มันนี้
-
0:37 - 0:39กลายเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก ๆ
-
0:39 - 0:42ผมจึงอยากแบ่งปัน ถึงข้อมูลเชิงลึก
ว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้น -
0:42 - 0:43และเราแก้ไขมันได้ยังไง
-
0:44 - 0:47ผมได้เรียนรู้ว่า
ผู้คนและทีมงานใด ๆ ก็ตาม -
0:47 - 0:49ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
-
0:49 - 0:50ทำสิ่งที่ เราทุกคนทำตามได้
-
0:51 - 0:55พวกเขาดำเนินชีวิต อย่างสุขุมรอบคอบ
สลับกันไปมาระหว่างสองโซน คือ -
0:55 - 0:57โซนการเรียนรู้ และโซนการทำงาน (การแสดง)
-
0:58 - 1:01โซนการเรียนรู้ คือ
ถ้าเราอยากพัฒนาอะไรอย่างหนึ่ง -
1:01 - 1:04เราก็ทำกิจกรรมที่ได้ออกแบบไว้
สำหรับการปรับปรุงให้ดีขึ้น -
1:04 - 1:06เพ่งไปที่สิ่งที่
เรายังไม่ได้รู้อย่างละเอียด -
1:06 - 1:09ซึ่งหมายความว่า เราต้องคาดหมาย
ในเรื่องการทำผิดพลาด -
1:09 - 1:11โดยรู้ว่า เราจะเรียนรู้ได้จากมัน
-
1:11 - 1:15สิ่งนั้นต่างกัน จากสิ่งที่เราทำ
ตอนที่เราอยู่ใน โซนการกระทำของเรา -
1:15 - 1:19ซึ่งก็คือ เมื่อเป้าหมายของเราคือทำให้ดี
ที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือเพื่อปฏิบัติงาน -
1:19 - 1:22แล้วเราก็เพ่งความสนใจไปที่
สิ่งที่เรารู้อย่างละเอียดแล้ว -
1:22 - 1:24และพยายามให้มีความผิดพลาดน้อยที่สุด
-
1:25 - 1:27โซนทั้งสองนี้
ควรเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา -
1:27 - 1:31แต่แบ่งชัดเจนว่า
เราต้องการจะอยู่ในโซนไหนเมื่อใด -
1:31 - 1:33พร้อมกับเป้าหมาย จุดสำคัญ
และความคาดหมายอะไร -
1:33 - 1:36มันจะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น
และปรับปรุงได้ดีขึ้น -
1:36 - 1:39โซนการทำงานนั้น
ทำให้การทำงานของเราในตอนนี้ถึงจุดสูงสุด -
1:39 - 1:41ขณะที่ โซนการเรียนรู้ทำให้การเติบโตและ
-
1:41 - 1:42การทำงานในอนาคตถึงขีดสูงสุด
-
1:43 - 1:45เหตุที่เราหลายคนไม่ได้ปรับปรุงได้มากนัก
-
1:45 - 1:47แม้งานของเราจะหนักแล้วก็ตาม
-
1:47 - 1:51สาเหตุก็คือ เรามักจะใช้เวลาเกือบทั้งหมด
อยู่ในโซนการทำงาน -
1:52 - 1:53มันฉุดการเติบโตของเรา
-
1:53 - 1:56และก็น่าแปลก นาน ๆ เข้า
มันก็ฉุดการทำงานของเราไปอีกด้วย -
1:58 - 2:00แล้วโซนการเรียนรู้ เป็นอย่างไรหรือครับ
-
2:01 - 2:03เดมอสเตอนีส ผู้นำทางการเมือง
-
2:03 - 2:06เป็นนักพูดผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นนักกฎหมาย
ในสมัยกรีกโบราณ -
2:06 - 2:10การมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้นั้น
เขาไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดของเขา -
2:10 - 2:12แค่เป็นเพียงนักพูด หรือนักกฎหมาย
-
2:12 - 2:15ซึ่งจะเป็นเรื่องที่อยู่ในโซนการทำงานของเขา
-
2:15 - 2:17แต่เขากลับทำกิจกรรมต่างๆที่ออกแบบไว้
เพื่อปรับปรุงงาน -
2:18 - 2:19แน่นอน เขาศึกษาหาความรู้
-
2:19 - 2:22เขาศึกษากฎหมายและปรัชญา พร้อมกับการแนะนำ
จากอาจารย์ที่ปรึกษา -
2:22 - 2:26แต่เขาก็ยังตระหนักด้วยว่า การเป็นนักกฎหมาย
ข้องเกี่ยวกับการชักจูงโน้วน้าวคนอื่น ๆ -
2:26 - 2:29เขาจึงศึกษาการพูดอย่างที่ยิ่งใหญ่
-
2:29 - 2:30และการแสดง
-
2:31 - 2:35เพื่อจะกำจัดนิสัยแปลก ๆ ที่เขามี คือ
มักจะยกไหล่ขึ้นโดยไม่ตั้งใจ -
2:35 - 2:37เขาฝึกพูดอยู่หน้ากระจกเงา
-
2:37 - 2:40และเขาก็แขวนดาบหย่อนลงมาจากเพดาน
-
2:40 - 2:42เพื่อที่ว่าหากเขายกไหล่ขึ้นมา
-
2:42 - 2:43เขาก็จะเจ็บตัว
-
2:43 - 2:45(เสียงหัวเราะ)
-
2:45 - 2:47เพื่อให้พูดอย่างชัดเจนขึ้น
แม้จะมีเสียงซู่ซ่า -
2:47 - 2:50เขาพูดตลอดจนจบ โดยมีก้อนหินอยู่ในปาก
-
2:51 - 2:52เขาสร้างห้องใต้ดินขึ้นมา
-
2:52 - 2:54ที่เขาสามารถฝึกพูดได้
โดยไม่มีใครมาขัดจังหวะ -
2:54 - 2:56และไม่ไปรบกวนคนอื่นๆ
-
2:56 - 2:58และเพราะว่าศาลในสมัยนั้น เสียงดังหนวกหูมาก
-
2:58 - 3:00เขาจึงไปฝึกอยู่ใกล้ๆทะเลอีกด้วย
-
3:00 - 3:02เปล่งเสียงออกไปจนได้ยินไปไกล
เหนือเสียงกึกก้องของคลื่น -
3:03 - 3:05กิจกรรมของเขาในโซนการเรียนรู้นั้น
-
3:05 - 3:08แตกต่างไปจากกิจกรรมของเขาในศาลอย่างมาก
-
3:08 - 3:09หรือ ในโซนการทำงานของเขา
-
3:10 - 3:11ส่วนในโซนการเรียนรู้นั้น
-
3:11 - 3:14เขาทำตาม ดร. แอนเดอร์ส อีริคส์สัน
เรียกว่า ฝึกอย่างตั้งใจ -
3:14 - 3:17วิธีการนี้เกี่ยวกับการแตกความสามารถ
ออกเป็นทักษะย่อย ๆ -
3:17 - 3:20ให้แน่ชัดว่า ทักษะย่อยอะไรบ้าง
ที่เรากำลังจะปรับปรุงให้ดีขึ้น -
3:20 - 3:22อย่างเช่น ระวังให้ไหล่ของเราลงมา
-
3:22 - 3:25เพ่งความสนใจอย่างเต็มที่
ถึงระดับการท้าทายขั้นสูง -
3:25 - 3:27นอกขอบเขตความสบายของเรา
-
3:27 - 3:29แค่เกินกว่าที่เราสามารถทำได้ในปัจจุบัน
-
3:29 - 3:32โดยใช้ข้อมูลป้อนกลับบ่อยครั้ง กับการทำซํ้า
และการปรับเปลี่ยน -
3:32 - 3:35และถ้าจะให้ดีเยี่ยม ก็ให้มีการชี้แนะ
ของโค้ชที่ชำนาญการ -
3:35 - 3:37เพราะกิจกรรมที่ออกแบบไว้เพื่อการปรับปรุง
-
3:37 - 3:39เจาะจงเฉพาะในขอบเขต
-
3:39 - 3:41และครูและโค้ชที่ยิ่งใหญ่นั้น
รู้ว่ากิจกรรมเหล่านั้นคืออะไร -
3:41 - 3:43และยังให้ข้อมูลเชี่ยวชาญป้อนกลับมาได้
-
3:44 - 3:47มันเป็นแบบของการฝึก ในโซนการเรียนรู้
-
3:47 - 3:49ที่จะนำไปสู่การปรับปรุงได้อย่างจริงจัง
-
3:49 - 3:51ไม่ใช่แค่เวลาที่ใช้ในการทำงาน
-
3:52 - 3:55ยกตัวอย่างเช่น การศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า
หลังจากช่วงเวลาสองปีแรก -
3:55 - 3:56ที่ปฏิบัติงานในอาชีพ
-
3:56 - 3:59การทำงานมักจะดีขึ้นเพียงเล็กน้อย
หรือไม่พัฒนาเลย -
3:59 - 4:02เรื่องนี้แสดงว่าเป็นจริง
ในสาขาการเรียนการสอน เวชศาสตร์ทั่วไป -
4:02 - 4:04การพยาบาล และสาขาวิชาอื่น ๆ
-
4:04 - 4:07และมันเกิดขึ้นก็เพราะว่า
เมื่อเราคิดว่า เราดีพอแล้ว -
4:07 - 4:09พอเหมาะแล้ว
-
4:09 - 4:11แล้วเราก็หยุดใช้เวลาในโซนการเรึยนรู้
-
4:11 - 4:13ตลอดเวลาเรามุ่งเน้นสนใจ
แค่การทำงานของเรา -
4:13 - 4:14การปฏิบัติงาน
-
4:14 - 4:17ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ดีนัก ที่จะปรับปรุง
-
4:17 - 4:20แต่ผู้คนที่ยังคงใช้เวลา
อยู่ในโซนการเรียนรู้นั้น -
4:20 - 4:22ก็ยังคงปรับปรุงอยู่ได้เสมอ
-
4:22 - 4:25พนักงานขายที่ดีที่สุด
อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง -
4:25 - 4:27ทำกิจกรรมโดยมีจุดประสงค์เพื่อการปรับปรุง
-
4:27 - 4:29พวกเขาอ่านเพื่อขยายความรู้ของเขาออกไป
-
4:29 - 4:32ปรึกษาหารือกับเพื่อนร่วมงาน
หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขา -
4:32 - 4:35ทดลองกลยุทธ์ใหม่ๆ ขอข้อมูลป้อนกลับ
และนำมาคิดไตร่ตรอง -
4:35 - 4:37คนเล่นหมากรุกที่เก่งที่สุดนั้น
-
4:37 - 4:41ใช้เวลาไปมากมาย
ไม่ใช่ในการเล่นเกมหมากรุก -
4:41 - 4:42ซึ่งก็คือ โซนการทำงานของเขา
-
4:43 - 4:46แต่เป็นการพยายามคาดเดาการเดินหมาก
ที่นักหมากรุกชั้นนำเดิน และมาวิเคราะห์ -
4:47 - 4:51เราแต่ละคนนั้นน่าจะใช้เวลาไป
หลายต่อหลายชั่วโมง -
4:51 - 4:53พิมพ์ที่คอมพิวเตอร์
-
4:53 - 4:54โดยไม่ได้พิมพ์เร็วขึ้นเลย
-
4:54 - 4:58แต่ถ้าเราใช้เวลา 10 ถึง 20 นาที ในแต่ละวัน
-
4:58 - 5:01ตั้งใจเพ่งอย่างเต็มที่ ให้พิมพ์เร็วกว่า
อัตราเร็วของเราในปัจจุบัน -
5:01 - 5:0210 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์
-
5:02 - 5:04เราก็น่าจะพิมพ์ได้เร็วขึ้น
-
5:04 - 5:07โดยเฉพาะถ้าเราระบุได้อีกด้วยว่า
เรามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง -
5:07 - 5:09และก็ฝึกพิมพ์คำเหล่านั้น
-
5:09 - 5:11นั่นคือ การฝึกอย่างตั้งใจ
-
5:12 - 5:14ในส่วนอื่น ๆ ของชีวิตเรานั้น
-
5:14 - 5:16บางที ที่เราเห็นสำคัญกว่าสิ่งอื่น
-
5:16 - 5:18เราทุ่มเทอย่างหนัก
แต่ไม่ได้ดีขึ้นมาก -
5:18 - 5:21เพราะเราอยู่แค่ในโซนการทำงาน หรือเปล่า
-
5:23 - 5:26ครับ นี่ไม่ได้กล่าวว่า
โซนการทำงานไม่มีคุณค่าอะไร -
5:26 - 5:27มันมีคุณค่าอย่างมากครับ
-
5:27 - 5:29ผมเคยต้องผ่าตัดหัวเข่า
ผมไม่ได้บอกแพทย์ผ่าตัด -
5:29 - 5:32ว่า "ควานหาในนั้นให้ทั่ว
เพ่งไปที่สิ่งที่คุณไม่รู้" -
5:32 - 5:33(เสียงหัวเราะ)
-
5:33 - 5:35"เราจะเรียนรู้จากข้อผิดพลาดคุณ"
-
5:36 - 5:39แต่ผมมองหาแพทย์ผ่าตัด
ที่ผมรู้สึกว่าน่าจะทำงานดี -
5:39 - 5:41และผมต้องการให้เธอทำงานอย่างดี
-
5:41 - 5:43การที่อยู่ในโซนการทำงานนั้น
-
5:43 - 5:45ให้เราได้ทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จ
อย่างดีที่สุด เท่าที่จะทำได้ -
5:46 - 5:47มันยังจูงใจเราได้อีกด้วย
-
5:47 - 5:51และมันให้เราได้ข้อมูลที่จะระบุได้ว่า
ต่อไปเราจะเพ่งความสนใจไปที่อะไร -
5:51 - 5:53เมื่อเรากลับไปที่โซนการเรียนรู้
-
5:53 - 5:55วิธีการที่จะได้การปฏิบัติงานที่สูง
-
5:55 - 5:59ก็คือ การสลับไปมาระหว่างโซนการเรียนรู้
และโซนการทำงาน -
5:59 - 6:01การสร้างทักษะของเรา อย่างมีจุดหมาย
ในโซนการเรียนรู้ -
6:01 - 6:04แล้วก็นำทักษะเหล่านั้นไปประยุกต์ใช้
ในโซนการทำงาน -
6:05 - 6:07ตอนที่บียอนเซ่ เดินทางไปแสดงคอนเสิร์ต
-
6:07 - 6:10ระหว่างการแสดงคอนเสิร์ต
เธออยู่ในโซนการทำงาน -
6:10 - 6:12แต่ทุกคืน เมื่อเธอกลับมาห้องพักในโรงแรม
-
6:12 - 6:15เธอตรงกลับไปยังโซนการเรียนรู้ของเธอทันที
-
6:15 - 6:17เธอดูวิดีโอการแสดง ที่เพิ่งจะจบลงไป
-
6:17 - 6:19เธอบอกได้ถึงโอกาสที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น
-
6:20 - 6:22สำหรับตัวเธอเอง นักเต้น และพวกช่างกล้อง
-
6:22 - 6:23และในเช้าวันต่อมา
-
6:23 - 6:26ทุกคนก็ได้รับบันทึกเป็นหน้าๆ
มีอะไรบ้างที่จะปรับเปลี่ยน -
6:27 - 6:30ซึ่งพวกเขาก็จะทำงานกัน ในตอนกลางวัน
ก่อนการแสดงครั้งต่อไป -
6:31 - 6:32มันเป็นวงก้นหอย
-
6:32 - 6:33ถึงความสามารถที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
-
6:33 - 6:37แต่เราต้องรู้ว่าเมื่อใดต้องการจะเรียนรู้
และเมื่อใดที่เราต้องการจะทำงาน -
6:37 - 6:39แต่ในขณะที่เราต้องการใช้เวลาทำทั้งสองอย่าง
-
6:39 - 6:41ยิ่งเราใช้เวลา ในโซนการเรียนรู้มากเท่าใด
-
6:41 - 6:42เราก็ปรับปรุงได้มากขึ้น
-
6:43 - 6:46เราจะใช้เวลาในโซนการเรียนรู้
มากขึ้นได้อย่างไร -
6:47 - 6:50ข้อแรก เราต้องเชื่อและเข้าใจว่า
-
6:50 - 6:52เราปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้
-
6:52 - 6:53ซึ่งเราเรียกว่า
โกรท มายเซ็ท (Growth Mindset) -
6:54 - 6:57ข้อสอง เราต้องมีความต้องการ
ที่จะปรับปรุงทักษะนั้น -
6:57 - 6:59ต้องมีจุดประสงค์ที่เราเห็นว่าสำคัญ
-
6:59 - 7:01เพราะมันต้องใช้เวลาและความพยายาม
-
7:01 - 7:04ข้อสาม เราต้องมีแนวคิดเกี่ยวกับว่า
จะปรับปรุงอย่างไร -
7:04 - 7:06อะไรที่เราทำได้ เพื่อทำให้ดีขึ้น
-
7:06 - 7:09ไม่ใช่วิธีที่ผมเคยใช้
ในการฝึกกีต้าร์ ตอนผมเป็นวัยรุ่น -
7:09 - 7:11คือร้องเพลงซํ้าแล้วซํ้าเล่า
-
7:11 - 7:12แต่ให้ทำการฝึกอย่างตั้งใจ
-
7:13 - 7:17และข้อสี่ เราต้องอยู่ในสถานการณ์
ที่มีความเสี่ยงตํ่า -
7:17 - 7:19เพราะถ้าความผิดพลาด เป็นสิ่งที่เราคาดหมาย
-
7:19 - 7:22แล้วผลที่ตามมาจากความผิดพลาดนั้น
ต้องไม่เป็นความหายนะ -
7:22 - 7:24หรือเสียหายร้ายแรง
-
7:24 - 7:28คนเล่นกายกรรมเดินไต่ลวด จะไม่ฝึก
ท่าพลิกแพลงใหม่โดยไม่มีตาข่ายรองรับ -
7:28 - 7:31และนักกีฬาก็จะไม่ลองเล่นท่าใหม่ ๆ
-
7:31 - 7:32ระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์
-
7:33 - 7:35เหตุผลหนึ่งที่ว่า ในชีวิตของเรา
-
7:35 - 7:37เราใช้เวลาไปมากมายเหลือเกิน ในโซนการทำงาน
-
7:37 - 7:42ก็คือ สภาวะแวดล้อมของเรานั้น
มีความเสี่ยงสูง โดยไม่จำเป็นอยู่บ่อย ๆ -
7:42 - 7:44เราสร้างความเสี่ยงทางสังคม
ให้กับกันและกัน -
7:44 - 7:47แม้กระทั่งในโรงเรียน ซึ่งควรจะ
เกี่ยวกับการเรียนรู้ทั้งหมด -
7:47 - 7:49ผมไม่ได้กำลังพูดถึงเรื่องแบบทดสอบมาตรฐาน
-
7:49 - 7:52ผมหมายถึงว่า ทุก ๆ นาทีของทุกวัน
-
7:52 - 7:54นักเรียนจำนวนมาก ในโรงเรียนประถมศึกษา
จนถึงระดับอุดมศึกษา -
7:54 - 7:58รู้สึกว่า หากพวกเขาทำความผิดพลาด
คนอื่นๆก็จะขาดความนับถือเขาไป -
7:58 - 8:00ไม่แปลกใจเลยว่า พวกเขาตึงเครียดอยู่เสมอ
-
8:00 - 8:02และไม่ยอมเสี่ยง ซึ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้
-
8:03 - 8:05แต่เรียนรู้ว่า ความผิดพลาดนั้น
ไม่เป็นที่ปรารถนา -
8:05 - 8:06เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
-
8:06 - 8:10เมื่อครูหรือพ่อแม่นั้นกระตือรือร้น
จะฟังแค่เพียงคำตอบที่ถูกต้อง -
8:10 - 8:12และปฏิเสธความผิดพลาด
แทนที่จะต้อนรับและตรวจสอบมัน -
8:13 - 8:14เพื่อเรียนรู้จากมัน
-
8:14 - 8:16หรือเมื่อเรามองหาการตอบรับแคบ ๆ
-
8:16 - 8:18แทนที่จะส่งเสริมการคิด
เชิงสำรวจวินิจฉัยมากขึ้น -
8:18 - 8:19ซึ่งเราเรียนรู้จากมันได้
-
8:19 - 8:22เมื่อการบ้านหรืองานของนักเรียนนั้น
มีตัวเลขหรือตัวอักษรกำกับอยู่ -
8:22 - 8:24และนับคะแนนไปสู่ลำดับคะแนนตอนปลายภาค
-
8:24 - 8:28แทนที่จะถูกนำไปใช้เพื่อการฝึก ข้อผิดพลาด
ข้อมูลป้อนกลับมา และการปรับปรุงใหม่ -
8:28 - 8:31เราส่งสารไปว่า โรงเรียนเป็นโซนการทำงาน
-
8:32 - 8:34สถานที่ทำงานของเรา ก็เป็นแบบเดียวกัน
-
8:34 - 8:38ในบริษัทที่ผมไปขอคำปรึกษา
ผมมักเห็นวัฒนธรรมการบริหารแบบไม่มีที่ติ -
8:38 - 8:41ซึ่งผู้นำสนับสนุน
เพื่อส่งเสริมงานที่ยิ่งใหญ่ -
8:41 - 8:43แต่นั่นนำลูกจ้างให้ยังคงอยู่
ภายในสิ่งที่เขารู้แล้ว -
8:44 - 8:45และไม่พยายามในสิ่งใหม่ๆ
-
8:45 - 8:47บริษัทจึงดิ้นรนที่จะนำสิ่งใหม่เข้ามา
และปรับปรุง -
8:47 - 8:48และก็ตกหล่นไปอยู่ด้านหลัง
-
8:50 - 8:52เราสามารถสร้างที่ว่างเพิ่มขึ้น
สำหรับการเติบโต -
8:52 - 8:54โดยการเริ่มต้นพูดคุยกันเกี่ยวกับว่า
-
8:54 - 8:57เมื่อใดที่เราต้องการจะอยู่ในแต่ละโซน
-
8:57 - 9:00เราต้องการจะพัฒนา
ในเรื่องใดบ้าง และทำอย่างไร -
9:00 - 9:03และเมื่อใดที่ต้องการจะดำเนินการทำ
และให้ความผิดพลาดมีน้อยที่สุด -
9:04 - 9:07ด้วยวิธีการนั้น เราก็จะได้ความกระจ่าง
ว่าอะไรคือ ความสำเร็จ -
9:07 - 9:09เมื่อใด และจะสนับสนุนกันให้ดีที่สุดอย่างไร
-
9:10 - 9:13แต่สมมุติว่าถ้าเราพบตัวเอง
ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงอย่างสุด ๆ -
9:13 - 9:16และเรารู้สึกว่า
ยังไม่สามารถเริ่มการพูดคุยเหล่านั้นได้ -
9:17 - 9:20แล้วละก็ สามอย่างนี้
ที่เรายังคงสามารถทำได้ด้วยตัวเอง -
9:20 - 9:24ข้อหนึ่ง เราสามารถสร้างเกาะความเสี่ยงตํ้าขึ้นมา
ในทะเลที่ความเสี่ยงสูง -
9:25 - 9:27พวกนี้เป็นพื้นที่ว่างที่ความผิดพลาด
มีผลน้อยนิด -
9:27 - 9:31ตัวอย่างเช่น เราอาจจะพบว่าที่ปรึกษา
หรือเพื่อนร่วมงานที่เราไว้วางใจ -
9:31 - 9:34ที่เราสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
หรือพูดคุยเรื่องที่เปราะบางกันได้ -
9:34 - 9:35หรือกระทั่งเล่นบทบาทสมมุติ
-
9:35 - 9:39หรือเราสามารถขอให้มีการประชุมเพื่อได้
ข้อมูลป้อนกลับ ขณะที่โครงการก้าวหน้าไป -
9:39 - 9:43หรือเราสามารถกันเวลาไว้ เพื่ออ่าน
หรือดูวิดีโอ หรือเข้าไปลงเรียนทางออนไลน์ -
9:43 - 9:45เหล่านั้นเป็นเพียงบางตัวอย่าง
-
9:45 - 9:50ข้อที่สอง เราสามารถดำเนินการ และทำงาน
ตามที่เราถูกคาดหมายไว้ -
9:50 - 9:52แล้วก็คิดไตร่ตรอง
สิ่งที่เราอาจทำได้ดีขึ้น ในครั้งต่อไป -
9:52 - 9:53เช่นเดียวกับที่บิยองเซ่ทำ
-
9:53 - 9:56เรายังสามารถสังเกตและเลียนแบบผู้เชี่ยวชาญ
-
9:56 - 9:59การสังเกต การคิดไตร่ตรองและการปรับเปลี่ยน
เป็นโซนการเรียนรู้ -
10:00 - 10:02ุและท้ายสุดแล้ว เราสามารถนำ
-
10:03 - 10:06และลดความเสี่ยงลงได้สำหรับคนอื่น
โดยการบอกเล่าสิ่งที่เราต้องการจะให้ดีขึ้น -
10:06 - 10:09โดยถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เราไม่รู้
-
10:09 - 10:11โดยขอข้อมูลป้อนกลับ
โดยบอกเล่าความผิดพลาดสู่กันฟัง -
10:11 - 10:13และสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากพวกเขา
-
10:13 - 10:15เพื่อให้คนอื่นรู้สึกปลอดภัย
ที่จะทำเหมือนกัน -
10:16 - 10:19ความมั่นใจแท้จริง คือ
การเป็นแบบอย่าง การเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง -
10:21 - 10:25สมมุติว่า แทนที่จะใช้ชีวิตของเรา ทำ ทำ ทำ
-
10:25 - 10:27แสดง แสดง แสดง
-
10:27 - 10:30ให้เรามาใช้เวลาในการสำรวจให้มากขึ้น
-
10:31 - 10:32ตั้งคำถามมากขึ้น
-
10:32 - 10:33ฟังให้มากขึ้น
-
10:33 - 10:36การทดลอง การคิดไตร่ตรอง
-
10:37 - 10:40การมานะบากบั่น และกลายมาเป็น
จะได้หรือไม่ -
10:40 - 10:43สมมุติว่า เราแต่ละคน
มีบางสิ่งบางอย่าง -
10:43 - 10:45ที่เรากำลังพยายามปรับปรุงอยู่
-
10:46 - 10:48สมมุติว่า เราสร้างเกาะที่มีความเสี่ยงตํ่า
-
10:48 - 10:49และนํ้าเพิ่มมากขึ้น
-
10:50 - 10:52สมมุติว่า เราเข้าใจ
-
10:52 - 10:55ตัวเราเอง และกับเพื่อนร่วมทีมงาน
-
10:55 - 10:58เกี่ยวกับ เมื่อใดที่เรามุ่งหาการเรียนรู้
และเมื่อใด ที่เรามุ่งหาการทำงาน -
10:58 - 11:01เพื่อให้ความพยายามของเรานั้น
สามารถมีผลที่สำคัญยิ่งขึ้น -
11:01 - 11:04การปรับปรุงของเราก็จะไม่จบสิ้น
-
11:04 - 11:06สิ่งที่ดีที่สุดของเรานั้น
ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีก -
11:07 - 11:08ขอบคุณครับ
- Title:
- จะทำให้สิ่งที่สำคัญสำหรับคุณดีขึ้นได้อย่างไร
- Speaker:
- อีดูอารโด บรีเซนโย
- Description:
-
ทำงานไปอย่างหนักแต่มันไม่ได้ดีขึ้นเลยหรือครับ คุณไม่ได้เป็นอย่างนั้นคนเดียวหรอก นักการศึกษาชื่อ อีดูอารโด บรีเซนโย เปิดเผยวิธีการคิดง่ายๆ เกี่ยวกับการทำให้สิ่งที่คุณทำอยู่นั้นดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน การเป็นบิดามารดา หรืองานอดิเรกที่สร้างสรร และเขาเล่าสู่ให้ฟังในเรื่องเทคนิคที่มีประโยชน์ เพื่อให้คุณสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง และรู้สึกเหมือนกับคุณเคลื่อนไปข้างหน้าอยู่เสมอ
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 11:22
Unnawut Leepaisalsuwanna approved Thai subtitles for How to get better at the things you care about | ||
Unnawut Leepaisalsuwanna edited Thai subtitles for How to get better at the things you care about | ||
Pongsapak Vanichrundorn accepted Thai subtitles for How to get better at the things you care about | ||
Pongsapak Vanichrundorn edited Thai subtitles for How to get better at the things you care about | ||
Pongsapak Vanichrundorn edited Thai subtitles for How to get better at the things you care about | ||
Pongsapak Vanichrundorn edited Thai subtitles for How to get better at the things you care about | ||
Pongsapak Vanichrundorn edited Thai subtitles for How to get better at the things you care about | ||
yamela areesamarn edited Thai subtitles for How to get better at the things you care about |