-
สวัสดีค่า วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
ช่วงนี้นะคะ หลายคนชอบให้วิวพาไปเที่ยวที่นั่นที่นี่ค่ะ
-
ทีเนี้ย วันนี้วิวก็เลยมีโอกาสอันดีมากๆ เลยนะคะ
-
ที่จะพาทุกคนไปเที่ยวที่จังหวัดสุโขทัยนั่นเอง
-
ซึ่งที่จังหวัดสุโขทัยเนี่ย ได้ยินข่าวลือมาว่ามีพระพูดได้ค่ะ
-
วันนี้วิวก็เลยติดต่อไปนะคะ
-
แล้วก็ได้โอกาสพิเศษโอกาสนึง
-
ที่จะเข้าไปดูพระพูดได้นะคะ
-
แบบ exclusive สุดๆ เลยค่ะ
-
แต่อย่างไรก็ตามนะคะ บังเอิญว่าวิวเนี่ย
-
เป็นคนที่งานค่อนข้างยุ่งค่ะ
-
คือมีเวลาแค่วันเดียวเท่านั้น จะไปสุโขทัยก็ลำบากอะนะ
-
ถ้าสมมุติว่านั่งรถไปน่าจะ
-
ขับรถไปถึง ดูพระพูดได้ แล้วก็ต้องกลับเลย
-
อย่างไรก็ตามนะคะ
-
โชคดีจริงๆ เลยที่จังหวัดสุโขทัยเนี่ย มีสนามบินค่ะ
-
มันมีสายการบิน Bangkok Airways นะคะ
-
ที่เราสามารถบินฟึ้บไป แล้วก็กลับได้ภายในวันเดียว
-
แถมยังมีเวลาเหลือ แวะเที่ยวอะไรต่างๆ ได้ด้วยค่ะ
-
ดังนั้นวันนี้ทุกคนนะคะ
-
ตามวิวไปดูพระพูดได้ที่จังหวัดสุโขทัยกันดีกว่าค่ะ
-
สำหรับตอนนี้ พร้อมไปจะเที่ยวแบบ
-
ทั้งสนุก แล้วก็ได้สาระรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ ไปกันเลยค่ะ~
-
การเดินทางในวันนี้นะคะ
-
เราเดินทางด้วยสายการบิน Bangkok Airways
-
Asia's Boutique Airline ค่ะ
-
ซึ่งมีเที่ยวบินตรงจากสนามบินสุวรรณภูมินะคะ
-
ไปที่สุโขทัยเลย
-
สะดวกสบายมากๆ ค่ะ
-
เพราะว่าเป็นสายการบิน Full Service นะคะ
-
ใครที่เป็นสายพร็อพเยอะ อุปกรณ์เยอะ
-
โหลดกระเป๋าได้ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้นค่ะ
-
แถมที่สำคัญนะคะ เช็กอินเข้าไปด้านใน
-
ใครหิวใครอะไร มี Lounge ให้บริการนั่งรอเครื่องบินนะคะ
-
แอบกระซิบเลยว่า Highlight เด็ดของ Lounge ท่ีนี่เขาเนี่ย
-
เป็นของโปรดวิวเลย นั่นก็คือ
-
ข้าวต้มมัดนั่นเองค่ะ
-
เด็ดสุดๆ ฟาดกันให้ยับนะคะ
-
แต่อย่าฟาดเยอะเกิดไปนะคะ
-
เพราะว่าบนเครื่องบินก็มีอาหารร้อนบริการด้วยค่ะ
-
นั่งสบายใจนะคะ สัก 50 นาที
-
ก็มาถึงสุโขทัยเรียบร้อยแล้วค่ะ
-
เร็วกว่าฝ่ารถติดในกรุงเทพอีกนะคะทุกคน
-
สุโขทัย นอกจากจะเป็นชื่อก๋วยเตี๋ยวที่เราคุ้นเคยกันแล้ว
-
ยังเป็นบริเวณที่ตั้งของอาณาจักรโบราณ
-
ที่ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำยม-น่านด้วยค่ะ
-
ซึ่งอาณาจักรนี้นะคะ เป็นสังคมขนาดไม่ใหญ่เท่าไรค่ะ
-
ในตอนที่ก่อตัวขึ้นนะคะ
-
ปกครองด้วยระบอบพ่อปกครองลูกค่ะ
-
ก่อตัวขึ้นจากความสัมพันธ์ทางเครือญาติ
-
ที่เสริมให้อาณาจักรแห่งนี้นะคะ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
-
โดยความสัมพันธ์เนี้ย
-
เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเมืองบางยาง เมืองศรีสัชนาลัย
-
แล้วก็อาณาจักรขอมค่ะ
-
สุโขทัยเนี่ยนะคะ ถือเป็นอาณาจักรที่เจริญมากๆ เลยค่ะ
-
ด้วยความที่ทำเลที่ตั้งเนี่ยดีนะคะ
-
ถึงจะตั้งอยู่ไม่ใกล้น้ำเท่าไร
-
แต่ว่าเป็นศูนย์กลางทางการค้าขายค่ะ
-
เพราะว่าเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมาะตะมะกับจีนนะคะ
-
ดังนั้นก็เหมือนกับที่เราเคยได้ยินจาก
-
ศิลาจารึกหลักที่ 1 นั่นละค่ะ
-
สุโขทัยเนี่ย ไม่ได้เป็นเมืองเดี่ยวๆ
-
ตั้งอยู่ไม่เกี่ยวข้องกับใครนะคะ
-
เพราะนอกจากจะทำการค้าแล้วเนี่ย
-
สุโขทัยยังมีเมืองคู่ ที่เรามักเรียกติดปากกันว่า
-
สุโขทัย-ศรีสัชนาลัยค่ะ
-
และยังมีกลุ่มเมืองในเครือข่ายที่ใช้ตั้งล้อมๆ เมืองเอาไว้นะคะ
-
เพื่อเป็นยุทธศาสตร์ป้องกันเมืองอีกค่ะ
-
ส่วนตัวเมืองเองเนี่ย นอกจากจะเป็นสี่เหลี่ยมแล้ว
-
สุโขทัยก็ยังป้องกันตัวเมืองนะคะ ด้วยการ
-
ก่อกำแพงขึ้นมาถึง 3 ชั้นนะคะ
-
ก็เป็นคูน้ำกับคันดิน
-
ที่เราเคยได้ยินว่าสุโขทัยนี้ตรีบูร
-
จากศิลาจารึกหลักที่ 1 นั่นละค่ะ
-
ฟังขนาดนี้แล้ว อยากตามวิวไปเที่ยวสุโขทัยรึยังคะ
-
แต่บอกเลยนะคะว่าน่าเสียดายมากๆ
-
ที่วันนี้เวลาวิวเนี่ย น้อยสุดๆ
-
ดังนั้นนะคะ วิวก็เลยต้องขออนุญาตทุกคน
-
ตัดเมืองคู่อย่างศรีสัชนาลัยทิ้งไปก่อนค่ะ
-
ถ้าไว้มีโอกาสหน้า เดี๋ยวพาไปเที่ยวนะคะ
-
หลายคนฟังมาถึงตรงนี้นะคะ ก็จะรู้สึกว่าแบบ
-
เฮ้ย ขยันหน่อยสิ วันนึงจุกๆ แบบนี้ควรจะทันไม่ใช่เหรอ
-
สาเหตุที่วิวต้องตัดเนี่ยนะคะ
-
เพราะว่าภาพจำสุโขทัยที่ทุกคนคิดถึงเนี่ย
-
คงคิดว่ามาเที่ยวสุโขทัย
-
น่าจะแค่ได้เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อะไรอย่างนี้ใช่มะ
-
แต่จริงๆ สุโขทัยนะคะ ไม่ได้มีแค่อุทยานประวัติศาสตร์ค่ะ
-
ตาม Concept ช่องวิวเลยนะ
-
มีสาระแล้วต้องสนุกด้วยนะคะ
-
ไม่ใช่ว่าวิวพาทุกคนมาถึง จะมาดูโบราณสถาน
-
เย่ ฟิน แล้วกลับบ้านเลย
-
มาเที่ยวทั้งทีต้องเอาให้คุ้มค่ะ
-
เดี๋ยววิวพาไปเที่ยวสุโขทัยดีกว่า
-
ว่าทั้งด้านประวัติศาสตร์และด้านอื่นๆ เนี่ย
-
สุโขทัยมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนะคะ
-
ปะ ไปกัน
-
มาถึงนะคะ สุโขทัยก็ต้อนรับเรายามเช้า
-
ด้วยทุ่งบัวบานเลยค่ะ
-
เรียกได้ว่าเที่ยวกันตั้งแต่ในสนามบินกันเลยทีเดียว
-
เพราะที่สนามบินสุโขทัยเนี่ย
-
มีกิจกรรมต่างๆ ให้เราทำเยอะมากเลยค่ะ
-
เรียกได้ว่าสวยจนถ่ายรูปรัวๆ
-
ตั้งแต่ก้าวยังไม่พ้นสนามบินเลยนะคะ
-
โดยเฉพาะที่โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย
-
ที่ให้เราสามารถเรียนรู้วิถีเกษตรพอเพียง
-
แล้วก็สัมผัสชีวิตชาวบ้านได้ด้วยค่ะ
-
จะแวะชมแปลงนาข้าวสาธิต
-
ชมความงามของบึงบัว
-
หรือขี่ควายถ่ายรูปเล่นสักหน่อย
-
ก่อนออกไปเที่ยวก็ยังได้นะคะ
-
น้องยิ้มด้วยอะ
-
แล้วน้องก็ยืนฉี่ไปด้วยยิ้มไปด้วย
-
พอเราบอกว่าเราจะขี่น้องก็เลยฉี่ โชว์
-
และมันฉี่ยาวครึ่งชั่วโมงทุกคน
-
เราต้องยืนรอควายฉี่ไปเรื่อยๆ นะคะ
-
แอบกระซิบนิดนึงว่า ในโครงการเกษตรอินทรีย์เนี่ย
-
ผักต่างๆ เขาสดจริงๆ ค่ะ
-
ดังนั้นเราสามารถแวะไปชิมได้ที่ครัวสุโข
-
ซึ่งเป็นร้านอาหารในโครงการเลยนะคะ
-
ออกจากสนามบินมาแล้วเนี่ยนะคะ
-
บอกเลยว่าที่เที่ยวของสุโขทัยนี่ยังมีอีกล้านแปดเลยค่ะ
-
แต่ส่วนตัววิวเนี่ย อยากได้ภาพสวยๆ
-
ก็เลยขอแวะมาที่นี่เลย
-
สวรรคโลก Street Art นะคะ
-
ใครเป็นสายถ่ายรูปนี่ไม่ควรพลาดสุดๆ เลยค่ะ
-
เพราะที่นี่นะคะ มี Graffiti เก๋ๆ ค่ะ
-
ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเนี่ย
-
เขาร่วมกับศิลปินไทย แล้วก็ศิลปินจากอาเซียนนะคะ
-
จัดมาให้ทุกคนได้เข้าชม ได้เข้าถ่ายรูป เต็มที่เลยค่ะ
-
บอกเลยนะคะว่าทั้งประเทศเนี่ย โครงการนี้เขาจัดแค่ที่นี่
-
ที่เชียงราย แล้วก็ที่ตราดนะคะ
-
ดังนั้นมาเดินเล่นถ่ายรูปกันได้ค่ะ
-
เอาเป็นว่าไม่โม้เรื่องที่เที่ยวมากแล้วกัน
-
ใครอยากดูว่าวิวแวะไปเที่ยวสนุกขนาดไหนนี่ก็
-
สามารถไปติดตามภาพได้ที่
-
Instagram: point_of_view_th นะคะ
-
แต่ตอนนี้เริ่มสายแล้ว
-
ใกล้เวลานัดสุด Exclusive ของเราแล้วค่ะ
-
รีบแว้บเขาอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
-
ไปตามหาพระพูดได้กันดีกว่า
-
ตอนนี้นะคะ หลังจากแวะเที่ยวเล่น
-
สนุกสนานมาเต็มที่แล้วค่ะ
-
เราก็ได้เวลามาดูสิ่งที่เราตั้งใจมาดูแล้วนะคะ
-
ตอนนี้วิวอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยค่ะ
-
ซึ่งวิวกำลังจะพาทุกคนไปดู
-
วัดแรกในอุทยานนี้เลยนะคะ
-
และขอบอกว่าวัดเนี้ย
-
เป็นวัดที่สำคัญที่สุดของเมืองสุโขทัยเลยก็ว่าได้ค่ะ
-
วัดนั้นก็คือวัดมหาธาตุนั่นเองค่ะ
-
เดี๋ยวเราเข้าไปดูกัน ปะ!
-
วัดมหาธาตุเป็นวัดสำคัญ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุโขทัย
-
มีกำแพงและคูน้ำล้อมรอบนะคะ
-
สร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนศรีอิทราทิตย์
-
ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัยค่ะ
-
ภายในวัดมีศิลปะอันงดงามนะคะ
-
เรียกได้ว่าถ้ามาอุทยานประวัติศาสตร์แล้ว
-
วัดนี้เป็นวัดที่พลาดไม่ได้เลยทีเดียวค่ะ
-
เพราะว่ามีของสำคัญๆ
-
ที่เราควรจะมาเห็นอยู่เต็มไปหมดเลยนะคะ
-
เราไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างค่ะ
-
วัดมหาธาตุแห่งนี้นะคะ เป็นวัดที่สำคัญมากๆ ค่ะ เพราะว่า
-
ถึงขั้นที่ปรากฏในศิลาจารึกต่างๆ มากมายเลยนะคะ
-
รวมถึงศิลาจารึกหลักที่ 1 ด้วย
-
คือกะว่าเป็นวัดหลวงอะนะ ประมาณว่า
-
เทียบเคียงได้กับวัดพระศรีสรรเพชญ์ของอยุธยา
-
แล้วก็วัดพระแก้วของกรุงรัตนโกสินทร์นั่นเองค่ะ
-
นอกจากนี้นะคะ ที่วัดแห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปสำคัญ
-
อยู่ทั้งหมด 2 องค์ด้วยกันค่ะ
-
องค์แรกนะคะ อยู่ด้านหลังวิวเลย
-
ก็คือพระอัฏฐารสนั่นเอง
-
เป็นพระพุทธรูปยืน สูง 18 ศอก
-
เรียกได้ว่าเป็นพุทธลักษณะที่สวยงามมาก
-
เห็นได้ชัดว่าเป็นพระแบบสุโขทัยนะคะ
-
ในศิลาจารึกหลักที่ 1 นะคะ
-
ได้บรรยายถึงพระอัฏฐารสสององค์นี้ไว้ว่า
-
"กลางเมืองสุโขทัยนี้มีพิหาร
-
มีพระพุทธรูปทอง มีพระอัฏฐารส
-
มีพระพุทธรูปอันใหญ่
-
มีพระพุทธรูปอันราม"
-
ซึ่งจริงๆ แล้วนะคะ พระอัฏฐารสนี่ก็ไม่ได้มีแค่องค์เดียวนะคะ
-
แต่เป็นคู่ประดิษฐานอยู่ที่ด้านเหนือและด้านใต้
-
ของเจดีย์มหาธาตุภายในวัดค่ะ
-
ว่าแต่นอกจากพระอัฏฐารสแล้วเนี่ย
-
ได้ยินไหมคะว่าศิลาจารึกหลักที่ 1
-
พูดถึงพระพุทธรูปอีกองค์นึง
-
ก็คือพระพุทธรูปทอง
-
พระองค์นี้นะคะ จริงๆ ไม่ได้ปรากฏแค่ในศิลาจารึกหลักที่ 1
-
แล้วก็ไม่ได้เป็นทองคำค่ะ
-
แต่ปรากฏในศิลาจารึกวัดป่ามะม่วง ปี พ.ศ. 1904
-
สมัยพระมหาธรรมราชาลิไทด้วยนะคะ
-
แปลว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญจริงๆ
-
ว่าแต่พระองค์นี้คือพระอะไร ไปฟังกันค่ะ
-
ยังมีพระอีกองค์นึงที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับวัดนี้ค่ะ
-
เป็นพระพุทธรูปสำริดนะคะ
-
ที่ปรากฏในศิลาจารึกอะไรต่างๆ ก็จะพูดว่า
-
เป็นพระพุทธรูปสำริด และที่สำคัญ พระพุทธรูปสำริดองค์นี้
-
เป็นพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
-
ซึ่งคนสุโขทัยเนี่ยนะคะ
-
จะรู้จักพระพุทธรูปองค์นี้ในฐานะหลวงพ่อโตค่ะ
-
อย่างไรก็ตามนะคะ หลวงพ่อโตองค์นี้
-
ปัจจุบันไม่ได้อยู่ที่วัดมหาธาตุสุโขทัยแล้วค่ะ
-
เพราะว่าในสมัยรัชกาลที่ 1 นะคะ
-
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเนี่ย
-
ได้อัญเชิญหลวงพ่อโตองค์นี้นะคะ ไปไว้ที่กรุงรัตนโกสินทร์ค่ะ
-
แล้วก็อัญเชิญไปไว้ที่วัดสุทัศน์นะคะ
-
หลังจากนั้นค่ะ ในสมัยรัชกาลที่ 4
-
รัชกาลที่ 4 ก็พระราชทานชื่อนะคะ
-
ให้กับพระองค์นี้ว่าพระศรีศักยมุนีค่ะ
-
ดังนั้นถ้าใครอยากเห็น
-
พระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเนี่ย
-
ก็สามารถไปดูได้ที่วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ ค่ะ
-
วัดที่นี่ก็จะเหลือแค่ฐานพระให้ชมนะคะ
-
จริงๆ นอกจากพระพุทธรูปที่วิวกล่าวถึงไปแล้วเนี่ยนะคะ
-
ในวัดมหาธาตุนี่ก็มีอะไรให้ดูอีกมากมายเลยค่ะ
-
เรียกได้ว่าพูดไม่หมดเลยนะ
-
อย่างเจดีย์นี่ในวัดก็มีอยู่มากมาย
-
ประมาณ 200 องค์เลยทีเดียวค่ะ
-
ซึ่งเจดีย์แต่ละองค์นี่ก็หลากหลายมากๆ นะคะ
-
มาแอบดูกันดีกว่าว่าในวัดมหาธาตุนี่
-
มีแบบไหนบ้างที่พอเห็นได้นะคะ
-
แบบที่พอจะเห็นได้นะคะ ก็คือทรงกลม
-
หรือว่าทรงลังกา ที่ได้รับอิทธิพลมาจากลังกานี่ละค่ะ
-
คุ้นเคยกันดีนะคะแบบนี้
-
Advance ขึ้นมาหน่อยค่ะ
-
ก็เป็นทรงกลมแบบยกฐานขึ้นมานะคะ
-
แล้วก็มีช้างล้อมอยู่ตรงฐานค่ะ
-
แบบนี้ก็อิทธิพลลังกาเช่นกันนะ
-
ซึ่งจริงๆ แบบเนี้ย ถ้าเราอยากดูชัดๆ จริงๆ
-
เราต้องไปวัดที่ชื่อว่าวัดช้างล้อมค่ะ
-
แบบถัดไปนี่ก็คือแบบทรงปราสาทนะคะ
-
ก็จะเป็นแบบเหลี่ยมๆ ชั้นๆๆ ขึ้นไปแบบนี้ค่ะ
-
หรือจะเป็นเจดีย์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัยสุดๆ เนี่ยนะคะ
-
ที่นี่ก็มีให้ดูเหมือนกันค่ะ
-
เจดีย์ทรงนี้ก็คือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์
-
ที่ด้านบนจะเป็นลักษณะแบบดอกบัวนะคะ
-
จะหน้าตาเป็นยังไง ไปดูกันค่ะ
-
ตอนนี้นะคะ เราก็มาอยู่ที่
-
เจดีย์องค์ที่สำคัญที่สุดในวัดแห่งนี้แล้วค่ะ
-
ก็คือเจดีย์องค์ข้างหลังเลย
-
องค์นี้นะคะ เป็นเจดีย์องค์ประธานของวัดพระศรีมหาธาตุค่ะ
-
ซึ่งนอกจากจะเป็นองค์ประธานแล้วเนี่ย
-
เรายังเห็นได้นะคะว่าลักษณะทางศิลปะเนี่ย
-
เป็นเจดีย์แบบสุโขทัย Original มากๆ เลยนะคะ
-
เพราะว่านี่คือเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ค่ะ
-
เห็นด้านบนไหม ลักษณะเหมือนดอกบัวเลยนะคะ
-
ลักษณะเนี้ย เราจะเห็นได้ที่สุโขทัย ศรีสัชนาลัย
-
อะไรประมาณนี้ค่ะ
-
คือเป็นศิลปะแบบยุคสุโขทัยมากๆ เลยนะคะ
-
เราจะไม่ค่อยไปเห็นในแบบอยุธยา รัตนโกสินทร์เลยนะทุกคน
-
เห็นอะไรแบบนี้ คิดไว้ก่อนเลยค่ะว่าสุโขทัย
-
ปะ เดี๋ยวเราไปดูกันต่อนะ
-
นอกจากเจดีย์แล้วเนี่ยนะคะ
-
ที่นี่ยังมีลักษณะทางศิลปะที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างค่ะ
-
ก็คือ เป็นลักษณะเฉพาะของสุโขทัยเลยนะ
-
คือเขาจะทำพิธีอะไรต่างๆ เนี่ย
-
ในวิหารกันมากกว่าพระอุโบสถค่ะ
-
คือถ้าเราคุ้นเคยกันดีกับวัดแบบรัตนโกสินทร์
-
เราก็จะรู้ว่าทุกวัดจะต้องมีอุโบสถเป็นของตัวเองใช่ไหม
-
แต่ว่าที่สุโขทัยค่ะ
-
เนื่องจากวัดเนี่ยอยู่ติดๆๆๆ กันไปหมดเลยนะคะ
-
ดังนั้นเหมือนกับว่า เขาจะมีพระอุโบสถเนี่ย 1 หลัง
-
แล้วก็ใช้แชร์กันหลายๆ วัดค่ะ
-
ในขณะที่อาคารที่สำคัญกว่าในศิลปะแบบสุโขทัยนะคะก็คือ
-
พระวิหารนั่นเอง
-
ซึ่งจะเป็นที่ๆ ทั้งพระสงฆ์ทั้งฆราวาสเนี่ย
-
ใช้ทำพิธีกรรมอะไรต่างๆ ร่วมกันนะคะ
-
และจุดเด่นอีกจุดนึงของวิหารแบบสุโขทัยก็คือ
-
วิหารแบบสุโขทัยเนี่ย จะไม่มีกำแพงค่ะ
-
คือจะมีบ้างบางที่แหละที่มีกำแพง
-
แต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นวิหารแบบเปิดโล่งนะคะ
-
แล้วก็ให้ลมเนี่ยโกร่งเข้ามาได้ค่ะ
-
ดังนั้นหลังคาของวิหารแบบสุโขทัยนะคะ
-
ก็เลยจะค่อนข้างต่ำค่ะ
-
เพื่อที่จะกันฝนเนี่ย สาดเข้ามาด้านในค่ะ
-
ดังนั้นนะคะ ถ้าสมมุติว่าเราเข้ามาในวัดพระศรีมหาธาตุเนี่ย
-
เราก็จะเห็นว่า เอ๊ เหมือนมีอาคาร
-
ที่หน้าตาดูเป็นพระวิหารเนี่ย 2 หลัง
-
หลังนึงดูเตี้ยกว่า อีกหลังนึงดูสูงกว่า
-
ก็ชัดเจนเลยนะคะว่าหลังที่สูงกว่าเนี่ย
-
เขาเรียกว่าวิหารสูงค่ะ
-
เป็นอาคารที่สร้างขึ้นมาเพิ่มเติมนะคะ
-
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาค่ะ
-
เป็นศิลปะแบบกรุงศรีอยุธยาเลยนะ
-
ไม่ใช่สุโขทัยค่ะ
-
ซึ่งทำให้สเกลของวัดนี้ผิดเพี้ยนไปนะคะ
-
อย่างไรก็ตาม ช่างมันค่ะ
-
เราไปดูกันต่อดีกว่า ปะ
-
ออกจากวัดมหาธาตุ
-
ที่สำคัญเป็นอันดับหนึ่งของเมืองสุโขทัยมานะคะ
-
เราก็มาวัดที่สำคัญเป็นอันดับที่ 2 เลยค่ะ
-
แต่หลายคนเนี่ยไม่ค่อยรู้จักนะคะ
-
วัดนี้คือวัดพระพายหลวงค่ะ
-
วัดพระพายหลวงเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่ง
-
ภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
-
ตั้งอยู่นอกกำแพงทางทิศเหนือ
-
ผังวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
-
มีคูน้ำล้อมรอบ 3 ชั้น
-
คูชั้นนอกนี่เรียกว่าคูแม่โจนนะคะ
-
ที่สำคัญ วัดนี้ปัจจุบันยังมีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ค่ะ
-
ว่าแต่พูดมาว่าวัดนี้เป็นวัดสำคัญอันดับที่ 2
-
ในอุทยานประวัติศาสตร์เนี่ย
-
อยากรู้กันไหมคะว่าทำไมวัดนี้
-
ถึงเป็นวัดที่สำคัญขนาดนั้นค่ะ
-
เพราะว่าตอนที่เราพูดถึงวัดมหาธาตุเนี่ย
-
นั่นคือศูนย์กลางของชุมชนสมัยสุโขทัยใช่ไหมคะ
-
แต่ว่าวัดพระพายหลวงค่ะ
-
เป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางชุมชนในยุคโบราณ
-
ก่อนสุโขทัยเข้าไปอีกนะคะ
-
ดังนั้นถ้าถามว่ายุคก่อนสุโขทัยนะคะ
-
ชาวเราบริเวณนี้เป็นอะไร ก็ต้องบอกว่า
-
เป็นขอมค่ะ ประมาณว่า
-
ได้รับอิทธิพลขอมเต็มที่เลยนะคะ
-
ที่วัดพระพายหลวงแห่งนี้นะคะ เราจะเห็นว่า
-
มีลักษณะความเป็นขอมชัดเจนมาก
-
เห็นได้จากพระปรางค์ด้านหลังค่ะ
-
คือเวลาเราพูดถึงพระปรางค์สามองค์เนี่ยนะคะ
-
เราจะไปนึกถึงพระปรางค์ที่ลพบุรีใช่ไหมคะ
-
แต่ว่าที่นี่ก็มีพระปรางค์สามองค์เหมือนกันนะคะ
-
เพราะว่าสร้างในสมัยเดียวกันเลย
-
ก็คือในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7
-
อาณาจักรขอมนะคะ
-
ทีเนี้ยปัญหาก็คือที่นี่อะ
-
สร้างมาในตอนแรกไม่ได้เป็นวัดนะคะ
-
ไม่ได้เป็นวัดพุทธแบบเถรวาทแบบที่เราคุ้นเคยกันค่ะ
-
แต่ว่าตอนที่สร้างขึ้นมา สันนิษฐานว่า
-
ถ้าไม่ได้เป็นเทวาลัยของศาสนาพราหมณ์ฮินดูเนี่ย
-
ก็อาจจะเป็นวัดของพุทธศาสนานิกายมหายานนะคะ
-
อย่างไรก็ดีค่ะ ในเวลาต่อมา
-
เมื่อชาวสุโขทัยหันมานับถือ
-
พุทธศาสนานิกายเถรวาทมากขึ้นนะคะ
-
ก็มีการเปลี่ยนวัดนี้ให้เป็นวัดแบบเถรวาทค่ะ
-
แต่อย่างไรก็ตามนะคะ เราก็ยังได้เห็นศิลปะที่เป็น
-
ที่เป็นสไตล์ขอม หลงเหลืออยู่ค่ะ
-
ซึ่งเมื่อกี้นะคะ วิวบอกว่าพระปรางค์มีทั้งหมด 3 องค์ใช่ไหมคะ
-
มองไปข้างหลัง ยังไงก็องค์เดียวนี่นา
-
คือตอนนี้พระปรางค์เหลือแค่องค์เดียวค่ะ
-
อีก 2 องค์เนี่ยก็ตามกาลเวลานะคะทุกคน
-
ทุกคน~ ที่วัดพระพายหลวงวิวเจอของน่าสนใจอย่างนึงค่ะ
-
คือตรงนี้เขาบอกว่าท่ีนี่อะ ในสุโขทัยทั้งหมดนะคะ
-
มันมี Application AR ค่ะ
-
วิวก็เลยลองโหลดมาเล่นดู นี่นะคะ
-
พอเราโหลดมาปุ๊บอะ แล้วเราลองเอามาเล่นดูนะ
-
มันก็จะให้เราเลือกว่าเราอยู่ที่วัดไหน
-
ตอนนี้วิวอยู่ที่วัดพระพายหลวง
-
เราก็ดูหมายเลขนะคะ ตรงนี้เป็นวัดพระพายหลวง 2
-
เราก็เลือกวัดพระพายหลวง 2 ปุ๊บ
-
แล้วเราก็ส่องไปนะคะ ส่องไปปุ๊บ
-
โอ้โห! เราก็จะเห็นเป็น AR ขึ้นมาเลยนะคะ
-
ว่าจุดที่เรายืนอยู่เนี่ย ในสมัยโบราณอะ
-
วัดพระพายหลวงตอนที่วัดยังสมบูรณ์อยู่นะคะ หน้าตาเป็นยังไง
-
ก่อนที่พระปรางค์จะไม่อยู่แล้วทั้ง 3 องค์ หน้าตาเป็นยังไงค่ะ
-
เรียกได้ว่า ถ้าเกิดสมมุติว่า
-
ปกติเราดูแค่แบบศิลาแลง เราดูแค่อิฐแล้วจินตนาการไม่ออก
-
แอปนี้น่าจะช่วยได้เยอะเลยค่ะ
-
ลองมาเล่นกันได้ที่สุโขทัยนะคะทุกคน
-
มาเห็นของจริงกับตาแล้วจะแบบ
-
และตอนนี้นะคะ เราก็มาอยู่ที่วัดศรีชุมค่ะ
-
ซึ่งเป็นวัดสำคัญแห่งนึงของจังหวัดสุโขทัยเลยนะคะ
-
เรียกได้ว่าถ้าใครจัดทัวร์สุโขทัยเนี่ย พลาดวัดนี้ไม่ได้เลย
-
ด้วยความยิ่งใหญอลังการ
-
ด้วยภาพที่แปลกตาด้านหลังเนี่ยนะคะ
-
ซึ่งถามว่าวัดนี้สำคัญยังไง
-
ก็บอกว่าสำคัญที่องค์พระอจนะที่อยู่ด้านหลังวิวเนี่ยละค่ะ
-
พระพุทธรูปองค์ใหญ่นี้นะคะ ชื่อว่าพระอจนะค่ะ
-
เป็นพระที่มีหน้าตักกว้างถึง 11.3 เมตรนะคะ
-
เรียกได้ว่าใหญ่มากนะคะทุกคน
-
นอกจากนี้นะคะ ยังเป็น
-
พระที่มีลักษณะแบบศิลปะสุโขทัยเต็มที่เลย
-
ก็จะเห็นว่าพระพักตร์ของพระองค์ ตรงส่วนต่างๆ เนี่ย
-
ชดช้อยงดงามนะคะ
-
ก็คือมีลักษณะของความเป็นบุรุษแหละ
-
เป็นผู้ชาย แต่เป็นผู้ชายที่อ่อนโยน นุ่มนวล
-
ประมาณนี้นะคะ
-
นอกจากนี้สังเกตบริเวณพระนาภีนะคะ
-
จะเห็นว่าปลายสังฆาฏิเนี่ย ขดเป็นรูปตะขาบใช่ไหมคะ
-
นี่แหละเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธรูปแบบสุโขทัย
-
ในปางมารวิชัยเป๊ะๆๆ เลยค่ะทุกคน
-
นอกจากนี้ ลักษณะที่ยังแสดงให้เห็นอีกว่านี่คือ
-
วัดแบบสุโขทัยนะ ก็คือว่าอาคารที่อยู่ด้านหลังนี่นะคะ
-
จะเป็นอาคารทรงมณฑป เป็นรูปสี่เหลี่ยมใช่ไหมคะ
-
และแทบจะพอดีองค์พระพุทธรูปเลยค่ะ
-
เพราะว่าเขาเชื่อกันว่าพระพุทธรูป
-
คือตัวแทนของพระพุทธเจ้าใช่มะ
-
ดังนั้นนี่คือที่อยู่ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-
แปลว่าไม่จำเป็นต้องมีเกินที่จำเป็นก็ได้
-
มีแค่นั้นก็พอแล้ว ประมาณนี้นะคะ
-
แบบพอดีตัวก็พอแล้ว ไม่ต้องมีเกินไปกว่านั้น
-
อะ แล้วถามว่าเวลาจะทำพิธีกรรมอะไร ทำยังไง
-
สมัยก่อนนี่ไม่ใช่วัดร้างใช่ไหม นี่เป็นวัดที่ใช้งานจริง
-
ก็ต้องขอบอกว่าสมัยก่อน
-
เขาไม่ได้เข้าไปทำพิธีกันด้านในนะคะ
-
แต่ว่าเขาจะทำพิธีกันตรงที่วิวยืนอยู่นี่ละค่ะ
-
นี่คือพระวิหารนะคะ
-
ซึ่งเขาก็จะตั้งไว้ด้านหน้าพระคันธกุฎี
-
เพราะว่าเปรียบเสมือนว่า เออ เราทำพิธีอะไรต่างๆ
-
โดยมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
-
เป็นพยานในพิธีนั่นเองค่ะ
-
โดยมีสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนี่ย
-
มองเห็นพิธีทั้งหมดค่ะ
-
ที่สำคัญนะคะ พระอจนะองค์เนี้ย
-
มีความสำคัญอีกอย่างนึงค่ะ ก็คือ
-
นี่คือพระพุทธรูปที่พูดได้
-
ที่วิวพยายามจะพาทุกคนมาดูตั้งแต่ต้นคลิปนะคะ
-
เดี๋ยวเราเข้าไปดูกันดีกว่าว่า
-
ท่านก็ดูเป็นพระพุทธรูปธรรมดา
-
ท่านพูดได้ได้ยังไงนะคะ
-
ปะ เข้าไปดูกัน
-
วัดศรีชุมเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่ง
-
ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนะคะ
-
ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่ะ
-
สันนิษฐานว่าน่าจะมีมาตั้งแต่สมัยก่อนที่
-
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์จะสถาปนากรุงสุโขทัย
-
ขึ้นเป็นราชธานีนะคะ
-
วัดนี้เป็นวัดที่ประดิษฐานพระอจนะค่ะ
-
พระที่แปลว่าผู้ไม่หวั่นไหวนะคะ
-
ลักษณะของวิหารเนี่ย สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม
-
ลักษณะคล้ายมณฑปค่ะ
-
แต่หลังคาเนี่ยพังทลายลงมาหมดแล้ว
-
เหลือเพียงแค่ผนังสี่ด้าน
-
ผนังแต่ละด้านก็ถืออิฐก่อปูนอย่างแน่นหนานะคะ
-
ชื่อของวัดศรีชุมเนี่ยนะคะ
-
คำว่าศรี เขาสันนิษฐานกันว่ามาจากคำว่าสะหลี
-
ซึ่งเป็นคำพื้นเมืองของไทยเดิมค่ะ
-
แปลว่าต้นโพธิ์นะคะ
-
ดังนั้นชื่อศรีชุมก็คือสะหลีชุม
-
หมายถึงวัดที่มีต้นโพธิ์มากนั่นเองค่ะ
-
แต่อย่างไรก็ตามนะคะ
-
ในหนังสือพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา
-
ที่เขียนขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย
-
ในแผ่นดินสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเนี่ย
-
ไม่เข้าใจความหมายนี้แล้วค่ะ
-
ดังนั้นในนั้นเขาก็เลยบันทึกชื่อนี้ไว้ว่า
-
วัดฤาษีชุมนะคะ
-
ซึ่งไม่ได้สำคัญกับเราเท่าไร
-
สิ่งที่สำคัญกับเราก็คือ ในพระราชพงศาวดารเล่มเนี้ย
-
บันทึกไว้ว่านี่เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
-
มาประชุมทัพกันอยู่
-
ก่อนที่จะยกทัพไปปราบเมืองสวรรคโลกค่ะ
-
ซึ่งเรื่องนี้เองนะคะก็เป็นต้นตอของตำนานพระพูดได้
-
ที่เล่าต่อกันมานี่ละค่ะ
-
และทั้งหมดนี้นะคะ ก็คือวัดศรีชุมที่เราคุ้นเคยกันค่ะ
-
แต่ฟังมาขนาดนี้ก็อาจจะเห็นว่า
-
วัดนี้เป็นวัดที่สวยงาม เป็นวัดที่มีชื่อเสียงกัน
-
แต่ว่า เอ๊ะ แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับพระพูดได้นะคะ
-
วันนี้นะคะ เนื่องจากวิวอยากให้
-
ทุกคนในช่อง Point of View เนี่ย
-
เห็นจริงๆ เลยว่าพระพูดได้คืออะไร
-
วิวก็เลยขออนุญาตมาเป็นพิเศษ
-
แบบพิเศษสุดๆ เลยจริงๆ นะคะ
-
อันนี้คนอื่นไม่ได้นะ ถ้ามาเอง
-
อย่าพยายามขึ้นไปนะคะ
-
คือวิวจะพาทุกคนเข้าไปในอุโมงค์ด้านหลังนี้ค่ะ
-
เพื่อที่จะขึ้นไปดูด้านหลังของพระอจนะองค์นี้นะคะ
-
ว่า เอ๊ะ เกี่ยวข้องยังไงกับพระพูดได้ค่ะ
-
เดี๋ยวเราเข้าไปดูด้านในกันค่ะ ปะ
-
อุโมงค์วัดศรีชุมเนี่ยนะคะ เป็นอุโมงค์ที่ทอดยาว
-
ตั้งแต่ผนังด้านซ้ายทางเข้าวิหารพระอจนะค่ะ
-
วนรอบองค์พระนะคะ จากด้านข้าง
-
อ้อมไปที่ด้านหลัง จนกระทั่งขึ้นไปโผล่ที่ด้านบน
-
บริเวณที่เคยเป็นหลังคาของพระวิหารมาก่อนค่ะ
-
ซึ่งตลอดทางนะคะ ก็จะมีช่องอากาศ
-
เจาะให้มองออกไปภายนอกได้เป็นระยะ
-
ตัวอุโมงค์เนี่ยมีลักษณะแคบ แล้วก็สูงชันมากๆ นะคะ
-
ระดับที่ตัววิวเองเดินเข้าไปเนี่ย ยังแทบจะพอดีตัวเลยค่ะ
-
ดังนั้นถ้าคนตัวใหญ่ อาจจะไม่สามารถขึ้นมาได้นะคะ
-
แต่ละคนที่ขึ้นไปนี่ก็ต้องเดินแถวเรียงหนึ่ง
-
แล้วก็ไม่สามารถสลับที่กันได้เลยค่ะ
-
ที่สำคัญนะคะ เราไม่สามารถแตะผนังด้านข้างได้เลย
-
แม้ว่าจะสูงชันขนาดไหนก็ตาม
-
เพราะว่าผนังด้านในเดิมมีภาพจิตรกรรมเขียนสี
-
ด้วยสีแดง สีเหลือง สีดำ แล้วก็สีขาวค่ะ
-
แต่ปัจจุบันเนี่ย เลือนหายไปตามกาลเวลาแล้วนะคะ
-
ที่เหลือให้เราได้ดูก็คือเพดานด้านบนค่ะ
-
จะเป็นหินชนวดสลักลายกรุเอาไว้ตลอดทางนะคะ
-
ซึ่งลายที่สลักเนี่ยก็จะเป็นชาดกเรื่องต่างๆ ค่ะ
-
ยาวไปตลอดทางเลย
-
บางแผ่นก็มีอักษรจารึกอยู่ด้วยนะ
-
ว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
-
ดูลายเส้นของจารึพวกนี้สิคะ สวยงามอ่อนช้อยจริงๆ ใช่ไหม
-
ดูแล้วเป็นศิลปะไทยที่เก่าแก่จริงๆ ค่ะ
-
นอกจากชาดกแล้วนะคะ ด้านในตรงที่เลี้ยงโค้งเนี่ย
-
ถ้าเงยหน้าขึ้นไปด้านบนเราก็จะเห็น
-
รอยพระพุทธบาทขนาดใหญ่ที่เป็นสัญลักษณ์ว่า
-
พระพุทธศาสนาเดินทางมาถึงที่นี่แล้ว
-
ประดับอยู่ด้วยค่ะ
-
เดินต่อไปจนสุดอุโมงค์นะคะ
-
ก็จะมาโผล่ที่บริเวณหลังคาของวิหารพระอจนะพอดีค่ะ
-
ที่ด้านบนเนี่ยนะคะ
-
นอกจากเราจะเห็นองค์พระอจนะ
-
ในมุมที่แปลกตาแล้วเนี่ยนะคะ
-
ยังสามารถเห็นทิวทัศน์ของสุโขทัยได้ทั้งเมืองเลยค่ะ
-
เรียกได้ว่าด้านบนวิวสวยจริงๆ เลยนะคะทุกคน
-
อะ นอกเรื่อง กลับมาดีกว่า
-
แอบบอกทุกคนนิดนึงนะคะ
-
ว่านอกจากจารึกที่เป็นภาพสลักชาดก
-
ที่เห็นอยู่ตอนนี้แล้วเนี่ย
-
ในอุโมงค์วัดศรีชุมยังมีของสำคัญกว่านั้นอีกค่ะ
-
เพราะภายในเนี่ยนะคะ เป็นที่ค้นพบจารึกวัดศรีชุม
-
หรือที่เรารู้จักดีกันในนาม
-
จารึกหลักที่ 2 นั่นละค่ะ
-
ใช่ค่ะ ศิลาจารึกนี่ไม่ได้มีแค่หลักที่ 1
-
ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชนะคะ
-
ยังมีอีกหลายหลักเลยทีเดียว
-
สำหรับหลักที่ 2 ของวัดศรีชุมเนี่ย
-
สันนิษฐานว่าเป็นของพระมหาเถรศรีศรัทธานะคะ
-
ซึ่งพระมหาเถรศรีศรัทธาองค์เนี้ย
-
ก็เป็นเชื้อสายของพ่อขุนศรีนาวนำถุม
-
ซึ่งเป็นเครือญาติทางศรีสัชนาลัย
-
ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชนี่ละค่ะ
-
และพระมหาเถรศรีศรัทธาองค์นี้เนี่ย
-
ก็เป็นองค์ที่เราเชื่อกันว่า
-
ท่านเนี่ยนะคะ ออกบวชแล้วก็เดินทางไปจนถึงลังกาค่ะ
-
จนกระทั่งนำพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์นะคะ
-
กลับมาที่สุโขทัยนี่ละค่ะ
-
ส่วนจารึกหลักที่ 2 ของท่านเนี่ยนะคะ
-
ก็จะเน้นเล่าเรื่องราวการก่อตั้งแคว้นสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย
-
แล้วก็วีรกรรมของกษัตริย์ราชวงศ์นาวนำถุมเป็นหลักค่ะ
-
ก็เป็นหลักฐานที่ทำให้เรารู้ได้นะคะว่า
-
แคว้นสุโขทัย-ศรีสัชนาลัยเนี่ย
-
ก่อตั้งขึ้นมาอะไรยังไงบ้าง
-
แต่ปัจจุบันเนี่ยนะคะ เราไม่สามารถเห็นจารึกหลักนี้ได้
-
ในอุโมงค์วัดศรีชุมแล้วนะ
-
เพราะว่าตอนนี้เก็บรักษาไว้ที่
-
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครค่ะ
-
ซึ่งทั้งจารึกภาพชาดกที่ประดับอยู่ในอุโมงค์ปัจจุบัน
-
จารึกหลักที่ 2 นี้
-
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพนะคะ
-
ก็ทรงอธิบายเพิ่มเติมจาก
-
พระราชนิพนธ์ "เที่ยวเมืองพระร่วง"
-
ของสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวไว้ว่า
-
จารึกพวกเนี้ย น่าจะเคยเป็นเครื่องประดับพระเจดีย์
-
ในวัดมหาธาตุ หรือประดับเจดีย์ที่เมืองอื่นค่ะ
-
แต่ต่อมามีกษัตริย์ในราชวงศ์พระร่วงซักองค์นึงเนี่ยนะคะ
-
เห็นว่าตากแดดตากฝนอยู่ที่อื่น ไม่เหมาะสมค่ะ
-
ก็เลยนำมาเก็บรักษาไว้ที่นี่
-
เพื่อไม่ให้โดนลมและฝนนั่นเองค่ะ
-
ซึ่งเรื่องนี้นะคะ บางคนเขาก็บอกว่า
-
ไม่ได้หลบลมหลบฝนหรอกค่ะ
-
แต่ว่าหลบการเมืองระหว่างราชวงศ์นี่แหละ
-
คืออย่างที่เล่าไปตอนต้นนะคะว่าอาณาจักรสุโขทัยเนี่ย
-
ถือกำเนิดขึ้นจากระบบเครือญาติจาก 3 เมืองนะคะ
-
ดังนั้นมันก็ต้องมีความเปรี๊ยะๆ กันนิดนึงว่า
-
"เอ๊ แล้วทำไมเธอได้ครองเมือง แล้วชั้นไม่ได้ครองเมืองน้า"
-
เขาก็เลยสันนิษฐานกันว่า
-
อาจจะมีความขัดแย้งกันระหว่างราชวงศ์พระร่วงนะคะ
-
ที่เราคุ้นเคยกันดี
-
กับราชวงศ์ศรีนาวนำถุม
-
ของพ่อขุนศรีนาวนำถุมนั่นเองค่ะ
-
ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้เจ้าของจารึกหลักที่ 2
-
อย่างพระมหาเถรศรีศรัทธา
-
ซึ่งเป็นคนของราชวงศ์ศรีนาวนำถุมเนี่ย จะต้องออกบวช
-
ดังนั้นจารึกหลักที่ 2 ที่เขียนเรื่องราวของ
-
ราชวงศ์ศรีนาวนำถุม
-
เนื้อหาก็มีความเกทับจารึกหลักที่ 1 หน่อยๆ
-
ตรงที่พ่อขุนรามคำแหงมหาราชเนี่ย
-
เคยจารึกไว้ในจารึกหลักที่ 1 ว่า
-
"ชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด"
-
แต่ในจารึกหลักที่ 2 เนี่ยนะคะ เล่าเลยค่ะ
-
ว่ามหาเถรศรีศรัทธาเนี่ย
-
ก่อนบวชเคยชนช้างเหมือนกัน
-
แถมใช้ช้างพังเนี่ยนะ ชนชนะช้างพลายตกมันด้วย
-
อือหื้อ แบบ "ชั้นใช้ช้างตัวเมียนะเออ ชั้นก็ชนะ"
-
แถมตัวจารึกเนี่ย ก็ไปเจออยู่ในอุโมงค์ลับ
-
ที่สังเกตเห็นยากนิดนึง
-
คนสมัยนี้ก็เลยสันนิษฐานกันค่ะว่า
-
เออ ตัวจารึกเนี่ยอาจจะเคลื่อนย้ายมาที่หลัง
-
เอามาแอบเอาไว้
-
เพื่อหลบซ่อนเรื่องราวของราชวงศ์ศรีนาวนำถุม
-
แล้วก็เรื่องราวของพระมหาเถรศรีศรัทธาก็เป็นได้ค่ะ
-
แต่ความจริงจะเป็นยังไงเนี่ย
-
คนสมัยหลังแบบเราก็ได้แต่เดาเนอะ
-
ว่าแต่อุโมงค์นี้เกี่ยวยังไงกับเรื่องพระพูดได้
-
ที่วิวบอกว่าวิวจะพาทุกคนมาชมกัน
-
ก็ต้องบอกว่าเกี่ยวตรงช่องที่เจาะไว้ตามทางเนี่ยละค่ะ
-
จะเห็นว่าช่องเนี่ย เจาะไว้หลายด้านใช่ไหม
-
บางช่องก็อยู่ที่ด้านข้างของพระพักตร์
-
บางช่องก็ทะลุออกออกไปด้านหลัง
-
เห็นทิวทัศน์เมืองสุโขทัย
-
แต่จะเห็นว่ามีอยู่ช่องนึงค่ะ อยู่ตรงด้านหลังพระศอ
-
หรือว่าบริเวณคอของพระพุทธรูปพอดีเลย
-
ห้องนี้นะคะ เชื่อกันว่ามีไว้ให้พระ หรือว่าแม่ทัพค่ะ
-
ขึ้นมาพูดกับคนที่อยู่ด้านล่างนะคะ
-
ลองนึกภาพในสมัยโบราณนะคะ ไฟสลัวๆ
-
มองอะไรไม่ค่อยเห็น มีแสงเทียนวับๆ แวมๆ
-
คนก็ไม่ค่อยทราบหรอกค่ะว่าในผนังหนา 3 เมตร
-
มีช่องซ่อนอยู่
-
เกิดประชาชนหรือทหารมาชุมนุมกันอยู่ด้านหน้านะคะ
-
แล้วอยู่ๆ มีเสียงลอยออกมาจากพระศอของพระพุทธรูป
-
แถมเป็นเสียงที่ก้องกังวาน
-
เพราะว่าอยู่ในวิหารแคบๆ สมัยที่ยังมีหลังคาเนี่ย
-
รับรองว่าเชื่อกันแน่ๆ ค่ะ
-
ว่านี่เป็นเสียงของพระพุทธรูปที่กำลังคุยกับเรานะคะ
-
เรื่องราวนี้ก็จะไปคล้ายกับเรื่องราว
-
ในวรรณคดีเรื่องอิเหนา
-
ตอนบุษบาเสี่ยงเทียนใช่รึเปล่าคะ
-
ที่อิเหนาเนี่ยแอบไปอยู่ด้านหลังพระปฏิมา
-
แล้วก็พูดกับนางบุษบากับมะเดหวีที่มาเสี่ยงเทียนนะคะ
-
จนนางทั้งสองเชื่อว่า
-
พระปฏิมากำลังคุยกับตัวเองจริงๆ ค่ะ
-
แหมะ เทคนิคคนโบราณเนี่ย
-
สุดยอดจริงๆ นะคะ
-
แอบเพิ่มเติมให้นิดนึงค่ะว่า
-
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยนะคะ
-
ที่พาวิวขึ้นไปเนี่ย
-
พี่เขาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่องนี้อาจจะมีไว้ตั้งแต่แรก
-
ไว้เพื่อการนี้เลยนะคะ
-
หรืออาจจะมีคนสังเกตเห็นที่หลัง
-
แล้วก็มาใช้ประโยชน์นี้ที่หลังก็ได้ค่ะ
-
เพราะจริงๆ ช่องอุโมงค์เนี่ยก็สูงขึ้นไปถึงหลังคา
-
ของวิหารพระอจนะใช่ไหมคะ
-
ที่อยู่สูงขึ้นไปขนาดนั้นเนี่ย อาจจะเพราะ
-
เขาตั้งสร้างขึ้นเพื่อให้คนขึ้นไปซ่อมหลังคาที่ทำจากไม้
-
แล้วก็ปรักหักพังได้ง่ายกว่าตัวผนังที่เป็นปูน
-
อีกจุดประสงค์นึงค่ะ
-
และนี่ก็คือเรื่องราวของพระพูดได้
-
ที่วิวจะพาทุกคนมาดูนี่ละค่ะ
-
เป็นยังไงบ้างคะ แอบแวะดูนั่นดูนี่
-
ได้เกร็ดความรู้กันเล็กๆ น้อยๆ
-
บอกเลยว่าจริงๆ เนี่ย วิวไปเที่ยวมาเยอะกว่านี้มากค่ะ
-
แต่ว่าคลิปวิดิโอมันยาวมากพอแล้วนะคะ
-
ดังนั้นวิวก็เลยขออนุญาตตัดออกไปเยอะมากๆ เลยจริงๆ ค่ะ
-
เป็นไงบ้างคะทุกคน
-
ตามวิวไปเที่ยวสุโขทัยใน 1 วันเท่านั้นค่ะ
-
ซึ่งจริงๆ แล้วการเที่ยวสุโขทัยเนี่ย
-
ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยนะคะ
-
เพราะว่า 1 วันก็เที่ยวได้ขนาดนี้เลย
-
แต่จริงๆ แล้วตัวเมืองสุโขทัยเนี่ย
-
มีอะไรที่น่าสนใจอีกเพียบเลย
-
ที่วิวยังพาไปไม่ถึงนะคะ
-
ไม่ว่าจะเป็นพวกเตาทุเรียง วัดก็ยังไปไม่ครบเท่าไร
-
ตัวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยก็ยังไปไม่ถึงนะคะ
-
ถ้าสมมติว่ามีเวลาซัก 2 วัน
-
เป็นวีคเอนท์แบบเสาร์-อาทิตย์
-
นี่น่าจะมีความสุขกว่านี้เยอะเลยค่ะ
-
อย่างไรก็ตาม การเที่ยวอย่างเร่งด่วนแบบนี้และสะดวกสบายแบบนี้
-
จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยนะคะ ถ้าสมมติว่าวิวไม่ได้ บินมาค่ะ
-
ดังนั้น ถ้าใครอยากที่ยวแบบวิว
-
1. สะดวกสบายแน่นอน
-
มาถึงสนามบินโหลดกระเป๋าได้ แบกของมาได้เยอะๆนะคะ
-
แล้วก็มีห้องรับรอง มีอาหารให้กินเรียบร้อย นอนหลับไปตื่นขึ้นมา
-
อ้ะ ถึงสุโขทัยแล้วสบายใจมากๆ
-
และที่สำคัญ
-
เที่ยวได้ตั้งแต่สนามบิน ยันออกไปในตัวเมืองเลยเนี่ย
-
ก็อย่าลืม ตามรอยวิวมาด้วย
-
Bangkok Airways นะคะ ทุกคน
-
สำหรับใครที่ชื่นชอบคลิปนี้นะคะ อย่าลืมกดไลค์เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กดแชร์ให้เพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
-
ใครอยากให้วิวพาไปเที่ยวไหนอีก ก็คอมเม้นมาคุยกันด้านล่างนะคะ
-
ส่วนวันนี้ลาไปก่อนค่ะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ
-
แอบได้ยินวิวพูดถึงครัวสุโขมาตั้งแต่ต้นคลิปแล้วใช่ไหมล่ะคะ
-
บอกเลยว่าจริงๆ วิวเนี่ย ได้ยินชื่อเสียงร่ำลือของครัวสุโข ร้านอาหารในโครงการเกษตรอินทรีย์
-
สนามบินสุโขทัยมานานแล้วค่ะ
-
ว่าอาหารอร่อยแล้วก็ผักสดมากๆนะคะ
-
ไหนๆมีโอกาสก็เลยต้องขอแวะมาชิมซักเล็กน้อยค่ะ
-
แล้วก็บอกเลยว่าไม่ผิดหวังจริงๆนะคะ
-
ดูอาหารแต่ละจานสิ
-
นอกจากจะดูหน้าตาดีแล้ว บอกเลยว่าผักเนี่ย
-
สด ปลอดสารพิษมากๆ เพราะเป็นผักที่เค้าปลูกเองนะคะ
-
จากในโครงการเลย
-
เมนูทั้งหมดที่ชิมมาเนี่ยนะคะ
-
เมนูเด็ดที่ชิมแล้วชอบสุดๆ อยากแนะนำให้ทุกคนมาลอง
-
ก็มีจานนี้เลยค่ะ หมั่นโถวอัญชันน้ำพริกเผานะคะ
-
ดูเหมือนหมั่นโถวธรรมดา แต่สารภาพว่า
-
วิวเนี่ยกินคนเดียวไปเกือบทั้งจานเลยค่ะทุกคน
-
สัมตำผักน้ำอันนี้ก็เด็ดมากๆนะคะ หากินไม่ง่ายเท่าไหร่เลย
-
ส่วนน้ำพริกสามเกลอที่มี น้ำพริกลงเรือ
-
น้ำพริกมะขาม น้ำพริกกะปิอยู่ในจานเดียวนี่ก็เด็ดค่ะ
-
ถามว่าเด็ดขนาดไหนก็
-
เด็ดขนาดที่ เด็ดผักเข้าปากจิ้มน้ำพริกแทบลืมถ่ายคลิปเลยค่ะ
-
อยากสารภาพตรงนี้ว่า จริงๆเป็นคนเกลียดผักคะน้าด้วยนะคะ
-
เพราะว่ากลัวขมค่ะ แต่เจอเมี่ยงคะน้าของที่นี่เข้าไปเนี่ยนะคะ
-
คนอื่นเค้ากินอิ่มลุกกันหมดโต๊ะแล้วค่ะ มีวิวยังนั่งห่อเมี่ยงอยู่เลยทุกคน
-
เด็ดขนาดไหน ถามใจเธอดูนะคะ
-
ส่วนน้ำยอดข้าวคลอโรฟิลล์ที่นี่ นี่ก็ได้ข่าวว่าเค้าผลิตจากที่นี่
-
ส่งขายไปทั่วประเทศเลยนะ
-
กินอะไรทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ตบท้ายด้วยของหวานก็อิ่ม ฟิน พร้อมกลับบ้านพอดีค่ะ
-
ทริปสุโขทัยวันนี้นะคะ บอกเลยว่า เที่ยวก็ได้เที่ยว
-
ความรู้ก็มี รูปก็ได้ถ่าย
-
อาหารอร่อยอีก ฟินครบทุกด้านแล้วค่ะ
-
เป็นหนึ่งวันที่คุ้มจริงๆ เอาเป็นว่าคราวหน้าวิวจะพาไปเที่ยวไหนอีก รอชมกันได้เลยค่ะ
-
วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ