< Return to Video

วิธีจับผิดคนโกหก

  • 0:00 - 0:05
    ที่จริงไม่อยากกวนน้ำให้ขุ่นนะคะ
  • 0:05 - 0:07
    แต่ที่ดิฉันเห็น
  • 0:07 - 0:09
    คนทางขวาคุณน่ะขี้โกหก
  • 0:09 - 0:11
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:11 - 0:14
    คนทางซ้ายคุณก็ด้วย
  • 0:14 - 0:17
    ที่นั่งบนเก้าอี้คุณก็ไม่แพ้กัน
  • 0:17 - 0:19
    เราต่างขี้โกหกค่ะ
  • 0:19 - 0:21
    วันนี้ ดิฉันจะพูดถึง
  • 0:21 - 0:24
    งานวิจัยว่าทำไมคนเราถึงโกหก
  • 0:24 - 0:26
    จะจับโกหกอย่างไร
  • 0:26 - 0:29
    และทำไมควรออกแรงอีกนิด
  • 0:29 - 0:32
    ไม่ใช่แค่เพื่อจับโกหก แต่เพื่อความจริง
  • 0:32 - 0:34
    และท้ายที่สุด เพื่อความเชื่อใจ
  • 0:34 - 0:37
    พูดถึงความเชื่อใจ
  • 0:37 - 0:40
    ตั้งแต่ดิฉันเขียนหนังสือ Liespotting
  • 0:40 - 0:43
    ไม่มีใครอยากเจอฉันเลยค่ะ ไม่มีเลย
  • 0:43 - 0:46
    ส่วนใหญ่บอก "ขอคุยทางเมล์นะ"
  • 0:46 - 0:48
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:48 - 0:52
    ขอแค่เดทที่ร้านกาแฟก็ยังไม่มีใครยอม
  • 0:52 - 0:54
    สามีฉันบอกว่า "จับโกหกเนี่ยนะ?
  • 0:54 - 0:57
    เรียนทำอาหารเถอะ อาหารฝรั่งเศสก็ได้"
  • 0:57 - 0:59
    ก่อนจะพูดต่อ
  • 0:59 - 1:02
    ขอบอกก่อนค่ะ
  • 1:02 - 1:04
    ว่านี่ไม่ใช่เกมจับผิด
  • 1:04 - 1:06
    แบบที่เด็กๆ เล่น
  • 1:06 - 1:09
    ตะโกนว่า "จับได้แล้ว จับได้แล้ว"
  • 1:09 - 1:12
    นั่นไงคิ้วขมวด นั่นจมูกขยับ
  • 1:12 - 1:15
    เห็นในทีวีนะ รู้หรอกว่าโกหก
  • 1:15 - 1:17
    ไม่ใช่ค่ะ
  • 1:17 - 1:20
    เราใช้วิทยาศาสตร์บ่งบอกการโกหก
  • 1:20 - 1:22
    เพื่อข้อเท็จจริง
  • 1:22 - 1:24
    ดังที่ผู้บริหารเผชิญอยู่
  • 1:24 - 1:27
    เพราะคุยงานยาก ทำงานด้วยยาก
  • 1:27 - 1:29
    สถานการณ์ไม่เป็นใจ
  • 1:29 - 1:31
    ทำให้บางครั้ง
  • 1:31 - 1:33
    จำใจยอมรับ
  • 1:33 - 1:35
    ข้อแรกของการโกหกว่า:
  • 1:35 - 1:38
    การโกหกเกิดจาก 2 ฝ่าย
  • 1:38 - 1:42
    คำโกหกคือลมปาก
  • 1:42 - 1:44
    ที่จะได้ผล
  • 1:44 - 1:46
    เมื่ออีกฝ่ายเชื่อในสิ่งนั้น
  • 1:46 - 1:48
    อาจไม่น่าฟังนะคะ
  • 1:48 - 1:52
    แต่เมื่อไรคุณถูกโกหก
  • 1:52 - 1:54
    แสดงว่าคุณยอมที่จะเชื่อค่ะ
  • 1:54 - 1:57
    ข้อเท็จจริงแรก: การโกหกเกิดจาก 2 ฝ่าย
  • 1:57 - 1:59
    แต่การโกหกไม่ใช่ไม่ดีเสมอไป
  • 1:59 - 2:02
    บางทีเราเต็มใจด้วยซ้ำ
  • 2:02 - 2:05
    เพื่ออยู่ร่วมกันในสังคม
  • 2:05 - 2:08
    เพื่อเก็บความลับที่ควรเก็บ
  • 2:08 - 2:10
    เราชมว่า "เพลงเพราะจัง"
  • 2:10 - 2:13
    "ที่รัก คุณไม่อ้วนหรอก"
  • 2:13 - 2:15
    ไม่งั้นต้องอาจพูดตรงๆ ว่า
  • 2:15 - 2:18
    "เพิ่งเห็นอีเมล์นะ มันไปอยู่ในกล่องสแปม
  • 2:18 - 2:21
    ขอโทษที"
  • 2:21 - 2:24
    หลายครั้งเราไม่อยากถูกโกหก
  • 2:24 - 2:27
    เพราะราคามันสูง
  • 2:27 - 2:30
    ปีที่แล้ว มีการโกงกิน 997,000 ล้านเหรียญ
  • 2:30 - 2:34
    ในธุรกิจของสหรัฐอเมริกา
  • 2:34 - 2:36
    อีกแค่เส้นยาแดง ก็ล้านล้านเหรียญ
  • 2:36 - 2:38
    7% ของรายได้ทั้งหมด
  • 2:38 - 2:40
    เสียหายหลายแสนเพราะการโกหกค่ะ
  • 2:40 - 2:43
    ไม่ว่าจะเป็น Enron, Madoff, หรือวิกฤตจำนองบ้าน
  • 2:43 - 2:46
    หรือสายลับสองหน้า คนทรยศ
  • 2:46 - 2:48
    Robert Hanssen หรือ Aldrich Ames
  • 2:48 - 2:50
    การโกหกอาจทรยศต่อประเทศ
  • 2:50 - 2:53
    เป็นภัยความมั่นคง และบ่อนทำลาย
  • 2:53 - 2:56
    ให้ชีวิตตกอยู่ในอันตราย
  • 2:56 - 2:59
    การโกหกเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ
  • 2:59 - 3:01
    Henry Oberlander
  • 3:01 - 3:03
    นักต้มตุ๋นมืออาชีพ
  • 3:03 - 3:05
    รัฐบาลอังกฤษแจ้งว่า
  • 3:05 - 3:08
    Henry เป็นภัยต่อธนาคารฝั่งโลกตะวันตก
  • 3:08 - 3:10
    จะ Google ดูหรือยังไงก็หาไม่เจอ
  • 3:10 - 3:13
    เค้าเคยให้สัมภาษณ์ว่า
  • 3:13 - 3:15
    "กฎของผมมีข้อเดียว"
  • 3:15 - 3:18
    กฎของ Henry คือ
  • 3:18 - 3:20
    "ทุกๆคนจะให้คุณอย่างเต็มใจ
  • 3:20 - 3:23
    ถ้าคุณให้ในสิ่งที่เค้าโหยหา"
  • 3:23 - 3:25
    เคล็ดมันมีเท่านี้
  • 3:25 - 3:27
    ถ้าไม่อยากถูกหลอก คุณต้องเข้าใจ
  • 3:27 - 3:29
    ว่าคุณโหยหาอะไร
  • 3:29 - 3:32
    คงไม่มีใครยอมรับ
  • 3:32 - 3:35
    ว่าเราอยากดีกว่านี้ ในฐานะสามีหรือภรรยา
  • 3:35 - 3:37
    ฉลาดกว่านี้ มีอำนาจกว่านี้
  • 3:37 - 3:39
    สูงกว่านี้ รวยกว่านี้
  • 3:39 - 3:41
    อยากมีไม่รู้จบ
  • 3:41 - 3:43
    การโกหกคือการเติมเต็ม
  • 3:43 - 3:45
    ช่องว่างของสิ่งที่ฝัน
  • 3:45 - 3:48
    ที่เราอยากเป็น
  • 3:48 - 3:51
    กับความเป็นจริง
  • 3:51 - 3:54
    เราเติมเต็มมันผ่านการโกหก
  • 3:54 - 3:57
    ในวันหนึ่งๆ คนเราถูกโกหก
  • 3:57 - 3:59
    10 ถึง 200 ครั้งต่อวัน
  • 3:59 - 4:02
    ส่วนใหญ่จากเจตนาดี
  • 4:02 - 4:04
    งานวิจัยอีกชิ้นพบว่า
  • 4:04 - 4:06
    ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน จะโกหก 3 ครั้ง
  • 4:06 - 4:08
    ใน 10 นาทีแรกที่ได้เจอ
  • 4:08 - 4:10
    (หัวเราะ)
  • 4:10 - 4:13
    ได้ยินแล้วอยากถอยหนี
  • 4:13 - 4:15
    ไม่น่าเชื่อว่ามากขนาดนี้
  • 4:15 - 4:17
    คนส่วนใหญ่ไม่ชอบโกหก
  • 4:17 - 4:19
    แต่เอาเข้าจริงๆ
  • 4:19 - 4:21
    เรื่องมันกลับตาลปัตร
  • 4:21 - 4:24
    เราโกหกคนแปลกหน้ามากกว่าเพื่อนร่วมงาน
  • 4:24 - 4:28
    คนช่างคุยโกหกกว่าคนเงียบ
  • 4:28 - 4:31
    ผู้ชายโกหกเรื่องตัวเอง
  • 4:31 - 4:33
    มากกว่าโกหกเรื่องคนอื่น 8 เท่า
  • 4:33 - 4:36
    ผู้หญิงโกหกเพื่อปกป้องผู้อื่น
  • 4:36 - 4:39
    ในชีวิตแต่งงานทั่วไป
  • 4:39 - 4:41
    คุณโกหก 1 ครั้ง
  • 4:41 - 4:43
    ทุกๆการสนทนา 10 ครั้ง
  • 4:43 - 4:45
    ฟังแล้วรู้สึกแย่
  • 4:45 - 4:47
    แต่ถ้าคุณโสด คุณจะโกหก 1 ใน 3
  • 4:47 - 4:49
    การโกหกนั้นซับซ้อน
  • 4:49 - 4:52
    มันถักทอเข้ากับชีวิตและธุรกิจ
  • 4:52 - 4:54
    เราทั้งรักและชังความจริง
  • 4:54 - 4:56
    อยากฟังความจริงเท่าที่จำเป็น
  • 4:56 - 4:58
    บางทีด้วยเหตุผลที่ดี
  • 4:58 - 5:01
    บางทีด้วยไม่รู้ว่าโหยหาอะไร
  • 5:01 - 5:03
    ข้อเท็จจริงที่ 2 ของการโกหก
  • 5:03 - 5:05
    เราไม่ชอบโกหก
  • 5:05 - 5:07
    แต่ก็เห็นด้วยอยู่ลึกๆ
  • 5:07 - 5:09
    ดั่งที่สังคมได้ดำเนินมา
  • 5:09 - 5:11
    นานนับศตวรรษ
  • 5:11 - 5:13
    มีมาแต่โบราณ
  • 5:13 - 5:15
    ในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
  • 5:15 - 5:18
    ไม่ว่า ดานเต้, เชกสเปียร์
  • 5:18 - 5:21
    คัมภีร์ไบเบิ้ล, ข่าวหนังสือพิมพ์
  • 5:21 - 5:23
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:23 - 5:25
    การโกหกทำให้เราอยู่รอด
  • 5:25 - 5:27
    นักวิจัยรู้ว่า
  • 5:27 - 5:29
    สปีชีส์ที่ยิ่งฉลาด
  • 5:29 - 5:31
    ยิ่งนีโอคอร์เท็กซ์ใหญ่เท่าไหร่
  • 5:31 - 5:33
    ยิ่งโกหกเก่งเท่านั้น
  • 5:33 - 5:35
    คงจำโคโค่ได้นะคะ
  • 5:35 - 5:38
    โคโค่ กอริลล่าที่รู้ภาษามือ
  • 5:38 - 5:41
    โคโค่สื่อสารผ่านภาษาใบ้
  • 5:41 - 5:43
    นี่โคโค่กับลูกแมวน้อย
  • 5:43 - 5:46
    เป็นเพื่อนเล่นของโคโค่
  • 5:46 - 5:48
    โคโค่เคยโทษแมวของเค้า
  • 5:48 - 5:50
    ว่ากระชากอ่างน้ำหลุดจากผนัง
  • 5:50 - 5:52
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:52 - 5:54
    เราโกหกเก่งจากพันธุกรรมค่ะ
  • 5:54 - 5:56
    มาตั้งแต่ต้น
  • 5:56 - 5:58
    ตั้งแต่อ้อนแต่ออก
  • 5:58 - 6:00
    ทารกแกล้งร้องไห้
  • 6:00 - 6:02
    หยุดดูว่าใครมา
  • 6:02 - 6:04
    แล้วร้องไห้ต่อ
  • 6:04 - 6:06
    1 ขวบเริ่มปิดบัง
  • 6:06 - 6:08
    (เสียงหัวเราะ)
  • 6:08 - 6:10
    2 ขวบเริ่มโม้
  • 6:10 - 6:12
    5 ขวบโกหกซึ่งๆหน้า
  • 6:12 - 6:14
    ด้วยการประจบ
  • 6:14 - 6:17
    9 ขวบปกปิดเก่งนัก
  • 6:17 - 6:19
    พอเข้ามหา'ลัย
  • 6:19 - 6:22
    ก็โกหกแม่ทุกการสนทนา 5 ครั้ง
  • 6:22 - 6:25
    พอทำงาน สร้างรายได้
  • 6:25 - 6:27
    ก็จะเจอ
  • 6:27 - 6:29
    เมล์สแปม เพื่อนหลอกๆทางดิจิตอล
  • 6:29 - 6:31
    สื่อที่ไม่เป็นกลาง
  • 6:31 - 6:33
    โจรขโมยข้อมูลส่วนตัว
  • 6:33 - 6:35
    แชร์ลูกโซ่
  • 6:35 - 6:37
    เป็นการระบาดของโรค "หลอกลวง"
  • 6:37 - 6:39
    ที่เรียกว่า
  • 6:39 - 6:42
    ยุคหลังความจริง
  • 6:42 - 6:44
    มันสับสนวุ่นวายค่ะ
  • 6:44 - 6:47
    เป็นมานานแล้วด้วย
  • 6:48 - 6:50
    ทำยังไงดี?
  • 6:50 - 6:52
    ก็เดินตามขั้นตอน
  • 6:52 - 6:54
    เพื่อขึ้นจากหล่ม
  • 6:54 - 6:57
    นักจับโกหกที่ดีจะรู้ถึง 90%
  • 6:57 - 7:00
    คนทั่วไปแค่ 54%
  • 7:00 - 7:02
    ที่มันง่ายเพราะ
  • 7:02 - 7:05
    คนเรามีทั้งโกหกเก่งและไม่เก่ง
  • 7:05 - 7:08
    โกหกคล้ายๆ กัน ทำพลาดคล้ายๆ กัน
  • 7:08 - 7:10
    ดิฉันจะชี้ให้เห็นถึง
  • 7:10 - 7:12
    การโกหก 2 ประเภท
  • 7:12 - 7:15
    แล้วมาดูเคล็ดลับของมัน ว่าจะหาเจอรึเปล่า
  • 7:15 - 7:18
    เริ่มด้วยการพูด
  • 7:18 - 7:20
    (วีดีโอ) Bill Clinton: ฟังผมครับ
  • 7:20 - 7:22
    ผมจะกล่าวอีกครั้ง
  • 7:22 - 7:25
    ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์
  • 7:25 - 7:29
    กับผู้หญิงคนนั้น Miss Lewinsky
  • 7:29 - 7:31
    ผมไม่เคยให้ใครโกหก
  • 7:31 - 7:33
    แม้แต่ครั้งเดียว ไม่เคยครับ
  • 7:33 - 7:36
    ข้อกล่าวหาเป็นเรื่องเท็จ
  • 7:36 - 7:38
    ผมต้องกลับไปทำงานเพื่อประชาชนชาวอเมริกันแล้ว
  • 7:38 - 7:40
    ขอบคุณครับ
  • 7:43 - 7:46
    Pamela Meyer: อะไรเป็นตัวเปิดเผยคะ?
  • 7:46 - 7:50
    ข้อแรกเลยคือสิ่งที่เรียกว่า การปฏิเสธแบบไม่ผูกมัด
  • 7:50 - 7:53
    คนที่มุ่งมั่นจะปฏิเสธ
  • 7:53 - 7:56
    จะเลือกใช้ภาษาทางการมากกว่าภาษาพูด
  • 7:56 - 7:59
    เราได้ยินคำซึ่งฟังดูเหินห่าง "ผู้หญิงคนนั้น"
  • 7:59 - 8:01
    โดยจิตใต้สำนึก คนโกหกจะสร้างระยะห่าง
  • 8:01 - 8:03
    จากเรื่องที่จะโกหก
  • 8:03 - 8:06
    โดยมีภาษาเป็นเครื่องมือ
  • 8:06 - 8:09
    ถ้า Bill Clinton พูดว่า "ผมจะบอกความจริงให้"
  • 8:09 - 8:11
    หรือถ้าเป็น Nixon ก็ "ผมขอตรงไปตรงมา"
  • 8:11 - 8:13
    จะยิ่งตกม้าตายทันที
  • 8:13 - 8:15
    เพราะนักจับโกหกจะรู้
  • 8:15 - 8:18
    ว่าการใช้ภาษาอย่างนั้น
  • 8:18 - 8:20
    ลดความน่าเชื่อถือของผู้พูด
  • 8:20 - 8:23
    ยิ่งถ้าพูดทวนคำถามเต็มประโยค
  • 8:23 - 8:27
    หรือลงรายละเอียดมากเกินไป
  • 8:27 - 8:29
    ซึ่งดีแล้วที่เค้าไม่ได้ทำอย่างนั้น
  • 8:29 - 8:31
    เพราะจะยิ่งลดความน่าเชื่อถือลงไปใหญ่
  • 8:31 - 8:33
    Freud พูดถูก
  • 8:33 - 8:36
    ที่ว่า คำพูดไม่ใช่ทั้งหมด
  • 8:36 - 8:39
    "มนุษย์เก็บความลับไม่อยู่
  • 8:39 - 8:42
    ไม่พูดด้วยริมฝีปาก ก็ด้วยปลายนิ้ว"
  • 8:42 - 8:45
    เป็นทุกคนค่ะ ไม่ว่าใคร
  • 8:45 - 8:47
    ต่างพูดด้วยปลายนิ้ว
  • 8:47 - 8:50
    นี่ Dominique Strauss-Kahn กับ Obama
  • 8:50 - 8:53
    พูดคุยผ่านปลายนิ้ว
  • 8:53 - 8:56
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:56 - 8:59
    การโกหกอีกประเภท
  • 8:59 - 9:02
    คือภาษากาย
  • 9:02 - 9:05
    ก่อนอื่น
  • 9:05 - 9:08
    วางความรู้เดิมลงก่อนค่ะ
  • 9:08 - 9:10
    แล้วมองอย่างวิทยาศาสตร์
  • 9:10 - 9:13
    เราเชื่อว่าคนโกหกอยู่ไม่นิ่ง
  • 9:13 - 9:16
    แต่ที่จริง ลำตัวเค้าจะนิ่ง ตอนโกหก
  • 9:16 - 9:19
    เราคิดว่าถ้าโกหกจะไม่สบตา
  • 9:19 - 9:21
    แต่ที่จริง จะสบตามากกว่าปกติ
  • 9:21 - 9:23
    เพื่อปกปิดว่าโกหก
  • 9:23 - 9:25
    เราคิดว่าความอบอุ่นและรอยยิ้ม
  • 9:25 - 9:27
    คือความซื่อสัตย์ ความจริงใจ
  • 9:27 - 9:29
    แต่นักจับโกหก
  • 9:29 - 9:31
    มองยิ้มไม่จริงใจออกได้แต่ไกล
  • 9:31 - 9:34
    คุณมองยิ้มไม่จริงใจออกมั้ยคะ?
  • 9:35 - 9:37
    คุณจงใจ
  • 9:37 - 9:40
    หดกล้ามเนื้อแก้มได้
  • 9:40 - 9:43
    แต่รอยยิ้มมาจากตาค่ะ
  • 9:43 - 9:45
    ซึ่งจงใจทำไม่ได้
  • 9:45 - 9:47
    ยิ่งถ้าทำโบท็อกซ์
  • 9:47 - 9:50
    อย่าทำโบท็อกซ์นะคะ เดี๋ยวดูไม่จริงใจ
  • 9:50 - 9:52
    มาดูเคล็ดจับผิด
  • 9:52 - 9:54
    ในการสนทนา
  • 9:54 - 9:57
    ให้ลองสังเกต
  • 9:57 - 9:59
    สิ่งที่ไม่ลงรอย
  • 9:59 - 10:01
    ในคำพูดและการกระทำ
  • 10:01 - 10:03
    จริงๆ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
  • 10:03 - 10:05
    ว่าเวลาสนทนากับใคร
  • 10:05 - 10:08
    ที่คุณคิดว่าโกหก
  • 10:08 - 10:11
    ท่าทีมักถูกมองข้ามทั้งที่มันบอกอะไรเราได้มาก
  • 10:11 - 10:13
    คนสุจริตจะให้ความช่วยเหลือ
  • 10:13 - 10:15
    เค้าจะอยู่ข้างเดียวกับคุณ
  • 10:15 - 10:17
    จะขันแข็ง
  • 10:17 - 10:19
    เต็มใจช่วยให้รู้ความจริง
  • 10:19 - 10:22
    ระดมสมอง ว่าใครน่าสงสัย
  • 10:22 - 10:24
    ให้รายละเอียด
  • 10:24 - 10:26
    จะบอก "เฮ้
  • 10:26 - 10:29
    แผนกบัญชีเงินเดือนรึเปล่าที่ปลอมเช็คพวกนี้
  • 10:29 - 10:32
    จะเดือดดาลถ้าถูกกล่าวหา
  • 10:32 - 10:34
    ตลอดที่คุย ไม่ใช่แป๊บเดียว
  • 10:34 - 10:37
    จะเป็นเดือดเป็นร้อนตลอดที่เวลาที่คุยค่ะ
  • 10:37 - 10:39
    เมื่อคุณคุยกับคนสุจริต
  • 10:39 - 10:42
    ว่าควรทำยังไงกับคนปลอมแปลงเช็ค
  • 10:42 - 10:44
    เค้าจะเสนอ
  • 10:44 - 10:48
    บทลงโทษที่เข้มงวด
  • 10:48 - 10:50
    แต่ถ้าคุยกับ
  • 10:50 - 10:52
    คนทุจริต
  • 10:52 - 10:54
    จะตีห่าง
  • 10:54 - 10:56
    มองต่ำ เสียงทุ้มต่ำ
  • 10:56 - 10:58
    หยุดคิด รุกรี้รุกรน
  • 10:58 - 11:00
    เมื่อคนทุจริตพูด
  • 11:00 - 11:03
    รายละเอียดจะเยอะ
  • 11:03 - 11:06
    ทั้งที่ไม่ใช่ประเด็น
  • 11:06 - 11:09
    จะเล่าตามลำดับเวลาเป๊ะๆ
  • 11:09 - 11:11
    คนถามที่เก่ง
  • 11:11 - 11:13
    จะเจาะเรื่องราว
  • 11:13 - 11:15
    เมื่อคุยได้หลายชั่วโมง
  • 11:15 - 11:18
    โดยให้เล่าเรื่องถอยหลัง
  • 11:18 - 11:20
    ทีนี้ คนเล่าจะอึดอัด
  • 11:20 - 11:23
    จะรู้เลยว่า คำไหนโกหก
  • 11:23 - 11:26
    ที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่า
  • 11:26 - 11:28
    เราซ้อมบทพูด
  • 11:28 - 11:30
    แต่ไม่ซ้อมภาษากายค่ะ
  • 11:30 - 11:32
    พยักหน้า "ใช่" ส่ายหัว "ไม่ใช่"
  • 11:32 - 11:35
    เวลาพูด คนเรายักไหล่
  • 11:35 - 11:37
    ถ้าทำผิด
  • 11:37 - 11:40
    แล้วหลุดรอดได้ จะโล่งใจ
  • 11:40 - 11:43
    ยิ้มนี้คือ "ดีใจที่หลุดรอดมาได้"
  • 11:43 - 11:46
    เราจะเห็นยิ้มนี้อีกในคลิปถัดไป
  • 11:46 - 11:48
    เริ่มจาก
  • 11:48 - 11:51
    ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี John Edwards
  • 11:51 - 11:54
    ปฏิเสธการมีลูกนอกสมรส
  • 11:54 - 11:57
    เค้าพูดถึงผลตรวจความเป็นพ่อของเด็ก
  • 11:57 - 11:59
    ดูนะคะ
  • 11:59 - 12:01
    เค้าพูด "ใช่" ตอนส่ายหัวไม่ใช่
  • 12:01 - 12:03
    แล้วยักไหล่นิดนึง
  • 12:03 - 12:05
    (วีดีโอ) John Edwards: ผมยินดีเข้าตรวจครับ
  • 12:05 - 12:08
    เป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะเป็นลูกผม
  • 12:08 - 12:10
    ช่วงเวลามันไม่ตรง
  • 12:10 - 12:12
    มันเป็นไปไม่ได้
  • 12:12 - 12:14
    ยินดีเข้าตรวจความเป็นพ่อครับ
  • 12:14 - 12:16
    อยากให้ตรวจเร็วๆ ด้วย
  • 12:16 - 12:19
    ผู้สัมภาษณ์: เมื่อไรครับ
  • 12:19 - 12:22
    John: ผมแค่ฝ่ายเดียวของการตรวจครับ
  • 12:22 - 12:25
    แต่ก็ยินดีตรวจ
  • 12:25 - 12:27
    Pamela: ส่ายหัวดูง่ายค่ะ
  • 12:27 - 12:29
    เมื่อรู้เคล็ด
  • 12:29 - 12:31
    บางครั้ง
  • 12:31 - 12:33
    เราทำอย่าง
  • 12:33 - 12:36
    เพื่อปกปิดอีกอย่าง ซึ่งมักเล็ดลอด
  • 12:37 - 12:39
    ฆาตกรเล็ดลอดความเศร้า
  • 12:39 - 12:41
    เพื่อนร่วมงานคุณ
  • 12:41 - 12:43
    อาจไปฉลองกับคุณ
  • 12:43 - 12:46
    แต่ลึกๆ ไม่พอใจคุณอยู่
  • 12:46 - 12:49
    ขอไม่ลงรายละเอียดเรื่องสีหน้านะคะ
  • 12:49 - 12:52
    แต่ที่สำคัญ และ สังเกตง่าย
  • 12:52 - 12:55
    คือการเหยียดหยาม
  • 12:55 - 12:58
    ถ้าโกรธ คุณยังเท่าเทียมกัน
  • 12:58 - 13:00
    สัมพันธภาพยังคงอยู่
  • 13:00 - 13:02
    แต่ถ้าเหยียดหยาม
  • 13:02 - 13:04
    ไม่เท่าเทียมแล้วค่ะ
  • 13:04 - 13:06
    จะคิดว่าตนสูงกว่า
  • 13:06 - 13:09
    ซึ่งยากที่จะแก้ไข
  • 13:09 - 13:11
    จากรูป
  • 13:11 - 13:13
    ริมฝีปากด้านนึง
  • 13:13 - 13:15
    จะยกสูงและเม้มเข้า
  • 13:15 - 13:18
    ดูไม่สมมาตร
  • 13:18 - 13:20
    ถ้าเหยียดกันเมื่อไร
  • 13:20 - 13:22
    จะซ่อน หรือไม่ซ่อน
  • 13:22 - 13:24
    ส่วนใหญ่ไม่ซ่อน
  • 13:24 - 13:26
    ยกเลิกเลยค่ะ
  • 13:26 - 13:28
    ตกลงใจใหม่
  • 13:28 - 13:32
    บอกเลยว่า "ไม่เอา ขอบคุณมาก"
  • 13:32 - 13:34
    วิทยาศาสตร์
  • 13:34 - 13:36
    ช่วยเรา
  • 13:36 - 13:38
    ตัวอย่างเช่น
  • 13:38 - 13:40
    การกระพริบตาจะเปลี่ยน
  • 13:40 - 13:42
    หันเท้าที่ทางออก
  • 13:42 - 13:44
    เอาของมากั้น
  • 13:44 - 13:47
    ตัวเองกับอีกฝ่าย
  • 13:47 - 13:49
    โทนเสียงเปลี่ยน
  • 13:49 - 13:52
    มักจะทุ้มลง
  • 13:52 - 13:54
    แต่ประเด็นคือ
  • 13:54 - 13:57
    พฤติกรรมเหล่านี้
  • 13:57 - 13:59
    มิใช่หลักฐานว่าโกหก
  • 13:59 - 14:01
    เป็นเพียงป้ายเตือน
  • 14:01 - 14:03
    คนเราปกติ
  • 14:03 - 14:06
    ก็ทำสิ่งเหล่านี้
  • 14:06 - 14:08
    ซึ่งไม่มีความหมายอะไร
  • 14:08 - 14:11
    ถ้าถ้ารวมๆ กันสิคะ
  • 14:11 - 14:14
    คุณต้องจับตา เริ่มสงสัยได้เลย
  • 14:14 - 14:17
    อย่าคิดว่าที่รู้นั้นถูก
  • 14:17 - 14:20
    ต้องเริ่มสงสัย ถามให้มาก
  • 14:20 - 14:23
    และให้เกียรติคู่สนทนาด้วย
  • 14:23 - 14:26
    อย่ากระด้างเหมือนในทีวีค่ะ
  • 14:26 - 14:28
    อย่าต้อนให้เค้าจนมุม
  • 14:28 - 14:31
    ก้าวร้าวไม่ได้ผลค่ะ
  • 14:31 - 14:33
    ที่พูดไปนั้น คือ
  • 14:33 - 14:35
    วิธีรับมือ
  • 14:35 - 14:37
    และวิธีจับโกหก
  • 14:37 - 14:40
    มาดูความจริงบ้าง
  • 14:40 - 14:42
    จากวีดีโอค่ะ
  • 14:42 - 14:45
    แม่คนนึงโกหก อีกคนพูดจริง
  • 14:45 - 14:47
    ซึ่งวิจัยโดย
  • 14:47 - 14:49
    David Matsumoto จากแคลิฟอร์เนีย
  • 14:49 - 14:51
    ตัวอย่างดีมากค่ะ
  • 14:51 - 14:53
    ชัดเจนมาก
  • 14:53 - 14:55
    นี่ Diane Downs
  • 14:55 - 14:57
    ยิงลูกสาวในระยะเผาขน
  • 14:57 - 14:59
    แล้วขับรถพาไปโรงพยาบาล
  • 14:59 - 15:01
    เลือดเต็มรถ
  • 15:01 - 15:03
    บอกคนแปลกหน้ายิง
  • 15:03 - 15:05
    จะเห็นว่า
  • 15:05 - 15:07
    เธอแสร้งไม่ออก
  • 15:07 - 15:09
    ดูนะคะ
  • 15:09 - 15:11
    ดูความขัดแย้ง
  • 15:11 - 15:13
    ขณะเล่าเรื่อง
  • 15:13 - 15:15
    อย่างไร้อารมณ์
  • 15:15 - 15:18
    เธอปลื้มตลอด
  • 15:18 - 15:20
    (วีดีโอ) Diane Downs: เวลาฉันหลับตาลง
  • 15:20 - 15:23
    ฉันเห็น Christie เอื้อมมือมา ตอนขับรถ
  • 15:23 - 15:26
    เลือดไหลจากปากเธอ
  • 15:26 - 15:28
    อาจต้องใช้เวลาเยียวยา
  • 15:28 - 15:30
    แต่ฉันอาจลืมไม่ลง
  • 15:30 - 15:33
    ฉันคงลืมเธอไม่ลง
  • 15:40 - 15:42
    Pamela: อีกคลิปนึง
  • 15:42 - 15:44
    คนนี้เศร้าจริง
  • 15:44 - 15:48
    ในศาลกับฆาตรกรที่ฆ่าลูกเธอ
  • 15:48 - 15:50
    ไม่มีการแสร้งทำ
  • 15:50 - 15:53
    มีแต่ความเจ็บปวด
  • 15:53 - 15:55
    (วีดีโอ) Erin Runnion: ฉันเขียนในวันครบรอบปีที่ 3
  • 15:55 - 15:57
    ที่คุณพรากลูกฉันไป
  • 15:57 - 15:59
    คุณทำร้ายลูกฉัน
  • 15:59 - 16:01
    ทำลายเธอ
  • 16:01 - 16:05
    ทำเธอหวาดกลัวจนลมหายใจสุดท้าย
  • 16:05 - 16:08
    เธอขัดขืน ฉันรู้
  • 16:08 - 16:10
    รู้ว่าเธอจ้องคุณ
  • 16:10 - 16:12
    ด้วยดวงตาของเธอ
  • 16:12 - 16:15
    แต่คุณยังคิดจะฆ่า
  • 16:15 - 16:17
    ฉันเข้าใจไม่ได้
  • 16:17 - 16:20
    ไม่มีวันเข้าใจ
  • 16:20 - 16:24
    Pamela: ชัดเจนว่าไม่เสแสร้ง
  • 16:24 - 16:27
    วิทยาการหาข้อเท็จจริง
  • 16:27 - 16:30
    ก้าวล้ำไปมาก
  • 16:30 - 16:32
    ด้วยเครื่องตรวจการกรอกตา
  • 16:32 - 16:35
    สแกนสมองอินฟราเรด
  • 16:35 - 16:38
    MRI อ่านร่างกาย
  • 16:38 - 16:40
    อ่านคำโกหก
  • 16:40 - 16:43
    ซึ่งจะมีขายเร็วๆนี้
  • 16:43 - 16:45
    ไว้จับโกหก
  • 16:45 - 16:48
    ถึงมันจะมีประโยชน์
  • 16:48 - 16:50
    แต่คุณควรถามกลับว่า
  • 16:50 - 16:52
    จะพาใครไปประชุม
  • 16:52 - 16:55
    คนที่จับโกหกเป็น
  • 16:55 - 16:57
    หรือเครื่องสแกนสมอง
  • 16:57 - 16:59
    น้ำหนักร้อยกิโล
  • 16:59 - 17:03
    จับโกหกเป็นเรื่องของคนค่ะ
  • 17:03 - 17:05
    ที่ว่ากันว่า
  • 17:05 - 17:07
    "นิสัยรู้กันยาก"
  • 17:07 - 17:09
    แต่ทุกวันนี้
  • 17:09 - 17:11
    ไม่ยากแล้วค่ะ
  • 17:11 - 17:14
    ตลอด 24 ชั่วโมง
  • 17:14 - 17:16
    เราเปิดเผยตัวตน
  • 17:16 - 17:18
    ผ่านบล็อกและ โซเชียลเน็ตเวิร์ค
  • 17:18 - 17:20
    เพื่อสื่อสาร
  • 17:20 - 17:23
    กับผู้คนบนในที่สาธารณะ
  • 17:23 - 17:27
    จ้อกแจ้กจอแจค่ะโลกใบนี้
  • 17:27 - 17:29
    ที่สำคัญคือ
  • 17:29 - 17:31
    การสื่อสารมากเกินไป
  • 17:31 - 17:34
    อาจไม่ใช่ความจริงใจ
  • 17:34 - 17:36
    คนที่คลั่งไคล้ Twitter และ SMS
  • 17:36 - 17:38
    อาจลืมนึกว่า
  • 17:38 - 17:41
    ศีลธรรมจรรยาของมนุษย์
  • 17:41 - 17:44
    เป็นสิ่งสำคัญ และจะสำคัญตลอดไป
  • 17:44 - 17:46
    ในโลกที่จ้อกแจ้กจอแจ
  • 17:46 - 17:48
    คงดีไม่น้อย
  • 17:48 - 17:50
    ถ้าเราพูดถึง
  • 17:50 - 17:53
    หลักศีลธรรมจรรยา
  • 17:53 - 17:55
    ด้วยวิทยาการจับโกหก
  • 17:55 - 17:57
    และการสังเกตรับฟัง
  • 17:57 - 18:00
    คุณจะหลุดออกจากการโกหก
  • 18:00 - 18:02
    คุณเริ่มอยู่บนทาง
  • 18:02 - 18:04
    ที่ชัดเจน
  • 18:04 - 18:06
    ต่อคนรอบข้าง
  • 18:06 - 18:09
    ว่า "โลกของฉัน โลกของเรา
  • 18:09 - 18:11
    จะซื่อสัตย์
  • 18:11 - 18:13
    ถือความจริงเป็นใหญ่
  • 18:13 - 18:16
    คำลวงจะด้อยค่า"
  • 18:16 - 18:18
    เมื่อสื่ออย่างนั้น
  • 18:18 - 18:21
    โลกจะเปลี่ยนทีละนิด
  • 18:21 - 18:24
    นั่นคือความจริง ขอบคุณค่ะ
  • 18:24 - 18:29
    (เสียงปรบมือ)
Title:
วิธีจับผิดคนโกหก
Speaker:
พาเมลา เมเยอร์ (Pamela Meyer)
Description:

ในหนึ่งวัน คนเราทุกคนถูกโกหกใส่มากถึง 10 - 200 ครั้งต่อวัน และการจะจับผิดคำโกหกได้นั้นมันช่างละเอียดอ่อนและผิดสัญชาตญาณเหลือเกิน พาเมลา เมเยอร์ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง "วิธีจับโกหก" มาเล่าถึงพฤติกรรมและ "เคล็ดวิธี" ที่ผู้เชี่ยวชาญใช้ในการจับโกหก เธอเชื่อว่าความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติที่ดีที่ควรรักษาไว้

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
18:30
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to spot a liar
Taweesak Paepimparath added a translation

Thai subtitles

Revisions Compare revisions