-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
วันเสาร์แบบนี้เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะกำลังพักผ่อน
-
จากการทำงานอันเหน็ดเหนื่อย
ตลอดสัปดาห์อยู่ใช่ไหมคะ
-
อยากรู้กันไหมคะว่า
-
ใครเป็นคนคิดวันหยุดสัปดาห์
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ให้เราได้พักผ่อนกัน
-
วันนี้นะคะ วิวไปหาข้อมูล
มาเล่าให้ทุกคนฟังเรียบร้อยแล้วค่ะ
-
แต่จะบอกว่าข้อมูลที่วิวไปหามาเนี่ยนะคะ
-
มันก็เป็นแค่ข้อมูลสนุกๆ
เป็นเกร็ดความรู้เท่านั้นค่ะ
-
ไม่สามารถเอาไปใช้เรียนใช้สอบได้นะคะ
-
สำหรับน้องๆที่จะต้องเอาเนื้อหา
ไปเรียนไปสอบอะไรต่างๆนะคะ
-
ไม่ว่าจะเป็นสอบ 9 วิชาสามัญ
O-NET GAT-PAT กสพท. IJSO
-
หรือว่า BMAT นะคะ
-
ถ้าสมมติว่าอยากได้เนื้อหาที่
ตรงกับหลักสูตรกระทรวงเป๊ะ
-
แนะนำให้ไป subscribe ช่อง Youtube
Nestle School Channel นะคะ
-
คนที่จะมาติวน้องๆในช่องนั้นเนี่ย
-
เป็นรุ่นพี่ระดับท็อปประเทศเลยทีเดียวนะคะ
-
นอกจากนี้ได้ข่าวมาว่าเค้ามีเป็นแอปพลิเคชันด้วย
-
ซึ่งทั้งหมดนี้นะคะทุกคน ฟรีค่ะ
-
ดังนั้นน้องๆที่จะต้องสอบเนี่ย
ก็อย่าลืมลองเข้าไปดูกันได้นะคะ
-
วิวลงรายละเอียดไว้ให้ด้านล่างแล้วค่ะ
-
เอาล่ะ จบข้อความที่เค้าฝากมา
บอกเด็กๆที่ต้องสอบแล้วนะคะ
-
สำหรับใครที่อยากติดตามสาระสนุกๆกับวิว
โดยที่ไม่ได้คิดว่าจะเอาไปสอบอะไรก็
-
อย่าลืมติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ
-
ไม่ว่าจะเป็นทาง Youtube Facebook
Twitter Instagram ค่ะ
-
แต่ละช่องทาง เนื้อหาไม่เหมือนกันเลยนะคะ
-
จะได้ไม่พลาดคลิปวิดีโอสนุกๆแล้วก็
ข่าวสารดีๆจากช่อง Point of View ค่ะ
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราว
ที่ทั้งสนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
เช่นเคยเหมือนกับทุกคลิปที่วิวเล่านะคะ
-
ใครอยากหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเอง
อ้างอิงของวิวอยู่ด้านล่างค่ะ
-
สามารถเข้าไปดูได้นะคะเพราะว่า
-
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้
บางทีมันก็มีหลายเวอร์ชันคือ
-
มันไม่ได้มีใครลุกขึ้นมาแล้วก็บอกว่า
-
เอาล่ะทุกคนมาหยุดเสาร์อาทิตย์กันเถอะ เฮ นะคะ
-
มันมีเหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมๆกันมากมายค่ะดังนั้น
-
วิวเอาเฉพาะบางเวอร์ชันมาเล่าให้ฟังนะคะ
-
ถ้าอยากอ่านแบบครบๆก็ด้านล่างค่ะ
-
แต่ตอนนี้เวิ่นเยอะละ เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ
-
ก่อนอื่นเราต้องไปพูดถึงประเด็นนึงก่อนค่ะคือ
-
ใครเป็นคนแบ่งวันให้มัน
เป็นทั้งหมด 7 วันต่อสัปดาห์
-
คือถ้าเราจะไปดูเรื่องการแบ่งปี
การแบ่งเดือนปกติเนี่ยที่แบบว่า
-
ปีนึงมี 365 วัน
-
เดือนนึงมี 30 วันอะไรอย่างนี้
-
ส่วนมากมันตรงกับปรากฏการณ์
ทางธรรมชาติใช่ไหมคะ
-
เกี่ยวข้องกับการขึ้นลงของน้ำ
เกี่ยวข้องกับการโคจรของโลก
-
ว่าแต่ 7 วันเนี่ยตัวเลขมาจากไหน
-
คือมันไม่ได้เข้ากับเหตุการณ์ธรรมชาติ
อะไรทั้งสิ้นเลยนะคะ
-
เค้าบอกว่าการแบ่งวันเป็น 7 วันเนี่ย
-
ต้องย้อนกลับไปไกลมากค่ะ
-
ถึงประมาณสี่พันปีที่แล้วนะคะ
ในสมัยบาบิโลนค่ะ
-
ชาวบาบิโลเนียเนี่ยนะคะ
เค้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าค่ะ
-
ด้วยเทคโนโลยีสมัยนั้นนะคะ
ไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าไปรู้มาได้ยังไง
-
เค้าคิดว่าในระบบสุริยจักรวาลเนี่ย
มีดาวเคราะห์ทั้งหมด 7 ดวงด้วยกันค่ะ
-
ดังนั้นชาวบาบิโลเนียนะคะก็เลยจัดการ
แบ่งวันในสัปดาห์ค่ะ ฉึบๆๆๆๆ
-
ให้กลายเป็นทั้งหมด 7 วันด้วยกัน
ตามดวงดาวที่เค้าเห็นเนี่ยล่ะค่ะ
-
ซึ่งเนื่องจากบาบิโลเนียสมัยนั้นเนี่ย
เป็นช่วงที่มีอิทธิพลค่อนข้างมากนะคะ
-
แล้วก็เกิดร่วมสมัยกับอารยธรรมมากมายค่ะ
-
ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของการแบ่งวันเป็น 7 วันเนี่ย
ก็กระจายไปทั่วเลยนะคะ
-
เริ่มที่บาบิโลเนียใช่ไหมคะ
หลังจากนั้นมันก็แพร่กระจายไปที่อียิปต์
-
ที่กรีก แล้วก็ที่โรมันในที่สุดค่ะ
-
ซึ่งเนื่องจากว่าอารยธรรมเหล่านี้เป็น
อารยธรรมที่ค่อนข้างมีอิทธิพลในโลกมากๆ
-
ดังนั้นในที่สุดนะคะ จากอารยธรรมพวกนั้น
ที่ทรงอิทธิพลไปมาต่างๆนานานะคะ
-
ในที่สุดเมื่อประมาณ 250 ปีก่อนคริสต์ศักราช
-
โลกตะวันตกก็เลยแบ่งวันในสัปดาห์
เป็นทั้งหมด 7 วันนั่นเองค่ะ
-
ซึ่งถามว่าพอแบ่งวันเป็น 7 วันแล้วเนี่ย
มันมีวันหยุดเกิดขึ้นรึยัง
-
ก็ต้องบอกว่าเอาจริงๆยังไม่ค่อยมี
คอนเซ็ปต์ของวันหยุดที่แบบแน่ชัดหรอกค่ะ
-
ก็ต้องบอกว่าคนสมัยก่อน
เค้าเป็นสังคมเกษตรใช่ไหมคะ
-
เป็นแบบเกษตร ปลูกผัก
เลี้ยงสัตว์ ทำนาอะไรต่างๆ
-
เค้าอยากทำเมื่อไหร่เค้าก็ทำ
เค้าอยากหยุดเมื่อไหร่เค้าก็หยุด ประมาณนั้น
-
มันก็เลยแบบไม่ค่อยมี
คอนเซ็ปต์ของวันหยุดเท่าไหร่นัก
-
เรียกได้ว่าคนสมัยก่อนอะ เค้าทำงานกัน
7 วันต่อสัปดาห์ก็ว่าได้ค่ะ
-
อย่างไรก็ตามคอนเซ็ปต์ของวันหยุดเนี่ย
เริ่มขึ้นมาเพราะว่าศาสนานั่นเองค่ะ
-
คือในศาสนาต่างๆเนี่ย มันก็มีคอนเซ็ปต์ของ
วันหยุดของตัวเองใช่ไหมที่จะต้อง
-
มีหนึ่งวันในสัปดาห์ที่จะไปสวดมนต์
อ้อนวอนพระเจ้าอะไรต่างๆค่ะ
-
เพราะว่าเค้าเชื่อกันว่าพระเจ้า
ใช้เวลาสร้างโลกทั้งหมด 6 วัน
-
แล้ววันที่เจ็ดเป็นวันที่พระเจ้าพักผ่อนใช่ไหมคะ
-
แต่อย่างไรก็ตามค่ะ แต่ละศาสนาเนี่ย
มองเห็นวันนั้นน่ะไม่ตรงกัน
-
คือชาวยิวสวดมนต์ต่อพระเจ้า
อะไรของเค้าในวันเสาร์ค่ะ
-
ในขณะที่ชาวคริสต์เนี่ยนะคะ
จะเข้าโบสถ์ในวันอาทิตย์ค่ะ
-
เอาจริงๆในโรมันก็มีคอนเซ็ปต์
ของวันหยุดเหมือนกันนะ
-
เพราะว่าในโรมันจะมีสิ่งนึง
ที่เรียกว่า วันจ่ายตลาด ค่ะ
-
คือเหมือนกับว่าชนชั้นใช้แรงงาน
ในโรมันเนี่ยก็จะทำงาน ทำงาน ทำงาน
-
และในทุกๆ 8 วันเนี่ย
เค้าก็จะมีวันนึงที่เปิดตลาดนะคะ
-
ให้คนใช้แรงงานเนี่ยไปช้อปปิ้งนะ
-
แต่ว่าไม่ค่อยเกี่ยวข้อง
กับเรื่องราวของเราในวันนี้
-
เอาเป็นว่าคนเราก็มีคอนเซ็ปต์แหละว่าแบบ
-
ทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์มันก็ไม่ได้
มันก็เหนื่อย มันก็ต้องมีวันหยุดนะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ถ้าเราจะมาพูดถึง
วันหยุดสุดสัปดาห์จริงๆเนี่ยนะคะ
-
คอนเซ็ปต์นี้เพิ่งจะมาเริ่มขึ้น
ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมค่ะ
-
ก็ไม่นานมานี้เองนะ
-
ก็ไม่นานมากนะ ไม่กี่ร้อยปีเท่านั้นค่ะ
-
คือตอนปฏิวัติอุตสาหกรรมเนี่ย
-
ต้องบอกว่าพวกชาวนา
พวกคนใช้แรงงานอะไรต่างๆ
-
ที่ปกติทำเกษตรทำกสิกรรมอะไรต่างๆเนี่ย
-
ก็จะต้องเข้ามาทำงาน
ในระบบโรงงานใช่ไหมคะ
-
ซึ่งพอเข้ามาทำปุ๊บเนี่ย
-
คนเหล่านี้ก็ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ค่ะ
-
เพราะว่าในช่วงปฏิวัติอุตสาหกรรมเนี่ย
-
ถ้าเกิดสมมติว่าใครเป็นคนที่
แม่นประวัติศาสตร์ก็จะรู้ว่า
-
เออ ในช่วงนั้นอะมันเป็นช่วงที่แบบว่า
การใช้แรงงานโหดมากคือ
-
ทุกคนต้องพยายามรีดแรงงาน
ของคนออกมาให้ได้มากที่สุด
-
เพราะว่าจะได้ผลิตของ
ออกมาได้มากที่สุด มากๆๆๆๆๆ
-
จะได้ไปขายๆๆๆๆ
-
คือความเป็นทุนนิยมมันเริ่มเข้ามาแล้ว
แบบหนักหน่วงมากๆใช่ไหมคะ
-
ประมาณว่าชั้นจะต้องรวยที่สุด
-
นายทุนจะต้องใช้แรงงาน
ให้ได้มากที่สุด ประมาณนั้นค่ะ
-
ทำให้เกิดอะไรขึ้นคะ
-
แน่นอนว่าทำให้พวกชาวนาต่างๆที่เคยแบบ
-
ชั้นอยากทำชั้นก็ทำ ชั้นอยากหยุดชั้นก็หยุด
-
ตารางเวลาเนี่ย flexible กว่านี้
-
พอจะต้องมาแบบตอกบัตรเข้างานแปดโมง
ออกจากโรงงานหกโมงเย็น อะไรอย่างนี้เนี่ยนะคะ
-
เค้าก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่โอเคเลย
ก็เลยเกิดการโวยวายกันขึ้นมาค่ะ
-
พอโวยมากๆๆๆเข้า สุดท้ายก็
กลายเป็นการประท้วงนะคะ
-
แล้วก็กลายเป็นสหภาพแรงงานอะไรในที่สุด
-
ซึ่งเราจะไม่ไปพูดถึงตรงนั้นค่ะ
-
แต่สิ่งที่เค้าเรียกร้องเนี่ยก็คือบอกว่า
-
เราต้องมีวันหยุด
-
เราต้องมีวันที่ได้อยู่กับครอบครัวบ้าง
-
ดังนั้นในที่สุดนะคะพอเกิดการโวยขึ้นมามากๆๆๆ
-
ก็จะต้องทำตามสิ่งที่โวยใช่ไหมคะ
-
เจ้าของโรงงานต่างๆค่ะ
ก็เลยตกลงกันได้ในที่สุดว่า
-
อะ อะ อะ ก็ได้ ก็ได้ ก็ได้
-
ชั้นให้พวกเธอมีวันหยุดก็ได้ หนึ่งวันแล้วกัน
-
ซึ่งบังเอิญว่าสังคมในยุคนั้นเนี่ย
-
ทางตะวันตกเนี่ยเป็น
ชาวคริสต์ค่อนข้างมากใช่ไหมคะ
-
ดังนั้นค่ะ เค้าก็เลยตกลงกันไว้ว่า
-
โอเค เราให้ทุกคนหยุดงานวันอาทิตย์แล้วกันนะ
-
ทุกคนจะได้ไปเข้าโบสถ์อะไรต่างๆค่ะ
-
ซึ่งการได้หยุดงานวันอาทิตย์เนี่ยถามว่าพอไหม
-
ก็ต้องบอกว่าทำงาน 6 วัน หยุด 1 วัน
เอาจริงๆมันก็ไม่ได้พอขนาดนั้นหรอก
-
เพราะว่าอะไร
-
เพราะว่าพอได้หยุดวันเดียวเนี่ยนะคะ
วันนั้นไปเข้าโบสถ์จริงรึเปล่าไม่รู้
-
อะ หลายๆคนก็อาจจะไปเข้าโบสถ์แหละ
-
แต่มันก็มีคนกลุ่มใหญ่มากๆนะคะ
ที่เป็นคนกลุ่มใช้แรงงานค่ะ
-
วันอาทิตย์ใช่ปะ ทำอะไร
-
กินเหล้า กินเลี้ยง กินอะไรต่างๆ
เรียกได้ว่าเละค่ะ
-
พอกินเหล้าวันอาทิตย์เกิดอะไรขึ้น
-
วันจันทร์มาทำงานไม่ไหวนะคะ
-
ก็เลยเกิดปรากฏการณ์ที่
เค้าเรียกว่า Saint Monday ขึ้นค่ะ
-
ประมาณว่าคนงานเนี่ยโดดงานกัน
ในวันจันทร์กระจุยกระจายเลยค่ะแบบ
-
โอย ชั้นลุกไม่ไหว หยุดวันอาทิตย์วันเดียว
วันจันทร์ไม่ขอทำงาน
-
แล้วก็กลับมาทำงานอีกทีในวันอังคารค่ะ
-
ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้โรงงาน
สูญเสียแรงงานไปค่อนข้างมากค่ะ
-
เค้าก็เลยรู้สึกว่าเฮ้ย ไม่โอเคแล้วนะ
-
ชั้น ชั้นไม่โอเคเลย เอายังไงดี เอายังไงดีนะคะ
-
สุดท้ายในช่วงศตวรรษที่ 19 นะคะ
เจ้าของโรงงานก็เลยจำเป็นจะต้อง
-
ไปตกลงกับคนใช้แรงงานค่ะ ประมาณว่า
-
อะ ทุกคนขอร้องล่ะ
-
วันจันทร์เช้านะ ช่วยตื่นหน่อยเถอะ
ช่วยตื่นมาทำงานให้มันตรงเวลา
-
คือเข้าใจว่าวันจันทร์มันเป็นคำที่แสลงใจมาก
แต่ช่วยตื่นขึ้นมาทำงานเถอะ ได้โปรด
-
อะ ยอมแลกก็ได้
-
ชั้นขอให้ทุกคนมาทำงานวันจันทร์เต็มวันได้ไหม
-
โดยยอมแลกกับวันเสาร์
-
ให้วันเสาร์ครึ่งวันเนี่ยเป็นวันหยุด
-
ให้ทุกคนทำงานจนถึงเที่ยงวันเสาร์นะ
-
แล้วเย็นวันเสาร์ไม่ต้องทำงาน
กลับบ้านกลับช่องไปเลย
-
จะไปเมาไปอะไรก็ตามใจ
-
เมาให้พอนะ แล้วเช้าวันอาทิตย์ก็
ไปนอนให้พอเลยทุกคน
-
ได้ไหม ได้ไหม ขอแลกครึ่งวันวันเสาร์
กับวันจันทร์เต็มวัน ให้หยุดแบบ official เลย
-
เพราะที่ผ่านมาวันจันทร์ที่หยุดกันเนี่ย
-
คือโดดงานใช่ไหม
มันก็จะต้องมีการโดนด่าโดนอะไร
-
ดังนั้นสุดท้ายพวกคนใช้แรงงานก็เลยบอกว่า
-
โอเค ตกลง เรายอมรับนะคะ
-
เรายอมหยุดครึ่งวันวันเสาร์ก็ได้
-
แล้ววันจันทร์เราจะมาทำงานตรงเวลาค่ะ
-
อะ ตอนนี้เราก็ได้วันหยุด
เพิ่มขึ้นมาอีกครึ่งวันแล้วใช่ไหม
-
จากที่ไม่มีวันหยุดเลยก็กลายเป็นหนึ่งวัน
-
จากหนึ่งวันก็กลายเป็น
หนึ่งวันครึ่งแล้วใช่ไหมคะ
-
ทีนี้ถามว่าแล้วมันกลายเป็น
วันหยุดสองวันได้ยังไง
-
อันนี้เราต้องไปขอบคุณชาวยิวค่ะ
-
คือที่ผ่านมาที่ได้หยุดวันอาทิตย์เนี่ย
-
ชาวคริสต์เค้าไปโบสถ์กันใช่ไหม
-
ทีนี้คนกลุ่มใหญ่ๆอีกกลุ่มนึงในโลกนะคะ
ก็คือชาวยิวนั่นเอง
-
ชาวยิวในโลกตะวันตก
เค้าก็โวยวายขึ้นมาประมาณว่า
-
เอ้า ชาวคริสต์ได้ไปโบสถ์วันอาทิตย์ แล้วชั้นล่ะ
-
จริงๆชาวยิวเนี่ยเค้าก็ต้อง
ไปโบสถ์ของเค้าในวันเสาร์
-
แล้วทำไมถึงบังคับให้ชั้นไปวันอาทิตย์ล่ะ
-
ชั้นต้องได้หยุดบ้างสิ
-
สุดท้ายนะคะ ด้วยเหตุผลทางศาสนา
บางทีมันก็เป็นเรื่องค่อนข้างแรงใช่ไหม
-
ทางศาสนาเราก็รู้กันอยู่
-
เรื่องความเชื่อนี่มันห้ามกันไม่ได้ค่ะ
-
ดังนั้นสุดท้ายนะคะนายจ้างก็เลย
เหมือนกับจะต้องบอกว่า
-
อะ ชาวยิว เธอก็หยุดวันเสาร์แล้วกัน
-
แล้วเดี๋ยวมาทำงานวันอาทิตย์แทน
สลับกับชาวบ้านเค้านะคะ
-
ซึ่งมันก็ดำเนินแบบนั้นไปแป๊บนึงค่ะ
-
แต่อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มใหญ่ในสังคม
ก็ยังเป็นชาวคริสต์อยู่ดี
-
ดังนั้นมันก็เลยมีการโวยวายกันเกิดขึ้นค่ะประมาณว่า
-
เอ้า ต่อให้เค้าเป็นยิวก็ตาม
แต่เธอให้เค้ามาทำงานในวันอาทิตย์ไม่ได้
-
นี่มันขัดพระประสงค์ของพระเจ้า
-
พระเจ้าบอกว่าวันอาทิตย์มันเป็นวันหยุด
-
และสุดท้ายนะคะ จากเหตุการณ์นี้มันก็ทำให้
เกิดการไม่เท่าเทียมกันขึ้นอะไรต่างๆ
-
ดังนั้นเจ้าของโรงงานก็เลย
จำเป็นต้องประกาศว่าแบบ
-
อะ ทุกคน เอาตามนี้แล้วกันนะ หยุดโวยวายได้แล้ว
-
หยุดไปเลยทั้งวันเสาร์ทั้งวันอาทิตย์แหละนะคะ
-
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็เลยเกิดขึ้นค่ะ
-
แล้ววันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็
โดนทำให้ official กว่าเดิมนะคะ
-
ด้วยเหตุการณ์ The Great Depression
-
ตอนช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งนั่นเองค่ะ
-
คือในช่วงนั้นน่ะ มันเป็นช่วงที่เหมือนกับว่า
เค้าจ้างแรงงานกันไม่ค่อยไหว
-
แบบจ่ายค่าแรงไม่ไหว อะไรต่างๆนะคะ
-
ดังนั้นสุดท้ายเนี่ยเหมือนแรงงานไม่พออะไรต่างๆ
-
ก็เลยกลายเป็นว่าอะ เอาตามนี้แล้วกัน
เราให้หยุดเสาร์อาทิตย์
-
ทุกคนจะได้ทำงานแค่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ค่ะ
-
ทุกคนจะได้หยุดวันเสาร์และ
วันอาทิตย์โดยเท่าเทียมกันจ้า
-
และอีกคนนึงนะคะที่เราควรจะไปขอบคุณค่ะ
-
ที่ตอกย้ำให้คอนเซ็ปต์วันหยุด
เสาร์อาทิตย์เนี่ยชัดเจนสุดๆๆๆเนี่ย
-
เค้าบอกว่าก็คือเฮนรี่ ฟอร์ดนั่นเองนะคะ
-
คือคุณเฮนรี่ ฟอร์ดเนี่ยนะคะ
เค้าขายรถฟอร์ดใช่ไหม
-
เป็นเจ้าของโรงงานฟอร์ดเนอะ
-
เค้าก็เกิดเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจ
ระบบเศรษฐกิจค่อนข้างดีค่ะ
-
คือเค้าบอกว่าเออ ชั้นเนี่ยเป็นคนผลิตรถฟอร์ด
-
ซึ่งคนงานในโรงงานชั้นเนี่ยก็ค่อนข้างเยอะ
-
แล้วคนงานพวกนี้นี่แหละ
ก็คือคนที่จะขับรถฟอร์ด
-
แต่ปัญหาก็คือถ้าชั้นบังคับให้
เค้าทำงาน 7 วันต่อสัปดาห์นะ
-
เค้าก็จะไม่มีเวลาไปขับรถเล่น
-
คือเค้าก็จะต้องตื่นมา
แล้วก็ทำงานแล้วก็กลับบ้าน
-
แล้วเค้าก็จะไม่ซื้อรถฟอร์ดของเรา
-
ดังนั้นชั้นควรจะมีเวลาให้
คนงานของชั้นเนี่ยได้หยุดพัก
-
เค้าจะได้ซื้อรถแล้วก็ขับรถ
ไปเที่ยวกับครอบครัวอะไรต่างๆนะคะ
-
ดังนั้นเฮนรี่ ฟอร์ดก็เลยบอกว่า
-
โอเค ในโรงงานของชั้นเนี่ย
ทุกคนจะได้หยุดเสาร์อาทิตย์แน่นอนจ้า
-
เพื่อที่ว่าคนงานของเค้าเนี่ยนะคะ
-
จะได้มีเวลาในการขับรถ
ไปเที่ยวกับครอบครัว
-
คนงานของเค้าก็จะได้ซื้อรถในที่สุดค่ะ
-
ซึ่งหลังจากที่เฮนรี่ ฟอร์ดทำแบบนี้นะคะ
-
เจ้าของโรงงานอื่นๆที่ก็โดนกดดันมาด้วย
เรื่องศาสนาหรืออะไรต่างๆก็มีความรู้สึกว่า
-
เออ ชั้นก็ควรจะทำตามเฮนรี่ ฟอร์ดเหมือนกันนะ
-
ดังนั้นคอนเซ็ปต์ของการได้หยุด
สุดสัปดาห์เนี่ยก็เลยแพร่หลายในที่สุดค่ะ
-
และในที่สุดนะคะ หลังจากที่คอนเซ็ปต์นี้
เป็นเหมือนกับแค่ว่าเจ้าของ
-
เป็นข้อตกลงระหว่างเจ้าของโรงงานกับแรงงานเนี่ย
-
ในที่สุดมันก็กลายเป็นเรื่องที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติ
-
เพราะว่าที่อเมริกาก็เกิดการ
ออกกฎหมายแรงงานขึ้นในที่สุดค่ะ
-
ดังนั้นเราก็เลยได้หยุดเสาร์อาทิตย์นั่นเองนะคะ
-
น่ะ เป็นไง พอจะเข้าใจมากขึ้นไหมคะ
ว่าทำไมเราถึงได้หยุดเสาร์อาทิตย์
-
พอจะรู้แล้วเนอะว่าเราจะต้อง
ไปขอบคุณใครบ้างนะคะ
-
หนึ่งเลยก็คือต้องไปขอบคุณพระเจ้า
ของทั้งยิวแล้วก็ของศาสนาคริสต์นะคะ
-
ที่สร้างโลก 6 วันแล้วมีวันหยุด 1 วัน
และที่สำคัญดันหยุดไม่ตรงกันอีก
-
ทำให้คนเนี่ยจะต้องอยากหยุดเพื่อไปโบสถ์นะคะ
-
และสองนะคะ ต้องไปขอบคุณสหภาพแรงงานต่างๆ
ในช่วงศตวรรษที่ 19 นะคะที่โวยวายขึ้นมาว่า
-
ชั้นต้องได้วันหยุด ชั้นต้องได้วันหยุด
ชั้นจะไม่ทำงานตลอด 7 วันนะคะ
-
และคนที่สามที่ต้องไปขอบคุณ
ก็คือเฮนรี่ ฟอร์ดนั่นเองค่ะ
-
เป็นไงบ้างคะคลิปนี้
ได้คำตอบที่ตัวเองอยากรู้รึเปล่าคะ
-
ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้
อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
-
ส่วนใครที่รู้สาเหตุอื่นๆที่ทำให้
เราได้หยุดเสาร์อาทิตย์อีก
-
ก็สามารถคอมเมนต์มา
เพิ่มเติมให้วิวด้านล่างได้นะคะ
-
สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน
-
บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ
-
เป็นไงบ้างคะทุกคน ก็เป็นหนึ่งเรื่องที่วิวอยากรู้มา
ค่อนข้างนานแล้วนะว่าทำไมเราถึงได้หยุดเสาร์อาทิตย์
-
คือมันก็มองได้สองมุมนะคะ
-
มุมแรกก็คือดีใจจังเลย เราไม่ต้องทำงาน 7 วัน
เราได้หยุดตั้ง 2 วันต่อสัปดาห์แหน่ะ
-
แต่อีกมุมนึงก็แบบอ้อ ทำไมถึงต้อง
ทำงาน 5 วันแล้วหยุดแค่ 2 วันเอง
-
ทำไมเราไม่ทำงาน 4 วันแล้วหยุด 3 วันน้า
-
อะไรแบบนี้นะคะ
-
ก็อยู่ที่มุมมองของแต่ละคนค่ะ
-
ถ้าเรามองย้อนไปในอดีตเราก็จะเห็นว่า
-
เออ ได้หยุดสองวันก็ดีแล้ว
ดีกว่าไม่ได้หยุดเลย ประมาณนั้นนะคะ
-
ใครมีคำถามอะไรสนุกๆที่อยากรู้คำตอบอีก
-
ลองคอมเมนต์มาด้านล่างได้ค่ะ
-
ถ้าเป็นไปได้ วิวจะพยายาม
ไปหาคำตอบมาให้ทุกคนนะคะ
-
ไม่ว่าจะเป็นคำตอบในประวัติศาสตร์แบบนี้
-
หรือคำตอบที่เป็นนิทานอธิบายเหตุ
เหมือนคลิปก่อนๆค่ะ
-
วันนี้ลาไปก่อนนะคะทุกคน
-
บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ