Return to Video

เซลล์มะเร็งสื่อสารถึงกันอย่างไร -- และเราจะทำให้มัน (แพร่กระจายไป) ช้าลงได้อย่างไร

  • 0:01 - 0:02
    มะเร็ง
  • 0:02 - 0:07
    เป็นโรคร้ายที่ทำให้เกิด
    ความเสียหายทางอารมณ์อย่างมากมาย
  • 0:07 - 0:11
    ไม่ใช่เฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น
    แต่คนที่ผู้ป่วยรักอีกด้วย
  • 0:12 - 0:16
    เป็นการสู้รบที่เผ่าพันธุ์ุมนุษย์
    ได้ต่อสู้มาอย่่างต่อเนื่องนานหลายศตวรรษ
  • 0:17 - 0:20
    และในขณะที่เราได้ก้าวหน้าไปบ้างแล้ว
  • 0:20 - 0:22
    เราก็ยังคงเอาชนะมันไม่ได้
  • 0:23 - 0:28
    สองในห้าคนในสหรัฐอเมริกา
    จะพัฒนาเป็นโรคมะเร็งในช่วงชีวิตของเขา
  • 0:29 - 0:34
    ในจำนวนนั้น 90% จะตายไปเพราะโรค
    เนื่องมาจากเมทาสทะซิสส์
  • 0:35 - 0:40
    เมทาสทะซิส คือการแพร่กระจายของเนื้อร้าย
    จากเซลล์หลักไปยังเซลล์อื่น
  • 0:40 - 0:43
    ผ่านระบบหมุนเวียนของเลือด
    หรือระบบน้ำเหลือง
  • 0:44 - 0:48
    ตัวอย่างเช่น ผู้ปวยหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม
  • 0:48 - 0:52
    ไม่ได้ยอมจำนนต่อโรค
    เพียงเพราะเธอมีก้อนอยู่ที่เต้านมของเธอ
  • 0:52 - 0:55
    เธอพ่ายแพ้ต่อโรคเพราะมันแพร่กระจายไป
  • 0:55 - 0:59
    ที่ปอด ตับ ต่อมน้ำเหลือ สมอง กระดูก
  • 1:00 - 1:03
    ที่ซึ่งผ่าตัดออกไปไม่ได้ หรือรักษาไม่ได้
  • 1:04 - 1:07
    การแพร่กระจายของเนื้อร้าย
    เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
  • 1:07 - 1:09
    เป็นกระบวนการที่ฉันได้ศึกษามานานหลายปีแล้ว
  • 1:10 - 1:13
    และสิ่งที่ฉันและทีมงาน
    ได้ต้นพบเมื่อไม่นานมานี้ คือ
  • 1:13 - 1:17
    เซลล์มะเร็งสามารถสื่อสารถึงกันและกันได้
  • 1:17 - 1:19
    และร่วมประสานการเคลื่อนที่กัน
  • 1:19 - 1:24
    ขึ้นอยู่กับวิธีที่มันอัดตัวกันแน่น
    อยู่ในสภาวะแวดล้อมจุลภาคของเนื้องอก
  • 1:25 - 1:28
    พวกมันสื่อสารกันด้วย
    การหลั่งโมเลกุลสัญญาณสองตัว
  • 1:28 - 1:31
    ที่เรียกว่า อินเทอร์ลิวคิน-6
    และอินเทอร์ลิวคิน-8
  • 1:32 - 1:35
    ค่ะ ก็เหมือนกับสิ่งอื่น ๆ ในธรรมชาติ
  • 1:35 - 1:40
    เมื่อสิ่งต่าง ๆ แน่นมากไปหน่อย
    สัญญาณที่ว่านั้นก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
  • 1:40 - 1:44
    ทำให้เซลล์มะเร็งนั้น
    เคลื่อนตัวจากที่เดิมได้เร็วยิ่งขึ้น
  • 1:44 - 1:46
    แล้วก็ขยายออกไปยังที่ใหม่
  • 1:47 - 1:53
    ดังนั้น ถ้าเราสกัดกั้นสัญญาณนี้ไว้ โดยใช้
    ตัวยาผสมที่เราได้พัฒนาขึ้นมาแล้ว
  • 1:53 - 1:57
    เราก็จะสามารถหยุดการสื่อสาร
    ระหว่างเซลล์มะเร็งที่ว่านั้นได้
  • 1:57 - 1:59
    และทำให้การแพร่กระจายของมะเร็งนั้นช้าลงได้
  • 2:01 - 2:02
    ฉันขอหยุดไว้ตรงนี้สักประเดี๋ยว
  • 2:02 - 2:07
    และนำคุณกลับไปที่เมื่อตอน
    เรื่องทั้งหมดนี้เริ่มต้นสำหรับฉันในปี 2010
  • 2:07 - 2:10
    ตอนที่ฉันเพิ่งจะเรียนอยู่ปีที่สอง
    ในมหาวิทยาลัย
  • 2:10 - 2:14
    ฉันเพิ่งจะเริ่มทำงานในห้องทดลอง
    ของหมอแดนนี่ เวิร์ทซ์
  • 2:14 - 2:16
    ที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์
  • 2:16 - 2:22
    ฉันขอพูดตรง ๆ ว่าตอนนั้นฉันยังเป็น
    เด็กสาวหน่อมแน้ม ชาวศรีลังกา
  • 2:22 - 2:23
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:23 - 2:26
    ที่ยังไม่มีประสบการณ์งานวิจัยมาก่อน
  • 2:27 - 2:30
    และฉันก็ได้รับมอบหมายงานให้ไปดูว่า
    เซลล์มะเร็งเคลื่อนตัวไปอย่างไร
  • 2:30 - 2:33
    ในโครงสร้างสามมิติของคอลลาเจน 1
  • 2:33 - 2:35
    ที่ถูกห่อหุ้มไว้ในรูปแคปซูลซึ่งอยู่ในจาน
  • 2:35 - 2:39
    ซึ่งเป็นสภาวะที่เซลล์มะเร็ง
    อยู่ในร่างกายของเรา
  • 2:40 - 2:42
    เป็นเรื่องใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับฉัน
  • 2:42 - 2:47
    เพราะงานก่อนหน้านั้น
    ก็ทำบนจานพลาสติกสองมิติแบน ๆ
  • 2:47 - 2:50
    ที่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้เป็นตัวแทน
  • 2:50 - 2:53
    ของเซลล์มะเร็งที่อยู่ในร่างกายของเรา
  • 2:54 - 2:56
    เพราะว่า ยอมรับกันเถอะค่ะ
  • 2:56 - 3:00
    เซลล์มะเร็งในร่างกายของเรานั้น
    ไม่ได้เกาะติดอยู่บนจานพลาสติก
  • 3:01 - 3:04
    มันเป็นช่วงเวลาตอนน้้นเอง
    ที่ฉันไปร่วมประชุมสัมมนา
  • 3:04 - 3:08
    ที่จัดขึ้นโดยคุณหมอบอนนี่ บาสส์เลอร์
    จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน
  • 3:08 - 3:13
    เธอพูดถึงวิธีการที่เชื้อแบคทีเรีย
    สื่อสารซึ่งกันและกัน
  • 3:13 - 3:17
    ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของประชากร
    และวิธีการปฏิบัติแบบจำเพาะ
  • 3:18 - 3:23
    มันคือช่วงเวลานั้นเองที่ฉันคิดออกและคิดว่า
  • 3:23 - 3:27
    "ว้าว ฉันก็เห็นสิ่งนี้ในเซลล์มะเร็งของฉัน
    อยู่ทุกวันนี่นะ"
  • 3:27 - 3:28
    "ถ้าพูดถึงเรื่องการเคลื่อนที่ของมัน"
  • 3:29 - 3:32
    ด้วยเหตุนี้ แนวคิดโครงการของฉัน
    จึงเกิดขึ้นมา
  • 3:32 - 3:37
    ฉันตั้งสมมุติฐานไว้ว่า เซลล์มะเร็ง
    สามารถสื่อสารซึ่งกันและกันได้
  • 3:37 - 3:40
    และร่วมมือกันเคลื่อนที่ไป
  • 3:40 - 3:44
    ขึ้นอยู่กับวิธีที่มันอัดตัวกันแน่น
    อยู่ในสภาวะแวดล้อมจุลภาคของเนื้องอก
  • 3:45 - 3:49
    ฉันจึงได้มาหมกมุ่นอยู่กับการพยายามทำตาม
    สมมุติฐานนี้
  • 3:49 - 3:52
    และก็โชคดีค่ะ ฉันทำงานให้กับ
  • 3:52 - 3:55
    ผู้ที่เปิดโอกาสให้ทำ
    ตามแนวคิดที่แปลกประหลาดของฉัน
  • 3:55 - 3:58
    ฉันจึงทุ่มตัวไปกับโครงการนี้
  • 3:59 - 4:02
    อย่างไรก็ตาม ฉันไม่สามารถทำโครงการนี้
    ตามลำพังคนเดียว
  • 4:02 - 4:03
    ฉันต้องการความช่วยเหลือ
  • 4:03 - 4:05
    แน่นอนค่ะ ฉันต้องการความช่วยเหลือ
  • 4:06 - 4:09
    เราจึงประกาศรับนักศึกษาปริญญาตรี
    นักศึกษาปริญญาโท
  • 4:09 - 4:11
    นักวิจัยที่จบปริญญาเอกแล้ว และศาตราจารย์
  • 4:11 - 4:15
    จากสถาบันต่าง ๆ และจากหลากหลายสาขาวิชา
  • 4:15 - 4:18
    เข้ามาร่วมกันและทำงานตามแนวความคิดนี้
  • 4:19 - 4:21
    ซึ่งฉันก่อกำเนิดมันขึ้นมา
    ขณะเป็นนักศึกษาปีที่สองในมหาวิทยาลัย
  • 4:22 - 4:25
    หลังจากหลายต่อหลายปี
    ของการทดลองร่วมกัน
  • 4:25 - 4:29
    แนวคิดและมุมมองต่าง ๆ ก็ได้ผุดขึ้นมา
  • 4:29 - 4:32
    เราพบช่องทางการส่งสัญญาณใหม่
  • 4:32 - 4:37
    ที่ควบคุมการสื่อสาร
    และเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็ง
  • 4:37 - 4:39
    โดยขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเซลล์
  • 4:40 - 4:42
    บางท่านอาจจะได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว
  • 4:42 - 4:46
    เพราะสื่อสังคมส่วนใหญ่รู้กัน
    ในนามว่า ผลกระทบฮาสินิ
  • 4:46 - 4:49
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:49 - 4:55
    (เสียงปรบมือ)
  • 4:56 - 4:58
    แต่เรายังทำไม่เสร็จค่ะ
  • 4:58 - 5:02
    เราตัดสินใจว่า เราต้องการจะปิดกั้น
    ช่องทางส่งสัญญาณนี้
  • 5:02 - 5:05
    และดูว่าจะสามารถทำให้การแพร่กระจาย
    ของมะเร็งนั้นช้าลงได้หรือไม่
  • 5:05 - 5:08
    ซึ่งเราก็ทำได้แล้ว ในการทดลองกับสัตว์
  • 5:08 - 5:13
    เราได้ส่วนผสมของตัวยาที่ประกอบด้วย
    โทซิลิซูแมบ
  • 5:13 - 5:16
    ซึ่งปัจจุบันใช้เพื่อรักษา
    โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
  • 5:16 - 5:20
    และ รีพาริซิน ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในช่วง
    ทดลองใช้รักษามะเร็งเต้านม
  • 5:21 - 5:26
    และที่น่าสนใจ สิ่งที่เราพบแล้ว คือ
    ตัวยาผสมนี้
  • 5:26 - 5:29
    จริง ๆ แล้วไม่มีผลกระทบต่อ
    การเติบโตของเนื้องอก
  • 5:29 - 5:31
    แต่มันตั้งเป้าตรงไปที่
    การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
  • 5:32 - 5:35
    นี่เป็นการค้นพบที่มีนัยสำคัญ
  • 5:35 - 5:39
    เพราะปัจจุบัน ไม่มีการรักษาโรคที่ได้รับ
    การยอมรับจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ
  • 5:39 - 5:42
    ที่มุ่งตรงเป้าหมายไปที่
    การแพร่กระจายของมะเร็ง
  • 5:42 - 5:46
    ที่จริงแล้ว การแพร่กระจายของมะเร็ง
    หรือเมทาสทะซิสนี้
  • 5:46 - 5:49
    ถูกคิดกันว่าเป็นผลพวง
    ของการเติบโตของเนื้องอก
  • 5:49 - 5:53
    ซึ่งแนวคิดก็คือ ถ้าหากเราสามารถหยุดยั้ง
    ไม่ให้เนื้องอกเติบโต
  • 5:53 - 5:56
    เราก็จะสามารถหยุดยั้งเนื้องอก
    ไม่ให้แพร่กระจายออกไปได้
  • 5:56 - 6:00
    อย่างไรก็ตาม พวกเราส่วนใหญ่ก็รู้ว่า
    เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
  • 6:01 - 6:04
    แต่อีกแง่หนึ่ง เราก็ได้ตัวยาผสมมา
  • 6:05 - 6:09
    ที่เล็งเป้าไปที่การแพร่กระจายของเนื้องอก
    ไม่ได้เล็งไปที่การเติบโตของเนื้องอก
  • 6:09 - 6:12
    แต่ด้วยการเล็งเป้าไปที่
    กลไกซับซ้อนที่ควบคุณมันอยู่นั้น
  • 6:12 - 6:15
    ผ่านทางการเล็งเป้าของ "ผลกระทบฮาสินิ"
  • 6:15 - 6:17
    (เสียงหัวเราะ)
  • 6:17 - 6:22
    งานวิจัยชิ้นนี้เพิ่งได้ตีพิมพ์เผยแพร่
    ในวารสาร "เนเจอร์ คอมมิวนิเคชั่นส์"
  • 6:22 - 6:27
    ทีมงานพร้อมกับตัวฉัน ได้รับการตอบรับ
    อย่างท่วมท้นจากทั่วโลก
  • 6:27 - 6:31
    ไม่มีใครในทีมงานที่สามารถคาดถึง
    การตอบรับแบบนี้ได้
  • 6:31 - 6:33
    พวกเราดูจะไม่พอใจจากคำวิจารณ์
  • 6:33 - 6:39
    เมื่อมองย้อนไป ฉันรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง
    กับการตอบรับเชิงบวก ที่ฉันได้รับ
  • 6:39 - 6:42
    ไม่ใช่จากเพียงแค่มหาวิทยาลัย
    แต่จากผู้ป่วยอีกด้วย
  • 6:42 - 6:46
    และจากผู้คนทั่วโลก
    ที่ได้รับผลกระทบจากโรคร้ายนี้
  • 6:47 - 6:52
    เมื่อมาคิดพิจารณาถึงความสำเร็จนี้
    ฉันก็ได้เผชิญหน้ากับ "ผลกระทบฮาสินิ"
  • 6:52 - 6:57
    ฉันยังคงกลับไปถึงผู้คน
    ที่ฉันโชคดีที่ได้ทำงานด้วยกันกับเขา
  • 6:58 - 6:59
    นักศึกษาปริญญาตรีเหล่านั้น
  • 6:59 - 7:04
    ที่แสดงออกมาซึ่งพลังยอดมนุษย์
    ผ่านทางงานหนักและการอุทิศทุ่มเทของพวกเขา
  • 7:05 - 7:08
    นักศึกษาปริญญาโท
    และนักวิจัยที่จบปริญญาเอกแล้ว
  • 7:08 - 7:12
    เพื่อน ๆ กลุ่ม อเวนเจอร์
    ที่สอนเทคนิคใหม่ ๆ ให้ฉัน
  • 7:12 - 7:14
    และก็คอยดูให้แน่ใจว่า
    ฉันยังคงก้าวหน้าไปอย่างถูกต้อง
  • 7:15 - 7:19
    ท่านศาสตราจารย์ เหล่าโยดา
    และเหล่าโอบิ-วาน เคโนบิของฉัน
  • 7:19 - 7:24
    ซึ่งได้นำความเชี่ยวชาญของพวกเขาเข้ามา
    ทำให้งานนี้เป็นสิ่งที่เห็นอยู่ในวันนี้
  • 7:25 - 7:29
    คณะทำงานสนับสนุน เพื่อน ๆ และครอบครัว
  • 7:29 - 7:31
    ผู้คนทั้งหลายที่คอยให้กำลังใจ
  • 7:31 - 7:35
    และไม่เคยที่จะให้เราเลิกล้ม
    ในความพยายามที่ยากยิ่งของเรา
  • 7:35 - 7:38
    เหล่าผู้ช่วยที่ดีที่สุดที่เราจะขอได้
  • 7:39 - 7:42
    ต้องใช้คนทั้งหมู่บ้านมาช่วยฉันศึกษา
    เรื่องการแพร่กระจายของโรค
  • 7:42 - 7:46
    เชื่อเถอะค่ะ ถ้าไม่มีหมู่บ้านของฉัน
    ฉันคงจะมาอยู่ตรงนี้ไม่ได้
  • 7:47 - 7:50
    ในวันนี้ ทีมงานของเราได้เติบโตขึ้นมา
  • 7:50 - 7:54
    และเราก็กำลังใช้ "ผลกระทบเฮสินิ" อยู่
    เพื่อพัฒนาการรักษาแบบใช้ยาหลาย ๆ ชนิดผสมกัน
  • 7:54 - 7:58
    ที่เล็งเป้าไปที่การเติบโตและการแพร่กระจาย
    ของเนื้องอก อย่างมีประสิทธิภาพ
  • 7:58 - 8:02
    เรากำลังสรรสร้าง
    วิธีบำบัดรักษาที่ต่อต้านมะร็งแบบใหม่ ๆ
  • 8:02 - 8:05
    เพื่อจำกัดความเป็นพิษ และเพื่อลดการต้านยา
  • 8:06 - 8:09
    และเรากำลังพัฒนาระบบแบบใหม่
  • 8:09 - 8:14
    ที่จะช่วยในการพัฒนาเรื่องการทดลองใช้ยา
    กับมนุษย์ที่ดียิ่งขึ้น
  • 8:14 - 8:19
    มันทำให้ฉันตื่นเต้นและประหลาดใจ
    ที่คิดว่าทั้งหมดนี้
  • 8:19 - 8:22
    งานซึ่งไม่น่าเชื่อ
    ที่ฉันกำลังพยายามทำอยู่นี้
  • 8:22 - 8:25
    และความจริงที่ว่า ฉันกำลังยืนอยู่ตรงนี้
    กำลังพูดกับคุณวันนี้
  • 8:25 - 8:28
    ทั้งหมดนั้นมาจากแนวความคิดเล็กน้อย
  • 8:28 - 8:31
    ที่ฉันมีเมื่อตอนกำลังนั่งอยู่ที่
    ด้านหลังของการประชุมสัมมนา
  • 8:31 - 8:33
    เมื่อตอนฉันอายุแค่ 20 ปี
  • 8:34 - 8:39
    ฉันยังจำเรื่องนั้นได้
    ขณะที่ฉันอยู่บนเส้นทางที่เหลือเชื่อนี้
  • 8:39 - 8:43
    ที่ทำให้ฉันได้ทำงานที่ฉันลุ่มหลงจนสำเร็จ
  • 8:43 - 8:47
    และเป็นสิ่งที่บำรุงหล่อเลี้ยง
    ความอยากรู้อยากเห็นของฉันในแต่ละวัน
  • 8:48 - 8:53
    แต่ฉันก็ต้องบอกว่า
    ส่วนที่โปรดปรานของฉันในทั้งหมดนี้ ..
  • 8:53 - 8:56
    นอกเหนือจาก แน่นอนค่ะ การมาอยู่ตรงนี้
    พูดคุยกับคุณในวันนี้
  • 8:56 - 9:01
    ก็คือ ข้อเท็จจริงที่ว่า ฉันได้ทำงาน
    กับกลุ่มคนหลากหลาย
  • 9:01 - 9:07
    ที่ทำให้งานของฉันแข็งแรงยิ่งขึ้น
    ดียิ่งขึ้น และก็สนุกสนานยิ่งขึ้นอย่างมาก
  • 9:08 - 9:10
    และเพราะเหตุนี้ ฉันก็ต้องขอบอกว่า
  • 9:10 - 9:14
    การร่วมมือกันเป็น
    พลังยอดมนุษย์ที่ฉันโปรดปราน
  • 9:15 - 9:19
    และสิ่งที่ฉันรักเกี่ยวกับพลังที่ว่านี้
    คือ มันไม่ได้มีเฉพาะสำหรับฉันเท่านั้น
  • 9:19 - 9:21
    มันอยู่ในพวกเราทุกคน
  • 9:22 - 9:25
    งานของฉันแสดงให้เห็นว่า
    แม้กระทั่งเซลล์มะเร็ง
  • 9:25 - 9:29
    ก็ใช้การร่วมมือกันนี้ รุกลํ้าร่ายกายของเรา
    และแพร่ขยายความโกรธเคืองคั่งแค้นของมัน
  • 9:30 - 9:35
    สำหรับพวกมนุษย์เรานั้น พลังยอดมนุษย์นี้เอง
    ที่ได้ทำให้เกิดการค้นพบที่เหลือเชื่อขึ้นมา
  • 9:35 - 9:38
    ในสาขาวิชาการแพทย์และวิทยาศาสตร์
  • 9:38 - 9:41
    และมันก็พลังยอดมนุษย์นี้เอง
    ที่เราทุกคนสามารถหันไปหา
  • 9:41 - 9:45
    เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เราสร้าง
    สิ่งที่ขนาดใหญ่กว่าตัวเราเอง
  • 9:45 - 9:48
    ที่ช่วยทำให้โลกเป็นที่ที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
  • 9:49 - 9:54
    การร่วมมือกันเป็นยอดพลัง
    ที่ฉันหันไปหา เพื่อช่วยฉันต่อสู้กับมะเร็ง
  • 9:55 - 9:59
    และฉันก็มั่นใจว่า
    ด้วยการร่วมมือกันที่ถูกต้องนั้น
  • 9:59 - 10:01
    เราจะเอาชนะโรคร้ายนี้ได้
  • 10:02 - 10:03
    ขอบคุณค่ะ
  • 10:03 - 10:06
    (เสียงปรบมือ)
Title:
เซลล์มะเร็งสื่อสารถึงกันอย่างไร -- และเราจะทำให้มัน (แพร่กระจายไป) ช้าลงได้อย่างไร
Speaker:
ฮาสินิ จายาทิลากา (Hasini Jayatilaka)
Description:

เมื่อเซลล์มะเร็งอัดตัวกันชิดแน่นในเนื้องอก พวกมันก็สามารถสื่อสารซึ่งกันและกันได้ และร่วมมือกันเคลื่อนตัวคืบคลานไปทั่วร่างกาย สมมุติว่าเราสามารถเข้าไปขัดขวางกระบวนการนี้ได้เล่า ในการพูดที่สามารถเข้าถึงได้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ลํ้ายุคนี้ ฮาสานิ จายาทิลากา เล่าให้เราฟังถึงงานของเธอเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ เพื่อหยุดเซลล์มะเร็งไม่ให้สื่อสารถึงกันได้ -- และยับยั้งความสามารถของมันที่จะแพร่กระจายไปจนทำให้เราถึงแก่ความตายได้

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
10:19

Thai subtitles

Revisions