มะเร็ง เป็นโรคร้ายที่ทำให้เกิด ความเสียหายทางอารมณ์อย่างมากมาย ไม่ใช่เฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น แต่คนที่ผู้ป่วยรักอีกด้วย เป็นการสู้รบที่เผ่าพันธุ์ุมนุษย์ ได้ต่อสู้มาอย่่างต่อเนื่องนานหลายศตวรรษ และในขณะที่เราได้ก้าวหน้าไปบ้างแล้ว เราก็ยังคงเอาชนะมันไม่ได้ สองในห้าคนในสหรัฐอเมริกา จะพัฒนาเป็นโรคมะเร็งในช่วงชีวิตของเขา ในจำนวนนั้น 90% จะตายไปเพราะโรค เนื่องมาจากเมทาสทะซิสส์ เมทาสทะซิส คือการแพร่กระจายของเนื้อร้าย จากเซลล์หลักไปยังเซลล์อื่น ผ่านระบบหมุนเวียนของเลือด หรือระบบน้ำเหลือง ตัวอย่างเช่น ผู้ปวยหญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม ไม่ได้ยอมจำนนต่อโรค เพียงเพราะเธอมีก้อนอยู่ที่เต้านมของเธอ เธอพ่ายแพ้ต่อโรคเพราะมันแพร่กระจายไป ที่ปอด ตับ ต่อมน้ำเหลือ สมอง กระดูก ที่ซึ่งผ่าตัดออกไปไม่ได้ หรือรักษาไม่ได้ การแพร่กระจายของเนื้อร้าย เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เป็นกระบวนการที่ฉันได้ศึกษามานานหลายปีแล้ว และสิ่งที่ฉันและทีมงาน ได้ต้นพบเมื่อไม่นานมานี้ คือ เซลล์มะเร็งสามารถสื่อสารถึงกันและกันได้ และร่วมประสานการเคลื่อนที่กัน ขึ้นอยู่กับวิธีที่มันอัดตัวกันแน่น อยู่ในสภาวะแวดล้อมจุลภาคของเนื้องอก พวกมันสื่อสารกันด้วย การหลั่งโมเลกุลสัญญาณสองตัว ที่เรียกว่า อินเทอร์ลิวคิน-6 และอินเทอร์ลิวคิน-8 ค่ะ ก็เหมือนกับสิ่งอื่น ๆ ในธรรมชาติ เมื่อสิ่งต่าง ๆ แน่นมากไปหน่อย สัญญาณที่ว่านั้นก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เซลล์มะเร็งนั้น เคลื่อนตัวจากที่เดิมได้เร็วยิ่งขึ้น แล้วก็ขยายออกไปยังที่ใหม่ ดังนั้น ถ้าเราสกัดกั้นสัญญาณนี้ไว้ โดยใช้ ตัวยาผสมที่เราได้พัฒนาขึ้นมาแล้ว เราก็จะสามารถหยุดการสื่อสาร ระหว่างเซลล์มะเร็งที่ว่านั้นได้ และทำให้การแพร่กระจายของมะเร็งนั้นช้าลงได้ ฉันขอหยุดไว้ตรงนี้สักประเดี๋ยว และนำคุณกลับไปที่เมื่อตอน เรื่องทั้งหมดนี้เริ่มต้นสำหรับฉันในปี 2010 ตอนที่ฉันเพิ่งจะเรียนอยู่ปีที่สอง ในมหาวิทยาลัย ฉันเพิ่งจะเริ่มทำงานในห้องทดลอง ของหมอแดนนี่ เวิร์ทซ์ ที่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์ ฉันขอพูดตรง ๆ ว่าตอนนั้นฉันยังเป็น เด็กสาวหน่อมแน้ม ชาวศรีลังกา (เสียงหัวเราะ) ที่ยังไม่มีประสบการณ์งานวิจัยมาก่อน และฉันก็ได้รับมอบหมายงานให้ไปดูว่า เซลล์มะเร็งเคลื่อนตัวไปอย่างไร ในโครงสร้างสามมิติของคอลลาเจน 1 ที่ถูกห่อหุ้มไว้ในรูปแคปซูลซึ่งอยู่ในจาน ซึ่งเป็นสภาวะที่เซลล์มะเร็ง อยู่ในร่างกายของเรา เป็นเรื่องใหม่และน่าตื่นเต้นสำหรับฉัน เพราะงานก่อนหน้านั้น ก็ทำบนจานพลาสติกสองมิติแบน ๆ ที่จริง ๆ แล้ว ไม่ได้เป็นตัวแทน ของเซลล์มะเร็งที่อยู่ในร่างกายของเรา เพราะว่า ยอมรับกันเถอะค่ะ เซลล์มะเร็งในร่างกายของเรานั้น ไม่ได้เกาะติดอยู่บนจานพลาสติก มันเป็นช่วงเวลาตอนน้้นเอง ที่ฉันไปร่วมประชุมสัมมนา ที่จัดขึ้นโดยคุณหมอบอนนี่ บาสส์เลอร์ จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เธอพูดถึงวิธีการที่เชื้อแบคทีเรีย สื่อสารซึ่งกันและกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของประชากร และวิธีการปฏิบัติแบบจำเพาะ มันคือช่วงเวลานั้นเองที่ฉันคิดออกและคิดว่า "ว้าว ฉันก็เห็นสิ่งนี้ในเซลล์มะเร็งของฉัน อยู่ทุกวันนี่นะ" "ถ้าพูดถึงเรื่องการเคลื่อนที่ของมัน" ด้วยเหตุนี้ แนวคิดโครงการของฉัน จึงเกิดขึ้นมา ฉันตั้งสมมุติฐานไว้ว่า เซลล์มะเร็ง สามารถสื่อสารซึ่งกันและกันได้ และร่วมมือกันเคลื่อนที่ไป ขึ้นอยู่กับวิธีที่มันอัดตัวกันแน่น อยู่ในสภาวะแวดล้อมจุลภาคของเนื้องอก ฉันจึงได้มาหมกมุ่นอยู่กับการพยายามทำตาม สมมุติฐานนี้ และก็โชคดีค่ะ ฉันทำงานให้กับ ผู้ที่เปิดโอกาสให้ทำ ตามแนวคิดที่แปลกประหลาดของฉัน ฉันจึงทุ่มตัวไปกับโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม ฉันไม่สามารถทำโครงการนี้ ตามลำพังคนเดียว ฉันต้องการความช่วยเหลือ แน่นอนค่ะ ฉันต้องการความช่วยเหลือ เราจึงประกาศรับนักศึกษาปริญญาตรี นักศึกษาปริญญาโท นักวิจัยที่จบปริญญาเอกแล้ว และศาตราจารย์ จากสถาบันต่าง ๆ และจากหลากหลายสาขาวิชา เข้ามาร่วมกันและทำงานตามแนวความคิดนี้ ซึ่งฉันก่อกำเนิดมันขึ้นมา ขณะเป็นนักศึกษาปีที่สองในมหาวิทยาลัย หลังจากหลายต่อหลายปี ของการทดลองร่วมกัน แนวคิดและมุมมองต่าง ๆ ก็ได้ผุดขึ้นมา เราพบช่องทางการส่งสัญญาณใหม่ ที่ควบคุมการสื่อสาร และเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็ง โดยขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของเซลล์ บางท่านอาจจะได้ยินเรื่องนี้มาแล้ว เพราะสื่อสังคมส่วนใหญ่รู้กัน ในนามว่า ผลกระทบฮาสินิ (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ) แต่เรายังทำไม่เสร็จค่ะ เราตัดสินใจว่า เราต้องการจะปิดกั้น ช่องทางส่งสัญญาณนี้ และดูว่าจะสามารถทำให้การแพร่กระจาย ของมะเร็งนั้นช้าลงได้หรือไม่ ซึ่งเราก็ทำได้แล้ว ในการทดลองกับสัตว์ เราได้ส่วนผสมของตัวยาที่ประกอบด้วย โทซิลิซูแมบ ซึ่งปัจจุบันใช้เพื่อรักษา โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ และ รีพาริซิน ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในช่วง ทดลองใช้รักษามะเร็งเต้านม และที่น่าสนใจ สิ่งที่เราพบแล้ว คือ ตัวยาผสมนี้ จริง ๆ แล้วไม่มีผลกระทบต่อ การเติบโตของเนื้องอก แต่มันตั้งเป้าตรงไปที่ การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง นี่เป็นการค้นพบที่มีนัยสำคัญ เพราะปัจจุบัน ไม่มีการรักษาโรคที่ได้รับ การยอมรับจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ที่มุ่งตรงเป้าหมายไปที่ การแพร่กระจายของมะเร็ง ที่จริงแล้ว การแพร่กระจายของมะเร็ง หรือเมทาสทะซิสนี้ ถูกคิดกันว่าเป็นผลพวง ของการเติบโตของเนื้องอก ซึ่งแนวคิดก็คือ ถ้าหากเราสามารถหยุดยั้ง ไม่ให้เนื้องอกเติบโต เราก็จะสามารถหยุดยั้งเนื้องอก ไม่ให้แพร่กระจายออกไปได้ อย่างไรก็ตาม พวกเราส่วนใหญ่ก็รู้ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แต่อีกแง่หนึ่ง เราก็ได้ตัวยาผสมมา ที่เล็งเป้าไปที่การแพร่กระจายของเนื้องอก ไม่ได้เล็งไปที่การเติบโตของเนื้องอก แต่ด้วยการเล็งเป้าไปที่ กลไกซับซ้อนที่ควบคุณมันอยู่นั้น ผ่านทางการเล็งเป้าของ "ผลกระทบฮาสินิ" (เสียงหัวเราะ) งานวิจัยชิ้นนี้เพิ่งได้ตีพิมพ์เผยแพร่ ในวารสาร "เนเจอร์ คอมมิวนิเคชั่นส์" ทีมงานพร้อมกับตัวฉัน ได้รับการตอบรับ อย่างท่วมท้นจากทั่วโลก ไม่มีใครในทีมงานที่สามารถคาดถึง การตอบรับแบบนี้ได้ พวกเราดูจะไม่พอใจจากคำวิจารณ์ เมื่อมองย้อนไป ฉันรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง กับการตอบรับเชิงบวก ที่ฉันได้รับ ไม่ใช่จากเพียงแค่มหาวิทยาลัย แต่จากผู้ป่วยอีกด้วย และจากผู้คนทั่วโลก ที่ได้รับผลกระทบจากโรคร้ายนี้ เมื่อมาคิดพิจารณาถึงความสำเร็จนี้ ฉันก็ได้เผชิญหน้ากับ "ผลกระทบฮาสินิ" ฉันยังคงกลับไปถึงผู้คน ที่ฉันโชคดีที่ได้ทำงานด้วยกันกับเขา นักศึกษาปริญญาตรีเหล่านั้น ที่แสดงออกมาซึ่งพลังยอดมนุษย์ ผ่านทางงานหนักและการอุทิศทุ่มเทของพวกเขา นักศึกษาปริญญาโท และนักวิจัยที่จบปริญญาเอกแล้ว เพื่อน ๆ กลุ่ม อเวนเจอร์ ที่สอนเทคนิคใหม่ ๆ ให้ฉัน และก็คอยดูให้แน่ใจว่า ฉันยังคงก้าวหน้าไปอย่างถูกต้อง ท่านศาสตราจารย์ เหล่าโยดา และเหล่าโอบิ-วาน เคโนบิของฉัน ซึ่งได้นำความเชี่ยวชาญของพวกเขาเข้ามา ทำให้งานนี้เป็นสิ่งที่เห็นอยู่ในวันนี้ คณะทำงานสนับสนุน เพื่อน ๆ และครอบครัว ผู้คนทั้งหลายที่คอยให้กำลังใจ และไม่เคยที่จะให้เราเลิกล้ม ในความพยายามที่ยากยิ่งของเรา เหล่าผู้ช่วยที่ดีที่สุดที่เราจะขอได้ ต้องใช้คนทั้งหมู่บ้านมาช่วยฉันศึกษา เรื่องการแพร่กระจายของโรค เชื่อเถอะค่ะ ถ้าไม่มีหมู่บ้านของฉัน ฉันคงจะมาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ ในวันนี้ ทีมงานของเราได้เติบโตขึ้นมา และเราก็กำลังใช้ "ผลกระทบเฮสินิ" อยู่ เพื่อพัฒนาการรักษาแบบใช้ยาหลาย ๆ ชนิดผสมกัน ที่เล็งเป้าไปที่การเติบโตและการแพร่กระจาย ของเนื้องอก อย่างมีประสิทธิภาพ เรากำลังสรรสร้าง วิธีบำบัดรักษาที่ต่อต้านมะร็งแบบใหม่ ๆ เพื่อจำกัดความเป็นพิษ และเพื่อลดการต้านยา และเรากำลังพัฒนาระบบแบบใหม่ ที่จะช่วยในการพัฒนาเรื่องการทดลองใช้ยา กับมนุษย์ที่ดียิ่งขึ้น มันทำให้ฉันตื่นเต้นและประหลาดใจ ที่คิดว่าทั้งหมดนี้ งานซึ่งไม่น่าเชื่อ ที่ฉันกำลังพยายามทำอยู่นี้ และความจริงที่ว่า ฉันกำลังยืนอยู่ตรงนี้ กำลังพูดกับคุณวันนี้ ทั้งหมดนั้นมาจากแนวความคิดเล็กน้อย ที่ฉันมีเมื่อตอนกำลังนั่งอยู่ที่ ด้านหลังของการประชุมสัมมนา เมื่อตอนฉันอายุแค่ 20 ปี ฉันยังจำเรื่องนั้นได้ ขณะที่ฉันอยู่บนเส้นทางที่เหลือเชื่อนี้ ที่ทำให้ฉันได้ทำงานที่ฉันลุ่มหลงจนสำเร็จ และเป็นสิ่งที่บำรุงหล่อเลี้ยง ความอยากรู้อยากเห็นของฉันในแต่ละวัน แต่ฉันก็ต้องบอกว่า ส่วนที่โปรดปรานของฉันในทั้งหมดนี้ .. นอกเหนือจาก แน่นอนค่ะ การมาอยู่ตรงนี้ พูดคุยกับคุณในวันนี้ ก็คือ ข้อเท็จจริงที่ว่า ฉันได้ทำงาน กับกลุ่มคนหลากหลาย ที่ทำให้งานของฉันแข็งแรงยิ่งขึ้น ดียิ่งขึ้น และก็สนุกสนานยิ่งขึ้นอย่างมาก และเพราะเหตุนี้ ฉันก็ต้องขอบอกว่า การร่วมมือกันเป็น พลังยอดมนุษย์ที่ฉันโปรดปราน และสิ่งที่ฉันรักเกี่ยวกับพลังที่ว่านี้ คือ มันไม่ได้มีเฉพาะสำหรับฉันเท่านั้น มันอยู่ในพวกเราทุกคน งานของฉันแสดงให้เห็นว่า แม้กระทั่งเซลล์มะเร็ง ก็ใช้การร่วมมือกันนี้ รุกลํ้าร่ายกายของเรา และแพร่ขยายความโกรธเคืองคั่งแค้นของมัน สำหรับพวกมนุษย์เรานั้น พลังยอดมนุษย์นี้เอง ที่ได้ทำให้เกิดการค้นพบที่เหลือเชื่อขึ้นมา ในสาขาวิชาการแพทย์และวิทยาศาสตร์ และมันก็พลังยอดมนุษย์นี้เอง ที่เราทุกคนสามารถหันไปหา เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เราสร้าง สิ่งที่ขนาดใหญ่กว่าตัวเราเอง ที่ช่วยทำให้โลกเป็นที่ที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น การร่วมมือกันเป็นยอดพลัง ที่ฉันหันไปหา เพื่อช่วยฉันต่อสู้กับมะเร็ง และฉันก็มั่นใจว่า ด้วยการร่วมมือกันที่ถูกต้องนั้น เราจะเอาชนะโรคร้ายนี้ได้ ขอบคุณค่ะ (เสียงปรบมือ)