-
รู้กันไหมคะว่าฮิตเลอร์ไม่ชอบโดนเรียกว่านาซี
-
สวัสดีค่า วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
หลายคนนะคะเรียกร้องวิวมามากมายค่ะว่า
-
ให้วิวเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
เกี่ยวกับพรรคนาซี เกี่ยวกับอะไรต่างๆนะคะ
-
ซึ่งทำให้วิวเนี่ยไปค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับพรรคนี้มาค่ะ
-
ระหว่างที่กำลังค้นๆๆๆนั้น
วิวก็พบกับข้อมูลที่น่าสนใจกว่าค่ะ
-
ก็คือหัวข้อของคลิปนี้นั่นเอง
-
ฟังดูคลิกเบตมากๆ
-
แบบอะไร นาซีแปลว่าโง่
และฮิตเลอร์ไม่ชอบโดนเรียกว่านาซีนะคะ
-
จะบอกว่าวิวไม่ได้คลิกเบตค่ะ
นี่คือเรื่องจริงนะคะทุกคน
-
แต่เป็นเรื่องจริงที่คนทั่วโลกลืมกันไปแล้ว
-
เพราะว่าเอาคำว่านาซีไปเรียกพรรคการเมือง
ของฮิตเลอร์กันจนนึกว่าเป็นเรื่องปกตินะคะ
-
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ปกติค่ะ
-
ดังนั้นวันนี้เรามาคุยกันที่หัวข้อนี้ดีกว่า
-
ก่อนจะไปคุยกันเนี่ย ขอออกตัวก่อนเลยว่า
-
คลิปนี้จะประกอบไปด้วยคำศัพท์
ภาษาต่างประเทศมากมายนะคะ
-
เพราะว่าพอเราพูดถึงรากศัพท์เนี่ย
-
พอไปเผยแพร่ในประเทศต่างๆในยุโรปเนี่ย
-
มันก็จะออกเสียงไม่เหมือนกัน
-
วิวอาจจะออกเสียงผิดบ้างอะไรบ้าง
-
วิวจะพยายามขึ้นเป็นคำศัพท์ไว้นะคะ
-
ถ้าสมมติว่าใครออกเสียงได้ถูกกว่าวิว
-
ใครรู้ว่าจริงๆมันออกยังไง
-
ก็สามารถมาคอมเมนต์บอกกันด้านล่างได้ค่ะ
-
และแน่นอนว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องการด่ากันอะไรต่างๆ
-
มันจะประกอบด้วยการเหยียดค่อนข้างเยอะนะคะ
-
วันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะมาเหยียด
ไม่ได้ตั้งใจจะมาอะไรค่ะ
-
ตั้งใจจะมาเล่าว่าคนสมัยก่อน
เขาเหยียดกันยังไงนะคะ
-
เอาล่ะ ก่อนจะไปเข้าเรื่องกัน
อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ
-
จะได้ไม่พลาดคลิปวิดีโอสนุกๆแล้วก็
ข่าวสารดีๆจากช่อง Point of View ค่ะ
-
สำหรับตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้ง
สนุกแล้วก็ได้สาระกันรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ
-
จะบอกว่าคลิปนี้จะเป็นอีกคลิปนึงนะคะ
ที่ออกนอกเรื่องไกลมาก
-
เพราะว่ามันพูดถึงเรื่องรากศัพท์อะไรต่างๆนะ
-
คล้ายๆกับตอนที่วิวทำคลิปเรื่อง
-
คำว่าสวัสดีเกี่ยวข้องอะไรกับเครื่องหมายสวัสดิกะ
-
ประวัติคำว่าสวัสดี อะไรทำนองนั้นนะคะ
-
ซึ่งถ้าใครอยากดูก็สามารถกดไปดูได้ตรงนี้ค่ะ
-
แต่ตอนนี้เรามาดูประวัติของคำว่านาซีกันดีกว่าค่ะ
-
ว่าคำว่านาซีมีที่มาจากไหนอะไรยังไงนะคะ
-
เริ่มจากคำว่านาซีที่เราคุ้นเคยกันที่สุดก่อนค่ะ
-
นาซีนี่คือพรรคการเมืองใช่ไหม
-
เป็นพรรคการเมืองที่ฮิตเลอร์อยู่
แล้วก็ใช้สร้างฐานอำนาจอะไรต่างๆ
-
จนกระทั่งไปก่อให้เกิด
สงครามโลกครั้งที่สอง นู่นนี่นั่นนะคะ
-
ซึ่งเราจะไม่พูดถึงในที่นี้
-
แต่คำว่านาซีในที่นี้
จริงๆพรรคนาซีไม่ได้ชื่อนาซีค่ะ
-
ชื่อเต็มๆของมันเป็นภาษาเยอรมันยาวมากนะคะ
-
ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษจะได้ว่า
-
National Socialist German Workers' Party นั่นเองค่ะ
-
ก็คือประมาณว่าพรรคสังคมนิยมแห่ง
คนงานเยอรมัน อะไรทำนองนี้นะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ถ้าเราไปดูที่ชื่อเยอรมันของมันเนี่ย
-
ชื่อมันจะยาวประมาณนี้
-
ใช่เลยค่ะ วิวออกเสียงไม่ได้นะคะ
-
มันคือ National Socialist...
-
อะไรก็ไม่รู้ช่างมันนะคะ
-
เอาเป็นว่าใครรู้ภาษาเยอรมัน
คอมเมนต์มาให้หน่อยนะทุกคน
-
อย่างไรก็ตามนะคะถ้าเห็นจากชื่อเต็มเนี่ย
ตัวย่อจริงๆของพรรคเขาชื่อว่า NSDAP นั่นเอง
-
อ้าว ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่านาซีเลยนะคะ
-
แล้วคำว่านาซีมาเกี่ยวข้องกับพรรคนี้ได้ยังไง
-
ก็ต้องบอกว่าต้องย้อนไปไกลมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
-
ทำ echo เองด้วยนะคนเรา
-
คือต้องย้อนไปถึงสมัยจักรวรรดิโรมันนะคะ
เก่าแก่ขนาดนั้นเลยทีเดียว
-
ในสมัยจักรวรรดิโรมันโบราณเนี่ยนะคะ
มันมีชื่อนึงที่มีชื่อเสียงค่ะ
-
คือคนเนี่ยชอบตั้งชื่อกันต่างๆนานา
-
ชื่อนึงที่มีชื่อเสียงเนี่ย มาจากนามสกุล
ที่เรียกว่า Egnatius นะคะ เขียนแบบนี้เลย
-
ซึ่งคำนี้มันจะมาจากรากศัพท์ที่แปลว่าไฟนะคะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะชื่อนี้เป็นชื่อที่ค่อนข้างจะโด่งดังนะ
-
และคนในจักรวรรดิโรมันโบราณก็
ชื่อนี้กันค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
-
และแน่นอนนะคะเมื่อมันเป็นชื่อที่มีชื่อเสียง
ในจักรวรรดิโรมันโบราณเนี่ย
-
ชาวยุโรปในสมัยต่อๆมาก็จะต้อง
-
นำเอาชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อลูกตัวเองกันเต็มไปหมดเลยค่ะ
-
ก็จะมีคนชื่อ Egnatius
-
ชื่อ Egnetus
-
อะไรต่างๆนะคะในประเทศต่างๆ
-
แล้วแต่ว่าเป็นสำเนียงไหน
-
ไปอยู่ในสเปนก็เป็นชื่อนึง
-
ไปอยู่ในอิตาลีก็เป็นอีกชื่อนึง
-
ไปอยู่ในเยอรมันก็เป็นอีกชื่อนึงนะคะ
-
ชื่อนี้ก็ใช้กันมาเรื่อยๆนะคะ
-
จนกระทั่งมีคุณ Ignatius ที่มีชื่อเสียงขึ้นมาคนนึงค่ะ
-
คนคนนี้ไม่ใช่คนเยอรมันนะคะ
เขาเป็นคนสเปนค่ะ และเขาเป็นทหาร
-
ซึ่งบังเอิญว่าในการไปออกศึกครั้งนึงของเขาเนี่ย
-
เขาเกิดได้รับบาดเจ็บรุนแรงค่ะ
-
ทำให้เขาจะต้องไปพักรักษาตัวอยู่นานมาก
-
และแน่นอนนะคะ
คนเราเวลามีประสบการณ์เฉียดตายเนี่ย
-
บางครั้งเราก็จะเกิดการบรรลุอะไรบางอย่างนะคะ
-
คุณ Ignatius คนนี้
เขาก็เกิดบรรลุขึ้นมาเหมือนกันค่ะ
-
คือเขาเกิดไปนึกถึงพระเจ้าอะไรบางอย่าง
-
แล้วก็ศรัทธากับพระเจ้าขึ้นมาซะอย่างนั้นเลยนะคะ
-
หลังจากที่เขาบาดเจ็บนะคะ
เขาก็เลยเหมือนไปบวชค่ะ เป็นบาทหลวงนั่นเอง
-
ซึ่งบาทหลวงนี่อยู่ในนิกายคาทอลิกนะคะ
-
จำได้กันใช่มั้ยจากที่วิวเคยเล่าไป
-
ซึ่งคุณ Ignatius คนนี้นะคะ
เขาอยู่ในช่วงประมาณปีค.ศ. 1500 กว่าๆค่ะ
-
ซึ่งบังเอิญว่าก่อนช่วงนั้นไม่นานนะคะ
มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในวาติกันค่ะ
-
ช่วงก่อนหน้านั้นเนี่ย
วาติกันสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ค่ะ
-
ทำให้เงินของวาติกันเนี่ยนะคะร่อยหรอลง
-
วาติกันก็เลยต้องพยายามหาเงินด้วยวิธีต่างๆ
-
เช่น ขายใบไถ่บาปนู่นนี่นั่น
-
ทำให้คนหลายๆคนที่เป็นคาทอลิกเนี่ยรู้สึกว่า
-
เฮ้ย ไม่โอเคเลย ชั้นไม่ศรัทธาวาติกันเลยนะคะ
-
ดังนั้นก็เลยเกิดผู้ชายคนนึงขึ้นค่ะ
-
นั่นก็คือ มาร์ติน ลูเทอร์ นั่นเอง
-
ชื่อคุ้นๆไหม ใครเคยเรียนศาสนาตอนม.ปลาย
-
น่าจะคุ้นกับชื่อนี้ดีนะคะ
-
มาร์ติน ลูเทอร์ค่ะ
เห็นเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกว่าแบบ
-
เฮ้ย ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่ศาสนาคริสต์ที่ชั้นรู้จัก
-
นี่มันไม่ใช่คำพูดของพระเจ้าเลย
-
ทำไมบาทหลวงถึงเป็นคนเดียว
ที่สามารถอ่านไบเบิลได้
-
ทำไมไบเบิลต้องเป็นภาษาละติน
-
ทำไมคนทั่วไปเข้าถึงไม่ได้
-
ทำไมคนจนถึงไถ่บาปไม่ได้
-
ในขณะที่คนรวยสามารถซื้อใบไถ่บาปได้
-
ประมาณนี้นะคะ
-
มาร์ติน ลูเทอร์ค่ะ
เขาก็เลยจัดการตั้งนิกายใหม่ขึ้นมานะคะ
-
ประมาณว่าชั้นขอแยกออกจากคาทอลิกแล้วจ้า
-
ไปตั้งนิกายใหม่ขึ้น
-
ซึ่งนิกายใหม่ของเขาเนี่ยจะกลายเป็น
ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ในเวลาต่อมานะคะ
-
อย่างไรก็ตาม ไอเดียนี้มันก็ค่อนข้างจะ
แพร่กระจายในยุโรปในช่วงเวลานั้นค่ะ
-
พอไอเดียนี้แพร่กระจาย
คุณ Ignatius ของเราเขาก็รู้สึกว่าแบบ
-
เอ๊ ชั้นก็ศรัทธาคาทอลิกน้า
-
แต่แนวคิดของโปรเตสแตนต์ก็น่าสนใจ
-
ทำยังไงดีนะเราถึงจะฟื้นฟูคาทอลิกของเราได้
-
คือประมาณว่าแบบ
เขาอยากจะฟื้นฟูคาทอลิกของเขานะคะ
-
ปรากฏว่าเขาก็มีโอกาสได้เดินทางไปที่ปารีสค่ะ
-
แล้วเขาก็ไปพบคนร่วมอุดมการณ์
อีกทั้งหมด 6 คนนะคะ
-
ดังนั้นทั้งหมดนี้ก็เลยคุยกันไปคุยกันมาค่ะ
-
เขาก็เลยตัดสินใจตั้งคณะนักบวชขึ้นคณะนึงค่ะ
-
ชื่อว่า Member of the Society of Jesus นะคะ
-
หรือว่า Jesuit นั่นเอง
-
ชื่อคุ้นๆมั้ยเยซูอิต
-
สมเด็จพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบันของเรา
นี่ก็อยู่ในคณะนักบวชเยซูอิตด้วยนะคะ
-
ซึ่งถามว่าคณะนักบวชเยซูอิตมีความโดดเด่นยังไง
-
ก็ต้องบอกว่าเขามีคำปฏิญาณตนที่แน่วแน่ค่ะ
-
เหมือนทหาร
-
คือเขาประมาณว่า
เราจะฟุ้งเฟ้อแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว
-
เราจะต้องเรียกศรัทธาคืนมา
-
ดังนั้นเราขอปฏิญาณทั้งหมดสามข้อด้วยกัน
-
ข้อแรกคือเราจะไม่เอาเงินทอง
เราจะอยู่กับความยากจน
-
เราจะไม่สนใจเงินทอง
มันเป็นแค่ของนอกกาย ทำนองนี้นะคะ
-
ส่วนข้อที่สองค่ะก็คือ
เขาจะยึดถือเรื่องความบริสุทธิ์นะคะ
-
ก็แบบไม่ เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับ
กิจกรรมทางเพศอะไรต่างๆ
-
คือเรียกได้ว่าให้มันเข้มข้น
กว่านักบวชคาทอลิกปกติค่ะ
-
และข้อที่สามนะคะคือเขาเชื่อเรื่อง
การเดินทางไปแสวงบุญที่กรุงเยรูซาเล็มค่ะ
-
แต่ว่าข้อสุดท้ายมันทำค่อนข้างยากนะ
-
ถ้าสมมติว่าทำไม่ได้
เขาก็เชื่อว่า โอเคเอาแบบนี้ก็ได้
-
เราจะเชื่อเรื่องการเดินทางไปเผยแผ่ศาสนา
ตามที่ต่างๆ ตามคำสั่งของโป๊ปค่ะ
-
หลังจากนั้นนะคะพอเขาคิดอะไรได้แบบนี้
เขาก็ร่างขึ้นมาเป็นร่างข้อความ
-
ร่างๆๆๆ ร่างโครงการของตัวเองนะคะ
-
แล้วก็นำเสนอไปที่โป๊ปค่ะ
-
ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาปอลที่ 3 เนี่ยนะคะ
ก็เซ็นอนุมัตินักบวชเยซูอิตค่ะ
-
ให้เป็นคณะแบบเป็นทางการในปีค.ศ. 1540 ค่ะ
-
หลังจากนั้นนะคะคณะนักบวชเยซูอิต
ก็เดินทางเผยแผ่ศาสนาไปทั่วเลยค่ะ
-
และด้วยความที่คอนเซ็ปต์ค่อนข้างน่าสนใจ
-
นึกสภาพว่าเขาเป็นกลุ่มนักบวชที่ strict มากๆนะคะ
-
เดินทางไปเผยแผ่ศาสนาที่นั่นที่นี่เต็มไปหมด
-
ช่วยเหลือคนยากจนนู่นนี่นั่น
-
ดังนั้นคอนเซ็ปต์นี้ก็เลยป็อปปูลาร์
ขึ้นมามากๆค่ะในหลายๆประเทศ
-
โดยเฉพาะสองประเทศด้วยกันนะคะ
นั่นก็คือเยอรมันกับอินเดียนั่นเอง
-
และหนึ่งในนักบวชของคณะเยซูอิต
ที่เดินทางเผยแพร่ไปทั่วเนี่ย
-
ก็คือ St. Francis Xavier
-
หรือว่าที่เอามาตั้งเป็นชื่อโรงเรียน
เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์ นั่นเองอะนะคะ
-
ทีนี้ถามว่าไปดังที่เยอรมันเนี่ย
แล้วไปดังที่ไหนนะคะ
-
ก็ต้องบอกว่าไปดังที่แคว้นบาวาเรียค่ะ
-
และแคว้นบาวาเรียเนี่ยก็เป็นที่ที่ฮิตเลอร์
ก่อฐานอำนาจของตัวเองขึ้นนั่นเองนะคะ
-
อะ เริ่มเข้าเรื่องและ เริ่มเกี่ยวกันและ
-
หลังจากทุกคนฟังมาอย่างยาวนานก็จะแบบ
-
ชั้นจะมาฟังเรื่องฮิตเลอร์
เธอเล่าเรื่องศาสนาคริสต์ทำไมนะคะ
-
ซึ่งในเวลาต่อมานะคะ คุณพ่อ Ignatius คนนี้
เขาก็ได้รับการโปรโมตขึ้นเรื่อยๆ
-
จากการที่เป็นบาทหลวงธรรมดาเนี่ยนะคะ
ด้วยความที่สร้างประโยชน์ต่างๆมากมายเนี่ย
-
ในที่สุดเขาก็ได้รับการโปรโมตขึ้นเป็น Saint ค่ะ
-
ก็คือ St. Ignatius of Loyola นั่นเอง
-
ซึ่งเวลาที่เป็น Saint แล้วต่างๆเนี่ย
เราต้องไปดูวิธีการตั้งชื่อของคนในยุโรปกันนะคะ
-
หรือว่าคนที่นับถือศาสนาคริสต์เนี่ย
-
เขาก็จะมีธรรมเนียมกันว่าเขาจะตั้งชื่อตาม
พวกนักบวชนักบุญอะไรต่างๆใช่มั้ยคะ
-
ดังนั้นค่ะ ชื่อ Ignatius นี้ก็เลยกลายเป็น
ชื่อที่ป็อปปูลาร์มากๆนะคะ
-
ไปทั่วยุโรปเลย
โดยเฉพาะในบริเวณแคว้นบาวาเรียค่ะ
-
แต่ว่าในแต่ละประเทศก็จะเรียกต่างกันไป
-
อาจจะไปเป็น Egnatius, Ignacia, Ignato,
Igno, Ignatz อะไรต่างๆนะคะ
-
แต่ละประเทศเรียกไม่เหมือนกันค่ะ
-
ทีนี้เราเริ่มเข้าใกล้คำว่านาซีของเราขึ้นมาทุกทีแล้วค่ะ
-
เพราะว่าแน่นอนนะคะว่าเวลาที่ไปตั้งชื่อแล้วเนี่ย
-
มันไม่มีใครมาเรียกกันหรอกว่า
เฮ้ย Ignatius มากินข้าวเย็น อะไรอย่างนี้นะคะ
-
เขาก็จะต้องมีชื่อเล่นกันใช่ไหม
-
แล้วฝรั่งเนี่ยชื่อเล่นเขาไม่เหมือนกับคนไทย
-
เขาไม่ได้แบบจะตั้งอะไรก็ได้
-
ไม่ใช่ว่าแบบวิว ชื่อชนัญญา
จะไปตั้งชื่อเล่นว่าวิว ก็ไม่ใช่ใช่ไหม
-
ดังนั้นชื่อเล่นมันจะต้องเป็นเหมือน
ตัวย่อของชื่อจริงค่ะ
-
เช่น Natasha ก็ต้องชื่อ Nat
-
หรือว่า Antony ก็ต้องชื่อ Tony
-
หรือว่า Harrison ก็ต้องชื่อเล่นชื่อ Harry
อะไรทำนองนี้ใช่ไหม
-
ซึ่งถามว่า Ignatius เนี่ยมีชื่อเล่นว่าอะไรบ้างนะคะ
-
เขาก็สามารถเรียกได้ตั้งแต่ Iggy
-
Nate, Natius หรือว่า Nacho
-
คือเวลา Ignatius เนี่ยไปอยู่ที่สเปน
มันจะชื่อว่า Ignacio นะคะ
-
ก็จะเรียกชื่อเล่นว่า Nacho
-
ซึ่งคุณ Ignacio Anaya คนที่เป็นต้นคิด
อาหารที่ชื่อว่า Nacho ก็ชื่อนี้เหมือนกันนะคะ
-
ดังนั้นนี่ก็เป็นที่มาของ Nacho เกี่ยวเข้าไปอีกนะ
-
อย่างไรก็ตามค่ะ ชื่อ Ignatius เนี่ย
พอไปอยู่ที่แคว้นบาวาเรียของเยอรมันเนี่ยนะคะ
-
มันกลายเป็นชื่อที่เขียนแบบนี้ค่ะ
-
คือวิวก็ไม่รู้มันออกเสียงว่ายังไง
-
น่าจะเป็นอิกเนตซ์หรือว่า
อะไรสักอย่างประมาณนี้นะ
-
อย่างไรก็ตามพอมันมีตัว Z อยู่ข้างในเนี่ยนะคะ
-
ชื่อเล่นของชื่อนี้ก็เลยกลายเป็น Nazi นั่นเอง
-
เอาเป็นว่าใครที่ชื่อ Ignatius ในเยอรมันเนี่ย
-
ชื่อเล่นของเขาก็จะกลายเป็น Nazi นะคะ
-
และชื่อนี้มันป็อปปูลาร์มากๆ
ในเยอรมันนะคะ สมัยก่อนฮิตเลอร์
-
พอป็อปๆๆๆๆขึ้นมาเนี่ย คนก็เลยชื่อนี้เต็มไปหมด
-
เหมือนกับว่าพวกชาวบ้านชาวเมือง
ชาวอะไรอย่างนี้ก็ชื่อนี้มากมายนะคะ
-
อย่างไรก็ตามนะคะ ในสมัยต่อมาเนี่ย
ไม่รู้ว่าเพราะอีท่าไหนนะ
-
ไม่รู้ว่าเพราะคณะนักบวชเยซูอิตเนี่ย
เป็นพวกจนๆชอบแต่งตัวปอนๆ
-
หรือว่าคนทั่วไปที่เป็น
พวกชาวนาชาวไร่อะไรต่างๆเนี่ย
-
ชื่อ Nazi กันค่อนข้างเยอะนะ
-
อยู่ดีๆคำว่า Nazi ค่ะ
ก็เลยกลายเป็นคำล้อเลียนกันซะอย่างนั้น
-
อารมณ์เหมือนกันว่าชื่อคน
กลายเป็นคำด่าทำนองนั้นแหละค่ะ
-
เหมือนที่วิวเคยทำคลิปไว้เมื่อนานมาแล้วเนี่ยนะคะ
-
คำว่า Nazi ค่ะก็เลยกลายเป็น
คำดูถูกว่าแบบพวกทึ่มๆ โง่ๆ
-
พวกแบบว่าบ้านนอก พวกแบบว่า backward อะ
-
คือประมาณว่าอูหู เธออยู่ไหนยุคไหนแล้วจ๊ะ
เขาไปยุคนู้นกันแล้ว ทำนองนี้นะคะ
-
ชื่อนี้ก็เลยกลายเป็นอย่างนั้นค่ะ
-
ซึ่งคำนี้ก็กลายเป็นคำดูถูกที่แบบว่า
common มากๆในสังคมเยอรมันนะคะ
-
ในเวลาต่อมานะคะเมื่อพรรค NSDAP
ของคุณฮิตเลอร์เนี่ยขึ้นมาสู่อำนาจค่ะ
-
คนมันก็ไม่ได้เรียกว่า NSDAP หรอกค่ะ
เพราะบางคนเขาก็ไม่ชอบฮิตเลอร์ไงนึกออกไหม
-
พอเห็นชื่อเต็มๆแบบนี้ยาวๆเนี่ย
เขาก็เห็นแล้วว่ามันมีตัวอักษร N A Z I
-
อู้ย เรียกมันว่านาซีดีกว่า ล้อมันเลยนะคะ
-
ซึ่งในสมัยนั้นเนี่ย
สมัยที่ฮิตเลอร์ยังอยู่เนี่ยนะ
-
คำว่านาซีเนี่ยถือเป็นคำต้องห้ามเลยนะคะ
-
ถึงขั้นที่ฮิตเลอร์สั่งว่า
ใครเรียกชั้นว่านาซี แกจะต้องโดนลงโทษ
-
แล้วโดนลงโทษหนักด้วยนะคะ
-
อย่างไรก็ตาม แล้วถามว่าคำว่านาซี
มันแพร่กระจายออกไปทั่วโลกได้ยังไง
-
ก็เพราะว่าช่วงเวลานั้นเนี่ย
ฮิตเลอร์เนรเทศคนค่อนข้างมากค่ะ
-
ทั้งเนรเทศด้วยแล้วก็
พวกที่หนีออกไปจากประเทศด้วย
-
ดังนั้นพวกคนเยอรมันพลัดถิ่นเหล่านี้
ที่ออกไปอยู่นอกประเทศเนี่ย
-
เขาก็เหมือนแบบเกลียดฮิตเลอร์ไง
เขาก็ล้อเลียนฮิตเลอร์
-
เหมือนแบบไปเม้าให้เพื่อนฟังอะ
ประมาณว่า โอ๊ยแก ไอพรรคนั้นน่ะ ไอพรรคนาซี
-
ไอพรรคนาซี ไอพรรคโง่ พรรคโง่
พรรคโง่ ทำนองนี้นะคะ
-
สุดท้ายค่ะ ฮิตเลอร์ห้ามได้
ก็ห้ามได้แค่ในเยอรมันของตัวเองนี่แหละค่ะ
-
ไม่สามารถห้ามทั่วโลกได้นะคะ
-
ทั่วโลกก็เลยจดจำชื่อนาซีในฐานะ
พรรคของฮิตเลอร์ไปซะอย่างนั้น
-
และแน่นอนว่าหลังจากที่ฮิตเลอร์ลงจากอำนาจนะคะ
-
คนก็เลยชินกับการเรียก
พรรคของฮิตเลอร์ว่านาซีเยอรมันนั่นเองค่ะ
-
และที่มาของชื่อนาซีนะคะ
-
จากชื่อที่มีชื่อเสียงในยุคจักรวรรดิโรมัน
มาเป็นชื่อนักบวช
-
มาเป็นคำล้อเลียน แล้วก็กลายมาเป็น
ชื่อพรรคของฮิตเลอร์ในที่สุดค่ะ
-
เป็นไงยาวนานไหมคลิปนี้
-
หวังว่าจะสนุกกันนะคะ
-
ถ้าสมมติว่าวิวตกหล่นตรงไหนไป
ใครมีความรู้เพิ่มเติมยังไง
-
สามารถคอมเมนต์มาคุยกันด้านล่างได้ค่ะ
-
และถ้าใครอยากให้วิวไปหาความรู้เรื่องไหน
มาคุยกันอีกก็คอมเมนต์ด้านล่างเช่นกันนะคะ
-
วันนี้ลาไปก่อนค่ะทุกคน บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ
-
โอโหทุกคน ยาวนานมากนะคลิปนี้
เกี่ยวกับทุกอย่างในโลกเลยนะ
-
ตั้งแต่ St. Francis Xavier
-
ตั้งแต่คนผลิต Nacho
-
ตั้งแต่นาซีเยอรมัน
-
ตั้งแต่โอ๊ะ เยอะแยะเต็มไปหมดค่ะ
-
ดังนั้นวันนี้ไม่เวิ่นยาวแล้วกันนะคะทุกคน
-
ลาไปก่อนค่ะ บ๊ายบาย สวัสดีค่ะ