Hamlet ต้นฉบับ the Lion King (?) | Point of View

สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ

เชื่อว่าหลายคนที่อยู่ในรุ่นอายุเดียวกับวิวนี่น่าจะกำลังตื่นเต้นกันได้ที่เลยใช่มั้ยคะ

เพราะว่าในโรงหนังตอนนี้มีหนังเรื่อง The Lion King เข้าโรงใช่มั้ยคะ

ซึ่งแบบว่า ดูไปแล้วก็จะนึกถึงความทรงจำวัยเด็กของเรากันมากมายค่ะ

ทีนี้จะมาเล่าเรื่อง Lion King ทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้ว

หรือจะมาแปลเพลง The Circle of Life อะไรอย่างนี้

ก็รู้สึกว่าทุกคนแปลไปเยอะแล้ว

ดังนั้นวันนี้ค่ะ วิวก็เลยคิดว่าวิวมาเล่าเรื่องอื่นให้ฟังดีกว่าค่ะ

เวลาที่ทุกคนดูเรื่อง Lion King กันเนี่ย

รู้สึกเนื้อเรื่องมันคุ้นๆ อะไรมั้ย

เอาจริง ถ้าเป็นคนยุคนี้หรือเป็นคนไทยเนี่ยนะ

ก็จะนึกว่า เฮ้ย เรื่องมันเหมือนเรื่องของ Black Panther เป๊ะเลย

ฝ่าบาทกับซิมบ้านี่คนเดียวกันรึเปล่า อะไรอย่างนี้ใช่มั้ยคะ

แต่ถ้าเราเป็นเด็กฝรั่ง

หรือว่าเราเป็นคนที่ศึกษาอะไรเกี่ยวกับเชกสเปียร์

เราจะรู้สึกว่า เฮ้ย เนื้อเรื่องมันคุ้นๆ กับอีกเรื่องนึงค่ะ

นั่นก็คือเรื่อง Hamlet นั่นเอง

ซึ่งเป็นบทละครที่แต่งโดยวิลเลียม เชกสเปียร์ นะคะ

คนเดียวกับที่แต่ง Romeo and Juliet นั่นแหละค่ะ

ซึ่งเอาจริงตรงนี้วิวก็ไม่ฟันธงหรอกค่ะ

ว่า Hamlet เป็นที่มาของ The Lion King จริงๆ

แต่ในเน็ตเนี่ยเขาตีกันมานานแล้วนะคะ

มี 2 ฝ่าย ฝ่ายนึงก็บอกว่า ใช่สิ

เรื่อง Hamlet นี่เหมือนกับ Lion King ขนาดนี้ เป็นที่มาของ Lion King แน่นอน

แถมในซีดีภาคพิเศษในปี 1994 เนี่ย ที่ออกมาในนั้นเนี่ย

ก็มีคนออกมายืนยันแล้ว

บอกว่า ใช่ Hamlet เป็นที่มาของ Lion King

เป็น inspiration เอาไปบวกกับนู่นนี่นั่นเล็กน้อย

แต่ก็มีอีกกระแสนึงนะคะ ออกมาบอกว่า

เฮ้ย ไม่ใช่

คนที่เป็นผู้กำกับเพลงอะไรพวกนี้ เขาบอกว่า

เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากชนชาติแอฟริกันอะไรต่างๆ

ไม่ใช่เลย ไม่ใช่เรื่อง Hamlet นะคะ

ดังนั้น ณ ที่นี้ วิวไม่ขอฟันธงนะว่า Hamlet เป็นที่มาของ Lion King จริงรึเปล่านะคะ

แต่อยากถือโอกาสนี้ค่ะ

ที่ทุกคนกำลังสนใจเรื่อง Lion King อยู่

เล่าเรื่อง Hamlet ให้ทุกคนฟังค่ะ

เพราะว่าเรื่อง Hamlet เนี่ยนะคะ ก็ถือว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิคเรื่องนึงของโลกเลยนะ

ที่รู้จักไว้ก็ดี ประมาณนั้นนะคะ

ส่วนตัววิวอาจจะไม่ได้วิเคราะห์เรื่องนี้ให้ฟังละเอียดอะไรมากมายนะคะ

แม้ว่าเนื้อเรื่องข้างในจะวิเคราะห์นู่นนี่นั่นได้เยอะมากเต็มไปหมด

เอาเป็นว่าฟังตรงนี้เป็นเนื้อเรื่องคร่าวๆ ไว้สำหรับใครที่อยากศึกษาต่อเพิ่มเติมเอง

ก็ไปสามารถหาอ่านได้นะคะ

วิวลงอ้างอิงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับคลิปวีดีโอนี้ไว้ให้ด้านล่างแล้วค่ะ

สำหรับตอนนี้นะคะ ก่อนจะไปฟังเรื่อง Hamlet

อย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบทุกช่องทางนะคะ

จะได้ไม่พลาดคลิปวีดีโอใหม่ๆ

แล้วก็ข่าวสารดีๆ อื่นๆ ค่ะ

ตอนนี้พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุกแล้วก็มีสาระกันรึยังคะ

ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ

แอบบอกตรงนี้นิดนึงนะคะก่อนจะเข้าเรื่อง

ว่าเดี๋ยวตอนสุดท้ายเนี่ย วิวจะมาเล่าเกร็ดสนุกๆ เกี่ยวกับ Hamlet ให้ฟังเล็กๆ น้อยๆ นะคะ

แต่ตอนนี้เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ

เรื่องราวของ Hamlet เนี่ยนะคะเริ่มต้นขึ้นที่ปราสาทของกษัตริย์แห่งเดนมาร์กค่ะ

ในตอนนั้น เป็นเวลาที่กำลังจะเปลี่ยนเวรยามกันนะคะ

ก็มียามสองชุดเนี่ย กำลังจะผลัดเปลี่ยนเวรยามอะไรกันต่างๆ

ปรากฏว่าระหว่างนั้นเนี่ย

อยู่ดีๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามานะคะ

คนคนนี้นะคะเป็นเพื่อนของเจ้าชายแฮมเล็ตค่ะเจ้าชายแห่งเดนมาร์กของเรานั่นเอง

คนคนนี้เดินผ่านมาพอดีกับตอนที่ทหารยามกำลังจะเปลี่ยนเวรยามกันนะคะ

ทหารยามก็มีความพยายามจะชักจูงค่ะ

บอกว่า เฮ้ยๆ เป็นเพื่อนเจ้าชายใช่ป่ะ

มาๆๆ มาเฝ้ายามกับชั้นดีกว่า อย่าเพิ่งไปไหนเลย

มีของดีอยากให้ดู

น่ะ ตอนกลางคืน เปลี่ยนเวรยาม

นึกสภาพปราสาทเงียบๆ กลางคืน มืดๆ ของดี

คิดว่าเป็นอะไรคะ

แน่นอน รายการพี่ป๋องนะคะ ล่าท้าผีกันเลยค่ะ

ทหารยามเนี่ยบอกว่า เจอผีกันมาหลายคืนแล้ว

คือแบบเมื่อสองคืนที่แล้วก็เห็นผี

อยากให้เพื่อนของเจ้าชายแห่งเดนมาร์กเนี่ยได้มาเห็นผีด้วยตาของตัวเองเช่นกันนะคะ

ซึ่งถามว่าถ้าเป็นคนปกติ ได้ยินอย่างนี้จะหนีมั้ย

หนีนะคะ

แต่ว่าเพื่อนของเจ้าชายแห่งเดนมาร์กเนี่ยไม่สนใจ

ก็รู้สึกว่าแบบ เฮ้ย ไม่จริงหรอก

ผงผีอะไรไม่มีจริง

เดี๋ยวชั้นยืนดูด้วยเลย ประมาณนั้นนะคะ

ดังนั้นแก๊งล่าท้าผีเนี่ยก็ยืนเฝ้ารอดูผีกันค่ะ

ถามว่าเจอผีจริงมั้ย

ถ้าไม่เจอนะคะ เรื่องราวคงไม่เกิด

เพราะว่าอยู่ดีๆ ก็มีผีปรากฏขึ้นมาจริงๆ

แล้วเป็นผีที่หน้าตาแบบทุกคนเห็นแล้วแบบ

อุ๊ยหน้าตาเหมือนกษัตริย์แห่งเดนมาร์กเลย

แต่ไม่ใช่กษัตริย์องค์ปัจจุบันนะ

เป็นกษัตริย์องค์ที่แล้วที่เพิ่งสิ้นพระชนม์ไป

เฮ้ย แล้วไม่ใช่กษัตริย์ธรรมดานะ

แต่งเครื่องรบมาทั้งตัวอะไรอย่างนี้เลย

ผู้คนพวกนี้นะคะก็มีการถกเถียงกันเล็กๆ น้อยๆ

ประมาณว่า ตายแล้ว นี่มันต้องเป็นลางร้ายของอาณาจักรเราแน่ๆ เลย

ดูซิ กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของเราที่เคยไปรบกับนอร์เวย์

แล้วก็ยึดดินแดนของนอร์เวย์มาเนี่ย

มาปรากฏกายในชุดรบขนาดนี้

แปลว่าประเทศเรากำลังจะเกิดศึกใช่มั้ย

เราจะโดนรบใช่รึเปล่า

ราชวงศ์ของเราจะโดนล้มล้างมั้ย อะไรอย่างนี้นะคะ

ก็มีการบ่นๆๆๆ กันค่ะ

นี่คือเห็นผีนะ สามารถยืนดิสคัสกันอย่างนี้ได้

คือถ้าเป็นมนุษย์ปกติคงวิ่งป่าราบไปแล้วนะคะ

เท่านั้นยังไม่พอ

ถามว่ามนุษย์ปกติวิ่งหนี

ไอ้พวกนี้นอกจากจะเถียงกันแล้ว ทำอะไรอีก

พยายามจะคุยกับผี

พยายามจะถามว่าแบบ ท่านเป็นใคร

ท่านเป็นกษัตริย์ของเราจริงรึเปล่า

อะไรอย่างนี้นะคะ

แต่ผีเนี่ยไม่ตอบแล้วก็ลอยหายไปตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นพอดีค่ะ

ดังนั้นเหล่าคนพวกนี้ก็มีความสงสัยว่า เฮ้ย มันต้องใช่แน่ๆ เลย

เป็นผีกษัตริย์แห่งเดนมาร์กองค์ที่แล้วรึเปล่านะ

หรือว่าเป็นแค่ปีศาจที่ปลอมตัวมา

หรือว่าอะไรยังไง

แต่ผีมันไม่ยอมคุยกับเราไง

เออ เอางี้ดีกว่า เราไปเรียกเจ้าชายแฮมเล็ตมาดีกว่า

เพราะว่าเจ้าชายแฮมเล็ตเนี่ยเป็นลูกของกษัตริย์เดนมาร์กองค์ที่แล้ว

ถ้าเรียกลูกสุดที่รักมาเนี่ย

ถ้าผีเป็นกษัตริย์จริง ผีต้องคุยกับลูกแน่ๆ นะคะ

ดังนั้นค่ะ แก๊งนี้ก็ตกลงกันละ

ว่าเดี๋ยวเราจะไปเรียกเจ้าชายแห่งเดนมาร์กมา

เพื่อมาล่าท้าผีนะคะ

แต่ก่อนที่แก๊งล่าท้าผีจะได้ล่าท้าผีกันนะคะ

เพราะว่าตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ

ดังนั้นเราตัดภาพไปที่กษัตริย์เดนมาร์กองค์ปัจจุบันค่ะ

ชื่อว่าคลอดิอุส

ตอนนี้เค้ากำลังประกาศเรื่องราวต่างๆ ให้สาธารณชนฟังนะคะ

เรื่องราวก็คือ

เขาเนี่ย เป็นพี่ชายหรือน้องชายก็ไม่รู้แหละ ของกษัตริย์เดนมาร์กองค์ก่อนที่ตายจากไป

ตอนนี้ขึ้นมาปกครองแทนนะคะ

แล้วก็ประกาศว่า ทุกคน ข้าเนี่ยเศร้ากับการตายจากไปของพี่ข้ามากๆ เลยนะ

ข้าก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน

แต่จะให้ประเทศของเราอยู่ในความเสียใจตลอดไปก็ไม่ได้

ข้าเลยอยากบาลานซ์ประเทศให้ความเศร้ากับความสุขเท่ากัน

ในเมื่อทุกคนกำลังเศร้ากับการจากไปของกษัตริย์ที่ตายไปแล้ว

ข้าก็เลยสร้างความสุขให้ทุกคนขึ้นมาด้วยการ

แต่งงานจ้า

ส่วนแต่งกับใครเนี่ย ก็บอกเลยว่า

แต่งกับพระราชินีองค์ก่อนนะคะ

หรือว่าพี่สะใภ้ของตัวเองนั่นเอง

เอ้า ก็เลยเป็นพระราชินีสองสมัยซะอย่างนั้นน่ะนะ

ซึ่งระหว่างที่ประกาศแบบนั้นไปนะคะ

เจ้าชายแฮมเล็ตซึ่งเป็นลูกของกษัตริย์องค์ก่อน

กับพระราชินีองค์?

ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกพระราชินีองค์ก่อนหรือพระราชินีองค์ปัจจุบันดี

เพราะว่าเป็นพระราชินีทั้งสองสมัยนะ

ก็นั่งอยู่ตรงนั้นด้วย แล้วก็ใส่ชุดดำแบบตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยนะคะ

ซึ่งคลอดิอุสเนี่ย ก็พยายามจะบอกแฮมเล็ต

บอกว่าพอแล้ว อย่าไปเศร้าเลย

พยายามพูดเหมือนเป็นพ่อไง

มาหาพ่อมาลูก ลูกอย่าเศร้าเลยนะ

นี่ ตอนนี้คือการไว้ทุกข์ให้พ่อก็เป็นสิ่งที่ดี

แต่ว่าถ้าเจ้าจะไว้ทุกข์ตลอดไปเนี่ย มันก็ไม่โอเครึเปล่า

คือพ่อเจ้าก็ตายมาสองเดือนแล้ว ข้าถึงแต่งงานใหม่กับแม่ของเจ้านะ

เจ้าเลิกเศร้าเรื่องพ่อของเจ้าได้แล้ว

แล้วมาเห็นข้าเป็นพ่อของเจ้าคนใหม่ดีกว่านะ ประมาณนี้นะคะ

ซึ่งนอกจากนั้นเนี่ยนะคะ คลอดิอุสก็ยังบอกอีกว่า

เออแฮมเล็ต เจ้าไม่ต้องไปเรียนแล้วแหละ

คือแต่ก่อนเนี่ยแฮมเล็ตเรียนอยู่ต่างประเทศเนอะ

บอกว่าไม่ต้องไปเรียนละ มาอยู่ใกล้ๆ พวกเรานี่แหละ

จะได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันนะคะ

ซึ่งตอนนั้นเนี่ย แฮมเล็ตก็พูดประมาณว่า

เออชั้นโอเคแล้วแหละ อะไรประมาณนี้

แต่ถามว่าแฮมเล็ตโอเคจริงๆ มั้ย

บอกเลยว่าไม่นะคะ

เพราะว่าพอแฮมเล็ตออกไปจากตรงนั้น ไปอยู่กับตัวเองปุ๊บ แฮมเล็ตสติแตกทันที

ประมาณว่า จะบ้าเหรอ ใครจะโอเค

นี่พ่อชั้นเพิ่งตายสองเดือน จะให้ชั้นเลิกไว้ทุกข์

แล้วแม่ชั้นเนี่ย ตอนแรกก็รักกับพ่ออยู่ดีๆ

แล้วพ่อตายได้แค่สองเดือน แม่ก็ไปแต่งงานใหม่

แต่งกับใคร แต่งกับอา

อาก็แบบ ใกล้ชิดกัน แล้วอาก็ขึ้นมาปกครองแทน

ชั้นเศร้าจังเลย เศร้าๆๆๆๆๆ

ตอนนั้นนะคะ ก็ทำให้แฮมเล็ตรู้สึกว่าชั้นอยากฆ่าตัวตายมากเลย

ก็มีการบ่นๆๆๆ ว่าอยากฆ่าตัวตาย

แต่แฮมเล็ตไม่กล้าฆ่าตัวตายนะคะ

เพราะว่าเงื่อนไขของศาสนาคริสต์ในเวอร์ชั่นของเชคสเปียร์เนี่ยนะ

บอกไว้ว่าใครที่ฆ่าตัวตายเนี่ยนะคะก็จะตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ขึ้นสวรรค์ ทำนองนี้แหละ

คือประมาณว่า ในเรื่องนี้นะ คริสเตียนที่ดีไม่ควรจะฆ่าตัวตายค่ะ

ระหว่างที่แฮมเล็ตกำลังบ่นอยากตายอยู่นี่นะคะ

เราตัดภาพไปดูอีกครอบครัวนึงดีกว่าค่ะ เป็นครอบครัวที่สำคัญกับเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ

คือครอบครัวของคนที่ชื่อวา โปนีเลียส นะคะ

โปนีเลียสเนี่ย เป็นที่ปรึกษาของคลอดิอุส

หรือว่ากษัตริย์เดนมาร์กองค์ปัจจุบันนั่นเอง

ซึ่งถามว่าครอบครัวนี้สำคัญยังไงนะคะ

สำคัญที่ว่าตัวพ่อเป็นที่ปรึกษาใช่มั้ย พ่อเนี่ยมีลูกทั้งหมดสองคนค่ะ

คนโตเนี่ยนะคะ เป็นผู้ชาย ชื่อว่าเลทิส ซึ่งตอนนี้เค้ายังไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ

เค้าแค่เป็นคนคนนึงที่กำลังจะเดินทางไปฝรั่งเศส ไปทำภารกิจอะไรบางอย่างนะ

แต่คนที่สำคัญคือน้องสาวของเค้าค่ะ

น้องสาวเค้าเนี่ย ชื่อว่าโอฟีเลียนะคะ

ถามว่าสำคัญเพราะอะไร เพราะว่าโอฟีเลียเป็นแฟนของแฮมเล็ตนั่นเองนะคะ

คือเป็นเหมือนแบบ เป็นคนรักกัน ก็จีบๆ กันมาสักระยะนึงแล้วนะคะ

แต่ตอนนี้พี่ชายกำลังจะเดินทางไปฝรั่งเศสใช่มั้ยคะ

สิ่งที่พี่ชายสั่งน้องสาวเนี่ย ก็คือ

โอฟีเลีย เธอฟังชั้นไว้นะ

เธอรู้มั้ยว่าการรักกับแฮมเล็ตน่ะมันเป็นไปไม่ได้

ชาติตระกูลเธอเป็นอย่างนี้ แฮมเล็ตเป็นถึงเจ้าชาย เป็นเจ้าชายที่กำลังจะขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากคลอดิอุส

เขาไม่มีทางมารักเธอด้วยใจจริง

หรือว่าสามารถยกย่องเธอขึ้นเป็นพระราชินีได้หรอก

ดังนั้น ตัดใจจากแฮมเล็ตซะเถอะ

ซึ่งโปนีเลียส หรือว่าพ่อเนี่ยนะคะ ก็ยืนยันเหมือนกัน

ประมาณว่า โอฟีเลีย เธอน่ะต้องตัดใจจากแฮมเล็ตนะ

ถ้าแฮมเล็ตมาจีบหรือมาอะไร ให้เธอทำท่าแบบไม่เอาสิ ไม่สนใจ อะไรอย่างนี้ ใส่นะ

ซึ่งโอฟีเลียนะคะก็ตกลงตามที่พ่อกับพี่ชายสั่งไว้ค่ะ

ประมาณว่า โอเค ชั้นไม่สนใจแฮมเล็ตก็ได้จ้า

และแล้วนะคะ เรื่องราวก็ดำเนินมาถึงตอนกลางคืนค่ะ

ในที่สุด เพื่อนของแฮมเล็ตนะคะ ที่ไปเจอผีคืนที่แล้ว

ก็มาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แฮมเล็ตฟังค่ะ

และแน่นอนว่าแฮมเล็ตก็จะต้องอยากไปล่าท้าผีกับเพื่อนนะคะ

อยากไปเห็นว่าแบบ เฮ้ย ผีนี่เป็นพ่อชั้นจริงรึเปล่านะคะ

ดังนั้นทุกคนค่ะ ก็ไปภารกิจล่าท้ากันนะคะ

ไปบริเวณที่รกร้างของปราสาท

ไปตรงที่เจอผีกันเมื่อคืนนะคะ

แล้วทุกคนก็ไปนั่งเฝ้ากันค่ะ

ตอนแรกก็คิดว่า ไม่เจอหรอก ผีไม่มีหรอก

แต่แล้วนะคะ ระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งรอกันอยู่

รอกันไป รอกันมา

อยู่ดีๆ ค่ะก็มีผีปรากฏตัวขึ้น

และจากการปรากฏตัวของผีนะคะ

แฮมเล็ตก็เห็นว่า ผีมันหน้าเหมือนพ่อชั้นเลยจริงๆ ด้วยอ่ะ

แต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายของพ่อแบบเต็มตัวเลย มาเป็นแบบชุดเกราะเลย

ทำยังไงดีนะคะ

ดังนั้น แฮมเล็ตก็เลยพยายามจะพูดกับผีค่ะ

ซึ่งไม่เมกเซ้นส์เลย แต่ก็พูดอ่ะนะ

ผีก็บอกแฮมเล็ตมาว่า อยากรู้ใช่มั้ย ตามชั้นมาสิ ตามมาๆ

ไปตรงมืดๆ ตรงนั้น เดี๋ยวเราไปคุยกัน

ถามว่าผีมาชวนไป แฮมเล็ตไปมั้ยคะ

บอกเลยว่า ไปค่ะ

แฮมเล็ตเดินตามผีไปในความมืด

ระหว่างที่แฮมเล็ตเดินตามผีไป คิดว่าเพื่อนๆ ของแฮมเล็ตทำอะไรกันคะ

บอกเลยนะคะว่าเพื่อนๆ นี่นั่งปรึกษากันใหญ่โตเลย

เฮ้ย เราจะไปห้ามแฮมเล็ตดีมั้ย เราจะตามไปหรือเราจะหนี หรือเราอะไรยังไงดีนะคะ

แต่สุดท้ายค่ะเพื่อนก็ตัดสินใจว่า

โอเค เดินตามแฮมเล็ตไปนั่นแหละ

ระหว่างที่เพื่อนกำลังเดินตามแฮมเล็ตไปนะคะ

ตรงที่แฮมเล็ตเดินตามผีไปค่ะ

ผีเนี่ยปรากฏตัวให้แฮมเล็ตเห็นอย่างเต็มตัวเลยนะคะ

แล้วก็บอกว่า ลูก นี่พ่อเอง

เจ้าต้องแก้แค้นให้พ่อ พ่อโดนฆ่า

ผีกษัตริย์แห่งเดนมาร์กนะคะ เล่าให้แฮมเล็ตฟังค่ะว่า

ระห่างที่ตัวเองกำลังนอนพักอยู่ในสวนเนี่ยนะ

อยู่ดีๆ พระราชินีหรือว่าแม่ของแฮมเล็ตเนี่ยก็เดินออกไปนะคะ

ระหว่างนั้นเนี่ยก็มีคนเอายาพิษมาเทใส่หูของเขาค่ะ

ทำให้เขาเนี่ยตายกลายเป็นผีนะคะ

ซึ่งคนที่เอายาพิษเทใส่หูของเขาเนี่ยก็คือ คลอดิอุส

หรือว่ากษัตริย์คนปัจจุบันนั่นเอง

ดังนั้นผีก็เลยสั่งแฮมเล็ตไว้ว่า ลูกรักแก้แค้นให้พ่อด้วย

พ่อจากไปเท่านี้แหละ

ว่าแล้วนะคะ ผีก็บังคับให้แฮมเล็ตสาบานว่าชั้นจะแก้แค้นๆๆๆ

แต่ผีก็สั่งไว้บอกว่าแก้แค้นไปนะ แต่ไม่ต้องไปยุ่งกับแม่ของเจ้า

แม่ของเจ้าไม่ได้ผิดอะไร ประมาณนั้นค่ะ

ซึ่งตอนนั้นก็บังเอิญว่าเพื่อนๆ เนี่ยตามมาทันพอดี

แฮมเล็ตก็เลยบอกให้เพื่อนๆ เนี่ย สาบาน

ว่าข้อความเหล่านี้ที่ได้ยินได้ฟังไปเนี่ยจะไม่หลุดไปที่ไหนทั้งสิ้น

และข้าจะแกล้งเป็นบ้าเพื่อที่จะสืบแผนต่อไป

ว่า เฮ้ย ผีที่มาบังคับข้าสาบานเนี่ยจริงๆ แล้วเป็นปีศาจปลอมตัวมา

หรือว่าจริงๆแล้วเป็นพ่อ หรือว่ากษัตริย์แห่งเดนมาร์กตัวจริงนะคะ

ซึ่งเพื่่อนๆ เนี่ยก็มีความเอ๊ะๆ สงสัยๆ กัน ประมาณว่า

แย่แล้วประเทศจะชิบหายรึเปล่า

ด้วยความที่เป็นคริสเตียนเป็นอะไรอย่างนี้กัน

ไปเชื่อผี การเดินตามผี นี่มันแบบ โดนปีศาจล่อลวงรึเปล่า อะไรทำนองนั้นนะคะ

แต่อย่างไรก็ดีนะคะ หลังจากวันนั้น แฮมเล็ตก็ดำเนินแผนตัวเองต่อไปค่ะ

ด้วยการแกล้งเป็นบ้านะคะ

เป็นบ้าเป็นอะไรไป

ซึ่งคนนึงที่แฮมเล็ตเป็นบ้าใส่นะคะ ก็คือ โอฟีเลียนั่นเอง

โอฟีเลียนี่ก็งงๆ นิดนึงนะคะ เพราะว่าพอไปปฏิเสธความรักของแฮมเล็ตอะไรต่างๆ

แฮมเล็ตก็ดูทำตัวเป็นบ้าเป็นอะไรให้เห็นแบบไม่ปกติอ่ะ ว่าอย่างนั้นเถอะค่ะ

โอฟีเลียก็เลยไปฟ้องพ่อตัวเองค่ะ บอกว่า เนี่ยแฮมเล็ตเป็นบ้าไปแล้ว

ทำให้โปนีเลียสเนี่ยเข้าใจผิดว่า แฮมเล็ตมันต้องเป็นบ้า

เพราะว่าลูกสาวชั้นเทมันแน่ๆ เลย เอ้า ตายละ

แฮมเล็ตรักลูกสาวชั้นจริงๆ นี่นา

อย่างไรก็ดีค่ะ โปนีเลียส ด้วยความที่เป็นที่ปรึกษาของคลอดิอุสนะคะ ก็ไปบอกคลอดิอุส

หรือว่ากษัตริย์แห่งเดนมาร์กองค์ปัจจุบันว่า แฮมเล็ตเนี่ย เป็นบ้าไปแล้วจ้า

ทำให้กษัตริย์องค์ปัจจุบันเนี่ยต้องการจะพิสูจน์ให้ได้

ว่า เฮ้ย แฮมเล็ต เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงเป็นบ้า แล้วเป็นบ้าจริงรึเปล่านะคะ

ก็เลยส่งคนไปตาม คนมาจากโรงเรียนของแฮมเล็ตนะคะ ที่ไม่ให้แฮมเล็ตกลับไปเรียนนั่นแหละ

ไปตามเพื่อนมาสองคน แล้วก็บอกว่า มาตามดูแฮมเล็ตให้หน่อยว่ามันเป็นอะไร

เป็นบ้าจริงรึเปล่า

แล้วถ้าเป็นบ้าเนี่ยเป็นจากอะไรนะคะ

ซึ่งเพื่อนสองคนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นเพื่อนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อแฮมเล็ตนะ

เพราะว่าเหมือนกับรับเงินจากกษัตริย์ ว่าอย่างงั้นเถอะ แล้วก็เชื่อฟังกษัตริย์ทุกอย่างค่ะ

ตัดภาพมา เพื่อนนี่ก็เข้าไปหาแฮมเล็ตนะคะ

แล้วก็พยายามจะเชียร์อัพแฮมเล็ตต่างๆ

แต่แฮมเล็ตก็มีความเอ๊ะๆ นิดนึง

ประมาณว่าชั้นจะเชื่อใจเพื่อนสองคนนี้ดีมั้ยนะ

เพราะกษัตริย์เป็นคนเรียกมา

ตอนนี้กษัตริย์เป็นศัตรูของชั้นแล้ว

ชั้นจะต้องแก้แค้นให้พ่อ ประมาณนั้นนะคะ

อย่างไรก็ดีค่ะ เพื่อนสองคนนี้นำข่าวอีกข้อนึงมาบอกแฮมเล็ตนะคะ

บอกว่าตอนนี้ที่ปราสาทแห่งนี้มีคณะละครเดินทางมาถึงแล้วค่ะ

ซึ่งทำให้แฮมเล็ตดีใจมาก ประมาณว่า นี่แหละคณะละครเป็นเครื่องมือที่จะทำให้ชั้นพิสูจน์ได้ว่า

ไอ้ผีตัวนั้นที่มาคุยกับชั้นนี่เป็นพ่อชั้นจริงๆ หรือว่าจริงๆ แล้วเป็นปีศาจนะคะ

ถามว่าจะใช้พิสูจน์ยังไงนะคะ แฮมเล็ตก็วางแผนค่ะ

โดยการจะให้แก๊งละครเนี่ย เล่นละครเรื่องนึงค่ะ

แล้วก็ให้เพื่อนสองคนที่คลอดิอุสเรียกมาเนี่ยนะคะ

พยายามไปบอกคลอดิอุสให้ได้ว่า เฮ้ย มาดูละครๆ ละครมันสนุก

ประมาณนั้นค่ะ

ระหว่างที่รอเล่นละครอยู่เนี่ยนะคะ

ก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายค่ะ

เช่น โปนีเลียส ซึ่งเป็นที่ปรึกษาเนี่ยก็พยายามให้ลูกสาวหรือโอฟีเลียเนี่ยมาพิสูจน์ให้ได้

ว่าแฮมเล็ตเนี่ยเป็นบ้าเพราะอกหักรึเปล่า

คือตัวโปนีเลียสเนี่ยค่อนข้างมั่นใจว่าแฮมเล็ตรักลูกสาวตัวเองมาก

พอลูกสาวปฏิเสธเนี่ย แฮมเล็ตก็เลยเป็นบ้านะคะ

ก็เลยส่งลูกสาวไปค่ะ จะให้ไปคุยกับแฮมเล็ต

และระหว่างทางเนี่ยก็เชิญกษัตริย์คลอดิอุสมาแอบฟังด้วย

ว่าเค้าจะคุยกันยังไง ดูซิว่ามันคุยเหมือนคนบ้าจริงรึเปล่านะคะ

ซึ่งตอนที่โอฟีเลียกลับไปหาแฮมเล็ตค่ะ แล้วก็พยายามจะพูดคุยเจรจาอะไรต่างๆ

แฮมเล็ตนี่เหมือนกึ่งๆ จะรู้ด้วยแหละว่าโอฟีเลียนี่มันก็ไม่ได้รักชั้นอะไรขนาดนั้น

ที่มาคุยมันจะต้องเป็นแผนแน่ๆ เลย

ดังนั้นนะคะ แฮมเล็ตก็เลยด่าโอฟีเลียใหญ่โตค่ะ

ด่าๆๆๆๆ ด่านู่นด่านี่ ด่าไปจนกระทั่งถึงเหยียดผู้หญิงทั้งโลก

อะไรทำนองนี้เลยนะ

ทำให้โอฟีเลียรับไม่ได้ค่ะ แล้วก็เหมือนโอฟีเลียเนี่ยหลุด

แล้วก็เหมือนกึ่งๆ จะเป็นบ้าแล้วทำนองนั้นนะคะ

ซึ่งจากบทสนทนาทั้งหมดเนี้ย ทำให้คลอดิอุสเนี่ยรู้สึกว่า

เฮ้ย จริงๆ แล้วแฮมเล็ตเนี่ยไม่ได้เป็นบ้านะ

แล้วจริงๆ ไม่น่าจะเกิดจากเรื่องอกหักอะไรเลย

ก็เลยเริ่มสงสัยมากขึ้นนะคะว่าแฮมเล็ตเป็นอะไร

แฮมเล็ตนี่เริ่มไม่ปกติ เริ่มน่ากลัวแล้วนะคะ

ซึ่งขอบอกว่าตอนนี้ ตอนก่อนที่แฮมเล็ตจะเถียงกับโอฟีเลียเนี่ย

มีประโยคนึงเกิดขึ้นนะคะ

เป็นประโยคที่คลาสสิคระดับต้นๆ ของวงการวรรณคดีภาษาอังกฤษเลยนะ

เป็นประโยคที่คนโควทกันเยอะมาก เอามาปรับกันเยอะมาก

ก็คือประโยคที่บอกว่า "To be or not to be that is the question" นั่นเอง

ก็คือ เป็นตอนที่แฮมเล็ตเถียงกับตัวเอง

ก่อนที่จะไปเจอโอฟีเลียนะคะ

ประมาณว่าชั้นจะฆ่าตัวตายดีมั้ย เอ... ถ้าฆ่าตัวตายจะเป็นยังไง

อะไรอย่างเนี้ย เถียงกับตัวเอง

ซึ่งตรงนี้มันค่อนข้างลึกซึ้งมากๆ

วิวขออนุญาตไม่อธิบายตรงนี้นะคะ ถ้าใครอยากรู้ไปหาอ่านกันเอง

ประโยคมันมีชื่อเสียงจริงๆ นะคะ น่าจะหากันได้ไม่ยากค่ะ

ตรงนี้แค่อยากบอกว่าไอ้ "To be or not to be" ที่น่าจะเคยได้ยินกันมาจากเรื่องนี้นี่แหละ จ้ะ

ซึ่งหลังจากนั้นเนี่ยนะคะ กษัตริย์คลอดิอุสก็พยายามจะพิสูจน์อีก

ว่าแฮมเล็ตเป็นอะไร

ก็เลยคิดว่า ถ้าชั้นไปถามตรงๆ แฮมเล็ตคงไม่บอก

แต่ถ้าแม่ถาม อาจจะบอกก็ได้

ก็เลยคิดว่า เออ เดี๋ยวตอนเย็นของวันเนี้ย

มันจะมีการเล่นละครใช่มั้ย เดี๋ยวเล่นละครเสร็จ

ให้คนเนี่ย มาเชิญแฮมเล็ตเข้าไปคุยกับแม่แบบส่วนตัวมั้ย

แล้วก็ให้โปนีเลียสนี่นะคะแอบอยู่ในห้องเพื่อแอบฟังบทสนทนาทั้งหมด

จะได้รู้สักทีว่าจริงๆ แล้วแฮมเล็ตเป็นอะไรนะคะ

หลังจากการวางแผนอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ

ในที่สุดก็ถึงเวลาเย็นค่ะ เวลาที่แฮมเล็ตจัดละครขึ้นมาเล่นนะคะ

ซึ่งแฮมเล็ตเนี่ยก็ชักจูงได้สำเร็จนะคะ เชิญกษัตริย์มาดูจริงๆ

ในขณะที่เล่นละครเนี่ยนะคะ

คณะละครก็เล่นละครตามที่แฮมเล็ตสั่งนะคะ

เป็นเรื่องราวของกษัตริย์องค์นึงที่โดนลอบสังหารโดยการเทยาพิษใส่หู

ก็คือเรียกได้ว่าเล่นละครตามเรื่องราวที่ได้ยินมาจากผีนั่นล่ะคะ

ถามว่าแฮมเล็ตทำแบบนั้นทำไม

คือตั้งใจจะพิสูจน์ว่าแบบถ้ากษัตริย์รู้แล้วเกิดมีรีแอคชั่นอะไรบางอย่าง

แปลว่าเรื่องราวทั้งหมดเนี้ยเป็นเรื่องจริง ผีไม่ได้หลอกนะจ๊ะ

อันนี้ผีเล่าจริงๆ อะไรทำนองนี้นะคะ

ซึ่งตรงนี้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนวิวมั้ย เหมือนอิเหนาเลยนะ ตอนท้ายๆ

ที่แบบว่าไปเล่นละครให้บุษบาดูเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นบุษบาจริงรึเปล่านะคะ

ซึ่งตรงนี้ได้ผลคล้ายๆ แบบนั้นเลย

คือพอเล่นละครไปจนถึงตอนที่กรอกยาพิษใส่หูนะคะ

อยู่ดีๆ กษัตริย์ก็ลุกขึ้นมาแบบ ปึ้ง ไม่ดูแล้วละครนี้ แล้วก็เดินออกจากห้องไปเลยนะคะ

ทำให้ละครเนี่ย ล่ม

ทำให้แฮมเล็ตค่อนข้างจะมั่นใจค่ะว่า เฮ้ย ไอ้นี่มันต้องฆ่าพ่อชั้นแน่ๆ เลย

แล้วแบบ มันก็ต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ เพราะมันดูสะเทือนใจมากนะคะ

ระหว่างนั้นค่ะ หลังจากที่ละครล่มไปแล้ว

แน่นอนว่าแผนการก็ต้องดำเนินต่อไปนะคะ

ก็มีคนมาเชิญแฮมเล็ตค่ะ บอกว่าให้ไปพบแม่ตัวเองหน่อย

แม่รออยู่ในห้องนะคะ

แต่แฮมเล็ตบอกว่า ขอเวลาแปปนึง ขอเวลาชั้นอยู่กับตัวเองอีกแปปนึงนะคะ

ซึ่งถามว่าเวลาที่อยู่กับตัวเองเนี่ยแฮมเล็ตใช้ทำอะไร

แฮมเล็ตเนี่ยค่อยๆ เดินไปในปราสาทค่ะ เดินไปๆๆ

ปรากฏว่าเดินไปถึงห้องที่กษัตริย์คลอดิอุสเนี่ยหนีไปอยู่คนเดียวนะคะ

ตอนนั้นเนี่ยนะคะ คลอดิอุสหลังจากที่ลุกขึ้นมากลางเรื่องละครเนี่ยนะคะ

ก็ไปทำหลายอย่างเลย

อย่างแรกที่ทำเลยนะคะ ก็คือคิดจะกำจัดแฮมเล็ตค่ะ

แต่ว่าฆ่าแฮมเล็ตไม่ได้ไง เพราะว่าอะไร เพราะเป็นลูกของกษัตริย์องค์ก่อน

ก็เหมือนมีอิทธิพลอะไรอยู่ ถ้าอยู่ดีๆ จับมาประหารเดี๋ยวฝูงชนจะลุกฮือขึ้นมา

ดังนั้นนะคะ คิงก็เลยตัดสินใจว่า โอเค เนรเทศแฮมเล็ตดีกว่า

ให้แฮมเล็ตเนี่ยไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ

ก็ตัดสินใจสั่งคนบอกว่าเออเดี๋ยวจะให้พาแฮมเล็ตไปอยู่ที่อังกฤษนะ

หลังจากที่สั่งการไปนะคะ ตัวเองก็หนีไปสวดมนต์ภาวนาอะไรต่างๆ ค่ะ

ไปเหมือนแบบว่า สารภาพบาปต่อพระเจ้า

ประมาณว่า ลูกทำผิดไปแล้วที่ลูกฆ่ากษัตริย์องค์ก่อน

คือพระเจ้าพร้อมจะให้อภัยเราเสมอใช่มั้ย

ดังนั้น ตอนนี้ข้าสำนึกผิดแล้ว ให้อภัยข้าได้รึเปล่า

แต่ข้าก็จะไม่ทิ้งสิ่งที่ได้มาจาการฆ่ากษัตริย์องค์ก่อนนะ

ก็คร่ำครวญต่างๆ นานาค่ะ

ซึ่งหนึ่งในข้อความที่พูดๆ เนี่ยก็ประมาณว่า

ในเมื่อเรารู้สึกผิดแล้ว สารภาพบาปแล้ว เราจะได้ขึ้นสวรรค์ใช่มั้ย อะไรต่างๆ นะคะ

ระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้น จำได้มั้ยว่าแฮมเล็ตทำอะไรอยู่

แฮมเล็ตกำลังลากดาบมาอยู่นะคะ กำลังตามหากษัตริย์

ประมาณว่า ชั้นจะหาว่าแกอยู่ที่ไหน

แล้วก็เดินมาเงียบๆ นะคะ ในขณะที่กษัตริย์กำลังนั่งสวดภาวนาต่างๆ อยู่

แฮมเล็ตกำลังจะฆ่ากษัตริย์คลอดิอุสได้สำเร็จค่ะ แต่

แฮมเล็ตดันได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่กษัตริย์คลอดิอุสสวดภาวนาต่อพระเจ้าอยู่

ก็เลยรู้สึกว่า เฮ้ย ไม่ได้ละ

ถ้าชั้นฆ่ากษัตริย์คลอดิอุสตอนเนี้ย เค้ากำลังสวดภาวนาต่อพระเจ้าอยู่

ฆ่าปึ้ง แทนที่มันจะลงนรก มันขึ้นสวรรค์แน่นอน

ส่วนชั้นเนี่ย ฆ่าคนที่กำลังสวดภาวนา ชั้นเนี่ยลงนรก

ดังนั้นแฮมเล็ตก็เลยรู้สึกว่าเดี๋ยวไว้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยฆ่ามันก็ได้เนอะ ตอนนี้พอก่อนๆ

ดังนั้นแฮมเล็ตก็เลยตัดสินใจไปหาแม่แทนค่ะ

ไปถึงก็ประมาณว่า แม่ ต้องการคุยไรกับลูกเหรอ

ซึ่งแม่กับลูกเนี่ยนะคะก็มีการเถียงกันใหญ่โตค่ะ

คือแม่ก็พยายามจะบอกแฮมเล็ตว่า ลูกต้องทำตัวดีๆ กับพ่อเค้าหน่อยนะ

พ่อที่เป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบันน่ะ

ก็คือเรียกกษัตริย์คลอดิอุสว่าเป็นพ่อ แบบพ่อเลี้ยงเลยใช่มั้ย

ซึ่แฮมเล็ตก็บอกว่า แต่กษัตริย์คลอดิอุสเนี่ยฆ่าพ่อชั้น

พ่อที่เป็นกษัตริย์องค์ที่แล้วเนี่ย ไม่ใช่เหรอ ทำไมชั้นต้องเป็นคนดีด้วย

หลังจากนั้นนะคะแฮมเล็ตก็ด่าแม่ใหญ่โตเลยค่ะ

ด่าแบบ ด่าๆๆๆๆๆ ประมาณว่าแม่ไปเป็นเมียมันทำไม

แม่รักกับพ่อไม่ใช่เหรอ แล้วพ่อตายสองเดือนแล้วแม่ไปแต่งงานใหม่นี่คืออะไร

ก็ด่าแม่ ด่าหนักมากนะคะ

แล้วแฮมเล็ตเนี่ย จำได้มั้ยว่าแกล้งเป็นบ้าอยู่

ดังนั้นนะคะ แม่ก็มีความกลัวเล็กๆ

กลัวว่าแฮมเล็ตเนี่ยเป็นบ้าแล้วจะทำร้ายตัวเอง

ประกอบกับท่าทางแฮมเล็ตเนี่ยน่ากลัวมากๆ

ดังนั้นควีนเกอร์ทรูดนะคะ แม่ของแฮมเล็ตเนี่ยก็เลยเหมือนหลุดตะโกนขึ้นมานิดนึง ร้องขอความช่วยเหลือ

ประมาณว่า ช่วยด้วย แฮมเล็ตจะฆ่าชั้นแล้ว ทำนองนี้นะคะ

ถามว่าใครได้ยิน คนที่ได้ยินนะคะก็คือโปนีเลียส

ที่ปรึกษาที่แอบอยู่ในห้องนั้นนั่นเอง

จำได้มั้ย โปนีเลียสแอบอยู่ในห้องนี้เพื่อที่จะฟังบทสนทนาของสองแม่ลูกนะคะ

ดังนั้นโปนีเลียสที่อยู่หลังม่านก็ตะโกนขึ้นมา

เหมือนแบบ เรียกคนต่อไปอีกต่อนึง ประมาณว่า ช่วยด้วย ประมาณนี้

ทำให้แฮมเล็ตได้ยินเสียงคนหลังม่าน แล้วก็เข้าใจว่า

อ๋อ คลอดิอุสที่เป็นกษัตริย์นี่ซ่อนอยู่หลังม่านใช่มั้ย

ดังนั้นแฮมเล็ตนะคะ ก็เลยเอาดาบขึ้นมาแล้วก็แทงทะลุม่านเข้าไป ฉึก

ทำให้โปนีเลียสเนี่ยตายตรงนั้นเลย

ซึ่งพอตายลงมาแล้ว ตอนแรกแฮมเล็ตก็ดีใจว่าชั้นฆ่าคลอดิอุสได้แล้วจ้า

ชั้นแก้แค้นแทนพ่อได้แล้ว

แต่พอร่วงลงมาแล้วแบบ อ้าว นี่ไม่ใช่คลอดิอุสนี่นา นี่มันโปนีเลียส

แฮมเล็ตก็เลยรู้สึกผิดมากๆ นะคะ

ประมาณว่าเอ้าตายแล้ว ชั้นฆ่าคนบริสุทธิ์

ชั้นฆ่าคนที่ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับชั้นเลย แต่ว่าก็ฆ่าไปแล้ว

แล้วชั้นก็คงต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอดชีวิตนะคะ

ซึ่งหลังจากฆ่าไปแล้วเนี่ย แม่ก็ตกใจมากๆ ประมาณว่าลูกชั้นเป็นบ้าไปแล้วเหรอ

อยู่ดีๆ ก็ฆ่าโปนีเลียสอะไรอย่างงี้

แต่ว่า ระหว่างนั้นค่ะ ปรากฏว่าผีของอดีตกษัตริย์ก็โผล่ขึ้นมาอีกรอบนึง

มาบอกแฮมเล็ตว่า หยุด สัญญากับชั้นไว้แล้วใช่มั้ยว่าอย่าไปทำอะไรแม่

ที่สำคัญ แกยังไม่ได้แก้แค้นให้ชั้นเลย ไอ้กษัตริย์องค์ปัจจุบันก็ยังลอยนอลอยู่เนี่ย

ทำยังไงดีนะคะ

ซึ่งแฮมเล็ตเนี่ยก็มีการคุยกับผีในห้อง

แต่ว่าแม่เนี่ยไม่เห็นผีนะคะ

ดังนั้นแฮมเล็ตก็พยายามจะเล่าให้แม่ฟังว่า ผีของพ่ออยู่ในห้องๆ นะคะ

ทำให้แม่เนี่ยนะคะ เชื่อแฮมเล็ต

แล้วก็ตกลงกันไว้ว่าสองคนนี้จะรักษาความลับกันว่า

เออ แฮมเล็ตไม่ได้เป็นบ้านะจ๊ะ

หลังจากนั้นแฮมเล็ตก็มีการลากศพของโปนีเลียสออกไปค่ะ

แล้วก็ไปจัดการทำส่งทำศพอะไรให้เรียบร้อยนะคะ

ตัดภาพมาที่คลอดิอุสค่ะ

คลอดิอุสเห็นว่าแฮมเล็ตฆ่าโปนีเลียสไปแล้ว

ก็รู้สึกว่าไอ้คนนี้มันเริ่มอันตรายแล้ว

แล้วที่สำคัญมันน่าจะรู้แล้วว่าชั้นฆ่าพ่อมัน

ดังนั้นชั้นต้องทำไงก็ได้ ส่งแฮมเล็ตออกไปนอกประเทศให้เร็วที่สุด

เพื่อที่ว่ามันจะได้ไม่มาทำอันตรายอะไรชั้นไง

ดังนั้นคิงคลอดิอุสเนี่ยนะคะ ก็เลยตัดสินใจร่างจดหมายขึ้นมาฉบับนึงค่ะ

แล้วก็บอกว่า แฮมเล็ต เธอต้องออกจากประเทศไปเดี๋ยวนี้

ไปที่ประเทศอังกฤษที่ชั้นสั่งนี่แหละ

และเอาเพื่อนสองคนของเธอเนี่ยไปด้วย

ก็คือเพื่อนสองคนที่กษัตริย์ไปเชิญมาจากโรงเรียนจำได้มั้ย

แฮมเล็ตนี่มีเพื่อนสองชุดนะ ชุดแรกคือชุดที่ไปเห็นผีด้วยกัน

ชุดที่ไปล่าท้าผีด้วยกัน

กับชุดที่สองคือชุดที่มาจากโรงเรียน

ชุดล่าท้าผีคือชุดที่สนิทกับแฮมเล็ต

ส่วนชุดที่มาจากโรงเรียนคือชุดที่ได้รับคำสั่งจากกษัตริย์

อ่ะ แล้วถามว่าจดหมายที่กษัตริย์คลอดิอุสเนี่ยให้เพื่อนของแฮมเล็ตไปตอนที่ไปอังกฤษคืออะไร

ในจดหมายเนี่ยนะคะ เขียนไปถึงกษัตริย์แห่งอังกฤษค่ะ

ประมาณว่า เปิดจดหมายนี้เมื่อไหร่ เจอแฮมเล็ตเมื่อไหร่ ฆ่ามันตอนนั้นเลยนะคะ

ประมาณว่าชั้นจะต้องกำจัดแฮมเล็ตละ แต่ชั้นฆ่าเองไม่ได้

หลังจากที่แฮมเล็ตเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษนะคะ

ตัดภาพกลับมาที่เดนมาร์กค่ะ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเต็มไปหมดเลยนะคะ

หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องการเมืองค่ะ

จำได้ใช่มั้ยคะ ในสมัยพ่อของแฮมเล็ตเนี่ยมีการไปแย่งชิงดินแดนอะไรต่างๆ มา

โดยเฉพาะดินแดนนึงค่ะ ของนอร์เวย์นั่นเองนะคะ

ซึ่งตอนนี้เนี่ยนะคะ ลูกหลานของคนที่ดูแลตรงนั้นเนี่ย

ชื่อว่าฟอร์ทินบราส์เนี่ยนะคะก็อยากจะได้ดินแดนนี้คืน

ก็เลยตั้งใจจะยกทัพเข้ามาที่เดนมาร์กนะคะ

เพื่อมารบแย่งชิงดินแดนคืนค่ะ

แต่อย่างไรก็ตามนะคะ ด้วยการติดต่อพูดคุยทางการทูตอะไรต่างๆ เนี่ย

ก็ทำให้คิงคลอดิอุสเนี่ยสามารถตกลงกับคิงแห่งนอร์เวย์ได้นะคะ

ประมาณว่าอย่ารบกันเลยจ้า ดีกันเถอะ

ดังนั้นนะคะ ฟอร์ทินบราส์ก็เลยไม่ได้รบกับเดนมาร์กอีกต่อไปค่ะ

แต่ได้รับอนุญาตนะคะ ให้เดินทัพผ่านเดนมาร์กได้ค่ะ เพื่อจะไปรบกับอีกที่นึง

ซึ่งระหว่างนั้นนะคะก็บังเอิญว่าฟอร์ทินบราส์ค่ะ

ไปเจอกับแก๊งนึงนะคะ ซึ่งก็คือแก๊งของแฮมเล็ตที่กำลังเดินทางไปอังกฤษนั่นเองค่ะ

หลังจากที่คุยอะไรกันต่างๆ ด้วยบทสนทนาต่างๆ เนี่ย

ก็ทำให้แฮมเล็ตอยู่ดีๆ ก็เก็ทขึ้นมาว่า

เฮ้ย คนเราจริงๆ แล้วก็อยู่ได้ด้วยปณิธานอะไรสักอย่างของชีวิตแหละ

ซึ่งของชั้นเนี่ย ชั้นสัญญากับพ่อไว้ว่าชั้นจะแก้แค้นให้พ่อไง

ดังนั้นชั้นจะไปอังกฤษได้ยังไง ชั้นต้องกลับเดนมาร์ก

กลับไปแก้แค้นให้พ่อไงล่ะ

ดังนั้นแฮมเล็ตนะคะก็เลยเหมือนวางแผนอะไรต่างๆ

แล้วก็แกล้งทำเป็นว่าตัวเองเนี่ยโดนโจรสลัดลักพาตัวไปค่ะ

เพื่อที่จะกลับเดนมาร์กนะคะ

ส่วนเพื่อนสองคนที่โดนส่งไปเฝ้าแฮมเล็ตนะคะ ซึ่งเป็นเพื่อนที่ไม่ค่อยโอเคใช่มั้ย

ก็โดนฟอร์ทินบราส์จับตัวไปนะคะ

นี่ก็คือเรื่องนึงที่เกิดขึ้นที่เดนมาร์กแล้วก็ระหว่างทางไปอังกฤษนะคะ

ส่วนอีกเรื่องนึงที่เกิดขึ้นค่ะก็คือโอฟีเลียนั่นเอง

โอฟีเลียนะคะ ด้วยความเสียใจจากการโดนปฏิเสธความรักจากแฮมเล็ต

โดนแฮมเล็ตด่าต่างๆ นานาตลอดเวลา

โดนแฮมเล็ตพูดจาไม่ดีใส่ แถมยังมาพ่อตายอีกนะคะ

ทำให้โอฟีเลียเนี่ยอยู่ดีๆ ก็เป็นบ้าขึ้นมาเลยนะคะ

ก็แบบเป็นบ้าสติแตก เดินร้องเพลง เดินถือดอกไม้รอบวัง

ทำนองนี้ค่ะ

และที่สำคัญนะคะโอฟีเลียไม่ได้แค่เป็นบ้าค่ะ

แต่ว่าอยู่ดีๆ วันนึงก็มีคนไปเจอว่าโอฟีเลียเนี่ยจมน้ำตายไปเรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นค่ะ เมื่อเลทิส พี่ชายของโอฟีเลียเดินทางกลับมาเนี่ย

นอกจากจะโกรธแค้นมากๆ แล้วที่พ่อตายเนี่ยนะคะ

ก็โกรธแค้นอีกที่น้องสาวตัวเองตายค่ะ

และที่สำคัญเค้าไม่ได้กลับมาคนเดียวนะจ๊ะ เค้ากลับมากับฝูงชาวบ้านฝูงใหญ่มาก

ที่พร้อมจะแก้แค้นนะคะ ด้วยการล้มล้างคิงคลอดิอุสค่ะ

กลับมาถึงก็บอกว่า ชั้นจะแก้แค้นให้ท่านพ่อ

คิงคลอดิอุสนั่นแหละที่ทำให้พ่อของชั้นตาย

ก็ตั้งใจจะแก้แค้นเต็มที่นะคะ

แต่ด้วยการเจรจาอะไรต่างๆ ของคลอดิอุสเนี่ย

คลอดิอุสก็พยายามจะบอกเลทิสว่า เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ

ชั้นไม่ใช่คนฆ่าพ่อเธอ

คนที่ฆ่าพ่อเธอคือแฮมเล็ตต่างหาก

ถ้าจะแก้แค้นให้ถูกตัว ต้องแก้แค้นแฮมเล็ต ไม่ใช่ชั้นนะจ๊ะ

ซึ่งระหว่างนั้นนะคะ บังเอิญว่าข่าวก็มาถึงพอดีค่ะ

ว่าแฮมเล็ตเนี่ยโดนโจรสลัดจับตัวไปอะไรต่างๆ

และจะเดินทางกลับมาถึงเดนมาร์กภายในสองวันค่ะ

ทำให้เลทิสเนี่ยรู้สึกว่าเฮ้ย นี่ไง พูดถึงการแก้แค้น การแก้แค้นก็มา

ถ้าแกไปอยู่กังกฤษนี่ชั้นต้องเดินทางตามไปแก้แค้นที่นั่นนะ

แต่ว่าตอนนี้แกกลับมาอยู่ที่เดนมาร์กแล้ว

ได้เวลาแก้แค้น

ดังนั้นค่ะ เลทิสกับกษัตริย์คลอดิอุสก็เลยมีการวางแผนร่วมกันนะคะ

เพราะว่าคลอดิอุสรู้สึกว่าไม่ได้ละ ชั้นเก็บแฮมเล็ตไว้ไม่ได้

ชั้นต้องฆ่ามัน แต่ชั้นไม่อยากฆ่าด้วยมือตัวเอง

ก็เลยวางแผนร่วมกับเลทิสนะคะ บอกว่าแฮมเล็ตเนี่ยเคยมีประเด็นกับเลทิสมาก่อน

เรื่องเกี่ยวกับการดวลดาบ ประมาณว่า เฮ้ย คนนี้เก่งกว่า หรือคนนั้นเก่งกว่า อะไรนะ

ถ้ายุเนี่ย แฮมเล็ตจะต้องยอมดวลดาบกับเลทิสแน่นอนเลย

ซึ่งระหว่างการดวลดาบ ปกติเค้าจะใช้ดาบที่มันไม่ค่อยมีคม อะไรต่างๆ

สู้กันก็ไม่ค่อยบาดเจ็บเท่าไหร่หรอก

แต่ว่าอันเนี้ย เราสามารถโกงได้ไง

ดังนั้นนะคะก็เลยตกลงกันไว้ว่า เลทิส เธอใช้ดาบคมๆ นะ

แล้วเดี๋ยวปลายดาบอ่ะ คมอย่างเดียวไม่พอ จุ่มยาพิษด้วย

แค่สะกิดโดนผิวหนังนิดเดียว ปึ๊ด เลือดออกผสมยาพิษ ตายแน่จ้า

ทั้งสองคนก็วางแผนร่วมกันนะคะ

ตัดภาพไปที่แฮมเล็ต

แฮมเล็ตเดินทางกลับมาถึงเดนมาร์กนะคะ

ผ่านมาที่ป่าช้านะคะ เจอสัปเหร่อกำลังขุดหลุมศพอยู่

รู้ใช่มั้ยว่าคริสเตียนเค้าฝังเอาใช่ป่ะ

ดังนั้นนะคะ แฮมเล็ตก็เจอคนขุดๆๆ หลุมศพอยู่

ก็เดินเข้าไปถามประมาณว่า เฮ้ย นี่เป็นหลุมศพของใครอ่ะ

ซึ่งสัปเหร่อเนี่ย กวนนะคะ

ก็พยายามกวนประมาณว่า

หลุมศพนี้ข้าเป็นคนขุด ก็ถือว่าข้าเป็นเจ้าของหลุมศพสิ

หลุมศพนี้เป็นของทุกคน

หลุมศพนี้ไม่ได้เป็นของใคร

เพราะว่าใครคนนั้นเค้าตายไปแล้ว เราไม่นับเค้าเป็นคนอีก

อะไรอย่างเนี้ย กวนไปเรื่อยๆ นะคะ

สุดท้ายก็บอกแฮมเล็ตไปแค่ว่า

โอ้ หลุมศพนี้เป็นของผู้หญิงคนนึงน่ะ

แต่เราอย่าไปพูดชื่อเค้าเลย

เพราะว่าเค้าตายไปแล้ว แล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะพูดถึงเค้าหรอก นะคะ

ซึ่งก็ทำให้แฮมเล็ตแบบ เออๆๆ เออออไปนะคะ

แต่ระหว่างนั้นค่ะ ตอนที่ขุดๆๆ เคลียร์ๆ เนี่ย

พื้นที่มันไม่ใช่พื้นที่ว่างไง มันเป็นพื้นที่ป่าช้าเดิมนะคะ

ดังนั้นก็มีกะโหลกนึงหลุดขึ้นมาค่ะ

แฮมเล็ตก็ถามว่า เออ นี่กะโหลกใครเหรอ

ซึ่งสัปเหร่อเนี่ยนะคะ ก็จำแฮมเล็ตไม่ได้นะคะ

ไม่รู้ว่านี่คือเจ้าชายแห่งเดนมาร์กใช่มั้ย

ก็เลยเล่าให้ฟังประมาณว่า

โอ้ย ลุงเป็นสัปเหร่อที่นี่มานานแล้ว อยู่มาตั้งแต่สมัยกษัตริย์เดนมาร์กองค์ก่อน

ไอ้หัวๆ นี้น่ะเหรอ กะโหลกเนี่ย เป็นกะโหลกของตัวตลกหลวงของกษัตริย์เดนมาร์กองค์ก่อน

มันก็มาฝังๆ อยู่ตรงนี้แหละ

ตอนนี้ก็ดูสิ กลิ้งกลุกๆๆๆ อยู่ตรงนี้แหละ

ซึ่งทำให้แฮมเล็ตนะคะ จำได้ค่ะ

เพราะว่าสมัยตอนตัวเองเด็กๆ ตอนที่อยู่กับพ่อเนี่ย

ก็เหมือนกับว่าเคยเล่นเคยดูตัวตลกหลวงคนนี้แหละ

แฮมเล็ตก็เลยหยิบหัวกะโหลกนี้ขึ้นมานะคะ

แล้วก็หันไปพูดกับหัวกะโหลก เป็นแบบ ปรัชญาชีวิตอะไรต่างๆ นานานะคะ

ประมาณว่า เอ้อ สุดท้ายแล้วคนเราก็ต้องตายไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน

ขนาดนกกระเรียน หรือขนาดใครก็ตาม

สุดท้ายก็จะต้องกลายเป็นฝุ่นผง แล้วก็โดนฝังอยู่ในดินเท่านั้นแหละ

ก็ปลงๆ ชีวิตนิดนึง

ดังนั้นชีวิตของข้าก็ไม่มีค่าอะไรหรอก

ข้าก็พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อแหละ

ขาดแค่อย่างเดียวคือข้าต้องแก้แค้นให้ได้ ตามที่พ่อสั่งเอาไว้

ก็เป็นจุดนึงที่ทำให้แฮมเล็ตเนี่ยเปลี่ยนใจนะคะ

ประมาณว่าเกิดอะไรขึ้นชั้นไม่สนใจตัวเองละ

ชั้นตายได้แต่ชั้นต้องได้แก้แค้น ทำนองนั้นค่ะ

ซึ่งในขณะที่แฮมเล็ตกำลังพร่ำเพ้ออะไรต่างๆ อยู่เนี่ยนะคะ

ปรากฏว่าขบวนศพเนี่ยก็เดินทางมาค่ะ

แฮมเล็ตเกิดความสงสัยว่า

เฮ้ย ขบวนนี้มันเป็นขบวนอะไรกันแน่ ทำไมมันแปลกๆ

เพราะว่าขบวนมันไม่ได้เกียรติยศเต็มที่นะคะ

ดังนั้นแฮมเล็ตก็เลยพอเดาได้ว่า คนที่เป็นเจ้าของขบวนเนี้ยจะต้องฆ่าตัวตายแน่ๆ เลย

ซึ่งระหว่างทางเนี่ยก็มีบาทหลวงเดินโวยวายมาตลอดทาง

ประมาณว่า ชั้นทำศพให้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้หรอก

คือคนคริสเตียนที่ฆ่าตัวตายไม่ควรจะได้รับพิธีแบบคริสเตียนเต็มรูปแบบ

อะไรอย่างนี้ โวยวายๆ มาเรื่อยๆ นะคะ

สุดท้ายค่ะ ศพนี้ก็โดนเอาลงไปในหลุมนะคะ

และคนที่มาในขบวนนั้นก็คือ

ครอบครัวของแฮมเล็ตนั่นเอง

ก็คือ คลอดิอุส แม่ แล้วก็เลทิส พี่ชายของโอฟีเลียนะคะ

เพราะว่าศพที่เคลื่อนขบวนมาก็คือก็คือศพของโอฟีเลียนั่นเองค่ะ

ซึ่งเลทิสเนี่ยนะคะ รู้สึกเศร้าเสียใจมากกับการตายของน้องสาว

ก็เลยกระโดดลงไปในหลุมศพของโอฟีเลียนะคะ

แล้วกะว่าจะไปกอดน้องสาวเป็นรอบสุดท้าย

จากเหตุการณ์นี้ค่ะ ทำให้เหมือนผ้ามันเปิดอะไรต่างๆ

แฮมเล็ตก็เลยรู้ว่า อ้าว ไอ้ศพนี้คือศพของโอฟีเลียนี่นา

และแฮมเล็ตเนี่ยรักโอฟีเลียด้วยใจจริงนะคะ ก็เลยรู้สึกเสียใจมาก

ก็กระโดดลงไปในหลุมศพนั้นอีกคนนึงนะคะ

ก็ไปแบบ อยู่ดีๆ ก็เถียงกันขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ประมาณว่า ชั้นรักโอฟีเลียมากกว่า ไปเถียงกับพี่ชายเค้าอ่ะ

พี่ชายก็แบบ ไม่จริง ชั้นรักน้องสาวชั้นมากกว่า

สุดท้ายทั้งสองคนก็เลยต่อสู้กันในหลุมศพของโอฟีเลียนะคะ

ก็ไม่รู้รักอีท่าไหนน่ะนะ

แต่ปรากฏว่าสู้กันได้ไม่นานนะคะ ก็โดนจับแยกกันขึ้นมาค่ะ

จากเหตุการณ์นี้นะคะ ทำให้หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนบอกว่า

โอเค ชั้นจัดดวลให้เอามั้ย ระหว่างเธอกับเลทิสเนี่ย

ไปดวลดาบกันเลยดีรึเปล่า ก็เกลียดกันอยู่แล้วไง

ดังนั้นแฮมเล็ตนะคะ ก็มีความเข้าใจเลทิสเล็กๆ

ประมาณว่า เออ ชั้นก็ฆ่าพ่อเค้า เค้าก็อยู่ในตำแหน่งเดียวกับที่ชั้นอยากฆ่าคลอดิอุสนี่แหละ

แต่ไม่เป็นไร เออดวลดาบก็ดวลดาบ

ทั้งสองคนก็เลยตัดสินใจว่าจะดวลดาบกันต่อหน้าคิงคลอดิอุสค่ะ

ซึ่งถามว่ามันเป็นการดวลดาบทียุติธรรมมั้ย

บอกเลยว่าไม่

จำได้ใช่มั้ยว่าแฮมเล็ตใช้ดาบทู่ แต่ว่าเลทิสใช้ดาบแหลม

แล้วก็มียาพิษอยู่ที่ปลายด้วย

ที่สำคัญไม่ใช่เท่านั้นนะคะ

แต่ว่าคลอดิอุสเนี่ยวางแผนไว้หนักกว่านั้น

คือถ้าสมมุติว่าแฮมเล็ตแพ้ อ่ะแน่นอน โดนจิ้มยาพิษเข้าร่าง ตายแน่นอน

แต่ถ้าแฮมเล็ตชนะล่ะ

คลอดิอุสเนี่ยวางแผนไว้บอกว่า ถ้าแฮมเล็ตชนะเนี่ยนะ

แต่ว่าฟันโดนตัวได้คะแนนหนึ่งคะแนนสองคะแนน

จะยกไวน์ให้ เคยเห็นป่ะ กษัตริย์แบบ ข้าขอมอบไวน์ให้เจ้า

เพื่อเป็นเกียรติแก่การที่เจ้าได้ชนะ อะไรทำนองนี้

แต่ไวน์แก้วนี้จะใส่ยาพิษเอาไว้นะคะ

ซึ่งแฮมเล็ตก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้ค่ะ

ทั้งสองฝั่งก็ลงไปนะคะ แล้วก็ต่อสู้กันต่างๆ นานา

ซึ่งแรกๆ นี่แฮมเล็ตก็แสดงฝีมือที่เหนือกว่า

ก็ได้คะแนนไปนะคะ

คิงคลอดิอุสก็บอกว่า อ่ะ ข้ายกไวน์ให้เจ้าเพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะของเจ้า

แต่แฮมเล็ตบอกว่า เดี๋ยวก่อน ข้ายังไม่พร้อมดื่ม

วางไว้ตรงนั้นก่อน วางไว้ก่อน

เดี๋ยวชั้นสู้เสร็จค่อยไปดื่มนะ

บังเอิญว่าแม่ของแฮมเล็ตค่ะ คว้าไวน์ไปดื่ม

ซึ่งเป็นไวน์ที่ใส่ยาพิษ จำได้ใช่มั้ย

กษัตริย์คลอดิอุสเนี่ยพยายามจะห้ามแล้ว

ประมาณว่า หยุดๆๆๆ อย่าดื่ม

ในไวน์นั้นมี ยา พิษ

แต่มันไม่ทัน

เพราะว่าแม่ของแฮมเล็ตเนี่ยดื่มไวน์เข้าไปแล้วนะคะ

แต่ว่ายาพิษยังไม่ออกฤทธิ์ค่ะ

ระหว่างนั้น ตัดภาพมาที่แฮมเล็ตกับเลทิสนะคะ

ก็มีการสู้กันต่างๆ นานา

แฮมเล็ตก็พลาดท่าเสียทีนะคะ โดนเลทิสเนี่ยเอาปลายดาบฟันโดนตัวไป

เลือดไหล แล้วก็ยาพิษเข้าร่างค่ะ

แต่ยังไม่ตาย ระหว่างนั้นก็มีการตะลุมบอนอะไรกันต่างๆ

ทำให้ดาบของทั้งสองคนเนี่ยหลุดออกจากมือ

พอหยิบดาบขึ้นมาปุ๊บ ปรากฏว่าดาบสลับกัน

ตอนนี้แฮมเล็ตก็หันไปฟันๆๆ เลทิสบ้างนะคะ

แล้วก็ทำปลายดาบเนี่ยไปสะกิดโดนตัวเลทิส

ยาพิษก็เลยเข้าร่างเลทิสเหมือนกันค่ะ

ปรากฏว่าระหว่างที่กำลังสู้กันไปสู้กันมา

ยาพิษของพระราชินีที่ดื่มไวน์พิษเข้าไปเนี่ย ก็ออกฤทธิ์ค่ะ

ทำให้พระราชินีเนี่ย ร่วงลงไปตรงนั้นเลย

แล้วก็ไปนอนพะงาบๆ ใกล้ตายอยู่นะคะ

ทำให้แฮมเล็ตเนี่ยตกใจ

เลทิสก็เลยบอกแฮมเล็ตประมาณว่า เออ จริงๆ แล้ว เดี๋ยวพวกเราก็ตายกันหมดแหละ

นี่จะบอกให้นะว่ากษัตริย์น่ะ เป็นคนวางยาพิษในไวน์แก้วนั้น

และที่สำคัญนะ ปลายดาบของข้าก็มียาพิษ

เนี่ยเราทั้งสองคนโดนยาพิษแล้ว

เดี๋ยวเราทั้งสองคนก็ตายทั้งคู่แหละ

ว่าแล้วนะคะ เหมือนเลทิสก็หมดแรงเหมือนกัน

ก็ทรุดลงไป ยาพิษกำเริบค่ะ

ฝั่งแฮมเล็ตเนี่ยนะคะ ยาพิษยังไม่ออกฤทธิ์เต็มที่ค่ะ

ก็รู้สึกโกรธมากนะคะ โกรธคลอดิอุสมากๆ

ก็เลยพุ่งไปที่คลอดิอุสค่ะ

เอาดาบที่เปื้อนยาพิษนะคะ แทงคลอดิอุสเข้าไป

แล้วก็เอาไวน์ที่เหลือกรอกปากซ้ำเข้าไปด้วย

ดังนั้นสุดท้ายแล้วนะคะ ยาพิษก็ออกฤทธิ์ค่ะ

แล้วก็ทำให้ทุกคนเนี่ย ตายไปหมดเลยนะ

แต่ก่อนที่แฮมเล็ตจะตายนะคะ เกิดเหตุการณ์สำคัญอีกเหตุการณ์นึงขึ้นค่ะ

ก็คือ จำคนนี้ได้มั้ยคะ ฟอร์ทินบราส์

คนที่มาจากนอร์เวย์ ที่บอกว่าจะมายึดดินแดนอะไรแล้วไม่ได้ยึดเนี่ยแหละ

ก็เคลื่อนขบวนทัพเข้ามาพอดี เพิ่งจะกลับจากไปรบอีกที่นึง

แล้วก็ตั้งใจจะมารายงานแฮมเล็ตว่า

ไอ้เพื่อนสองคนที่เป็นเพื่อนชั่วชั้นฆ่าให้แล้วนะจ๊ะ

ปรากฏว่ามาถึงค่ะ เจอราชวงศ์ของเดนมาร์กทั้งหมดเนี่ย นอนตายเรียงกันหมดเลยนะคะ

ไม่เหลือรัชทายาทอะไรทั้งสิ้นแล้วนะคะ

ประกอบกับแฮมเล็ตกำลังพะงาบๆ อยู่

สุดท้ายแฮมเล็ตก็เลยสั่งว่า โอเค ฟอร์ทินบราส์ เจ้าได้เป็นกษัตริย์เดนมาร์กคนต่อไป

และแฮมเล็ตก็ขาดใจตายไปค่ะ

เป็นอันจบเรื่องแฮมเล็ตนะคะ

เป็นไง โศกนาฏกรรมมั้ย

มีความเหมือน มีความต่างยังไงกับ Lion King บ้างนะคะ

หลายคนบอกว่ามีความเหมือนบางจุดนะ

เช่น พ่อตายเหมือนกัน อาขึ้นมาเป็นตัวร้ายเหมือนกัน

มีการเดินทางออกไปต่างเมืองเหมือนกัน

มีเพื่อนที่ซื่อสัตย์เหมือนกัน

มีอะไรอย่างนี้เหมือนกัน

ก็ลองไปเทียบกันเองนะคะว่าเหมือนหรือไม่เหมือน Lion King ยังไงค่ะ

สำหรับตอนนี้ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้นะคะ

อยากให้วิวมาเล่าอะไรให้ฟังอีก

ก็อย่าลืมกดไลก์เป็นกำลังใจให้วิว

แล้วก็กดแชร์เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันนะคะ

แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ บ๊ายบาย

สวัสดีค่ะ

เข้าใจว่าคลิปนี้ยาวแล้วนะ แต่อยากเม้าต่ออีกนิดนึง

คือเค้าบอกว่าที่เชกสเปียร์เขียนเรื่องแฮมเล็ตเนี่ยนะคะ

ที่แบบเป็นการแย่งชิงอำนาจ เป็นการไม่มีรัชทายาทอะไรเนี่ย

จริงๆ แล้ว มันไปเกี่ยวข้องกับ Queen Elizabeth ที่ 1 แห่งอังกฤษนะคะ

เพราะว่าเชกสเปียร์เป็นคนอังกฤษใช่ป่ะ

แล้วตอนที่เขียนเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนช่วงท้ายๆ ของยุค Queen Elizabeth ที่ 1 แล้วค่ะ

ซึ่ง Queen Elizabeth ที่ 1เนี่ย ไม่มีลูกนะคะ

ดังนั้นตอนนั้นก็เหมือนการแย่งชิงอำนาจอะไรกันในราชวงศ์นิดนึง

แล้วก็ สุดท้ายคนที่ได้อำนาจไปเนี่ยก็คือลูกของ Mary, Queen แห่ง Scots

ก็คือพระเจ้าเจมส์ที่ 1 นั่นเอง

ซึ่งเป็นเหมือนคนที่แบบ Queen Elizabeth เกลียดอ่ะ

ประมาณว่าชั้นไม่อยากยกอำนาจให้คนนี้หรอก

แต่สุดท้ายด้วยความที่ตัวเองไม่มีทายาท คนนั้นก็เลยได้อำนาจไปค่ะ

เค้าก็เลยบอกว่า น่าจะเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เชกสเปียร์เนี่ยมาเขียนเรื่องนี้

ประมาณว่า เออถ้าสุดท้ายไม่เหลือทายาทเลย ใครจะได้ไป อะไรประมาณนี้นะคะ

ก็ลองไปหาอ่านกันดูได้ค่ะ

ลงอ้างอิงไว้ให้ด้านล่างแล้ว น่าจะไปตาม ศึกษากันเพิ่มได้เองนะจ๊ะ

สำหรับตอนนี้ลาไปก่อนค่ะ บ๊ายบาย

สวัสดีค่ะ