ขุนช้าง-ขุนแผนพ่อตาย! (โดยพร้อมเพรียง) ขุนช้าง-ขุนแผน EP.2 | Point of View

สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ

กลับมาพบกันอีกครั้งในทุกวันพุธที่วิวจะนำเอา

เสภา เรื่อง ขุนช้าง-ขุนแผน ฉบับหอพระสมุด

มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ

ซึ่งวันนี้นะคะ ดูจากชื่อคลิปแล้ว

บอกเลยว่าเนื้อหารุนแรงมากจริง ๆ ค่ะ

แต่ว่าไม่ใช่คำหยาบแต่อย่างใดนะคะ

เพราะว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในเรื่องค่ะ

และจะส่งผลต่อชีวิตตัวละครเอกของเรา

แต่ละตัวค่อนข้างมากเลยทีเดียวนะคะ

ซึ่งจะผูกเป็นปมต่อไปในอนาคตค่ะ

ดังนั้นเราไม่ต้องเวิ่นนะคะ เราเข้าเรื่องเลยดีกว่า

แต่สำหรับใครที่อยากติดตามซีรีส์นี้นะคะ

อย่าลืมกดติดตามช่อง Point of View ค่ะ

รวมถึงซีรีส์อื่น ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจนะ

และถ้าสมมติว่าใครฟังแล้วรู้สึกว่า

เฮ้ย อยากรู้เรื่องจนจบเดี๋ยวนี้เลย รู้สึกว่าเวิ่นเกินไปนะคะ

วิวก็เคยเล่าเรื่องขุนช้างขุนแผนให้จบทั้งเรื่องไว้

ภายใน 10 นาที เช่นกันค่ะ

สามารถกดไปดูได้ตรงนี้นะจ๊ะ

เอาล่ะ พร้อมจะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก และก็ได้สาระรึยังคะ

ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ

ความเดิมจากตอนที่แล้วนะคะ

เราพูดถึงกำเนิดตัวละครเอกทั้งสามขึ้นมาเรียบร้อยแล้วนะคะ

ตอนนี้เด็กน้อยทั้งสามก็ใช้ชีวิต
อยู่ในเมืองสุพรรณกันอย่างมีความสุขค่ะ

ปรากฏว่า เรื่องก็เกิดขึ้นนะคะ

เมื่อวันนึงพ่อของขุนช้างค่ะ เกิดรู้สึกว่า

เออ เราก็เป็นข้าราชการรับใช้ใกล้ชิด

ลูกของเราก็เกิดขึ้นมาแล้ว

ควรจะนำไปฝากให้กับพระพันวษานะคะ

ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ในยุคสมัยนั้น

ให้เป็นข้ารับใช้ต่าง ๆ ค่ะ ก็เป็นธรรมเนียมอะนะว่า

ต้องเอาเด็กเล็ก ๆ ไปฝากไว้

เผื่อโตขึ้นมาจะได้กลายเป็นมหาดเล็ก

กลายเป็นเด็กชา แบบเด็กยกชาอะไรอย่างงี้

หรือว่ารับใช้ใกล้ชิด โตไปในอนาคต

จะได้มีหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้าค่ะ

ดังนั้น ขุนศรีวิชัยนะคะ พ่อของขุนช้างเนี่ย

ก็เลยตัดสินใจพาลูกน้อยของตัวเองค่ะ

ขี่ช้างเข้ากรุงศรีอยุธยานะคะ

ขี่จากเมืองสุพรรณมาค่ะ

ไม่ได้ไกลขนาดนั้นเนอะ

ไปที่กรุงศรีอยุธยานะคะ

แล้วก็พาเจ้าช้างเนี่ยไปเข้าเฝ้าค่ะ

เมื่อไปเข้าเฝ้าพระพันวษา พระพันวษาก็มีความแบบ

เอ้า ขุนศรีวิชัย มานี่มา ๆ ๆ ไหนพาใครมาเนี่ย

อู้ย ไอ้เด็กหัวล้านนี่ใคร หน้าตาน่าเกลียดจังเลย นะคะ

ขุนช้างก็โดนบุลลี่ไปอีกหนึ่งดอกนะ

แต่อย่างไรก็ตาม ขุนศรีวิชัยก็บอกค่ะ บอกว่า

อ๋อ นี่ลูกกระหม่อมเอง ชื่อว่าช้าง

หน้าตามันก็น่าเกลียดแบบนี้แหละ

แต่ว่า ตั้งแต่เกิดมานะ กระหม่อมเนี่ยรวยเอารวยเอา

อู้ย ก็คือไม่รู้เหมือนกันนะ

มันน่าจะมีดวงอะไรบางอย่างมาเกิดแหละ

วันนี้ก็จะพามาถวายตัว

คำว่า ถวายตัว สมัยก่อนไม่ได้ใช้
แค่กับเหตุการณ์เหตุการณ์เดียวนะคะ

คำว่า ถวายตัว สมัยก่อนใช้กับ

การถวายตัวเป็นข้ารับใช้ก็ได้เช่นกันเนอะ

ไม่ได้ถวายแบบนั้นนะจ๊ะ

ไม่ใช่แบบสุริโยทัยแบบนั้น ไม่ใช่ค่ะ

หลังจากที่พาไปถวายตัวเนี่ยนะคะ

พระพันวษาค่ะ ก็บอกว่า

เอ้อ ก็ดีที่พามารู้จักมักจี่กัน

แต่ว่าเจ้าช้างมันยังเด็กเกินไป

ยังเอาไปใช้งานอะไรไม่ได้

เจ้าพากลับไปก่อน ฝากเลี้ยงไว้ก่อน

เดี๋ยวถึงเวลาเมื่อไหร่ ค่อยเอามารับราชการกับข้าเนอะ

แต่ว่าจะว่าไปนะ เห็นหน้าเจ้านี่นึกถึงเมืองสุพรรณเลย

คือข้าก็เบื่ออยู่ในเมืองมานานแล้ว

เหมือนแบบกักตัวอยู่ในเมืองอะ อยากไปเที่ยวนะคะ

ทำยังไงดีนะ ข้าเนี่ยได้ข่าวมาว่า

แถวเมืองสุพรรณเนี่ยมีควายเต็มไปหมดเลย

เป็นควายป่านะ ข้าอยากไปล่าสัตว์

เอาอย่างนี้ ฝากไปที่เมืองสุพรรณหน่อย

ไปบอกไอ้ขุนไกรเพื่อนเจ้าน่ะ บอกว่า

ช่วยไปต้อนควายป่ามารวมกันหน่อย

เดี๋ยวอีก 5 วันนะ ข้าจะไปล่าควาย

เออ เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ

เอาล่ะ ขุนศรีวิชัย ไป ๆ กลับไปได้แล้ว

อีก 5 วันเจอกัน นะคะ

ว่าแล้วพระพันวษานะคะ

ก็ไปจัดของ เตรียมตัวเตรียมคนอะไรต่าง ๆ ค่ะ ประมาณว่าแบบ

ในที่สุด ฉันก็จะได้ไปเที่ยวล่าควายแล้ว

หลังจากที่ฉันเบื่ออยู่ในเมืองหลวงมานานแสนนาน

นี่มันเป็นกิจกรรมที่ฉันรอคอยที่สุดในชีวิตเลย นะคะ

ซึ่งฝั่งขุนศรีวิชัยค่ะ ก็รีบกลับไปที่เมืองสุพรรณนะคะ

แล้วก็ไปแจ้งให้ขุนไกรทราบค่ะ

ขุนไกรนะคะ ก็มีการเตรียมตัวค่ะ ประมาณว่า

เอ้อ วิธีการล่าควายสมัยก่อนเนี่ย คือมันไม่ใช่ว่า

พระพันวษาไปถึง หยิบหอกหยิบดาบนะคะ หยิบธนู

แล้วเข้าไปในป่าแล้วไปล่าควาย

อันนั้นจะลำบากไปนิดนึงนะคะ

พระพันวษาไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น คือก็ชิวกว่านั้น

วิธีการล่าควายสมัยก่อนค่ะ

คือเขาจะทำรั้วขึ้นมา เป็นคอกอะนะ

ทำคอกเอาไว้ แล้วก็ตั้งพลับพลาที่ประทับเอาไว้นะคะ

ให้อยู่ใกล้ ๆ คอกค่ะ

เสร็จปุ๊บ เขาก็จะไปไล่ควายป่ามานะคะ

จากในป่า ก็ไล่ ๆ ๆ ๆ ออกมา

ให้เข้ามาอยู่ในคอกนี้ ขังเอาไว้

เพื่อที่ว่าจะได้ให้พระพันวษาเนี่ย

สามารถขี่ม้าหรือขี่อะไรเข้าไปในคอก

แล้วก็ไปไล่ฆ่า ๆ ๆ ควายได้อย่างสนุกสนานนะคะ

ซึ่งอีเวนต์ทั้งหมดนี้จะไม่ได้เกิดในเมืองนะคะ แต่ว่าจะเกิดในป่า

คือเหมือนกับว่าเขาต้องไปเตรียมพื้นที่ในป่าไว้ ว่าอย่างนั้นเถอะ

เป็นป่าที่แบบใกล้เมืองนิดนึงนะคะ

ขุนไกรนะคะ ก็เลยเตรียมตัวจะเดินทางออกไปอยู่ป่าค่ะ

เพื่อที่จะไปเตรียมตัวไล่ควายอะไรต่าง ๆ

คือมันก็ต้องไปค้างเนอะ ไม่ใช่ไปเช้าเย็นกลับ ๆ

ปรากฏว่าคืนก่อนไปค่ะ เกิดลางบอกเหตุอะไรเยอะมากนะคะ

ขุนไกรนอนแล้วก็แบบว่า

โอ๊ย นี่มันขนล้งขนลุกไปหมด ใจคอไม่ดีเลย

แมงมุมที่อยู่ข้างฝานะ ก็ตีอกชกหัวต่าง ๆ

ทำท่าประมาณอย่างนี้

อื้อหือ ดูท่าละแบบ อื๊อ น่ากลัวจริง ๆ เลย

ท่าทางจะเป็นลางไม่ดี ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นนะ

เท่านั้นยังไม่พอค่ะ

คืนนั้นนางทองประศรีนะคะ เมียของขุนไกรค่ะ

ก็นอนฝันอยู่ แล้วก็แบบตกใจตื่นขึ้นมานะคะ

กลัวหัวใจแบบเต้นตุ้บ ๆ ๆ ๆ

ถามว่าฝันว่าอะไร

ฝันว่าฟันตัวเองนะคะ กระเด็นหลุดออกมาจากปากค่ะ

ก็ตื่นขึ้นมาแล้วก็แบบ

ขุนไกร ๆ น้องเนี่ยฝันว่าแบบนี้ ทำนายฝันให้น้องหน่อย

ขุนไกรนะคะ ได้ยินอย่างนั้น ทำนายฝันออกมาก็แบบ

อุตายแล้ว นี่มันฝันร้าย

เวลาฝันว่าฟันหักฟันหลุดออกมาเนี่ย

มันแปลว่าจะมีคนใกล้ตัวที่เป็นผู้ใหญ่เนี่ยเสียชีวิตนะคะ

ดังนั้นค่ะ ขุนไกรก็กลัวว่าทองประศรีเนี่ยจะไม่สบายใจ

จะไม่ยอมให้ไปทำงาน

ก็เลยโกหกทองประศรีนะคะ บอกว่า

โอ๊ย ไม่เป็นไร ฝันว่าฟันหลุดเนี่ย

แปลว่าจะได้เงิน จะได้ทรัพย์

น้องไม่ต้องตกใจนะ ไป ๆ ๆ นอนต่อ ๆ ค่ะ

ปรากฏเช้านั้นตื่นมานะคะ ทุกคนก็แบบว่า

รู้สึกทุกอย่างอึมครึม ลางบอกเหตุมาเต็ม

ทองประศรี ขนล้งขนลุกต่าง ๆ

แถมที่สำคัญ ก่อนขุนไกรจะเดินทางออกไปเนี่ยนะคะ

ขุนไกรไม่ได้ออกไปเปล่าค่ะ

ปกติไปทำงานก็แค่แบบ

บาย ๆ ลูก ไปทำงานแล้วนะ บาย ๆ เมีย ไปทำงานแล้วนะ

วันนี้ขุนไกรค่ะ บอกลาทุกอย่างแบบละเอียดยิบเลย ประมาณว่า

ทองประศรี เจ้าอยู่เนี่ยก็ดูแลลูกให้ดีนะ

พี่จะไม่อยู่ ดูแลลูกให้โตขึ้นมาเป็นคนดี

เอาว่าถ้าสมมติว่าลูกโตแล้ว

ก็อย่าลืมสั่งสอนวิทยาการอะไรต่าง ๆ

เจ้าก็เป็นผู้หญิงที่อ่านหนังสือออก ถือว่าเก่งแล้ว

อย่าลืมสอนหนังสือลูกนะ

อย่าลืมเอาไปฝากคนนั้น ฝากคนนี้

เอ้าลูก พลายแก้ว

พลายแก้วอยู่ดี ๆ นะ อยู่เป็นเพื่อนแม่

ก็ขอให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนดี

ก็เรียกได้ว่า สั่งเสียผิดปกติค่ะ

ทองประศรีก็แบบ ทำไมถึงสั่งเสียอะไรอย่างนี้

นี่มันผิดปกติมาก ๆ เลย ใจคอไม่ดีเลยนะคะ

แต่สุดท้ายค่ะ ขุนไกรก็กลั้นใจนะคะ

แล้วก็เดินทางออกไปทำงานค่ะ

ก็ พอจะรู้ตัวเองแล้วแหละ ว่าวันนี้ถึงฆาตแน่นอนนะคะ

ไปถึงนะคะ ก็ถึงเวลาที่พระพันวษากำลังจะเสด็จมาพอดีค่ะ

ดังนั้นค่ะ ขุนไกรก็เลยทำหน้าที่นะคะ

ให้คนเข้าไปในป่าค่ะ ไปไล่ควายป่าออกมาเนอะ

ก็ไล่ ๆ ๆ ๆ ออกมา

วิธีไล่นะคะ ก็คือเอาคนไปเยอะ ๆ เนี่ย แล้วก็ไปตะโกน ๆ ว่า

เฮ้ย ๆ ๆ ควาย ไล่ควาย ๆ ๆ ประมาณนี้นะคะ

ประมาณว่า ให้ออกมาจากป่ากันค่ะ

ส่วนตะโกนไล่อย่างเดียวเนี่ย

บางทีควายมันก็ไม่ออกนะ

ดังนั้นก็ต้องมีการจุดไฟเผาป่าด้วยนะคะ

ซึ่งก็เป็นการกระทำที่ไม่ดีเลยนะคะ

อันนี้อาจจะเป็นบาปกรรม

ที่ทำให้ขุนไกรเนี่ยได้รับโทษในภายหลังเนอะ

ขุนไกรก็มีการสั่งให้บ่าวไพร่ค่ะ จุดไฟไล่เผาป่า ๆ ๆ

พวกสัตว์ป่านะคะ ก็ตายกันเป็นเบือเลย

แต่ว่าพวกควายเนี่ยก็วิ่งเตลิดกันออกมาจากป่านะคะ

อารมณ์คล้าย ๆ ใครเคยดู Lion King

จะเห็นว่าควายเตลิดเนี่ยเป็นอะไรที่น่ากลัวมากนะ

ควายก็เตลิดกันเข้ามาค่ะ

เตลิดกันเข้ามาในคอกที่ขุนไกรเตรียมไว้นะคะ

บังเอิญตอนนั้นว่าพระพันวษาเนี่ยเสด็จมาแล้ว

เสด็จมาถึงพระพันวษาก็เห็นควายกำลังเตลิดเข้ามา

หนีไฟป่า ควายมันก็กำลังคึกแบบ

อื้อหือ อะดรีนาลีนพลุ่งพล่าน

เรียกได้ว่าน่ากลัวมาก ๆ นะคะ

พระพันวษาก็ตะโกนไปบอกว่า

เฮ้ย ไอ้ขุนไกร ทำอะไรเนี่ย ปล่อยให้บ่าวไพร่เป็นคนไล่ควาย

แกนี่อยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไร

ดังนั้นขุนไกรนะคะ ก็เลยขี่ม้าเข้าไปนะคะ

แล้วก็ไปช่วยไล่ควายด้วยค่ะ

ปรากฏว่าตอนนั้นควายเนี่ยมันกำลังคึกอยู่

มันก็คึกแบบ วิ่งวุ่นวายหน้าพลับพลา

แล้วก็ทำท่าว่าจะมาถล่มพลับพลานะคะ

ดังนั้นค่ะ ขุนไกรก็รู้สึกว่า

กลัวพระพันวษาเนี่ยจะเป็นอันตราย

ขุนไกรก็เลยขี่ม้าเข้าไปนะคะ แล้วก็ไปไล่ควายค่ะ

พอเห็นว่าควายคึกก็เลย

เอาหอกในมือเนี่ยนะแทงควายเข้าไป ฉึบ

ประมาณว่า แทงให้ตายไปเลย

จะได้ไม่อาละวาดไปโดนพระพันวษานะคะ

ปรากฏว่าแทงไปแทงมาค่ะ ควายตายไปประมาณ 100 ตัว

ส่วนควายที่เหลือนี่ก็กลัวขุนไกรนะคะ

ก็เลยเตลิดกลับเข้าป่าไปซะอย่างงั้น

สรุป ควายไม่เหลือค่ะ

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ พระพันวษาที่กำลังเตรียมตัวมาว่า

ฉันจะมาล่าควาย เห็นแต่ว่าขุนไกรเนี่ยล่าควายอยู่คนเดียว

แล้วก็ไล่ควายตัวอื่นเนี่ย เข้าป่าไปหมดเลย

พระพันวษาก็เลยโกรธนะคะ ประมานว่า

เฮ้ย ไอ้ขุนไกร นี่ทำอะไร

แกล้งฉันเหรอ กวนตีนเหรอ

ฉันเนี่ยตั้งใจจะมาล่าควายด้วยตัวของฉันเอง

แกมาแทงควายโชว์ฉันตายไปเป็นร้อยกว่าตัว

แล้วก็ไล่ควายของฉันที่ฉันกำลังจะมาล่าเนี่ยเข้าป่าไปหมดเลย

รู้ไหมฉันนอนฝันถึงการล่าควายมา 5 คืนแล้ว

ให้ฉันมาเที่ยวแล้วไม่มีอีเวนต์ให้ฉันทำ

ฉันเบื่อเข้าใจไหม

แกนี่มันกล้าจริง ๆ เลย

ดังนั้นนะคะ พระพันวษาก็เลย

สั่งประหารขุนไกรซะอย่างนั้นเลยนะคะ ประมาณว่า

ความผิดของแกเนี่ย สมควรตาย

แกจงตายไปซะเถอะ

ส่วนลูกเมียบ่าวไพร่ของแกเนี่ยนะ

ฉันจะริบเป็นของหลวงให้หมด

การริบเป็นของหลวงเนี่ยนะคะ ก็คือ

เอามาเป็นไพร่หลวง ว่าอย่างนั้น

มาเป็นไพร่ให้หลวงใช้งานนะคะ

พวกบ่าวไพร่ก็ไม่เป็นไรหรอก

แต่ว่าพวกผู้หญิงพวกเมียพวกลูกเนี่ยก็จะกลายเป็นแบบ

กลายเป็นไพร่อะ โดนลดตำแหน่งนะคะ

จากคนที่เป็นระดับเจ้าขุนมูลนายลงไปเป็นไพร่เนอะ

ดังนั้นก็ค่อนข้างจะเรื่องใหญ่ค่ะ

ฝั่งขุนไกรนะคะก็ตกใจค่ะ ประมาณว่า

อ้าวตายแล้ว ตาย ๆ ๆ ฉันต้องตายวันนี้นี่แหละ

สมกับที่ลางบอกเหตุบอกไว้เป๊ะเลยนะคะ

สุดท้ายขุนไกรทำอะไรไม่ได้ค่ะ

ก็เลยยกมือบอกเพชรฆาตบอกว่า

เออ ในเมื่อจะฆ่ากันแล้วก็ไม่ว่าอะไรนะ

แต่ว่าฆ่าแล้วช่วยไปแจ้งลูกเมียหน่อยว่า

ฉันเนี่ยตายอยู่ในป่า จะไม่ได้เห็นศพนะ

เพราะว่าโดนสั่งประหารก็ต้องโดนเสียบประจานใช่ไหมคะ

เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ขุนไกรก็แอบกระซิบเพื่อนคนนึง

เป็นตำแหน่งหลวงนะคะ อยู่แถวนั้นว่าแบบ

เฮ้ย เพื่อน ๆ แอบไปบอกเมียให้หน่อยว่า

ฉันเนี่ยโดนประหารอยู่ในป่า

แล้วเดี๋ยวจะโดนรีบราชบาตร

ทุกคนจะโดนริบเป็นของหลวง

ให้เมียเนี่ยหนีนะคะ

เพื่อนก็ตกปากรับคำอย่างดีค่ะ

สุดท้ายขุนไกรก็โดนประหารนะคะ

แล้วก็ตายไปกลางป่าค่ะ

ฝ่ายพระพันวษานะคะก็เที่ยวป่าต่อไปอีกหลายวันด้วยกันค่ะ

ตัดภาพมาที่เพื่อนนะคะ

เพื่อนก็รีบแอบบอกบ่าวไพร่ตัวเองนะคะ บอกว่า

เอาจดหมายไป รีบไปบอกทองประศรีนะว่า

กำลังจะโดนริบราชบาตร ให้หนีไปค่ะ

คนรับใช้นะคะก็รีบวิ่งไปค่ะ

เข้าไปที่เมืองสุพรรณแล้วก็ไปกระซิบบอกทองประศรีนะคะ

ฝั่งทองประศรีก็ตกใจ ทำอะไรไม่ถูกค่ะ

แต่ว่าบังเอิญว่าตอนนั้นนี่ก็เป็นตอนที่

ฝั่งกรรมการเมืองเนี่ยนะคะ ก็มาล้อมเรือนพอดีค่ะ

มาล้อมเอาไว้ประมาณว่า

เอาล่ะ ตอนนี้จริง ๆ มันก็ดึกแล้ว

จะไปค้นเรือนหาทรัพย์สมบัติอะไรตอนนี้ก็ไม่ทัน

เดี๋ยวไว้พรุ่งนี้ค่อยทำนะคะ

ทองประศรีเห็นอย่างนั้นค่ะ ก็ตกใจนะคะ

ผัวก็ตาย ลูกก็เล็ก โอ้ย ทำอะไรไม่ถูก

สุดท้ายทองประศรีค่ะ ก็เลยคว้าเงินได้ประมาณถุงสองถุงอะนะ

แล้วก็เอาใส่กระบุงค่ะ เอาผ้าเก่า ๆ ปิด ๆ เอาไว้

แล้วก็คว้าลูกนะคะ แล้วก็มุดบ้านตัวเอง

แอบหนีออกไปกลางดึกค่ะ

แล้วก็มุ่งหน้าไปที่เมืองกาญจนบุรีนะคะ

เพราะว่าจำได้ว่าญาติของขุนไกรเนี่ยอยู่ที่กาญจนบุรี

จะไปตั้งใจขอเขาอาศัยอยู่ค่ะ

ทองประศรีก็หนีไปด้วยความยากลำบากนะคะ

เรียกได้ว่าตลอดทางนี่ก็ลำบากสุด ๆ

ถ้าเราอ่านตัวบทเนี่ย

เราก็จะเห็นภาพทองประศรีที่ขึ้นไปนอนกลางต้นไม้

เพราะว่าเดินทางผ่านป่า กลัวว่าสิงสาราสัตว์จะมากิน

แต่ไปนอนบนต้นไม้ก็กลัวว่าลูกจะตกลงมาตาย

สุดท้ายก็เลยได้แต่เอาผ้าผืนเดียวที่มีเนี่ย

ผูกเอวลูกไว้นะคะ แล้วก็ผูกเอาไว้กับต้นไม้

กันว่าลูกนอนดิ้นตกลงมาจะได้ไม่ตายอะนะ

นอกจากนี้ก็นอนก็นอนไม่ได้ เพราะว่ามดกัดลูก

ลูกเคยเป็นคุณหนูนอนอยู่แต่ในเรือน

อาหารก็กินไม่ได้มีแต่ข้าวตากแห้งกับปลาแห้ง ลูกก็แบบ

แล้วแกงล่ะแม่ หนูกินข้าวเปล่าไม่ได้

หนูต้องกินกับแกง หนูกินไม่ลง

ทองประศรีก็แบบ ลูก พ่อตายแล้ว

ไม่เหลืออะไรแล้ว ลูกต้องกินไปให้ได้นะ

เท่านั้นยังไม่พอนะคะ

ระหว่างเดินทางผ่านเมืองเนี่ย พื้นมันก็ไม่ใช่ว่าจะดี

เดินไปสองคนนี้ อย่าลืมว่าเป็นผู้ดีมาก ๆ นะคะ

เดินไปเหยียบพื้นเท้าป่าก็แบบ

โอ๊ย เท้าแตก โอ๊ย เท้าพอง อะไรต่าง ๆ

สุดท้ายค่ะ พลายแก้วเนี่ยเดินไม่ไหวนะคะ

แม่ก็ต้องหยิบขึ้นมาอุ้ม ตัวเองก็จะเอาไม่รอดแล้ว

ก็ต้องอุ้มลูกไปด้วย

อุ้มบ้าง เอาใส่หลังบ้าง ขี่คอบ้าง เอาใส่เอวบ้าง

สุดท้ายแม่แบบ เดินไปเดินมา

อุ้มลูกอยู่ สะดุดล้มหน้าฟาดไปอีกที

เอาเป็นว่าทรมานสุด ๆ ค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม ทองประศรีนี่ก็เป็นสาวถึกมาก ๆ นะคะ

ก็เดินทางไปจนถึงกาญจนบุรีได้ค่ะ

แล้วก็ไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่นนะคะ

เริ่มจากรับจ้างอะไรต่าง ๆ

พวกญาติขุนไกรก็มีการสร้างบ้านให้อยู่

ก็รับจ้างทำนู่นทำนี่ไป เก็บเงินนิด ๆ ๆ

จนกระทั่งกลายมาเป็นคนที่มีมั่งมีอีกรอบนึงค่ะ

ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่กาญจนบุรีนะคะ

ตัดภาพไปที่เมืองสุพรรณบุรีค่ะ

ไม่นานหลังจากที่ขุนไกรตายไปนะคะ ปรากฏว่า

มีคนนึงค่ะ ชื่อว่าจันศรนะคะ

จันศรนี่เป็นโจรที่โหดเหี้ยมมาก ๆ ค่ะ

แล้วก็อยู่บริเวณเมืองสุพรรณบุรีนะ

อยู่ดี ๆ วันนึงก็คิดขึ้นมาได้ว่า

เอ้อ จะว่าไปเราเป็นโจรเราก็ควรจะไปปล้นนะ

ว่าแต่เราจะไปปล้นอะไรดี

มองไปมองมาในเมืองสุพรรณบุรี

ก็เห็นว่ามีบ้านนึงเนี่ย รวยมาก ๆ น่าสนใจมาก

นั่นก็คือ บ้านของขุนช้างนั่นเองนะคะ

ดังนั้นจันศรก็เลยตัดสินใจว่า

คืนนี้เราจะไปปล้นบ้านของขุนช้างกัน

มันเป็นคนดูแลช้าง มันรวย

ลูกของมันยิ่งทำให้มันรวยใหญ่เลย

เอ้า ทุกคน พร้อมจะไปปล้นบ้านขุนช้างกับเราไหม

ซึ่งทุกคนนะคะ ก็พร้อมค่ะ

ดังนั้นจันศรก็เลยพาบ่าวไพร่นะคะ

คืนนั้นบุกไปที่บ้านของขุนช้างค่ะ

ไปถึงก็เอามีดนะคะ ฟันประตูถล่มกันเข้าไป

เฮกันเข้าไปค่ะ

ซึ่งทำให้พ่อของขุนช้างเนี่ย ตกใจนะคะ

แล้วก็ตัดสินใจกระโดดหนีไปตั้งหลักค่ะ

ก็กระโดดหนีออกจากเรือน แล้วก็วิ่งออกจากเรือนไปนะคะ

ตัดภาพมาในบ้านค่ะ

ตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่คุมใช่ไหม

บ่าวไพร่ก็กระจัดกระจายกันไปหมด

พวกโจรก็ไปไล่ฟัน ไล่ขโมยของนะคะ

สุดท้ายโจรเนี่ยนะคะ

ก็จับได้นางเทพทองกับขุนช้างขึ้นมาค่ะ ประมาณว่า

เอาล่ะ พวกแกสองคน

บอกมาเดี๋ยวนี้ ทรัพย์สมบัติของแกนี่อยู่ที่ไหน

ถ้าไม่บอกนะ แกตาย

ตอนแรกนางเทพทองก็พยายามจะไม่บอกนะคะ

แต่ขุนช้างเนี่ยไหว้ค่ะ ประมาณว่า

โอ๊ย ลูกบอกหมดแล้ว อย่าไปทำอะไรแม่หนูเลยนะ

ขอร้องล่ะ บอกหมดแล้ว

ทรัพย์สมบัติอยู่ตรงนี้ ไปขนมาเถอะ

พวกโจรนะคะ ก็วิ่งกรูกันเข้าไปขนสมบัติออกมาค่ะ

เรียกได้ว่า สมบัติบ้านขุนช้างเนี่ยเยอะมากนะคะ

เยอะจนถึงขนาดที่ว่า

ขนออกมาไม่หมดอะว่าอย่างนั้นเถอะ

ขนไปก็กลิ้งตกตามทาง เยอะจนแบบ

เออ ตกไปก็ตก ไม่เก็บแล้ว นะคะ

ระดับนั้นเลย แล้วโจรก็มีความแบบสนุกสนาน

มีความกลั่นแกล้งเทพทอง

กลั่นแกล้งขุนช้างค่อนข้างหนัก ประมาณว่า

โอ๊ย ชิว ฉันปล้นบ้านได้แล้ว

อยากเห็นคนรำจังเลย

ไหน แกสองคนรำให้ฉันดูซิ

ถ้าแกไม่รำนะ ฉันจะเอาดาบจิ้มก้นแกเดี๋ยวนี้เลย นะคะ

เทพทองกับขุนช้างก็มีความรำไปรำมา

โจรนี่ก็มีความชมว่า โอ๊ย ขุนช้างรำสวยนะเนี่ย

แต่ว่าอีเทพทองนี่เอวแข็งไปหน่อย

จะรำให้เอวอ่อนกว่านี้ หรือจะให้ฉันเอามีดจิ้มฮะ

เทพทองนะคะ คราวนี้ก็เลยใส่สเต็ปเข้าไปแบบ

เหมือนเล่น TikTok อยู่เลย ประมาณนั้น

ทั้งสองคนก็รำไปรำมา

สุดท้ายนะคะ โจรเนี่ย พอปล้นเงินครบ

ขนสมบัติออกมาครบ ก็จับนางเทพทองกับขุนช้างเนี่ย

ตามเข้าป่าไปด้วยค่ะ

โดยที่ให้ตะโกนไปตลอดทางนะว่า

ทุกคนอย่าตามมาฉันเป็นตัวประกันอยู่

ถ้าตามมานะ มันจะฆ่าฉัน

ดังนั้นทุกคนก็ขนกันออกมานะคะ ขนกันออกมา ๆ

ปรากฏว่าพ่อของขุนช้างเนี่ยที่หนีออกไป

ขุนศรีวิชัยเนี่ยนะคะ

ไปรวบรวมชาวบ้านมาได้ค่ะ

แล้วก็ตั้งด่านสกัดเอาไว้นะ

ดังนั้นเมื่อไปถึงด่านนะคะ

โจรกับชาวบ้านก็มีการปะทะกันเกิดขึ้นค่ะ

เทพทองกับขุนช้างเนี่ย หนีมาได้นะคะ

ก็เลยหนีกลับบ้านไปค่ะ

ฝั่งพ่อของขุนช้างเนี่ยก็มีความสู้กับโจรนะคะ ก็สู้ไปสู้มา

ปรากฏว่าพ่อขุนช้างเนี่ยเก่งมาก

เป็นคนที่หนังเหนียวนะคะ คงกระพันชาตรี

โจรทำอะไรไม่ได้ค่ะ

แต่ว่ามีครั้งนึงเนี่ยเพลี้ยงพล้ำ ล้มลงไปนะคะ

โจรก็เลยรุมกันค่ะ จับเอาไว้ จับตัวไว้ได้

แต่ว่าจะฆ่ายังไงก็ฆ่าไม่ได้นะ

เอามีดฟันก็ฟันไม่เข้า เอาหอกแทงก็แทงไม่เข้า

สุดท้ายค่ะ โจรคิดได้ว่า

อ้อ จะว่าไปตอนนี้ตัวของพ่อขุนช้างเนี่ย

ก็มีรูอยู่รูนึงอยู่แล้วที่เราไม่จำเป็นจะต้องแทงเองนะ

ปกติถ้าจะแทงผิวหนังเนี่ยมันก็จะต้องแทงให้ทะลุเอง

แต่ว่าพ่อของขุนช้างมีอยู่รูนึงนี่หน่า

เอาอย่างนี้แล้วกัน ไปหาหลาวมาซิ

หลาวก็คือไม้นะคะ

ว่าแล้วค่ะ โจรก็เอาหลาวเนี่ย

จิ้มเข้าไปที่ก้นของขุนศรีวิชัย พ่อของขุนช้างเนี่ยนะ

จิ้มเข้าไปในรู แล้วก็ทะลุ ออกมาเลยนะคะ

สุดท้ายขุนศรีวิชัย พ่อขุนช้างก็เลย ตาย

ด้วยเหตุการณ์โดนเอาหลาวแทงก้น

แล้วก็ปักเอาไว้กลางป่านะคะ

ฝั่งโจรก็ขนทรัพย์สมบัติ แล้วก็หนีไปค่ะ

ในเวลารุ่งเช้าเนี่ยนะคะ

นางเทพทองกับลูกค่ะ ก็ออกมาตามหาผัวนะ

ก็ตามไปตามมา สุดท้ายก็มาเจอ
ศพของขุนศรีวิชัยโดนแทงตายอยู่กลางป่า

นางเทพทองก็ร้องห่มร้องไห้นะคะ ประมาณว่า

โถ เวรกรรมอะไรเนี่ย

ชาติที่แล้วไปปิ้งปลาเหรอ

หรือว่าทำไก่ย่างถึงมาโดนเสียบตายแบบนี้

สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้

ก็เลยได้แต่ขนศพเนี่ยไปทำพิธีทางศาสนานะคะ

ส่วนทรัพย์สมบัติเนี่ยต้องบอกว่ามีเยอะมากจริง ๆ ถึงขนาดที่ว่า

ที่พวกโจรทิ้งไว้ตามทางเนี่ย

เก็บ ๆ ๆ ๆ กลับมาแล้วก็ยังมีเยอะอยู่ดีนะคะ

ดังนั้น นางเทพทองกับขุนช้างก็เลย

จำเป็นจะต้องใช้ชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ ค่ะ

และแล้วนะคะ เราก็มาถึงบ้านสุดท้าย

ก็คือบ้านของนางพิมพิลาไลย นางเอกนั่นเองนะ

พันศรโยธาค่ะ พ่อของนางพิมพิลาไลย
นี่ก็ตายตามคนอื่นเขาไปเหมือนกัน

แต่ว่าอาจจะตายไม่ได้แอดวานซ์

เท่าพ่อของพลายแก้วกับพ่อของขุนช้างเนอะ

เพราะว่าพันศรโยธาเนี่ยไปค้าขายนะคะ ที่เมืองละว้าค่ะ

แล้วก็เหมือนติดไข้ ติดโรคอะไรสักอย่างเนี่ยกลับมา

แล้วก็มาถึงบ้านก็นอนแบะอยู่ ป่วยพะงาบ ๆ นะคะ

สุดท้ายวันนึงค่ะ อยู่ดี ๆ ก็ฟื้นขึ้นมาเหมือนกับว่าหายแล้ว

แล้วก็เรียกเอาพวกแบบว่า

ของกินน่ากลัว ๆ เนี่ยมากินเต็มไปหมดเลยนะคะ

ยัด ๆ ๆ ๆ เข้าไป

พอยัดลงไปเสร็จก็หงายหลังตาเหลือก

แล้วก็ตายไปเลยนะคะ

สุดท้ายค่ะ พ่อของนางพิมก็ตายไปอีกคนนึง

ดังนั้นนะคะ ตอนนี้เราเหลือแค่สองครอบครัว

อยู่ที่เมืองสุพรรณ ก็คือ

ครอบครัวของขุนช้างและแม่

และนางพิมและแม่นะคะ

แม่ของขุนช้างกับแม่ของนางพิมเนี่ย ก็มีการคุยกันว่า

เออ ไหน ๆ ผัวเราก็ตายแล้ว

เรามาร่วมมือกันจัดพิธีทางศาสนาขึ้นเถอะ

ทั้งคู่ก็เลยจัดงานศพให้ผัวโดยพร้อมเพรียงกันนะคะ

แล้วก็เผาผัวจากไป

หลังจากนั้นทุกคนก็ใช้ชีวิตกันอย่างนั้นต่อมาเรื่อย ๆ ค่ะ

พลายแก้วกับแม่ก็อยู่ที่กาญจนบุรี

ส่วนขุนช้างและแม่ และนางพิมและแม่

ก็อาศัยอยู่ที่เมืองสุพรรณต่อมาเรื่อย ๆ ค่ะ

เดี๋ยวเรามาดูที่สัปดาห์หน้าดีกว่าว่า

หลังจากที่เด็ก 3 ครอบครัวนี้เติบโตขึ้นมาแล้วนะคะ

จะใช้ชีวิตยังไง เป็นยังไงต่อ

แล้วเรื่องราวจะสนุกขนาดไหนค่ะ

แต่สำหรับวันนี้ลาไปก่อนละกันนะคะทุกคน

ใครชื่นชอบคลิปนี้อย่าลืมกด Like เป็นกำลังใจให้วิว

และก็กด Share เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาดูด้วยกันค่ะ

บาย ๆ สวัสดีค่ะ

เผลอตัวอีกแล้วค่ะวันนี้

พูดเร็วมากเลยใช่ไหม เร็วไปรึเปล่านะคะ

ถ้าสมมติว่ารู้สึกว่าวันนี้พูดเร็วไปเนี่ย

คอมเมนต์บอกวิวมาด้านล่างได้นะคะ

แต่ถ้ารู้สึกว่า เฮ้ย เร็วแบบนี้แซ่บแล้ว ฉันชอบมาจ้า

ก็ ก็ขอบคุณนะคะทุกคน

วันนี้ลาไปก่อนแล้วกันค่ะ บาย ๆ สวัสดีค่ะ