-
"สรรพสิ่งมีความน่าพิศวงของมัน แม้แต่ความมืดและความเงียบ"
-
"สรรพสิ่งมีความน่าพิศวงของมัน แม้แต่ความมืดและความเงียบ"
เฮเลน เคลเลอร์
-
อนาคตจะเป็นแบบไหน
-
จักรวาลจะมีจุดจบอย่างไร
-
เราอาจจะไม่มีวันเข้าใจเลยก็ได้
-
แต่วิทยาศาสตร์ได้เริ่มวาดภาพที่สุดแสนจะบรรยายในอนาคต ว่าจะออกเป็นเช่นไร
-
เราจะออกเดินทางไปถึงจุดจบของเวลา
-
เราจะเดินทางผ่านเวลาแบบทวีคูณ
เพิ่มความเร็วเป็นสองเท่าทุก ๆ 5 วินาที
-
ภาพในอนาคตจะพัฒนาไปตามหลักฐานและทฤษฎีที่เรามี
และก็มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนแล้ว
-
จักรวาลแค่เพิ่งเริ่มต้น..
-
[ยุคแอนโทรโพซีน]
-
ยุคของโฮโลซีนก็จบลงแล้ว สิ่งที่เราทำตอนนี้และอีกหลายปีข้างหน้า จะส่งผลอย่างรุนแรงในไม่กี่พันปีข้างหน้า
-
สภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบันและรู้จัก
กำลังเปลี่ยนไป และเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
-
ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ตลอดไปบนโลกใบนี้
ทุก ๆ อย่าง เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
-
โลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงกับบางสิ่งเหล่านี้
-
และคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
-
[การสลับของสนามแม่เหล็กโลก]
และคุณไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง
-
โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
-
[การกลับมาของ ดาวหาง เฮล-บอปป์]
-
[ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนือง]
-
สิ่งต่าง ๆ บนโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ไม่มีสิ่งใดคงเดิม
[ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนือง]
-
ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป
[การพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยขนาด 30 เมตร]
-
[ดาวแอนทาเรสกลายเป็นซูเปอร์โนวา]
-
[ทะเลทรายซาฮาร่า กลายเป็นแผ่นดินเขตร้อน]
-
[กลุ่มดาวเริ่มเปลี่ยนตำแหน่ง]
-
[ยานวอยเอจเจอร์ 1 ผ่านดาวฤกษ์ใกล้เคียง]
-
[จุดสิ้นสุดของยุคน้ำแข็งขั้วโลก]
-
[การปะทุของภูเขาไฟยักษ์]
-
[เกาะฮาวายใหม่ปรากฏขึ้น]
-
[เกาะใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ]
-
[รอยเท้าอะพอลโลได้จางหายไป]
-
[ดาวบีเทลจุสกลายเป็นซูเปอร์โนวา]
-
[อนุสรณ์สถานทั้งหมดถูกกัดเซาะ]
-
[การระเบิดของรังสีแกมมา]
-
[ดวงจันทร์รอบดาวอังคาร กลายเป็นวงแหวน]
-
[วงแหวนของดาวเสาร์หายไป]
-
[การละลายของทวีปแอนตาร์กติกา]
-
[การพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อยครั้งใหญ่]
-
[มหาทวีปใหม่]
-
[ดวงอาทิตย์สว่างขึ้น]
-
เมื่อเชื้อเพลิงเริ่มหมดลง
[ดวงอาทิตย์สว่างขึ้น]
-
เมื่อเชื้อเพลิงเริ่มหมดลง
[การสังเคราะห์ด้วยแสงเริ่มหยุดลง]
-
ดวงอาทิตย์ไม่เพียงแค่หายไปเฉย ๆ
[การสังเคราะห์ด้วยแสงเริ่มหยุดลง]
-
ดวงอาทิตย์ไม่เพียงแค่หายไปเฉย ๆ
[พืชทุกชนิดตายหมด]
-
[พืชทุกชนิดตายหมด]
-
[น้ำในมหาสมุทรระเหยหายไป]
-
แกนกลางจะยุบตัวลง และความร้อนที่เพิ่มขึ้นนี้
ทำให้พื้นผิวชั้นนอกเกิดการขยายตัว
-
[ทุกชีวิตตายหมด]
-
[ดวงอาทิตย์ขยายตัว]
-
[ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวยักษ์แดง]
-
[โลกถูกทำลายโดยดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตาย]
-
[ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวแคระขาว]
-
และดวงอาทิตย์… ก็ดับลง…
[ดวงอาทิตย์กลายเป็นดาวแคระขาว]
-
และค่อย ๆ เย็นตัวลงอย่างช้า ๆ
ในอุณหภูมิเยือกเย็นของห้วงอวกาศ
-
ชะตากรรมของดวงอาทิตย์ก็เหมือนกับดาวดวงอื่น ๆ
-
วันหนึ่ง สุดท้ายพวกมันก็ต้องดับลง
และจักรวาลก็จะตกอยู่ในความมืดมิดตลอดกาล…
-
ในที่สุดเชื้อเพลิงของดาวทุกดวงก็จะหมดลง
[ดวงดาวเริ่มดับลง]
-
อุณหภูมิของจักรวาลลดลง
ดาวบนฟ้าจะค่อย ๆ หายไป . . ทีละดวง . . .
-
และจะไม่มีดาวฤกษ์เกิดใหม่อีก
-
และจักรวาลจะไม่จบลงด้วยการระเบิด
แต่ด้วย… ความเงียบสงัด
-
[ดาวแคระแดงดวงสุดท้ายตาย]
-
และไม่ใช่ในไฟ... แต่ในความเยือกเย็น...
[ดาวแคระแดงดวงสุดท้ายตาย]
-
[ยุคเสื่อมโทรม]
-
เมื่อดาวฤกษ์ดวงสุดท้ายดับลง
ยุคของแสงสว่างจากดวงดาว ก็มาถึงจุดจบ
-
จักรวาลกลายเป็นสุสาน
ที่เต็มไปด้วยซากของดาวที่ตายแล้ว
-
ดวงอาทิตย์ของเรากลายเป็นดาวแคระขาว
ที่ร้อนและหนาแน่น เป็นซากที่หดตัวของดาวฤกษ์
-
เมื่อไม่มีเชื้อเพลิงเหลือให้เผาไหม้แล้ว
ดาวแคระขาวจะเปล่งแค่แสงสลัว ๆ
-
นั้นมาจากแหล่งความร้อนที่ยังเหลืออยู่ในที่เตาที่มอดแล้ว
-
ถ้ามองมันจากบนโลกในตอนนี้แล้ว
-
แสงที่เปล่งออกมา นั้นเทียบเท่ากับแสง
ของพระจันทร์เต็มดวง ในคืนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง
-
แสงที่ริบหรี่จากดาวแคระขาว
จะเป็นเพียงแสงเดียวที่ส่องสว่างในความมืดมิดและว่างเปล่า
-
ท่ามกลางซากของดาวฤกษ์ และหลุมดำ
-
ในบางมุม มันราวกับกับ จักรวาลผี ที่มีแต่ซากดาวฤกษ์
ดาวซอมบี้ และพวกนี้จะพาเราไปสู่อนาคตต่อไป
-
พอเวลาผ่านไป แรงโน้มถ่วงก็ผลักดาวที่ตายแล้วออกไปจากดาราจักรที่เคยอยู่
-
ไปสู่ห้วงอวกาศ . . ที่ว่างเปล่าและเยือกเย็น . . .
-
มีโอกาส ที่ดาวแคระน้ำตาลสองดวงชนกัน
และสร้างดาวฤกษ์ดวงใหม่โดยบังเอิญ
-
การชนกันของดาวนิวตรอน จะขจัดความมืด
ด้วยแสงซูเปอร์โนวาที่สว่างจ้า
-
การชนกันของดาวนิวตรอน จะขจัดความมืด
ด้วยแสงซูเปอร์โนวาที่สว่างจ้า
[การชนกันของดาวนิวตรอน]
-
[การชนกันของดาวนิวตรอน]
-
[ยุคเสื่อมโทรม]
-
รูปแบบชีวิตใด ๆ ก็ตามที่ยังอยู่รอด
อาจใช้ดาวแคระขาวเป็นที่อยู่อาศัย
-
พอนานไป แม้แต่ดาวแคระห์ขาวเองก็ค่อย ๆ
สลัวลงและดับไปในที่สุด…
-
[ดาวฤกษ์กลายเป็นดาวแคระดำ]
-
ดาวแคระดำจะเป็นชะตากรรมสุดท้าย
ของดาวกลุ่มสุดท้าย
[ดาวฤกษ์กลายเป็นดาวแคระดำ]
-
เป็นดาวแคระขาวที่มีอุณหภูมิต่ำมาก
จนแทบจะไม่แผ่ความร้อนหรือเปล่งแสงออกมาเลย
-
ดาวแคระดำนั้นมืดมิด หนาแน่น
เหมือนลูกบอลของสสารที่กำลังเสื่อม
-
เป็นเพียงแค่เศษซากของดวงดาว
-
อะตอมถูกบีบอัดอย่างรุนแรง
-
ทำให้ดาวแคระดำหนาแน่นกว่า
ดวงอาทิตย์เป็นล้านเท่า
-
ดาวฤกษ์ใช้เวลานานมาก กว่าจะมาถึงจุดนี้
-
เราเชื่อว่า ยังไม่มีดาวแคระดำในจักรวาลตอนนี้
-
วัตถุใดที่ไม่สามารถหนีออกจากดาราจักรได้
จะถูกดูดเข้าไปสู่หลุมดำที่ใจกลาง
-
[หลุมดำดูดกลืนทุกสสารในอวกาศ]
-
หลุมดำเงียบ ๆ ก็จะลุกเป็นไฟโชติช่วง
(จากการดูดกลืนสสาร)
-
[ยุคเสื่อมโทรม]
-
พลังงานการหมุนของหลุมดำจะกลายเป็นแหล่งพลังงาน
สุดท้ายที่ใช้ได้สำหรับอารยธรรมใด ๆ ที่ไม่ธรรมดาในอนาคต
-
เรามีวิถีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับพลังงานที่มีให้ใช้ในตอนนี้
-
คุณสามารถจินตนาการถึงการมีชีวิต บนระบบความมีสติ ที่ทำให้เราก้าวไปอย่างแตกต่าง และนั่น
-
ทำให้สามารถยืดอายุออกไปได้
อย่างน้อยก็มากกว่าที่คุณจะจินตนาการได้
-
คุณอาจจะมีระบบของสิ่งมีชีวิต
-
ที่มีความคิดทุก ๆ 10 ล้านล้านปี
ก็จะดูเป็นเรื่องปกติไปเลย
-
แม้ชีวิตของเราจะตายไปหมดแล้ว ก็ลองจินตนาการดูว่า
-
ช่วงเวลาหนึ่งในอนาคตอันไกลโพ้น
-
มีความผันผวนเกิดขึ้น
และทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาขึ้นอีกครั้งสักช่วงเวลาหนึ่ง
-
ดังนั้นคุณอาจจะมีช่วงเวลาของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา
-
[การขยายตัวของเอกภพ]
-
เมื่อการขยายตัวของเอกภพเร็วขึ้น
วัตถุก็เริ่มแยกสสารออกจากกันเร็วยิ่งกว่าแสง
-
พอถึงจุดนี้ ดาราจักรและดวงดาวกำลังถ่อยห่างกันอย่างรวดเร็วจนแสงเองยังส่องกันไม่ถึง
-
และความลับของจักรวาลก็ได้ถูกปิดตายไปตลอดกาล
-
ในทฤษฎีปัจจุบันคาดว่า อะตอมมันเองจะเริ่มสลายไป และทำลายสสารที่เหลืออยู่ในจักรวาลทั้งหมด
-
[การสลายตัวของโปรตอน]
-
โปรตอน หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของอะตอม
สิ่งที่สร้างตัวเราขึ้นมา
[การสลายตัวของโปรตอน]
-
นั้นสามารถที่จะแตกสลายไปเฉย ๆ
-
วัตถุใด ๆ ที่ไม่ได้ถูกหลุมดำดูดเข้าไป
-
ก็จะสลายไปเองจากการแตกสลายของโปรตอน
-
ทฤษฎีการสลายตัวของโปรตอน ยังไม่ได้รับการพิสูจน์
และดังนั้นถ้าเกิดการค้นพบใหม่ขึ้นมาในบทอนาคตนี้อาจจะดูแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
-
สสารที่เหลืออยู่ในดาวแคระดำนี้ เป็นสสารสุดท้ายในเอกภพ
-
และสสารสุดท้ายที่อยู่ในเอกภพนี้
-
ในที่สุดก็จะระเหยไป และแผ่ออกไปในความว่างเปล่าด้วยการแผ่รังสี
-
ไม่หลงเหลืออะไรไว้อีกเลย
-
[ยุคของหลุมดำ]
-
ในเมื่อดาวแคระดำก็หายไปหมดแล้ว ก็คงไม่มีอะตอมสักอันหรือสสารหลงเหลืออีกแล้ว
-
ทั้งหมดที่จะยังคงอยู่ในจักรวาลที่เคยเต็มไปด้วยสสาร
จะเป็นอนุภาคของแสงและหลุมดำ
-
ยุคของหลุมดำได้เริ่มขึ้น
-
ไม่มีดาวเคราะห์ ไม่มีดวงดาว ไม่มีสถานที่สำหรับสิ่งมีชีวิต
-
ถึงกระนั้น เวลาก็แค่เพิ่งจะเริ่มเดิน
-
ในช่วงเวลาที่เป็นอยู่ของมนุษย์ จักรวาลแค่กำลังกำเนิดขึ้น
-
เย็น มืด และว่างเปล่า
นี่คือสิ่งที่จักรวาลใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ช่วงนี้
-
จักรวาลให้ชีวิตเราแค่เพียงช่วงหนึ่ง
ช่วงที่พักของเวลา เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและจบลงอย่างเยือกเย็น
-
เส้นทางของเวลา ได้สร้างหน้าต่างที่สดใส
ในช่วงวัยรุ่นของจักรวาล
-
ในช่วงของสิ่งมีชีวิตที่มีความเป็นไปได้
-
แต่หน้าต่างเวลานั้นไม่ได้เปิดไว้นานนัก
-
เป็นแค่เศษส่วนหนึ่งของช่วงอายุจักรวาล
ที่วัดจากจุดเริ่มต้นไปยัง
การระเหยของหลุมดำสุดท้าย
-
ชีวิต ที่เรารับรู้ได้ มีความเป็นไปได้เพียงแค่
-
หนึ่งในพันส่วน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
-
หนึ่งในพันส่วน ของพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้านพันล้าน
ของเปอร์เซ็นต์
-
หลุมดำกลายเป็นโครงสร้างหลักของจักรวาลจักรวาล
-
ดาราจักรกลายเป็นหลุมดำมวลยิ่งยวดอยู่ตรงกลาง กับมีหลุมดำขนาดเล็กกว่าโคจรอยู่รอบ ๆ
-
ดาราจักรซอมบี้ที่เต็มไปด้วยหลุมดำ ขยายขนาดขึ้นเรื่อย ๆ
-
เหล่าหลุมดำกลืนกินกันเอง และมีขนาดใหญ่ขึ้น และอาจจะถูกหลุมดำมวลยิ่งยวดกลืนกินอีกที ทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้นไปอีก
-
จักรวาลจะยังตื่นเต้น เคลื่อนที่ต่อไป
-
มันแบบว่า ช่วงเวลาที่กำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้อยู่ในระดับหลายล้านล้านปี
แทนที่จะแค่หลักพันหรือสิบล้านปี
-
[การรวมกันของหลุมดำ]
-
ในช่วงเวลาระดับนี้
การรวมกันของหลุมดำคือเหตุการณ์หลัก
-
บางหลุมมีขนาดมโหฬาร
มวลหลักล้านล้านเท่าของดวงอาทิตย์ก็เป็นไปได้เช่นกัน
-
เมื่อหลุมดำรวมกัน ก็จะส่งคลื่นแรงโน้มถ่วงสั่นสะเทือนไปทั่วจักรวาล
-
หลุมดำสามารถสั่นสะเทือนปริภูมิ-เวลาคล้ายกับการตีกลอง
-
และมีเอกลักษณ์ในเพลงเป็นของตัวเอง
-
ลองนึกภาพหลุมดำสองหลุม
ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมานาน
-
ในช่วงท้ายชีวิตของหลุมดำทั้งสองหลุม โคจรรอบกัน
ด้วยความเร็วหลายพันกิโลเมตรในเสี้ยววินาที
-
ขณะที่โคจรรอบกัน ก็ได้หลงเหลือเสียงเพลงในอวกาศไว้ นั่นก็คือคลื่นบนปริภูมิ-เวลา
-
อวกาศถูกหดและยืดออกไปจากหลุมดำสองหลุมที่โคจรรอบกันในจักรวาล
-
นั่นก็คือคลื่นแรงโน้มถ่วง
และนี่ก็คือเสียงจริง ๆ ของอวกาศกำลังสั่นไหว
-
และคลื่นจากหลุมดำสองหลุมนี้จะเดินทางออกไปด้วยความเร็วแสง จนกระทั่งค่อย ๆ เบาลงและรวมตัวกันเป็นหนึ่ง หลุมดำที่หมุนอย่างเงียบ ๆ
-
ถ้าคุณเข้าไปยืนใกล้มากพอแล้วละก็
-
หูคุณคงจะดังก้องไปกับการยืดและหดตัวของอวกาศ
-
คุณจะได้ยินเสียงจริง ๆ
-
ลองนึกภาพหลุมดำที่มีมวลน้อย กำลังถูกดูดกลืน
โดยหลุมดำที่มีมวลมาก
-
เสียงที่คุณได้ยินเป็นเสียงจากหลุมดำที่เบากว่า
และส่งเสียงในอวกาศทุกครั้งที่มันเข้าใกล้ขึ้น
-
ยิ่งเข้าใกล้มากขึ้น ก็ยิ่งเร็วขึ้น และดังขึ้นเรื่อย ๆ
-
นักวิทยาศาสตร์เคยคิดว่า
หลุมดำไม่มีวันตาย
-
แต่แม้สุดท้ายหลุมดำก็ต้องตาย
-
ตอนนี้เรากำลังพูดถึงสเกลเวลาที่มีความยาวจนไม่สามารถจินตนาการได้
ราวล้านล้านล้านล้านปีในอนาคต
-
ในเวลานานขนาดนี้ แม้แต่หลุมดำก็ยังระเหยหายไป
-
[การแผ่รังสีฮอว์กิง]
-
ตามทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัมแล้ว
อวกาศนั้นเต็มไปด้วยอนุภาคเสมือน
-
ทั้งอนุภาคและปฏิอนุภาค เกิดขึ้นเป็นคู่อยู่เรื่อย ๆ
-
แยกจากกัน เข้าหากันอีก แล้วก็ทำลายล้างกัน
-
พอมีหลุมดำเข้ามาด้วย
-
หนึ่งในอนุภาคเสมือนคู่นี้อาจจะโดนหลุมดำดูดเข้าไป
-
ปล่อยให้อีกอนุภาคนึงไม่มีคู่ให้ทำลายล้างกัน
-
อนุภาคที่ถูกเข้าไปก็ถูกปล่อยออกมาเป็นรังสีจากหลุมดำ
-
และดังนั้น หลุมดำไม่ได้อยู่ตลอดไป
-
[การระเหยของหลุมดำ]
-
หลุมดำระเหยด้วยอัตราเร่งขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งระเบิดออกอย่างรุนแรง
-
[หลุมดำเริ่มตาย]
-
ทฤษฎีควอนตัมอนญาตให้อนุภาคและรังสีหนีออกมาจากคุกขั้นสูงสุดนี้ได้ ก็คือหลุมดำ
-
หลุมดำเริ่มระเหยหายไป
ลบล้างโครงสร้างขนาดใหญ่ของจักรวาล
-
ขณะที่หลุมดำตายลง ก็จุดแสงจ้าในความมืดจุดหนึ่ง หนึ่งต่อหนึ่ง
-
ขณะที่หลุมดำเริ่มตายลงอย่างช้า ๆ
จักรวาลก็ขยายตัวต่อไป ด้วยแรงที่เรายังไม่สามารถเข้าใจได้
[พลังงานมืดทำให้จักรวาลขยายตัว]
-
นี่คือขอบเขตความรู้ของมนุษย์
ขอบเขตแห่งการสำรวจและการค้นพบ
-
นักปรัชญาและกวี เคยถามไว้ว่า
"โลกจะจบลงด้วยไฟหรือน้ำแข็ง"
-
ในตอนนี้เราก็ให้คำตอบได้แล้ว
-
หลักฐานล่าสุดบ่งชี้ว่าจักรวาลนั้นไม่ได้ขยายตัวช้าลง แต่ขยายตัวเร็วขึ้นจนควบคุมไม่ได้
-
จักรวาลที่เราคิด จะตายลงด้วยความเยือกแข็ง ภายในเวลาหลายล้านล้านปีจากนี้
-
ความว่างเปล่าของอวกาศนั้นมีพลังงานอยู่
-
ในทุก ๆ ลูกบาศก์เซนติเมตรของอวกาศ จะมีหรือไม่ก็ตาม แต่จะมีสิ่งหนึ่งอยู่เสมอ
-
จะมีหรือไม่ ก็จะมีอนุภาค สสาร รังสี อะไรก็เถอะ
-
คือยังมีพลังงาน แม้ในอวกาศเองก็ตาม
-
และพลังงานนี้ ตามที่ไอน์สไตน์บอก
สิ่งนี้ออกแรงผลักดันจักรวาลออกไป
-
แล้วสิ่งแปลก ๆ ที่กำลังเร่งจักรวาลอยู่คืออะไร?
เราเรียกมันว่า "พลังงานมืด"
-
และพลังงานมืดครอบงำจักรวาลส่วนใหญ่
-
ราว 3/4 ส่วนของสสาร-พลังงานในจักรวาลนั้นประกอบไปด้วยพลังงานมืด
-
และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร
-
ในขณะที่จักรวาลขยายตัว พลังงานมืด ไม่เหมือนสสารหรือรังสี ไม่หายไปไหนเลย
-
นี่ทำให้เกิดผลกระทบกับจักรวาลว่าจะเป็นยังไงในอนาคต
-
แล้ว อนาคตของจักรวาลคืออะไรล่ะ
-
ก็ถ้าพลังงานมืดยังคงครอบงำอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ
-
จักรวาลจะขยายตัวไปตลอดกาล
-
เร็วขึ้น เร็วขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้นตามกาลเวลา
มันคือจักรวาลที่ขยายหนีออกไป
-
70% ของพลังงานของจักรวาลพักอยู่ในอวกาศที่ว่างเปล่า
และเรา… ไม่เข้าใจ… ว่าทำไม…
-
แต่เราก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
-
ถ้าพลังงานยังคงอยู่แบบนั้น จักรวาลจะเยือกเย็น มืดมิด และว่างเปล่า
-
นั่นก็คืออนาคตที่มันอาจจะเป็น
-
เราไม่เข้าใจ เพราะเรายังไม่เข้าใจธรรมชาติของพลังงานมืด
-
จนวันหนึ่งเรารู้ เราก็คงจะไม่รู้อนาคต เราไม่เข้าใจแม้กระทั่งต้นกำเนิดของเราเอง
-
และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากรู้ และเรียนรู้เรื่องนี้
-
การค้นพบพลังงานมืด สามารถเปลี่ยนมุมมองในอนาคตของเราได้อย่างน่าทึ่ง
-
ถ้าพลังงานมืดอ่อนแรงลงตามเวลา
จักรวาลจะยุบตัวภายใต้แรงโน้มถ่วง เรียกว่า "บิ๊กครันช์"
-
ถ้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
จักรวาลจะแตกตัวออกจากกัน เรียกว่า "บิ๊กริป"
-
[ยุคของหลุมดำ]
-
นักฟิสิกส์เริ่มครุ่นคิดเอาแนวคิดที่ว่า จักรวาลนั้นยังมีอีกหลายจักรวาลนอกจากจักรวาลของเรา
ซึ่งแต่ละจักรวาลมีกฎฟิสิกส์ที่ไม่เหมือนกัน
-
บางส่วนอาจจะเหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิต
ที่เหลือจะยุบตัวลง หรือแยกออกจากกัน
-
นอกจากนี้ยังสามารถแปลกประหลาดไปได้อีกเกินจินตนาการของเรา
-
ปริศนาใหม่นี้อาจจะอยู่ที่ไหนสักที่
รอการค้นพบต่อไป
-
การคาดเดาดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่
ยิ่งว่าเย็น ยิ่งกว่าจักรวาลที่ว่างเปล่า
-
แต่แล้ว ก็แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องถามว่า
"จุดจบสามารถนำไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ได้ไหม?"
-
ก็มีอยู่หลายไอเดีย ด้วยเหตุนั้น อะไรคือจุดจบของจักรวาล
ในบางทีอาจจะสามารถทำให้เกิดจุดเริ่มต้นใหม่ขึ้นมาได้
-
การคาดเดานี้อาจจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะหลบหนีจากจักรวาลของเรา ก่อนที่เอนโทรปี จะลบทุกสิ่ง
-
เราสามารถสร้าง การจำลองจักรวาล ด้วยพลังงานที่มากพอ และสร้างจักรวาลเหมือน ๆ กันกับเรา
-
เราได้ศึกษากับตัวเลขคณิตศาสตร์ สูตรต่าง ๆ ตัวเลขนี้เหมือนจะบอกเราว่า
-
ถ้าคุณมีเครื่องเร่งอนุภาคที่สามารถสร้างพลังงานมหาศาลได้จุด ๆ หนึ่ง
-
บางทีคุณสามารถเปิดประตูไปสู่ "จักรวาลทารก" ได้
-
เผชิญหน้ากับความตายของทุกสิ่ง บางที สิ่งนี้เท่านั้นที่เราสามารถหนีออกไปได้
-
และนี่ก็ทำให้เกิดความเป็นไปได้ที่น่าสนใจเช่นกัน จากการคาดเดาล้วน ๆ นั่นล่ะนะ
-
บางทีจักรวาลไหนก็ตามที่มีสิ่งชีวิตทรงภูมิปัญญาอาศัยอยู่
-
ได้สร้างจักรวาลทารกขึ้นมา สร้างเรือช่วยชีวิต และขยายไปยังจักรวาลเด็ก ๆ พวกนี้
-
[การระเหยของหลุมดำหลุมสุดท้าย]
-
ดังนั้นการวิวัฒนาการจึงเกิดขึ้นในหมู่
เอกภพอื่น ๆ ในพหุภพนั้น
-
การเอาชีวิตรอดในที่ที่เหมาะสมจึงเกิดขึ้น
-
ดังนั้นพวกจักรวาลที่ไม่มีสิ่งชีวิตทรงภูมิปัญญาก็คือจักรวาลที่ไม่สมบูรณ์
เป็นจักรวาลที่ไม่มีลูก
-
แต่จักรวาลเหล่านั้นที่มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ มีดาวเหมือนกับเรา ๆ
-
อาจจะสร้างอาณาจักรที่สามารถเปิดจักรวาลทารกและพวกเขาอาจจะขยายตัวออกไป
-
ถ้าไม่มีทางหนีจากจักรวาลแล้ว เอนโทรปีจะคืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ
ทำลายหลุมดำมวลยิ่งยวดหลุมสุดท้าย
-
หลังจากหลุมสุดท้ายได้ระเบิดและตายลง
หลุมดำนี้จะส่องแสงออกไปยังจักรวาลเป็นครั้งสุดท้าย
-
หลังจากเวลาที่ผ่านไปนานจนไม่รู้ว่านานขนาดไหน แม้แต่หลุมดำยังระเหยออกไปจนหมด
-
สุดท้าย จักรวาลก็จะเหลือความว่างเปล่ากับทะเลที่เต็มไปด้วยโฟตอน
-
ค่อย ๆ เข้าสู่อุณหภูมิเดียวกัน ไปกับการขยายตัวของจักรวาล
ที่กำลังเย็นตัวลงไปสู่ศูนย์องศาสมบูรณ์
-
ครั้งสุดท้ายที่เหลืออยู่ของดาวดวงสุดท้าย
ในที่สุดก็สลายตัวไปจนไม่เหลืออะไร
-
และทุกสิ่งได้เข้าสู่อุณหภูมิเดียวกันแล้ว
-
เรื่องราวของจักรวาล . . . ก็ได้มาถึงจุดจบเสียที . . .
-
"เวลากลายเป็นสิ่งที่ไร้ความหมาย"
-
เป็นครั้งแรกที่ชีวิตของจักรวาลนั้น จะคงอยู่ไปตลอดกาล และไม่เปลี่ยนไปอีกแล้ว
-
ความไร้ระเบียบก็ได้สิ้นสุดลง
เพราะจักรวาลไม่สามารถมีความไร้ระเบียบได้อีก
-
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น . . .
-
และจะคงอยู่แบบนั้น . . .
-
. . . ตลอดไป . . .
-
สรรพสิ่งมีความน่าพิศวงของมัน แม้แต่ความมืดและความเงียบ
และฉันเรียนรู้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด ก็พึงพอใจในจุดนั้น
-
เฮเลน เคลเลอร์
-
สร้างขึ้นโดย เมโลดี้ชีฟ
-
สนับสนุนโดย
โปรโตคอล แล็ป
-
คำบรรยายโดย
Lovkiy, Sharpnel Sharonel และอีกหลายคนบน Youtube ซึ่งไม่ได้เอ่ยชื่อ