-
ก่อนจะมีการเซลฟี่เป็นครั้งแรก
-
ชาวกรีกและโรมันโบราณมีตำนาน
-
เกี่ยวกับคนคนหนึ่งที่ออกจะลุ่มหลง
กับภาพพจน์ของตัวเอง
-
ในเรื่องเล่าหนึ่ง
-
นาซิซัสเป็นชายหนุ่มรูปงาม
ที่เดินทางไปทั่วโลกเพื่อจะหาคนรัก
-
หลังจากปฏิเสธนางไม้นามว่า เอคโค
-
เขาเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในแม่น้ำ
-
และตกหลุมรักหัวปักหัวปำ
-
นาซิซัสไม่อาจละจากภาพของตนเองได้
-
และจมน้ำตายในที่สุด
-
มีดอกไม้ที่ขึ้นตรงบริเวณที่เขาตายนั้น
และเราก็เรียกมันว่า นาซิซัส
-
ตำนานได้จับแนวคิดหลักของการหลงตัวเอง
-
การนึกถึงตัวเองที่เยอะเกินไป
และบางทีก็ก่อให้เกิดอันตราย
-
แต่มันไม่ได้เป็นแค่บุคลิกอย่างหนึ่ง
ที่ต้องได้รับการแนะนำ
-
อันที่จริงแล้ว มันเป็นกลุ่มของลักษณะ
ที่ถูกจัดจำแนกและศึกษาโดยนักจิตวิทยา
-
นักจิตวิทยานิยามการหลงตัวเอง
ว่าเป็นอาการเพ้อหลงผิดคิดตนเขื่อง
-
พวกที่หลงตัวเองในระดับต่าง ๆ
คิดว่าพวกเขาดูดีกว่า
-
ฉลาดกว่า
-
และมีความสำคัญมากกว่าคนอื่น
-
และนั่นทำให้พวกเขาเชื่อว่า
พวกเขาสมควรได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
-
นักจิตวิทยาจัดการหลงตัวเองสองรูปแบบ
เป็นลักษณะบุคลิก
-
การหลงตัวเองที่คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่
และพวกที่ไม่มั่นคง
-
ยังมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ
เกี่ยวกับการหลงตัวเอง
-
ในรูปแบบที่รุนแรงกว่านี้
-
การหลงคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่
เป็นรูปแบบที่เรารู้จักกันดี
-
ที่มีลักษณะคือ ชอบเข้าสังคม
-
ทำตัวเด่น
-
และเรียกร้องความสนใจ
-
พวกหลงตัวเองแบบคิดว่าตนยิ่งใหญ่
ต้องการความสนใจและอำนาจ
-
บางครั้งก็แบบนักการเมือง
-
คนมีชื่อเสียง
-
หรือผู้นำทางสังคม
-
แต่ล่ะ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่แสดงหา
ตำแหน่งที่มีอำนาจเหล่านั้น จะเป็นคนหลงตัวเอง
-
หลายคนทำไปเพราะเหตุผลที่ดี
-
เช่นการเติมเต็มศักยภาพของตัวเอง
-
หรือช่วยเหลือให้ชีวิตของคนอื่นดีขึ้น
-
แต่พวกที่หลงตัวเองมองหาอำนาจ
-
เพื่อสถานะและความเป็นที่สนใจ
ที่จะได้มาพร้อมกับตำแหน่งนั้น
-
ในขณะเดียวกัน พวกหลงตัวเองที่ไม่มั่นคง
อาจเงียบและเก็บตัว
-
พวกเขารู้ถึงสิทธิเป็นอย่างดี
-
แต่ถูกข่มขู่และทำให้น้อยใจได้โดยง่าย
-
ในทั้งสองกรณ๊ ด้านมืดของการหลงตัวเอง
แสดงออกมาในช่วงเวลาที่ยาวนาน
-
พวกที่หลงตัวเองมักแสดงอาการเห็นแก่ตัว
-
ฉะนั้นผู้นำที่หลงตัวเองอาจทำการตัดสินใจ
ที่เสี่ยงหรือไม่ถูกทำนองคลองธรรม
-
และคู่ชีวิตที่หลงตัวเอง
อาจไม่ซื่อสัตย์และซื่อตรง
-
เมื่อภาพพจน์อันแสนหวานของพวกเขา
ถูกท้าทาย
-
พวกเขาจะไม่พอใจและก้าวร้าว
-
มันเหมือนกับโรคที่ผู้ป่วยรู้สึกดี
-
แต่คนที่อยู่รอบ ๆ เป็นทุกข์
-
ในแบบที่รุนแรง
-
พฤติกรรมนี้ถูกจัดว่า
เป็นความผิดปกติทางจิต
-
ที่เรียกว่าความผิดปกติในบุคลิกภาพ
แบบหลงตัวเอง
-
มันส่งผลต่อคนในกลุ่มประชากร
หนึ่งถึงสองเปอร์เซ็นต์
-
มักเกิดกับผู้ชาย
-
มันยังตรวจพบได้แต่ในผู้ใหญ่
-
คนหนุ่มสาว โดยเฉพาะเด็ก ๆ
อาจจะอยากให้เป็นจุดสนใจ
-
แต่นั่นอาจเป็นแค่ส่วนหนึ่ง
ของการพัฒนาตามปกติ
-
คู่มือการวินิจฉัยและสถิติ
-
ฉบับที่ห้าของสมาคมจิตเวชอเมริกัน
-
อธิบายลักษณะความผิดปกติทางบุคลิก
ที่เกี่ยวกับการหลงตัวเองบางอย่างไว้
-
นั่นรวมถึงความเห็นตัวเองยิ่งใหญ่
-
ปัญหาเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจคนอื่น
-
การรู้ถึงสิทธิของตน
-
และความต้องการ
การได้รับการชื่นชมและความสนใจ
-
สิ่งที่ทำให้ลักษณะเหล่านี้
เป็นความผิดปกติทางบุคลิก
-
คือพวกมันครอบงำชีวิตของคน
และทำให้เกิดปัญหาที่มีนัยสำคัญ
-
ลองนึกดูว่า แทนที่จะใส่ใจ
คู่ชีวิตหรือลูก ๆ ของคุณ
-
คุณใช้พวกเขาเป็นเครื่องมือหาความสนใจ
หรือการยอมรับ
-
หรือลองคิดถึงว่าแทนที่จะเป็นว่า
-
คุณยอมรับการวิจารณ์ที่เชื่อถือได้
ที่เกี่ยวกับการทำงานของคุณ
-
กลายเป็นคนบอกทุกคนที่อยากจะช่วยคุณ
-
ว่าพวกเขาน่ะผิดแล้ว
-
แล้วสาเหตุของการหลงตัวเองคืออะไร
-
การศึกษาฝาแฝดแสดงว่ามันเกี่ยวกับยีน
-
แม้ว่าเรายังไม่รู้ว่ายีนไหนที่เกี่ยวข้อง
-
แต่สิ่งแวดล้อมก็สำคัญเช่นกัน
-
พ่อแม่ที่ไม่ยอมให้ลูกติดดิน
-
อาจเลี้ยงลูกเขาให้เป็นคนหลงตัวเองได้
-
และพ่อแม่ที่บังคับควบคุมอย่างเข้มงวด
ก็อาจทำให้ลูกเกิดความไม่มั่นคงได้
-
การหลงตัวเองเหมือนว่าจะมากขึ้น
-
ในวัฒนธรรมที่ให้คุณค่ากับบุคลิกภาพ
และการยกยอตัวตน
-
ตัวอย่างเช่น ในประเทศสหรัฐฯ
-
การหลงตัวเองที่เป็นลักษณะทางบุคลิก
เพิ่มขึ้นตั้งแต่ยุค 1970
-
เมื่อแรงผลักดันจากสังคมในยุค 60
-
ทำให้เกิดกระแสความเชื่อมั่นในตัวเอง
-
และการเพิ่มขึ้นในวัตถุนิยม
-
เร็ว ๆ นี้ สื่อสังคมออนไลน์โอกาส
ในการยกยอตัวเองเป็นร้อยเท่าพันทวี
-
แต่ที่น่าสนใจก็คือ
-
มันยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน
ว่าสื่อสังคมออนไลน์ทำให้เกิดการหลงตัวเอง
-
มันน่าจะเป็นสือให้พวกที่หลงตัวเอง มองหา
สถานะทางสังคมและความสนใจมากกว่า
-
แล้วคนที่หลงตัวเองจะปรับเปลี่ยน
ลักษณะเชิงลบของพวกเขาได้หรือไม่
-
ได้สิ
-
อะไรก็ตามที่ส่งเสริมการสะท้อนความซื่อสัตย์
ของพฤติกรรมตนเอง
-
และการใส่ใจคนอื่น
-
เช่นการบำบัดทางจิต หรือการฝึกความเห็นใจ
ต่อคนอื่น อาจเป็นประโยชน์
-
ความยากก็คือมันอาจท้าทาย
-
สำหรับคนที่มีความผิดปกติทางบุคลิก
แบบหลงตัวเอง
-
ที่จะทำพฤติกรรมด้านดีนั้นอย่างสม่ำเสมอ
-
สำหรับคนหลงตัวเอง การแสดงตัวตน
เป็นเรื่องยาก จากแง่มุมที่ไม่มีการประจบประแจง