-
สวัสดีค่ะ
-
หลายคนคิดว่าสวรรค์มี 7 ชั้น
-
เพราะว่าไปติดกับเพลงทั้งหลายที่เราคุ้นเคยกัน
-
รู้ไหมคะว่าสวรรค์ชั้น 7 เป็นคำเปรียบเปรย
-
ว่ามีความสุขเหนือสวรรค์ทั้งหลายทั้งแหล่
-
เพราะว่าจริงๆ แล้วสวรรค์มีแค่
-
6 ชั้น !! ค่ะ
-
วันนี้ก็เลยจะมาอธิบายเรื่องสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นให้ฟังกัน
-
ไปฟังกันเลยดีกว่าค่ะ
-
ข้อมูลที่จะเอามาเล่าในวันนี้นะคะ
-
มาจากคติความเชื่อไตรภูมิ ซึ่งถ้าใครที่ติดตามคลิปบ่อยๆ
-
จะรู้อยู่แล้วว่าคติความเชื่อไตรภูมิเนี่ยหลากหลาย
-
ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อของไตรภูมิในศาสนาพุทธ
-
ความเชื่อของไตรภูมิในศาสนาพราหมณ์ ฮินดู
-
ในคัมภีร์ย่อยๆของแต่ละศาสนา
-
ก็ไม่เหมือนกันอีก
-
ดังนั้นเราจะต้องมีอ้างอิงเล่มเดียว
-
บอกก่อนเลยนะคะว่าวันนี้
-
สิ่งที่อ้างอิงคือเล่มนี้ค่ะ
-
ไตรภูมิพระร่วง
-
ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นนึงของความเชื่อไตรภูมิ
-
ถ้าอ่านจากคติความเชื่อไตรภูมิฉบับอื่น
-
อาจจะไม่ตรงกันบ้าง ในบางส่วนที่เป็น
-
รายละเอียดเล็กๆน้อยๆ
-
ก็ ลองฟังกันดูแล้วกันค่ะ
-
ก่อนที่จะไปพูดเรื่องสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น
-
ต้องพูดเรื่องเทวดาก่อน
-
คราวที่แล้วเราพูดกันไปแล้วค่ะ ว่าเทวดาเนี่ย
-
ถ้าเกิดที่ไหน อะไรยังไง จะไปเป็นอะไร
-
คราวนี้เราต้องมาอธิบายก่อน
-
ขึ้นชื่อว่าเทวดาเนี่ย
-
พอเราพูดถึงเทวดา
-
เราจะนึกถึงเทวดาประเภทเดียว
-
แต่จริงๆ แล้วเทวดามีถึง
-
3 ประเภทย่อยด้วยกันค่ะ
-
ก็คือ
-
หนึ่ง สมมติเทวดา
-
สอง อุปัตติเทวดา
-
สาม วิสุทธิเทวดา
-
ทีนี้พอเริ่มพูดอย่างนี้
-
หลายคนก็น่าจะเริ่มคุ้นๆ ศัพท์กันบ้าง
-
คือสมมติเทวดา หรือสมมติเทพที่เราคุ้นเคยกันนะคะ
-
หมายถึงเหล่ากษัตริย์ พระราชา
-
อะไรทั้งหลายทั้งแหล่
-
ซึ่งอยู่บนโลกมนุษย์
-
และเป็นคนที่มีทศพิธราชธรรม
-
เราจะถือว่าท่านเป็นสมมติเทพ
-
อันนี้คือเทวดาประเภทที่หนึ่ง
-
เทวดาประเภทที่สอง
-
อุปัตติเทวดาหรืออุบัติเทวดา
-
ก็คือ ผู้ที่เกิดมาเป็นเทวดา
-
อันนี้คือเทวดาตามความเชื่อแบบ
-
ตามที่เราเชื่อกัน คือเทวดาที่ลอยวิ้งๆ อยู่บนสวรรค์
-
อะไรทำนองนี้
-
อันนี้คืออุปัตติเทพ หรืออุปัตติเทวดา
-
อะไรทำนองนี้นะคะ
-
ส่วนประเภทที่สาม
-
ตามความเชื่อของไตรภูมิเนี่ยนะคะ
-
ก็คือวิสุทธิเทวดา
-
วิสุทธิเทวดานี่หมายถึง
-
พระพุทธเจ้า
-
แล้วก็ พระอรหันตสาวกทั้งหลายทั้งแหล่
-
ซึ่งเข้าสู่นิพพาน ก็จะถือว่าเป็นเทวดาที่
-
คือหลุดพ้นแล้วอะ อารมณ์นี้แหละ
-
คือเป็นเหล่าผู้ที่หลุดพ้นจากวัฏสงสาร
-
ทั้งหลายทั้งแหล่แล้ว
-
เราจะเรียกว่าวิสุทธิเทวดาค่ะ
-
พอเรารู้จักเทวดาทั้ง 3 ประเภทแล้ว
-
ทีนี้เรามาดูสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นกันดีกว่า
-
ว่าสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นเนี่ย มีชั้นอะไรบ้าง
-
แล้วแต่ละชั้นมีจุดเด่นอะไรยังไงนะคะ
-
เริ่มจากชั้นที่ใกล้กับโลกมนุษย์เราที่สุดก่อน
-
ก็คือ จาตุมหาราชิกา
-
จาตุมหาราชิกานี่เคยคุยกับพี่ฮ่องเต้ไปแล้ว
-
ถ้าใครเคยฟังคลิปเก่าๆนะคะ
-
ก็คือเป็นสวรรค์ของท้าวมหาราชทั้ง 4
-
หรือที่เรารู้จักกันในนาม
-
จตุโลกบาล
-
ก็คือเป็นผู้ที่ดูแลทิศต่างๆ 4 ทิศ
-
ได้แก่ทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก นั่นแหละ
-
ทีนี้นอกจากมีมหาราชทั้ง 4 แล้วเนี่ย
-
ชั้นนี้ยังมีอะไรเด่นอีก
-
ชั้นนี้เป็นที่อยู่ของพระอาทิตย์ พระจันทร์ และดาวค่ะ
-
นึกสภาพว่าพวกที่เราเห็นอยู่บนท้องฟ้า
-
โคจรให้มนุษย์เห็นเนี่ย เพราะมันใกล้โลกมนุษย์ใช่ไหม
-
อันนี้จะอยู่ในชั้นจาตุมหาราชิกา
-
คือต้องวาดแผนผังจักรวาลก่อน
-
แผนผังจักรวาลของไทยเนี่ย
-
ตรงแก่นกลางเป็นภูเขาพระสุเมรุ
-
ภูเขาพระสุเมรุชั้นแรก ชั้นล่างสุด
-
อันนี้เหมือนจะแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนยังไงชอบกล
-
แต่ว่านี่คือสวรรค์นะ
-
ชั้นล่างสุดเนี่ยนะคะ
-
รอบเขาพระสุเมรุเป็นจาตุมหาราชิกาใช่ไหม
-
แล้วก็มีพระจันทร์ พระอาทิตย์
-
วนๆ หมุนๆ กันอยู่ตรงนี้ โคจรอยู่รอบเขาพระสุเมรุ
-
ชั้นที่ 2 ค่ะ อยู่บนเหนือยอดเขาพระสุเมรุ
-
อันนี้เหมือนขอเวลานอก
-
เหมือนขอเวลานอกเล่นบาส จริงๆ ไม่ใช่
-
เหนือเขาพระสุเมรุ ก็คือชั้นดาวดึงษ์
-
ซึ่งเป็นชั้นที่โดดเด่นมาก
-
เราทุกคนคุ้นเคยกับสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์เป็นอย่างดี
-
เพราะว่าเป็นที่อยู่ของพระอินทร์
-
ซึ่งเราจะรู้สึกว่าเป็นเทพผู้เป็นใหญ่ที่สุด
-
เท่าที่เราเคยได้ยินมาแล้ว
-
เพราะว่าครอบครองสวรรค์ อะไรอย่างนี้
-
แต่จริงๆ แล้วเป็นเทพปกครองสวรรค์ชั้นที่ 2 เองนะ
-
ชั้นดาวดึงษ์เนี่ยนะคะก็จะมี
-
ปราสาทของพระอินทร์
-
เป็นปราสาทประทาน
-
ชื่อว่าปราสาทไพชยนต์
-
แล้วรอบๆ นั้นก็จะมีอุทยานทั้งหลายทั้งแหล่
-
ก็คือสวนนั่นแหละ มีสวนสวยๆ
-
มีบ่อน้งบ่อน้ำ
-
ให้สนุกสนานรื่นเริง
-
แล้วก็เมืองที่พระอินทร์ปกครองเนี่ย
-
สวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ใช่ไหม
-
เมืองชื่อเมืองเมืองไตรตรึงษ์
-
ก็ชื่อคล้ายๆ กันนั่นแหละค่ะ
-
ภายในเมืองก็จะเป็น
-
เมืองที่สนุกสนาน หลั่นล้า แฮปปี้ กระดี๊กระด๊ามาก
-
มีเสียงเพลงบรรเลงตลอดวัน อะไรทำนองนี้
-
ก็จะไม่ขอพูดถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์มาก
-
เพราะว่าเราน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว
-
เหนือจากสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ขึ้นไปค่ะ
-
ก็คือชั้นที่ 3 ได้แก่ชั้น ยามา นั่นเอง
-
ซึ่งชั้นยามาเนี่ยนะคะ จำที่เมื่อกี้พูดได้ไหม
-
ว่าพระอาทิตย์โคจรอยู่ชั้นแรก
-
เพราะฉะนั้นชั้นยามาเนี่ยอยู่เลยขึ้นไป
-
ถึง 2 ชั้นด้วยกัน
-
ดังนั้น แสงของพระอาทิตย์ไปไม่ถึงค่ะ
-
เทวดาในชั้นนี้เป็นเทวดาในชั้นที่
-
สูงกว่าพระอาทิตย์อีก
-
ดังนั้น ชั้นนี้จะเป็นชั้นที่มืดหมด
-
แล้วก็ไม่ได้รับแสงจากพระอาทิตย์
-
แล้วทีนี้มองอะไรเห็นได้ยังไง
-
เป็นสวรรค์มืดๆ มันจะแฮปปี้หรอ
-
หรือว่ามันเป็นนรก?
-
ไม่ใช่ค่ะ จริงๆ แล้ว
-
เทวดาในสวรรค์ชั้นนี้ มีออร่าในตัวเอง
-
คือเป็นแบบเทวดาวิ้งๆ มีแสงออร่าๆๆ
-
เพราะฉะนั้นเวลาเดินไปเดินมาก็จะเห็นทุกอย่าง
-
จากแสงของตัวเอง
-
แล้วก็แสงของเพชรนิลจินดา
-
ตามปราสาททั้งหลายทั้งแหล่ที่เขาอยู่ค่ะ
-
แล้วทีนี้อ่ะ
-
พอไม่มีพระอาทิตย์ ไม่มีพระจันทร์
-
จะรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้เป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน
-
คนสมัยโบราณก็คิดไว้ให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
-
คือในสวรรค์ชั้นยามาเนี่ย
-
มันจะมีดอกไม้ทิพย์อยู่เต็มไปหมดเลย
-
ทีนี้เวลาเทวดาอยากรู้ว่า
-
ตอนนี้เป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน
-
ก็เดินไปใกล้ๆ ดอกไม้แล้วดู
-
ถ้าดอกไม้มันบานอยู่แปลว่าตอนนั้นเป็นตอนกลางวัน
-
แต่ถ้าดอกไม้มันหุบ ก็คือตอนกลางคืน
-
เป็นความคิดสร้างสรรค์ของคนโบราณที่
-
คิดความเชื่อเรื่องไตรภูมิขึ้นมา
-
ก็มีความคิดอย่างละเอียด
-
อุดช่องโหว่อะไรเป็นอย่างดี
-
เหนือจากสวรรค์ชั้นยามา
-
ก็เป็นอีกชั้นหนึ่ง ซึ่ง
-
ค่อนข้างโด่งดัง เพราะเราจะได้ยินตามตำนานต่างๆ
-
เช่นพุทธประวัติ หรือเป็นชื่อโรงแรม
-
สวรรค์ชั้นนั้นก็คือ สวรรค์ชั้นที่ 4
-
ชั้นดุสิต นั่นเองค่ะ
-
สวรรค์ชั้นดุสิตนะคะเป็นที่อยู่ของพระโพธิสัตว์
-
ก็คือผู้ที่กำลังจะลงมาเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในสมัยต่อๆ ไป
-
ความเชื่อพุทธนี่ไม่ได้มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวนะ
-
คือเหมือนแต่ละสมัยก็จะมีพระพุทธเจ้าของตนเอง
-
คือพอศาสนาพุทธเสื่อม
-
สมัยหน้าก็จะมีพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป
-
ลงมาโปรดสัตว์อะไรอีก ทำนองนี้
-
สวรรค์ชั้นดุสิตจะเป็นที่อยู่ของพระโพธิสัตว์
-
ซึ่งกำลังจะลงมาเกิด
-
เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต
-
อย่างตอนนี้เขาก็จะเชื่อ
-
ตามความเชื่อไตรภูมิก็จะเชื่อว่า
-
พระศรีอาริย์ก็อยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิต ณ เวลานี้
-
ด้วยความที่
-
เป็นสวรรค์ของพระโพธิสัตว์นะคะ
-
สวรรค์ชั้นดุสิตก็เลยเป็นชั้นที่มีการเทศน์ตลอดเวลา
-
ก็แบบมีเทศน์นู่นเทศน์นี่
-
ใครอยากไปฟังเทศน์ก็ไปฟังได้ที่สวรรค์ชั้นดุสิต
-
เพื่อเติมบงเติมบุญอะไรก็ว่ากันไป
-
ถัดขึ้นไปจากสวรรค์ชั้นดุสิตค่ะ
-
ก็คือสวรรค์ที่มีชื่อว่า
-
นิมมานรดี
-
สวรรค์ชั้นนิมมานรดีเนี่ยนะคะ
-
เป็นสวรรค์ที่มีจุดเด่นคือ
-
เทวดาในสวรรค์ชั้นนี้อยากได้อะไร แค่นึกเท่านั้นแหละ
-
พอนึกปุ้บ ของสิ่งนั้นจะมาปรากฏ วิ้ง อยู่ตรงหน้าเลย
-
ก็ถือว่าเป็นลูกเล่นหนึ่งที่ทำให้คนอยากทำดีละกัน
-
เพราะว่า มันก็ทำให้ชีวิตสบายขึ้นเยอะ
-
ในการที่นึกอะไรแล้วทุกอย่างก็มาตรงหน้า
-
ซึ่งถ้าเป็นคนฟุ้งซ่านก็คงแย่หน่อย
-
แต่ว่าถ้าเป็นคนฟุ้งซ่าน
-
ก็คงไม่ได้ทำบงทำบุญ คิดดีอะไรถึงได้ขึ้นสวรรค์ชั้นนี้
-
แปลว่าก็คงไม่น่าจะมี
-
สวรรค์ชั้นที่สูงที่สุดใน 6 ชั้นเนี่ยนะคะ
-
ก็คือสวรรค์ที่มีชื่อยาวมากแหละ
-
ออกเสียงได้ลิ้นพันกันมาก
-
ได้แก่ชื่อว่า
-
ปรนิมมิตวสวัตตี ค่ะ
-
โอ้ยลิ้นพันกัน
-
คือลิ้นพันกันหนักมาก
-
เพิ่งรู้ตัวว่าออกเสียงคำนี้ไม่เป็น
-
ปกติเขียนอย่างเดียวไม่เคยพูด
-
สวรรค์ชั้นนี้เนี่ย
-
เขาถือว่าเป็นสวรรค์ชั้นที่ประเสริฐที่สุดใน 6 ชั้น
-
แล้วก็มี
-
ผู้ที่ดูแล
-
คือสวรรค์ชั้นที่ผ่านมาจะไม่ได้เอ่ยถึง
-
แต่ก็มีผู้เป็นใหญ่ดูแลเหมือนพระอินทร์
-
ก็เป็นแต่ละชื่อๆ ขึ้นมาทุกชั้น
-
แต่ว่าสวรรค์ชั้นนี้นะคะ ผู้ที่ดูแลมีถึง 2 คนด้วยกัน
-
คือมีฝ่ายเทวดากับฝ่ายมาร
-
เห้ยนี่คืออะไร หยินหยางหรือเปล่า
-
คือแบ่งเป็นฝ่ายเทวดา ได้แก่
-
ปรนิมมิตวสวัตตีเทวราช
-
กับอีกองค์หนึ่งเป็นฝ่ายมาร
-
ก็คือ พระยามาราธิราช
-
นี่ก็คือสวรรค์ทั้ง 6 ชั้นนะคะ
-
ก็หวังว่าจะได้ความรู้ไปบ้างเล็กๆ น้อยๆ
-
เป็นเกล็ดเล็กๆ น้อยๆ จากความเชื่อไตรภูมิ
-
ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจวรรณคดีมากขึ้น
-
เพราะว่าเวลาเราพูดถึงวรรณคดีอะไร
-
มันก็จะพูดถึงจักรวาล
-
เป็นความเข้าใจเรื่องจักรวาลวิทยาของไทยแล้วกันนะคะ
-
ก็ถ้าใครมีความเห็นอะไรยังไง
-
อยากแชร์ อยากแบ่งปัน
-
หรือว่าอยากเพิ่มเติม ช่วยเสริมอะไร
-
ก็คอมเมนต์บอกไว้ด้านล่างได้เลยค่ะ
-
ถ้าเกิดชอบคลิปนี้ยังไง อย่าลืม
-
กดไลก์แล้วก็กดแชร์ เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันนะคะ
-
นอกจากนี้วิวทำสติกเกอร์ไลน์ขายแล้ว
-
อย่าลืมอุดหนุนนะคะ จะดีใจมากๆ เลยค่าา
-
อยากดูคลิปใหม่ๆ ก่อนใคร อย่าลืมกด Subscribe
-
กด Subscribe แล้วด้านข้างมีกระดิ่งเล็กๆ อยู่
-
อย่าลืมกดเพื่อให้เตือนทุกครั้งเมื่อมีคลิปใหม่เลยค่ะ
-
อย่าลืมดูคลิปวีดีโอเก่าๆ ซึ่งขึ้นไว้ให้แถวนี้เต็มไปหมดเลย
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า
-
วันนี้ลาไปก่อนนะคะ บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ