แดน บาร์เบอร์: เมื่อผมตกหลุมรักปลา
-
0:01 - 0:05ในชีวิตของผมน่ะ รู้จักกับปลามามากมาย
-
0:05 - 0:08ผมเคยรักอยู่แค่สองตัว
-
0:08 - 0:10นี่ตัวแรก
-
0:10 - 0:13เหมือนชู้รักร้อนแรงมากกว่า
-
0:13 - 0:15มันเป็นปลาที่สวย
-
0:15 - 0:18มีรสชาติ ผิวพรรณดี และเนื้อเยอะ
-
0:18 - 0:20เป็นอาหารที่ขายดีที่สุดบนเมนู
-
0:20 - 0:22ปลาอะไรน่ารักจัง
-
0:22 - 0:25(เสียงหัวเราะ)
-
0:25 - 0:27ไม่ใช่แค่นั้น
-
0:27 - 0:30มันยังโตมาจากฟาร์มมาตรฐานสูงสุด
-
0:30 - 0:33ด้านความยั่งยืน
-
0:33 - 0:36ดังนั้น คุณจึงรู้สึกดีเวลาที่ค้าขายมัน
-
0:37 - 0:39ผมคบกับรูปงามตัวนี้
-
0:39 - 0:41หลายเดือน
-
0:43 - 0:45วันหนึ่ง หัวหน้าบริษัทโทรมา
-
0:45 - 0:47ถามว่าผมจะเป็นตัวแทนไปพูดที่งาน
-
0:47 - 0:49เกี่ยวกับการทำฟาร์มที่ยั่งยืนของบริษัทได้ไหม
-
0:49 - 0:51"แน่นอนครับ" ผมบอก
-
0:51 - 0:54นี่คือบริษัทที่พยายามแก้ปัญหา
-
0:54 - 0:57ที่พ่อครัวไม่เคยคิดถึง
-
0:58 - 1:01ทำอย่างไรจึงจะรักษาปลาไว้บนเมนูได้
-
1:02 - 1:05ตลอดเวลา 50 ปีที่ผ่านมา
-
1:05 - 1:07พวกเราจับปลาในทะเล
-
1:07 - 1:10เช่นเดียวกับการถางป่าจนโล่ง
-
1:10 - 1:13ยากที่จะพูดถึงความเสียหายให้เกินจริง
-
1:15 - 1:18ร้อยละ 90 ของปลาขนาดใหญ่ ปลาที่เรารัก
-
1:18 - 1:21ทูน่า ฮาลิบัต แซล์มมอน กระโทงแทงดาบ
-
1:21 - 1:23ระบบพังทลายไปแล้ว
-
1:23 - 1:26แทบจะไม่มีอะไรเหลือ
-
1:26 - 1:29ดังนั้น ไม่ว่ายังไงก็ตาม
-
1:29 - 1:32การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างการเพาะเลี้ยงปลา จึงเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตของเรา
-
1:32 - 1:34มีข้อโต้แย้งหลายอย่าง
-
1:34 - 1:37ฟาร์มปลาสร้างมลพิษ ซึ่งจริงสำหรับฟาร์มส่วนใหญ่
-
1:37 - 1:39และไม่มีประสิทธิภาพ ลองดูทูน่า
-
1:39 - 1:41จุดบกพร่องสำคัญ
-
1:41 - 1:43คืออัตราการแลกเนื้อ (feed conversion ratio)
-
1:43 - 1:4515 ต่อ 1
-
1:45 - 1:47ซึ่งหมายความว่า ต้องใช้ปลาตามธรรมชาติ 15 ปอนด์
-
1:47 - 1:50เพื่อเลี้ยงทูน่าฟาร์มให้ได้เนื้อ 1 ปอนด์
-
1:51 - 1:53ไม่ค่อยยั่งยืนเท่าไหร่
-
1:53 - 1:56ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ด้วย
-
1:56 - 1:58แล้วในที่สุด
-
1:58 - 2:00นี่คือบริษัทที่พยายามทำอย่างถูกวิธี
-
2:00 - 2:02ผมก็อยากสนับสนุนเขา
-
2:03 - 2:05วันก่อนวันงาน
-
2:05 - 2:08ผมโทรหาหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัท
-
2:08 - 2:11เรียกเขาว่าดอนแล้วกัน
-
2:12 - 2:15"ดอน" ผมว่า "ผมอยากจะเช็คหน่อย พวกคุณมีชื่อเสียง
-
2:15 - 2:18เรื่องการทำฟาร์มปลาที่ไกลจากฝั่ง ไม่ก่อมลพิษ"
-
2:18 - 2:21"ถูกต้อง" เขาตอบ "เราอยู่ไกลฝั่งมาก
-
2:21 - 2:24ของเสียจากปลาของเราถูกกระจายออกไป
-
2:24 - 2:26จนเจือจาง"
-
2:26 - 2:28แล้วเขาก็พูดต่อว่า
-
2:28 - 2:31"ฟาร์มเราน่ะ เหมือนเป็นโลกของตัวเอง
-
2:32 - 2:35อัตราการแลกเนื้อน่ะเหรอ 2.5 ต่อ 1" เขาบอก
-
2:35 - 2:37"ดีที่สุดในวงการธุรกิจนี้"
-
2:37 - 2:392.5 ต่อ 1 เยี่ยม
-
2:39 - 2:41"2.5 ต่อ 1 อะไร คุณเลี้ยงปลาด้วยอะไร"
-
2:41 - 2:44"โปรตีนยั่งยืน" เขาตอบ
-
2:44 - 2:47"เยี่ยมมาก" ผมบอก แล้ววางหูโทรศัพท์
-
2:47 - 2:50คืนนั้น ผมนอนคิดบนเตียง
-
2:50 - 2:52โปรตีนยั่งยืนนี่มันอะไรวะ
-
2:52 - 2:57(เสียงหัวเราะ)
-
2:57 - 2:59วันรุ่งขึ้น ก่อนงานจะเริ่ม ผมเลยโทรหาดอน
-
2:59 - 3:03"ดอน ยกตัวอย่างโปรตีนยั่งยืนให้ผมฟังหน่อย"
-
3:03 - 3:06เขาตอบว่าเขาไม่รู้ เขาจะไปหาคำตอบมาให้
-
3:06 - 3:08ผมก็เลยโทรหาคนในบริษัทอีกสองสามคน
-
3:08 - 3:11ไม่มีใครตอบคำถามผมตรงๆได้
-
3:11 - 3:14ในที่สุด ผมได้คุยโทรศัพท์
-
3:14 - 3:16กับหัวหน้านักชีววิทยา
-
3:16 - 3:18เรียกเขาว่าดอนด้วยแล้วกัน
-
3:18 - 3:22(เสียงหัวเราะ)
-
3:22 - 3:24"ดอน" ผมพูด
-
3:24 - 3:27"ยกตัวอย่างโปรตีนยั่งยืนให้ผมฟังหน่อย"
-
3:27 - 3:29เขากล่าวถึงสาหร่าย
-
3:29 - 3:31และอาหารปลาสำเร็จรูป (fish meal)
-
3:31 - 3:33แล้วเขาก็เอ่ยถึงไก่เม็ด
-
3:33 - 3:35ผมไม่เข้าใจ "ไก่เม็ดเหรอ"
-
3:35 - 3:37เขาตอบ "ใช่ ขน หนัง
-
3:37 - 3:39กระดูกป่น, เศษต่างๆ,
-
3:39 - 3:42ทำให้แห้ง แล้วผ่านกระบวนการทำให้เป็นอาหาร"
-
3:42 - 3:44ผมว่า "ร้อยละเท่าไหร่ของอาหารปลา
-
3:44 - 3:47เป็นอาหารที่ทำมาจากไก่"
-
3:47 - 3:50ผมคิดในใจว่า คงประมาณร้อยละสอง
-
3:50 - 3:53"ก็ประมาณร้อยละ 30" เขาตอบ
-
3:53 - 3:56ผมเลยบอกว่า "ดอน การเลี้ยงปลาด้วยเนื้อไก่เนี่ย
-
3:56 - 3:58มันยั่งยืนตรงไหน"
-
3:58 - 4:03(เสียงหัวเราะ)
-
4:03 - 4:06เขาเงียบไปนาน
-
4:06 - 4:09ในที่สุด เขาก็ตอบว่า "โลกนี้มีไก่มากเกินไป"
-
4:09 - 4:15(เสียงหัวเราะ)
-
4:15 - 4:17ผมเลิกรักปลาตัวนี้ไปเลย
-
4:17 - 4:19(เสียงหัวเราะ)
-
4:19 - 4:22เปล่า ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกถือทิฐิมานะ
-
4:22 - 4:24หรือเป็นผู้รู้ดีที่สุดด้านอาหาร
-
4:24 - 4:26ซึ่งจริงๆก็ใช่
-
4:26 - 4:28(เสียงหัวเราะ)
-
4:28 - 4:30เปล่า ผมเลิกรักปลาตัวนี้ เพราะผมสาบานเลย
-
4:30 - 4:33หลังจากที่คุยโทรศัพท์วันนั้น ปลารสชาติเหมือนเนื้อไก่
-
4:33 - 4:43(เสียงหัวเราะ)
-
4:43 - 4:46กับปลาตัวที่สอง
-
4:46 - 4:49เป็นเรื่องรักอีกแบบนึง
-
4:49 - 4:52รักโรแมนติก
-
4:52 - 4:55ยิ่งได้รู้จักปลาของคุณมากขึ้นเท่าไหร่
-
4:55 - 4:58ยิ่งรักมากขึ้นเท่านั้น
-
4:58 - 5:00ผมได้ลิ้มรสครั้งแรกที่ร้านอาหาร
-
5:00 - 5:02ทางตอนใต้ของสเปน
-
5:02 - 5:05เพื่อนนักข่าวของผม พูดถึงปลาตัวนี้ให้ฟังมานาน
-
5:05 - 5:07เหมือนเธอชักนำให้เราพบกัน
-
5:07 - 5:09(เสียงหัวเราะ)
-
5:09 - 5:11พอมันมาเสิร์ฟที่โต๊ะ
-
5:11 - 5:14เนื้อขาว แทบจะวาวแววที่เดียว
-
5:16 - 5:19เชฟทำสุกเกินไป
-
5:19 - 5:22ประมาณสองรอบ
-
5:22 - 5:25แต่ไม่น่าเชื่อ มันอร่อยมาก
-
5:25 - 5:29ใครทำให้ปลาอร่อยได้
-
5:29 - 5:31ทั้งๆที่มันสุกเกินไป
-
5:31 - 5:33ผมน่ะไม่มีทาง
-
5:33 - 5:35แต่ชายคนนี้ทำได้
-
5:35 - 5:37เรียกเขาว่ามิเกลแล้วกัน
-
5:37 - 5:39จริงๆเขาก็ชื่อมิเกลนั่นแหละ
-
5:39 - 5:42(เสียงหัวเราะ)
-
5:42 - 5:44เปล่า เขาไม่ได้ทำอาหารจานนั้น เขาไม่ใช่เชฟ
-
5:44 - 5:47อย่างน้อยก็ไม่ใช่แบบที่คุณกับผมคุ้นเคย
-
5:48 - 5:50เขาเป็นนักชีววิทยา
-
5:50 - 5:52ที่เวต้า ลา ปาลม่า (Veta La Palma)
-
5:52 - 5:55เป็นฟาร์มปลาทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน
-
5:55 - 5:58ตอนปลายของแม่น้ำกวาดาลคาเวียร์ (Guadalquivir)
-
5:58 - 6:00จวบจนถึงช่วงคริสต์ทศวรรษ1980
-
6:00 - 6:03ฟาร์มนี้เป็นของชาวอาร์เจนติน่า
-
6:03 - 6:05พวกเขาใช้เลี้ยงโคเนื้อ
-
6:05 - 6:08บนที่ดินซึ่งเป็นที่ลุ่มน้ำ
-
6:08 - 6:10โดยการระบายน้ำจากผืนแผ่นดิน
-
6:10 - 6:13ใช้ระบบคูคลองที่ซับซ้อน
-
6:13 - 6:16ขับน้ำจากแผ่นดินสู่แม่น้ำ
-
6:17 - 6:19แต่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จ
-
6:19 - 6:21ในเชิงเศรษฐกิจ
-
6:21 - 6:24ส่วนทางนิเวศวิทยา มันเป็นหายนะ
-
6:24 - 6:26ระบบนั้นฆ่านกไปร้อยละ 90
-
6:26 - 6:29ซึ่งในพื้นที่นั้น ถือว่าเป็นจำนวนมาก
-
6:29 - 6:31ดังนั้น ในปี 1982 (พ.ศ.2525)
-
6:31 - 6:33บริษัทสเปนที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม
-
6:33 - 6:35จึงซื้อที่ดินไป
-
6:35 - 6:37พวกเขาทำอะไรงั้นเหรอ
-
6:37 - 6:39เขาเปลี่ยนทางเดินของน้ำ
-
6:39 - 6:41อย่างกับการกดสวิตช์
-
6:41 - 6:43จากการระบายน้ำออกจากผืนดิน
-
6:43 - 6:45เป็นการดึงน้ำกลับเข้ามาแทน
-
6:45 - 6:47พวกเขาปล่อยน้ำเข้าในคูคลอง
-
6:47 - 6:51ได้เป็นฟาร์มปลาขนาด 27,000 เอเคอร์ (68,000 ไร่)
-
6:51 - 6:53ปลาบาสส์ ปลากระบอก
-
6:53 - 6:55กุ้ง ปลาไหล
-
6:56 - 6:59ในกระบวนการนั้น มิเกลกับบริษัทนี้
-
6:59 - 7:02ชุบชีวิตระบบนิเวศขึ้นมาใหม่
-
7:03 - 7:05มันเหลือเชื่อมาก
-
7:05 - 7:08ไม่เคยมีอะไรแบบนี้มาก่อน
-
7:08 - 7:11หากคุณมองไปที่ขอบฟ้า
-
7:11 - 7:13ซึ่งดูไกลเป็นล้านไมล์
-
7:13 - 7:15ที่เห็นคือคลองที่มีน้ำเต็ม
-
7:15 - 7:18กับที่ลุ่มน้ำอันอุดมสมบูรณ์
-
7:20 - 7:23ผมได้ไปที่นั่นกับมิเกลเมื่อไม่นานนี้
-
7:23 - 7:26เขาเป็นผู้ชายมหัศจรรย์
-
7:26 - 7:29สามส่วนเป็นชาร์ลส์ ดาร์วิน หนึ่งส่วนเป็นคร็อคโคไดล์ ดันดี
-
7:29 - 7:31(เสียงหัวเราะ)
-
7:31 - 7:34พวกผมก็อยู่ที่นั่น ออกแรงเดินลุยที่ลุ่มน้ำกัน
-
7:35 - 7:37ผมหอบ เหงื่อท่วมตัว โคลนเปื้อนขึ้นมาถึงเข่า
-
7:37 - 7:40ส่วนมิเกลบรรยายเรื่องชีววิทยาได้หน้าตาเฉย
-
7:41 - 7:43ตรงนั้น มีเหยี่ยวขาวหายาก
-
7:44 - 7:47แล้วเขาก็พูดถึงแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับแพลงก์ตอนพืช
-
7:48 - 7:51ทางนี้ มีลักษณะการรวมกลุ่ม
-
7:51 - 7:54ที่คล้ายกับยีราฟแทนซาเนีย
-
7:56 - 7:59ปรากฏว่า มิเกลใช้เวลาส่วนใหญ่ของการทำงาน
-
7:59 - 8:02ที่อุทยานแห่งชาติมิคูมิ (Mikumi) ในอัฟริกา
-
8:02 - 8:04ผมถามว่าทำไมเขาถึงกลายเป็น
-
8:04 - 8:06ผู้เชี่ยวชาญด้านปลา
-
8:06 - 8:09เขาบอก "ปลาเหรอ ผมไม่เคยรู้อะไรเรื่องปลาเลยหรอก
-
8:09 - 8:12ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์"
-
8:12 - 8:14หลังจากนั้น เขาก็พูดต่อถึงเรื่อง
-
8:14 - 8:16นกหายาก และสาหร่าย
-
8:16 - 8:18แล้วก็พืชน้ำแปลกๆ
-
8:18 - 8:21อย่าเข้าใจผมผิด มันน่าสนใจมากเลย
-
8:21 - 8:24สังคมทางชีววิทยา อันปลั๊ก อะไรแบบนั้น
-
8:24 - 8:27เยี่ยมมาก แต่ผมกำลังมีความรัก
-
8:27 - 8:30เอาแต่เคลิบเคลิ้มถึง
-
8:30 - 8:33เนื้อปลาที่สุกเกินไปจากเมื่อคืนก่อน
-
8:33 - 8:35ผมเลยขัดจังหวะเขา แล้วบอกว่า
-
8:35 - 8:37"มิเกล อะไรทำให้ปลาของคุณอร่อยนัก"
-
8:37 - 8:39เขาชี้ไปที่สาหร่าย
-
8:39 - 8:42"เออๆ ผมรู้ สาหร่าย แพลงก์ตอนพืช
-
8:42 - 8:45ความสัมพันธ์ มันเป็นสิ่งมหัศจรรย์
-
8:45 - 8:47แต่ปลาของคุณกินอะไร
-
8:47 - 8:50อัตราการแลกเนื้อเท่าไหร่"
-
8:50 - 8:53เขาก็ตอบผมว่า
-
8:54 - 8:56ระบบนี้มีความอุดมสมบูรณ์มาก
-
8:56 - 8:59จนปลาของเขากินเหมือนกับที่ปลาตามธรรมชาติกิน
-
8:59 - 9:02ชีวมวลจากพืช แพลงก์ตอนพืช
-
9:02 - 9:04แพลงก์ตอนสัตว์ นั่นแหละที่ปลากิน
-
9:04 - 9:06ระบบนี้สมบูรณ์มาก
-
9:06 - 9:08จนมันสามารถรักษาสภาพของมันเองได้
-
9:08 - 9:10ไม่ต้องให้อาหาร
-
9:11 - 9:14คุณเคยได้ยินเรื่องฟาร์มที่ไม่ต้องให้อาหารสัตว์มั้ย
-
9:18 - 9:20เย็นวันนั้น ผมนั่งรถรอบที่ดินกับมิเกล
-
9:20 - 9:24ผมถามเขาว่า "สำหรับที่ที่ดูเป็นธรรมชาติ
-
9:24 - 9:27ไม่เหมือนกับฟาร์มอื่นๆที่ผมเคยเห็น
-
9:29 - 9:32คุณวัดความสำเร็จยังไง"
-
9:32 - 9:35ตอนนั้นเอง มันเหมือนกับ
-
9:35 - 9:37มีผู้กำกับหนังมาสั่งเปลี่ยนฉาก
-
9:37 - 9:39พวกผมเลี้ยวโค้ง
-
9:39 - 9:41มาพบกับภาพที่น่าอัศจรรย์ใจ
-
9:41 - 9:44นกฟลามิงโก้สีชมพูเป็นพันๆตัว
-
9:44 - 9:48ดูเหมือนพรมสีชมพูที่ทอดยาวจนสุดสายตา
-
9:48 - 9:50"นี่คือความสำเร็จ" เขาตอบ
-
9:51 - 9:53"ดูที่พุงสิ สีชมพู
-
9:53 - 9:55พวกมันกำลังกินเลี้ยงกัน"
-
9:55 - 9:57กินเลี้ยงเหรอ ผมงงไปหมด
-
9:57 - 9:59"มิเกล พวกมันกำลังกินปลาของคุณไม่ใช่เหรอ"
-
9:59 - 10:01(เสียงหัวเราะ)
-
10:01 - 10:03"ใช่" เขาตอบ
-
10:03 - 10:09(เสียงหัวเราะ)
-
10:09 - 10:11"พวกเราเสียปลากับไข่ปลาร้อยละ 20
-
10:11 - 10:14เป็นอาหารนก
-
10:15 - 10:17ปีที่แล้วเนี่ย
-
10:17 - 10:19มีนกมาที่นี่ 600,000 ตัว
-
10:19 - 10:21มากกว่า 250 สายพันธุ์
-
10:21 - 10:24วันนี้ ที่ดินผืนนี้
-
10:24 - 10:27เป็นที่ลี้ภัยนกของเอกชนที่ใหญ่ที่สุด
-
10:27 - 10:31และมีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
-
10:31 - 10:34ผมบอกว่า "มิเกล การมีประชากรนกที่เติบโตดี
-
10:34 - 10:36ไม่ใช่สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการในฟาร์มเลี้ยงปลาเหรอ"
-
10:36 - 10:38(เสียงหัวเราะ)
-
10:38 - 10:40เขาส่ายหน้า ไม่เลย
-
10:40 - 10:43"พวกเรา ทำฟาร์มแบบครอบคลุม
-
10:43 - 10:46ไม่ใช่แบบเข้มข้น
-
10:46 - 10:49ที่นี่เป็นระบบนิเวศ
-
10:49 - 10:51นกฟลามิงโก้กินกุ้ง
-
10:51 - 10:53กุ้งกินแพลงก์ตอนพืช
-
10:53 - 10:55ดังนั้น ยิ่งนกมีพุงสีชมพูมากขึ้นเท่าไหร่
-
10:55 - 10:58ระบบของเราก็ดียิ่งขึ้นเท่านั้น"
-
10:58 - 11:00เอาล่ะ ทบทวนกันหน่อย
-
11:00 - 11:03ฟาร์มที่ไม่ต้องให้อาหารสัตว์
-
11:03 - 11:06และฟาร์มที่วัดความสำเร็จ
-
11:06 - 11:08ด้วยสุขภาพของผู้ล่า
-
11:08 - 11:11ฟาร์มปลาที่เป็นที่ลี้ภัยนกด้วย
-
11:11 - 11:13แล้วอีกอย่าง นกฟลามิงโก้พวกนั้น
-
11:13 - 11:15ไม่ควรจะอยู่ในบริเวณนั้นตั้งแต่แรกแล้ว
-
11:15 - 11:17พวกมันทำรังอยู่ในเมือง
-
11:17 - 11:19ที่ห่างออกไป 150 ไมล์ (240 ก.ม.)
-
11:19 - 11:21เพราะดินในแถบนั้น
-
11:21 - 11:23เหมาะสำหรับการทำรังมากกว่า
-
11:23 - 11:25ทุกเช้า พวกมันบิน
-
11:25 - 11:27150 ไมล์มาที่ฟาร์ม
-
11:29 - 11:32แล้วทุกคืน พวกมันก็บิน 150 ไมล์กลับบ้าน
-
11:32 - 11:37(เสียงหัวเราะ)
-
11:39 - 11:42พวกมันทำอย่างนั้นได้เพราะ
-
11:42 - 11:44มันตามเส้นประสีขาว
-
11:44 - 11:46ของทางหลวง A92
-
11:46 - 11:48(เสียงหัวเราะ)
-
11:48 - 11:50ผมไม่ได้ล้อเล่น
-
11:50 - 11:53ผมคิดถึงหนังสารคดีเกี่ยวกับการเดินทางของนกเพนกวิน
-
11:53 - 11:55ผมเลยหันไปถาม
-
11:55 - 11:57"มิเกล พวกมันบินมา
-
11:57 - 11:59150 ไมล์ถึงฟาร์ม
-
11:59 - 12:01แล้วก็บินกลับอีก
-
12:01 - 12:03150 ไมล์ตอนกลางคืน
-
12:03 - 12:06เพื่อลูกของพวกมันใช่มั้ย"
-
12:06 - 12:09เขาจ้องหน้าผมอย่างกับว่าผมเพิ่งอ้างอิงเพลงของวิตนีย์ ฮูสตัน
-
12:09 - 12:13(เสียงหัวเราะ)
-
12:13 - 12:16เขาบอก "เปล่า เพราะอาหารที่นี่ดีกว่า"
-
12:16 - 12:18(เสียงหัวเราะ)
-
12:18 - 12:22ผมลืมเล่าถึงหนังปลาของปลาที่ผมรัก
-
12:26 - 12:28ซึ่งอร่อย แม้แต่คนไม่ชอบหนังปลาอย่างผม
-
12:28 - 12:31ไม่ชอบแบบเกรียม ไม่ชอบแบบกรอบ
-
12:31 - 12:34มันมีรสรุนแรงที่เหมือนน้ำมันดินข้นๆ
-
12:35 - 12:37ผมแทบไม่ใช้หนังปลาทำอาหารเลย
-
12:38 - 12:41แต่เมื่อผมลองชิมมัน ที่ร้านอาหารทางตอนใต้ของสเปน
-
12:41 - 12:44รสชาติต่างจากหนังปลา
-
12:44 - 12:47รสหวานและสะอาด
-
12:47 - 12:50เหมือนว่าได้ลิ้มรสมหาสมุทร
-
12:50 - 12:52ผมเล่าให้มิเกลฟัง เขาพยักหน้า
-
12:52 - 12:54เขาบอกว่า "หนังทำหน้าที่เหมือนฟองน้ำ
-
12:54 - 12:57เป็นด่านสุดท้ายก่อนสิ่งต่างๆจะเข้าสู่ร่างกาย
-
12:57 - 12:59ผ่านการวิวัฒนาการเพื่อดูดซับสารแปลกปลอม"
-
12:59 - 13:01แล้วเขาเสริมอีกว่า
-
13:01 - 13:04"แต่น้ำของเราไม่มีสารแปลกปลอม"
-
13:07 - 13:10คิดดู ฟาร์มที่ไม่ต้องให้อาหารสัตว์
-
13:11 - 13:14ฟาร์มที่วัดความสำเร็จ
-
13:14 - 13:16ด้วยความสำเร็จของผู้ล่า
-
13:16 - 13:18แล้วต่อมา ผมถึงนึกได้
-
13:18 - 13:21ฟาร์มที่ไม่มีสารแปลกปลอม
-
13:21 - 13:23เป็นการประเมินค่าต่ำไป
-
13:23 - 13:25เพราะน้ำที่ไหลเข้าสู่ฟาร์มนั้น
-
13:25 - 13:28มาจากแม่น้ำกวาดาลคาเวียร์
-
13:28 - 13:30เป็นแม่น้ำเหมือนกับแม่น้ำอื่นๆสมัยนี้
-
13:30 - 13:33มีสิ่งแปลกปลอมมากมาย
-
13:33 - 13:35สารเคมีปนเปื้อน
-
13:35 - 13:37ยาฆ่าแมลง
-
13:37 - 13:40และเมื่อน้ำไหลผ่านระบบของฟาร์ม
-
13:40 - 13:42ออกสู่แม่น้ำ
-
13:42 - 13:44น้ำสะอาดกว่าตอนเข้าสู่ระบบ
-
13:44 - 13:47ระบบสมบูรณ์แบบมาก มันกรองของเสียออกจากน้ำ
-
13:48 - 13:50นี่คือ ฟาร์มที่ไม่ต้องให้อาหารสัตว์
-
13:50 - 13:53ไม่ใช่แค่เป็นฟาร์มที่วัดความสำเร็จ
-
13:53 - 13:55ด้วยสุขภาพของผู้ล่า
-
13:55 - 13:58แต่ยังเป็นโรงงานบำบัดน้ำเสีย
-
14:01 - 14:04ไม่ใช่เพียงเพื่อปลาพวกนั้น
-
14:04 - 14:06แต่เพื่อคุณและผมด้วย
-
14:06 - 14:09เมื่อน้ำไหลออกจากระบบ มันไหลไปสู่มหาสมุทรแอตเลนติก
-
14:11 - 14:13เหมือนน้ำหยดเดียวในมหาสมุทร ผมรู้
-
14:13 - 14:16แต่ผมก็พอใจ คุณก็ควรจะพอใจด้วย
-
14:16 - 14:19เพราะนิยายรักเรื่องนี้
-
14:20 - 14:22ทั้งโรแมนติก
-
14:22 - 14:24ทั้งเป็นคติพจน์
-
14:24 - 14:26คุณอาจจะเรียกว่าเป็นสูตร
-
14:26 - 14:28สำหรับอาหารที่ดีในอนาคตก็ได้
-
14:28 - 14:31ไม่ว่าเราจะพูดถึงปลาบาสส์หรือโคเนื้อ
-
14:32 - 14:34สิ่งที่พวกเราต้องการตอนนี้
-
14:34 - 14:37คือนวัตกรรมการเกษตรแบบใหม่
-
14:37 - 14:39ที่ทำให้อาหารรสชาติอร่อย
-
14:39 - 14:41(เสียงหัวเราะ)
-
14:41 - 14:47(เสียงปรบมือ)
-
14:47 - 14:49แต่สำหรับคนจำนวนมาก
-
14:49 - 14:52มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเกินไป
-
14:52 - 14:54พวกเราไม่ชอบยึดถือความจริง เราคนบ้าอาหาร
-
14:54 - 14:56พวกเราเป็นนักรัก
-
14:56 - 14:58พวกเรารักตลาดนัดเกษตรกร
-
14:58 - 15:01พวกเรารักฟาร์มแบบครอบครัวเล็กๆ
-
15:01 - 15:03เราพูดถึงอาหารท้องถิ่น
-
15:03 - 15:06เรากินอาหารเกษตรอินทรีย์
-
15:06 - 15:08และเมื่อคุณเสนอความคิด
-
15:08 - 15:12ที่จะประกันอนาคตอาหารที่ดีแบบนี้
-
15:12 - 15:14จะมีใครซักคนที่ยืนขึ้น แล้วพูดว่า
-
15:14 - 15:18"คุณครับ ผมรักนกฟลามิงโกสีชมพูนะ
-
15:18 - 15:21แต่คุณจะผลิตอาหารให้คนทั้งโลกได้ยังไง"
-
15:21 - 15:24จะผลิตอาหารให้คนทั้งโลกได้ยังไง
-
15:24 - 15:26ขอผมพูดตรงๆนะ
-
15:26 - 15:29ผมไม่ชอบคำถามนี้เลย
-
15:29 - 15:31ไม่ครับ นั่นเพราะว่าเราผลิตแคลอรี่
-
15:31 - 15:34มากกว่าที่โลกต้องการอยู่แล้ว
-
15:34 - 15:37คนหนึ่งพันล้านคนขาดอาหารในวันนี้
-
15:37 - 15:40หนึ่งพันล้าน นี่มันมากกว่าที่เคย
-
15:41 - 15:44เพราะการแจกจ่ายที่ไม่เป็นธรรม
-
15:44 - 15:46ไม่ใช่เพราะปริมาณที่ผลิต
-
15:47 - 15:49ผมไม่ชอบคำถามนี้ เพราะมันเป็นสิ่งที่กำหนดกฏเกณฑ์
-
15:49 - 15:52การผลิตอาหารมาเป็นเวลา 50 ปี
-
15:52 - 15:55ใช้เมล็ดพันธุ์เลี้ยงสัตว์กินพืช
-
15:55 - 15:57ใช้ยาฆ่าแมลงในการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ให้สารเคมีกับพื้นดิน
-
15:57 - 16:00ใช้ไก่เลี้ยงปลา
-
16:00 - 16:03ตลอดเวลา ธุรกิจทางการเกษตร
-
16:03 - 16:05เอาแต่คิดว่า
-
16:05 - 16:07"ถ้าเราเลี้ยงคนจำนวนมากขึ้นได้ ด้วยราคาที่ถูกลง
-
16:07 - 16:10มันคงจะไม่เลวร้ายอะไรมาก"
-
16:10 - 16:12นั่นคือแรงบันดาลใจ
-
16:12 - 16:14และข้อแก้ตัว
-
16:14 - 16:17เป็นแผนทางธุรกิจ
-
16:17 - 16:19ของการเกษตรแบบอเมริกา
-
16:19 - 16:21พวกเราควรจะเรียกมันอย่างที่เป็น
-
16:21 - 16:24คือธุรกิจที่กำลังจะล้มละลาย
-
16:24 - 16:27ธุรกิจที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ
-
16:27 - 16:30เพื่อสร้างผลผลิต
-
16:30 - 16:32นั่นไม่ใช่ธุรกิจ
-
16:32 - 16:34และก็ไม่ใช่การเกษตรด้วย
-
16:34 - 16:37แหล่งอาหารของเราอยู่ในระยะอันตราย
-
16:37 - 16:39ไม่ใช่เพราะขาดผลผลิต
-
16:39 - 16:42แต่เพราะขาดทรัพยากร
-
16:42 - 16:45ไม่ใช่เครื่องเกี่ยวข้าวและแทรกเตอร์รุ่นใหม่
-
16:45 - 16:47แต่เป็นดินที่อุดมสมบูรณ์
-
16:47 - 16:50ไม่ใช่เครื่องสูบน้ำ แต่เป็นน้ำสะอาด
-
16:50 - 16:53ไม่ใช่เลื่อยไฟฟ้า แต่เป็นป่า
-
16:53 - 16:56และไม่ใช่เรือประมงกับแห แต่เป็นปลาในทะเล
-
16:56 - 16:58คุณอยากเลี้ยงประชากรโลกใช่มั้ย
-
16:58 - 17:01เราควรเริ่มด้วยคำถาม เราจะเลี้ยงตัวเองอย่างไร
-
17:02 - 17:05หรือถ้าให้ดี เราจะสร้างสภาวะ
-
17:05 - 17:08ที่ทำให้ทุกๆชุมชน
-
17:08 - 17:10สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างไร
-
17:10 - 17:17(เสียงปรบมือ)
-
17:17 - 17:19การทำเช่นนั้น
-
17:19 - 17:22อย่าดูจากโครงสร้างธุรกิจการเกษตรที่เรามี
-
17:22 - 17:24มันเก่าและล้าหลัง
-
17:24 - 17:28ให้ความสำคัญกับเงินทุน สารเคมี และเครื่องยนต์
-
17:28 - 17:31แต่ไม่สามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพได้
-
17:33 - 17:37เราควรเริ่มใช้แนวทางแบบนิเวศ
-
17:37 - 17:40นั่นคือโครงสร้างที่มีประสบการณ์จริง
-
17:40 - 17:43ใช้มาได้สองพันล้านปีแล้ว
-
17:43 - 17:45ดูอย่างมิเกล
-
17:45 - 17:47เกษตรกรอย่างมิเกล
-
17:47 - 17:50ฟาร์มที่ไม่แยกจากโลกภายนอก
-
17:50 - 17:55ฟาร์มที่ฟื้นฟู ไม่ใช่ทำลายล้าง
-
17:55 - 17:57ฟาร์มแบบครอบคลุม
-
17:57 - 17:59ไม่ใช่แค่เข้มข้น
-
17:59 - 18:02เกษตรกรที่ไม่ใช่แค่ผู้ผลิต
-
18:02 - 18:04แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ด้วย
-
18:04 - 18:06เพราะพวกเขาเป็น
-
18:06 - 18:09ผู้เชี่ยวชาญด้านรสชาติเหมือนกัน
-
18:09 - 18:11และถ้าผมจะพูดตรงๆ
-
18:11 - 18:14พวกเขาเป็นเชฟที่ดีกว่าผมซะอีก
-
18:14 - 18:17คุณรู้มั้ย ผมโอเคนะ
-
18:17 - 18:20เพราะนั่นคืออนาคตของอาหารที่ดี มันจะอร่อยแน่
-
18:20 - 18:22ขอบคุณครับ
-
18:22 - 18:39(เสียงปรบมือ)
- Title:
- แดน บาร์เบอร์: เมื่อผมตกหลุมรักปลา
- Speaker:
- Dan Barber
- Description:
-
เชฟ แดน บาร์เบอร์ (Dan Barber) เผชิญหน้ากับปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเชฟทั่วโลก: ทำอย่างไรจึงจะรักษาปลาไว้บนเมนูได้ ด้วยการค้นคว้าที่สมบูรณ์แบบและตลกหน้าตาย เขาเล่าเรื่องราวการตามหาปลาแบบยั่งยืนในฝัน และฮันนีมูนของคนรักอาหาร ตั้งแต่เมื่อเขาค้นพบปลาที่อร่อยเกินคำบรรยาย จากนวัตกรรมฟาร์มปลาแผนใหม่ในสเปน
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 18:41