-
สวัสดีค่ะ วิวจากแชนเนล Point of View ค่ะ
-
วันนี้ออกมาอยู่นอกสถานที่อีกแล้วนะคะ
-
เห็นด้านหลังอย่างนี้แปลว่า
-
วิวอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นอีกแล้วค่ะ
-
ซึ่งจะบอกว่าวันนี้พิเศษมากเพราะว่า
-
หลายคนคิดว่าน่าจะเป็นวัดชื่อดัง
-
อะไรที่คนคุ้นเคยกันใช่ไหม
-
ไม่ใช่เลยนะคะ
-
วัดที่วิวอยู่ตอนนี้เป็นวัดที่แบบ
-
อยู่กลางภูเขามายากมาก
-
ต้องนั่งรถบัสนั่งอะไรมา
-
เอาเป็นว่าคิดว่าถ้ามาเองน่าจะหลงนะคะ
-
พอดีครั้งนี้มีคนญี่ปุ่นพามาด้วย
-
วัดที่วิวอยู่ตอนนี้คือวัด
-
คัตสึโอจินะคะ
-
ซึ่งดังมากในเรื่องของ
-
ตุ๊กตาตัวสีแดงๆ
-
ที่ถ้าแบบใครนึกถึงญี่ปุ่นก็จะรู้จัก
-
ตุ๊กตาดารุมะนั่นเองค่ะ
-
ดังนั้นนะคะวันนี้วิวก็เลยอยากมาเล่าเรื่อง
-
ตุ๊กตาดารุมะให้ทุกคนฟังค่ะ
-
เดี๋ยวเราเข้าไปเที่ยววัดด้านใน
-
แล้วก็ไปฟังเรื่องตุ๊กตาดารุมะพร้อมๆกันนะคะ
-
แต่ก่อนอื่นอย่าลืมกดติดตามวิวให้ครบ
-
ทุกช่องทางนะคะ
-
ติดตามแล้วก็
-
พร้อมที่จะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุก
-
แล้วก็มีสาระกันรึยังคะ
-
ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าไปในวัดกันเลย
-
เหตุที่เราต้องมาที่วัดคัตสึโอจิแห่งนี้
-
เพื่อมาเล่าเรื่องตุ๊กตาดารุมะนะคะ
-
เพราะว่าวัดนี้เป็นวัดที่สร้างขึ้นมา
-
เพื่อพูดถึงเรื่องชัยชนะโดยเฉพาะเลย
-
คือจากประวัติวัดนะคะ
-
เค้าบอกว่ามีพระจักรพรรดิองค์หนึ่งเนี่ย
-
ชนะจากอาการเจ็บป่วยอะไรต่างๆ
-
เค้าก็เลยสร้างวัดนี้ขึ้นมานะคะ
-
ซึ่งตุ๊กตาดารุมะตุ๊กตาตัวแดงๆเนี่ยนะคะ
-
ถือว่าเป็นเครื่องรางของญี่ปุ่นใช่ไหม
-
ที่ช่วยในเรื่องแบบว่า
-
การโชคดีชัยชนะอะไรต่างๆ
-
ดังนั้นที่วัดแห่งนี้ก็เลยจะมีตุ๊กตาดารุมะ
-
อยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ
-
นี่จะเห็นว่าทุกส่วนของวัดเลยนะคะก็จะมี
-
ตุ๊กตาแดงๆดารุมะตั้งอยู่
-
แม้ว่าตรงนี้จะเป็นตัวเล็กๆก็ตาม
-
มาวัดเกี่ยวกับตุ๊กตาดารุมะทั้งทีนะคะ
-
จะไม่เล่าถึงตุ๊กตาดารุมะเลยก็คงไม่ได้
-
เชื่อว่าตุ๊กตาด้านหลังเนี่ย
-
เป็นตุ๊กตาที่หลายๆคนน่าจะเคยเห็นกันมาแล้วนะคะ
-
เวลาพูดถึงอะไรญี่ปุ่นๆ
-
แต่ว่าเรารู้จักตุ๊กตาตัวนี้กันดีจริงๆรึเปล่า
-
เดี๋ยววันนี้วิวจะเล่าให้ฟังนะคะ
-
เห็นด้านหลังนี่ก็เป็นตุ๊กตาดารุมะนะคะ
-
เป็นเหมือนตุ๊กตาล้มลุกของญี่ปุ่น
-
ก็จะเป็นตุ๊กตาสีแดง
-
มีตาเบิกโพลงสองข้างใช่ไหม
-
แล้วก็มีหนวดเครานิดนึง
-
หลายๆคนน่ะพอจะรู้มาบ้างว่า
-
ดารุมะเนี่ยเป็นตุ๊กตาที่เป็นเครื่องรางใช่ไหมคะ
-
เวลาเราต้องการขอพรเรื่องอะไรที่แบบ
-
ประสบความสำเร็จหรือว่าขอพรเรื่องต่างๆเนี่ย
-
เราก็จะต้องไปซื้อตุ๊กตาดารุมะมา
-
แล้วก็ขอพร
-
โดยการวาดลูกตาให้ดารุมะใช่ไหมคะ
-
แต่ทีนี้รู้ไหมว่า
-
ตุ๊กตาดารุมะเป็นตุ๊กตาที่หมายถึงใคร
-
จริงๆแล้วนะคะตุ๊กตาดารุมะ
-
เป็นพระที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์นะคะ
-
แล้วถ้าใครเป็นคนที่ติดนิยายจีนกำลังภายในเนี่ย
-
รับรองรู้จักองค์นี้แน่ๆนะคะ
-
องค์นั้นก็คือ
-
ท่านโพธิธรรมหรือว่าท่านอาจารย์ตั๊กม้อนั่นเอง
-
พระอาจารย์ตั๊กม้อแห่งวันเส้าหลิน
-
มาทำอะไรที่
-
การเป็นตุ๊กตาดารุมะได้ยังไงนะคะ
-
ลองพูดชื่อท่านช้าๆสิ
-
โพธิธรรม
-
โพธิดารามะ
-
ดารุมะนั่นเองนะคะ
-
ซึ่งตุ๊กตาดารุมะเนี่ย
-
เขาเชื่อว่าเป็นพระอาจารย์ตั๊กม้อนะ
-
ดูจากหน้าตานะคะ
-
ก็จะเป็นพระที่สวมชุดสีแดง
-
ก็คือเป็นแบบนักบวชชั้นสูง
-
เขาบอกว่านักบวชชั้นสูงเนี่ย
-
จะผ้าคลุมเป็นสีแดง
-
แตกต่างจากนักบวชชั้นธรรมดานะคะ
-
ส่วนหนวดเคราอะไรนี่ก็ชัดเจนมาก
-
ว่าเป็นพระอาจารย์ตั๊กม้อนะคะ
-
ส่วนใครสงสัยว่าพระอาจารย์ตั๊กม้อเป็นใครนี่ก็
-
อาจจะไม่ค่อยได้อ่านหนังจีนเท่าไหร่นะ
-
ก็เป็นอาจารย์ผู้คิดค้นลัทธิเซนขึ้นนะคะ
-
แล้วก็อยู่ที่วันเส้าหลินของจีนนะ
-
ซึ่งความเชื่อเนี่ยนะคะเขาก็บอกว่า
-
ท่านอาจารย์ตั๊กม้อเนี่ยนั่งสมาธิอยู่ 8-9 ปี
-
เพื่อที่จะแบบว่าบรรลุลัทธิเซนอะไรสักอย่าง
-
แต่ว่าเรื่องตุ๊กตาดารุมะเนี่ย
-
เขาก็เอาเรื่องนี้มาอธิบายว่า
-
หลังจากที่นั่งสมาธิมา 8ปี 9ปี หันหน้าเข้ากำแพง
-
ไม่กินข้าวกินปลาเลยเนี่ย
-
แขนขาของท่านเนี่ยก็หลุดออกจากตัวนะคะ
-
ก็เลยกลายเป็นตุ๊กตาดารุมะ
-
ที่ไม่มีแขนไม่มีขาแบบนี้นี่แหละค่ะ
-
แล้วที่สำคัญนะเขาบอกว่า
-
บางเวอร์ชั่นเนี่ยก็จะเล่าไปอีก
-
อันนี้เป็นแบบนิทานนะเป็นตำนานนะ
-
ดังนั้นอย่าเอาว่ามันเมคเซ้นส์อะไรเท่าไหร่นะคะ
-
เขาบอกว่าหลังจากที่นั่งสมาธิมา 8ปี
-
ปรากฏว่าถึงกำหนดปีสุดท้ายแล้ว
-
ตั้งใจจะไม่กิน ไม่นอน ไม่ทำอะไรเลยใช่ไหม
-
ปรากฏปีสุดท้ายเผลอหลับ
-
ก็เลยตื่นมาแล้วโมโหตัวเองนะคะ
-
เอามีดขึ้นมาแล้วก็เฉือนเปลือกตาตัวเองเนี่ย
-
ทิ้งไปเลย
-
ก็เลยกลายเป็นตุ๊กตาที่ตาเบิกโพลง
-
ไม่หลับตาแบบนี้นี่แหละค่ะ
-
ซึ่งตุ๊กตาดารุมะเนี่ย
-
ความเชื่อนี้ก็ไปผสมรวมกับตุ๊กตาล้มลุกแบบญี่ปุ่น
-
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะคะ
-
แล้วมาผสมรวมกันก็เลยกลายเป็นความเชื่อที่ว่า
-
ใครที่ต้องการความสำเร็จหรือใครต้องการอะไรเนี่ย
-
ก็จะมาไหว้มาบูชาตุ๊กตาดารุมะกันเพราะเชื่อว่า
-
ทุกครั้งที่เราแบบ ไม่สำเร็จ
-
ล้มลงไปเราก็ต้องลุกขึ้นมาใหม่
-
จนมันมีคำพูดของญี่ปุ่นเนี่ย เขาพูดเอาไว้ว่า
-
ล้ม 7 ครั้งลุก 8 ครั้งนะคะ
-
ก็ประมาณนั้นประมาณว่า
-
ต่อให้มันไม่สำเร็จเดี๋ยวชั้นก็ต้องลุกขึ้นมาใหม่
-
เป็นความเชื่อประมานนี้ค่ะ
-
แต่ถามว่าตามความจริงแล้วเนี่ย
-
ถ้าไม่เอาเป็นตำนานแบบว่า
-
อยู่ดีๆก็เกิดขึ้นมาจากอากาศธาตุเนี่ย
-
ตุ๊กตาดารุมะเกิดขึ้นมาได้ยังไงนะคะ
-
เขาก็เชื่อกันว่าตุ๊กตาดารุมะเกิดขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งนะคะ
-
ซึ่งวัดแห่งนี้คิดค้นตุ๊กตาดารุมะขึ้นมา
-
เพราะว่ามีคนมาขอเครื่องรางเยอะเกินไปค่ะ
-
จนพระทำไม่ทันนะคะ
-
ดังนั้นพระวัดนี้นะคะก็เลยคิดคนแม่พิมพ์ขึ้นมา
-
แล้วก็บอกว่าโอเคใครอยากได้เครื่องราง
-
ก็ทำเปเปอร์มาเช่จากแม่พิมพ์นี้
-
เป็นรูปตุ๊กตาดารุมะแล้วก็ขอพรเองอะไรเอง
-
วาดรูประบายสีได้เลย
-
รู้กันใช่ไหมคะว่าเครื่องรางญี่ปุ่นเนี่ยมีวันหมดอายุ
-
ก็จะมีอายุอยู่ได้ประมาน 1ปี นะคะ
-
หลังจากที่เช่าหรือบูชาไปแล้ว 1ปี ต้องเอาไปคืนวัด
-
แล้วเขาก็จะเอาไปเผาทิ้ง
-
นี่ก็เป็นที่มาของตุ๊กตาดารุมะนะคะ
-
สำหรับคนที่ฟังแล้วอิน อยากขอพรกับดารุมะนะคะ
-
ก็สามารถมาซื้อตุ๊กตาดารุมะแบบนี้ไปได้นะ
-
ก็เป็นเปเปอร์มาเช่
-
ก็เป็นเปเปอร์มาเช่
เห็นไหมว่าจะไม่มีตาเขียนอยู่นะคะ
-
เห็นไหมว่าจะไม่มีตาเขียนอยู่นะคะ
-
สิ่งที่เราต้องทำนะคะก็คือเช่าตุ๊กตาดารุมะนี้
-
แล้วก็เดินไปที่บริเวณ Main Hall นะคะ
-
ตรงที่ไหว้พระแล้วก็
-
เอาตุ๊กตาดารุมะเนี่ยไปขอพร
-
ขอพรเสร็จก็เอาปากกานะคะ
-
เขียนด้านหลังเลยว่าเราต้องการอยากได้อะไร
-
เขียนเสร็จปุ๊บก็เอาตุ๊กตาดารุมะเนี่ย
-
อังควันธูปใช่ไหม
-
พออังควันธูปเสร็จก็เขียนตา 1 ข้าง
-
ขอพรนะคะแค่ข้อเดียวเท่านั้น
-
ตุ๊กตาดารุมะ 1 ตัวขอได้แค่ 1 อย่างนะคะ
-
แล้วส่วนใหญ่เขาจะขอเป็นเรื่องใหญ่ๆในชีวิตกัน
-
แล้วก็เอาตุ๊กตาดารุมะนี้กลับบ้านไปนะคะ
-
เอาไปนั่งพิจารณาไปเรื่อยๆ
-
ก็คือทุกครั้งที่เราพยายามจะทำให้
-
สิ่งนั้นสำเร็จ
-
เราก็หันไปมองดารุมะแล้วก็
-
ให้นึกถึงความตั้งใจของเราวันที่เราขอ
-
กับตุ๊กตาดารุมะนะคะ
-
เสร็จปุ๊บ เมื่อไหร่ก็ตามที่
-
ความหวังนั้นสำเร็จ
-
ก็เขียนตาอีกข้างหนึ่งของดารุมะ
-
ให้ดารุมะมีตาครบทั้งสองข้าง
-
แล้วก็เอามาคืนที่วัดค่ะ
-
ซึ่งวัดแต่ละวัดเนี่ย
-
โดยเฉพาะวัดที่แบบ
-
เชี่ยวชาญด้านดารุมะ
-
ก็จะมีวันที่เขาเผาตุ๊กตาดารุมะ
-
ที่เอามาคืนเนี่ย พร้อมกันทั้งปีเลยนะคะ
-
ก็จะเป็นอีกภาพหนึ่งที่น่าดูนะ
-
ตรงนี้คือความเก๋นะคะ
-
คือเขามีวัดที่แบบ
-
ชื่อดังประมาน 88 วัดใช่ไหม
-
เขาก็เลยรวมทรายของแต่ละวัดนะคะ
-
มาฝังไว้ใต้พระพุทธรูปตรงนี้
-
ก็คือ
-
ให้เราเนี่ยมาถึงแล้วก็
-
เอาเท้าเหยียบ
-
แปลว่าเราไปเหยียบวัดนี้แล้ว
-
ก็ให้เหยียบให้ครบทั้ง 88 วัด
-
ก็คือเหมือนไหว้ทั้ง 88 วัด
-
ในรอบเดียวนั่นเองนะคะ
-
อย่างที่บอกนะคะ
-
วัดนี้เน้นเรื่องดารุมะใช่ไหมคะ
-
ท่าโพธิธรรมก็คือเป็นวัดแบบ
-
ในนิกายเซนอะไรประมานนี้
-
ดังนั้นที่ดูไม่ใช่วงต้นไม้นะคะ
-
คือให้เราเข้าไปแล้วก็เดินวนรอบ
-
เหมือนเวียนเทียนนะแต่ว่า
-
เดินทั้งหมด 7 รอบ
-
เดินเข้าแล้วก็เดินออก 7 รอบ
-
เสร็จแล้วก็ไปนั่งสมาธิ
-
คือเป็นเหมือนกับว่าให้เราทำอะไร ซ้ำๆๆๆ
-
เพื่อที่เราจะได้มีสมาธินะคะ
-
ก็เป็นให้บรรลุวิถีแห่งเซน
-
ทำนองนี้แหละ
-
ถ้าใครอยากมาเที่ยววัดนี้
-
จริงๆแล้วตอนช่วงซากุระหรือช่วงใบไม่เปลี่ยนสี
-
ที่นี่เนี่ยนะคะ
-
ก็จะสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้วก็ซากุระได้ด้วย
-
ที่สำคัญมันมีตรงนี้อยู่
-
ถ้าเดินออกมาตรงนี้
-
นี่ๆๆๆๆ
-
ก็จะเป็นจุดวิวนะคะ
-
วิวข้างหลังสวยไหม
-
ไม่รู้
-
แต่วิวข้างหน้า
-
สวยมากนะจ๊ะ
-
ไม่ใช่
-
นี่ Point Of View ไม่ใช่ จุดชมวิว
-
วัดคัตสึโอจิแห่งนี้ก็เป็นวัด
-
ที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงด้านชัยชนะอะไรต่างๆ
-
ดังนั้นใครที่ต้องการชัยชนะ
-
ใครที่อยากประสบความสำเร็จ
-
ทางด้านการเรียน การกีฬา นักการเมือง
-
ที่จะลงเลือกตั้งอะไรต่างๆ
-
แม้แต่ยากูซ่าก็ตาม
-
ก็จะมาไหว้ที่วัดนี้
-
เพื่อแบบว่าให้ได้รับชัยชนะนะคะ
-
เพราะว่าเขาว่าตุ๊กตาดารุมะของที่นี่
-
มีชื่อเสียงอะไรประมาณนี้
-
แถมนะคะ ไม่เกี่ยวกับดารุมะ
-
แต่ว่าเข้ามาในวัดนี้แล้วนึกได้
-
ว่าตามอารยธรรมญี่ปุ่นอะไรต่างๆเนี่ยนะ
-
เวลาเขาพูดถึงความสวยงามของญี่ปุ่นเนี่ย
-
เราจะพูดถึง 3 เรื่องด้วยกันนะคะ
-
เรื่องแรกก็คือ
-
โมโนะโนะอาวาเระ
-
ซึ่งโมโนะโนะอาวาเระแปลว่าเข้าใกล้ธรรมชาติ
-
ความเป็นธรรมชาติอะไรต่างๆ
-
ดังนั้นเวลาเราเข้าไปที่สถานที่ญี่ปุ่นจ๋าๆ
-
ที่เป็นแบบ
-
เป็นวัดหรือเป็นอะไรประมาณนี้นะคะ
-
ก็จะเห็นว่ามันจะต้องใกล้ชิดธรรมชาติ
-
วัดจะต้องมีแบบ
-
ต้นไม้ มีอะไรประมาณนี้
-
อันที่ 2 นะคะก็คือ
-
ซาบิ ซาบิคือความนิ่งความเงียบ
-
เขาจะต้องแบบว่า
-
สงบแบบเซนๆนิดนะคะ
-
และสุดท้ายนะคะ
-
อันนี้ก็เป็นความงามของญี่ปุ่นเหมือนกัน
-
คือ ยูเง็นนั่นเอง
-
ความลึกลับนิดนึงอะไรประมาณนี้นะคะ
-
แถมอีกอย่างหนึ่งที่เห็นในวัดนี้นะคะ
-
จำคลิปที่แล้วของวิวได้ไหมที่บอกว่า
-
วัดกับศาลเจ้าต่างกันยังไง
-
ที่เราเข้ามาอยู่ตรงนี้นะคะ
-
เราบอกว่าคัตสึโอจิ
-
จิใช่ไหม อันนี้แปลว่าวัด
-
เราอยู่ในวัดนะคะ
-
เดินเข้ามาทุกอย่างเราเห็นเป็นวัด
-
มีพระ มีอะไร
-
แต่ว่ามันมีส่วนเล็กๆที่อยู่ในวัดนะ
-
คือมันสามารถผสมรวมกันได้นะคะ
-
ความเชื่อของญี่ปุ่น
-
เห็นด้านหลังนั่นไหม
-
มีสะพานเล็กๆเดินเข้าไป
-
เป็นเหมือนศาลเจ้าเล็กๆอยู่ตรงกลางนะคะ
-
แล้วก็มีเสาโทริอิอยู่ข้างหน้า
-
ตรงนี้เป็นโซนที่มาศาลเจ้าเล็กๆ
-
ที่ซ่อนอยู่กลางวัดของญี่ปุ่นค่ะ
-
ก็อันนี้เป็นข้อแตกต่าง
-
วิวเคยเล่าเรื่องศาลเจ้ากับวัดที่แตกต่างกันไว้แล้ว
-
ว่าต่างกันยังไง
-
อะไรยังไง
-
ถ้าเราเข้ามาเราจะดูรู้ได้ยังไง
-
ว่าตรงไหนคือวัดคือศาลเจ้าค่ะ
-
ก็ถ้าใครสนใจก็ลองมาได้นะคะ
-
อยู่ที่บริเวณมิโนะนะ
-
มิโนโอะใกล้ๆกับโอซาก้านะคะ
-
ก็เดินทางอาจจะลำบากนิดนึง
-
นั่งรถไฟมาแล้วก็ต่อบัสเข้ามาที่นี่นะคะ
-
ก็ลองศึกษาข้อมูลกันดูไม่น่ายากค่ะ
-
ทำไมคนข้างหลังยืนนิ่งขนาดนั้นคะ
-
มาเป็น Background ให้ Point Of View
-
อ๋อมาเป็น Background นะคะ
-
ก็เอาเป็นว่า
-
ฝั่งนี้ก็มีคลิปเกี่ยวกับวัดนี้เหมือนกัน
-
น่าจะเป็นคนละสไตล์กัน
-
ฝั่งนี้คือให้ข้อมูลเรื่องตุ๊กตาดารุมะ
-
ฝั่งนี้คือ
-
พาเที่ยวรอบวัด
-
ถ้าใครชื่นชอบคลิปนี้อยากให้วิวพาไปเที่ยวที่ไหนอีก
-
อย่าลืมกด Like เป็นกำลังใจให้วิว
-
แล้วก็กด Share เพื่อชวนเพื่อนๆมาดูด้วยกันค่ะ
-
อยากให้ไปที่ไหนอะไรยังไง
-
คอมเม้นท์มาด้านล่างนะคะ
-
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ
-
ไหว้พระเสร็จแล้วก็ shopping เลยหรอคะ
-
ใช่ค่ะ
-
จะมีของเกี่ยวกับดารุมะขายมากมาย
-
ไม่ใช่แค่เครื่องรางนะ
-
ขนมอะไรก็มีนะคะ
-
สำหรับใครที่
-
ชอบดารุมะนะจ๊ะ
-
พูดเหมือนเขาจ่าย
-
แล้วเขาก็ไม่ได้จ่ายด้วย
-
แต่ว่าอินนะวัดนี้สวยจริง
-
แต่ว่ามายากนิดนึง
-
นี่อะไร
-
ซอสหอยนางรมดารุมะหรอ
-
โอเคนะคะ
-
คลิปนี้ก็ลาไปก่อนนะคะทุกคน
-
อาจจะงงๆนิดนึงตอนจบนะจ๊ะ
-
บ๊ายบายไปด้วยหน้าตาดารุมะแล้วกัน
-
บ๊ายบาย
-
สวัสดีค่ะ