สุครีพเกณฑ์ทหาร รามเกียรติ์ EP.45 | Point of View

สวัสดีค่ะ วิวจาก Channel Point of View ค่ะ

กลับมาในทุกวันพุธเช่นเคยนะคะ ที่วิวจะนำเอา

บทละครเรื่องรามเกียรติ์ ฉบับพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช

เล่มนี้มาเล่าให้ทุกคนฟังค่ะ

ขอบอกเลยว่าตอนนี้จะเป็นตอนที่ประกอบไปด้วยการบู๊ล้วนๆ นะคะ

เป็นวีรกรรมของหนุมานตัวเอกในใจของใครหลายๆ คนค่ะ

เออ จะว่าตัวเอกก็ตัวเอกแหละ

คือมีบทเด่นเยอะ อาจจะเยอะกว่าพระรามด้วยซ้ำ รึเปล่า

ก็ไม่ทราบนะคะ

เอาเป็นว่าถ้าใครอยากฟังเรื่องราวของรามเกียรติ์
ตั้งแต่ต้นมาจนถึงตอนนี้นะคะ

บทบาทของพระรามก่อนที่จะออกมาหนุมานบู๊อะไรต่างๆ
มากมายเนี่ย

มีบทบาทอะไรยังไงบ้างวิวเล่าไว้อย่างละเอียดแล้ว
ทุกตอนเลยนะคะ สามารถไปดูได้เป็น playlist ตรงนี้เลยค่ะ

ส่วนใครที่แบบรำคาญวิวนะคะ แบบว่า

พูดมากอะไรหนักหนาอยากฟังรวดเดียวจบ

ตั้งแต่ต้นจนจบเลยเอาแค่ 10 นาทีเท่านั้น

แต่ต้องเป็นคนที่ฟังอะไรเร็วๆ ค่อนข้างทันนะ เรียกได้ว่า
ที่พูดอยู่ตอนนี้ไม่ได้เรียกว่าเร็วนะ

ก็สามารถกดไปดูได้เช่นกันค่ะ วิวเคยเล่าไว้แล้ว 10 นาทีเท่านั้นค่ะ

โอเค เชื่อว่าทุกคนติดตามวิวครบในทุกช่องทางแล้วนะคะ
ดังนั้น

พร้อมที่จะไปฟังเรื่องราวที่ทั้งสนุกและมีสาระกันรึยังคะ

ถ้าพร้อมกันแล้วก็ไปฟังกันเลยค่ะ

ความเดิมในตอนที่แล้วนะคะ แม้ว่าสุครีพจะสัญญากับ
พระรามไว้นะคะ ว่าจะรวบรวมไพร่พลมาหาภายใน 7 วัน

แต่เอาจริงๆ แล้วปะ สุครีพยังไม่ค่อยทำงานอะไรเท่าไหร่หรอก ยังไม่ได้รวมพลจริงๆ จังๆ เลย

ดังนั้นเมื่อพระลักษมณ์มาตามถึงเมืองนะคะ สุครีพก็เลยมีความเห็นว่าต้องรีบอันเชิญหนุมานทหารสุดที่รักของพระรามเนี่ย

ไปเฝ้าพระรามก่อนเพื่อขัดตาทัพเอาไว้
อย่างน้อยก็มีคนไปเฝ้าอะ พระรามจะได้ไม่โกรธมากนะคะ

ดังนั้นนะคะ สุครีพก็เลยเหาะไปหาหนุมาน ซึ่งหนีไปตอนที่พาลีทะเลาะกับสุครีพน่ะนะ

ไปเรียกหนุมานเพื่อที่จะไปเฝ้าพระรามด้วยกันค่ะ

ปรากฏว่าสองน้าหลานก็เหาะกันมา

กำลังจะมาถึงภูเขาที่พระรามรออยู่เตรียมประชุมพล

ปรากฏว่าไปเจอเข้ากับสิ่งหนึ่ง คือ

กองลาดตระเวนของกรุงลงกานั้นเอง

กรุงลงกาเนี่ยนะคะ มียูนิตพิเศษอยู่ยูนิตหนึ่งค่ะ
เป็นยูนิตลาดตระเวนทางอากาศ

ใครเคยเล่น star craft นี่นึกออกเลยนะ เป็นฝูงบินอะ

ตัวเล็กๆ จิ๋วๆ อะนะ

ที่แบบบินไปลาดตระเวนเปิดแมพตามที่ต่างๆ อะ

ประมาณนั้นเลยค่ะ

ซึ่งคนที่คุมฝูงบินนี้ของกรุงลงกานะคะ ชื่อว่า

ฤทธิกันนั่นเอง เป็นยักษ์ตนหนึ่งนะ

ฤทธิกันเนี่ยคุมยักษ์ เหาะไปเหาะมาตระเวนน่านฟ้าไปมาไปมา

ปรากฏว่าปกติก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ก็ตระเวนมาตรงนี้เป็นประจำแหละ

วันนี้เกิดมาเจอไอ้สองน้าหลานเนี่ย

เหาะมาพอดี

สุครีพกับหนุมานกำลังเหาะมาสองตัว

กำลังจะไปเฝ้าพระราม

ปรากฏว่าเจอกองลาดตระเวนกรุงลงกา

สองน้าหลานก็เลยมีความเห็นว่า

เฮ้อ ฉันสร้างความดีความชอบดีกว่า

ตอนไปหาพระรามพระรามจะได้ไม่ด่าแรงไง
ที่ประชุมพลยังไม่สำเร็จสักที

ดังนั้นนะคะ

หนุมานก็เลยหันไปบอกสุครีพ บอกว่า

น้าๆ อันนั้นน่ะกองลาดตระเวนกรุงลงกาปะ

เดี๋ยวข้าจัดการให้ น้าไปนั่งรอชิลล์ๆ ก่อน

ถ้าเป็นปกติตามเซนส์แล้วเนี่ย ไปกันสองตัว
ก็ควรจะช่วยกันสู้รึเปล่า ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ

แต่อย่างไรก็ดีค่ะ สุครีพ เชื่อมือหนุมาน แม้ว่าจะเป็น

หนุมาน 1 ตัว สู้กับยักษ์ทั้งกองทัพก็ตามนะคะ
ดังนั้นสุครีพก็เลย

ไปนั่งเล่นรอค่ะ ในขณะที่หนุมานขึ้นไป ไปเจอฤทธิกันก่อนเลย มาถึงก็ตะโกนด่าเลย ประมาณว่า

แกไอ้ยักษ์หน้าตาน่าเกลียด แกมาทำอะไรที่นี่
เหาะผ่านน่านฟ้าของฉันได้ยังไง

ฤทธิกันก็คงแบบ

ห๊ะๆ ฉันก็เหาะแบบนี้ของฉันอยู่ทุกวัน ไม่เห็นจะมีอะไร
แกเป็นใครมาจากไหนไอ้ลิงเผือก

ก็เลยถามนะคะ ว่าแบบ

แก แกเป็นใครมาจากไหน แกมาห้ามอะไรฉัน ไม่รู้เหรอว่า
ฉันคือฤทธิกัน ทหารของทศกัณฐ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงลงกา

แหม่ประกาศมาขนาดนี้ หนุมานก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองกำลังจะไปเป็นศัตรูกับกรุงลงกาใช่ไหม

หนุมานประกาศเลยแบบ

ฉันหนุมานลูกพระพาย หลานพาลีและหลานสุครีพ

ฉันจะจัดการแกเอง

ทำไมมันฟังดูเหมือนแบบ

ฉันสาวน้อยน่ารักผู้พิทักษ์ความรักและความยุติธรรม

เซเลอร์มูน ตัวแทนจากดวงจันทร์จะลงทัณฑ์แกเอง

แปลงร่าง

ยังไงก็ไม่รู้ เอาเป็นว่า

เป็นความชอบส่วนตัวของผู้เล่า ซึ่งตอนนี้กำลังนอกเรื่องอย่างจริงจัง กลับมาค่ะ

หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายทำสอบถามวงศ์ตระกูลกันเสร็จเรียบร้อย
ตามธรรมเนียมนะคะ

คือในรามเกียรติ์เนี่ย เวลาจะรบกับใครต้องมีการถามก่อนว่าแบบ แกเป็นลูกใครมาจากไหน

กล้าดียังไงมายุ่งกับฉัน

แกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นลูกใคร อะไรยังงี้

ถามกันไปถามกันมา

ทั้ง 2 ฝ่ายก็จัดการรบกับค่ะ

ซึ่งหนุมานเนี่ย ด้วยความเก่งกาจนะคะ
ก็สามารถส่อยทหารของฤทธิกันเนี่ย

ทั้งกองทัพ พรึ่บเดียว ร่วงจากฟ้าลงมาตายหมดเลย
เหลือฤทธิกันอยู่ตัวเองเท่านั้น

และแน่นอนด้วยความเก่งของหนุมานอีกน่ะนะ

เราจะไม่ไปโฟกัสที่ฤทธิกันเพราะว่าเห็นชื่อตอนแล้วใช่ไหม ตอนนี้เราไม่ได้โฟกัสที่ฤทธิกันแม้แต่นิดเดียวนะคะ

ดังนั้นด้วยความเก่งของหนุมานค่ะ

แป๊ปเดียวเท่านั้นแหละ ฤทธิกันก็โดนหนุมานเอาตรีเพชร ซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวเนี่ย แทงอก

ปั่ก แล้วก็ตกลงมาตายเรียบร้อย

สองน้าหลานนะคะก็เลยเหาะกันต่อไป

เหาะไปหาพระรามค่ะ ไปก็รายงานวีรกรรมตัวเองเสร็จเรียบร้อยว่า

อ๋อ ระหว่างทางก็ไปเจอหน่วยลาดตระเวนกรุงลงกานะ
กำจัดไปเรียบร้อยแล้ว

กรุงลงกาตอนนี้ไม่สามารถเปิดแมพ
มาถึงกรุงขีดขินได้แล้วนะจ๊ะ

คืออินกับเกมอยู่ แล้วเป็นเกมสมัยดึกดำบรรพ์มาก

นะคะ เป็นมนุษย์ที่ติด star craft

นะจ๊ะ ช่างมัน ข้ามมันไปเนาะ สตาร์คง สตาร์คราฟ ไม่เกี่ยวนะคะ

ทั้งสองตัวเนี่ยนะคะ หลังจากฆ่าฤทธิกันแล้วเนี่ย

ก็รีบเหาะไปหาพระรามที่ภูเขาคันธมาทร์เลย

ไปถึงนะก็รายงานให้พระรามรู้นะว่าแบบ

เออ อย่างงู้นอย่างี้ ไปเจอกองลาดตระเวนของกรุงลงกามานะ จัดการมาแล้ว อะไรอย่างงี้

กะว่าจะได้คำชม ปรากฏว่าพระรามตอบประมาณว่าแบบ
เออะ ก็ดีๆ ทำดีๆ

แต่สุครีพ อย่าคิดว่าข้าจะลืมนะ

ไหนสัญญากันไว้ว่า เราจะรวมพลภายใน 7 วันไง นี่ 7 วันแล้ว

อย่ามาบอกว่าเดดลงเดดไลน์ ไม่จริง นี่เกินเดดไลน์มาแล้ว

ไหนกองทัพของท่าน ไหนว่าจะไปรวมพลมา

ให้ข้าจัดการยึดเมืองให้ แล้วไหนไพร่พล

สุครีพนะคะ ได้ยินอย่างนั้นสุครีพแบบ

เอิ่มๆๆ คือจริงๆ แล้ว คือข้ามีปัญหานิดนึง คือไพร่พลลิงอะ

ตอนที่ท่านมาฆ่าพาลีอะ มันก็กระจัดกระจายไปทั่ว
ข้ายังรวมไม่สำเร็จจริงๆ ขอโทษนะพระราม

แต่ข้ามีปัญหาอีกข้อหนึ่ง คือ เมืองขีดขินไม่ได้อยู่เมืองเดียว

เมืองขีดขินมีเมืองข้างเคียง ชื่อว่าเมืองชมพู

มีผู้ปกครองชื่อว่าท้าวมหาชมพู

ชื่อน่ารักมากนะจ๊ะ

แต่ว่าอย่างไรก็ดีนะคะ ท้าวมหาชมพูเนี่ย เป็นเพื่อนรักของพาลี

ถ้าสมมติว่าท้าวมหาชมพูเนี่ยรู้ว่าพวกเราไปฆ่าพาลี

แล้วพวกเราก็ยกพลทั้งหมดออกจากเมือง
เพื่อไปรบกับกรุงลงกา

แปลว่า ที่เมืองไม่เหลือใครปกป้อง

ท้าวมหาชมพูต้องยกพลขึ้นมายึดเมืองขีดขินแน่ๆ เลย

ดังนั้นน่ะ ข้าเห็นว่าเราควรจะยึดเมืองชมพูมาด้วย

เราจะได้เอากองทัพลิงของเมืองชมพูอะมารวมกับกองทัพลิงของเมืองขีดขิน

รวมกันเข้าไปก็จะเข้าไปก็จะเป็นกองทัพใหญ่มาก

แล้วเราก็เอากองทัพเนี่ย ไปบุกกรุงลงกากันดีกว่า

ท่านน่ะ ไม่ต้องห่วงท้าวมหาชมพูเนี่ย กลัวพระนารายณ์มาก

เขียนจดหมายบอกสิ บอกว่าเป็นพระนารายณ์อวตาร
แล้วเดี๋ยวข้าถือสารไปให้

ซึ่งพระรามนะคะพอฟังเหตุผล พระรามเป็นคนมีเหตุผลน่ะนะ
พระรามก็แบบ

เออๆๆ ยกโทษให้ก็ได้

อะๆๆ พระลักษมณ์ไปเขียนจดหมายมาซิ

เขียดจดหมายบอกท้าวมหาชมพูมา

พระลักษณ์นะคะ ก็เลยไปร่างจดหมายมาให้พระราม

คือร่างในนามพระรามนะ ก็เขียนประมาณว่า

สวัสดี ข้าพระรามเป็นพระนารายณ์อวตาร จงยกไพร่พลของเมืองเจ้ามาสวามิภักดิ์ข้าเดี๋ยวนี้

ฟังดูยิ่งใหญ่มากนะคะ

ซึ่งจดหมายนี้นะคะ ก็ให้สุครีพกับหนุมานค่ะ
เป็นทูตถือเข้าไปในเมืองชมพูค่ะ

ซึ่งถือเข้าไปถึงตอนแรกสุครีพกับหนุมานจะไปบอกว่าแบบ
มาจากเมืองอื่นที่มายึดเมืองขีดขินก็ไม่ได้ใช่ไหม

ดังนั้นก็เข้าไปบอกตามทางค่ะ ประมาณว่า

พาลีใช้ให้ข้าถือจดหมายมา ก็แน่นอนเขาเป็นเพื่อนกัน
ทหารก็ปล่อยเข้ามาในด่านนะคะ ปล่อยๆๆ ปล่อยเข้าไป

ปล่อยเข้าไปจนถึงท้องพระโรงค่ะ

แน่นอนว่าปกติพาลีกับท้าวมหาชมพูเนี่ยเท่ากันใช่ปะ

ถ้าเกิดอ่านสารก็ต้องแบบยืนเท่ากันแล้วก็อ่าน

คือสมัยก่อนอะ คนถือสารเขาถือว่า
เป็นตัวแทนของคนเขียนดจดหมาย ดังนั้น

ถ้าสมมติว่าคนเขียนจดหมายเนี่ย มีตำแหน่งสูงกว่า
ก็ต้องยืนสูงกว่าคนฟังจดหมายด้วยนะ

แต่ทีนี้สุครีพถือว่าตัวเองกำลังถือสารของพระราม
ซึ่งเป็นพระนารายณ์ แปลว่าใหญ่ว่าท้าวมหาชมพูใช่ไหม

สุครีพก็เลยเหาะขึ้นไปบนอากาศค่ะ
แล้วก็อยู่เหนือท้าวมหาชมพูแล้วอ่านสารเลย

สารที่เมื่อกี้เขียนน่ะว่าแบบ สวัสดีข้าพระราม
ข้าเป็นพระนารายณ์อวตาร เจ้าจงไปสวามิภักดิ์กับข้าซะดีๆ

คิดว่าท้าวมหาชมพูรู้สึกยังไง

คือตอนแรกท้าวมหาชมพูได้ยินก่อนว่าพระนารายณ์อวตาร
ได้ยินแค่คำว่าพระนารายณ์

ท้าวมหาชมพูนี่เป็นคนที่แบบขี้ขลาดมากนะ

ได้ยินแค่พระนารายณ์ ยังไม่ได้ยินอะไรเลย สลบก่อนละ สลบ เออะ ตายดีกว่า กลัวพระนารายณ์ กลัวมาก

แต่เสร็จปุ๊บ หลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็ไปแบบแก้ไข
ท้าวมหาชมพูฟื้นขึ้นมา

ท้าวมหาชมพูฟิ้นขึ้นมาปุ๊บก็ฟังสารใหม่อีกรอบ

ฟังอีกรอบแบบ เฮ้ย กลัวก็กลัวนะ แต่แบบ จะบ้าเหรอ
ใครจะไปเชื่อ อยู่ดีๆ มีใครก็ไม่รู้

อยู่ดีๆ ก็มาเขียนจดหมายมาแ้ล้วก็บอกว่า
ข้าเป็นพระนารายณ์อวตารจ้า

จะมายึดเมืองเจ้า

แล้ว แล้วจะให้ข้าเป็นเจ้าเมืองอยู่ดีๆ จะมายกเมืองให้

มันได้เรื่องปะเนี่ย มันไม่ make sense เลย

คือเท้ามหาชมพูอะ ก็เป็นคนที่แบบนิดนึงอะ เข้าใจปะ
คือมันก็ไม่ make sense จริงๆ อะนะคะ

ดังนั้นท้าวมหาชมพูก็เลย ทดสอบดู ลองถามสุครีพดูบอกว่า

อะ สุครีพ คือตอนนั้นเหมือนยังจำไม่ได้นะว่าเป็นสุครีพ
รู้แค่ว่าเป็นคนถือสารแบบ

อะ เจ้าทูต ไหน ถ้าบอกว่าพระนารายณ์อวตารลงมาจริงอะ
พระนารายณ์หน้าตาเป็นยังไง ไหนเล่าให้ข้าฟังซิ

คนที่เรียกข้าไปหาหน้าตาเป็นยังไง

ซึ่งแน่นอนนะคะ

สุครีพก็ต้องเล่าให้ฟัง สุครีพก็บอกว่า อ๋อพระนารายณ์เนี่ยนะ ตอนนี้ประทับอยู่ที่ภูเขาลูกนั้น

มีคนตัวเขียวท่าทางสง่างาม ถือลูกศร 3 เล่ม ที่ทรงสิทธิ์มากๆ

พอพูดไปขนาดนั้นท้าวมหาชมพูบอก

หยุด ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ เจ้าไม่รู้จักพระนารายณ์ด้วยซ้ำ

พระนารายณ์เนี่ย ข้าเรียนมาตามตำราเทววิทยาต่างๆ

เขาก็รู้กันทั่วว่าพระนารายณ์น่ะ มี 4 มือ 4 กร แล้วก็ทรง สังข์ จักร คฑา ธรนี

ไม่ได้ทรงศรซะหน่อย

ทรง สังข์ จักร คฑา ธรณี แปลว่ามีอาวุธ เป็นแบบ เป็นสังข์
เป็นจักร เป็นคฑา แล้วก็เป็นแบบไอ้ธรณีอีกอันหนึ่งนะคะ

ไม่ได้ถือศร ไม่ได้อะไร แล้วมาตัวขงตัวเขียวอะไร
พระนารายณ์ที่ไหนตัวเขียวจะบ้าเหรอ ไม่จริงฉันไม่เชื่อหรอก

แกน่ะ โม้แล้ว แกแค่อยากยึดเมืองฉันรึเปล่า

ไม่เอาๆ เอาเป็นว่าจะเป็นพระนารายณ์จริงรึเปล่า อะไรยังงี้

ฝั่งสุครีพนะคะ ก็พยายามจะโน้มน้าวค่ะ บอกว่า

พระนารายณ์จริงสิ ท่านไม่รู้เหรอตอนที่เขาประชุมกันบอกว่า พระนารายณ์จะอวตารลงมาไง

ตอนนี้พระนารายณ์อวตารลงมาแล้วนะ

ก็มีการพยายาม convince กันไป convince กันมา

คือท้าวมหาชมพูเนี่ยก็พยายามจะหักหน้าบอก ไม่เอาอะ ไม่ไป

มันก็ดูแบบไม่เคารพพระนารายณ์ใช่ปะ

แต่ถ้าจะไปก็แบบ นี่ฉันยังไม่เชื่อว่าพระนารายณ์จริงอะ

ดังนั้นท้าวมหาชมพูก็เลยพูดเป็นกลางๆ ออกไป
พูดแบบกลบเกลื่อนอะ ประมาณว่า

อ๋อ เหรอ พระนารายณ์อวตาร งั้นก็ดี
งั้นข้าฝากไปไหว้พระนารายณ์ด้วยละกัน

ประมาณว่าฝากสวัสดีพระนารายณ์หน่อยนะ

เอาประมาณว่าฝากบอกพระนารายณ์ด้วยว่าท้าวมหาชมพูฝากสวัสดี แล้วท้าวมหาชมพูก็บอกว่าจบข่าว บายจ้า

เชิญกลับไปได้

สุครีพกับหนุมานนะคะมองหน้ากันแบบ

เอาแล้ว แล้วกลับไปมือเปล่า พระรามจะต้องอารมณ์เสียแน่ๆ เลย เราจะต้องมีผลงานอะไรกลับไป

ทำยังไงดี คือทางมหาชมพูเนี่ยชัดเจนมากว่าแบบ

ไม่เคารพเลย พูดจาก็แบบไม่ไพเราะ ไม่ได้ๆ
เราจะต้องปราบพยศท้าวมหาชมพู

ดังนั้นทั้ง 2 คนนะคะ ก็เลยเนียน บอกยามบอกว่า
เออจะว่าไปคืนนี้ก็ดึกแล้ว ข้ายังไม่อยากเดินทางกลับ

คือปกติส่งสารเสร็จก็ต้องเดินทางกลับใช่ปะ

อันนี้ก็บอกว่า ดึกแล้วข้าขอค้างที่นี่คืนหนึ่งได้ปะ

แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าก็จะกลับไปตั้งแต่เช้าเลย

ซึ่งยางนะคะก็ไปบอกท้าวมหาชมพู
ท้าวมหาชมพูก็แบบมันจะต้องมีแผนอะไรแน่ๆ เลย

อะๆ แต่ถ้าจะไล่มันไป มันก็ดูแบบไม่มีน้ำใจใช่ปะ
ใครมาขอเรือนชานอาศัยก็ต้องให้

เอางี้ ให้มันอยู่แหละ แต่ว่าเราอะแบบกวดขันเฝ้าเวรยามนิดนึง

ซึ่งแน่นอนนะคะ ว่า ถามว่าเฝ้าเวรยามแล้ว
สู้หนุมานได้ไหม ก็ไม่ได้อยู่ดีค่ะ

เพราะคืนนั้นหนุมานก็สวดมงสวดมนต์ สวดคาถาต่างๆ สวดๆๆ

สวดจนกระทั่งทั้งเมืองชมพูเนี่ยนะ สลบเหมือดกันไปหมดเลย หลับสนิท เหมือนแบบเสกยานอนหลับใส่ทุกคนอะ

หลับกันทั้งเมืองเลยนะคะ

เสร็จแล้วหนุมานค่ะ ก็เหาะไปที่ปราสาทของท้าวมหาชมพู

ไปถึงก็เปิดเพดานเลย เปิดออกมาแงะออกมา เอาตัวเองลงไปแล้วก็เห็นท้าวมหาชมพูหลับอยู่ใช่ไหม

แงะทั้งเตียงเลยนะ อุ้มท้าวมหาชมพูยกไปทั้งเตียงเนี่ย
ยกเหาะออกมาแล้วก็เรียกสุครีพค่ะ

แล้วทั้งสองตัวก็เหาะพาท้าวมหาชมพูยังหลับอยู่
และยังอยู่บนเตียง

เหาะไปเฝ้าพระรามที่ภูเขาคันธมาทร์ค่ะ

ซึ่งแน่นอนนะคะว่าหลังจากที่ยกมาทั้งเตียงแล้วเนี่ย

ท้าวมหาชมพูก็ยังไม่มีการตื่นใดๆ ทั้งสิ้นเลยนะ คือเรียกได้ว่าแบกทั้งเตียงเนี่ยไปจนถึงหน้าพระรามเลยค่ะ

พระรามนะคะ พอเห็นหนุมานกับสุครีพทำแบบนั้นก็ชื่นชมหนุมานกับสุครีพอย่างใหญ่โตเลยค่ะ ประมาณว่า

ดีมาก นี่ถูกเทสฉันสุดเลยการพกเตียงไปไหนมาไหนเนี่ย
เป็นสิ่งที่ฉันชอบอยู่แล้ว

ไม่งั้นฉันคงไม่พกพระลักษมณ์ที่เป็นเตียงของฉัน
อวตารมาตรงนี้หรอก อ่าว อันนี้ไม่ใช่อันนี้วิวเติมเองนะคะ

เอาเป็นว่าพระรามดีใจค่ะ ที่สุครีพกับหนุมานเนี่ยทำภารกิจได้สำเร็จลุล่วง

เพราะว่า ถ้ามามือเปล่าเนี่ยโกรธแน่ๆ นะคะ

ดังนั้นพระรามก็เลย ให้รางวัลหนุมานค่ะ คือพระรามอาจจะแอบคิดว่าแบบหนุมานเป็นลิงที่แบบ fluffy น่าแตะน่ะนะ

เพราะว่าถ้าใครไปดูลิงพันธุ์หนุมานที่อินเดียนะคะ จะเห็นว่าแบบลิงพันธุ์หนุมานนี่ค่อนข้างขนฟูเนาะ

พระรามน่าจะแบบ อื้ม นิดนึง มีความงุ้ยนะคะ
พระรามก็เลยลูบหัวหนุมานค่ะ ตั้งแต่หัวเนี่ยจรดปลายหางเลย

ซึ่งถ้าใครจำตอนกำเนิดหนุมานได้นะคะ

ที่วิวเคยเล่าไว้ว่าแบบนานมาแล้วสักประมาณเกือบๆ
ปีที่แล้วเนี่ยนะคะ

จะจำได้ว่าหนุมานเคยโดนสาปให้พลังเนี่ยลดลงใช่ไหม

และพลังของหนุมานจะกลับมาเมื่อพระนารายณ์อวตารลงมา
ลูบตั้งแต่หัวจรดหาง

ดังนั้นนะคะ

พลังทั้งหมดของหนุมานก็เลยกลับมา
กลายเป็นหนุมานฟูลพาวเวอร์ยังงั้นเลยนะคะ

แหม่ ที่เมื่อกี้ไปสู้กับย่งสู้กับยักษ์อาละวาดถล่มปราสาทมานี่

คือยังไม่ฟูลพาวเวอร์นะจ๊ะ

เดี๋ยวเรามาดูต่อวันหลังค่ะ

ว่าหลังจากที่หนุมานฟูลพาวเวอร์แล้ว
จะไปมีวีรกงวรีกรรมอะไรอีก

แล้วท้าวมหาชมพูเมื่อฟื้นขึ้นมากลางที่ประชุมของพระราม
จะมีรีแอคชั่นยังไงค่ะ

วันนี้วิวคิดว่าคลิปของเรายาวพอสมควรแล้ว ดังนั้นขออนุญาตตัดจบเท่านี้ค่ะ

สำหรับใครที่ชื่นชอบคลิปนี้นะคะ อย่าลืม

กด like เป็นกำลังใจให้วิว
แล้วก็กด share เพื่อชวนเพื่อนๆ มาดูด้วยกันนะคะ

แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้านะคะ

บ๊าย บาย

สวัสดีค่ะ

แหม่ะ ปล่อยอะไรไว้บ้าง รู้สึกจะปลดปล่อยความติ่งของตัวเองไปหลายเรื่องเลยทีเดียวนะแบบ

เซเลอร์มูนก็มา star craft ก็มา อะไรยังงี้

ดีนะ ไม่แบบว่า ตอนที่บอกว่ายกมาทั้งเตียงคือ ไม่บอกว่าเป็นเดอะซงเดอะซิม ใส่สูตรยกของได้อะไรมาด้วยนะ

แหม่ หลุดออกมาเยอะนะคะว่าชอบอะไรบ้าง รู้อายุหมดเลย
ดังนั้นช่างมันเถอะค่ะ

คลิปนี้ลาไปก่อนละกันนะคะ บ๊าย บาย สวัสดีค่ะ