-
Not Synced
ข่าวเรื่องพระมีเรื่อยๆ
-
Not Synced
ที่ไม่เป็นข่าวก็คงมีอีกเยอะเหมือนกัน
-
Not Synced
คงมีไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
พวกเราภาวนา เราก็จะรู้ว่า
-
Not Synced
กิเลสไม่ใช่เรื่องสู้ง่าย
-
Not Synced
พวกเราสู้กับกิเลส
-
Not Synced
ฉะนั้นเราตั้งอกตั้งใจสู้ มันพลาดง่ายๆ เลย
-
Not Synced
ไม่ใช่สู้ชนะมันง่าย
-
Not Synced
เวลาเราเห็นคนพลาด ก็อย่าไปซ้ำเติม
-
Not Synced
ก็มีเรื่อยๆ
-
Not Synced
พูดให้ฟังหลายที กิเลสไม่กลัวผ้าเหลือง
-
Not Synced
กิเลสไม่กลัวตำแหน่ง
-
Not Synced
มีสมณศักดิ์อะไร มีตำแหน่งอะไร
-
Not Synced
กิเลสไม่ได้กลัวสิ่งเหล่านั้น
เป็นเรื่องธรรมดา
-
Not Synced
เหมือนคนมาบวช
-
Not Synced
เหมือนนักรบเข้าสนามรบสู้กิเลส
ไม่ได้รบกับคนอื่น
-
Not Synced
ในสนามรบก็มีคนล้มหายตายจากกลางทาง
เรื่องธรรมดา
-
Not Synced
อย่างคนมาบวชไปไม่รอดก็สึกไป
หรือถูกจับสึกไป
-
Not Synced
บางกรณีไม่ต้องสึก
-
Not Synced
อย่างถ้าปาราชิก ขาดจากความเป็นพระทันที
-
Not Synced
เราไม่ได้มีหน้าที่ไปตัดสินคนอื่น
-
Not Synced
เรามีหน้าที่ดูบทเรียน
-
Not Synced
ทำไมเขาพลาด เราก็ดูบทเรียนของเขา
-
Not Synced
ก็น่าสงสาร บางทีพวกที่บวชพระมา
-
Not Synced
การศึกษาทางโลกอะไร ไม่ค่อยมี มีน้อย
-
Not Synced
ไม่เข้าใจโลกเท่าไร
-
Not Synced
ทำอะไรก็เอาง่ายๆ รู้สึกง่ายๆ
-
Not Synced
ผิดระเบียบ ผิดกฎหมายอะไร บางทีไม่รู้เรื่อง
-
Not Synced
บางทีรู้แต่สู้กิเลสไม่ได้
-
Not Synced
พวกเราก็ยังมีกิเลส เราก็ดูกิเลสของเราไว้
-
Not Synced
ต้องถือเป็นเรื่องที่ดี
-
Not Synced
ที่พระอาบัติอะไรอย่างนี้ แล้วถูกออกไป
-
Not Synced
ศาสนาก็จะได้ดูสะอาดขึ้น
ขจัดสิ่งสกปรกไปได้ส่วนหนึ่ง
-
Not Synced
ส่วนที่เหลือสัดส่วนมันก็จะดูดีขึ้น
-
Not Synced
อันนี้ก็แง่ดี ไม่ใช่แง่ร้าย
-
Not Synced
ยิ่งปราบอลัชชีออกไปได้หมด
แหม ศาสนางดงามเลย
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นอย่าไปตกใจกับข่าวพวกนี้
-
Not Synced
ข่าวพวกนี้ ดี ไม่ใช่ไม่ดี
-
Not Synced
ถ้าเราภาวนาเราจะรู้
กิเลสไม่ใช่เรื่องที่สู้ง่าย
-
Not Synced
ไม่อย่างนั้นมันไม่ครองโลกหรอก
-
Not Synced
คนที่ตั้งใจสู้ ส่วนหนึ่งยังสู้ไม่ไหว
-
Not Synced
แล้วคนที่ไม่ตั้งใจสู้
-
Not Synced
อย่างมาบวชเป็นอาชีพอันหนึ่ง
-
Not Synced
ไม่มีอะไรทำ มาบวช
-
Not Synced
คือไม่ได้มุ่งอยากได้พระนิพพาน
-
Not Synced
พวกนี้ไม่คิดสู้ โอกาสแพ้ก็สูง
-
Not Synced
หลวงพ่อก็เคยเจอพระ แรกๆ ก็อยากนิพพาน
-
Not Synced
หลังๆ รู้สึกยากไปก็เลยไม่เอา
-
Not Synced
สะเปะสะปะไปวันๆ หนึ่ง
-
Not Synced
พลาดเข้าวันไหนก็อยู่ไม่ได้
-
Not Synced
ดูกิเลสของเราเอง
-
Not Synced
กิเลสผุดขึ้นกลางอกเรา
ผุดทั้งวัน เหมือนน้ำผุด
-
Not Synced
เคยเห็นน้ำผุดไหม น้ำมันผุดๆๆ ขึ้นมา
-
Not Synced
ไม่ต่างกันเท่าไร มันผุดอยู่ตลอดวัน
-
Not Synced
ถ้าเราไม่รู้ไม่เห็นว่ากิเลสมันผุดขึ้นมา
-
Not Synced
เราไม่เห็น ก็ครอบงำจิตใจเราได้
-
Not Synced
กระทบเข้ามาถึงจิตใจ
-
Not Synced
พอจิตใจเราเศร้าหมอง ถูกกิเลสครอบงำ
-
Not Synced
ความคิดของเราก็เป็นไปตามอำนาจกิเลส
-
Not Synced
คำพูดของเราก็เป็นไปตามอำนาจกิเลส
-
Not Synced
การกระทำของเราก็เป็นไปตามอำนาจกิเลส
-
Not Synced
มันเสียหมด
-
Not Synced
เสียตั้งแต่จิตของเรา
-
Not Synced
พอจิตเราถูกกิเลสครอบงำ
-
Not Synced
คำพูดของเรา การกระทำของเรา
ก็พลอยเสียไปหมด
-
Not Synced
ฉะนั้นคอยรู้เท่าทันกิเลสในใจของตัวเอง
-
Not Synced
ไม่ใช่เรื่องยากที่จะรู้
-
Not Synced
หลวงปู่ดูลย์ท่านเคยบอกว่า
-
Not Synced
“การดูจิตไม่ใช่เรื่องยาก
การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องยาก
-
Not Synced
มันยากสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติ” ท่านว่าอย่างนี้
-
Not Synced
ผู้ไม่ปฏิบัติกับผู้ปฏิบัติต่างกันนิดเดียว
-
Not Synced
ส่วนที่เหมือนกันระหว่าง
ผู้ปฏิบัติกับผู้ไม่ปฏิบัติ ก็คือ
-
Not Synced
มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
-
Not Synced
มีเหมือนกัน อายตนะทั้ง 6
-
Not Synced
มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
แล้วก็มีการกระทบอารมณ์
-
Not Synced
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
-
Not Synced
กระทบรูป กระทบเสียง กระทบกลิ่น กระทบรส
-
Not Synced
กระทบสิ่งที่มาสัมผัสร่างกาย
-
Not Synced
กระทบธัมมารมณ์ คือสิ่งที่รู้ด้วยใจ
-
Not Synced
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
-
Not Synced
อย่างละ 6 อย่างละ 6 เป็นอายตนะภายใน 6
-
Not Synced
คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
-
Not Synced
อายตนะภายนอก 6 คือรูป เสียง
กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์
-
Not Synced
กระทบกัน
-
Not Synced
พอกระทบกัน ก็จะเกิดความรู้สึกตามมา
-
Not Synced
เกิดความปรุงแต่งในใจเรา
-
Not Synced
ความปรุงแต่งบางอย่างไม่ใช่กิเลส
-
Not Synced
อย่างพอจิตมันกระทบอารมณ์
ที่ไม่ถูกอกถูกใจ
-
Not Synced
มันเกิดความไม่แช่มชื่นในใจ
เกิดความทุกข์ในใจ
-
Not Synced
ทุกขเวทนาเกิดขึ้น
-
Not Synced
หรือกระทบอารมณ์ที่ดี
อย่างเราฟังเทศน์ ฟังธรรม
-
Not Synced
ได้กระทบอารมณ์ที่ดี
-
Not Synced
ใจเรามีความสุขขึ้นมา
-
Not Synced
ความสุขความทุกข์อะไรไม่ใช่กิเลส
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นไม่จำเป็น
จะต้องไปหาทางละอะไรมัน
-
Not Synced
มันเป็นเขาเรียกวิบาก
-
Not Synced
มันเป็นผลของกรรมเก่าที่เราสร้างมา
-
Not Synced
เราทำกรรมเก่ามาดี เราก็กระทบแต่เรื่องดีๆ
-
Not Synced
กระทบเรื่องที่ดีเราก็มีความสุข
-
Not Synced
มันเป็นกระบวนการธรรมชาติธรรมดา
-
Not Synced
กรรมเก่าให้ผลมาในทางไม่ดี
เรากระทบอารมณ์ไม่ดี
-
Not Synced
จิตใจเรามีความทุกข์ขึ้นมา
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นจิตใจจะสุข
จิตใจจะทุกข์ ไม่ต้องไปห้ามมัน
-
Not Synced
มันเป็นวิบาก วิบากต้องรับเอา
ไม่ใช่วิบากหาทางไปละมัน
-
Not Synced
ที่เราต้องละคือละกิเลส ไม่ใช่ละวิบาก
-
Not Synced
พอจิตใจเรา พอตา หู จมูก
ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์
-
Not Synced
จิตเราก็เกิดความรู้สึกสุข รู้สึกทุกข์
-
Not Synced
อารมณ์บางอย่างไม่รุนแรง ไม่ชัดเจน
-
Not Synced
จิตใจเราก็ไม่สุขไม่ทุกข์
-
Not Synced
ให้เรารู้ไป จิตใจเรามีความสุขให้รู้
-
Not Synced
จิตใจเรามีความทุกข์ให้รู้
-
Not Synced
จิตใจไม่สุขไม่ทุกข์ก็ให้รู้ไป
-
Not Synced
ฝึกอย่างนี้ ก็เรียกว่าเราดูจิตได้แล้ว
-
Not Synced
เพราะว่าความสุขความทุกข์อะไรนี้
มันเกิดอยู่กับจิตของเรา
-
Not Synced
อันนี้พูดถึงความสุขความทุกข์ทางใจ
-
Not Synced
ความสุขความทุกข์ทางกาย
มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
-
Not Synced
อันนั้นก็เป็นวิบากเหมือนกัน
-
Not Synced
ถูกเขาชกหน้าแล้วเจ็บ
-
Not Synced
ฟันหัก เจ็บ โดนซ้อม
-
Not Synced
อันนั้นก็เป็นวิบาก ถูกซ้อม
-
Not Synced
เจ็บขึ้นมาก็เป็นวิบากก็ต้องรับ
-
Not Synced
อย่างเราไม่สบายทางร่างกาย ก็ต้องรับไป
-
Not Synced
หาทางแก้ไขไป
-
Not Synced
โรคบางอย่างรักษาได้ บางอย่างก็รักษาไม่ได้
-
Not Synced
ถ้าใจเรารับสภาพ
-
Not Synced
ความเจ็บปวดมันอยู่ที่ร่างกาย
ไม่เข้ามาที่จิต
-
Not Synced
ความเจ็บปวดในร่างกายเป็นโผฏฐัพพะ
เรารู้ด้วยร่างกาย
-
Not Synced
พอกระทบอารมณ์ตรงนี้ ทางร่างกายกระทบ
-
Not Synced
มันก็ส่งต่อเข้าไปที่ใจ
-
Not Synced
พอร่างกายเราเจ็บปวด
-
Not Synced
ใจเราก็เกิดความทุกข์ทางใจเกิดขึ้น
-
Not Synced
เวลาเราสบายดี หรือเราเห็นรูปที่พอใจ
-
Not Synced
ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ได้รส ได้สัมผัสที่ดี
-
Not Synced
พออกพอใจ จิตใจเราก็มีความสุข
-
Not Synced
เราจะได้อารมณ์ที่พอใจไม่พอใจ มันเป็นวิบาก
-
Not Synced
เป็นผลของกรรมที่เราเคยสร้างมา
-
Not Synced
อย่างในสภาวะอันเดียวกัน หลวงพ่อเคยเจอ
-
Not Synced
อย่างไปตามถนนเห็นรถชนกัน
-
Not Synced
คนที่นั่งรถไปด้วยกันเขาบอก
โอ้ ตายเลย คนนี้ตาย
-
Not Synced
ศพน่ากลัวมาก
-
Not Synced
คนนี้ไม่อยากดู ไม่อยากเห็น
-
Not Synced
ก็เบือนหน้าหนีไปอยู่บนฟุตบาทข้างทาง
-
Not Synced
กะว่าจะไม่ดูตรงที่เขาชนกัน
-
Not Synced
ปรากฎว่าเขายกศพมาไว้ตรงนี้แล้ว
-
Not Synced
อีกคนหนึ่งมันไม่กลัว
มันไปดูตรงที่รถชน ไม่มีศพแล้ว
-
Not Synced
มันเลือกไม่ได้ว่า
ตาจะเห็นรูปที่ดี หรือรูปที่ไม่ดี
-
Not Synced
หูจะได้ยินเสียงที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจ
เลือกไม่ได้
-
Not Synced
จมูกจะได้กลิ่นที่ถูกใจหรือไม่ถูกใจ
เลือกไม่ได้
-
Not Synced
อย่างบางคนมี คนในวัดนี้ล่ะ
-
Not Synced
คนอื่นเขาได้กลิ่นเหม็น
-
Not Synced
คนนี้มีบุญเยอะ
อะไรที่เหม็นๆ ไม่ค่อยได้กลิ่น
-
Not Synced
ได้แต่กลิ่นหอมๆ
-
Not Synced
มีวิบากที่ดี ไม่มีวิบากที่เลว
-
Not Synced
ก็เลยไม่ได้กลิ่นที่ไม่ดี
-
Not Synced
อยู่แถวนี้ในห้อง อยู่ในห้องนี้ตอนนี้
-
Not Synced
คือคุณแม่ อะไรที่เหม็นๆ ไม่ค่อยได้กลิ่น
-
Not Synced
จะได้กลิ่นหอมๆ
-
Not Synced
เราเลือกไม่ได้ว่าจะได้กลิ่นอะไร
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นเวลา
-
Not Synced
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์
เราเลือกไม่ได้ เลือกอารมณ์ไม่ได้
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นกระทบแล้ว มันเกิดปฏิกิริยา
-
Not Synced
เกิดความรู้สึกสุข รู้สึกทุกข์
-
Not Synced
รู้สึกไม่สุขไม่ทุกข์ขึ้นในใจ เราก็เลือกไม่ได้
-
Not Synced
อย่างถูกเขาชก
เป็นผัสสะทางกาย เรียกโผฏฐัพพะ
-
Not Synced
แล้วมันก็ พอร่างกายเจ็บปวด ใจไม่ชอบ
-
Not Synced
เป็นอารมณ์ที่ใจไม่ชอบ
-
Not Synced
ใจมีความทุกข์ขึ้นมา
-
Not Synced
จากร่างกายที่เจ็บ
มันเข้ามาสู่จิตใจที่มีความทุกข์
-
Not Synced
คนที่ไม่เคยภาวนา
-
Not Synced
เวลาร่างกายเจ็บปวด
ใจก็จะมีความทุกข์ไปด้วย
-
Not Synced
พระพุทธเจ้าบอกว่าสาวกของท่าน
ที่ตั้งอกตั้งใจปฏิบัติ
-
Not Synced
เวลาร่างกายมีความทุกข์
ความทุกข์อยู่เฉพาะร่างกาย
-
Not Synced
เข้ามาไม่ถึงจิตใจ จิตใจมันพ้นออกไปแล้ว
-
Not Synced
ฉะนั้นที่เราฝึก เราฝึก
-
Not Synced
ไม่ใช่เพื่อว่าร่างกายเราจะมีแต่ความสุข
-
Not Synced
หรือว่าเราจะต้องเห็นแต่รูปที่ดี
-
Not Synced
เราไม่ได้ฝึกเพื่อจะเห็นรูปที่ดี
-
Not Synced
เพื่อได้กลิ่น ได้รส ได้สัมผัสที่ดี
-
Not Synced
คิดนึกอะไรก็คิดแต่เรื่องดีๆ
เราไม่ได้ฝึกเพื่อสิ่งเหล่านั้น
-
Not Synced
เราฝึกเพื่อจะเรียนรู้ลงไปอีก
-
Not Synced
เวลาตา หู จมูก ลิ้น กาย
ใจกระทบอารมณ์ที่พอใจ
-
Not Synced
จิตใจเรามีความสุขให้เรารู้ทัน
-
Not Synced
เราเลือกไม่ได้
-
Not Synced
มันจะมีความสุขก็ห้ามมันไม่ได้
-
Not Synced
กระทบอารมณ์ที่ไม่ดี
จิตใจมีความทุกข์ให้เรารู้ทัน
-
Not Synced
ถ้าเราไม่รู้ทันความรู้สึก
สุข ทุกข์ เฉยๆ ในใจเรา
-
Not Synced
จิตใจมันจะทำงานต่อไปอีก
-
Not Synced
พอมีความสุข ความยินดีพอใจ
คือราคะก็จะแทรก
-
Not Synced
แทรกอยู่ในความสุข อย่างเราสบายใจ
-
Not Synced
เราก็จะมีความสุข มีความสุข สบายใจ
-
Not Synced
ความยินดีพอใจก็จะเกิดขึ้น
-
Not Synced
ราคะแทรกตามความสุข
-
Not Synced
เวลาจิตใจเราไม่มีความสุข
โทสะมันจะแทรกตามเข้ามา
-
Not Synced
เวลาอารมณ์ไม่ชัดเจน บางทีโมหะก็แทรก
-
Not Synced
โมหะเป็นปรมาจารย์ของกิเลส
-
Not Synced
จะมีราคะได้ก็ต้องมีโมหะด้วย
-
Not Synced
จะมีโทสะได้ก็ต้องมีโมหะด้วย
-
Not Synced
แล้วโมหะอยู่เดี่ยวๆ ก็ได้ด้วย
-
Not Synced
เกิดร่วมกับราคะก็ได้ เกิดร่วมกับโทสะก็ได้
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นกิเลสเกิดเมื่อไร
จะต้องมีโมหะทุกคราวไป
-
Not Synced
โมหะคือความหลง
-
Not Synced
ความไม่รู้ความจริง ความไม่มีปัญญา
-
Not Synced
ไม่เห็นความจริงของรูปนามกายใจ
-
Not Synced
พอความสุขในใจเกิดขึ้น ราคะก็แทรกเข้ามา
-
Not Synced
ความทุกข์ในใจเกิดขึ้น โทสะก็แทรกเข้ามา
-
Not Synced
ที่จริงก็คือ
-
Not Synced
เวลามีความสุขในใจ
ราคะและโมหะก็แทรกอยู่
-
Not Synced
เวลามีความทุกข์ในใจ
โทสะกับโมหะก็แทรกอยู่
-
Not Synced
จะเกิดร่วมกันอย่างนี้
-
Not Synced
โมหะคือความหลง
ถ้าเราไม่หลง กิเลสเกิดไม่ได้
-
Not Synced
จับหลักตัวนี้ให้แม่นเลย
-
Not Synced
ถ้าเราไม่หลง เรามีสติอยู่
กิเลสจะมีไม่ได้เด็ดขาดเลย
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นเรามาพัฒนาสติ
-
Not Synced
ไม่ใช่พัฒนาว่าทำอย่างไร จะเอาชนะกิเลสได้
-
Not Synced
เราพัฒนาสติของเรา
-
Not Synced
พอเรามีสติขึ้นมา กิเลสจะไม่มีอัตโนมัติ
-
Not Synced
ฉะนั้นเราไม่ภาวนาเพื่อละกิเลส
-
Not Synced
แต่เราภาวนาเพื่อเจริญสติ
-
Not Synced
ทันทีที่สติเกิด กิเลสดับอัตโนมัติ
-
Not Synced
ฉะนั้นไม่มีกิเลสจะให้ละ
-
Not Synced
กิเลสมันดับอัตโนมัติ เมื่อเราเกิดสติ
ฉะนั้นที่ฝึก ฝึกสติ
-
Not Synced
หลักสูตรในการฝึกสติเรียกสติปัฏฐาน
-
Not Synced
เราฝึกตามหลักนี้ สติของเราก็จะดีขึ้น
-
Not Synced
พอสติดีขึ้น สมาธิก็จะดีขึ้น
-
Not Synced
เมื่อสติและสมาธิทำงานคู่กันได้อย่างดี
ปัญญาก็จะเกิดขึ้น
-
Not Synced
จะรู้แจ้งเห็นจริงใน
กองขันธ์ 5 รูปนามกายใจนี้
-
Not Synced
พอรู้แจ้งเห็นจริงแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
-
Not Synced
จิตจะปล่อยวางความยึดมั่น
ถือมั่นในร่างกายจิตใจนี้
-
Not Synced
พอปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่น
-
Not Synced
เราก็จะไม่ทุกข์เพราะกาย
เพราะใจของเราอีกต่อไป
-
Not Synced
ใจมันก็อยู่เหนือขันธ์ ไม่ทุกข์ด้วยแล้ว
-
Not Synced
เราฝึกสติ
-
Not Synced
ถ้าเราไม่มีสติ พอเกิดความรู้สึกสุข
-
Not Synced
ราคะกับโมหะก็แทรก
-
Not Synced
เกิดความรู้สึกทุกข์
โทสะกับโมหะก็แทรกเข้ามาในใจ
-
Not Synced
ไม่สุขไม่ทุกข์ ก็หลงๆ
เผลอๆ เพลินๆ โมหะก็ครอบเอา
-
Not Synced
เข้าใจอะไรต่ออะไรคลาดเคลื่อนไป
-
Not Synced
พอจิตเราถูกกิเลสแทรก
-
Not Synced
สิ่งที่จะตามมาคือความอยาก
-
Not Synced
มันจะมีความอยากแล้ว
-
Not Synced
อย่างเรากระทบอารมณ์ที่พออกพอใจ
เรามีความสุข
-
Not Synced
จิตใจมันจะอยากให้ความสุขนั้นอยู่นานๆ
-
Not Synced
อยู่ตลอดไปได้ยิ่งดี
-
Not Synced
หรือเวลาความสุขมันหายไป จิตมันจำได้
-
Not Synced
มันมีสัญญา มันจำความสุขนั้นได้
-
Not Synced
มันจะหิวความสุข
-
Not Synced
อยากให้ความสุขนั้นกลับมา
-
Not Synced
ตรงที่อยากได้อารมณ์ที่ชอบอกชอบใจ
-
Not Synced
เรียกกามตัณหา มีกามตัณหา
-
Not Synced
อยากได้อารมณ์ที่พอใจ
-
Not Synced
พอได้อารมณ์ที่พอใจแล้ว อยากให้มันคงอยู่
-
Not Synced
เรียกว่าภวตัณหา
-
Not Synced
ถ้ากระทบอารมณ์แล้ว
มีความทุกข์เกิดขึ้น โทสะแทรก
-
Not Synced
อยากให้อารมณ์นั้นหมดไปสิ้นไป
เขาเรียกมีวิภวตัณหาเกิดขึ้น
-
Not Synced
มีความอยากตามมา
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นตอนที่ตา หู จมูก ลิ้น
กาย กระทบอารมณ์ เรียกว่าผัสสะ
-
Not Synced
เราห้ามไม่ได้ เลือกไม่ได้
ว่าจะกระทบอารมณ์อะไร
-
Not Synced
กระทบแล้วจะเกิดเวทนา
ที่เป็นสุข หรือทุกข์ หรือไม่สุขไม่ทุกข์
-
Not Synced
เราก็เลือกไม่ได้ มันเป็นวิบาก
-
Not Synced
พอเกิดเวทนาแล้ว จิตเรามีอนุสัยอยู่
-
Not Synced
มีกรรม ความเคยชินที่จะชั่วอยู่
-
Not Synced
กิเลสมันก็จะปรุงขึ้นมา
-
Not Synced
มันจะแทรกตัวเข้ามา
-
Not Synced
ราคะ โทสะ โมหะ มันก็แทรกเข้ามา
-
Not Synced
เมื่อกิเลสมันทำงานขึ้นมา
ก็ผลักดันจิตให้ดิ้นรน
-
Not Synced
มันจะเกิดความอยากขึ้นมา
-
Not Synced
อยากได้อารมณ์ที่ดี
อยากรักษาอารมณ์ที่ดีเอาไว้
-
Not Synced
อยากให้อารมณ์ที่ไม่ดีหมดไปสิ้นไป
-
Not Synced
ทันทีที่ความอยากเกิด
ความดิ้นรนในใจจะเกิดขึ้น
-
Not Synced
ความดิ้นรนในใจเรียกว่าภพ
-
Not Synced
ความดิ้นรนของจิตใจ
-
Not Synced
ตัณหาเป็นผู้สร้างภพ พูดย่อๆ
-
Not Synced
ถ้ารายละเอียดมันจะแตกแขนงออกไปอีก
-
Not Synced
ตัณหาทำให้เกิดอุปาทาน อะไรคืออุปาทาน
-
Not Synced
อุปาทานคือตัณหาที่มีกำลังแรง
-
Not Synced
ก็คือตัวโลภะตัวเดียวกัน แต่มันแรง
-
Not Synced
มันเข้าไปจับอย่างรุนแรง
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นเวลาเกิดความอยากขึ้นมา
ใจมันจะดิ้น
-
Not Synced
อย่างเราอยากได้มือถือรุ่นใหม่ ใจเราดิ้นไหม
-
Not Synced
ลองนึกย้อนดู เวลาเรา
-
Not Synced
เห็นกระเป๋าสวยๆ อยากได้ ใจเราดิ้นไหม
-
Not Synced
ใจมันหิว ใจมันหิวอารมณ์ มันอยากได้
-
Not Synced
มันดิ้นรน ด้วยอำนาจของกามตัณหา
อยากได้อารมณ์ที่พอใจ
-
Not Synced
เห็นคนที่เราเกลียด
-
Not Synced
อยากให้มันหายไปจากโลกไหม
-
Not Synced
อยากให้มันไปให้พ้นเราไหม
-
Not Synced
พอความอยากเกิด ใจมันก็เต้นเลย ดิ้นๆๆๆ
-
Not Synced
ถ้าถีบมันได้จะถีบเลย ใจมันดิ้นไป
-
Not Synced
ด้วยกำลังของโทสะ
ด้วยกำลังของราคะ ด้วยกำลังของโมหะ
-
Not Synced
ใจมันก็ดิ้นๆ
-
Not Synced
ทันทีที่ใจเราดิ้น
-
Not Synced
ตรงนี้เรียกว่ามันสร้างภพแล้ว
-
Not Synced
สิ่งที่ตามมาคือความทุกข์
-
Not Synced
นี่พูดย่อๆ
-
Not Synced
ที่จริงจากทุกข์จะไปสู่ชาติ
-
Not Synced
ชาติคือการที่จิตหยิบฉวย
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา
-
Not Synced
ทีแรกตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย
-
Not Synced
เป็นวิบาก เป็นของเก่า ได้มาด้วยกรรมเก่า
-
Not Synced
แต่พอจิตใจเราดิ้นรนขึ้นมา
-
Not Synced
มันจะมีการตะครุบเอา หยิบฉวย
-
Not Synced
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา
-
Not Synced
ไม่ได้หยิบทีละ 6 อันหรอก
มันก็หยิบทีละอันนั่นล่ะ
-
Not Synced
เวลาอยากเห็นรูป มันก็ใช้ยึดตาขึ้นมา
-
Not Synced
หยิบฉวยตาขึ้นมาใช้งาน
-
Not Synced
ตรงนี้หลวงพ่อไม่อธิบายละเอียด
มันละเอียดเกิน
-
Not Synced
ถ้าเราภาวนายังไม่ถึง เราจะไม่เห็น
-
Not Synced
การที่จิตหยิบฉวย
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา
-
Not Synced
ตัวที่ดูยากที่สุด
คือการที่จิตหยิบฉวยจิตขึ้นมา
-
Not Synced
ตราบใดที่ไม่ใช่พระอรหันต์
จิตยังหยิบฉวยจิตขึ้นมา
-
Not Synced
การที่จิตหยิบฉวย
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา
-
Not Synced
หรือจิตหยิบฉวยใจ หยิบฉวยจิตขึ้นมา
-
Not Synced
เรียกว่าชาติ
-
Not Synced
ชาติก็คือการที่จิตมันไปหยิบฉวย
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา
-
Not Synced
เรียกว่าชาติ
-
Not Synced
ทันทีที่มันหยิบฉวยขึ้นมา
-
Not Synced
ความทุกข์ก็จะเข้ามาสู่จิตใจเรียบร้อยแล้ว
-
Not Synced
ฉะนั้นชาติเป็นปัจจัยให้เกิดความทุกข์
ในจิตใจของเรา
-
Not Synced
ธรรมะของพระพุทธเจ้าละเอียดลึกซึ้ง
-
Not Synced
พิสูจน์ได้ด้วยการปฏิบัติ
-
Not Synced
ถึงไปท่องตำรา
-
Not Synced
เรียนนักธรรมเอก
เรียนเปรียญเท่านั้นเท่านี้
-
Not Synced
แต่ถ้าไม่เคยเห็นสภาวะ สู้กิเลสไม่ได้หรอก
-
Not Synced
เห็นคนแพ้กิเลส สงสาร อย่าไปด่าเขา
-
Not Synced
ทุกวันนี้สังคมเราเลวร้าย
-
Not Synced
พอเห็นคนไหนพลาด ด่าเอาๆ
-
Not Synced
มันไปกระตุ้นให้คนอื่นอยากด่าตาม
-
Not Synced
อันนี้เป็นมุสาวาทชนิดหนึ่ง
-
Not Synced
เป็นการพูดส่อเสียด
-
Not Synced
ทำให้เขาเกลียดชังกันมากขึ้น
-
Not Synced
ทำกิเลสของคนอื่นที่ยังไม่เกิดให้เกิด
-
Not Synced
ทำกิเลสของคนอื่นที่มีอยู่แล้วให้รุนแรงขึ้น
-
Not Synced
ทำกุศลที่เขามีอยู่ให้เสื่อมไป
-
Not Synced
แล้วก็ปิดกั้นกุศลใหม่ของเขาไม่ให้เกิดขึ้น
-
Not Synced
ขณะนั้นใจเขาดิ้นเร่าๆๆๆ ไปด้วย
-
Not Synced
ฉะนั้นเรา หน้าที่เราก็
ดูแลรักษาจิตใจของเราให้ดี
-
Not Synced
ถ้าเราดูแลรักษาจิตใจของเราได้ดี
-
Not Synced
เราก็จะรู้ โอ้ ธรรมะที่พระพุทธเจ้าสอนนี้
-
Not Synced
เป็นระเบียบ เป็นระบบ งดงามมาก
-
Not Synced
มีเหตุมีผล มีเหตุอย่างนี้ มีผลอย่างนี้
-
Not Synced
ผลอย่างนี้กลายเป็นเหตุ
ให้เกิดผลอีกอย่างหนึ่ง
-
Not Synced
เป็นเหตุกับผล
-
Not Synced
เหตุกับผลนี้คาบเกี่ยวซับซ้อนไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
สังสารวัฏถึงฝ่าออกไปยาก
-
Not Synced
มันละเอียด มันลึกซึ้งมาก
-
Not Synced
ฉะนั้นหัดสังเกตใจตัวเองบ่อยๆ
-
Not Synced
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระทบอารมณ์
-
Not Synced
จิตใจเรามีความสุขให้รู้
-
Not Synced
จิตใจเรามีความทุกข์ให้รู้
-
Not Synced
จิตใจไม่สุขไม่ทุกข์ให้รู้
-
Not Synced
หัดอย่างนี้ไป พอไหวไหมแค่นี้
-
Not Synced
หลวงปู่ดูลย์บอกไม่ยาก
ยากเฉพาะผู้ไม่ปฏิบัติ
-
Not Synced
เราเห็นดอกไม้สวย
-
Not Synced
คนที่เขาไม่ปฏิบัติ เขาก็ไปเพลินดูดอกไม้
-
Not Synced
จิตเกิดราคะแล้วไม่เห็น
-
Not Synced
เกิดสุขเวทนา แล้วก็เกิดราคะ มองไม่เห็น
-
Not Synced
ของเราผู้ปฏิบัติเห็นดอกไม้สวย
-
Not Synced
เราก็เห็นเหมือนที่คนอื่นเห็นนั่นล่ะ
-
Not Synced
แต่พอเห็นแล้วจิตใจเรามีความสุข
-
Not Synced
เรารู้ว่าจิตใจเรามีความสุข
-
Not Synced
จิตใจเราชอบ มีราคะเกิดขึ้น
-
Not Synced
เรารู้ว่าจิตใจเรามีราคะเกิดขึ้น
-
Not Synced
แค่นี้ล่ะ มันจะยากอะไรนักหนา
-
Not Synced
มันยากเพราะไม่ยอมดู
-
Not Synced
มัวแต่ดูของข้างนอก
ดูรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
-
Not Synced
หรือคิดนึกไปสะเปะสะปะไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
แทนที่จะย้อนมาดูปฏิกิริยาในจิตในใจของเรา
-
Not Synced
ฉะนั้นต่อไปนี้ มีผัสสะ ไม่ห้าม
-
Not Synced
แต่ว่าบางทีก็ต้องสำรวมสำหรับมือใหม่
-
Not Synced
มือใหม่หัดปฏิบัติต้องสำรวม
-
Not Synced
อะไรที่ดูแล้วเกิดกิเลส ก็อย่าไปดูมัน
-
Not Synced
อะไรที่ดูแล้วเกิดกุศลก็ดูมันบ่อยๆ
-
Not Synced
อะไรที่ได้ยินแล้วเกิดกิเลส ก็อย่าไปฟังมัน
-
Not Synced
อย่างคนเขาด่ากัน อย่าไปฟัง เสียเวลา
-
Not Synced
อะไรที่ได้ยินแล้วเกิดกุศลก็ฟังไป
-
Not Synced
ค่อยๆ เลือก ค่อยๆ ดูไป สังเกตไป
-
Not Synced
เรื่องอะไรที่คิดแล้วกิเลสเกิด
ก็อย่าไปคิดมัน
-
Not Synced
เปลี่ยนมาคิดเรื่องที่เป็นกุศลแทน
-
Not Synced
ฝึกตัวเอง ฝึกไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
สุดท้ายเราจะแตกต่างกับคนทั่วไป
-
Not Synced
คนทั่วไปมันก็ติดอยู่กับโลกเท่านั้น
-
Not Synced
ติดอยู่ในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ในสัมผัส
-
Not Synced
ในเรื่องราวที่มันติดอกติดใจไป
-
Not Synced
ในขณะที่ใจเราเป็นอิสระมากขึ้นๆ
-
Not Synced
ยิ่งใจเราเป็นอิสระเมื่อไร
-
Not Synced
ใจมันจะโปร่ง โล่ง เบา มีความสุข
-
Not Synced
มีความสุขที่ไม่มีอะไรเหมือน
-
Not Synced
คนในโลกอยากได้ความสุข
-
Not Synced
ก็เลยวิ่งหารูป เสียง กลิ่น รส
โผฏฐัพพะ ธัมมารมณ์ที่พอใจ
-
Not Synced
วิ่งหาแทบเป็นแทบตาย
-
Not Synced
ทั้งๆ ที่รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
-
Not Synced
ที่เราจะหามาได้ จะดีหรือจะไม่ดี
-
Not Synced
อยู่ที่กรรมของเรา
วิบากเก่าของเราให้ผลมา
-
Not Synced
ไม่ใช่เลือกได้ ไม่ใช่เลือกได้
-
Not Synced
แต่ต้องสำรวม พยายามสำรวมไว้
-
Not Synced
อะไรที่ยุ่งด้วยแล้วยั่วกิเลส เลี่ยงๆ เสีย
-
Not Synced
อะไรที่เข้าไปสัมผัสแล้วกุศลเจริญ
กิเลสเสื่อมไป เอาอันนั้น
-
Not Synced
สัมผัสบ่อยๆ
-
Not Synced
แค่คุยกับเพื่อน คุยกันแล้วก็เมาท์ มอย มัน
-
Not Synced
มีทั้งเมาท์ เมาท์มอย
มัน แล้วก็มั่ว แล้วก็มึน
-
Not Synced
สุดท้ายลงไปที่มึน
-
Not Synced
มึนคือหัวหมุนไปเลย บ้าๆ บอๆ ไร้สาระ
-
Not Synced
อย่างนี้ ถ้าใครมาชวนเราคุยเรื่องไร้สาระ
-
Not Synced
เลี่ยงได้ให้เลี่ยงเลย
-
Not Synced
ใครมาชวนเราคุยเรื่อง
ที่กุศลเราจะเจริญ เราก็ฟัง
-
Not Synced
คุยกับเขาอย่างนั้น
-
Not Synced
พวกพระที่อยู่กับหลวงพ่อมานานๆ
หรือโยมที่อยู่กับหลวงพ่อมานานๆ
-
Not Synced
จะรู้อย่างหนึ่ง
-
Not Synced
หลวงพ่อไม่คุยเรื่องอื่น
-
Not Synced
จะมาชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้
-
Not Synced
มาเล่าอะไรให้หลวงพ่อฟัง ไม่เอา เสียเวลา
-
Not Synced
หลวงพ่อพูดแต่เรื่องธรรมะ
ฉะนั้นเรื่องอื่นไม่พูดเลย
-
Not Synced
มันเป็นนิสัยเลย ฝึกตัวเองมาอย่างนั้น
-
Not Synced
เรื่องอกุศลไปยุ่งกับมันทำไม
-
Not Synced
อย่างพระอาจารย์อ๊า รู้เลย
-
Not Synced
เวลาสาธุชน อันนี้สุภาพ
-
Not Synced
เวลาสาธุชนมาขอพบ
มาชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้
-
Not Synced
หลวงพ่อก็จะฟังแกนๆ ไปอย่างนั้น เฉยๆ
-
Not Synced
เสียเวลา ไม่ฟังก็ไม่ได้ เสียมารยาท
-
Not Synced
เลยต้องยอมเสียเวลา
-
Not Synced
ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาอารมณ์เสีย
-
Not Synced
เขาอารมณ์เสีย ไม่ดีกับเขาเอง
-
Not Synced
จิตเขาเป็นอกุศล
-
Not Synced
เราก็ฟังไป เลี่ยงได้เราก็เลี่ยง เสียเวลา
-
Not Synced
หลวงพ่อเลยมีข้อจำกัดอย่างหนึ่ง
-
Not Synced
หลวงพ่อไม่เก่งเรื่องปฏิสันถาร
-
Not Synced
ทักทายพูดคุย ซักโน่นซักนี่อะไร ไม่มี
-
Not Synced
บางทีพวกเรามาเล่า
เรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง ฟัง
-
Not Synced
ฟังเสร็จแล้วลืม
-
Not Synced
มีคนมาถามหลวงพ่อว่า
เขามาเล่าเรื่องนี้แล้วเป็นอย่างไร
-
Not Synced
ไม่รู้ รู้แต่แค่ที่เขาเล่า แล้วก็จบแค่นั้น
-
Not Synced
ไม่คิดต่อ ไม่ถามต่อ
-
Not Synced
สู้กับกิเลสของเราคนเดียวก็แย่แล้ว
-
Not Synced
ยังไปยุ่งกับกิเลสคนอื่นอีก มันเรื่องอะไร
-
Not Synced
ฝึกนิสัยอย่างนี้ไว้ใช้ แล้วดี
-
Not Synced
จิตใจเราจะไม่สกปรก
-
Not Synced
ถ้าเราทำใจเหมือนถังขยะสาธารณะ
-
Not Synced
มันก็แย่
-
Not Synced
เดี๋ยวคนเขาเอาหนูตายมาทิ้ง
-
Not Synced
เดี๋ยวเอาเศษอาหารบูดๆ มาทิ้ง
-
Not Synced
เดี๋ยวเอาแมวตายมาทิ้ง
-
Not Synced
บางทีหมาตายตัวใหญ่ๆ พาดเอาไว้
-
Not Synced
ใส่ถังไม่ได้ เอาวางไว้ข้างๆ ถัง
-
Not Synced
เรื่องอะไรทำใจของเราให้เป็นถังขยะสาธารณะ
-
Not Synced
แค่ขยะในบ้านเราคนเดียวก็แย่อยู่แล้ว
-
Not Synced
จะไปหาขยะนอกมาเพิ่มทำไม
-
Not Synced
อย่างเรื่องวัดไร่ขิงอะไรนี้ ขยะข้างนอก
-
Not Synced
อย่าให้ใจเราเศร้าหมองไป
-
Not Synced
หลวงพ่อวัดไร่ขิง ท่านดี
-
Not Synced
บอกเลยว่าจริงๆ ท่านดีมาก
-
Not Synced
คนไหว้ท่านมาหลายร้อยปีแล้ว
-
Not Synced
ไปพูดอะไรให้ท่านฟัง
ท่านก็อุเบกขา นิ่ง เงียบ ไม่พูดอะไร
-
Not Synced
ใครเคยไปหาท่านไหม
-
Not Synced
หลวงพ่อเคยเข้าไปกราบ 2 - 3 ครั้ง ท่านดี
-
Not Synced
คนไปวุ่นวายทั้งวัดเลย
เข้าไปหาท่านเยอะแยะเลย
-
Not Synced
ท่านเฉย อุเบกขา
หน้าท่านก็ยิ้มอยู่อย่างนั้น
-
Not Synced
ดีๆ ไม่เสื่อม
-
Not Synced
ใครไปทำอะไรไม่ดีๆ ใกล้ท่านนี้เสื่อม
-
Not Synced
เทวดาไม่ชอบ
-
Not Synced
ฉะนั้นจะไปไหว้พระได้ไหม ได้
-
Not Synced
เรื่องของคน
-
Not Synced
ไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อวัดไร่ขิง
-
Not Synced
หลวงพ่อโสธรอย่างนี้ พระชินราชอย่างนี้
-
Not Synced
ไปไหว้แล้วมีความสุข แต่ละองค์
-
Not Synced
ก็รู้จักเลือกก็แล้วกัน
-
Not Synced
จะเอาขยะเข้าบ้าน
หรือจะเอาดอกไม้หอมๆ เข้าบ้าน
-
Not Synced
อากาศชื้นๆ เสียงจะไม่ค่อยดีเท่าไร
-
Not Synced
พอไหวไหม
-
Not Synced
ให้การบ้านง่ายๆ
-
Not Synced
ต่อไปนี้เมื่อตา หู จมูก
ลิ้น กาย ใจกระทบอารมณ์
-
Not Synced
ใจกระทบอารมณ์ เช่น ใจเราคิด
-
Not Synced
คิดเรื่องนี้เกิดสุข เกิดทุกข์ ให้รู้ทัน
-
Not Synced
หรือถ้าเกิดกุศล อกุศล
รู้ทันด้วยยิ่งดีใหญ่เลย
-
Not Synced
ตา หู จมูก ลิ้น กาย
-
Not Synced
อันนี้เป็นส่วนของรูปธรรม
ใจเป็นส่วนของนามธรรม
-
Not Synced
พอกระทบอารมณ์แล้ว
-
Not Synced
เกิดความรู้สึกสุขทุกข์
-
Not Synced
ไม่สุขไม่ทุกข์ขึ้นในใจ อันนี้เป็นนามธรรม
-
Not Synced
ตรงตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นรูปธรรม
-
Not Synced
การที่เรามีสติรู้รูปธรรมอยู่
เห็นมันไม่ใช่ตัวเราของเรา
-
Not Synced
นั่นเรากำลังเดินเจริญสติเจริญปัญญา
-
Not Synced
ในหมวดกายานุปัสสนา
-
Not Synced
การที่เราเห็นความรู้สึกสุขทุกข์
-
Not Synced
ไม่สุขไม่ทุกข์เกิดขึ้นในใจเรา
-
Not Synced
เราเจริญเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานอยู่
-
Not Synced
เราจะได้ทั้งสติ ได้ทั้งปัญญา
-
Not Synced
การที่เราเห็นกุศลอกุศลเกิดขึ้นในใจเรา
-
Not Synced
มันแทรกตามเวทนามา
-
Not Synced
เห็นกุศลอกุศลที่เกิด
-
Not Synced
ตรงนั้นเราเจริญจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานอยู่
-
Not Synced
แล้วตรงที่เราเห็นว่า
-
Not Synced
ทั้งตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
-
Not Synced
ทั้งสุข ทั้งทุกข์ ทั้งเฉยๆ
ทั้งกุศล ทั้งอกุศล
-
Not Synced
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
-
Not Synced
เราเขยิบขึ้นมา
เห็นกระบวนการทำงานของมัน
-
Not Synced
นี่เรามาเรียนถึงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
-
Not Synced
ตรงที่ตาเราสัมผัสอารมณ์ มีผัสสะ
-
Not Synced
หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น
ลิ้นกระทบรส กายกระทบสัมผัส
-
Not Synced
ใจกระทบความคิดนึกปรุงแต่ง
-
Not Synced
แล้วเกิดสุขเวทนา ทุกขเวทนา
-
Not Synced
อุเบกขาเวทนาเกิดขึ้น เรามีสติรู้
-
Not Synced
เรากำลังเจริญอยู่ในขั้นธัมมานุปัสสนา
-
Not Synced
เรากำลังเรียนปฏิจจสมุปบาทอยู่
-
Not Synced
แล้วเห็นกิเลสที่แทรกตามเวทนา
-
Not Synced
เห็นตัณหาคือความอยาก
ที่เป็นไปตามอำนาจของกิเลส
-
Not Synced
เห็นความปรุงแต่งดิ้นรนของจิต นั่นคือภพ
-
Not Synced
ถ้าละเอียดก็จะเห็นชาติ
-
Not Synced
คือการที่จิตหยิบฉวย
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจขึ้นมา
-
Not Synced
ถ้าไม่เห็นชาติ ไม่เป็นไร
เห็นเท่าที่เห็นได้
-
Not Synced
เราก็จะเห็น
-
Not Synced
พอมีความอยากเกิดขึ้น ใจเราก็ดิ้นรน
-
Not Synced
ใจดิ้นรนทีไร ใจไม่มีความสุข
-
Not Synced
ความทุกข์ก็เกิด
-
Not Synced
เรากำลังเดินอยู่ในธัมมานุปัสสนา
-
Not Synced
ค่อยๆ ฝึก
-
Not Synced
แล้วจิตมันจะอัปเกรดขึ้นไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
เริ่มต้น บางคนเริ่มจากกาย กายานุปัสสนา
-
Not Synced
บางคนเริ่มที่เวทนาก็ได้
-
Not Synced
บางคนเริ่มที่จิตตานุปัสสนาก็ได้
-
Not Synced
แต่สุดท้ายทุกคนจะไปลงที่ธัมมานุปัสสนา
-
Not Synced
จะไปรู้ว่ากุศลเกิดเพราะอะไร
อกุศลอย่างนิวรณ์นี้เกิดเพราะอะไร
-
Not Synced
กุศลอย่างโพชฌงค์ 7 เกิดเพราะอะไร
-
Not Synced
ทำอย่างไรเกิด ทำอะไรไม่เกิด จะรู้
-
Not Synced
ค่อยๆ เรียน ค่อยๆ สะสมไป
-
Not Synced
จะรู้ขันธ์ 5 ไม่ใช่รู้แต่รูป
-
Not Synced
ไม่รู้เฉพาะเวทนา สัญญา สังขารแต่ละอย่าง
-
Not Synced
แต่จะรู้ขันธ์ 5
-
Not Synced
จะรู้อายตนะ 6 ธาตุ 18 อินทรีย์ 22
-
Not Synced
มันรู้ประณีตๆ เลย รู้ละเอียดขึ้นไปด้วย
-
Not Synced
สุดท้ายจะรู้อริยสัจ รู้ปฏิจจสมุปบาท
-
Not Synced
ไม่ต้องตกใจ
-
Not Synced
ตอนนี้แค่ว่ามีความสุขก็รู้
มีความทุกข์ก็รู้
-
Not Synced
เฉยๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ก็รู้
-
Not Synced
ทำตัวนี้ให้ชำนิชำนาญ
-
Not Synced
สุขก็รู้ ทุกข์ก็รู้ เฉยๆ ก็รู้
-
Not Synced
เราจะรู้ได้ถ้าใจเราไม่ฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
เราอ่านใจเราออก เราถึงจะรู้
-
Not Synced
ฉะนั้นเราต้องฝึก
-
Not Synced
ทุกวันทำในรูปแบบ
-
Not Synced
ทำกรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่งที่เราถนัด
-
Not Synced
แล้วคอยรู้เท่าทันจิตใจตนเองไว้
-
Not Synced
ทำไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
ต่อไปใจเราสุขหรือทุกข์ เราก็ดูออก
-
Not Synced
ใจเรามีกิเลสอะไร เราก็ดูออก
-
Not Synced
ใจเราไหลไปทางตา หู จมูก
ลิ้น กาย ใจ เราก็ดูออก
-
Not Synced
พอดูออก ใจเราจะตั้งมั่นขึ้นมา
-
Not Synced
แล้วปัญญามันจะเกิด
-
Not Synced
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด ล้วนแต่ดับทั้งสิ้น
-
Not Synced
ต้องฝึกให้จิตตั้งมั่น
-
Not Synced
จิตตั้งมั่นแล้ว
เราก็จะอ่านจิตใจตัวเองสบายๆ
-
Not Synced
ถ้าจิตมันยังไม่ตั้งมั่น
-
Not Synced
ดูได้แวบเดียวก็หนีไปแล้ว หลงไปแล้ว
-
Not Synced
วิธีฝึกให้จิตตั้งมั่น
ทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง
-
Not Synced
แล้วคอยรู้ทันจิตตนเอง
-
Not Synced
คือการฝึกอ่านจิตตัวเองนั่นเอง
-
Not Synced
อย่างเราหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ
-
Not Synced
จิตเราฟุ้งซ่านให้รู้ว่าฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
นี่เรากำลังหัดเรียนสภาวะฟุ้งซ่านแล้ว
-
Not Synced
หายใจไปจิตเราสงบ รู้ว่าสงบ
-
Not Synced
นี่เรากำลังเรียนเรื่องสภาวะสงบแล้ว
-
Not Synced
หายใจไปๆ หงุดหงิด
-
Not Synced
ไม่สงบเสียที หงุดหงิด
-
Not Synced
มีโทสะ รำคาญใจ
-
Not Synced
เรากำลังเรียนรู้ถึงโทสะ ถึงความรำคาญใจ
-
Not Synced
มันคือการหัดเรียนรู้สภาวะ
-
Not Synced
ฉะนั้นทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง
-
Not Synced
แล้วคอยอ่านใจตัวเองเรื่อยๆ
-
Not Synced
หรือทำกรรมฐานไป ใจหนีไปคิด
-
Not Synced
รู้ว่าใจหนีไปคิด
นี่เราเรียนรู้คำว่าฟุ้งซ่านแล้ว
-
Not Synced
อุทธัจจะ จิตไหล หลงไปแล้ว
-
Not Synced
เราทำกรรมฐานไปแล้วหงอย ซึมกระทือ
-
Not Synced
นี่เราเรียนรู้เรื่องถีนมิทธะ ความเซื่องซึม
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นไปทำกรรมฐาน
-
Not Synced
แล้วเราจะรู้จักสภาวะต่างๆ
-
Not Synced
แล้วพอเรารู้สภาวะ
-
Not Synced
พอสภาวะอันไหนเกิด สติจะเกิดเอง
-
Not Synced
สติจะเกิดได้เองเลย
-
Not Synced
เพราะจิตเราจำสภาวะอันนั้นได้แล้ว
-
Not Synced
สติจะเกิดเอง
-
Not Synced
ฉะนั้นเบื้องต้นทำกรรมฐานไป
-
Not Synced
ไม่ต้องห่วงจะสงบหรือไม่สงบ
-
Not Synced
จะสุขหรือไม่สุข
-
Not Synced
หรือว่าจะดีหรือไม่ดี ไม่ต้องห่วง
-
Not Synced
สงบรู้ว่าสงบ เรียนรู้สภาวะสงบ
-
Not Synced
ทำกรรมฐานแล้วไม่สงบ รู้ว่าไม่สงบ
-
Not Synced
นี่เราเรียนสภาวะไม่สงบแล้ว
-
Not Synced
ทำกรรมฐานไปแล้วมีความสุข
-
Not Synced
เรารู้ว่ามีความสุข
-
Not Synced
เรากำลังเรียนสภาวะของความสุข
-
Not Synced
ทำกรรมฐานไปแล้วมีความทุกข์
-
Not Synced
อึดอัด เบื่อหน่าย
-
Not Synced
ใจมีโทสะแล้ว เบื่อหน่าย
-
Not Synced
ขี้เกียจ สภาวะแต่ละอย่าง ทำไปแล้วขี้เกียจ
-
Not Synced
รู้ลงไป ใจมันขี้เกียจก็รู้ว่าขี้เกียจ
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นทำกรรมฐาน
-
Not Synced
แล้วคอยอ่านความรู้สึกของตัวเองเรื่อยๆ ไป
-
Not Synced
อ่านจิตอ่านใจตัวเองเรื่อยๆ ไป
-
Not Synced
เราจะรู้จักสภาวะมากขึ้นๆ
-
Not Synced
และรู้จักสภาวะได้แม่นมากขึ้นเรื่อยๆ
-
Not Synced
ต่อไปจิตมันจำสภาวะได้แม่น
-
Not Synced
ทันทีที่สภาวะอันนั้นเกิด สติจะเกิดเอง
-
Not Synced
ไม่มีใครสั่งสติให้เกิดได้
-
Not Synced
สติเป็นอนัตตา สั่งให้เกิดไม่ได้
-
Not Synced
เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ทำกรรมฐาน
-
Not Synced
แล้วก็คอยรู้เท่าทันจิตใจของตัวเอง
-
Not Synced
สุขก็รู้ ทุกข์ก็รู้ ดีก็รู้ ชั่วก็รู้
-
Not Synced
หลงไปก็รู้ รู้ไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
พอจิตจำสภาวะได้แม่น
พอสภาวะอันนั้นเกิด
-
Not Synced
สติเกิดอัตโนมัติ
-
Not Synced
ถ้ายังต้องเคี่ยวเข็ญให้สติเกิด
-
Not Synced
ยังห่างไกลมากเลย ยังใช้ไม่ได้
-
Not Synced
ยังอ่อนเกินไป ต้องสติอัตโนมัติเกิด
-
Not Synced
แล้วทันทีที่สติอัตโนมัติเกิด
-
Not Synced
สัมมาสมาธิอัตโนมัติก็จะเกิดควบคู่กันมา
-
Not Synced
เกิดร่วมกับสติอัตโนมัติเลย
-
Not Synced
มาเองเลยสมาธิตัวนี้
-
Not Synced
สมาธิตัวนี้สำคัญมาก
-
Not Synced
มันไม่ใช่นั่งสมาธิ
แล้วก็หลับเคลิ้มเห็นโน่นเห็นนี่
-
Not Synced
อันนั้นมิจฉาสมาธิ
-
Not Synced
สัมมาสมาธิจะต้องประกอบด้วยสติเสมอ
-
Not Synced
ฉะนั้นต้องฝึก อยู่ๆ สติไม่เกิดหรอก
สติเกิดจากเราเห็นสภาวะบ่อยๆ
-
Not Synced
ฉะนั้นทำกรรมฐาน ทุกวันต้องทำ
-
Not Synced
จะนั่งสมาธิ หรือจะเดินจงกรมก็ได้
-
Not Synced
ทำไป
-
Not Synced
แล้วจิตใจเราสุข ทุกข์ ดีชั่วอะไร
ก็คอยรู้ไป
-
Not Synced
หลงไปก็รู้ ถลำลงไปเพ่งจ้องก็รู้
-
Not Synced
หัดรู้อย่างที่มันเป็น ไม่ต้องไปแทรกแซง
-
Not Synced
ไม่ต้องไปแก้ไข
-
Not Synced
ต่อไปสัมมาสติก็เกิด สัมมาสมาธิก็เกิด
-
Not Synced
แล้วต่อไปจะเห็นไตรลักษณ์
-
Not Synced
ตรงที่สัมมาสมาธิเกิด
-
Not Synced
ทันทีที่สัมมาสมาธิเกิด ขันธ์มันจะแยกตัวเลย
-
Not Synced
กายกับจิตคนละอันกัน
-
Not Synced
เวทนากับร่างกายกับจิต คนละอันกัน
-
Not Synced
สังขารกับร่างกาย กับเวทนา กับจิต
เป็นคนละอันกัน
-
Not Synced
จิตกับรูป เวทนา สัญญา
สังขาร กับจิต คนละอันกัน
-
Not Synced
ก็ค่อยแยกๆๆๆ ออกไป
-
Not Synced
แล้วแต่ละอันล้วนแต่แสดงไตรลักษณ์ทั้งสิ้น
-
Not Synced
มีแต่ของไม่เที่ยง
มีแต่ของที่ถูกบีบคั้นให้แตกสลาย
-
Not Synced
มีแต่ของที่ไม่ใช่ตัวเรา
-
Not Synced
ปัญญาเกิด ไม่ใช่คิดเอา ต้องเห็นเอา
-
Not Synced
วิปัสสนาปัญญาเกิดจากการเห็นถูก
-
Not Synced
ฉะนั้นตัวสัมมาทิฏฐิก็คือความรู้ถูก
ความเข้าใจถูก
-
Not Synced
รู้ถูก เห็นถูก
-
Not Synced
พอได้หลักที่จะเอาไปทำต่อไหม
-
Not Synced
ไปฝึกให้เกิดสติ
-
Not Synced
โดยการทำกรรมฐาน ทำในรูปแบบ ต้องทำ
-
Not Synced
สมัยแรกๆ หลวงพ่อก็บอกลูกศิษย์รุ่นแรก
-
Not Synced
ต้องปฏิบัติในรูปแบบให้ได้
อย่างน้อยวันละ 15 นาที
-
Not Synced
ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว
-
Not Synced
ผ่านมา 20 ปี ตอนนี้บอก
-
Not Synced
ไปทำให้ได้ 3 ชั่วโมง
-
Not Synced
ถ้าเริ่มต้นบอกทำ 3 ชั่วโมง
พวกเราวิ่งหนีหมดเลย
-
Not Synced
หัดใหม่ๆ ไม่ต้อง 3 ชั่วโมง เอาเท่าที่ได้
-
Not Synced
แต่อย่าขี้เกียจ ทำทุกวันๆ
-
Not Synced
แล้วต่อไปนั่งสมาธิก็ได้นาน เดินก็ได้นาน
-
Not Synced
สติต่อเนื่อง นานไม่ได้นับที่ชั่วโมงหรอก
-
Not Synced
นับที่สติมันต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ
-
Not Synced
ฝึกนะ อดทนเข้า
-
Not Synced
อยากได้ของดีก็ต้องอดทนเอา
-
Not Synced
ไปทำกรรมฐานสักอย่างหนึ่ง
-
Not Synced
แล้วคอยรู้ทันจิตใจตัวเองไป
-
Not Synced
จิตใจสุข จิตใจทุกข์
-
Not Synced
จิตใจเป็นกุศล
-
Not Synced
จิตใจโลภ โกรธ หลง
-
Not Synced
จิตใจฟุ้งซ่าน จิตใจหดหู่
-
Not Synced
คอยรู้เรื่อยๆ
-
Not Synced
แล้วต่อไปสติเกิด สมาธิเกิด
-
Not Synced
แล้วต่อไปปัญญามันจะเกิด
-
Not Synced
วันนี้เทศน์ให้ฟังเท่านี้
-
Not Synced
เบอร์ 1: ทำในรูปแบบ
-
Not Synced
โดยนั่งเจริญสติแบบลืมตา
-
Not Synced
เห็นร่างกายหายใจเข้าพุท หายใจออกโธ
-
Not Synced
หลงแล้วรู้
-
Not Synced
ในชีวิตประจำวัน ดูกายเคลื่อนไหวแล้วรู้
-
Not Synced
ยังหลงบ่อย จึงใช้บริกรรมพุทโธกำกับ
-
Not Synced
เห็นสภาวะทุกอย่างเกิดแล้วดับ
-
Not Synced
ใจยังไม่เป็นกลาง
-
Not Synced
ขอคำแนะนำค่ะ
-
Not Synced
ไปทำต่อไป ทำถูกแล้ว
-
Not Synced
แต่ตอนนี้จิตไม่ถึงฐาน
-
Not Synced
จิตยังอยู่ข้างนอกนิด ดูออกไหม
-
Not Synced
จิตมันอยู่ข้างนอก มันไม่ได้อยู่ที่ตัวเอง
-
Not Synced
ไม่ต้องไปดึงมัน
-
Not Synced
แค่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่ข้างนอก
-
Not Synced
ถ้าเราเห็นจริงๆ ว่ามันอยู่ข้างนอก
เดี๋ยวมันเข้ามาเอง
-
Not Synced
เบอร์2
-
Not Synced
ในรูปแบบนั่งสมาธิและเดินจงกรม
-
Not Synced
ตั้งใจรักษาศีล 5
-
Not Synced
ระหว่างวันใช้หายใจเข้าพุท
หายใจออกโธเป็นเครื่องอยู่
-
Not Synced
เคยเห็นจิตพุ่งออกไปจับอารมณ์
-
Not Synced
เห็นกิเลสตัวเองได้บ่อยขึ้น
-
Not Synced
จิตไม่เป็นกลางต่อสภาวะ
-
Not Synced
ควรปฏิบัติอย่างไรต่อ
เพื่อการเจริญปัญญาที่ถูกต้องครับ
-
Not Synced
ถ้าเห็นจิตพุ่งออกไปได้ ดี
-
Not Synced
แต่ไม่ต้องดึงคืน
-
Not Synced
แล้วถ้าจิตมันเข้ามาแล้ว ก็อย่ารักษามัน
-
Not Synced
จิตตรงนี้เซื่องซึม รู้สึกไหม
-
Not Synced
ไปน้อมจิตให้ซึมไว้ ไม่ดี
-
Not Synced
เราคิดว่าซึมๆ นี้คือสงบ
คือสมาธิตั้งมั่น ไม่ใช่
-
Not Synced
อย่าน้อมให้มันซึม
-
Not Synced
จิตไหลแล้วรู้ ไหลแล้วรู้
-
Not Synced
ไม่ต้องมารักษาให้มันนิ่งๆ ซึมๆ อยู่
-
Not Synced
ตัวนี้มีโมหะแทรก
-
Not Synced
จิตไหลไปเห็นไหมตรงนี้
-
Not Synced
จิตไหลแล้วรู้ไป ไม่ห้าม
-
Not Synced
พอรู้แล้วจิตตื่น จิตตื่นแล้วก็ไม่รักษา
-
Not Synced
จิตไหลไปคิดเห็นไหม
-
Not Synced
รู้เฉยๆ ว่าไหลไปคิด
-
Not Synced
ยังติดที่จะน้อมใจให้นิ่ง ไปปรับตัวนี้เสีย
-
Not Synced
อย่าน้อมใจเข้าหาความนิ่งๆ
-
Not Synced
ยังเคยชินตัวนี้อยู่
-
Not Synced
เบอร์ 3
-
Not Synced
เห็นจิตเป็นสุขได้เอง บางครั้งเฉยๆ
-
Not Synced
เคยติดตัวรู้ ต่อมาเห็นตัวรู้ไม่เที่ยง
-
Not Synced
บางทีตัวรู้ก็หาย พึ่งพาตัวรู้ไม่ได้เลย
-
Not Synced
สติเห็นจิตเคลื่อนปุ๊บจะทุกข์ปั๊บ
-
Not Synced
เมื่อทุกข์ จิตจะดึงกลับทันที
-
Not Synced
ยิ่งเห็นทุกข์กลับยิ่งสุขมากขึ้น
-
Not Synced
ล่าสุดจิตพลิกเป็นทุกข์
-
Not Synced
ทุกข์นานเป็น 1 – 2 วัน
-
Not Synced
ตอนนี้เริ่มคลายทุกข์ในจิต
-
Not Synced
แต่จิตยังหยิบฉวยอยู่
-
Not Synced
ขอการบ้านไปทำต่อค่ะ
-
Not Synced
อย่าใจร้อน
-
Not Synced
บางทีฟังหลวงพ่อเทศน์เยอะไป
-
Not Synced
ก็จะหาทางปล่อยวางจิตบ้างอะไรบ้าง
-
Not Synced
ไม่ต้อง มันถึงเวลา มันเป็นของมันเอง
-
Not Synced
แล้วจิตหยิบฉวยจิตก็ไม่เป็นไร
-
Not Synced
เพราะเราไม่ใช่พระอรหันต์
-
Not Synced
มันก็หยิบฉวยเป็นเรื่องปกติ
-
Not Synced
รู้สิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น
-
Not Synced
ไม่ต้องคาดหวังสิ่งซึ่งยังไม่มีไม่เป็น
-
Not Synced
ดูปัจจุบัน เอาปัจจุบันไว้
-
Not Synced
ได้แค่ไหนเอาแค่นั้น
-
Not Synced
จิตขณะนี้นิ่งกว่าปกติ รู้สึกไหม
-
Not Synced
อย่าไปแต่งมันไว้
-
Not Synced
เราไปแต่งจิตให้มันนิ่งๆ ผิดปกติ
-
Not Synced
จิตที่ดีคือจิตธรรมดา
-
Not Synced
จิตธรรมดาประภัสสร ผ่องใส
-
Not Synced
เราแต่ละคนมีจิตประภัสสร ทุกคน
-
Not Synced
แต่เราทำลายมันเรียบร้อยเลย
-
Not Synced
ถ้ากิเลสเกิด จิตประภัสสรก็หาย
-
Not Synced
อยากปฏิบัติ จิตประภัสสรก็หาย
-
Not Synced
จิตไหลไปแล้วเห็นไหม
-
Not Synced
เออ แค่นี้พอ ไม่ต้องทำอะไรต่อ
-
Not Synced
เบอร์ 3 ดีที่ทำอยู่
-
Not Synced
แต่มันยังติดการประคองจิตให้นิ่งอยู่
-
Not Synced
อาจจะเพราะตื่นเต้น จะคุยกับหลวงพ่อ
-
Not Synced
เบอร์ 4
-
Not Synced
ไปทำอีกไป ทำไม่ผิดหรอก
-
Not Synced
แต่อย่าทำจิตให้นิ่งๆ ก็แล้วกัน
-
Not Synced
เบอร์ 4
-
Not Synced
นั่งสมาธิดูลมหายใจและฟังหลวงพ่อ ทำให้สงบ
-
Not Synced
เมื่อลมละเอียดจะเห็นแสงวูบวาบ
-
Not Synced
เห็นแล้วรู้
-
Not Synced
พอไม่คิดอะไร ก็ดูไหวๆ ตรงหน้า
-
Not Synced
พอนิ่งแล้วก็ดูกายหายใจ
-
Not Synced
เห็นกายเคลื่อนไหว เห็นโทสะ
-
Not Synced
เห็นว่าเกิดจากความคิดมีตัวเรา
-
Not Synced
เห็นกายไม่ใช่เรา รู้สึกว่าไม่พัฒนา
-
Not Synced
จึงดูไตรลักษณ์ ก็คงจะปล่อยเอง
-
Not Synced
แต่มีเสียงสวนขึ้นมาว่าไม่ปล่อย
-
Not Synced
ที่เห็นถูกต้องหรือไม่คะ
-
Not Synced
ถูกแล้ว มันบอกถูก ยังไม่ปล่อย
-
Not Synced
ไม่ปล่อยก็ไม่ปล่อย
-
Not Synced
เดินปัญญาได้ดี
-
Not Synced
แต่กำลังของจิตมันยังไม่แข็งแรง
-
Not Synced
มันเลยยังไม่ล้างกิเลส
-
Not Synced
ต้องทำในรูปแบบ
-
Not Synced
ทำในรูปแบบจิตจะได้มีแรง ทำไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
พอจิตมันมีกำลัง
-
Not Synced
เราจะเดินปัญญาแล้วถึงจะสู้กับกิเลสได้
-
Not Synced
ถ้ากำลังเราไม่พอ เราเดินปัญญาไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
มันจะมีสภาวะอย่างที่มีอย่างนี้
-
Not Synced
มันจะไม่ มันเหมือนมีดทื่อ
-
Not Synced
มันไปฟันกิ่งไม้ไม่ขาด
-
Not Synced
ทำในรูปแบบ ทำความสงบเข้ามาเป็นระยะๆ
-
Not Synced
เบอร์ 5
-
Not Synced
ตามดูขันธ์ทำงาน
-
Not Synced
จิตมีกุศลอกุศล เกิดดับสลับกันไป
-
Not Synced
วันหนึ่งเห็นอะไรพริ้วไหวกลางอก
จิตรวมลงไป
-
Not Synced
เห็นอะไรบางอย่างขยุกขยิกเป็นกลุ่มก้อน
-
Not Synced
มีจิตมองอยู่ห่างๆ
-
Not Synced
รู้สึกว่าก้อนนี้มีความวุ่นวายและเป็นทุกข์
-
Not Synced
สภาวะนั้นจิตเข้าใจว่า
-
Not Synced
ถ้าจิตไม่เข้าไปจับก็ไม่ทุกข์
-
Not Synced
ทุกวันนี้ตามดูขันธ์ทำงานนับหนึ่งใหม่ทุกวัน
-
Not Synced
ขอหลวงปู่ชี้แนะด้วยครับ
-
Not Synced
ดี ปัญญาเยอะ
-
Not Synced
อย่าไปติดตัวช่างคิดก็แล้วกัน
-
Not Synced
ถ้าเรายึดถือความคิดความเห็นของตัวเราเยอะๆ
-
Not Synced
มันกลุ้มใจ
-
Not Synced
เราไม่ยึดกระทั่งความคิดความเห็นของเรา
-
Not Synced
อ่านใจตัวเองไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
มีกิเลสอะไรก็รู้ สักว่ารู้ว่าเห็นไป
-
Not Synced
ของเบอร์ 5 ต้องสังเกต
ตัวมานะ ตัวมานะ
-
Not Synced
มันจะรู้สึกกูเก่ง อะไรต่ออะไรนี้
-
Not Synced
ไม่รู้ตอนนี้เกิดหรือยัง
แต่อีกหน่อยคงเกิด
-
Not Synced
มันจะรู้สึกว่าเราเก่ง
-
Not Synced
รู้สึกอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ก็รู้ทันมัน
-
Not Synced
เหมือนถ้าเรารู้ราคะ โทสะ ปกตินั่นล่ะ
-
Not Synced
ถ้าเราเห็นความไม่ดีของเรา อันนั้นดี
-
Not Synced
ถ้าเราเห็นว่าเราดีกว่าคนอื่น
อันนั้นเราจะแพ้
-
Not Synced
ของเบอร์ 5 ปัญญาเยอะ
-
Not Synced
ปัญญาเยอะบางทีพาเอา
ยึดถือความคิดความเห็นง่าย
-
Not Synced
ยึดหรือเปล่าหลวงพ่อไม่รู้ด้วยหรอก แต่ว่า
-
Not Synced
โอกาสจะยึดมันมี
-
Not Synced
ที่ฝึกอยู่ดี ทำไป
-
Not Synced
แล้วก็อ่านใจให้ออก
กิเลสอะไรแทรกเข้ามา รู้ทัน
-
Not Synced
เบอร์ 6
-
Not Synced
วันนี้ภาวนากันเก่งๆ หลายคน
-
Not Synced
มีเบอร์ 2 นั่งไปๆ โมหะครอบ ซึมไปเลย
-
Not Synced
เบอร์ 3 ก็ยังเพ่งไม่เลิก
-
Not Synced
ยังแต่งจิต อย่างนี้
เออ นั่นของปลอม
-
Not Synced
เบอร์ 5 ทำในรูปแบบด้วย
จิตจะได้มีแรงเยอะๆ
-
Not Synced
สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง
แต่ต้องทำในรูปแบบด้วย
-
Not Synced
แล้วการเจริญสติในชีวิตประจำวัน
จะทำได้คล่องแคล่ว
-
Not Synced
เก่ง เบอร์ 5 เห็นสภาวะได้ละเอียดดี
-
Not Synced
เห็นตัวขยุกขยิกได้แล้ว
-
Not Synced
ตัวนี้เห็นบ่อยๆ มันจะเห็น
-
Not Synced
ในโลกนี้ไม่มีอะไรนอกจากทุกข์
-
Not Synced
ต้องระวังเรื่องปัญญามันล้ำ
อย่าทิ้งการทำสมถะ
-
Not Synced
เบอร์ 6
-
Not Synced
ใช้กายและคำบริกรรมเป็นเครื่องอยู่
-
Not Synced
ดูจิตหลงไปคิด
-
Not Synced
ในรูปแบบฝึกนั่งดูร่างกายหายใจ
-
Not Synced
สลับกับนั่งถักหมวกไหมพรม หรือเดินจงกรม
-
Not Synced
ฝึกเจริญเมตตาและอนุโมทนาบุญ
-
Not Synced
ฝึกดูสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการกระทำ ดูกิเลส
-
Not Synced
ชักชวนคนรอบข้างให้ฟังธรรม
-
Not Synced
ให้ภาวนาได้บ้าง
-
Not Synced
หลวงพ่อสอนให้ดูอนิจจัง อนัตตา
-
Not Synced
ไม่แน่ใจว่า เห็นเองได้บ้างแล้วใช่ไหมคะ
-
Not Synced
ใช่ เห็นได้บ้างแล้ว
-
Not Synced
แต่ถ้าเราไปชวนคนอื่นเขาฟังธรรม ภาวนา
-
Not Synced
แล้วเขาไม่ทำ อย่าไปโมโหเขาก็แล้วกัน
-
Not Synced
รู้สึกพวกนี้สอนยาก
-
Not Synced
ดีแล้ว ไปทำอีก
-
Not Synced
ฝึกไปเรื่อยๆ สะสมของเราไป
-
Not Synced
มันพอมันก็ชนะกิเลสไป
-
Not Synced
สะสมแต้มไปทุกวันๆ
-
Not Synced
ที่ทำอยู่ก็ดี ใช้ได้อยู่
-
Not Synced
ตอนนี้จิตไปข้างนอกทราบไหมเบอร์ 6
-
Not Synced
จิตยังอยู่ข้างนอก
-
Not Synced
หายใจแล้วรู้สึกตัว หายใจแล้วรู้สึกตัวไป
-
Not Synced
เก่ง
-
Not Synced
จิตตรงนี้กับเมื่อกี้ไม่เหมือนกัน ดูออกไหม
-
Not Synced
เก่ง ใช้ได้
-
Not Synced
ฉะนั้นจิตออกข้างนอก รู้ทัน
-
Not Synced
รู้ทันไม่ต้องไปแก้มัน
เราก็รู้สึกตัวเอาใหม่
-
Not Synced
เริ่มต้นนับ 1 ใหม่ รู้สึกตัวไว้
-
Not Synced
ไม่ต้องไปนั่งแก้
เวลาจิตมันออกข้างนอกไป
-
Not Synced
เบอร์ 7 อย่ากลุ้มใจนักเลยเบอร์ 7
กลุ้มมากแล้ว
-
Not Synced
เบอร์ 7
-
Not Synced
รู้สึกกิเลสเบาบางลง
-
Not Synced
เห็นจิตทำงาน เอากิเลสออกอยู่เรื่อยๆ
-
Not Synced
แต่ช่วงนี้เหมือนเห็นว่ามีจิตอื่น
-
Not Synced
หรือความรู้สึกแปลกปลอมข้างนอกเข้ามา
-
Not Synced
บางครั้งเห็นจิตคุยกันเอง
-
Not Synced
บางครั้งมีความคิดผุดขึ้นมากลางอก
โดยที่เราไม่ได้คิด
-
Not Synced
พยายามตามรู้ตามดูอย่างเป็นกลาง
-
Not Synced
ไม่สนใจหรือยึดมั่นถือมั่น
-
Not Synced
แต่ยังค่อนข้างยาก
-
Not Synced
ควรทำอย่างไรเพื่อให้ผ่านจุดนี้ไปได้ดีคะ
-
Not Synced
ร่างกายเคลื่อนไหวคอยรู้สึก
-
Not Synced
ร่างกายขยับคอยรู้สึก รู้สึกบ่อยๆ
-
Not Synced
จิตจะได้มีกำลังตั้งมั่นขึ้นมา
-
Not Synced
ถ้าจิตเราตั้งมั่นจริงๆ
-
Not Synced
ของภายนอกที่
แปลกปลอมทั้งหลายเข้ามาไม่ถึง
-
Not Synced
ไม่อย่างนั้นเราจะคอยวอกแวกอะไรมาอะไรไป
-
Not Synced
จะฟุ้งซ่าน
-
Not Synced
ทำกรรมฐานของเราไป
-
Not Synced
ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึก
ร่างกายเคลื่อนไหว รู้สึกไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
สมาธิมันจะเกิด เราจะไม่สนใจสิ่งภายนอก
-
Not Synced
หรือจะเห็นธรรมภายในมันทำงาน
-
Not Synced
แต่มันก็ทำงานสัมพันธ์กับข้างนอกล่ะ
ตา หู จมูก ลิ้น กาย มันของข้างนอก
-
Not Synced
เรื่องราวที่คิดก็ของข้างนอก
-
Not Synced
พอมากระทบแล้วใจมันก็ทำงาน
แล้วก็ค่อยๆ ดูไป
-
Not Synced
ที่สำคัญคือใจเราต้องตั้งมั่น
-
Not Synced
ไม่อย่างนั้นจะ
เห็นโน้นเห็นนี้ รู้โน่นรู้นี่ไป
-
Not Synced
เบอร์ 8
-
Not Synced
เป็นคนมีมานะอัตตามาก
-
Not Synced
อ๋อ เป็นคน
-
Not Synced
มีมานะอัตตามาก
-
Not Synced
ระหว่างวันจะรู้สึกตัวได้บ้าง
เวลามีโทสะเกิดขึ้น
-
Not Synced
ในรูปแบบใช้ลมหายใจเข้าพุทออกโธ
-
Not Synced
บางวันนั่งไปแล้วรู้สึกมัวๆ
-
Not Synced
จนรู้สึกตัวอีกที
เห็นความสว่างเหมือนตื่นจากหลับ
-
Not Synced
ไม่รู้ว่าเคลิ้มหรือไม่
-
Not Synced
บางทีเห็นร่างกายหายใจได้ต่อเนื่อง
-
Not Synced
แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเพ่งหรือไม่ค่ะ
-
Not Synced
วิธีดูว่าเพ่งหรือไม่ง่ายนิดเดียว
-
Not Synced
ถ้าใจเรามีน้ำหนักขึ้นมา แน่นๆ ขึ้นมา
-
Not Synced
แสดงว่าเพ่ง
-
Not Synced
ถ้าใจเราเป็นปกติธรรมดา ไม่หนัก ไม่แน่น
-
Not Synced
ก็ไม่ได้เพ่ง ดูง่ายๆ แค่นี้ล่ะ
-
Not Synced
ดูทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา
-
Not Synced
เป็นของชั่วคราวทั้งหมด
-
Not Synced
คอยดูตัวนี้ด้วย ดูบ่อยๆ ดูไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
ใจเราจะได้ไม่หวั่นไหว
-
Not Synced
ไม่อย่างนั้นใจเรา
-
Not Synced
ความทุกข์มันจะเข้ามาถึงใจได้
-
Not Synced
ดูว่าทุกสิ่งทุกอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
-
Not Synced
ไม่มีอะไรอยู่กับเราตลอดกาล ดูบ่อยๆ
-
Not Synced
สอนมันไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
ใจเราก็จะสบายกว่านี้
-
Not Synced
อย่าไปเสียอกเสียใจ ฝึกไป
-
Not Synced
พระพุทธเจ้าบอก
คนเราแต่ละคน กว่าจะพ้นทุกข์
-
Not Synced
เสียน้ำตาไปมากกว่าน้ำในมหาสมุทรอีก
แต่ละคน
-
Not Synced
ฉะนั้นอย่าไปเสียอกเสียใจ
-
Not Synced
มีสติไป อย่าให้ความรู้สึกมันครอบงำ
-
Not Synced
ตัวนี้ความรู้สึกครอบงำจิต
-
Not Synced
แล้วทำอย่างไร
-
Not Synced
ความเศร้าครอบงำจิต ก็เห็นมัน
-
Not Synced
แล้วเห็นใจที่ไม่ชอบ
-
Not Synced
ใจที่อยากหาย อยากหายเศร้า
-
Not Synced
อยากดีอะไรอย่างนี้ อยากไม่ทุกข์
-
Not Synced
ให้รู้ทันใจที่อยากบ่อยๆ
-
Not Synced
แล้วก็สอนมันไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
ทุกอย่างในชีวิตเราเป็นของชั่วคราว
สอนมันไปเรื่อยๆ
-
Not Synced
แล้วเวลาความอยากอะไรเกิดก็รู้ทันมัน
-
Not Synced
วันนี้เทศน์ให้ฟังเท่านี้
-
Not Synced
พรุ่งนี้หลวงพ่อไม่อยู่
-
Not Synced
ไปเทศน์ที่บ้านจิตสบาย
-
Not Synced
จิตสบายแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
-
Not Synced
ใครตอบได้บ้าง
-
Not Synced
สมาธิจะเกิดขึ้น
-
Not Synced
เดี๋ยวตีตายเลยสอนตั้งนาน มานั่งงง
-
Not Synced
จิตเรามีความสุขมีความสบาย
สิ่งที่ตามมาคือสมาธิ
-
Not Synced
แต่ถ้าสบายอย่างโลกๆ
อันนั้นไม่เรียกสบายจริง
-
Not Synced
อันนั้นมันหลอกตัวเองว่าสบาย
-
Not Synced
จิตสบายมันสงบ
-
Not Synced
สงบ สบาย มีความสุข
-
Not Synced
ฝึกนะ จิตที่เข้าถึงความสุขความสงบตัวนี้
-
Not Synced
จากการปฏิบัติ
-
Not Synced
เป็นมงคลในชีวิตที่ยิ่งใหญ่มาก
-
Not Synced
เข้าถึงความสงบภายในของเรา
-
Not Synced
โลกไม่เคยหยุดนิ่ง
โลกวุ่นวายอย่างนี้ไม่เคยจบ
-
Not Synced
ปัญหาในชีวิตเราไม่เคยจบ
-
Not Synced
หมดปัญหาหนึ่งก็มาอีก 2 ปัญหา
เรื่องธรรมดา
-
Not Synced
มีสติไว้
-
Not Synced
อย่าให้ความอยากมันนำหน้าปัญญาของเราไป
-
Not Synced
เราก็จะแก้ปัญหาชีวิตของเราได้
-
Not Synced
ถ้าความอยากมันนำหน้าสติปัญญา
-
Not Synced
มันก็ทุกข์แน่นอน
-
Not Synced
ช่วงนี้โลกมันทุกข์เยอะ วุ่นวาย
-
Not Synced
อะไรที่ไม่จำเป็นอย่าไปแบกมัน
-
Not Synced
อย่าไปแบกทุกข์ อย่าไปแบกปัญหาอะไรไว้
-
Not Synced
โลกไม่เคยว่างจากปัญหา
-
Not Synced
ปัญหาเป็นของประจำโลก
-
Not Synced
จิตที่ฝึกดีแล้ว
มีปัญหาอยู่ แต่ไม่มีความทุกข์
-
Not Synced
ความทุกข์กับปัญหาเป็นคนละส่วนกัน
-
Not Synced
ปัญหาเป็นของประจำโลก ไม่หมดหรอก
-
Not Synced
อย่างเรื่องพระไม่ดี ไม่หมดหรอก
-
Not Synced
อย่างไรก็มี มันของธรรมดา
-
Not Synced
แล้วใจเรามีความอยากขึ้นมาเมื่อไร
-
Not Synced
ใจเราก็จะมีความทุกข์เมื่อนั้น
-
Not Synced
รักษาใจของเรา
-
Not Synced
บางคนทำกิจการแล้วมีปัญหาล้มเหลว
-
Not Synced
ฐานะแย่ลง
-
Not Synced
รักษาไว้เต็มที่แล้วทำไม่ไหว
-
Not Synced
มันถอย เสื่อมถอยลง
-
Not Synced
ยังไม่มีช่องทางใหม่ๆ ที่จะทำมาหากิน
-
Not Synced
อย่างน้อยรักษาใจไว้ให้ได้
-
Not Synced
อย่าให้ใจจมอยู่ในความทุกข์ เศร้าหมอง
-
Not Synced
ใจที่เศร้าหมองจมในความทุกข์
-
Not Synced
ไม่มีสติปัญญาที่จะไปแก้ปัญหาหรอก
-
Not Synced
ฉะนั้นรักษาใจไว้ให้ดี
-
Not Synced
ไม่รู้จะอวยพรอย่างไรแล้ว
-
Not Synced
หันไปทางไหนก็เห็นแต่ทุกข์
-
Not Synced
พวกที่ยิ้มๆ ข้างในมันก็ทุกข์
-
Not Synced
เห็น น่าสงสาร
-
Not Synced
สงสารแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
อุเบกขาก็แล้วกัน
-
Not Synced
เชิญ กลับบ้าน