-
ในทรายทุกเม็ดบนโลกจะมีดวงดาวกว่า
หนึ่งหมึ่นดวงในจักรวาลที่สามารถสังเกตได้
-
เรารู้ว่าอาจมีดาวเคราะห์เป็นล้านล้านดวง
-
ฉะนั้น พวกต่างดาวไปไหนหมดละ
-
นี่เรียกว่า "Fermi Paradox"
-
ถ้าคุณอยากเรียนรู้เพิ่มเติม ดูตอนที่ 1 สิ
-
ในตอนนี้ เราจะดูความเป็นไปได้ของ
Fermi Paradox
-
ว่าเราจะมีอนาคตอันสดใส หรือโดนทำลายราบคาบ
-
การท่องอวกาศมันยาก แต่เป็นไปได้
มันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ในการเดินทาง
ไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ
-
วัสดุจำนวนมหาศาลจะถูกนำไป
สร้างยานอวกาศบนวงโคจร
-
เราต้องเตรียมประชากรที่เพียงพอที่จะเริ่ม
จากศูนย์ได้ในการเดินทางกว่าพันๆ ปีนี้
-
และดาวเคราะห์อาจไม่อำนวยต่อการอยู่อาศัย
เหมือนที่เห็นจากโลกก็ได้
-
มันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะสร้างยานอวกาศ
ที่จะเดินทางแบบนี้ได้
-
และการเดินทางระหว่างดวงดาว
อาจไม่เกิดขึ้นจริงก็ได้
-
และเมื่อดูจากเวลา จักรวาลนั้นเก่าแก่มาก
-
บนโลก ชีวิตเริ่มต้นเมื่อ 3.6 พันล้าน
ปีที่แล้ว
-
มนุษย์เกิดขึ้นเมื่อ 250,000 ปีที่แล้ว
-
และเทคโนโลยีสื่อสารทั่วโลกเพิ่ง
เกิดขึ้นเมื่อ 100 ปีที่แล้วเอง
-
ไม่แน่ อาจมีอารยธรรมต่างดาวอายุกว่าล้านปี
ที่ตั้งรกรากบนระบบสุริยะกว่าพันระบบก็ได้
-
และเราอาจคลาดพวกเขาไป
-
อาจมีซากอารยธรรมบนดาวเคราะห์ดวงอื่นก็ได้
-
สิ่งมีชีวิตกว่า 99% บนโลกสูญพันธ์ไปแล้ว
-
และเราอาจมีชะตากรรมเดียวกันในไม่ช้าก็ได้
-
สิ่งมีชีวิตที่มีปัญญาอาจพัฒนา เดินทางไปตาม
ระบบดวงดาว และตายจากไปเป็นวัฏจักร
-
แต่อารยธรรมระหว่างดาวไม่อาจได้มาพบกัน
-
ไม่แน่ มนุษย์ต่างดาวอาจกำลังมองขึ้นไปบน
ท้องฟ้า พูดว่า "มีเอเลี่ยนจริงหรือเปล่า"
-
แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่มนุษย์ต่างดาวจะเหมือน
กับอารยธรรมของเรา
-
หรือกฏหลักที่เรามีต่อพวกเขา
-
การสื่อสารของเราอาจโบราณเกินกว่าที่มนุษย์
ต่างดาวจะเข้าใจได้
-
สมมุติว่าเรานั่งกดรหัสมอสอยู่ในบ้าน ส่ง
สัญญาณไปแต่ไม่มีใครตอบรับ
-
และเราคงรู้สึกเหงา ไม่แน่เราอาจยังไม่ถูก
ตรวจพบจากอารยธรรมต่างดาว
-
และจะเป็นอย่างนั้นจนกว่าเราจะรู้วิธี
สื่อสารอย่างถูกวิธี
-
และแม้ว่าเราจะพบมนุษย์ต่างดาว ไม่ได้หมาย
ความว่าเราจะสื่อสารกันรู้เรื่องเสมอไป
-
ให้คิดถึงกระรอกที่ฉลาดที่สุดเท่าที่คุณจะ
จินตนาการได้
-
ไม่ว่าคุณจะอธิบายถึงอารยธรรมของเราอย่างไร
มันก็ไม่มีทางเข้าใจ
-
ในมุมมองของกระรอก ต้นไม้คือสิ่งที่มันต้อง
การเพื่อเอาชีวิตรอด
-
ฉะนั้น เราตัดไม้ไปทั้งป่ามันบ้าคลั่ง แต่
เราไม่ได้ตัดไม้ไปเพราะเราเกลียดกระรอก
-
เราแค่ต้องการทรัพยากรเท่านั้นเอง
-
การเอาชีวิตรอดของกระรอกอาจเหมือนกับพวกเรา
ในอนาคตก็ได้
-
อารยธรรมที่สูงส่งที่ต้องการทรัพยากรอาจทำ
กับเราเหมือนที่เราทำกับกระรอกก็ได้
-
มันอาจระเหยมหาสมุทรของพวกเราเพื่อเก็บ
ทรัพยากรออกไปได้ง่ายขึ้น
-
มนุษย์ต่างดาวอาจคิดกับเรา "อุ้ย ดูพวกนี้สิ
มันสร้างตึกคอนกรีตน่ารักแต่มันตายหมดแล้ว"
-
ก่อนจะเดินทางจากโลกไป
-
อาจมีอารยธรรมอื่นที่คอยจ้องจะทำลาย
อารยธรรมอื่นก็ได้
-
มันอาจมีแรงจูงใจในการทำมันเพื่อกระแสสังคม
มากกว่าทำเพื่อเศรษฐกิจ
-
และมันจะได้ผลมากขึ้นเมื่อทำงานโดยเครื่อง
จักรทำลายล้างที่ได้ผลอย่างดี
-
เครื่องจักรขนาดจิ๋วที่สามารถโคลนตัวเองได้
-
มันทำงานในระดับโมเลกุลอย่างรวดเร็วราบคาบ
-
ด้วยพลังที่ทำลายหรือดับการทำงานกับทุก
อย่างที่ขวางหน้า
-
คุณแค่ต้องการทำตามสี่ขั้นตอนนี้
-
1. หาดาวที่มีสิ่งมีชีวิต
-
2. เปลี่ยนมันให้เป็นดาวเคราะห์ไร้ชีวิต
-
3. ใช้ทรัพยากรสร้างยานอวกาศใหม่
-
4. ทำต่อไปเรื่อยๆ
-
เครื่องจักรวันสิ้นโลกนี้อาจทำงานมากว่าล้าน
ปีทั่วกาแล็กซี่แล้วก็ได้
-
แต่ทำไมเราต้องเดินทางเป็นปีแสงเพื่อเอา
ทรัพยากรและฆ่าล้างเผ่าพันธ์ด้วยละ?
-
ความเร็วของแสงมันไม่ได้เร็วมาก
-
ถ้าคุณเดินทางด้วยความเร็วแสง มันอาจใช้เวลา
เป็นหมึ่นปีกว่าจะเดินทางข้ามทางช้างเผือก
-
และเราเดินทางได้ช้ากว่านั้นแน่
-
อาจมีวิธีที่น่าสนุกกว่าการทำลายล้าง
อารยธรรมและสร้างอาณาจักรก็ได้
-
"Matrioshka Brain" เป็นความคิดที่ดีอันนึง
-
สิ่งก่อสร้างที่สร้างครอบดวงดาวดวงหนึ่ง
-
คอมพิวเตอร์ที่ดีพอที่จะอัพโหลดสิ่งมีชีวิต
ทั้งหมดลงในจักรวาลเสมือนจริง
-
จักรวาลที่เรามีแต่ความสุข โดยไม่มีการเกิด
หรือความเศร้า ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ
-
ถ้ามันสร้างรอบดาวแคระแดง คอมพิวเตอร์จะ
สามารถทำงานได้กว่าสิบล้านล้านปี
-
ใครจะมานั่งครอบครองจักรวาลหรือติดต่อกับ
อารยธรรมอื่นเมื่อมีสิ่งนี้เป็นทางเลือก
-
ปัญหาสำหรับ Fermi Paradox มีอย่างเดียว
-
เราไม่รู้ว่าขอบเขตของเทคโนโลยีอยู่ที่ไหน
-
เราอาจใกล้ถึงจุดที่อิ่มตัวที่สุดหรือไม่
ใกล้เคียงเลย
-
และมีเทคโนโลยีที่สุดยอดกำลังรอเราอยู่
-
ที่จะทำให้เราเป็นอมตะ ขนส่งเราไปทั่ว
กาแล็กซี่ ยกระดับเราให้เป็นพระเจ้า
-
สิ่งเดียวที่เรารู้คือ เราไม่รู้อะไรเลย
-
มนุษย์ใช้เวลากว่า 90% เป็นสังคมแห่ง
การล่าสัตว์และเก็บของป่า
-
500 ปีที่แล้ว เราคิดว่าเราเป็นศูนย์กลางของ
จักรวาล
-
200 ปีแล้ว เราหยุดใช้แรงงานมนุษย์เป็น
พลังงานหลัก
-
30 ปีที่แล้ว เราสร้างอาวุธวันสิ้นโลก
ขู่ใส่กันเพราะความขัดแย้งทางการเมือง
-
ในเวลาของจักรวาล เรายังเป็นแค่เอ็มบริโอ้
-
เรามาได้ไกลแล้ว แต่ยังต้องเดินทางไปอีกไกล
-
ความคิดที่ว่าเราเป็นศูนย์กลางของจักรวาล
ยังคงฝังลึกในจิตใจมนุษย์
-
และมันง่ายมากที่เราจะคิดสมมุติฐานภายใต้
ความคิดของเราเกี่ยวกับชีวิตต่างดาว
-
แต่สุดท้าย เรามีวิธีเดียวที่จะรู้ได้ใช้ไหม