มาร์ค บิทแมน (Mark Bittman) กับเรื่องสิ่งผิดปกติในสิ่งที่เรารับประทาน
-
0:00 - 0:02ผมเขียนเกี่ยวกับอาหาร ผมเขียนเกี่ยวกับการทำอาหาร
-
0:02 - 0:04ผมค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับมัน
-
0:04 - 0:06แต่ผมมาที่นี่เพื่อที่จะพูดเกี่ยวกับบางสิ่ง
-
0:06 - 0:10ที่ได้กลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผมในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา
-
0:10 - 0:14มันเกี่ยวกับอาหาร แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับการทำอาหารซะทีเดียว
-
0:15 - 0:17ผมจะเริ่มต้นด้วยรูปวัวแสนสวยตัวนี้
-
0:18 - 0:21ผมไม่กินมังสวิรัติ -- นี่เป็นประโยคเก่าแก่ของนิซอน (Nixon) ใช่ไหม
-
0:21 - 0:23แต่ผมยังคิดว่านี่ --
-
0:23 - 0:24(หัวเราะ)
-
0:24 - 0:26-- อาจจะเป็นรูปนี้ในเวอร์ชั่นของปีนี้
-
0:27 - 0:31ตอนนี้มันอาจจะฟังดูเกินความจริงไปนิดหน่อย
-
0:31 - 0:33ทำไมผมถึงได้พูดเช่นนั้น?
-
0:33 - 0:37เพราะว่ามีแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้ที่ชะตากรรมของบุคคล
-
0:37 - 0:39และชะตากรรมของมนุษยชาติทั้งหมด
-
0:39 - 0:41ได้เข้ามาพัวพันกัน
-
0:41 - 0:43ตอนนั้นเป็นเรื่องของระเบิด แล้วก็มาเป็นเรื่องของปัจจุบันนี้
-
0:44 - 0:46และทางที่เราเลือกจากนี้ไปจะเป็นสิ่งที่ตัดสิน
-
0:46 - 0:50ไม่ใช่แค่เพียงคุณภาพและอายุขัยของแต่ละบุคคล
-
0:50 - 0:52แต่รวมไปถึง ถ้าเราได้มองเห็นโลกใบนี้ในอีกศตวรรษต่อไป
-
0:52 - 0:54เราจะยังจำมันได้หรือไม่
-
0:54 - 0:56มันเป็นความหายนะที่แตกต่างไปอีกแบบ
-
0:56 - 0:59และการหลบอยู่ใต้โต๊ะของพวกเราก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
-
0:59 - 1:01เริ่มจากแนวคิดที่ว่าสภาวะโลกร้อน
-
1:01 - 1:03ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องจริง แต่ยังอันตรายอีกด้วย
-
1:03 - 1:06เนื่องจากทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ทุกคนในโลกเชื่อในเรื่องนี้
-
1:06 - 1:09และแม้แต่ประธานาธิบดีบุชก็ยังเข้าใจ หรือแกล้งทำเป็นเข้าใจ
-
1:09 - 1:11เราสามารถตีความได้ว่ามันเป็นจริง
-
1:12 - 1:14เพราะฉะนั้น ได้โปรดฟังทางนี้
-
1:14 - 1:18รองจากการผลิตพลังงาน ปศุสัตว์ครองอันดับสองในการเป็นผู้ผลิต
-
1:18 - 1:20ก๊าซที่ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลง
-
1:20 - 1:24เกือบหนึ่งในห้าของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด
-
1:24 - 1:26เกิดขึ้นจากการปศุสัตว์ --
-
1:26 - 1:28มากกว่าการขนส่ง
-
1:28 - 1:32ตอนนี้คุณสามารถจะเล่นตลกกับมุขตดของวัวเท่าไหร่ก็ได้
-
1:32 - 1:35แต่ก๊าซมีเทนเป็นพิษมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 20 เท่า
-
1:35 - 1:37และมันไม่ได้มีแค่ก๊าซมีเทน
-
1:37 - 1:41การปศุสัตว์ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญที่สุดของความเสื่อมโทรมของที่ดิน
-
1:41 - 1:46มลพิษทางอากาศและน้ำ การขาดแคลนน้ำ และการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ
-
1:46 - 1:47ยังมีอีก
-
1:47 - 1:50เช่น ครึ่งหนึ่งของยาปฏิชีวนะในประเทศนี้
-
1:50 - 1:53ไม่ได้ถูกจัดสรรให้กับผู้คน แต่ให้แก่สัตว์ต่างๆ
-
1:53 - 1:56แต่รายการแบบนี้ทำให้เรามึนงง เพราะฉะนั้นผมขอพูดเพียงว่า
-
1:56 - 1:58ถ้าคุณเป็นคนก้าวหน้า
-
1:58 - 2:01ถ้าคุณขับพรีอุส (Prius) หรือคุณซื้อของที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม
-
2:01 - 2:03หรือคุณมองหาของปลอดสารพิษ (ออร์แกนิค)
-
2:03 - 2:06บางทีคุณควรจะเป็นกึ่งมังสวิรัติ
-
2:07 - 2:11ต้องเข้่าใจว่า ผมไม่ได้ต่อต้านวัวพอๆกับที่ไม่ต่อต้านอะตอม
-
2:11 - 2:13แต่ทั้งหมดอยู่ที่วิธีที่เราใช้สิ่งเหล่านี้
-
2:13 - 2:15ยังมีจิ๊กซอว์อีกหนึ่งชิ้น
-
2:15 - 2:17ซึ่งแอน คูปเปอร์ (Ann Cooper) ได้พูดไว้อย่างสวยงามเมื่อวานนี้
-
2:17 - 2:19และเป็นเรื่องที่คุณก็รู้อยู่แล้ว
-
2:20 - 2:24ไม่มีคำถาม -- ไม่มี -- สำหรับโรคซึ่งเรียกว่าโรคจากวิถีชีวิต --
-
2:24 - 2:28โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งบางชนิด --
-
2:28 - 2:31เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่นี่
-
2:31 - 2:33มากไปกว่าที่อื่นใดในโลก
-
2:33 - 2:37และนั่นเป็นผลโดยตรงของการกินอาหารแบบตะวันตก
-
2:37 - 2:41ความต้องการของเราที่จะบริโภคเนื้อ ผลิตพันธุ์นม และคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านกระบวนการ --
-
2:41 - 2:46โลกนี้บริโภคโค้กหนึ่งพันล้านกระป๋องหรือขวดต่อวัน
-
2:46 - 2:50ความต้องการของเราในสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่ความจำเป็น แต่เป็นความต้องการ --
-
2:50 - 2:54ทำให้พวกเราบริโภคจำนวนแคลอรี่ที่มากเกินความพอดีสำหรับพวกเรา
-
2:54 - 2:59และแคลอรี่เหล่านี้อยู่ในอาหารที่ก่อให้เกิด ไม่ใช่ป้องกัน โรค
-
2:59 - 3:01ตอนนี้สภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงในอดีต
-
3:01 - 3:05เราไม่ได้รู้ว่ามลภาวะจะส่งผลมากกว่าทำให้ทัศนวิสัยแย่
-
3:05 - 3:07อาจจะมีโรคมะเร็งเป็นบางครั้งบางคราว
-
3:07 - 3:10แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
-
3:10 - 3:12วิกฤตสุขภาพในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม
-
3:12 - 3:15เป็นมากกว่าผลงานของอาณาจักรที่ชั่วร้าย
-
3:15 - 3:18เราได้ถูกบอกเล่า ถูกรับประกัน
-
3:18 - 3:20ว่าถ้าเรารับประทานเนื้อ ผลิตภัณฑ์นม และสัตว์ปีก มากขึ้น
-
3:20 - 3:22เราจะสุขภาพดีขึ้น
-
3:22 - 3:25ไม่ การบริโภคเนื้อสัตว์ และแน่นอน อาหารขยะ ที่มากเกินไป
-
3:25 - 3:29คือปัญหา ควบคู่กับการบริโภคผักผลไม้เล็กน้อยของเรา
-
3:29 - 3:32ผมไม่มีเวลาที่จะพูดถึงประโยชน์ของการรับประทานผักผลไม้ที่นี่
-
3:32 - 3:35แต่หลักฐานอยู่ที่ผักผลไม้เอง -- และผมต้องการพูดให้ชัดเจน --
-
3:35 - 3:39มันไม่ใช่ส่วนประกอบในผักผลไม้ มันคือผักผลไม้เอง
-
3:39 - 3:42มันไม่ใช่เบต้าแคโรทีน มันคือแครอท
-
3:42 - 3:46หลักฐานชัดเจนมากว่าผักผลไม้ช่วยสร้างเสริมสุขภาพ
-
3:46 - 3:48หลักฐานล้นหลามมากในตอนนี้
-
3:48 - 3:52คุณรับประทานผักผลไม้มากขึ้น รับประทานอย่างอื่นน้อยลง คุณจะอายุยืนยาวขึ้น
-
3:52 - 3:54ไม่แย่เท่าไร
-
3:54 - 3:56แต่กลับมาที่เรื่องสัตว์และอาหารขยะ
-
3:56 - 3:58พวกมันมีอะไรที่เหมือนกัน
-
3:58 - 4:01หนึ่ง: เราไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้นเลยสำหรับสุขภาพของเรา
-
4:01 - 4:03เราไม่ต้องการผลิตภัณฑ์จากสัตว์
-
4:03 - 4:06และเราไม่จำเป็นที่ต้องกินขนมปังขาวหรือโค้กอย่างแน่นอน
-
4:06 - 4:08สอง: ทั้งสองอย่างถูกโฆษณาอย่างมาก
-
4:08 - 4:10สร้างความต้องการเทียม
-
4:10 - 4:15เราไม่ได้เกิดมาอยากกิน Whoppers หรือ Skittles
-
4:15 - 4:18สาม: การผลิตสิ่งเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐ
-
4:18 - 4:21แลกกับการสูญเสียอาหารที่ดีกว่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกว่า
-
4:21 - 4:25ตอนนี้เรามาจินตนาการวิถีทางขนานกัน
-
4:25 - 4:28เรามาแสร้งว่ารัฐบาลของเราสนับสนุนเศรษฐกิจที่ขึ้นอยู่กับน้ำมัน
-
4:28 - 4:32และไม่สนับสนุนรูปแบบพลังงานที่ยั่งยืนกว่า
-
4:32 - 4:34ทั้งๆที่รู้ว่าผลที่ได้ก็คือ
-
4:34 - 4:36มลภาวะ สงคราม และราคาที่สูงขึ้น
-
4:36 - 4:38เหลือเชื่อใช่หรือไม่
-
4:38 - 4:40แต่พวกเขาก็ทำอย่างนั้น
-
4:40 - 4:42และพวกเขาก็ทำเช่นนั้นที่นี่ มันเหมือนกัน
-
4:42 - 4:44สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ เมื่อเป็นเรื่องการรับประทานอาหาร
-
4:44 - 4:46แม้กระทั่งธนาคารกลางที่มีเจตนาที่ดี
-
4:46 - 4:50ที่พยายามจะทำสิ่งที่ดีเพื่อเรา พวกเขายังล้มเหลว
-
4:51 - 4:54บางทีพวกเขาอาจจะมีเสียงน้อยกว่าพวกหุ่นเชิดของนักธุรกิจการเกษตร
-
4:54 - 4:56หรือพวกเขาก็เป็นหุ่นเชิดของนักธุรกิจการเกษตรเสียเอง
-
4:56 - 5:00เพราะฉะนั้นหลังจากที่กระทรวงการเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ได้ยอมรับในที่สุด
-
5:00 - 5:04ว่าแท้จริงแล้ว ผักผลไม้ ไม่ใช่เนื้อสัตว์ ที่ทำให้ผู้คนแข็งแรง
-
5:04 - 5:08พวกเขาก็สนับสนุนพวกเรา โดยการใช้ปิรามิดอาหารที่เรียบง่ายเกินไป
-
5:08 - 5:11โดยให้รับประทานผักผลไม้ห้าหน่วยต่อวัน
-
5:11 - 5:13พร้อมกับรับประทานคาร์โบไฮเดรตมากขึ้น
-
5:13 - 5:16ที่พวกเขาไม่ได้บอกเราคือ คาร์โบไฮเดรตบางชนิดดีกว่าชนิดอื่น
-
5:16 - 5:18และผักผลไม้และธัญพืช
-
5:18 - 5:20ควรจะมาแทนที่การรับประทานอาหารขยะ
-
5:20 - 5:23แต่นักลอบบี้ของกลุ่มอุตสาหกรรมจะไม่ยอมให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นแน่นอน
-
5:23 - 5:25และรู้หรือไม่ว่า
-
5:25 - 5:27ครึ่งหนึ่งของผู้คนที่พัฒนาปิรามิดอาหาร
-
5:27 - 5:29มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจการเกษตร
-
5:29 - 5:32เพราะฉะนั้น แทนที่เราจะรับประทานผักผลไม้แทนเนื้อสัตว์
-
5:32 - 5:35ความอยากอาหารของเราที่มีมากอยู่แล้วก็ยิ่งเติบโตขึ้น
-
5:35 - 5:39และสิ่งที่อันตรายที่สุดของเรื่องนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
-
5:39 - 5:43อาหารที่เรียกว่า ไขมันต่ำ หรือคาร์โบไฮเดรตต่ำ --
-
5:43 - 5:45ยังไม่ใช่ทางออก
-
5:45 - 5:47แต่เมื่อมีคนฉลาดเฉลียวหลายคน
-
5:47 - 5:50มุ่งเน้นไปที่คำถามว่าอาหารจะปลอดสารพิษ (ออร์แกนิค) หรือ ผลิตในท้องถิ่น
-
5:50 - 5:52หรือเราปฏิบัติต่อสัตว์ดีแค่ไหน
-
5:52 - 5:55ปัญหาที่สำคัญที่สุดก็ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
-
5:55 - 5:57เอาล่ะ อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด
-
5:57 - 5:59ผมเป็นคนรักสัตว์
-
5:59 - 6:02และผมไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะผลิตเนื้อสัตว์ในรูปแบบอุตสาหกรรม
-
6:02 - 6:05และไขพวกสัตว์เหมือนมันเป็นประแจ
-
6:05 - 6:08แต่เราไม่มีทางที่จะดูแลมันอย่างดีได้
-
6:08 - 6:11ต่อเมื่อคุณยังคงฆ่าสัตว์หมื่นล้านตัวต่อปี
-
6:11 - 6:13นั่นคือตัวเลขของเรา หมื่นล้าน
-
6:13 - 6:15ถ้าคุณแขวนพวกมันทั้งหมด --
-
6:15 - 6:19ไก่ วัว หมู แกะ -- ไปถึงดวงจันทร์
-
6:19 - 6:21มันจะต่อกันได้เท่ากับไปกลับห้ารอบ -- ไปและกลับ
-
6:21 - 6:24ผมอาจจะไม่ค่อยเก่งเลข แต่ที่คำนวนนี่ก็พอจะใช้ได้
-
6:24 - 6:27และมันขึ้นอยู่กับว่าหมูหนึ่งตัวมีความยาวขนาดสี่ฟุต หรือห้าฟุต
-
6:27 - 6:29แต่คุณพอจะเข้าใจความคิดของผม
-
6:29 - 6:31นี่เป็นเพียงแค่ในสหรัฐอเมริกา
-
6:32 - 6:34และประกอบกับการบริโภคสัตว์เหล่านี้อย่างมากมายของเรา
-
6:34 - 6:37ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกและโรคหัวใจ
-
6:37 - 6:40ความใจดีอาจจะเป็นการออกนอกเรื่องไปสักนิด
-
6:40 - 6:44เรามาดูจำนวนสัตว์ที่เราฆ่าเพื่อการบริโภค
-
6:44 - 6:48และจากนั้นเราค่อยมากังวลเรื่องการทำดีต่อสัตว์ที่เหลืออยู่
-
6:48 - 6:52การออกนอกเรื่องอีกเรื่องอาจจะถูกยกตัวอย่างได้จากคำว่า "คนที่กินของในท้องถิ่น" (locavore)
-
6:52 - 6:55ซึ่งเพิ่งถูกยกให้เป็นคำประจำปีโดยพจนานุกรม New Oxford American
-
6:55 - 6:57จริงๆนะครับ
-
6:57 - 6:59และ คนที่กินของในท้องถิ่น สำหรับคนที่ไม่รู้จัก
-
6:59 - 7:01คือบุคคลที่กินแต่อาหารที่ถูกปลูกในท้องถิ่น
-
7:01 - 7:04ซึ่งไม่มีปัญหาอะไรถ้าคุณอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย
-
7:04 - 7:07แต่สำหรับพวกเราที่เหลือ มันเป็นเรื่องตลกที่ค่อนข้างเศร้า
-
7:07 - 7:10ระหว่างเรื่องของทางรัฐ -- ปิรามิดอาหาร --
-
7:10 - 7:12และความคิดที่ล้ำหน้าแบบ คนที่กินของในท้องถิ่น
-
7:12 - 7:14คุณมีสองทางในการพัฒนาวิธีการกินของเรา
-
7:14 - 7:16(หัวเราะ)
-
7:16 - 7:18อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งสองได้เข้าใจผิด
-
7:18 - 7:22ทางแรกอย่างน้อยมันก็เป็นที่นิยมทั่วไป ทางที่สองเป็นที่ชื่นชอบของพวกชนชั้นสูง
-
7:22 - 7:26สิ่งที่ทำให้เรามาถึงจุดๆนี้คือประวัติศาสตร์ของอาหารในสหรัฐอเมริกา
-
7:26 - 7:28และผมจะพูดถึงมันทั้งหมด
-
7:28 - 7:31อย่างน้อยก็ในช่วงประมาณร้อยปีที่ผ่านมา ผ่านไปเร็วทีเดียว
-
7:31 - 7:33หนึ่งร้อยปีที่แล้ว ทายสิ
-
7:33 - 7:37ทุกคนเป็นคนที่กินของในท้องถิ่น แม้แต่นิวยอร์คก็มีฟาร์มสุกรอยู่ใกล้ๆ
-
7:37 - 7:40และการขนส่งอาหารไปทุกที่ทั่วๆก็เป็นเรื่องที่น่าขำ
-
7:41 - 7:44ทุกครอบครัวมีคนทำอาหาร โดยทั่วไปจะเป็นแม่
-
7:44 - 7:47และแม่ก็ซื้อและทำอาหาร
-
7:47 - 7:49มันเหมือนภาพยุโรปอันแสนโรแมนติคของคุณ
-
7:49 - 7:51ยังไม่มีมาการีนในตอนนั้น
-
7:51 - 7:54แท้จริงแล้ว ตอนที่มาการีนถูกผลิต
-
7:54 - 7:58หลายรัฐได้ผ่านกฎหมายว่ามันจะต้องถูกย้อมเป็นสีชมพู
-
7:58 - 8:01เพื่อที่เราจะได้รู้ว่ามันเป็นของปลอม
-
8:01 - 8:03ยังไม่มีขนมขบเคี้ยว และจนกระทั่งช่วงทศวรรษที่ 1920
-
8:03 - 8:06จนกระทั่งมี Clarence Birdseye ก่อนหน้านั้นยังไม่มีอาหารแช่แข็ง
-
8:06 - 8:09ยังไม่มีเครือร้านอาหาร
-
8:09 - 8:11มีแต่ร้านอาหารตามย่านต่างๆที่ดำเนินการโดยคนในท้องถิ่น
-
8:11 - 8:13แต่ไม่มีใครคิดที่จะเปิดอีกสาขาหนึ่ง
-
8:13 - 8:16ไม่เคยมีใครได้ยินคำว่า การกินอาหารประจำชาติ นอกจากคุณเป็นคนชาตินั้น
-
8:16 - 8:19และอาหารที่หรูหรามีเพียงอาหารฝรั่งเศส
-
8:19 - 8:22และอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับคนที่จำได้
-
8:22 - 8:26ในช่วงปีค.ศ. 1970 แดน แอครอยด์ (Dan Aykroyd) ได้เลียนแบบจูเลีย ไชลด์ (Julia Child)
-
8:26 - 8:31เห็นได้ว่าเขาเอาความคิดที่จะแทงตัวเองมาจากการหั่นอันแสนวิเศษนี้
-
8:31 - 8:32(เสียงหัวเราะ)
-
8:32 - 8:36ในช่วงวันเวลาเหล่านั้น ก่อนที่จะมีจูเลีย (Julia)
-
8:36 - 8:38ช่วงวันเวลาเหล่านั้น ยังไม่มีปรัชญาเรื่องอาหาร
-
8:38 - 8:40คุณก็แค่รับประทานอาหาร
-
8:40 - 8:42คุณไม่เรียกตัวเองว่าเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง
-
8:42 - 8:45ไม่มีการตลาด ไม่มีตราสินค้าของชาติ
-
8:45 - 8:48วิตามินยังไม่ถูกค้นคิด
-
8:48 - 8:51ไม่มีการอ้างอิงเรื่องสุขภาพ อย่างน้อยก็ยังไม่มีเรื่องที่รัฐคว่ำบาตร
-
8:51 - 8:55ไขมัน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน -- พวกมันไม่ใช่ว่าดีหรือไม่ดี มันเป็นอาหาร
-
8:55 - 8:58คุณรับประทานอาหาร
-
8:58 - 9:00ไม่ค่อยมีอะไรที่มีมากกว่าหนึ่งส่วนประกอบ
-
9:00 - 9:02เพราะมันคือส่วนประกอบในตัวเอง
-
9:02 - 9:04คอร์นเฟลคยังไม่ถูกคิดค้น
-
9:04 - 9:05(เสียงหัวเราะ)
-
9:05 - 9:08ป๊อปทาร์ต(Pop-Tart) พริงเกิล(Pringle) ชีสวิส(Cheez Whiz) ไม่มีอะไรพวกนั้น
-
9:08 - 9:10ฝูงปลาทองยังว่ายน้ำ
-
9:10 - 9:12(เสียงหัวเราะ)
-
9:12 - 9:15มันยากที่จะจินตนาการ ผู้คนปลูกอาหารและเขารับประทานอาหาร
-
9:15 - 9:18และอีกครั้ง พวกเขากินของในท้องถิ่น
-
9:18 - 9:21ในนิวยอร์ค ส้มเป็นของขวัญคริสมาสต์ที่นิยม
-
9:21 - 9:24เพราะว่ามันมาไกลจากฟลอริดา
-
9:25 - 9:27จากทศวรรษที่ 1930 เป็นต้นมา ระบบถนนหนทางได้รับการขยับขยาย
-
9:27 - 9:29รถบรรทุกเข้่ามาแทนที่รถไฟ
-
9:29 - 9:31อาหารสดเริ่มเดินทางมากขึ้น
-
9:31 - 9:33ส้มกลายมาเป็นสิ่งที่หาได้ทั่วไปในนิวยอร์ค
-
9:33 - 9:36ภาคใต้และตะวันตกกลายมาเป็นศูนย์กลางเกษตรกรรม
-
9:36 - 9:39และในส่วนอื่นของประเทศ การขยายขอบเมืองได้แทนที่พื้นที่การเกษตร
-
9:39 - 9:42ผลกระทบนี้เป็นที่รู้กันดี มันเกิดขึ้นทุกหนแห่ง
-
9:42 - 9:45และการหายไปของฟาร์มแบบครอบครัวคือส่วนหนึ่งของปริศนานี้
-
9:45 - 9:47รวมไปถึงทุกสิ่ง
-
9:47 - 9:49จากการหายไปของชุมชนที่แท้จริง
-
9:49 - 9:53ไปถึงความท้าทายในการหามะเขือเทศดีๆ แม้แต่ในฤดูร้อน
-
9:53 - 9:57แม้แต่แคลิฟอร์เนียก็ผลิตอาหารมากเกินไปที่จะส่งอาหารสดๆ
-
9:57 - 10:00เพราะฉะนั้นมันจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างตลาดสำหรับอาหารกระป๋องและอาหารแช่แข็ง
-
10:00 - 10:02ฉะนั้นความสะดวกสบายได้มาถึง
-
10:02 - 10:04มันถูกขายให้แก่แม่บ้านก่อนยุคสตรีนิยม
-
10:04 - 10:06ในฐานะวิธีที่จะช่วยลดงานบ้าน
-
10:06 - 10:09ตอนนี้ ผมรู้ว่าทุกคนที่อายุมากกว่า ประมาณ 45 --
-
10:09 - 10:11กำลังน้ำลายไหลกันในตอนนี้
-
10:11 - 10:12(เสียงหัวเราะ)
-
10:12 - 10:13(เสียงปรบมือ)
-
10:13 - 10:17ถ้าเรามีสเต็กซาลบิวรี่ (Salisbury steak) สักชิ้น ยิ่งเป็นหนักกว่าเดิมใช่ไหม
-
10:17 - 10:18(เสียงหัวเราะ)
-
10:19 - 10:21แต่นี่อาจจะลดภาระงานบ้าน
-
10:21 - 10:24แต่มันก็ลดจำนวนประเภทของอาหารที่เรารับประทานอีกด้วย
-
10:24 - 10:28เราหลายคนโตขึ้นมาโดยไม่เคยทานผักสดๆ
-
10:28 - 10:32ยกเว้นบางครั้งที่มีแครอทสด หรือบางทีสลัดผักกาดแก้วแบบแปลกๆ
-
10:32 - 10:34ผมคนหนึ่ง -- และผมไม่ได้พูดเล่น --
-
10:34 - 10:38ไม่ได้กินผักโขมหรือบร๊อคโคลี่จริงๆจนอายุ 19 ปี
-
10:38 - 10:40แต่ใครต้องการมัน? มีเนื้อสัตว์อยู่ทุกที่
-
10:40 - 10:43อะไรจะง่าย อิ่ม และดีต่อสุขภาพสำหรับครอบครัวของคุณ
-
10:43 - 10:45ไปกว่าการย่างสเต็คสักชิ้น?
-
10:45 - 10:49แต่ในช่วงเวลานั้นปศุสัตว์ก็ได้ถูกเลี้ยงแบบไม่เป็นธรรมชาติแล้ว
-
10:49 - 10:51แทนที่มันจะใช้ชีวิตของพวกมันกินหญ้า
-
10:51 - 10:54ซึ่งเหมาะสมกับท้องของพวกมัน
-
10:54 - 10:56พวกมันโดนบังคับให้กินถั่วเหลืองและข้าวโพด
-
10:56 - 10:59พวกมันมีปัญหาในการย่อยเมล็ดพืชเหล่านั้น อย่างแน่นอน
-
10:59 - 11:02แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับผู้ผลิต
-
11:02 - 11:05ยาใหม่ๆทำให้พวกมันมีสุขภาพดี
-
11:05 - 11:07ยาทำให้พวกมันยังมีชีวิต
-
11:07 - 11:09การมีสุขภาพดีเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
-
11:09 - 11:11และเพราะเงินช่วยเหลือการเกษตร
-
11:11 - 11:14การร่วมมือกันระหว่างธุรกิจการเกษตรและรัฐสภา
-
11:14 - 11:16ถั่วเหลือง ข้าวโพด และปศุสัตว์ ได้กลายเป็นพระราชา
-
11:16 - 11:19และสัตว์ปีกก็ได้ตามขึ้นแท่นไปในอีกไม่ช้า
-
11:19 - 11:22มันคือช่วงเวลานี้ที่วงจรของ
-
11:22 - 11:24การทำลายการรับประทานอาหารและการทำลายโลกได้เริ่มขึ้น
-
11:24 - 11:26สิ่งที่เราเพิ่งจะเข้าใจได้ไม่นาน
-
11:26 - 11:28ฟังดูทางนี้
-
11:28 - 11:33ระหว่างปี 1950 และ 2000 ประชากรโลกได้เพิ่มเป็นสองเท่า
-
11:33 - 11:36การบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นห้าเท่า
-
11:36 - 11:42ต้องมีคนที่จะกินของทั้งหมดนั่น เพราะฉะนั้นเราเลยมีอาหารจานด่วน
-
11:43 - 11:46และนี่จัดการกับปัญหาได้อย่างดี
-
11:46 - 11:50การทำอาหารที่บ้านยังคงเป็นเรื่องปกติ แต่คุณภาพของมันกลับแย่ลง
-
11:50 - 11:54มีมื้ออาหารน้อยลงที่มีขนมปัง ขนมหวาน และซุปที่ทำเองที่บ้าน
-
11:54 - 11:56เพราะว่าพวกมันสามารถซื้อหาจากร้านไหนก็ได้
-
11:56 - 11:59ไม่ใช่ว่าพวกมันดี แต่ว่ามันมีอยู่ทั่วไป
-
11:59 - 12:01แม่ส่วนใหญ่ทำอาหารเหมือนแม่ของผม --
-
12:01 - 12:05เนื้อย่างหนึ่งชิ้น สลัดที่ทำอย่างรวดเร็วพร้อมน้ำสลัดจากขวด
-
12:05 - 12:07ซุปกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง
-
12:07 - 12:10บางทีอาจมี มันฝรั่งอบ หรือมันฝรั่งบด
-
12:10 - 12:13หรือบางที อาหารที่งี่เง่าที่สุด -- ข้าวหนึ่งนาที
-
12:13 - 12:17สำหรับขนมหวาน ไอศครีมหรือคุ้กกี้จากร้านค้า
-
12:17 - 12:21แม่ของผมไม่อยู่ที่นี่ ผมจึงพูดได้ตอนนี้
-
12:21 - 12:25การทำอาหารแบบนี้เป็นแรงที่ทำให้ผมเริ่มเรียนรู้การทำอาหารเพื่อตัวเอง
-
12:25 - 12:26(เสียงหัวเราะ)
-
12:26 - 12:28แต่มันก็ไม่ได้แย่ไปหมดเสียทีเดียว
-
12:28 - 12:30พอทศวรรษที่ 1970 คนที่มีความคิดก้าวหน้า
-
12:30 - 12:33ได้เริ่มเข้าใจคุณค่าของวัตถุดิบท้องถิ่น
-
12:33 - 12:36เราดูแลสวน เราเริ่มสนใจในอาหารไร้สารพิษ
-
12:36 - 12:38เรารู้จัก หรือเราเป็นคนที่ทานมังสวิรัติ
-
12:38 - 12:40และเราก็ไม่ได้เป็นฮิปปี้ไปทุกคน
-
12:40 - 12:43เราบางคนได้รับประทานอาหารในร้านอาหารดีๆและเรียนรู้วิธีทำอาหารที่ดี
-
12:43 - 12:48ในขณะเดียวกัน การผลิตอาหารได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรม อุตสาหกรรม
-
12:48 - 12:51บางทีเพราะมันได้ถูกผลิตอย่างมีตรรกะ
-
12:51 - 12:53เหมือนมันเป็นพลาสติก
-
12:53 - 12:57อาหารได้รับพลังวิเศษ หรือพลังที่เป็นพิษ หรือทั้งสองอย่าง
-
12:57 - 12:59บางคนกลายเป็นคนกลัวไขมัน
-
12:59 - 13:03บางคนบูชาบร๊อคโคลี่เหมือนเป็นพระเจ้า
-
13:03 - 13:05แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ได้กินบร๊อคโคลี่
-
13:05 - 13:07ในทางกลับกัน มันถูกขายในโยเกิร์ต
-
13:07 - 13:09โยเกิร์ตกลายเป็นสิ่งที่ดีเกือบเท่าบร๊อคโคลี่
-
13:09 - 13:12ยกเว้น ในความเป็นจริง วิธีที่อุตสาหกรรมอาหารขายโยเกิร์ต
-
13:12 - 13:15ได้เปลี่ยนมันให้เป็นอะไรที่เกี่ยวดองกับไอศครีม
-
13:15 - 13:18และเช่นกัน เรามาดูธัญพืชแบบแท่ง (granola bar)
-
13:18 - 13:20คุณคิดว่ามันอาจจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์
-
13:20 - 13:22แต่แท้จริงแล้ว ถ้าคุณดูรายการส่วนประกอบ
-
13:22 - 13:26มันใกล้เคียงกับช๊อคโกแลตแท่งยี่ห้อสนิคเกอร์ (Snickers) มากกว่าข้าวโอ๊ต
-
13:27 - 13:30ช่างน่าเศร้าที่ นี่คือช่วงเวลาที่อาหารเย็นที่บ้านได้เข้าขั้นวิกฤต
-
13:30 - 13:32ถ้ายังไม่ถูกฆ่าไป
-
13:33 - 13:36ช่วงเริ่มต้นของความมั่งคั่งของอาหารมูลค่าเพิ่ม
-
13:36 - 13:38ซึ่งมีส่วนของผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองและข้าวโพด
-
13:38 - 13:40มากเท่าที่เราจะใส่เข้าไปได้
-
13:40 - 13:42ลองคิดถึงไก่นักเก็ตแช่แข็ง
-
13:42 - 13:45ไก่ถูกเลี้ยงด้วยข้าวโพด และหลังจากนั้นเนื้อของมันก็ถูกบด
-
13:45 - 13:49และผสมกับผลิตภัณฑ์ข้าวโพดอื่นๆเพื่อที่จะเพิ่มขนาดและทำให้มันแน่น
-
13:49 - 13:52และหลังจากนั้นก็ถูกทอดในน้ำมันข้าวโพด
-
13:53 - 13:55ที่คุณทำก็เพียงแค่ทานมัน อะไรจะดีไปกว่านี้
-
13:56 - 13:58และทำลายกันอย่างย่ำแย่และน่าอนาถ
-
13:59 - 14:03ในช่วงทศวรรษที่ 1970 การทำอาหารที่บ้านได้เข้าสู่ภาวะที่เศร้าสร้อย
-
14:03 - 14:06ที่ส่วนประกอบอาหารนั้นเต็มไปด้วยไขมันและเครื่องปรุง
-
14:06 - 14:08เช่น แม๊คนักเก็ท(McNuggets) และ ฮ้อทพ้อกเก็ท(Hot Pockets) --
-
14:08 - 14:11และจริงๆเราทุกคนก็มีของโปรดของตัวเอง --
-
14:11 - 14:13ทำให้ของเหล่านี้น่าดึงดูดกว่าของที่จืดชืดต่างๆ
-
14:13 - 14:15ที่ผู้คนทานกันที่บ้าน
-
14:15 - 14:19ในขณะเดียวกัน ผู้หญิงจำนวนมากได้เข้าสู่กลุ่มคนทำงาน
-
14:19 - 14:21และการทำอาหารกลายเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญพอ
-
14:21 - 14:23สำหรับผู้ชายที่จะช่วยแบ่งเบาภาระ
-
14:23 - 14:26ดังนั้นในตอนนี้ คุณมีคืนพิซซ่า คุณมีคืนอาหารไมโครเวฟ
-
14:26 - 14:28คุณมีคืนที่กินแต่ของว่างแทนอาหาร
-
14:28 - 14:30คุณมีคืนที่คุณกินอาหารตามใจตัวเอง และอีกหลายๆคืน
-
14:31 - 14:34นำทาง -- อะไรที่นำทาง
-
14:34 - 14:36เนื้อสัตว์ อาหารขยะ และชีส
-
14:36 - 14:38อาหารที่จะฆ่าคุณ
-
14:38 - 14:40เพราะฉะนั้นตอนนี้เรากำลังเรียกร้องอาหารปลอดสารพิษ
-
14:40 - 14:42นั่นเป็นสิ่งที่ดี
-
14:42 - 14:44และอย่างที่เคยเห็นกันว่าอะไรๆก็เปลี่ยนไปได้
-
14:44 - 14:46ตอนนี้คุณสามารถหาอาหารปลอดสารพิษได้ตามซุปเปอร์มาร์เกต
-
14:46 - 14:48และแม้กระทั่งในร้านค้าอาหารจานด่วน
-
14:48 - 14:50แต่อาหารปลอดสารพิษก็ไม่ใช่คำตอบเช่นกัน
-
14:50 - 14:53อย่างน้อยก็ไม่ใช่วิธีที่เราให้คำนิยามในตอนนี้
-
14:53 - 14:55ขอผมถามคุณหนึ่งคำถาม
-
14:55 - 14:57ปลาแซลมอนที่เลี้ยงในฟาร์มสามารถปลอดสารพิษได้ไหม
-
14:57 - 15:02เมื่ออาหารที่มันถูกให้ไม่ได้เหมือนกับอาหารที่มันกินตามธรรมชาติ
-
15:02 - 15:06ถึงแม้ว่าอาหารที่มันถูกเลี้ยงจะปลอดสารพิษ แต่พวกปลา
-
15:06 - 15:11ถูกเลี้ยงอย่างแออัดในบ่อ และว่ายน้ำอยู่ในน้ำสกปรก
-
15:11 - 15:15และถ้าเป็นแซลมอนจากชิลีซึ่งถูกฆ่าที่นั่น
-
15:15 - 15:18และถูกส่งบินมา 5,000 ไมล์ อะไรอย่างนั้น
-
15:18 - 15:21ปล่อยก๊าซคาร์บอนไปเท่าไรในชั้นบรรยากาศ
-
15:21 - 15:23ผมไม่รู้
-
15:23 - 15:25บรรจุในกล่องโฟม แน่นอน
-
15:25 - 15:28ก่อนที่จะมาถึงอเมริกา
-
15:28 - 15:30และหลังจากนั้นก็ถูกส่งโดยรถบรรทุกไปอีกหลายร้อยไมล์
-
15:30 - 15:35นี่อาจจะปลอดสารพิษตามตัวอักษร แต่มันไม่ได้ปลอดสารพิษในจิตวิญญาณ
-
15:36 - 15:38ตอนนี้ นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องเผชิญ
-
15:38 - 15:41คนที่กินของในท้องถิ่น คนที่กินอาหารไร้สารพิษ คนที่กินมังสวิรัติ
-
15:41 - 15:43คนที่กินแต่ผัก คนที่กินแต่อาหารชั้นสูง
-
15:43 - 15:47และพวกเราที่เพียงแค่สนใจอาหารที่ดี
-
15:47 - 15:50ถึงแม้ว่าเราจะมาถึงจุดนี้จากหลายๆที่
-
15:50 - 15:52เราก็ต้องช่วยกันใช้ความรู้ของเรา
-
15:52 - 15:56เปลี่ยนแปลงวิธีที่ทุกคนคิดถึงอาหาร
-
15:56 - 15:58เราต้องเริ่มทำ
-
15:58 - 16:02และนี่ไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของความยุติธรรมทางสังคม อย่างที่แอน คูปเปอร์ (Ann Coppeer) ได้กล่าวไว้ --
-
16:02 - 16:04และแน่นอนว่าเธอถูกต้องทุกอย่าง --
-
16:04 - 16:06แต่มันเป็นเรื่องของการอยู่รอดของโลกด้วยเช่นกัน
-
16:06 - 16:11ซึ่งทำให้ผมเข้าใจครบวงจรและชี้ถึงประเด็นหลักๆ
-
16:11 - 16:15การผลิดที่มากเกินไป และการบริโภคที่มากเกินไปของเนื้อสัตว์และอาหารขยะ
-
16:15 - 16:18อย่างที่ผมได้บอกไว้ 18 เปอร์เซนต์ของก๊าซเรือนกระจก
-
16:18 - 16:21มาจากการผลิตทางปศุสัตว์
-
16:21 - 16:24ปศุสัตว์จำนวนเท่าไรถึงจะผลิตก๊าซจำนวนเท่านี้
-
16:24 - 16:2770 เปอร์เซนต์ของที่ดินการเกษตรบนโลก
-
16:27 - 16:3330 เปอร์เซนของที่ดินบนพื้นโลก ทั้งทางตรงและทางอ้อม ถูกอุทิศให้
-
16:33 - 16:36แก่การเลี้ยงสัตว์ที่เราจะบริโภค
-
16:36 - 16:39เราจำนวนนี้ถูกประเมินไว้ว่าจะเพิ่มเป็นสองเท่าในอีกประมาณ 40 ปีข้างหน้า
-
16:39 - 16:41และถ้าตัวเลขจากประเทศจีน
-
16:41 - 16:44เป็นแบบที่เราได้ประสบอยู่ในตอนนี้
-
16:44 - 16:46มันคงใช้เวลาไม่ถึง 40 ปี
-
16:46 - 16:50มันไม่มีเหตุผลที่ดีที่เราจะรับประทานเนื้อมากเท่าที่เรารับประทานกัน
-
16:50 - 16:55และผมพูดเรื่องนี้ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่ได้รับประทานเนื้อมามากพอสมควรในชีวิต
-
16:55 - 16:58เหตุผลที่ใช้กันทั่วไปก็คือ เราต้องการสารอาหาร
-
16:58 - 17:01ถึงแม้ว่าเราจะรับประทาน โดยเฉลี่ย โปรตีนมากกว่าสองเท่า
-
17:01 - 17:06ของที่กระทรวงการเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ผู้ซึ่งคลั่งไคล้การอุตสาหกรรมแนะนำ
-
17:06 - 17:10แต่ฟังดูทางนี้ -- ผู้เชี่ยวชาญซึ่งจริงจังกับการป้องกันโรค
-
17:10 - 17:16แนะนำว่าผู้ใหญ่ควรจะรับประทานเนื้อสัตว์เพียงแค่มากกว่าครึ่งปอนด์นิดหน่อยต่อสัปดาห์
-
17:16 - 17:20คุณคิดว่าคุณรับประทานเท่าไหร่ต่อวัน? ครึ่งปอนด์
-
17:20 - 17:23แต่เราไม่ต้องการเนื้อเพื่อที่จะได้ตัวใหญ่และแข็งแรงหรือ?
-
17:23 - 17:26การรับประทานเนื้อสัตว์เป็นสิ่งที่สำคัญต่อร่างกายไม่ใช่หรือ?
-
17:26 - 17:28การรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยผลไม้และผัก
-
17:28 - 17:31จะทำให้เรากลายเป็นพวกเสรีนิยม ที่ไม่ได้รับความนับถือ และอ่อนแอ หรือไม่?
-
17:31 - 17:32(เสียงหัวเราะ)
-
17:32 - 17:35เราบางคนอาจจะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี
-
17:35 - 17:40แต่ ไม่ ต่อให้พวกเราเป็นนักฟุตบอลที่เต็มไปด้วยสเตียรอยด์
-
17:40 - 17:42คำตอบก็คือ ไม่
-
17:42 - 17:46แท้ที่จริงแล้ว ไม่มีอาหารจำพวกใดในโลกที่พอดี
-
17:46 - 17:50ต่อความต้องการทางโภชนาการ ที่จะไม่ส่งเสริมการเติบโต
-
17:50 - 17:53และส่วนใหญ่จะทำให้คุณสุขภาพดีมากกว่าที่เราเป็นอยู่
-
17:53 - 17:56เราไม่ได้รับประทานผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เพื่อโภชนาการที่เพียงพอ
-
17:56 - 18:02เรารับประทานมันเพื่อที่จะมีการขาดสารอาหารในรูปแบบแปลกๆ และมันกำลังฆ่าเรา
-
18:02 - 18:05เพื่อที่จะแนะนำ เพื่อประโยชน์ทางสุขภาพส่วนตัวและส่วนรวม
-
18:05 - 18:08ชาวอเมริกันรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง 50 เปอร์เซนต์
-
18:08 - 18:11นั่นยังลดลงไม่เพียงพอ แต่มันเป็นการเริ่มต้น
-
18:11 - 18:16มันอาจจะฟังดูประหลาด แต่มันเป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น
-
18:16 - 18:19และสิ่งที่คนที่มีความคิดก้าวหน้า คนที่คิดไกล
-
18:19 - 18:22ควรจะทำและส่งเสริม
-
18:22 - 18:25พร้อมกับการรับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้นควบคู่กันไป
-
18:26 - 18:29ผมได้เขียนเรื่องการรับประทานอาหาร แบบการรับประทานอะไรก็ได้ --
-
18:29 - 18:32บางคนอาจพูดว่าเป็นแบบไม่เกี่ยง -- มาเป็นเวลา 30 ปี
-
18:32 - 18:34ช่วงเวลาที่ผมได้รับประทาน
-
18:34 - 18:37และแนะนำการรับประทานเกือบจะทุกอย่าง
-
18:38 - 18:40ผมจะไม่หยุดการรับประทานเนื้อสัตว์ ผมมั่นใจ
-
18:41 - 18:43แต่ผมคิดจริงๆว่า เพื่อประโยชน์ของทุกๆคน
-
18:43 - 18:46ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหยุดการเลี้ยงสัตว์แบบอุตสาหกรรม
-
18:46 - 18:48และหยุดการรับประทานมันแบบสิ้นคิด
-
18:48 - 18:50แอน คูปเปอร์ (Ann Cooper) พูดถูก
-
18:50 - 18:55ในที่นี่กระทรวงการเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ไม่ใช่เพื่อนของเรา
-
18:55 - 18:57เราต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
-
18:57 - 19:00ไม่ใช่แค่เพียงสนับสนุนการรับประทานอาหารที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน --
-
19:00 - 19:04และนั่นคือสิ่งที่ยาก -- แต่ด้วยการปรับปรุงตัวเราเอง
-
19:04 - 19:06และนั่นแท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย
-
19:06 - 19:09เนื้อน้อยลง อาหารขยะน้อยลง ผักผลไม้มากขึ้น
-
19:09 - 19:11มันเป็นสูตรง่ายๆ --- รับประทานอาหาร
-
19:11 - 19:13รับประทานอาหารจริงๆ
-
19:13 - 19:17เราสามารถที่จะมีความสุขกับอาหารของเราต่อไป และรับประทานอาหารดีๆต่อไป
-
19:17 - 19:19และเราสามารถรับประทานอาหารที่ดีกว่าเดิม
-
19:19 - 19:22เราสามารถที่จะมองหาส่วนประกอบที่เรารักได้ต่อไป
-
19:22 - 19:27และเราสามารถจะสานต่อมื้ออาหารที่เราโปรดปราน
-
19:27 - 19:31เราไม่เพียงแค่จะลดจำนวนแคลอรี่ แต่ยังรอยเท้าคาร์บอน (carbon footprint) ของเราอีกด้วย
-
19:31 - 19:34เราสามารถทำให้อาหารสำคัญมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง
-
19:34 - 19:36และรักษาตัวเราเองในการทำเช่นนั้น
-
19:36 - 19:39เราต้องเลือกทางเดินนี้
-
19:39 - 19:41ขอบคุณครับ
- Title:
- มาร์ค บิทแมน (Mark Bittman) กับเรื่องสิ่งผิดปกติในสิ่งที่เรารับประทาน
- Speaker:
- Mark Bittman
- Description:
-
ในการพูดที่เผ็ดร้อนและตลกนี้ นักวิจารณ์อาหารของนิวยอร์คไทมส์ (New York Times) ชื่อ มาร์ค บิทแมน (Mark Bittman) ได้วิเคราะห์เรื่องสิ่งผิดปกติในวิธีการรับประทานอาหารของพวกเราในปัจจุบัน (เนื้อสัตว์มากเกินไป, พืชผักน้อยเกินไป; อาหารจานด่วนมากเกินไป, การทำอาหารที่บ้านน้อยเกินไป) และทำไมมันถึงทำให้โลกทั้งใบมีความเสี่ยง
- Video Language:
- English
- Team:
closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 19:43
![]() |
Retired user added a translation |