วิธีทำให้ความเห็นแก่ผู้อื่นชี้นำคุณ
- 
0:00 - 0:07มนุษย์เรามีศักยภาพสูงอย่างเหลือเชื่อ
 สำหรับความดี
- 
0:08 - 0:12แต่เราก็มีอำนาจมากมายที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย
- 
0:12 - 0:18เครื่องมือใดๆก็ตาม
 สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างหรือทำลาย
- 
0:18 - 0:21ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของเรา
- 
0:21 - 0:25ฉะนั้น มันจึงยิ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
- 
0:25 - 0:29ที่เราจะสร้างแรงบรรดาลใจ
 ที่ทำให้เราเห็นแก่ผู้อื่นมากกว่าเห็นแก่ตัวเอง
- 
0:31 - 0:37ตอนนี้เรากำลังเผชิญหน้า
 กับความท้าทายมากมาย
- 
0:37 - 0:40มันอาจเป็นความท้าทายส่วนบุคคล
- 
0:40 - 0:45จิตของเราอาจเป็นได้ทั้งเพื่อนที่ดีที่สุด
 หรือศัตรูที่ร้ายกาจที่สุด
- 
0:46 - 0:49อาจเป็นความท้าทายทางสังคม
 ด้วยก็ได้เช่นกัน
- 
0:49 - 0:55ความอดอยากท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์
 ความไม่เท่าเทียม การต่อสู้ ความอยุติธรรม
- 
0:55 - 0:59และยังมีความท้าทายแบบใหม่ที่เรานึกไม่ถึง
- 
0:59 - 1:0410,000 ปีก่อนบนโลกมีมนุษย์
 ประมาณ 5 ล้านคน
- 
1:04 - 1:05ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร
- 
1:05 - 1:11ความทนทานของโลก
 ก็รักษาแผลจากการกระทำของมนุษย์ได้
- 
1:11 - 1:14หลังจากการปฏิวัติทางอุตสาหกรรม
 และเทคโนโลยี
- 
1:14 - 1:16มันก็ไม่เป็นเช่นนั้นอีก
- 
1:16 - 1:20ตอนนี้เราคือตัวการสำคัญ
 ที่ส่งผลกระทบต่อโลก
- 
1:20 - 1:25เราได้เข้าสู่ยุคแอนโทรโปซีน
 ยุคสมัยแห่งมนุษย์
- 
1:25 - 1:32ในทางใดทางหนึ่งถ้าเราจะบอกว่าเราจะเติบโต
 อย่างไม่สิ้นสุดไปเรื่อยๆ
- 
1:32 - 1:36ใช้แหล่งวัตถุดิบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
- 
1:36 - 1:39มันเหมือนถ้าผู้ชายคนนี้พูดว่า
- 
1:39 - 1:43และอาตมาเคยได้ยินอดีตผู้นำรัฐท่านหนึ่ง
 อาตมาขอไม่พูดว่าใคร พูดว่า
- 
1:43 - 1:47"เมื่อ 5 ปีที่แล้ว พวกเราอยู่ที่ขอบหน้าผา
- 
1:47 - 1:50วันนี้เราได้ก้าวๆใหญ่ไปข้างหน้า"
- 
1:51 - 1:57ทีนี้หน้าผานี้เหมือนกับสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์
 ได้นิยามไว้
- 
1:57 - 1:59ว่ามันคือ ขอบเขตของดวงดาว
- 
1:59 - 2:04และภายในขอบเขตเหล่านั้น
 พวกมันแบกรับปัจจัยจำนวนหนึ่งไว้
- 
2:04 - 2:09เรายังคงเจริญต่อไป มนุษย์ยังอยู่ต่อไปได้อีก 150,000 ปี
- 
2:09 - 2:13ถ้าเรารักษาชั้นบรรยากาศไว้ได้
 ในสภาพเดิมอย่างมั่นคง
- 
2:13 - 2:16เช่นเดียวกับในยุคโฮโลซีน
 ในช่วง 10,000 ปีที่ผ่านมา
- 
2:16 - 2:21แต่มันขึ้นอยู่กับ
 การเลือกความสมถะอย่างสมัครใจ
- 
2:21 - 2:24เติบโตอย่างมีคุณภาพ
 ไม่ใช่เติบโตด้วยจำนวน
- 
2:24 - 2:30ในปี 1900 อย่างที่คุณเห็น
 เราอยู่ในข้อจำกัดอย่างสบาย
- 
2:30 - 2:36ทีนี้ ในปี 1950 เกิดการเร่งการเจริญเติบโต
- 
2:36 - 2:41ตอนนี้กลั้นลมหายใจของคุณ
 ไม่ต้องนาน เพื่อนึกดูว่าเกิดอะไรต่อมา
- 
2:41 - 2:47ตอนนี้ พวกเราได้บุกรุกบางขอบเขตบางส่วน
 อย่างมากมาย
- 
2:47 - 2:51ถ้าลองเอาความหลากหลายทางชีวภาพ
 จากอัตราส่วนในปัจจุบันมาคำนวน
- 
2:51 - 2:57ในปี 2050
 30% ของสายพันธุ์ทั้งหมดจะสูญพันธ์
- 
2:57 - 3:03ต่อให้เราเก็บดีเอ็นเอของพวกมันไว้ในตู้เย็น
 เราก็ไม่สามารถทำให้ชีวิตเหล่านั้นกลับคืนมา
- 
3:03 - 3:05อาตมานั่งอยู่ที่นั่น
- 
3:05 - 3:11เบื้องหน้าของธารน้ำแข็ง 21,000 ฟุต
 สูง 7,000 เมตร ในภูฏาน
- 
3:11 - 3:18ที่ขั้วโลกที่สาม ธารน้ำแข็งกว่า 2,000 สาย
 กำลังละลาย รวดเร็วเสียยิ่งกว่าที่อาร์คติก
- 
3:18 - 3:21เราสามารถทำอะไรกับสถานการณ์นี้ได้บ้าง?
- 
3:22 - 3:29อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะมีความซับซ้อนทาง
 การเมือง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์
- 
3:29 - 3:32ไม่ว่าอย่างไร ปัญหาของสิ่งแวดล้อมนั้น
- 
3:32 - 3:39สุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่กับความเห็นแก่ตัว
 และความไม่เห็นแก่ตัว
- 
3:39 - 3:42อาตมาคือมาร์กซ์ที่มีนิสัยของเกราโช
- 
3:42 - 3:44(เสียงหัวเราะ)
- 
3:44 - 3:47เกราโช มาร์กซ์เคยพูดว่า
 "ฉันจะสนใจเกี่ยวกับคนรุ่นหลังไปทำไม?
- 
3:47 - 3:49พวกเขาเคยทำอะไรให้ฉันบ้าง?"
- 
3:49 - 3:51(เสียงหัวเราะ)
- 
3:51 - 3:55น่าเสียดาย อาตมาเคยได้ยินมหาเศรษฐี
 สตีเว่น ฟอร์บส์
- 
3:55 - 3:59บน ฟ็อกซ์ นิวส์ พูดสิ่งที่เหมือนกัน
 แต่เขาดูจริงจัง
- 
3:59 - 4:01มีคนบอกเขาถึงระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น
- 
4:01 - 4:05และเขาพูดว่า
 "ฉันพบว่ามันบ้าบอที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมของฉันวันนี้
- 
4:05 - 4:08เพื่อบางสิ่งที่จะเกิดขึ้น
 ในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า"
- 
4:08 - 4:11ถ้าคนไม่สนใจว่าคนรุ่นหลังจะอยู่อย่างไร
- 
4:11 - 4:13ก็เอาเลย
- 
4:13 - 4:16หนึ่งในความท้าทายในยุคของเรา
- 
4:16 - 4:20ก็คือการแก้ปัญหา โดยคำนึงถึงปัจจัยหลัก
 ทั้งสามประการ ให้สมดุลกัน
- 
4:20 - 4:22ปัจจัยระยะสั้นด้านเศรษฐกิจ
- 
4:22 - 4:26การขึ้นลงของตลาดหุ้น งบดุลตอนปลายปี
- 
4:26 - 4:29ปัจจัยระยะกลางด้านคุณภาพชีวิต
- 
4:29 - 4:34คุณภาพชีวิตในแต่ละขณะของเรา
 จะเป็นอย่างไร ในอีก 10 ปี หรือ 20 ปีข้างหน้า
- 
4:34 - 4:38และปัจจัยระยะยาวด้านสิ่งแวดล้อม
- 
4:38 - 4:40เมื่อนักสิ่งแวดล้อมพูดกับนักเศรษฐศาสตร์
- 
4:40 - 4:43มันเหมือนบทสนทนาของคนมีอาการทางจิต
 ไม่มีความต่อเนื่องเอาเสียเลย
- 
4:43 - 4:46พวกเขาไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน
- 
4:46 - 4:49ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้
 อาตมาเดินทางไปรอบโลก
- 
4:49 - 4:53พบปะนักเศรษฐศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์
 นักประสาทวิทยา นักสิ่งแวดล้อม
- 
4:53 - 4:58นักปรัชญา และนักคิด
 ที่เทือกภูเขาหิมาลัย ในทุกๆที่
- 
4:58 - 5:02อาตมาเห็นว่า มีเพียงแนวคิดเดียว
- 
5:02 - 5:05ที่จะสามารถทำให้ปัจจัยทั้งสามประการนั้น
 สมดุลกันได้
- 
5:05 - 5:09ทำได้ง่ายๆ ด้วยการใส่ใจกับผู้อื่นให้มากขึ้น
- 
5:09 - 5:14ถ้าคุณใส่ใจกับคนอื่นมากขึ้น
 คุณก็จะมีเศรษฐกิจที่ดีได้โดยที่เอาใจใส่ผู้อื่น
- 
5:14 - 5:17เป็นการบริหารการเงินเพื่อประโยชน์ทางสังคม
- 
5:17 - 5:20ไม่ใช่การบริหารสังคม
 เพื่อประโยชน์ทางการเงิน
- 
5:20 - 5:22คุณจะไม่เล่นการพนัน
- 
5:22 - 5:25ด้วยทรัพยากรที่ผู้คนฝากฝังไว้กับคุณ
- 
5:25 - 5:28ถ้าคุณใส่ใจกับคนอื่นมากขึ้น
- 
5:28 - 5:31คุณตรวจสอบตนเอง
 ว่าคุณได้ลดความไม่เท่าเทียมต่างๆ
- 
5:31 - 5:35และตรวจสอบตนเองว่า
 คุณได้นำพาความเป็นสุขมาสู่สังคม
- 
5:35 - 5:37ในสถานศึกษา ที่สถานที่ทำงานของคุณ
- 
5:37 - 5:41ไม่อย่างนั้นแล้ว คุณจะเป็นประเทศ
 ที่มีอำนาจที่สุด
- 
5:41 - 5:44รวยที่สุด แต่คนทุกคนไม่มีความสุข?
 ไปเพื่ออะไร
- 
5:44 - 5:46และถ้าคุณใส่ใจกับคนอื่นมากขึ้น
- 
5:46 - 5:49คุณก็จะไม่ปล้นดวงดาวที่เราอาศัยอยู่
- 
5:49 - 5:54และในอัตราปัจจุบัน เราไม่มีดาวอีกสามดวง
 ให้เรายังคงใช้ชีวิตแบบที่เป็นอยู่นี้
- 
5:54 - 5:56ทีนี้คำถามก็คือ
- 
5:56 - 6:00โอเค การเห็นแก่ผู้อื่นคือคำตอบ
 ที่ไม่ใช่แค่ความคิดในนิยาย
- 
6:00 - 6:04แต่มันสามารถเป็นจริง
 ในทางปฏิบัติได้หรือไม่?
- 
6:04 - 6:06และก่อนอื่นเลย มันมีจริงหรือเปล่า
- 
6:06 - 6:10การเห็นแก่ผู้อื่นมีอยู่จริง
 หรือว่าเราเห็นแก่ตัวเหลือเกิน?
- 
6:10 - 6:16นักปรัชญาหลายคนคิดว่า
 พวกเรานั้นเห็นแก่ตัวแบบแก้ไขไม่ได้
- 
6:16 - 6:21แต่เราเป็นแค่เหล่าร้ายจริงหรือ?
- 
6:21 - 6:24นั่นคือข่าวดีใช่หรือไม่?
- 
6:24 - 6:26นักปรัชญาหลายท่าน เช่น ฮ็อบส์
 คิดว่าอย่างนั้น
- 
6:26 - 6:29แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนดูเหมือนเหล่าร้าย
- 
6:29 - 6:32หรือว่ามนุษย์ก็คือหมาป่าที่ล่ามนุษย์ด้วยกัน?
- 
6:32 - 6:35ผู้ชายคนนี้ดูไม่เลวร้ายนัก
- 
6:35 - 6:38เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งของอาตมาที่ธิเบต
- 
6:38 - 6:40เขาใจดีมาก
- 
6:40 - 6:44เรารักการทำงานร่วมกัน
- 
6:44 - 6:48ไม่มีความสุขอะไร ดีไปกว่าการทำงานร่วมกัน
 จริงไหม?
- 
6:48 - 6:52ไม่ใช่เฉพาะมนุษย์
- 
6:52 - 6:55แน่นอน ว่ามันมีการต่อสู้เพื่อชีวิต
- 
6:55 - 6:59การอยู่รอดของผู้ที่เหมาะสมที่สุด
 ตามทฤษฏีของดาร์วิน
- 
6:59 - 7:05แต่ในวิวัฒนาการ การร่วมมือกัน
 แน่นอนว่ามีการแข่งขันกันด้วย
- 
7:05 - 7:11แต่เราจำเป็นจะต้องมีการร่วมมือกันสร้างสรรค์
 มากกว่านี้เพื่อที่จะก้าวไปข้างหน้า
- 
7:11 - 7:15พวกเราคือนักสร้างร่วมมือที่มีความพิเศษ
 และเราควรจะก้าวไปข้างหน้าได้มากกว่านี้
- 
7:15 - 7:21นอกเหนือจากนั้น คือเรื่อง
 คุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
- 
7:21 - 7:26โออีซีดี ได้ทำแบบสำรวจ
 โดยใช้ปัจจัย 10 อย่าง รวมรายได้ ฯลฯ
- 
7:26 - 7:29สิ่งแรกที่ผู้คนกล่าวว่า
 เป็นปัจจัยหลักสำหรับความสุขของฉัน
- 
7:29 - 7:33ก็คือคุณภาพของความสัมพันธ์ทางสังคม
- 
7:33 - 7:35ไม่ใช่แค่มนุษย์
- 
7:35 - 7:39ดูคุณยายเหล่านั้นสิ่
- 
7:39 - 7:44ทีนี้ ความคิดที่ว่าถ้าเรามองลงไปลึกๆ
- 
7:44 - 7:47พวกเรานั้นเห็นแก่ตัวอย่างไม่มีทางแก้
- 
7:47 - 7:49คือวิทยาศาสตร์บนเก้าอี้นั่ง
- 
7:49 - 7:51ไม่มีการศึกษาทางสังคมวิทยา
- 
7:51 - 7:55หรือการศึกษาทางจิตวิทยา
 ที่บอกแบบนั้นเลย
- 
7:55 - 7:57แต่ในทางตรงกันข้าม
- 
7:57 - 8:00เพื่อนของอาตมา แดเนียล แบ็ตทัน
 ใช้ชีวิตทั้งชีวิต
- 
8:00 - 8:03เอาผู้คนจากห้องปฏิบัติการ
 มาอยู่ในสถาการณ์ที่ซับซ้อน
- 
8:03 - 8:07แน่นอนว่าบางทีบางคนก็เห็นแก่ตัว
 และบางคนมากกว่าคนอื่น
- 
8:07 - 8:10แต่เขาพบว่าตามระบบแล้ว ไม่ว่ายังไง
- 
8:10 - 8:13ก็มีผู้คนจำนวนหนึ่ง
- 
8:13 - 8:17ที่ประพฤติอย่างเห็นแก่ผู้อื่น ไม่ว่ายังไง
- 
8:17 - 8:20ถ้าคุณเห็นใครคนหนึ่ง บาดเจ็บหนัก
 ทรมานมาก
- 
8:20 - 8:22คุณอาจจะช่วยเขา จากความเห็นใจ
- 
8:22 - 8:26คุณทนมันไม่ไหว ฉะนั้นมันจึงดีกว่าที่จะช่วย
 แทนที่จะยืนดูเฉยๆ
- 
8:26 - 8:32เราทดสอบเรื่องนั้นและสุดท้ายแล้ว
 มันชัดเจนว่ามนุษย์เราสามารถเห็นแก่ผู้อื่นได้
- 
8:32 - 8:34นั่นคือข่าวดี
- 
8:34 - 8:40และยิ่งไปกว่านั้น เราควรจะมองไปที่
 ความดาษดื่นของความดี
- 
8:40 - 8:42ลองดูทีนี่ก็ได้
- 
8:42 - 8:44เมื่อเราออกไป เราคงไม่พูดว่า "ดีจัง
- 
8:44 - 8:49ที่ไม่มีการชกต่อยเกิดขึ้นในฝูงชน
 ตอนที่กำลังพูดถึงการไม่เห็นแก่ตัว"
- 
8:49 - 8:51เราคาดเดาอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่หรอก?
- 
8:51 - 8:54ถ้ามันมีการชกต่อย
 เราคงพูดถึงมันไปเป็นเดือนๆ
- 
8:54 - 8:58ดังนั้นความดาษดื่นของความดีเป็นสิ่งที่ไม่ดึงดูดความสนใจของเรา
- 
8:58 - 8:59แต่มันมีอยู่
- 
8:59 - 9:05ทีนี้ดูนี่
- 
9:09 - 9:12นักจิตวิทยาบางท่านพูดว่า
- 
9:12 - 9:15เมื่อฉันบอกพวกเขาว่าฉันทำโครงการการกุศล 140 โครงการ
 ที่เทือกเขาหิมาลัย
- 
9:15 - 9:18มันทำให้ฉันมีความสุขมาก
- 
9:18 - 9:21พวกเขาพูดว่า
 "โอ้ คุณทำงานเพื่อความรู้สึกอบอุ่น
- 
9:21 - 9:24นั่นไม่ใช่การเห็นแก่ผู้อื่น มันแค่รู้สึกดี"
- 
9:24 - 9:27คุณคิดว่าชายคนนี้
 ตอนที่เขากระโดดตัดหน้ารถไฟ
- 
9:27 - 9:29เขาคิดหรือเปล่าว่า
 "ฉันจะต้องรู้สึกดีแน่เมื่อเรื่องนี้จบลง?"
- 
9:29 - 9:32(เสียงหัวเราะ)
- 
9:32 - 9:34แต่นั่นไม่ใช่ตอนจบของมัน
- 
9:34 - 9:36เมื่อคุณสัมภาษณ์เขา เขาพูดว่า
- 
9:36 - 9:40"ผมไม่ทางเลือก แน่นอนผมต้องโดด"
- 
9:40 - 9:43เขาไม่มีทางเลือก พฤติกรรมอัตโนมัติ
 มันไม่ใช่การเห็นแก่ตัวและก็ไม่ใช่การเห็นแก่ผู้อื่น
- 
9:43 - 9:45ไม่มีทางเลือก?
- 
9:45 - 9:48แน่นอนว่าชายคนนี้คงจะได้คิดไปอีกครึ่งชั่วโมง
- 
9:48 - 9:50"ผมควรจะช่วยหรือไม่ช่วยเขา?"
- 
9:50 - 9:54เขายื่นมือ เขามีทางเลือก
 แต่มันชัดเจน ในช่วงเวลากะทันหัน
- 
9:54 - 9:56ทีนี้ ตรงนี้ เขาก็มีทางเลือก
- 
9:56 - 9:59(เสียงหัวเราะ)
- 
9:59 - 10:02มีผู้คนที่มีทางเลือกเช่น
 บาทหลวงอันเดร ทรุชเมและภรรยาของเขา
- 
10:02 - 10:05และคนทั้งหมู่บ้านเลอ แชมบอน-เซอ-ลุกนอน
 ในประเทศฝรั่งเศษ
- 
10:05 - 10:09ตลอดช่วงเวลาสงครามโลกครั้งที่สอง
 พวกเขาช่วยชาวยิว 3,500 คน
- 
10:09 - 10:12ให้ที่พัก และพาพวกเขาไปสวิตเซอร์แลนด์
- 
10:12 - 10:15ท่ามกลางอันตรายต่างๆ
 ที่เสี่ยงต่อชีวิตของพวกเขาและครอบครัว
- 
10:15 - 10:17ความเห็นแก่ผู้อื่นมีอยู่จริง
- 
10:17 - 10:19อะไรคือความเห็นแก่ผู้อื่น
- 
10:19 - 10:23มันคือความหวังที่ว่า ขอให้คนอื่นมีความสุข
 และพบต้นตอของความสุข
- 
10:23 - 10:28การเอาใจใส่คือ
 เสียงสะท้อนเกี่ยวกับความรู้สึก ที่บอกคุณว่า
- 
10:28 - 10:31คนคนนี้มีความสุข หรือ คนคนนี้มีความทุกข์
- 
10:31 - 10:34แต่การเอาใจใส่อย่างเดียวนั้นไม่พอ
- 
10:34 - 10:37ถ้าคุณต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์
 อย่างต่อเนื่อง
- 
10:37 - 10:39การเอาใจใส่ต่อความยากลำบาก
 ของคุณอาจหมดลง
- 
10:39 - 10:44คุณต้องการสิ่งแวดล้อมแห่งความรัก
 และเมตตาที่ยิ่งใหญ่กว่า
- 
10:44 - 10:46ด้วยทาเนีย ซิงเกอร์
 ที่สถาบัน แม็กซ์ แพล็งค์ แห่งไลซ์พิก
- 
10:46 - 10:52เราได้เห็นว่าระบบสมองสำหรับความเอาใจใส่
 และความเตตานั้นแตกต่างกัน
- 
10:52 - 10:54ทั้งหมดมันเยี่ยมมาก
- 
10:54 - 10:57เราได้มันมาจากวิวัฒนาการ การดูแลจากแม่
 ความรักจากผู้ที่เลี้ยงดูเรา
- 
10:59 - 11:02แต่เราต้องขยายมันออกไป
- 
11:02 - 11:05มันสามารถลามไปสู่แม้กระทั่งสายพันธ์อื่นได้
- 
11:05 - 11:09ถ้าเราอยากได้สังคมที่เห็นแก่ผู้อื่นมากกว่านี้ เราต้องการสองสิ่ง
- 
11:09 - 11:13การเปลี่ยนแปลงรายบุคคล
 และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
- 
11:13 - 11:15การเปลี่ยนแปลงรายบุคคลเป็นไปได้ไหม?
- 
11:15 - 11:182,000 ปีของการศึกษาอย่างละเอียด
 บอกว่า เป็นไปได้
- 
11:18 - 11:22ทีนี้ 15 ปี ของความร่วมมือ ระหว่าง
 ประสาทวิทยา และพันธุศาสตร์
- 
11:22 - 11:26บอกว่าเป็นไปได้
 สมองของเราเปลี่ยนไปเมื่อคุณฝึกเห็นแก่ผู้อื่น
- 
11:26 - 11:31อาตมาใช้เวลา 120 ชั่วโมง
 ในเครื่องเอ็มอาร์ไอ
- 
11:31 - 11:33นี่คือภาพแรกที่อาตมาออกมา
 หลังจากเข้าไป 2 ชั่วโมงครึ่ง
- 
11:33 - 11:37และผลการทดลองได้ถูกตีพิมพ์
 ลงในหนังสือพิมพ์วิทยาศาสตร์หลายฉบับ
- 
11:37 - 11:41มันแสดงอย่างชัดเจนว่า
 มีการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้าง
- 
11:41 - 11:45และการทำงานของสมอง
 เมื่อคุณฝึกรักอย่างเห็นแก่ผู้อื่น
- 
11:45 - 11:46เพื่อให้คุณได้เห็น
- 
11:46 - 11:49นี่คือผู้ฝึกขณะพักทางด้านซ้าย
- 
11:49 - 11:53ผู้ฝึกขณะกำลังปฏิบัติเมตตา
 คุณเห็นการทำงานทุกอย่าง
- 
11:53 - 11:55และกลุ่มครอบครัวขณะกำลังพัก
 ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
- 
11:55 - 11:57ขณะปฏิบัติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
- 
11:57 - 11:59พวกเขาไม่ได้รับการฝึก
- 
11:59 - 12:04คุณจำเป็นต้องปฏิบัติ 50,000 ชั่วโมงไหม? ไม่ต้อง
- 
12:04 - 12:084 สัปดาห์ 20 นาทีต่อ 1 วัน
 ของการฝึกอย่างเอาใจใส่
- 
12:08 - 12:14ก็นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสมองแล้ว
 เมื่อเทียบกับกลุ่มตัวอย่างที่มีการควบคุม
- 
12:14 - 12:18แค่ 20 นาทีต่อวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์
- 
12:18 - 12:21แม้แต่กับเด็กก่อนวัยเรียน
 ริชาร์ด เดวิดสัน ทำการทดลองที่ เมดิสัน
- 
12:21 - 12:28โครงการ 8 สัปดาห์: ความกตัญญู
 ความรักและเมตตา การร่วมมือกัน
 การหายใจอย่างมีสติ
- 
12:28 - 12:30คุณอาจพูดว่า
 "โอ้ พวกเขาเป็นแค่เด็กก่อนวัยเรียน"
- 
12:30 - 12:32ลองดูหลังจาก 8 สัปดาห์
- 
12:32 - 12:34ความประพฤติทางสังคม คือเส้นสีน้ำเงิน
- 
12:34 - 12:39ต่อมาคือ สุดยอดการทดลองวิทยาศาสตร์
 การทดลองสติกเกอร์
- 
12:39 - 12:43อันดับแรก เรากำหนดว่า
 ใครสนิทกับใครในห้องเรียน
- 
12:43 - 12:47หรือสนิทกับใครน้อยที่สุด
 เด็กที่ไม่มีใครรู้จักหรือเด็กที่ไม่สบาย
- 
12:47 - 12:50และพวกเขาทุกคนต้องแจกสติกเกอร์ให้เพื่อน
- 
12:50 - 12:54ก่อนที่จะมีการแทรกแทรง
 พวกเขาให้สติกเกอร์กับเพื่อนสนิท
- 
12:54 - 12:58เด็ก 5 ขวบ 4 คน
 ฝึก 20 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์
- 
12:58 - 13:01หลังจากการแทรกทรง ไม่มีการแบ่งแยกอีกต่อไป
- 
13:01 - 13:05ทุกคนได้รับสติกเกอร์เท่ากัน
 แม้ว่าเขาจะเป็นเด็กที่มีคนชอบน้อย
- 
13:05 - 13:08นั่นคือสิ่งที่เราควรทำ
 ในทุกโรงเรียนทั่วโลก
- 
13:08 - 13:10ต่อจากนี้เราไปไหน?
- 
13:10 - 13:15(เสียงปรบมือ)
- 
13:15 - 13:17เมื่อ ดาไล ลามะ ได้ยินเรื่องนี้
 เขาบอก ริชาร์ด เดวิดสัน
- 
13:17 - 13:21"คุณไปบอกคนที่โรงเรียนนะ
 10 โรงเรียน 100 โรงเรียน บอก UN บอกโลก"
- 
13:21 - 13:22หลังจากนั้นเราควรจะทำอะไรต่อไป?
- 
13:22 - 13:25การเปลี่ยนแปลงรายบุคคลนั้นเป็นไปได้
- 
13:25 - 13:29เราจำเป็นต้องรอให้
 มียีนส์ทีทำให้เราไม่เห็นแก่ตัวไหม?
- 
13:29 - 13:33นั่นจะใช้เวลาอีก 50,000 ปี
 นานเกินกว่าที่สิ่งแวดล้อมจะรอได้
- 
13:33 - 13:38โชคดี ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม
- 
13:38 - 13:43วัฒนธรรม อย่างที่ผู้เชี่ยวชาญได้บ่งบอก เปลี่ยนเร็วกว่ายีนส์
- 
13:43 - 13:45นั่นคือข่าวดี
- 
13:45 - 13:48ท่าทีต่อสงครามเปลี่ยนแปลงไปมาก
 เมื่อเวลาผ่านไป
- 
13:48 - 13:53ตอนนี้บุคคลเปลี่ยนแปลงไป
 ตามวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป
- 
13:53 - 13:56และสุดท้ายเราจะสามารถ
 สร้างสังคมที่มีความเห็นแก่ผู้อื่นมากกว่านี้ได้
- 
13:56 - 13:58แล้วยังไงต่อ?
- 
13:58 - 14:00ตัวอาตมาจะกลับไปทางทิศตะวันออก
- 
14:00 - 14:04เรารักษาคนไข้ 100,000 ต่อปี
 ในโครงการของเรา
- 
14:04 - 14:07เรามีเด็ก 25,000 คนในโรงเรียน
 4% โดยเฉลี่ย
- 
14:07 - 14:10บางคนบอกว่าสิ่งของคุณใช้ได้ในเชิงปฏิบัติ
- 
14:10 - 14:12แต่มันใช้ได้ในเชิงทฤษฎีรึปล่าว?
- 
14:12 - 14:15มันมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่ดีตลอดเวลา
- 
14:15 - 14:18ฉะนั้นอาตมาจะกลับไปยังอาศรม
- 
14:18 - 14:21เพื่อหาทรัพยากรภายใน เพื่อบริการผู้อื่น
- 
14:21 - 14:24แต่ในระดับโลก เราทำอะไรได้บ้าง?
- 
14:24 - 14:26เราต้องการสามสิ่ง
- 
14:26 - 14:28การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน
- 
14:28 - 14:32การเรียนโดยร่วมมือกันเรียน
 แทนที่จะแข่งกันเรียน
- 
14:32 - 14:36การร่วมมือกันอย่างไม่มีข้อแม้
 ระหว่างบริษัทต่างๆ
- 
14:36 - 14:40จะมีการแข่งขันกันระหว่างผู้ที่ร่วมมือกันก็ได้
 แต่ห้ามมีภายใน
- 
14:40 - 14:44เราต้องการความสามัคคีอย่างยั่งยืน
 อาตมาชอบคำนี้
- 
14:44 - 14:46ไม่ใช่การเติบโตอย่างยั่งยืน
- 
14:46 - 14:50ความสามัคคีอย่างยั่งยืนหมายถึงตอนนี้
 เราลดความไม่เท่าเทียม
- 
14:50 - 14:54ต่อไปข้างหน้าเราจะทำน้อย ได้มาก
- 
14:54 - 14:58เราเติบโตต่อไปอย่างมีคุณภาพ
 ไม่ใช่เติบโตแต่ในเชิงปริมาณ
- 
14:58 - 15:01เราต้องการเศรษฐกิจที่มีการเอาใจใส่
- 
15:01 - 15:06เศรษฐกิจเบี่ยงเบน ไม่สามารถ
 แก้ปัญหาความอดอยาก ทั้งที่เรามีเกินพอได้
- 
15:06 - 15:09ไม่สามารถแก้ปัญหาสินค้าทั่วไป
- 
15:09 - 15:11ของอากาศและมหาสมุทร
- 
15:11 - 15:13เราต้องการเศรษฐกิจที่มีการเอาใจใส่
- 
15:13 - 15:15ถ้าคุณพูดว่าเศรษฐกิจ
 ควรเป็นความเห็นอกเห็นใจ
- 
15:15 - 15:16พวกเขาพูดว่า "นั่นไม่ใช่งานของเรา"
- 
15:16 - 15:20แต่ถ้าคุณพูดว่าพวกเขาไม่สนใจ นั่นดูไม่ดี
- 
15:20 - 15:23เราต้องการการผูกมัดในชุมชน
 ความรับผิดชอบระดับโลก
- 
15:23 - 15:28เราต้องแพร่การเห็นแก่คนอื่น
 ไปสู่สายพันธ์ุทั้ง 1.6 ล้านสายพันธ์ุ
- 
15:28 - 15:32สิ่งมีชีวิตที่มีความรู้สึก
 ที่อาศัยอยู่ร่วมกับเราบนโลกใบนี้
- 
15:32 - 15:35เราต้องกล้าเห็นแก่ผู้อื่น
- 
15:35 - 15:39ขอให้การปฏิวัติเพื่อการเห็นแก่ผู้อื่น
 จงคงอยู่ตลอดไป
- 
15:39 - 15:43วีวา ลา รีโวลูเชียน เดอ อัลทรูอิสโม
- 
15:43 - 15:49(เสียงปรบมือ)
- 
15:49 - 15:50ขอบคุณครับ
- 
15:50 - 15:52(เสียงปรบมือ)
- Title:
- วิธีทำให้ความเห็นแก่ผู้อื่นชี้นำคุณ
- Speaker:
- แมทติว ริชาร์ด (Matthieu Ricard)
- Description:
- 
    more » « lessอะไรคือความเห็นแก่ผู้อืน? ง่ายๆ มันคือความหวังที่จะให้คนอื่นมีความสุข และ ความเห็นแก่ผู้อื่นนั้นยังเป็นแว่นที่ดีสำหรับการตัดสินใจ ทั้งในระยะยาวและสั้น ในการทำงานและการใช้ชีวิต กล่าวโดย แมทติว ราชาร์ด นักวิจัยด้านความสุขและพระในพระพุทธศาสนา 
- Video Language:
- English
- Team:
 closed TED closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 16:07
|   | Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to let altruism be your guide | |
|   | Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to let altruism be your guide | |
|   | Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to let altruism be your guide | |
|   | Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How to let altruism be your guide | |
|   | Retired user commented on Thai subtitles for How to let altruism be your guide | |
|   | Yada Sattarujawong accepted Thai subtitles for How to let altruism be your guide | |
|   | Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for How to let altruism be your guide | |
|   | Yada Sattarujawong edited Thai subtitles for How to let altruism be your guide | 
Retired user
แนะนำว่า ใช้ชื่อว่า "ริการด์" เนื่องจากเป็นคนฝรั่งเศส
ดูเหมือนจะเป็นวิดิโอทียังไม่มี subtitle เสียที ดูเหมือนใช้เวลานานมาก ต้องการความช่วยเหลือ ?