< Return to Video

ทำไมเอกภพจึงมีอยู่

  • 0:01 - 0:03
    ทำไมจักรวาลถึงมีอยู่
  • 0:03 - 0:07
    ทำไมมันถึงมี - เอาล่ะครับ (เสียงหัวเราะ)
  • 0:07 - 0:10
    นี่มันเป็นปริศนาจักรวาลนะครับ
    กรุณาอยู่ในความสงบด้วย
  • 0:10 - 0:13
    ทำไมถึงมีโลก ทำไมพวกเราถึงอยู่ที่นี่
  • 0:13 - 0:15
    และทำไมจึงมีอะไร แทนที่จะไม่มีอะไรเลย
  • 0:15 - 0:20
    ผมหมายถึง นี่มันเป็นสุดยอดคำถาม "ทำไม"
  • 0:20 - 0:22
    ฉะนั้น ผมกำลังจะพูดถึงปริศนาของการมีอยู่
  • 0:22 - 0:24
    ภาพปะติดปะต่อของการมีอยู่
  • 0:24 - 0:27
    ที่เราอยู่ตอนนี้เพื่อที่จะกล่าวถึงมัน
  • 0:27 - 0:29
    และทำไมเราจะต้องใส่ใจ
  • 0:29 - 0:31
    และผมหวังว่าคุณจะใส่ใจ
  • 0:31 - 0:34
    นักปรัชญา อาเทอร์ โชเพนเฮอร์ บอกว่า
  • 0:34 - 0:37
    ผู้ที่ไม่นึกสงสัยถึงความมีอยู่ของตัวเขาเอง
  • 0:37 - 0:40
    หรือความมีอยู่ของโลก
  • 0:40 - 0:42
    เป็นผู้สติไม่ครบถ้วน
  • 0:42 - 0:46
    พูดแบบนั้นออกจะใจร้ายไปหน่อย แต่มันก็จริง
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:46 - 0:48
    มันถูกเรียกว่าเป็นปริศนา
  • 0:48 - 0:50
    ที่สูงค่าที่สุดและน่าทึ่งที่สุด
  • 0:50 - 0:53
    เป็นคำถามที่ลูกที่สุด และไกลเอื้อมที่สุด
  • 0:53 - 0:54
    เท่าที่คนจะถามได้
  • 0:54 - 0:55
    มันครอบงำนักคิดผู้ยิ่งใหญ่
  • 0:55 - 0:57
    ลุดวิก วิทเจนสเตน ซึ่งอาจเป็น
  • 0:57 - 0:59
    นักปรัชญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20
  • 0:59 - 1:02
    ตกตะลึงว่ามันควรจะมีโลก
  • 1:02 - 1:06
    เขาเขียนใน "ทราคทาทัส" หัวข้ออภิปราย 4.66
  • 1:06 - 1:08
    "มันไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับว่า
    สิ่งต่าง ๆ ในโลกเป็นอย่างไร
  • 1:08 - 1:10
    ปริศนามันอยู่ที่
  • 1:10 - 1:12
    การมีอยู่ของโลกนี้ต่างหาก"
  • 1:12 - 1:14
    และถ้าคุณไม่ชอบคำคม
  • 1:14 - 1:17
    จากนักปรัชญา ก็ลองนักวิทยาศาสตร์ดู
  • 1:17 - 1:20
    จอห์น อาร์คิบัล วีลเลอร์ หนึ่งในนักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่
  • 1:20 - 1:21
    แห่งศตวรรษที่ 20
  • 1:21 - 1:23
    ผู้เป็นอาจารย์ของริชาร์ด เฟห์นแมน
  • 1:23 - 1:26
    ผู้ให้กำเนิดคำว่า "หลุมดำ"
  • 1:26 - 1:28
    เขาพูดว่า "ผมอยากที่จะรู้
  • 1:28 - 1:30
    ว่าควอนตัมมาได้อย่างไร
  • 1:30 - 1:33
    จักรวาลมาได้อย่างไร ความมีอยู่มาได้อย่าไร"
  • 1:33 - 1:35
    และเพื่อนของผม มาร์ติน อมิส --
  • 1:35 - 1:38
    ขอโทษด้วย เพราะผมจะเอ่ยชื่อคนมากมาย
    สำหรับการบรรยายนี้
  • 1:38 - 1:39
    ทำความคุ้นเคยกันไว้นะครับ --
  • 1:39 - 1:44
    เพื่อของผม มาร์ติน อมิส
    กล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่า
  • 1:44 - 1:47
    เราตามหลังอยู่ประมาณห้าไอน์สไตน์
    สำหรับการได้คำตอบ
  • 1:47 - 1:49
    ของปริศนาที่ว่าจักรวาลมาจากไหน
  • 1:49 - 1:51
    และผมไม่ประหลาดใจเลยที่จะมีสักห้าไอน์ไตน์
  • 1:51 - 1:53
    ในกลุ่มผู้ฟังคืนนี้
  • 1:53 - 1:55
    มีไอสไตน์ไหมครับ ยกมือหน่อย
    ไม่ ไม่ ไม่
  • 1:55 - 1:56
    ไม่มีไอสไตน์ โอเคครับ
  • 1:56 - 2:00
    ดังนั้นคำถามนี้ ทำไมจึงมีแทนที่จะไม่มี
  • 2:00 - 2:02
    คำถามสุดเจ๋งนี้ ถูกถามขึ้นมาไม่นาน
  • 2:02 - 2:05
    ในยุคประวัติศาสตร์แห่งความรู้
  • 2:05 - 2:07
    ประมาณช่วงท้ายศตวรรษที่ 17
  • 2:07 - 2:10
    นักปรัชญานามลิบนิสซึ่งเป็นผู้ตั้งคำถาม
  • 2:10 - 2:12
    เขาเป็นชายที่ฉลาดมาก
  • 2:12 - 2:14
    เป็นผู้ประดิษฐ์ศาสตร์แคลคูลัส
  • 2:14 - 2:17
    อย่างอิสระจากไอแซค นิวตัน
    ในเวลาเดียวกัน
  • 2:17 - 2:19
    แต่สำหรับลิบนิส
    ผู้ซึ่งถามว่าทำไมจึงมีแทนที่จะไม่มี
  • 2:19 - 2:22
    มันไม่ใช่ปริศหายิ่งใหญ่อะไร
  • 2:22 - 2:24
    เขาเป็น หรืออาจทำเป็นว่า
  • 2:24 - 2:27
    เขาเป็นชาวคริสนิกายออโธดอกซ์
    ในทัศนคติทางอภิปรัชญาของเขา
  • 2:27 - 2:30
    และเขาบอกว่า มันชัดเจนว่าทำไมโลกจึงมีอยู่
  • 2:30 - 2:32
    เพราะว่าพระเจ้าสร้างมันขึ้นมาไงล่ะ
  • 2:32 - 2:35
    และแน่นอนพระเจ้าก็สร้างมันขึ้น
    จากความว่างเปล่า
  • 2:35 - 2:37
    นั่นแหละความทรงฤทธิ์ของพระเจ้า
  • 2:37 - 2:41
    พระองค์ไม่ต้องการวัสดุที่ปรากฎอยู่แล้วใดๆ
    ในการออกแบบสร้างโลก
  • 2:41 - 2:43
    พระองค์สามารถสร้างมันขึ้นจากความว่างเปล่า
  • 2:43 - 2:44
    creation ex nihilo
    [ลาติน: การสร้างจากความว่างเปล่า]
  • 2:44 - 2:45
    และจะว่าไป
  • 2:45 - 2:48
    นี่คือสิ่งที่คนอเมริกันส่วนหใญ่ตอนนี้เชื่อ
  • 2:48 - 2:50
    ไม่มีปริศนาใดสำหรับพวกเขา
  • 2:50 - 2:51
    ก็พระเจ้าทรงสร้างมัน
  • 2:51 - 2:54
    เอาล่ะ ลองนำมันเข้าไปในสมการ
  • 2:54 - 2:57
    ผมไม่มีสไลด์
    ดังนั้นผมจะเลียนแบบภาพที่ผมเห็ย
  • 2:57 - 2:58
    ฉะนั้นใช้จินตนาการของคุณ
  • 2:58 - 3:04
    ฉะนั้น พระเจ้า + ความว่างเปล่า = โลก
  • 3:04 - 3:07
    โอเคนะครับ นี่คือสมการ
  • 3:07 - 3:09
    และบางทีคุณอาจไม่เชื่อในพระเจ้า
  • 3:09 - 3:11
    บางทีคุณเป็นชาวอเทวนิยมแนววิทยาศาสตร์
  • 3:11 - 3:14
    หรือชาวอเทวนิยมที่ไม่ใช่แนววิทยาศาสตร์
    และคุณไม่เชื่อในพระเจ้า
  • 3:14 - 3:15
    และคุณก็จะไม่ชอบใจ
  • 3:15 - 3:18
    แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าคุณจะมีสมการ
  • 3:18 - 3:20
    พระเจ้า + ความว่างเปล่า = โลก
  • 3:20 - 3:22
    มันก็มีปัญหาแล้ว:
  • 3:22 - 3:25
    ทำไมพระเจ้าจึงมีอยู่
  • 3:25 - 3:27
    พระเจ้าไม่ได้มีอยู่ด้วยตรรกะอย่างเดียว
  • 3:27 - 3:29
    เว้นแต่ว่าคุณเชื่อการให้เหตุผลทางภววิทยา
    (ontological argument)
  • 3:29 - 3:31
    และผมหวังว่าคุณจะไม่
    เพราะว่ามันไม่ใช่การให้เหตุผลที่ดีเลย
  • 3:31 - 3:34
    ดังนั้นเป็นที่เข้าใจได้
    ถ้าพระเจ้านั้นมีอยู่
  • 3:34 - 3:37
    พระองค์อาจนึกสงสัย ข้าเป็นอมตะ
    ข้าทรงพลัง
  • 3:37 - 3:40
    แต่ข้ามาจากไหนนะ
  • 3:40 - 3:42
    (เสียงหัวเราะ)
  • 3:42 - 3:43
    ข้ามาจากหนใดกัน
  • 3:43 - 3:47
    พระเจ้าพูดภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการ
  • 3:47 - 3:49
    (เสียงหัวเราะ)
  • 3:49 - 3:52
    และทฤษฎีหนึ่งก็คือ พระเจ้าเบื่อหนักหนา
  • 3:52 - 3:53
    กับการครุ่นคิดปริศนาการมีอยู่ของตัวเอง
  • 3:53 - 3:56
    และ "พระองค์" สร้างโลก
    ก็เพื่อละความสนใจจากตัวเอง
  • 3:56 - 3:58
    แต่ว่านะ ลืมเรื่องพระเจ้าไปเถอะครับ
  • 3:58 - 4:00
    เอาพระเจ้าออกจากสมการ เราก็จะได้
  • 4:00 - 4:03
    ________ + ความว่างเปล่า = โลก
  • 4:03 - 4:05
    ทีนี้ ถ้าคุณเป็นชาวพุทธ
  • 4:05 - 4:07
    คุณอาจต้องการหยุดตรงนี้
  • 4:07 - 4:08
    เพราะว่าใจความสำคัญที่คุณได้ก็คือ
  • 4:08 - 4:10
    ความว่างเปล่า = โลก
  • 4:10 - 4:12
    และด้วยคุณสมบัติความเหมือนกัน นั่นหมายถึง
  • 4:12 - 4:14
    โลก = ความว่างเปล่า โอเคไหมครับ
  • 4:14 - 4:16
    และสำหรับชาวพุทธแล้ว
    โลกก็เป็นความไร้ตัวตนอันไพศาล
  • 4:16 - 4:19
    มันเป็นแค่ความว่างเปล่าในเอกภพ
  • 4:19 - 4:22
    และเราคิดว่ามีอะไรข้างนอกนั่นมากมาย
  • 4:22 - 4:25
    แต่นั่นเป็นเพราะว่าเราเป็นทาสของกิเลส
  • 4:25 - 4:27
    ถ้าเราทำให้กิเลสของเราหลอมละลายไป
  • 4:27 - 4:30
    เราจะเห็นโลกในแบบที่แท้จริง
  • 4:30 - 4:32
    ความว่างเปล่า ความไม่มีอะไร
  • 4:32 - 4:34
    และเราก็จะหลุดไปสู่สถานะแห่งความสุข
    ของนิพพาน
  • 4:34 - 4:36
    ซึ่งถูกให้ความหมายว่า
  • 4:36 - 4:39
    มีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง
    ที่จะยินดีกับการตาย (เสียงหัวเราะ)
  • 4:39 - 4:41
    นั่นคือสิ่งที่ชาวพุทธคิด
  • 4:41 - 4:45
    ผมเป็นชาวตะวันตก และผมก็ยังกังวล
  • 4:45 - 4:47
    กับปริศนาของการมีอยู่ ผมก็เลยได้
  • 4:47 - 4:48
    ________ + —
  • 4:48 - 4:51
    เรากำลังจะจริงจังในอีกอึดใจนี้ล่ะ
  • 4:51 - 4:54
    ________ + ความว่างเปล่า = โลก
  • 4:54 - 4:55
    เราจะเอาอะไรใส่ในช่องว่าง
  • 4:55 - 4:57
    แล้ววิทยาศาสตร์ล่ะ
  • 4:57 - 5:00
    วิทยาศาสตร์เป็นคู่มือที่ดีที่สุดของเรา
    สู่ธรรมชาติแห่งความจริง
  • 5:00 - 5:03
    และวิทยาศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานที่สุด
    คือฟิสิกส์
  • 5:03 - 5:06
    มันบอกเราว่าความเป็นจริงแบบหมดเปลือก
    นั้นคืออะไร
  • 5:06 - 5:09
    และเปิดเผยสิ่งที่ผมเรียกว่า TAUFOTU
  • 5:09 - 5:12
    เครื่องตกแต่งจักรวาลอันจริงแท้
    และเป็นที่สุด
  • 5:12 - 5:14
    ดังนั้น บางที
    ฟิสิกส์อาจเติมช่องว่างนี้ให้เราได้
  • 5:14 - 5:20
    และแน่นอน ตั้งแต่ประมาณช่วงยุค 1960 ตอนปลาย
    หรือราว ๆ ยุค 1970
  • 5:20 - 5:23
    นักฟิสิกส์ได้อ้างว่าจะให้
  • 5:23 - 5:26
    คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์แท้ ๆ
  • 5:26 - 5:29
    ว่าเอกภพของเรานั้น กำเนิดขึ้นมา
  • 5:29 - 5:31
    จากความว่างเปล่าได้อย่างไร
  • 5:31 - 5:34
    ความผันผวนทางควอนตัม
    จากความว่างเปล่า
  • 5:34 - 5:36
    สตีเฟน ฮอว์คิง เป็นหนึ่งในนักฟิสิกส์เหล่านี้
  • 5:36 - 5:39
    แลพเร็ว ๆ นี้ก็คือ อเล็ก ไวเลนคิน
  • 5:39 - 5:40
    และเรื่องนั้นก็ได้รับความนิยม
  • 5:40 - 5:43
    โดยนักฟิสิกส์คนเก่งอีกคนที่เป็นเพื่อนของผม
  • 5:43 - 5:45
    ลอว์แรนซ์ เคราส์ ผู้เขียนหนังสือ
  • 5:45 - 5:47
    "เอกภพจากความว่างเปล่า"
  • 5:47 - 5:49
    และลอว์แรนซ์คิดว่าเขาให้ -
  • 5:49 - 5:52
    เขาเป็นชาวอเทวนิยมตัวจริง
  • 5:52 - 5:53
    เขานำพระเจ้าออกจากภาพ
  • 5:53 - 5:56
    กฎของทฤษฎีสนามควอนตัม
  • 5:56 - 5:57
    ฟิสิกส์ล้ำยุคสามารถแสดงได้ว่า
  • 5:57 - 5:59
    จากความว่างเปล่า
  • 5:59 - 6:01
    ไม่มีพื้นที่ ไม่มีเวลา
    ไม่มีสสาร ไม่มีอะไร
  • 6:01 - 6:04
    การดึงดูดที่ผิดพลาดเพียงเสี้ยวเล็กน้อย
  • 6:04 - 6:06
    สามารถผันผวนไปสู่ความมีอยู่
  • 6:06 - 6:08
    และจากนั้น ด้วยความอัศจรรย์ของการขยายตัว
  • 6:08 - 6:11
    ระเบิดออกเป็นจักรวาลอันกว้างใหญ่
    อันหลากหลาย
  • 6:11 - 6:13
    ซึ่งพวกเราเห็นอยู่รอบตัว
  • 6:13 - 6:17
    เอาล่ะ นี่มันเป็นฉากสุดล้ำจินตนาการ
  • 6:17 - 6:20
    มันฟังดูเป็นแนวทฤษฎี มันน่าสนใจ
  • 6:20 - 6:22
    แต่ผมมีปัญหาใหญ่กับมัน
  • 6:22 - 6:24
    และปัญหานั้นคือ
  • 6:24 - 6:25
    มันเป็นแนวคิดคล้ายหลักศาสนา
  • 6:25 - 6:27
    ทีนี้ ลอว์แรนซ์คิดว่าเขาเป็นชาวอเทวนิยม
  • 6:27 - 6:30
    แต่เขายังคงเป็นทาสของแนวคิดทางศาสนาของโลก
  • 6:30 - 6:35
    เขาเห็นกฎทางฟิสิกส์เป็นดั่งบัญชาแห่งเทพ
  • 6:35 - 6:37
    กฎของสนามควอนตัมสำหรับเขา
  • 6:37 - 6:39
    เป็นเหมือนโองการสุดหรู
    "จงมีแสงสว่าง"
  • 6:39 - 6:44
    กฎเหล่านั้นมีพลังหรือแรงทางภววิทยา
  • 6:44 - 6:46
    ที่พวกเขาสามารถสร้างหุบเหว
  • 6:46 - 6:48
    ที่ตั้งครรภ์กับการมีอยู่
  • 6:48 - 6:51
    พวกเขาเรียกโลก
    ให้มาบังเกิดจากความว่างเปล่า
  • 6:51 - 6:53
    แต่นั่นเป็นแนวคิดแรก ๆ
  • 6:53 - 6:54
    ของกฎทางฟิสิกส์ ใช่ไหมครับ
  • 6:54 - 6:57
    เรารู้ว่ากฎทางฟิสิกส์นั้นที่จริงแล้ว
  • 6:57 - 7:00
    เป็นการอธิบายแบบกว้าง
    ของรูปแบบและการเกิดซ้ำ
  • 7:00 - 7:02
    ในโลก
  • 7:02 - 7:04
    พวกมันไม่ได้เกิดขึ้นนอกโลก
  • 7:04 - 7:06
    พวกมันไม่ได้มีเมฆแห่งภววิทยาของมันเอง
  • 7:06 - 7:08
    พวกมันไม่ได้ให้กำเนิดโลก
  • 7:08 - 7:09
    จากความว่างเปล่า
  • 7:09 - 7:11
    นั่นเป็นแนวคิดแรกๆ
  • 7:11 - 7:13
    ที่กฎทางวิทยาศาสตร์เป็น
  • 7:13 - 7:15
    และถ้าคุณไม่เชื่อผม
  • 7:15 - 7:17
    ลองฟังสตีเฟน ฮอว์คิง
  • 7:17 - 7:21
    ผู้ที่ผลักดันแบบจำลองของจักรวาล
  • 7:21 - 7:22
    ว่ามันพึ่งพาตัวเอง
  • 7:22 - 7:26
    ไม่ต้องการอะไรจากภายนอก
    จากผู้สร้าง
  • 7:26 - 7:27
    และหลังจากที่เสนอสิ่งนี้
  • 7:27 - 7:30
    ฮอว์คิงยอมรับว่าเขายังคงฉงน
  • 7:30 - 7:33
    เขาบอกว่า แบบจำลองนี้เป็นแค่สมการ
  • 7:33 - 7:36
    อะไรกันที่เติมเชื้อไฟให้กับสมการเหล่านี้
  • 7:36 - 7:39
    และสร้างโลกสำหรับให้พวกมันอธิบาย
  • 7:39 - 7:40
    เขายังคงฉงนกับสิ่งนี้
  • 7:40 - 7:44
    ฉะนั้นสมการเองคงไม่สามารถทำสิ่งอัศจรรย์ได้
  • 7:44 - 7:46
    ไม่สามารถแก้ปริศนาของการมีอยู่ได้
  • 7:46 - 7:49
    และนอกจากนั้น แม้ว่ากฎอาจทำได้
  • 7:49 - 7:51
    ทำไมต้องเป็นกฎชุดนี้ด้วย
  • 7:51 - 7:53
    ทำไมต้องเป็นทฤษฎีสนามควอนตัมที่อธิบาย
  • 7:53 - 7:55
    เอกภพด้วยตัวเลขจำเพาะของแรง
  • 7:55 - 7:56
    และอนุภาค และอื่นๆ
  • 7:56 - 7:58
    ทำไมไม่เป็นกฎชุดอื่นๆ ที่แตกต่างไป
  • 7:58 - 8:01
    มันมีกลุ่มค่าคงที่ทางคณิตศาสตร์ของกฎมากมาย
  • 8:01 - 8:05
    ทำไมต้องมีกฎด้วย
    ทำไมไม่มีอะไรเลยไม่ได้หรือ
  • 8:05 - 8:07
    เชื่อหรือไม่ครับ ปัญหานี้แหละ
  • 8:07 - 8:10
    ที่นักฟิสิกส์ครุ่นคิดถึงมันมาก ๆ
  • 8:10 - 8:13
    และ ณ จุดนี้ พวกเขาหันเข้าหาอภิปรัชญา
  • 8:13 - 8:15
    หรือบอกได้ว่า ชุดของกฎ
  • 8:15 - 8:16
    ที่อธิบายเอกภพของเรา
  • 8:16 - 8:18
    มันเป็นแค่กฎชุดหนึ่ง
  • 8:18 - 8:20
    และมันอธิบายส่วนหนึ่งของความจริง
  • 8:20 - 8:23
    แต่บางที กฎทุกชุดซึ่งคงที่
  • 8:23 - 8:25
    อธิบายอีกส่วนหนึ่งของความจริง
  • 8:25 - 8:29
    และที่จริงแล้ว
    โลกทางกายภาพที่เป็นไปได้ทั้งหมด
  • 8:29 - 8:31
    มีอยู่จริงๆ
    พวกมันอยู่ข้างนอกนั่น
  • 8:31 - 8:33
    เราแค่เห็นส่วนเล็ก ๆ ของความจริง
  • 8:33 - 8:36
    และอธิบายโดยทฤษฎีกฎของสนามควอนตัม
  • 8:36 - 8:38
    แต่มันยังมีโลกอีกมากมาย
  • 8:38 - 8:39
    ส่วนของความจริงที่ถูกอธิบาย
  • 8:39 - 8:41
    โดยทฤษฎีที่แสนหลากหลาย
  • 8:41 - 8:44
    ที่แตกต่างจากของเรา
    แบบที่เราจินตนาการไม่ออก
  • 8:44 - 8:48
    แบบที่แปลกประหลาดเหลือเชื่อ
  • 8:48 - 8:50
    สตีเฟน ไวน์เบอร์ก
  • 8:50 - 8:52
    บิดาแห่งแบบจำลองมาตราฐาน
    ของฟิสิกส์อนุภาค
  • 8:52 - 8:55
    ได้โผเข้าหาความคิดนี้
  • 8:55 - 8:59
    ที่ว่าความจริงทั้งหมดที่เป็นไปได้นั้น
    มีอยู่จริง ๆ
  • 8:59 - 9:02
    นอกจากนี้ นักฟิสิกส์หนุ่ม
    แม๊ก เทกมาร์ค
  • 9:02 - 9:07
    ผู้เชื่อว่าโครงสร้าง
    ทางคณิตศาสตร์ทั้งหมดมีอยู่จริง
  • 9:07 - 9:09
    และความมีอยู่ทางคณิตศาสตร์
    เป็นอย่างเดียวกัน
  • 9:09 - 9:11
    กับความมีอยู่ทางฟิสิกส์
  • 9:11 - 9:13
    ดังนั้น เรามีพหุภพต่าง ๆ มากมาย
  • 9:13 - 9:16
    ที่อัดรวมความน่าจะเป็นที่เป็นตรรกะทุกอย่าง
  • 9:16 - 9:20
    ทีนี้ เพื่อหาทางออกโดยอภิปรัชญา
  • 9:20 - 9:22
    จริงๆ แล้ว นักฟิสิกส์เหล่านี้ และนักปรัชญา
  • 9:22 - 9:25
    ย้อนกลับไปหาความคิดที่เก่ามาก ๆ
  • 9:25 - 9:26
    ย้อนกลับไปหาพลาโต
  • 9:26 - 9:29
    มันเป็นพื้นฐานของความอุดมสมบูรณ์
    และความคิดสร้างสรรค์
  • 9:29 - 9:31
    หรือโซ่ใหญ่แห่งการเป็นอยู่
  • 9:31 - 9:35
    ที่ความจริงมีความเป็นได้อย่างสูงสุด
  • 9:35 - 9:37
    เท่าที่เป็นมา
    มันกำจัดความว่างเปล่าออกไป
  • 9:37 - 9:40
    อย่างที่ควรจะเป็น
  • 9:40 - 9:42
    ดังนั้น เรามีสองแนวคิดสุดโต่ง
  • 9:42 - 9:45
    เรามีความไม่มี ในฝั่งหนึ่ง
  • 9:45 - 9:48
    และเรามีแนวคิดแห่งความจริงนี้
  • 9:48 - 9:51
    ที่อัดรวมเอาทุกโลกที่สามารถเข้าใจได้
  • 9:51 - 9:54
    ในอีกสุดฝั่งหนึ่ง
    ความจริงที่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
  • 9:54 - 9:57
    ความว่างเปล่า
    ความจริงที่เป็นไปได้อย่างง่ายที่สุด
  • 9:57 - 10:00
    ทีนี้
    อะไรที่อยู่ระหว่างสองแนวคิดสุดโต่งนี้
  • 10:00 - 10:02
    มันมีสารพัดความจริงที่อยู่ตรงกลาง
  • 10:02 - 10:05
    ที่รวมถึงบางอย่าง และละทิ้งบางอย่าง
  • 10:05 - 10:06
    ฉะนั้นหนึ่งในความจริงตรงกลางเหล่านี้
  • 10:06 - 10:12
    คือความจริงที่มีความอลังการทางคณิตศาสตร์
    อย่างที่สุด
  • 10:12 - 10:14
    ที่ละทิ้งส่วนที่ไม่หรูหรา
  • 10:14 - 10:16
    ส่วนที่น่าเกลียดไม่สมมาตร และอื่นๆ
  • 10:16 - 10:19
    ทีนี้ จะมีนักฟิสิกส์ซึ่งจะบอกคุณ
  • 10:19 - 10:22
    ว่าแท้จริงแล้ว
    เราอยู่ในความจริงที่อลังการที่สุด
  • 10:22 - 10:25
    ผมคิดว่า ไบรอัน กรีน อยู่ในที่นี้ด้วย
  • 10:25 - 10:29
    และเขาได้เขียนหนังสือ
    "เอกภพสุดอลังการ" (The Elegant Universe)
  • 10:29 - 10:31
    เขาอ้างว่าเอกภพที่เราอยู่
  • 10:31 - 10:33
    มีความอลังการทางคณิตศาสตร์อย่างมาก
  • 10:33 - 10:34
    อย่าได้เชื่อเขาครับ (เสียงหัวเราะ)
  • 10:34 - 10:38
    มันเป็นความหวังแห่งศรัทธา
    ผมก็หวังว่ามันจะจริง
  • 10:38 - 10:39
    แต่วันก่อนผมคิดถึงสิ่งที่เขาสารภาพกับผม
  • 10:39 - 10:43
    ว่ามันเป็นเอกภพที่อัปลักษณ์จริง ๆ
  • 10:43 - 10:44
    มันถูกสร้างมาอย่างน่าเกลียดโง่เง่า
  • 10:44 - 10:47
    มันมีค่าคงที่ควบคู่เบ็ดเตล็ด
    และอัตราส่วนมวล
  • 10:47 - 10:49
    มากมายเกินไป
  • 10:49 - 10:52
    และกลุ่มที่มากมายเกินไปของอนุภาคพื้นฐาน
  • 10:52 - 10:54
    และพลังงานมืดบ้าบอนี่มันคืออะไรกัน
  • 10:54 - 10:57
    นี่มันอุปกรณ์ที่ทำจากไม้กับหมากฝรั่ง
  • 10:57 - 11:01
    ไม่ใช่เอกภพสุดอลังการเลยแม้แต่น้อย
    (เสียงหัวเราะ)
  • 11:01 - 11:04
    และจากนั้นมันมีโลกทั้งหมดที่เป็นไปได้
    ที่ดีที่สุด
  • 11:04 - 11:05
    ในมุมมองทางจริยธรรม
  • 11:05 - 11:07
    คุณควรจะสงบได้แล้ว
  • 11:07 - 11:10
    เพราะโลกที่สิ่งที่มีความรู้สึก
  • 11:10 - 11:11
    ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างไม่จำเป็น
  • 11:11 - 11:13
    ซึ่งไม่มีเรื่องแย่ ๆ อย่างเช่น
  • 11:13 - 11:16
    มะเร็งในเด็ก หรือการสังหารหมู่
  • 11:16 - 11:17
    นี่เป็นแนวคิดหลักทางจริยศาสตร์
  • 11:17 - 11:19
    อย่างไรก็ดี ระหว่างความว่างเปล่า
  • 11:19 - 11:20
    และความจริงที่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
  • 11:20 - 11:22
    ความจริงพิเศษอันหลากหลาย
  • 11:22 - 11:24
    ความว่างเปล่านั้นพิเศษ มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด
  • 11:24 - 11:28
    จากนั้น มันก็มีความจริงที่เป็นไปได้ที่อลังการที่สุด
  • 11:28 - 11:29
    นั่นก็พิเศษ
  • 11:29 - 11:32
    ความจริงที่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ นั่นก็พิเศษ
  • 11:32 - 11:33
    แต่อะไรกันที่เรากำลังใช้ชีวิตกันตรงนี้
  • 11:33 - 11:36
    มันยังมีความจริงทั่วไป
  • 11:36 - 11:38
    ธรรมดาดาด ๆ
  • 11:38 - 11:40
    ที่ไม่พิเศษอะไรเลย
  • 11:40 - 11:42
    ที่เป็นอะไรแบบสุ่ม ๆ
  • 11:42 - 11:45
    พวกมันถูกกำจัดออกจากความว่างเปล่าแน่
  • 11:45 - 11:49
    แต่พวกมันก็ไม่ใช่ความสมบูรณ์ครบถ้วน
  • 11:49 - 11:51
    พวกมันเป็นการผสมระหว่างความยุ่งเหยิง
    กับความเป็นระเบียบ
  • 11:51 - 11:55
    ของความอลังการ
    และความอัปลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
  • 11:55 - 11:57
    ดังนั้นผมอยากจะอธิบายความจริงเหล่านี้
  • 11:57 - 12:01
    ว่าเป็นความยุ่งเหยิงที่ไม่สมบูรณ์
    ธรรมดาทั่วไป และมีอยู่อย่างเป็นอนันต์
  • 12:01 - 12:05
    ของความจริงทั่วๆ ไป
    เหมือนกับการลองของจักรวาลแบบมั่วๆ
  • 12:05 - 12:07
    และความจริงทั้งหลายเหล่านี้
  • 12:07 - 12:09
    มันมีเทพอยู่ในความจริงเหล่านี้หรือเปล่า
  • 12:09 - 12:12
    บางที แต่เทพเหล่านี้ไม่ได้สมบูรณ์
  • 12:12 - 12:14
    เหมือนกับเทพของยูดา-คริสเตียน
  • 12:14 - 12:17
    และเทพก็ไม่ได้ดีทั้งหมดและทรงอำนาจทั้งหมด
  • 12:17 - 12:21
    มันอาจจะร้ายไปเลย 100 เปอร์เซ็นต์
  • 12:21 - 12:23
    แต่มี 80 เปอร์เซ็นต์ที่มีประสิทธิภาพ
  • 12:23 - 12:29
    ซึ่งอธิบายโลกได้ค่อนข้างดี
    เราก็เห็น ๆ อยู่รอบตัวเรา ผมว่านะ (เสียงหัวเราะ)
  • 12:29 - 12:31
    ผมอยากจะเสนอว่า การแก้
  • 12:31 - 12:33
    ปริศนาการมีอยู่
  • 12:33 - 12:37
    ก็คือว่า ในความจริง เรามีตัวตน
  • 12:37 - 12:39
    อยู่ในความจริงโดยทั่วไป
  • 12:39 - 12:42
    ความจริงที่จะต้องกลายเป็นอะไรสักอย่าง
  • 12:42 - 12:44
    มันสามารถเป็นความว่างเปล่า
  • 12:44 - 12:48
    หรือทุกสิ่งทุกอย่าง หรืออะไรสักอย่างระหว่างนั้น
  • 12:48 - 12:52
    ดังนั้น ถ้ามันมีคุณลักษณะพิเศษ
  • 12:52 - 12:54
    เช่นมีความซับซ้อนอลังการ หรือสมบูรณ์
  • 12:54 - 12:55
    หรือธรรมดา ๆ เช่นว่างเปล่า
  • 12:55 - 12:57
    ที่ต้องการคำอธิบาย
  • 12:57 - 13:00
    แต่ถ้าความจริงทั่วไปเป็นหนึ่งในการสุ่มนี้
  • 13:00 - 13:02
    มันก็ไม่มีคำอธิบายใดอีกสำหรับมัน
  • 13:02 - 13:04
    และแน่นอน ผมจะบอกว่า
  • 13:04 - 13:06
    นั่นเป็นความจริงที่เราใช้ชีวิตอยู่
  • 13:06 - 13:08
    นั่นเป็นสิ่งที่วิทยาศาสตร์บอกเรา
  • 13:08 - 13:09
    ในตอนเริ่มแรกของสัปดาห์
  • 13:09 - 13:13
    เราได้ข้อมูลที่น่าตื่นเต้น
  • 13:13 - 13:16
    ซึ่งทฤษฎีการขยายตัว ซึ่งทำนาย
  • 13:16 - 13:20
    ความจริงที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีที่สิ้นสุด
    ยุ่งเหยิง ไร้เหตุผล ไร้จุดหมาย
  • 13:20 - 13:23
    มันเหมือนกับฟองแชมเปญ
  • 13:23 - 13:26
    ที่ออกมาจากขวดอย่างไม่หยุดหย่อน
  • 13:26 - 13:28
    เอกภพอันยิ่งใหญ่ ส่วนใหญ่แล้วว่างเปล่า
  • 13:28 - 13:33
    มีเสน่ห์ และความเป็นระเบียบ และความสงบ
    เล็กๆ น้อยๆ
  • 13:33 - 13:35
    ที่ได้รับการยืนยัน
  • 13:35 - 13:38
    เหตุการขยายตัวนี้ จากการสังเกต
  • 13:38 - 13:40
    โดยใช้กล้องโทรทัศน์สัญญาณวิทยุ
    ในแอนตาร์คติกา
  • 13:40 - 13:43
    มองไปยังคลื่นแรงดึงดูดที่เป็นเอกลักษณ์
  • 13:43 - 13:45
    จากยุคก่อนบิ๊กแบงเพียงอึดใจ
  • 13:45 - 13:46
    ผมมั่นใจว่าคุณทุกคนรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้
  • 13:46 - 13:49
    อย่างไรก็ดี
    ผมคิดว่ามันมีหลักฐาน
  • 13:49 - 13:53
    ว่านี่เป็นความจริง จริงๆ
    ที่มีเราอยู่ในนั้น
  • 13:53 - 13:56
    ทีนี้ ทำไมเราต้องใส่ใจล่ะ
  • 13:56 - 13:57
    ก็นะ -- (เสียงหัวเราะ)
  • 13:57 - 14:01
    คำถามที่ว่า "ทำไมโลกจึงมีอยู่"
  • 14:01 - 14:02
    นั่นเป็นคำถามระดับจักรวาล
    มันเป็นเหมือนความคล้องจอง
  • 14:02 - 14:04
    ที่มีคำถามที่คุ้นเคยกว่านั้น
  • 14:04 - 14:07
    ทำไมผมจึงมีตัวตน ทำไมคุณมีตัวตน
  • 14:07 - 14:10
    ความมีอยู่มีตัวตนของเรา
    อาจนะเป็นความไม่น่าเชื่ออันอัศจรรย์
  • 14:10 - 14:15
    เพราะมันมีความเป็นไปได้ทางพันธุศาสตร์
    สำหรับมนุษย์หลายรูปแบบ
  • 14:15 - 14:16
    ถ้าคุณคำนวณโดยเน้นไปที่
  • 14:16 - 14:18
    จำนวนของยีนและจำนวนของอัลลีล
  • 14:18 - 14:21
    และการคำนวณคร่าวๆ จะบอกคุณว่า
  • 14:21 - 14:23
    มีอยู่ประมาณ 10 ถึง 10,000
  • 14:23 - 14:25
    ความเป็นไปได้ทางพันธุศาสตร์สำหรับมนุษย์
  • 14:25 - 14:28
    ระหว่างกูโกล และกูโกลเพลก
  • 14:28 - 14:30
    และจำนวนของมนุษย์ที่มีอยู่
  • 14:30 - 14:32
    คือแสนล้าน หรือบางที ห้าหมื่นล้าน
  • 14:32 - 14:34
    ซึ่งเป็นเพียงปริมาณเล็กน้อย
    ดังนั้นเราทุกคน
  • 14:34 - 14:36
    ชนะรางวัลสลากกินแบ่ง
    แห่งจักรวาลอันน่าทึ่ง
  • 14:36 - 14:38
    เราอยู่กันตรงนี้ เอาล่ะ
  • 14:38 - 14:41
    แล้วความจริงแบบไหนกันที่เราอาศัยอยู่
  • 14:41 - 14:43
    เราต้องการใช้ชีวิตในความจริง
    แบบพิเศษหรือเปล่า
  • 14:43 - 14:48
    ถ้าเราอาศัยอยู่ในความจริง
    ที่อาจอลังการยิ่งกว่า
  • 14:48 - 14:50
    ลองคิดถึงความกดดันของการมีอยู่ที่มีต่อเรา
  • 14:50 - 14:52
    ที่จะมีชีวิตแบบนั้น ที่จะมีความอลังการ
  • 14:52 - 14:54
    ไม่เป็นการทำให้มันเสื่อมชื่อ
  • 14:54 - 14:57
    หรือถ้าว่าเราอยู่ในความจริงที่สมบูรณ์สุด
  • 14:57 - 14:59
    ถ้าแบบนั้น การมีตัวตนอยู่ของเรา
    คงจะได้รับการรับรอง
  • 14:59 - 15:01
    เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้
  • 15:01 - 15:02
    มีอยู่ในความจริงเช่นนั้น
  • 15:02 - 15:04
    แต่ทางเลือกของเราคงจะไร้ความหมาย
  • 15:04 - 15:07
    ถ้าผมมีปัญหาติดขัดทางด้านศีลธรรม
  • 15:07 - 15:09
    และผมตัดสินใจทำสิ่งที่ถูกต้อง
  • 15:09 - 15:11
    มันจะแตกต่างอะไร
  • 15:11 - 15:13
    เพราะมันมีตัวผมอยู่หลายรูปแบบ
  • 15:13 - 15:14
    มากมายเป็นอนันต์
  • 15:14 - 15:15
    ที่ยังทำสิ่งที่ถูกต้อง
  • 15:15 - 15:17
    และมีอีกเป็นอนันต์ที่ทำสิ่งที่ผิด
  • 15:17 - 15:18
    ฉะนั้น ทางเลือกของผมมันไร้ความหมาย
  • 15:18 - 15:21
    ดังนั้น เราไม่ต้องการที่จะใช้ชีวิต
    ในความจริงแบบพิเศษ
  • 15:21 - 15:23
    และถ้าเรา
    อยู่ในความจริงพิเศษของความว่างเปล่า
  • 15:23 - 15:26
    เราก็จะไม่ได้มาคุยกันแบบนี้
  • 15:26 - 15:32
    ฉะนั้น ผมคิดว่าการอยู่ในความจริงทั่วๆ ไป
    ที่ดูงั้นๆ ธรรมดาๆ
  • 15:32 - 15:34
    มีส่วนแย่ๆ และส่วนดีๆ
  • 15:34 - 15:36
    และเราสามารถทำให้ส่วนดีๆ มากขึ้นอีกนิด
  • 15:36 - 15:38
    และส่วนที่แย่ๆ น้อยลงอีกหน่อย
  • 15:38 - 15:41
    และนั่นทำให้เรามีความหมายในการใช้ชีวิต
  • 15:41 - 15:43
    เอกภพนั้นช่างไร้สาระ
  • 15:43 - 15:44
    แต่เราสามารถที่จะสร้างความหมาย
  • 15:44 - 15:45
    และนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี
  • 15:45 - 15:48
    และความเรียบง่ายธรรมดาทั้งหมดของความจริง
  • 15:48 - 15:50
    เหมือนกับการสะท้อนที่ดีต่อความเรียบง่ายธรรมดา
  • 15:50 - 15:53
    เราทุกคนรู้สึกได้จากข้างใน
  • 15:53 - 15:54
    และผมรู้ว่าคุณสัมผัสถึงมันได้
  • 15:54 - 15:56
    ผมรู้ว่าคุณทุกคนนั้นมีความพิเศษ
  • 15:56 - 15:58
    แต่คุณยังคงทำตัวธรรมดาแบบแอบๆ ซ่อนๆ
  • 15:58 - 15:59
    ใช่ไหมล่ะครับ
  • 15:59 - 16:01
    (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
  • 16:01 - 16:05
    ฉะนั้น คุณอาจบอกว่า
    ปริศนาความมีอยู่นี้
  • 16:05 - 16:07
    มันเป็นแค่ปริศนาแผงลอย
  • 16:07 - 16:11
    คุณไม่ได้ที่งตะลึงกับการมีอยู่ของเอกภพ
  • 16:11 - 16:12
    และคุณก็มีเพื่อนที่คิดแบบเดียวกัน
  • 16:12 - 16:14
    เบอร์นาร์ด รัสเซล กล่าวว่า
  • 16:14 - 16:18
    "ผมควรบอกว่า เอกภพแค่อยู่ตรงนั้น
    แค่นั้นแหละ"
  • 16:18 - 16:19
    แค่ความจริงดิบ ๆ
  • 16:19 - 16:22
    และศาสตราจารย์ของผมที่โคลัมเบีย
    ซิดนีย์ มอร์เกนเบสเซอร์
  • 16:22 - 16:24
    นักเคลื่อนไหวทางปรัชญา
  • 16:24 - 16:26
    เมื่อผมบอกท่านว่า
    "ศาสตราจารย์ มอร์เกนเบสเซอร์ ครับ
  • 16:26 - 16:28
    ทำไมมันมีอะไรบางอย่างแทนที่จะว่างเปล่าครับ"
  • 16:28 - 16:30
    เขาบอกว่า "โอ ถึงแม้ว่ามันจะมีแต่ความว่างเปล่า
  • 16:30 - 16:32
    คุณก็ยังไม่พอใจอยู่ดีแหละ"
  • 16:32 - 16:36
    ดังนั้น-(เสียงหัวเราะ)-โอเค
  • 16:36 - 16:38
    ฉะนั้นคุณไม่ได้ทึ่งกับมัน ผมไม่สนใจหรอก
  • 16:38 - 16:41
    แต่ให้ผมบอกอะไรคุณสักอย่างเป็นการสรุป
  • 16:41 - 16:44
    ผมยืนยันได้เลยว่าคุณจะทึ่งตัวคุณเอง
  • 16:44 - 16:46
    เพราะมันทำให้ทุกสิ่งที่ยอดเยี่ยมดูน่าทึ่ง
  • 16:46 - 16:49
    ผู้คนที่น่าทึ่งที่ผมได้พบ
    ในงานบรรยายของ TED
  • 16:49 - 16:51
    เมื่อผมบอกพวกเขาว่า
  • 16:51 - 16:55
    ในชีวิตนี้ ผมไม่เคยมีโทรศัพท์มือถือ
  • 16:55 - 16:57
    ขอบคุณครับ
  • 16:57 - 17:01
    (เสียงหัวเราะ) (เสียงปรบมือ)
Title:
ทำไมเอกภพจึงมีอยู่
Speaker:
จิม ฮอล์ท (Jim Holt)
Description:

ทำไมจึงมีแทนที่จะไม่มีอะไรเลย หรืออีกนัยหนึ่ง ทำไมเอกภพจึงมีอยู่ (ทำไมเราจึงอาศัยอยู่ในนั้น) นักปรัชญาและนักเขียน จิม ฮอล์ท ติดตามคำถามนี้ผ่านคำตอบที่เป็นไปได้ทั้งสาม หรือสี่ หรือไม่มี

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
17:17
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Why does the universe exist?
Sakunphat Jirawuthitanant accepted Thai subtitles for Why does the universe exist?
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for Why does the universe exist?
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for Why does the universe exist?
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for Why does the universe exist?
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for Why does the universe exist?
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for Why does the universe exist?
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Why does the universe exist?
Show all

Thai subtitles

Revisions