-
ในวิดีโอที่แล้ว เราเริ่มต้นด้วยการแปลง
-
เชิงเส้นสองตัว
-
เรามีการแปลงเชิงเส้น S ที่
-
โยงจาก Rn ไปยัง Rm
-
แล้วเรามีการแปลงเชิงเส้น T, ที่
-
เป็นการโยงจาก Rn ไปยัง Rm เช่นกัน
-
และเรานิยามแนวคิดเรื่องการบวกการแปลง
-
สองตัวนี้ไว้
-
S บวก T, การแปลงนี่ของ x เรานิยาม
-
ว่าเท่ากับ S ของ x, เวกเตอร์นี้ บวก T ของ x.
-
และแน่นอน, ค่านำเข้านี่จะมจาก Rn, แล้ว
-
แต่ละตัวคือเวกเตอร์ใน Rm
-
ถ้าเราบวกเวกเตอร์สองตัวใน Rm เข้าด้วยกัน, เราจะได้
-
เวกเตอร์อีกตัวใน Rm เพราะ Rm คือสับสเปซที่ถูกต้อง
-
มันเรียกว่าสมบัติปิดภายใต้การบวก
-
นี่ก็ยังเป็นการโยง
-
แล้ว S บวก T จะยังเป็นการโยงจาก Rn ไปยัง Rm
-
และเรายังบอกว่า การแปลงทุกตัวที่เรา
-
แสดงในวิดีโอที่แล้ว, สามารถแทนได้ด้วยเมทริกซ์
-
เราบอกได้ว่า S ของ x เท่ากับ
-
เมทริกซ์ A คูณ x
-
และเราบอกว่า T ของ x เท่ากับ
-
เมทริกซ์ B คูณ x
-
ทั้งคู่จะเป็นเมทริกซ์ขนาด m คูณ n
-
ขอผมเขียน m คูณ n, ทั้งสองตัวนี้นะ
-
เพราะพวกนี้คือการโยงจาก Rn ถึง Rm ทั้งคู่
-
และสิ่งที่เราทำคือ เรานิยามอีกอย่างหนึ่ง
-
นี่คือนิยามตรงนี้ แล้วเรานิยาม
-
อีกอย่างหนึ่ง
-
เรานิยามการบวกเมทริกซ์สองตัว
-
เราบอกว่าเมทริกซ์ A บวก B, พวกมันต้องมี
-
ขนาดเท่ากัน
-
พวกมันในกรณีนี้มีขนาด m คูณ n ทั้งคู่
-
และเรานิยามการบวกนี้ เป็นเมทริกซ์ใหม่, โดย
-
แต่ละคอลัมน์ของเมทริกซ์นี้ เท่ากับผลรวมของ
-
คอลัมน์ที่ตรงกันของเมทริกซ์เหล่านี้
-
คอลัมน์แรกของเมทริกซ์นี้ จะเป็นผลบวกของคอลัมน์แรก
-
ของ A กับคอลัมน์แรกของ B
-
ได้ a1 บวก b1, คอลัมน์ที่สอง ผมจะลากเส้นเล็กๆ
-
ตรงนี้ คือ a2 บวก b2
-
และมันทำไปจนถึง an บวก bn
-
นี่ก็แค่นิยาม
-
และสาเหตุทั้งหมดที่เราตั้งนิยามนี้, คือ
-
ถ้าคุณนิยามการบวอกอย่างนี้, แล้ว
-
สิ่งนี้, เวลาคุณแทนมันบวก Ax บวก Bx, คุณจะได้
-
เจ้านี่ตรงนี้ เท่ากับเมทริกซ์ที่ตรงกัน
-
ตามนิยามนี้, A บวก B คูณ x
-
นี่คือแรงจูงใจที่ทำให้ได้พจน์สวยงามแบบนี้, อย่าง
-
นี้, สำหรับการนิยามเมทริกซ์แบบนี้
-
ทีนี้ นี่ดูเป็นนามธรรมมาก, ลองมา
-
หาเมทริกซ์, หรือลองบวกเมทริกซ์สองตัวกัน
-
เราจะเริ่มต้นด้วยกรณี 2 คูณ 2 ก่อน
-
สมมุติว่าผมบวกเมทริกซ์ 1, 3, ลบ 2, 4 เข้ากับ
-
เมทริกซ์, จำไว้พวกมันต้องมีขนาดเท่ากัน,
-
เมทริกซ์ 2, 7, ลบ 3, ลบ 1
-
แล้วเราได้อะไร?
-
ทีนี้ตามนิยาม, คุณแค่บวก
-
คอลัมน์ที่ตรงกัน
-
คุณบวกคอลัมน์แรกก่อน
-
เวลาคุณบวกคอลัมน์ที่ตรงกัน,
-
เกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณบวกคอลัมน์สองอัน, เวกเตอร์สองอัน?
-
ทีนี้, คุณก็แค่บวกค่าที่ตรงกัน
-
ที่สุดแล้ว, เวลาคุณบวกเมทริกซ์, คุณก็แค่
-
บวกค่าที่ตรงกันให้หมด
-
ผมพูดถึงมันแบบนี้, เพราะนั่นคือวิธีที่ผม
-
กำหนดมัน, แต่มันก็เหมือนกัน
-
อย่างแรก, คอลัมน์แรก, ในเมทริกซ์นี่ตรงนี้
-
จะเป็นคอลัมน์นี้ บวกคอลัมน์นี้
-
มันจะเป็น 1 บวก 2, ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ, แล้ว
-
ก็ลบ 2, ลบ 3
-
แล้วคอลัมน์ที่สอง, อันนั่นตรงนั้น, จะ
-
เป็น 3 บวก 7 แล้วก็ 4 ลบ 1
-
แล้วนี่จะเท่ากับ 3, 10, ลบ 5 และ
-
3, แบบนั้น
-
แล้วสังเกตดู, แม้ว่านิยามคือผมบวก
-
คอลัมน์ที่ตรงกัน
-
แต่ที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น?
-
ผมก็แค่บวกค่าที่ตรงกันเท่านั้น
-
ผมบวก 1 กับ 2, 3 กับ 7, ลบ 2 กับ
-
ลบ 3, 4 กับลบ 1
-
มันตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
-
ไม่มีอะไรสวยหรูกว่านั้น
-
ที่จริง, เราสามารถเขียนนิยามนี้ใหม่ได้
-
ถ้าเราบอกว่าเวกเตอร์ หรือเมทริกซ์ A เท่ากับ a11
-
a12, ไปจนถึง a1n
-
แล้วถ้าเราลงไป นี่คือ a21 ไปจนถึง an1
-
แล้วคุณก็ลงไปจนถึง ann
-
เราเห็นมันมาก่อนแล้ว
-
แล้วเมทริกซ์ B, ด้วยเหตุผลเดียวกัน หรือด้วย
-
นิยามเดียวกัน, นี่คือ b11, ค่านั้นคือ b11, นั่น
-
คือ b12, ไปจนถึง b1n
-
นี่คือ b21, แถวที่สอง, ไปจนถึง bn, ขอโทษที นี่
-
คือ m, เรามี m แถว, นี่ก็คือ mn
-
เจ้านี่ตรงนี้คือ bm1, นี่คือ bm2, ไปจนถึง
-
ข้างล่างตรงนี้คือ bmn, ตรงนี้
-
ต้องระหวังหน่อย, นี่คือเมทริกซ์ขนาด m คูณ n
-
แถวนี้ข้างล่างนี้คือแถวที่ m ทั้งสองกรณี
-
แต่เราสามารถนิยามเมทริกซ์ใหม่, หรือวิธี
-
กล่าวนิยามการบวกเมทริกซ์ใหม่, คือบอกว่า, ถ้าผม
-
จะบวก A กับ B, ผมจะบวก
-
ค่าที่ตรงกันทุกค่า
-
แล้วค่านี่บนนี้จะเป็น -- ขอผมทำ
-
อีกสีนะ -- มันจะเป็น a11 บวก b11 อันนี้จะ
-
เท่ากับ a21 บวก b21 ไปจนถึง am1 บวก bm1
-
แล้วนี่จะเป็น, แน่นอน, a12 บวก b12 ไป
-
จนถึง a1n -- ขอผมเลื่อนลงมาหน่อยนะ -- ไปจน
-
ถึง a1n บวก b1n แล้วก็ไปจนถึง
-
amn บวก bmn
-
พวกนี้เป็นนิยามที่เทียบเท่ากัน
-
นี่ใช้ที่เขียนน้อยกว่า และผมรู้สึก
-
ชอบมันมากกว่า เพราะเราได้
-
นิยามการบวกเวกเตอร์ไปแล้ว
-
แต่ที่สุดแล้ว มันก็เหลือแค่ บวก
-
ค่าที่ตรงกันทุกตัว
-
นั่นคือการบวกเมทริกซ์
-
มันอาจเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุด ที่คุณ
-
เคยเรียนในประสบการณ์เรียนเลขเร็วๆ นี้ก็เป็นได้
-
ทีนี้, การคูณเมทริกซ์ด้วยสเกลาร์
-
คิดเหมือนกันเลย
-
เรานิยามการคูณสเกลาร์กับ
-
การแปลงของ x ว่าเท่ากับสเกลาร์ของ
-
การแปลงของ x
-
นี่คือนิยาม
-
และเรารได้นิยามสเกลาร์คูณเมทริกซ์ A ว่า
-
เท่ากับสเกลาร์
-
เมทริกซ์ใหม่โดยแต่ละคอลัมน์ คือสเกลาร์คูณ
-
เวกเตอร์คอลัมน์ของ A
-
งั้น a1, แล้วก็คอลัมน์ต่อไป c a2, แล้วคุณก็ไป
-
จนถึง c an
-
และแรงจูงใจสำหรับอันนี้คือว่า, เพราะนี่
-
สามารถจัดรูปได้เป็น -- ตรงนี้ T ผมบอกว่ามันเท่ากับ Bx, คูณ
-
การแปลงของ x-- การแปลง T
-
ของ x เท่ากับเจ้านั่น
-
เราจึงได้ c
-
มันจะเป็น c คูณเมทริกซ์ B
-
คูณเวกเตอร์ x
-
นั่นคือเราขียนการแปลงของ x ได้อย่างนั้น
-
แล้ว นี่จะเท่ากับ แค่เล่นกับตัวเลข -- เรา
-
ทำไปแล้วในวิดีโอก่อน โดยการแบ่งนี้เป็น
-
เวกเตอร์คอลัมน์ แล้วคูณมันด้วยแต่ละองค์ประกอบ
-
ของ x, แล้วกระจาย c และเรียงพวกมัน
-
หน่อย
-
แล้วเราก็บอกได้ว่า, เมื่อใช้นิยามนี้, นี่เท่ากับ
-
เมทริกซ์ใหม่ cB
-
เราใช้นิยามนี้, เมทริกซ์ใหม่ cB, โดย
-
มันก็คือ c คูณแต่ละเวกเตอร์
-
คอลัมน์ของ B คูณ x
-
นี่ตรงนี้คือแรงจูงใจของเรา
-
เราอยากจะเขียนนี่เป็นผลคูณของเมทริกซ์
-
ใหม่ กับเวกเตอร์ได้, เพราะการแปลงเชิงเส้นใดๆ
-
ควรเขียนแบบนั้นได้
-
และนั่นคือสาเหตุที่เรานิยามมันขึ้นมา
-
ลองใช้มันดู
-
และผมอยากแสดงให้คุณเห็นว่า นี่อาจง่ายกว่า
-
การบวกเมทริกซ์อีก
-
ถ้าคุณอยากคูณสเกลาร์ 5 กับเมทริกซ์
-
ผมจะเมทริกซ์ขนาด 3 คูณ 2 นะ
-
ได้ 1, ลบ 1, 2, 3, 7, 0
-
นี่จะเท่ากับ -- ตามนิยามนี้ ผมแค่
-
บอกว่า, ผมจะคูณสเกลาร์ด้วย
-
เวกเตอร์คอลัมน์แต่ละตัว
-
มันคือ 5 คูณ 1, 2, 7
-
แต่มันคืออะไร?
-
นั่นก็แค่ 5 คูณค่าแต่ละค่า
-
มันคือ 5 คูณ 1, ซึ่งก็คือ 5
-
5 คูณ 2, ซึ่งก็คือ 10
-
5 คูณ 7, ซึ่งก็คือ 35
-
แล้วคอลัมน์ต่อไป จะเป็น 5 คูณคอลัมน์นี้
-
ตรงนี้, ซึ่งก็คือ 5 คูณแต่ละค่าของมัน
-
5 คูณลบ 1 ได้ ลบ 5
-
5 คูณ 3 ได้ 15
-
5 คูณ 0 ได้ 0
-
มันง่ายมาก
-
คุณก็แค่, ถ้าคุณกลับไปที่นิยาม, เรานิยาม
-
การคูณสเกลาร์กับเมทริกซ์ได้
-
เราก็บอกว่า นิยาม cA เท่ากับ, ถ้าเราบอกว่า
-
นี่คือตัวแทนของ A, ของสเกลาร์ c คูณ
-
แต่ละค่าของ A
-
แค่นั้นแหละ
-
มันก็คือ c คูณ a11, c คูณ a12 ไปจน
-
ถึง c คูณ a1n
-
คุณลงไปตามนี้, c คูณ a21 ไปจนถึง c
-
คูณ am1 แล้วถ้าคุณลงไปตามแนวทแยง,
-
คุณจะได้ c คูณ amn
-
คุณก็แค่เอาสเกลาร์มา แล้วคุณมันด้วย
-
ค่าทุกค่าใน A
-
และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องทำ
-
หวังว่านี่คงช่วยให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นหน่อย, หรือ
-
บางทีอาจเป็นการทบทวนสิ่งที่คุณอาจ
-
เรียนไปแล้วตอนมัธยมด้วย