-
-
-
สมมุติว่าผมมีสับสเปซ v
-
และนี่คือสับสเปซ และเราเรียนเรื่องสับสเปซไปหมดแล้ว
-
ในวิดีโอก่อน
-
และมันเท่ากับสแปนของเวกเตอร์ชุดหนึ่ง
-
และผมแสดงไในวิดีโอนั้นแล้วว่า สแปนของเซตของ
-
เวกเตอร์ใดๆ เป็นสับสเปซจริง
-
-
-
มันจะเท่ากับสแปนของ v1, v2, ไปจนถึง,
-
เวกเตอร์ n ตัว
-
แต่ละตัวคือเวอเตอร์
-
ทีนี้ ขอผมบอกหน่อยว่า เวกเตอร์พวกนี้เป็น
-
อิสระเชิงเส้น
-
v1, v2, ไปจนถึง vn, เซตของเวกเตอร์นี้
-
เป็นอิสระเชิงเส้น
-
-
-
ทีนี้ก่อนที่ผมจะบอกประเด็นเรื่องนี้, ลองทบทวนก่อน
-
ว่าสแปนที่จริงหมายความว่าอะไร
-
สแปนหมายถึงเซตนี้, สับสเปซ, ที่แสดง
-
ผลรวมเชิงเส้นที่เป็นไปได้ทั้งหมด
-
ของเวกเตอร์ทั้งหมดเหล่านี้
-
คุณก็รู้, ผมมีผลรวมเชิงเส้นสำหรับ
-
ค่า c ต่างๆ ทุกตัว
-
ได้ c1 คูณ v1 บวก c2 คูณ v2, ไปจนถึง cn คูณ vn
-
สำหรับค่า c ทุกค่าที่เป็นไปได้ และจำนวนจริงทุกตัว
-
ถ้าคุณหาความเป็นไปได้พวกนี้ทั้งหมด และคุณ
-
ใส่เวกเตอร์พวกนั้นทุกตัวในเซตลงไป, นี่ก็คือสแปน
-
และนั่นคือสิ่งที่เราใช้นิยามสับสเปซ v
-
ทีนี้, นิยามของความอิสระเชิงเส้น คือว่า
-
คำตอบเดียวของ c1 v1 บวก c2 v2 ไปจนถึง cn
-
vn, คำตอบเดียวทีทำให้เจ้านี่เท่ากับเวกเตอร์ 0 --
-
บางทีผมควรเขียนสัญลักษณ์เวกเตอร์เล็กๆ ตรงนี้ -- คือตอน
-
ที่ทุกเทอมนี้เท่ากับ 0
-
c1 เท่ากับ c2, เท่ากับทั้งหมดนี้
-
ทั้งหมดทุกตัวเท่ากับ 0
-
หรือสามัญสำนึกในกาคิดคือว่า คุณไม่สามารถ
-
แสดงเวกเตอร์ตัวหนึ่งใดๆ ในนี้ เป็นผลรวม
-
ของเวกเตอร์ที่เหลือ
-
ตอนนี้, ถ้าเงื่อนไขทั้งคู่เป็นจริง
-
ว่าสแปนของเซตของเวกเตอร์นี้ เท่ากับสับสเปซนี้
-
หรือสร้างสับสเปซ หรือมันสแปนสับสเปซนี้ และที่ว่า
-
เวกเตอร์พวกนี้ทั้งหมดเป็นอิสระเชิงส้น, แล้วเรา
-
บอกได้ว่าเซตของเวกเตอร์ -- บางทีเราเรียกนี่ว่า
-
เราเรียกเซตของเวกเตอร์นี้ว่า s ได้
-
เมื่อเราบอกว่า s เท่ากับ v1, v2 ไปจนถึง vn
-
มันเท่ากับเซตของเวกเตอร์นั่น
-
เราสามารถบอกได้ว่า นี่คือประเด็นแล้ว
-
เราบอกได้ว่า S, เซต S เป็นฐาน (basis) ของ V
-
และนี่คือนิยามที่ผมอยากกำหนด
-
ถ้าอะไรสักอย่างเป็นฐานของเซตๆ หนึ่ง, มันหมายความว่า
-
เวกเตอร์เหล่านั้น, ถ้าคุณหาสแปนของเวกเตอร์เหล่านั้น, คุณ
-
จะสร้าง -- คุณสามารถเข้าถึงสมาชิกใดๆ ใน
-
สับสเปซนั้น และเวกเตอรืเหล่านี้อิสระ
-
เชิงเส้น
-
มันมีสิ่งให้คิดได้หลายอย่าง
-
อย่างหนึ่งคือว่า มีของมากมายที่สแปนได้อะไรสักอย่าง
-
ตัวอย่างเช่น, ถ้านี่สแปน v ได้, แล้ว -- ขอผมเพิ่ม
-
เวกเตอร์อีกตัวนะ
-
ขอผมนิยามเซตอีกเซตหนึ่ง
-
ขอผมกำหนดเซต T ให้เป็นเซต S: v1, v2,
-
ไปจนถึง vn
-
แต่มันยังมีเวกเตอร์อีกตัวหนึ่ง
-
มันจะเรียกมันว่า v เวกเตอร์พิเศษ
-
มันก็คือ, เซต S
-
บวกเวกเตอร์อีกตัว
-
โดยเวกเตอร์นี้ ผมจะบอวก่ามันคือ v1 บวก v2
-
แน่นอน, นี่ไม่ใช่เซตที่อิสระเชิงเส้น
-
แต่ถ้าผมถามคุณว่าสแปนของ T คืออะไร, สแปนของ
-
T จะยังเท่ากับสับสเปซ v นี่
-
แต่ผมมีเวกเตอร์เกินมาตรงนี้ และ
-
ทำให้มันไม่อิสระเชิงเส้้น
-
เซตนี้ไม่อิสระเชิงเส้น
-
T จึงไม่อิสระเชิงเส้น
-
ในกรณีนี้, T จึงไม่ใช่ฐานของ v
-
และผมแสดงตัวอย่างนี้ให้คุณดู เพราะวิธี
-
ที่ผมคิดถึงฐานคือว่า, ฐานเป็น
-
เซตของเวกเตอร์ที่เล็กที่สุดที่ผมต้องใช้, เซตที่เล็กที่สุด --
-
ผมจะเขียนนี่ลงไปนะ
-
มันไม่ใช่นิยามทางการ, แต่ผมมอง
-
ฐานว่า -- ขอผมเปลี่ยนสีนะ -- มันก็คือ -- ขอผม
-
เปลี่ยนสีสวยๆ ตรงนี้หน่อย
-
คือว่า ฐานเป็นตัวเล็กสุด -- ผมใส่ไว้ในเครื่องหมายคำพูด
-
เพราะผมไม่ได้นิยามมัน
-
เซตของเวกเตอร์ที่เล็กที่สุด ที่สแปนสเปซที่ฐาน
-
นั้น, สแปนสับสเปซ
-
-
-
แล้วในกรณีนี้, นี่คือเซตของเวกเตอร์ที่เล็กที่สุด
-
และผมจะยังไม่พิสูจน์ตอนนี้, แต่คุณ
-
เห็นได้ว่าล ลองดู
-
เซตของเวกเตอร์นี่ตรงนี้, มันสแปน
-
สับสเปซ, แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่เซตของเวกเตอร์ที่เล็กที่สุด
-
เพราะสแปนของเจ้านี่, ผมยังสามารถ
-
เอาเวกเตอร์สุดท้ายออกได้
-
ผมยังเอาเจ้านี่ออกไปแล้ว -- มันก็ยังสแปน
-
สิ่งที่เหลือก็ยังสแปนสับสเปซ v อยู่
-
ดังนั้นเจ้านี่ตรงนี้เกินมา
-
สำหรับฐานแล้ว, คุณไม่มีส่วนเกิน
-
แต่ละตัวในนี้ล้วนจำเป็นในการสร้าง
-
เวกเตอร์ใดๆ ในสับสเปซ v
-
ขอผมทำตัวอย่างหน่อยนะ
-
-
-
ลองหาเวกเตอร์ตรงนี้มา
-
สมมุติว่าผมต้องหาเซตของเวกเตอร์, และ
-
ผมคิดใน R2
-
สมมุติว่าผมมีเวกเตอร์ 2, 3
-
-
-
สมมุติว่าผมมีเวกเตอร์อีกตัว คือ 7, 0
-
อย่างแรกเลย, ลองคิดถึงสแปน, สแปนของ
-
เซตเวกเตอร์นี้ดู
-
นี่คือเซตของเวกเตอร์
-
แล้วสแปนของ S คืออะไร?
-
ผลรวมเชิงเส้นของเจ้าพวกนี้ทั้งหมดคืออะไร?
-
ทีนี้, ลองดูว่ามันคือ R2 ทั้งหมดหรืเปล่า
-
ถ้ามันคือ R2 ทั้งหมด นั่นหมายความว่าผลรวมเชิงเส้น
-
ของเจ้านี่จะเป็น -- เราสามารถสร้างอะไรก็ตาม
-
ใน R2 ด้วยผลรวมเช้งเส้นของเจ้านี่ได้เสมอ
-
แล้วถ้าเรามี c1 คูณ 2, 3 บวก c2 คูณ 7, 0
-
ถ้ามันที่จริง ที่ว่าเจ้านี่สแปน R2 ทั้งหมด, แล้วเราควร
-
สามารถสร้าง -- เราควรสามารถหา c1 และ c2
-
ที่สร้างจุดใดๆ ใน R2 ได้
-
ลองดูว่าเราจะแสดงมันได้ไหม
-
เราจะได้ 2 c1 บวก 7 c2 เท่ากับ x1
-
แล้วเราจะได้ 3 c1 บวก 0 c2
-
บวก 0 เท่ากับ x2
-
แล้วถ้าเราเอาสมการที่สองนี้มา แล้วหารทั้งสองข้าง
-
ด้วย 3 เราจะได้ c1 เท่ากับ x2 ส่วน 3
-
แล้วถ้าเราแทนมันกลับไปในสมการแรก,
-
เราได้ 2/3 -- ผมก็แค่แทน c1 ในนี้
-
ได้ 2/3 x2
-
2 คูณ x2 ส่วน 3 ได้ 2/3 x2 บวก 7 c2 เท่ากับ x1
-
แล้ว, เราจะทำอะไรได้?
-
เราก็ลบ 2/3 x2 จากทั้งสองข้างได้
-
ขอผมทำตรงนี้นะ
-
เราก็ได้ 7 c2 เท่ากับ x1 ลบ 2/3 x2
-
หารทั้งสองข้างด้วย 7 นี่ แล้วคุณจะได้ c2
-
ขอผมใช้สีเหลืองนะ
-
คุณได้ c2 เท่ากับ x1 ส่วน 7 ลบ 2 ส่วน 21 x2
-
แล้วถ้าคุณให้ค่า x1 กับ x2 ใดๆ มา โดยที่ x1
-
กับ x2 เป็นสมาชิกของจำนวนจริง, เรากำลังพูดถึง --
-
ที่จริงทุกอย่างที่เรากำลังทำอยู่ตรงนี้
-
คือจำนวนจริง
-
คุณให้ค่าจำนวนจริง 2 ตัวใดๆ
-
ผมเอา x2 มาหารด้วย 3 แล้วผมจะให้ค่า c1 คุณได้
-
และผมหาค่า x1 หารด้วย 7 และลบ
-
ด้วย 2/21 คูณ x2
-
ผมก็จะได้ c2
-
นี่ไม่มีทางใช้ไม่ได้
-
มันไม่มีการหารด้วยอะไรเลย
-
คุณไม่ต้องกังวลเรื่องที่เจ้านี่เป็น 0
-
สูตรสองอันนี้จะใช้ได้เสมอ
-
ดังนั้น คุณให้ค่า x1 กับ x2 ใดๆ ให้ผม, ผมก็สามารถหา
-
ค่า c1 หรือ c2 ได้
-
ซึ่งก็คือการหาผลรวมเชิงเส้น ที่
-
เท่ากับเวกเตอร์ของคุณ
-
ดังนั้นสแปนของ S คือ R2
-
-
-
ทีนี้ คำถามที่สองคือว่า, เวกเตอร์สองตัวนี้
-
อิสระเชิงเส้นหรือเปล่า?
-
และความอิสระเชิงเส้น มหายความว่า คำตอบเดียวที่
-
ทำให้สมการ c -- ขอผมเปลี่ยนสีนะ
-
คำตอบเดียวของสมการ c1 คูณเวกเตอร์แรก
-
บวก c2 คูณเวกเตอร์ที่สอง เท่ากับ เวกเตอร์
-
0, คำตอบเดียวของสมการนี้ คือว่า
-
ทั้งคู่นี้เป็น 0
-
ลองดูว่ามันเป็นจริงไหม
-
เราได้แก้มาแล้ว, ถ้า x1 -- ในกรณีนี้, x1
-
เท่ากับ 0 และ x2 เท่ากับ 0
-
นี่ก็คือกรณีพิเศษที่ผม
-
จับมันเท่ากับเวกเตอร์ 0
-
ถ้าผมอยากได้เวกเตอร์ 0, c1 เท่ากับ 0/3
-
ดังนั้น c1 ต้องเท่ากับ 0
-
และ c2 เท่ากับ 0/7 ลบ 2/21 คูณ 0
-
c2 ก็ต้องเท่ากับ 0 ด้วย
-
ดังนั้นคำตอบเดียวของเจ้านี่ คือจับทั้งสองตัว
-
นี้เท่ากับ 0
-
ดังนั้น S จึงเป็นเซตที่อิสระเชิงเส้นด้วย
-
-
-
มันสแปน R2, มันอิสระเชิงเส้น
-
เราจึงบอกได้แน่นอน, ว่า S -- เซต S,
-
เซตของเวกเตอร์ S เป็นฐานของ R2
-
ทีนี้, มันคือฐานชุดเดียวของ R2 หรือเปล่า?
-
ทีนี้ ผมสามารถวาดเวกเตอร์ง่ายๆ, เซตของเวกเตอร์
-
ผมทำอย่างนี้ได้
-
ขอผมเรียกมันว่า T
-
ถ้าผมกำหนด T เป็นเซต 1,0 กับ 0,1, นี่จะสแปน R2 หรือเปล่า?
-
สมมุติว่าผมอยากสร้าง -- ผมอยากได้
-
x1 กับ x2
-
ผมจะสร้างมันจากเวกเตอร์สองตัวนี้อย่างไร?
-
ทีนี้, ถ้าผมสามารถทำ x1 คูณ 1, 0 บวก x2 คูณ 0, 1
-
นั่นจะให้ x1, x2 ผมเสมอ
-
นี่จึงสแปน R2 ชัดเจน
-
-
-
แล้วมันเป็นอิสระเชิงเส้นหรือปล่า?
-
ผมแสดงให้คุณดูไปแล้ว
-
ถ้าคุณอยากให้เจ้านี่เท่ากับเวกเตอร์ 0
-
-
-
ถ้านี่เป็น 0 และนี่เป็น 0, แล้วนี่ต้องเป็น 0 และ
-
นี่ต้องเป็น 0
-
และมันดูชัดเจน
-
ไม่มีทางที่คุณจะได้เวกเตอร์ตัวหนึ่งเป็น
-
จำนวนเท่าของอีกตัวหนึ่ง
-
มันไม่มีทางที่คุณจะได้ 1 ตรงนี้ โดยการคูณเจ้านี่
-
กับเลขอะไรก็ตาม และในทางกลับกันด้วย
-
มันจึงอิสระเชิงเส้น
-
-
-
และสาเหตุทั้งหมดที่ผมแสดงให้คุณดู เพราะว่า
-
ผมอยากให้คุณเห็นว่า, ลองดู, เซต T นี้สแปน R2
-
มันอิสระเชิงเส้นด้วย, ดังนั้น T ก็เป็น
-
ฐานของ R2
-
และผมอยากแสดงนี่ให้คุณดห็นว่า ถ้าผมดู
-
สับสเปซเวกเตอร์ และ R2 เป็นสับสเปซของตัวเอง
-
คุณลองทำดูก็ได้
-
แต่ถ้าผมมีสับสเปซ, มันไม่จำเป็นต้องมีฐานชุดเดียว
-
มันอาจมีฐานหลายชุดก็ได้
-
ที่จริงแล้ว, มันมีฐานเป็นอนันต์
-
ดังนั้นในกรณีนี้, S เป็นฐานได้, และ T ก็คือ
-
ฐานสำหรับ R2 ได้เหมือนกัน
-
ที่จริงแล้ว, เพื่อให้คุณรู้ว่า T คืออะไร, กรณีตรงนี้,
-
นีเรียกว่า ฐานมาตรฐาน (standard basis)
-
นี่คือฐานมาตรฐาน
-
และนี่คือสิ่งที่คุณคุ้นเคย
-
ในวิชาแคลคูลัสหรือฟิสิกส์
-
และถ้าคุณจำได้จากวิชาฟิสิกส์, นี่
-
คือเวกเตอร์หน่วย i แล้วนี่คือเวกเตอร์หน่วย j
-
และนี่คือฐานมาตรฐานสำหรับพิกัดคาร์ทีเชียน
-
สองมิติ
-
สิ่งที่มีประโยชน์เกี่ยวกับฐานคือว่า คุณสามารถ -- และมัน
-
ไม่ได้เป็นจริงสำหรับฐานมาตรฐานเท่านั้น, คุณสามารถ
-
แทนเวกเตอร์ใดๆ ในสับสเปซของคุณได้
-
คุณสามารถแทนเวกเตอร์ใดๆ ในสับสเปซของคุณ
-
ด้วยผลรวมเชิงเส้นหนึ่งเดียวของเวกเตอร์ในฐานของคุณ
-
ขอผมแสดงให้ดู
-
สมมุติว่าผมมีเซต v1, v2, ไปจนถึง vn, ลอง
-
สมมุติว่านี่คือฐานของ -- ไม่รู้สิ -- สับสเปซ
-
U
-
นี่ก็คือสับสเปซ
-
-
-
นั่นหมายความว่า เจ้าพวกนี้เป็นอิสระเชิงเส้น
-
และยังหมายความว่า สแปนของเจ้าพวกนี้, หรือ
-
ผลรวมเชิงเส้นของเวกเตอร์เหล่านี้, จะให้เวกเตอร์
-
ทุกตัว, องค์ประกอบทุกตัวที่เป็นไปได้, สมาชิก
-
ต่างๆ ของ U ทุกตัว
-
ทีนี้ สิ่งที่ผมอยากทำให้คุณดู คือว่า สมาชิกแต่ละตัวของ U สามารถ
-
ระบุได้เป็นหนึ่งเดียว โดยเซตเฉพาะเซตเดียว -- เป็นผลรวม
-
ของเจ้าพวกนี้เป็นหนึ่งเดียว
-
ขอผมบอกให้ชัดหน่อย
-
สมมุติว่าเวกเตอร์ a เป็นสมาชิกของสับสเปซ u
-
นั่นหมายความว่า a สามารถแทนได้ด้วย
-
ผลรวมเชิงเส้นของเจ้าพวกนี้
-
เจ้าพวกนี้สแปน U
-
นั่นหมายความว่าเราสามารถแทนเวกเตอร์ a เป็น
-
c1 คูร v1 บวก c2 คูณ v2
-
พวกนี้คือเวกเตอร์
-
ไปจนถึง cn คูณ vn
-
ตอนนี้ผมอยากแสดงให้คุณเห็นว่า นี่เป็นผลรวมอย่างเดียวที่เป็นไปได้
-
และผมจะพิสูจน์ด้วยการขัดแย้ง
-
สมมุติว่ามันมีผลรวมอีกชุดหนึ่ง
-
สมมุติว่าผมสามารถแสดงมันได้ด้วย
-
ผลรวมอีกชุด, d1 คูณ v1 บวก d2 คูณ v2 บวกไปจนถึง
-
dn คูณ vn
-
แล้ว เกิดอะไรขึ้นถ้าผมเอา a ลบจาก a?
-
ผมจะได้เวกเตอร์ 0
-
ขอผมลบสองตัวนี้จากกันนะ
-
ถ้าผมลบ a จาก a, a ลบ a
-
เป็น 0 ชัดเจน
-
มันเป็นเวกเตอร์ 0 ชัดเจน และถ้าผมลบด้านนี่
-
จากด้านนั้น, เราจะได้อะไร?
-
ผมจะใช้อีกีนะ
-
เราจะได้ c1 ลบ d1 คูณ v1, บวก c2 ลบ d2 คูณ v2,
-
ไปจนถึง -- ผมถึงจุดที่กระดานผมเริ่ม
-
ใช้ไม่ได้แล้ว
-
ไปจนถึง c -- คุณไม่เห็นแล้ว cn ลบ vn
-
มันจะปรากฏขึ้นสักที่
-
-
-
cn ลบ -- ไม่, มันเริ่มพังแล้ว
-
ขอผมเขียนมันใหม่ทางซ้ายตรงนี้ มัน
-
จะไม่ได้พัง
-
เวกเตอร์ 0, ผมจะเขียนมันแบบนั้น
-
เท่ากับ c1 ลบ d1 คูณ v1 บวกไปจนถึง cn
-
ลบ dn คูณ vn
-
ผมแค่ลบเวกเตอร์นี้กับตัวเอง
-
ทีนี้, ผมบอกคุณว่าพวกนี้เป็นฐาน
-
มันมีเงื่อนไขสองอย่าง -- เวลาคุณบอกว่าฐาน, มันแปลว่า
-
สแปนของพวกนี้สร้างสับสเปซขึ้นมา
-
หรือสแปนของเจ้าพวกนี้คือสับสเปซ
-
และมันยังบอกคุณว่า เจ้าพวกนี้เป็นอิสระ
-
เชิงเส้นด้วย
-
ถ้าพวกมันเป็นอิสระเชิงเส้น, คำตอบเดียว
-
ของสมการนี้ -- นี่ก็แค่ค่างที่คูณ v1 บวก
-
ค่าคงที่อีกตัวคูณ v2, ไปจนถึง
-
ค่าคงที่หนึ่งคูณ vn
-
คำตอบเดียวของสมการนี้คือว่า ค่าคงที่
-
แต่ละตัวนี้เท่ากับ 0
-
แล้วค่าคงที่ทั้งหมดนี้ต้องเท่ากับ 0
-
ตรงนี้ ก่อนที่มันจะเละ, นี่ต้องเป็น 0, นี่
-
ต้องเท่ากับ 0
-
นั่นคิอนิยามของความอิสระเชิงเส้น
-
และเรารู้ว่านี่คือเซตที่อิสระเชิงเส้น
-
แล้วถ้าค่าคงที่พวกนี้ทั้งหมดเท่ากับ 0, แล้วเรารู้
-
ว่า c1 -- ถ้านี่เท่ากับ 0, แล้ว c1 เท่ากับ d1, c2
-
เท่ากับ d2, ไปจนถึง cn เท่ากับ dn
-
จากความจริงทีว่ามันเป็นอิสระเชิงเส้น,
-
เจ้าพวกนี้ทั้งหมด -- ค่าคงที่แต่ละตัว
-
ต้องเท่ากัน
-
และนั่นคือความขัดแย้ง
-
ผมสมมุติว่ามันต่างกัน, แต่ความอิสระเชิงเส้น
-
บังคับมันให้เท่ากัน
-
ดังนัน้ถ้าคุณมีฐานของสับสเปซ, สมาชิก
-
ใดๆ ของสับสเปซนั้น สามารถแทนได้ด้วย
-
ผลรวมเชิงเส้นของเวกเตอร์เหล่านี้เพียงชุดเดียว
-
และเพื่อให้เข้าใจถึงที่สุด, ผมบอกคุณว่านี่
-
คือฐานของ R2
-
คำถามต่อไปคือว่า, ผมอยาก
-
ถอยมาหน่อย
-
ถ้าผมเพิ่มเวกเตอร์อีกตัวตรงนี้, ถ้าผมเพิ่ม
-
1, 0 แล้ว S ตอนนี้เป็นฐานของ R2 หรือเปล่า?
-
ไม่ใช่, มันจะยังสแปน R2 ต่อไป, แต่
-
เจ้านี่เกินมา
-
เจ้านี่อยู่ใน R2
-
และผมบอกไปแล้วว่า สองตัวนี้สแปน R2 ได้อยู่แล้ว
-
อะไรก็ตามใน R2 สามารถเขียนเป็นผลรวม
-
เชิงเส้นของเจ้าสองตัวนี้ได้
-
เจ้านี่แน่นอนอยู่ใน R2, มันจึงสามารถแทนได้
-
ผลรวมเชิงเส้นของสองตัวนี้
-
ดังนั้น, นี่จึงไม่ใช่เซตอิสระเชิงเส้น
-
นี่จึงไม่อิสระเชิงเส้น
-
-
-
และเนื่องจากมันไม่อิสระ, ผมจึงมี
-
ข้อมูลซ้ำ
-
แล้วนี่จะไม่เป็นฐานอีกต่อไป
-
ในการทำให้เจ้านี่เป็นฐาน ผมต้องสร้าง
-
ชุดเวกเตอร์ที่เล็กที่สุด ที่สแปน, หรือเซต
-
ที่มีประสิทธิภาพที่สุด, ที่สแปน, ในกรณีนี้คือ, R2 ได้
-
-