เราจะพบงานที่เรารักได้อย่างไร
-
0:00 - 0:03ว้าว เป็นเกียรติเหลือเกินครับ
ผมคิดอยู่เรื่อยว่า มันจะรู้สึกอย่างไร -
0:03 - 0:08แปดปีก่อน ผมได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำงาน
ที่แย่ที่สุดในชีวิต -
0:08 - 0:10เพื่อนของผมบอกว่า
-
0:10 - 0:12"อย่าห่วงไปเลย ว่าคุณมีความสุขกับงาน
ที่ทำอยู่ตอนนี้แค่ไหน -
0:13 - 0:15มันก็แค่
การสร้างประวัติการทำงานของคุณเท่านั้นแหละ" -
0:15 - 0:17ผมเพิ่งจะกลับจากการไปอยู่ที่สเปนสักพัก
-
0:17 - 0:21และผมก็เพิ่งจะเข้าทำงานที่บริษัทในฟอร์จูน 500
ผมคิดว่า "นี่มันเจ๋งไปเลย -
0:21 - 0:23ผมกำลังจะสร้างความแตกต่างอย่างมาก
ให้กับโลกใบนี้" -
0:23 - 0:25ผมมีความคิดทั้งหมดนี้
ภายในประมาณสองเดือน -
0:25 - 0:28ผมสังเกตว่าทุกเช้าเวลา 10 โมง
ผมมีความต้องการอันแปลกประหลาด -
0:28 - 0:32ที่ต้องการฟาดหัวตัวเอง
ให้ทะลุจอคอมพิวเตอร์ -
0:32 - 0:34ผมไม่รู้ว่า มีใครเคยรู้สึกแบบนี้ไหม
-
0:34 - 0:37และผมสังเกตุได้ค่อนข้างเร็วหลังจากนั้น
ว่าคู่แข่งทั้งหมดในที่ของเรา -
0:37 - 0:40ได้แทนที่บทบาทหน้าที่งานของผมไปแล้ว
-
0:40 - 0:45และมันก็ถูกต้องเลยเมื่อผมได้รับคำแนะนำที่ดีนี้
เพื่อเพิ่มมันเอาไว้ในประวัติการทำงานของผม -
0:45 - 0:47ครับ ขณะที่ผมกำลังพยายามหาทาง
-
0:47 - 0:53ว่าหน้าต่างชั้นสองบานไหน
ที่ผมควรโดดลงมา และเปลี่ยนแปลงเรื่องทั้งหมด -
0:53 - 0:57ผมอ่านคำแนะนำที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
จากวอเรน บัฟเฟต และเขาบอกว่า -
0:57 - 1:03"รับทำงานเพื่อสร้างประวัติการทำงานของคุณ
ก็เหมือนกับเก็บเรื่องบนเตียงไว้ทำยามแก่" -
1:03 - 1:04(เสียงหัวเราะ)
-
1:04 - 1:07และผมได้ยินสิ่งนั้น
และนั่นก็เป็นทุกอย่างที่ผมต้องการ -
1:07 - 1:10ภายในสองสัปดาห์ ผมออกจากที่นั่น
และเหลืออยู่แต่เพียงหนึ่งความตั้งใจ -
1:10 - 1:13ที่จะหาอะไรบางอย่างที่ผมจะทำมันพัง
มันยากอย่างนั้นแหละ -
1:13 - 1:16ผมอยากจะทำอะไรบางอย่างที่สำคัญ
ไม่สำคัญหรอกว่ามันเป็นอะไร -
1:16 - 1:19และในไม่ช้า ผมก็พบว่าผมไม่ใช่คนเดียว
-
1:19 - 1:22มันกลายเป็นว่า คนรอบๆ ตัว
กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ -
1:22 - 1:23ไม่ได้ชอบงานของพวกเขา
-
1:23 - 1:25ผมคิดว่าคนในห้องนี้จะต่างออกไป
-
1:25 - 1:28แต่นั่นเป็นค่าเฉลี่ย
ที่ ดีลอยท์ ได้ทำการศึกษา -
1:28 - 1:31ฉะนั้น ผมต้องการที่จะรู้ว่า
อะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ต่างกันระหว่าง -
1:31 - 1:33คนที่ทำงานที่สามารถเปลี่ยนโลกได้
ที่น่าหลงใหล -
1:33 - 1:35ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมแรงบันดาลใจทุกวัน
-
1:35 - 1:36และคนอีก 80 เปอร์เซ็นต์
-
1:36 - 1:38ผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวังแบบเงียบๆ
-
1:39 - 1:42ฉะนั้น ผมเริ่มที่จะสัมภาษณ์ผู้คน
ที่ทำงานที่มีแรงบันดาลใจนี้ -
1:42 - 1:45และผมอ่านหนังสือ และทำกรณีศึกษา
-
1:45 - 1:47รวมกันทั้งหมด 300 เล่ม
ที่เกี่ยวกับจุดประสงค์ และการงาน และอะไรพวกนั้น -
1:47 - 1:52ทั้งหมดแค่สนองความต้องการของตัวเอง
เป็นเหตุผลที่เห็นแก่ตัวสำหรับ -- -
1:52 - 1:55ผมต้องการที่จะหางาน ที่ผมไม่อาจจะไม่ทำได้
-
1:55 - 1:56อะไรคือสิ่งนั้นสำหรับผม
-
1:56 - 1:59แต่เมื่อผมทำอย่างนี้
คนก็เริ่มถามผมมากขึ้นและมากขึ้น -
1:59 - 2:00"คุณจริงจังกับเรื่องงานการ
-
2:00 - 2:03ผมไม่ชอบงานของผม
เราไปกินข้าวด้วยกันไหม" -
2:03 - 2:05ผมบอกว่า "แน่นอน"
แต่ผมต้องเตือนพวกเขาไว้ก่อนว่า -
2:05 - 2:07เพราะว่า ณ ตอนนี้
อัตราการลาออกที่ผมเจออยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ -
2:07 - 2:10ของคนที่มานั่งกินข้าวเที่ยงกับผม
80 เปอร์เซ็นต์จะลาออก -
2:10 - 2:12ภายในสองเดือน
-
2:12 - 2:16ผมภูมิใจนะ
และมันก็ไม่ได้เป็นเพราะผมมีพลังวิเศษอะไร -
2:16 - 2:18ผมก็แค่ถามคำถามง่ายๆ คำถามหนึ่ง
-
2:18 - 2:21ซึ่งก็คือ "ทำไมคุณถึงทำงานที่คุณทำอยู่ตอนนี้"
-
2:21 - 2:23และบ่อยครั้ง คำตอบของพวกเขาก็จะเป็น
-
2:23 - 2:25"ก็เพราะว่า ใครบางคนบอกว่าผมควรทำ"
-
2:25 - 2:27และผมก็ตระหนักว่า ผู้คนรอบๆ ตัวเรา
-
2:27 - 2:31กำลังไต่บันไดขึ้นไป
เพราะใครบางคนบอกให้พวกเขาทำ -
2:31 - 2:33และสุดท้ายก็ไปเจอกับกำแพงที่ผิดอัน
-
2:33 - 2:35หรือไม่มีกำแพงอะไรเลย
-
2:35 - 2:38ยิ่งผมใช้เวลากับผู้คนเหล่านี้และมองเห็นปัญหานี้
มากเท่าไร -
2:38 - 2:40ผมยิ่งคิดว่า ถ้าหากเราสามารถสร้างสังคม
-
2:40 - 2:42ที่เป็นที่ซึ่งผู้คุณรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง
-
2:42 - 2:45และมันก็ โอเค ที่จะทำอะไรที่แตกต่างได้
-
2:45 - 2:47เพื่อจะเดินไปในหนทางที่คนมักไม่ค่อยเลือก
ซึ่งนั่นก็จะได้รับการสนับสนุน -
2:47 - 2:50และให้แรงบันดาลใจกับคนในการเปลี่ยนแปลง
-
2:50 - 2:53และภายหลัง นั่นกลายเป็นสิ่งที่ผมเรียกว่า
ลีฟ ยัว เลเจนด์ (Live Your Legend) -
2:53 - 2:54ซึ่งผมจะอธิบายให้ฟังอีกที
-
2:54 - 2:58แต่เมื่อผมได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้
ผมสังเกตุกรอบแนวทาง -
2:58 - 2:59ของสิ่งง่ายๆ สามประการ
-
2:59 - 3:03ที่ความหลงใหลที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลก
ทั้งหมดนี้ มีอย่างร่วมกัน -
3:03 - 3:05ไมว่าคุณจะเป็น สตีฟ จ๊อป
หรือถ้าว่าคุณจะเป็นแค่ -
3:05 - 3:07มนุษย์สักคนที่มีร้านขนมปังที่อยู่ถัดไปหน่อย
-
3:07 - 3:09แต่คุณกำลังทำงาน
ที่เป็นรูปลักษณ์ตัวตนของคุณ -
3:09 - 3:12ผมอยากที่จะแบ่งปันสามสิ่งนี้กับคุณ
เพื่อคุณจะได้สามารถใช้มันเป็นเลนส์ -
3:12 - 3:15สำหรับวันนี้ทั้งวัน
และหวังว่าจะใช้ได้กับทั้งชีวิตด้วย -
3:15 - 3:18ส่วนแรกของกรอบแนวทาง
ความหลงใหลสามขั้นตอนนี้ -
3:18 - 3:21คือการเป็นผู้รู้จักตัวเอง
และเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ -
3:21 - 3:23เพราะว่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังมองหาอะไรแล้ว
-
3:23 - 3:25คุณก็คงจะหามันไม่เจอ
-
3:25 - 3:28และที่สำคัญ ไม่มีใครที่จะทำสิ่งนี้ให้เรา
-
3:28 - 3:31ไม่มีสาขาวิชาใดในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
กับความหลงใหล และจุดรปะสงค์ และการงาน -
3:31 - 3:34ผมไม่รู้ว่าทำไมมันไม่เป็นวิชาเอกควบบังคับ
-
3:34 - 3:36แต่อย่าให้ผมเริ่มบ่นเลยครับ
-
3:36 - 3:39ผมหมายความว่า คุณใช้เวลาไปมาก
ในการเลือกทีวีในห้องพัก -
3:39 - 3:42ยิ่งกว่าคุณใช้เวลาเลือกวิชาเอก
และสาขาวิชาที่จะศึกษาเสียอีก -
3:42 - 3:44แต่ประเด็นก็คือ
มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะเข้าใจ -
3:44 - 3:47และเราต้องการกรอบแนวทาง
เราต้องการวิธีนำร่องผ่านสิ่งนี้ -
3:47 - 3:51และขั้นแรกของเข็มทิศของเราคือหาว่า
อะไรคือความแข็งแกร่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา -
3:51 - 3:54อะไรที่เป็นสิ่งที่เราตื่นขึ้นมาแล้วรักที่จะทำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม -
3:54 - 3:58ไม่ว่าเราจะได้เงินหรือไม่
และเป็นสิ่งที่คนจะขอบคุณที่เราทำ -
3:58 - 4:01สเตรงท์ ไฟเดอร์ 2.0 (Strengths Finder 2.0)
เป็นหนังสือ และคู่มือออนไลน์ -
4:01 - 4:05ผมขอแนะนำมัน เพื่อค้นหาว่า
คุณเก่งในเรื่องใด -
4:05 - 4:09และต่อไป อะไรคือกรอบแนวทาง
หรือลำดับในการตัดสินใจ -
4:09 - 4:13เราสนใจหรือเปล่าในเรื่องผู้คน
ครอบครัวของเรา สุขภาพ -
4:13 - 4:15หรือว่ามันเป็นความสำเร็จ อะไรแบบนั้นหรือเปล่า
-
4:15 - 4:18คุณจะต้องหาให้พบว่ามันคืออะไร
เพื่อที่จะได้ตัดสินใจ -
4:18 - 4:20เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า จิตวิญญาณของเราทำได้วยอะไร
-
4:20 - 4:25เพื่อที่เราจะได้ไม่ขายมัน
ให้กับอะไรก็ตามที่เราไม่ได้แยแสใส่ใจ -
4:25 - 4:28และจากนั้น ขั้นต่อไปคือ ประสบการณ์ของเรา
-
4:28 - 4:32พวกเราทุกคนมีประสบการณ์เหล่านี้
เราเรียนรู้ทุกๆ วัน ทุกๆ นาที -
4:32 - 4:34ว่าเรารักอะไร เกลียดอะไร
-
4:34 - 4:36เก่งในเรื่องใด และไม่เก่งในเรื่องใด
-
4:36 - 4:38และถ้าเราไม่ใช้เวลาใส่ใจกับสิ่งเหล่านั้น
-
4:38 - 4:40และทำให้คล้ายกลับว่าเป็นการเรียนรู้
-
4:40 - 4:43และใช้มันกับทั้งชีวิตของเรา
มันก็ไร้ความหมาย -
4:43 - 4:45ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือนของปี
-
4:45 - 4:48ผมใช้บางเวลาแค่เพื่อจะครุ่นคิด
ว่าสิ่งที่เป็นไปได้ดี -
4:48 - 4:50สิ่งใดที่ผิดพลาด
และอะไรที่ผมอยากจะทำซ้ำ -
4:50 - 4:51อะไรที่ผมจะใช้ได้มากกว่านี้ในชีวิต
-
4:51 - 4:55และแม้จะเป็นอย่างนั้น อย่างที่คุณเห็น
โดยเฉพาะวันนี้ -
4:55 - 4:57ผู้ที่ให้แรงบันดาลใจกับคุณ
ผู้ที่ทำสิ่งที่คุณบอกว่า -
4:57 - 5:00"โอ้พระเจ้า สิ่งที่เจฟทำนั่น
ผมอยากจะเป็นแบบเขา" -
5:00 - 5:02ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น
เปิดสมุดบันทึก -
5:02 - 5:04เขียนลงไป ว่าอะไรกันที่ให้แรงบันดาลใจกับคุณ
-
5:04 - 5:06มันไม่ได้เป็นทุกอย่างในชีวิตคุณหรอก
-
5:06 - 5:08แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม จดมันลงไป
-
5:08 - 5:10แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เราจะมีคลัง
-
5:10 - 5:14ของสิ่งที่เราสามารถปรับใช้กับชีวิตของเรา
และมีอยู่อย่างมีความปรารถนามากกว่า -
5:14 - 5:16และทำสิ่งความแตกต่างได้ดีกว่า
-
5:16 - 5:18เพราะเมื่อเราเริ่มนำสิ่งเหล่านี้มารวมกัน
-
5:18 - 5:21เราจะสามารถกำหนดได้ว่า
ความสำเร็จใดมีความหมายกับเรา -
5:22 - 5:25และเมื่อปราศจากส่วนต่างๆ ของเข็มทิศนี้
มันก็เป็นไปไม่ได้ -
5:25 - 5:27เราก็จะอยู่ในสถานการณ์ --
เรามีชีวิตที่ถูกกำหนดบทบาท -
5:27 - 5:30ที่ทุกๆ คน เหมือนจะมีชีวิตอยู่
เพื่อไต่บันไดขึ้นไปยังที่ใดก็ไม่รู้ -
5:30 - 5:33มันเหมือนกับใน วอล สตรีท 2
ถ้าใครเคยชมนะครับ -
5:33 - 5:37ลูกจ้างถามเจ้าของกิจการ
ธนาคาร วอล สตรีท ขนาดใหญ่ ว่า -
5:37 - 5:39"คุณได้เงินเท่าไร ทุกคนมีเงินจริงไหม
-
5:39 - 5:42ถ้าพวกเขาทำเงินได้มากขนาดนี้
พวกเขาจะไปกันหมด" -
5:42 - 5:44เขาบอกว่า "โอ้ ง่ายจะตาย มากกว่านี้อีก"
-
5:45 - 5:46แล้วก็ยิ้ม
-
5:46 - 5:48และมันก็เป็นสถานะการณ์ที่น่าเศร้า
ที่คนส่วนใหญ่ -
5:48 - 5:51ที่ไม่ได้ใช้เวลาทำความเข้าใจ
กับสิ่งที่สำคัญต่อพวกเขา -
5:51 - 5:54ผู้ที่พยายามเอื้อมให้ถึงอะไรบางอย่าง
ไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่ง -
5:54 - 5:56แต่เรากำลังทำเพราะว่า ทุกคนบอกว่าเราควรทำ
-
5:56 - 5:58แต่เมื่อเรานำกรอบแนวทางนี้เข้ามารวมกัน
-
5:58 - 6:00เราสามารถเริ่มบ่งชี้ได้ว่า
สิ่งใดที่ทำให้เรามีชีวิตชีวา -
6:00 - 6:04คุณรู้ไหม ก่อนหน้านี้ แรงบันดาลใจ
อาจวิ่งเข้าใส่และชนหน้าคุณ -
6:04 - 6:06หรือบางทีในการงานของคุณ
คุณอาจโยนมันทิ้งไป -
6:06 - 6:09เพราะว่าคุณไม่มีวิธีการที่จะบ่งชี้มัน
-
6:09 - 6:12แต่เมื่อคุณมี คุณสามารถเห็นสิ่งที่สอดคล้อง
กับจุดแข็งของผม -
6:12 - 6:14กับคุณค่าขอผม ในฐานะคนคนหนึ่ง
-
6:14 - 6:17ฉะนั้น ผมกำลังที่จะจับมันไว้
ผมกำลังจะทำอะไรบางอย่ากับมัน -
6:17 - 6:20และผมกำลังที่จะไขว่คว้ามัน
และพยายามที่จะสร้างความแตกต่างด้วยมัน -
6:20 - 6:23ลีฟ ยัว เลเจนด์ และกระแสที่พวกเราสร้าง
-
6:23 - 6:25คงไม่เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีเข็มทิศนี้ในการบ่งชี้
-
6:25 - 6:29"ว้าว นี่มันเป็นอะไรบางอย่าง
ที่ผมต้องการที่จะไขว่คว้าและสร้างความแตกต่าง" -
6:29 - 6:32ถ้าผมไม่รู้ว่าผมกำลังมองหาอะไร
ผมคงไม่ได้พบมัน -
6:32 - 6:34แต่เมื่อผมมีกรอบแนวทาง มีเข็มทิศนี้
-
6:34 - 6:39แล้วผมก็เดินหน้าเพื่อสิ่งต่อไป --
และข้างบนนั้นก็ไม่ใช่ผม -- -
6:39 - 6:41ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และก้าวข้ามข้อจำกัด
-
6:41 - 6:43มีสองเหตุผลว่าทำไมคนถึงไม่ทำแบบนั้น
-
6:43 - 6:45อย่างแรกเลย คือพวกเขาบอกตัวเองว่า
พวกเขาทำไม่ได้ -
6:45 - 6:47หรือคนรอบๆ ตัวพวกเขาบอกพวกเขาว่า
พวกเขาทำไม่ได้ -
6:47 - 6:49ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม พวกเราเริ่มที่จะเชื่อมัน
-
6:49 - 6:51ไม่ว่าเราจะล้มเลิก
หรือไม่คิดจะเริ่มทำ -
6:51 - 6:54ประเด็นก็คือ ทุกคนก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น
จนกระทั่งมีคนทำมัน -
6:54 - 6:57ทุกนวัฒกรรม
ทุกสิ่งใหม่ในโลกใบนี้ -
6:57 - 6:58ที่ตอนแรกคนคิดว่ามันบ้า
-
6:58 - 7:02โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ กับการวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที
มันเป็นไปไม่ได้ทางกายภาพ -
7:02 - 7:04ในการทำลานสถิติวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที
-
7:04 - 7:06จนกระทั่ง โรเจอร์ แบนนิสเตอร์
ลุกขึ้นและทำมัน -
7:06 - 7:08แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
-
7:08 - 7:10สองเดือนต่อมา
คน 16 คนทำลายสถิติการวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที -
7:10 - 7:13สิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
-
7:13 - 7:15มักจะเป็นแค่เพียงหลักชัย
ที่รออยู่ให้เราไปถึง -
7:15 - 7:17ถ้าเราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดสักนิดเหล่านั้น
-
7:17 - 7:20และผมคิดว่า มันเริ่มต้น
ด้วยร่างกายและความเกร่ง -
7:20 - 7:23ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
เพราะว่าเราสามารถควบคุมมันได้ -
7:23 - 7:24ถ้าคุณไม่คิดว่าคุณสามารถวิ่งได้หนึ่งไมล์
-
7:24 - 7:26คุณแสดงให้ตัวเองเห็นว่า
คุณสามารถวิ่งได้ไมล์หรือสองไมล์ -
7:26 - 7:29หรือมาราธอน หรือลดน้ำหนักห้าปอด์น
หรืออะไรก็ตามแต่ -
7:29 - 7:32คุณตระหนักได้ถึงองค์ประกอบความมั่นใจ
-
7:32 - 7:34และสามารถถ่ายทอดมันไปทั่วตัวคุณ
-
7:34 - 7:38และผมกับเพื่อนก็เริ่มติดนิสัยแบบนี้นิดหน่อย
-
7:38 - 7:40เรามีกลุ่มเล็กๆ เราไปผจญภัยกัน
-
7:41 - 7:44และไม่นานมานี้ ผมพบตัวเอง
ในแบบที่ไม่มั่นคง -
7:44 - 7:47ผมกลัวความลึก ความมืด น้ำสีคราม
-
7:47 - 7:49ผมไม่รู้หรอกว่าใครเคยกลัวแบบนี้บ้าง
-
7:49 - 7:51ตั้งแต่พวกเขาดูหนังเรื่อง จอว์ส 1, 2, 3
และ 4 ไปประมาณหอรอบ -
7:51 - 7:52เมื่อผมเป็นเด็ก
-
7:53 - 7:57แต่ถ้าจะมีอะไรเกี่ยวกับมัน ถ้ามันมืดๆ มัวๆ
ผมก็รู้สึกถึงมันได้เลย -
7:57 - 7:59ผมเชื่อว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น
-
7:59 - 8:02แม้ว่ามันจะเป็นทะเลสาป ทาโฮล (Lake Tahoe)
มันเป็นน้ำจืด ไม่มีสิ่งใดที่น่ากลัว -
8:02 - 8:04น่าขัน แต่มันอยู่ตรงนั้นครับ
-
8:04 - 8:06อย่างไรก็ดี สามปีก่อน ผมอยู่บนเรือโยง
-
8:06 - 8:08ทางใต้ลงไป ที่ อ่าวซานฟรานซิสโก
-
8:08 - 8:12มันเป็นวันฝนตก มีพายุ ลมแรง
และคนบนเรือก็เมาเรือ -
8:12 - 8:15และผมก็นั่งอยู่ตรงนั้น ใส่ชูชีพ
และมองออกไปนอกหน้าต่าง -
8:15 - 8:18ด้วยความกลัวว่า
ผมจะว่ายน้ำไปสู่ความตาย -
8:18 - 8:20ผมกำลังพยายามจะพยายามว่ายน้ำ
ข้ามสะพานโกเดนเกต -
8:20 - 8:24และผมเดาว่า บางคนในห้องนี้
อาจเคยทำมาก่อน -
8:24 - 8:27ผมนั่งอยู่ตรงนั้น และโจนาธานเพื่อนของผม
ที่ชวนผมมา -
8:27 - 8:30เขาเข้ามาหาผม และเขาก็เห็นว่าผมเป็นอย่างไร
-
8:30 - 8:32และเขาบอกว่า "เฮ้ย สก๊อต
มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ -
8:32 - 8:35แกใส่ชูชีพ แกไม่จมหรอก
-
8:35 - 8:37และถ้าแกไม่รอด ก็โดดขึ้นเรือพายหนึ่งใน 20 ลำ
-
8:37 - 8:40นอกจากนี้นะ ถ้าฉลามมาบุก
ทำไมมันต้องเลือกแกด้วย -
8:40 - 8:43จากคนกว่า 80 คนในน้ำด้วยล่ะ"
ขอบคุณมาก ช่วยได้มากเลย -
8:43 - 8:46เขาบอกว่า "แต่เอาจริงนะ
ขอให้สนุกนะ โชคดี" -
8:46 - 8:48และเขาก็โดดลงน้ำ ว่ายน้ำไป โอเค
-
8:48 - 8:53กลายเป็นว่าการพูดปลุกใจนั้นได้ผล
และผมรู้สึกสงบนิ่ง -
8:53 - 8:56และผมคิดว่ามันเป็นเพราะ
โจนาธานอายุ 13 ขวบ -
8:56 - 8:58(เสียงหัวเราะ)
-
8:58 - 9:00และคน 80 คนที่ว่ายน้ำในวันนั้น
-
9:00 - 9:0365 คน มีอายุระหว่างเก้าถึง 13 ขวบ
-
9:03 - 9:06ลองคิดสิว่าคุณจะเผชิญกับโลกต่างไปอย่างไร
-
9:06 - 9:09ถ้าคุณอายุเก้าขวบและพบว่า
คุณสามารถว่ายน้ำได้ไมล์ครึ่ง -
9:09 - 9:12ในน้ำอุณหภูมิ 56 องศาฟาเรนไฮด์
จากอัลคาทราซ ถึงซานฟรานซิสโก -
9:12 - 9:13คุณจะตอบตกลงกับอะไร
-
9:13 - 9:16คุณจะยอมแพ้ต่ออะไร
คุณจะลองทำอะไร -
9:16 - 9:18ตอนที่ผมจะว่ายน้ำเสร็จ
ผมไปยัง อะควาติก พาร์ค -
9:18 - 9:20ผมขึ้นจากน้ำ
-
9:20 - 9:22และแน่นอน เด็กครึ่งหนึ่งก็ว่ายน้ำเสร็จแล้ว
-
9:22 - 9:24พวกเขาก็เลยเชียร์ผม และตื่นเต้นกันทุกคน
-
9:24 - 9:27และผมก็สมองชาไปเลย
ว่ามีใครเคยว่าน้ำในอ่าวนั่นด้วยหรือ -
9:27 - 9:31และผมก็พยายามที่จะมุ่งหน้าออกไป
และผมก็เห็นคนไปถึงเส้นชัย -
9:31 - 9:34และผมเห็นเด็กคนหนึ่ง
มีบางอย่างไม่ปกติ -
9:34 - 9:36และเขาก็ทรุดลงไปแบบนี้
-
9:36 - 9:39เขาแทบจะหายใจไม่ได้
ก่อนที่เขาจะมุดหัวลงไป -
9:39 - 9:42ผมสังเกตุเห็นผู้ใหญ่คนอื่นดูอยู่เช่นกัน
-
9:42 - 9:44และผมสาบานได้เลยว่า
พวกเขาคิดอย่างเดียวกับผม -
9:44 - 9:48นี่แหละ เหตุผลที่คุณไม่ยอมให้เด็กเก้าขวบ
ว่ายน้ำจากอัลคาทราซ -
9:48 - 9:49มันไม่ใช่ความเมื่อยล้า
-
9:49 - 9:52มันเกิดขึ้นเร็วมาก ผู้ใหญ่สองคน
วิ่งไปและคว้าเขา -
9:52 - 9:55และเอาเขาขึ้นบนไหล่ และลากเขาแบบนี้
-
9:55 - 9:57เขากระโผลกกระเผลกไปหมด
-
9:57 - 10:00และจากนั้น พวกเขาเดินไปอีกสองสามฟุต
-
10:00 - 10:02และวางเขาลงบนรถเข็น
-
10:02 - 10:05และเขาก็ชูกำปั้นขึ้น
เป็นชัยชนะที่บ้าบอที่สุดที่ผมเคยเห็น -
10:05 - 10:08ผมยังคงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
และพลังงานจากผู้ชายคนนี้ -
10:08 - 10:09เมื่อเขาประสบกับความสำเร็จ
-
10:09 - 10:12วันนั้น ผมได้เห็นเขาก่อนในสภาพที่นั่งรถเข็น
-
10:12 - 10:14ผมไม่รู้เลยว่า เขากำลังจะว่ายน้ำ
-
10:14 - 10:18ผมหมายถึง เขาจะเป็นอย่างไร
ในอีก 20 ปีข้างหน้า -
10:18 - 10:21จะมีคนสักกี่คนบอกเขาว่า เขาทำไม่ได้
ว่าเขาอาจจตาย ถ้าพยายามจะทำ -
10:21 - 10:23คุณพิสูจน์ว่าคนคิดผิด
คุณพิสูจน์ว่าคุณคิดผิด -
10:23 - 10:25ที่สามารถเป็นแรงผลัดดันเพิ่มเติมเล็กๆ
-
10:25 - 10:27ให้กับสิ่งที่คุณเชื่อว่ามันเป็นไปได้
-
10:27 - 10:29คุณไม่ต้องเป็นนักวิ่งมาราธอน
ที่เร็วที่สุดในโลก -
10:29 - 10:31แค่คุณเป็นเจ้าของความเป็นไปไม่ได้
เพื่อที่จะทำมันให้สำเร็จ -
10:31 - 10:33และมันเริ่มต้นจากขั้นเล็กๆ
-
10:33 - 10:36และวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการทำสิ่งนี้
-
10:36 - 10:38คือการห้อมล้อมตัวคุณ
ด้วยคนที่มีความหลงใหล -
10:38 - 10:41วิธีการที่เร็วที่สุด ในการทำสิ่งที่คุณไม่คิดว่า
คุณจะสามารถทำได้ -
10:41 - 10:43คือการห้อมล้อมตัวคุณเอง
ด้วยคนที่ทำมันอยุ่แล้ว -
10:43 - 10:46มันมีคำคมจาก จิม โรห์น (Jim Rohn ) ที่ว่า
-
10:46 - 10:49"คุณเป็นค่าเฉลี่ยของคนห้าคน
ที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด" -
10:49 - 10:53และมันไม่มีเคล็ดลับใดในประวัติศาสตร์โลก
ที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ -
10:53 - 10:56ที่จะพาคุณจากจุดที่คุณเป็นในวันนี้
ไปยังจุดที่คุณอยากจะไป -
10:56 - 10:59มากกว่าคนที่คุณเลือกที่จะเก็บไว้ในมุม
-
10:59 - 11:01พวกมันเปลี่ยนทุกอย่าง
และมันเป็นข้อพิสูจน์ความจริง -
11:01 - 11:05ในค.ศ. 1898 นอร์มัน ทริปเพลทท์ ทำการศึกษานี้
กับนักจักรยาน -
11:05 - 11:08และเขาวัดเวลาที่พวกเขาใช้ในสนามแข่ง
ทั้งแบบกลุ่ม -
11:08 - 11:09และเดี่ยว
-
11:09 - 11:13เขาพบว่าทุกครั้งที่นักจักรยานอยู่ในกลุ่ม
พวกเขาปั่นเร็วขึ้น -
11:13 - 11:16และมันก็พบได้กับทุกอย่างในชีวิต
-
11:16 - 11:18และมันพิสูจน์สิ่งเดียวกันนี้
ครั้งแล้วครั้งเล่า -
11:18 - 11:21ว่าคนรอบๆ ตัวคุณนั้นสำคัญ
และสิ่งแวดล้อมก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง -
11:21 - 11:23แต่มันขึ้นอยู่กับคุณ ที่จะควบคุมมัน
เพราะว่ามันเป็นไปได้ทั้งสองทาง -
11:23 - 11:2680 เปอร์เซ็นต์ของคน
ที่ไม่ชอบงานที่พวกเขาทำ -
11:26 - 11:29นั่นหมายถึงคนส่วนใหญ่รอบๆ ตัวเรา
ไม่ใช่ในห้องนี้ แต่ที่อื่นๆ -
11:29 - 11:33กำลังเผชิญหน้ากับความพึงพอใจ
และรั้งเราจากการไขว่คว้าสิ่งที่สำคัญกับเรา -
11:33 - 11:35ฉะนั้น เราจึงต้องจัดการสิ่งรอบๆ ตัวเหล่านี้
-
11:35 - 11:37ผมพบตัวเองในเหตุการณ์นี้ --
-
11:39 - 11:42ตัวอย่างส่วนตัว สองสามปีก่อน
-
11:42 - 11:46ใครเคยมีงานอดิเรกหรือคลั่งใคล้อะไรไหมครับ
-
11:46 - 11:49ที่เราใช้เวลาไปมากมาย
และอยากจะทำมันเป็นงานประจำ -
11:49 - 11:53แต่ไม่มีใครให้ความสำคัญมันเลย
มันทำเงินอะไรไม่ได้เลย -
11:53 - 11:58ครับ ผมเป็นแบบนั้นอยู่สี่ปี พยายามที่จะสร้าง
ลีฟ ยัว เลเจนด์ -
11:58 - 12:01เพื่อช่วยให้คนได้ทำงานในสิ่งที่เขารักและใส่ใจ
และมีแรงบันดาลใจจริงๆ -
12:01 - 12:02ผมทำเท่าที่ผมสามารถทำได้
-
12:02 - 12:04และมีเพียงสามคนที่ให้ความสนใจ
-
12:05 - 12:08และพวกเขาก็อยู่ตรงนี้ครับ
แม่ของผม พ่อ และภรรยาของผม เชลซี -
12:08 - 12:09ขอบคุณทุกคนครับที่สนับสนุน
-
12:09 - 12:11(เสียงปรบมือ)
-
12:11 - 12:15และผมต้องการมันมากมายเหลือเกัน
มันเติบโตศูนย์เปอร์เซ็นต์ภายในสี่ปี -
12:16 - 12:17และผมก็เกือบที่จะล้มเลิก
-
12:18 - 12:19และในตอนนั้นเอง
-
12:19 - 12:23ผมย้ายไปที่ซานฟรานซิสดก
และเริ่มที่จะพบคนที่ค่อนข้างน่าสนใจ -
12:23 - 12:25ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตการผจญภัย
-
12:25 - 12:27การทำธุรกิจ และเว็บไซต์ และบล๊อค
ที่แสนจะสุดเหวี่ยง -
12:27 - 12:30ที่ไม่ได้ห่างไกลแรงบันดาลใจของพวกเขา
และพวกเขาก็ช่วยผู้คนในแบบที่มีคุณค่า -
12:30 - 12:33และหนึ่งในเพื่อนของผม
ตอนนี้ เขามีครอบครัวขนาดแปดคน -
12:33 - 12:35และทำงานเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัว
-
12:35 - 12:38ทำบล๊อคที่เขาเขียนสัปดาห์ละสองครั้ง
-
12:38 - 12:41พวกเขาเพิ่งกลับมาจากการไปยุโรปหนึ่งเดือน
ทุกคนเลย -
12:41 - 12:43มันทำให้ผมทึ่ง
มันเป็นไปได้อย่างไรกัน -
12:43 - 12:47และผมก็ได้รับแรงบันดาลใจอย่างน่าประหลาด
เมื่อเห็นสิ่งนี้ -
12:47 - 12:50และแทนที่จะปิดมัน
ผมตัดสินใจที่จะจริงจังกับมัน -
12:50 - 12:52และผมก็ทำทุกอย่างที่สามารถจะทำได้
เพื่อใช้เวลากับมัน -
12:52 - 12:54ทุกชั่วโมงที่ผมลืมตาตื่น
ผลพยายามที่จะไล่ล่าหาคนพวกนี้เท่าที่จะทำได้ -
12:54 - 12:57ไปเที่ยวและดื่มและพูดคุย อะไรก็ตาม
-
12:57 - 12:59และหลังจากสี่ปีของการเติบโตที่เป็นศูนย์
-
12:59 - 13:01ภายในหกเดือนหลังจากออกไปพบกับคนพวกนี้
-
13:01 - 13:04สังคมที่ลีฟ ยัว เลเจนด์ โตขึ้น 10 เท่า
-
13:04 - 13:08ในอีก 12 เดือน มันเติบโตขึ้น 160 เท่า
-
13:08 - 13:11และวันนี้ คนกว่า 30,000 ราย
จาก 158 ประเทศ -
13:11 - 13:14ใช้หน้าที่การงานและอุปกรณ์เชื่อมต่อของเรา
ทุกๆ เดือน -
13:14 - 13:19และคนเหล่านี้ได้สร้างสังคมแห่งบุคคลบันดาลใจ
-
13:19 - 13:21ผู้ที่ให้แรงบันดาลใจกับความเป็นไปได้ที่ผมเฝ้าฝันถึง
-
13:21 - 13:24สำหรับ ลีฟ ยัว เลเจนด์ เมื่อหลายปีก่อน
-
13:24 - 13:26ผู้คนนั้นเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง
และนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไม -- -
13:26 - 13:29แบบว่า คุณถามว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น
-
13:29 - 13:31เป็นเวลาสี่ปี ผมไม่รู้จักใครเลยในที่นี้
-
13:31 - 13:35และผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีตัวตน
ที่ว่าคนจะทำสิ่งนี้ได้ -
13:35 - 13:37ที่ว่าคนจะสร้างกระแสอะไรแบบนี้
-
13:37 - 13:40และจากนั้นผมก็มาอยู่ที่นี่ในซานฟรานซิสโก
และทุกคนรอบๆ ตัวผมก็ทำสิ่งนี้ -
13:40 - 13:44มันกลายเป็นสิ่งธรรมดา ความคิดของผมเริ่มจาก
ผมจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร -
13:44 - 13:46ไปเป็นผมจะไม่ทำมันได้อย่างไร
-
13:46 - 13:49และจากนั้น เมื่อมันเกิดขึ้น
สัญญาณก็ถูกเปิดขึ้นในความคิดของคุณ -
13:49 - 13:51มันส่งเป็นระลอกคลื่นออกไปทั่วทั้งโลก
-
13:51 - 13:54และโดยไม่ต้องพยายาม
มาตราฐานของคุณพัฒนาไปจากจุดนี้ -
13:54 - 13:58คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย
คุณแค่ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมของคุณ -
13:58 - 14:02แค่นั้นแหละครับ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม
ผมถึงรักที่จะอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน -
14:02 - 14:04ทำไมผมถึงไปทุกงาน TED เท่าที่ผมจะทำได้
-
14:04 - 14:07และดูพวกเขาบน iPad ระหว่างไปทำงาน
หรืออะไรก็ตามแต่ -
14:07 - 14:10เพราะว่าคนกล่มนี้แหละที่
ให้แรงบันดาลใจในความเป็นไปได้ -
14:10 - 14:13เรามีทั้งวันที่จะอยู่ด้วยกัน และอาจมากมายกว่านั้น
-
14:13 - 14:17สรุปนะครับ ในนิยามของเสาหลักสามประการ
-
14:17 - 14:21พวกมันมีจุดร่วมเดียวกัน ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
-
14:21 - 14:23เราควบคุมมันได้ 100 เปอร์เซ็นต์
-
14:23 - 14:26ไม่มีใครสามารถบอกคุณได้ว่า
คุณไม่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองได้ -
14:26 - 14:28ไม่มีใครสามารถบอกคุณได้ว่า
คุณไม่สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของคุณได้ -
14:28 - 14:31และเรียนรู้ความเป็นไปไม่ได้ของคุณ
และสู้กับสิ่งนั้น -
14:31 - 14:34ไม่มีใครบอกคุณได้ว่า
คุณไม่สามารถที่จะอยู่ท่ามกลางคนที่สร้างแรงบันดาลใจ -
14:34 - 14:36หรือออกไปจากคนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่
-
14:36 - 14:37คุณไม่สามารถควบคุมภาวะเศรษฐกิจได้
-
14:37 - 14:41คุณไม่สามารถควบคุมการถูกไล่ออก
หรือการไปอยู่ในอุบัติเหตุรถยนต์ได้ -
14:41 - 14:43สิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่มันเกินกว่าที่เราจะควบคุม
-
14:43 - 14:45สามสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับเราล้วนๆ
-
14:47 - 14:51และพวกมันสามารถเปลี่ยนโลกของเราได้ทั้งใบ
ถ้าเราตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง -
14:52 - 14:55และประเด็นก็คือว่า มันเริ่มที่จเะกิดขึ้น
ในระดับที่ขยายกว้างออกไป -
14:55 - 14:58ผมเพิ่งได้อ่าน [นิตยสาร] โฟบ รัฐบาลอเมริกัน
รายงานเป็นครั้งแรกว่า -
14:58 - 15:01ภายในหนึ่งเดือน ว่ามีคนออกจากงาน
-
15:01 - 15:02มากกว่าถูกไล่ออกจากงาน
-
15:02 - 15:06พวกเขาคิดว่ามันเป็นความผิดปกติ
แต่มันเกิดขึ้นสามเดือนติดต่อกัน -
15:06 - 15:08ไม่นาน ผู้คนอ้างว่า
มันเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็นใจ -
15:08 - 15:11ผู้คนชูนิ้วกลางให้กับชีวิตที่ถูกขีดเส้นมาให้เดิน
-
15:11 - 15:13สิ่งที่คนพูดๆ กันว่า คุณควรที่จะทำ
-
15:13 - 15:17แทนที่จะเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อพวกเขา
และทำในสิ่งที่บันดาลใจพวกเขา -
15:17 - 15:19และคนก็ตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นไปได้นี้
-
15:19 - 15:25ที่จริงๆ แล้ว สิ่งเดียวที่จำกัดความเป็นไปได้ตอนนี้
คือความคิดสร้างสรรค์ -
15:25 - 15:27มันไม่ใช่ความซ้ำซากจำเจอีกต่อไปแล้ว
-
15:27 - 15:31ผมไม่สนหรอกว่า คุณสนใจอะไร
มีความคลั่งใคล้อะไร มีงานอดิเรกอะไร -
15:31 - 15:34ถ้าคุณชอบถักนิตติ้ง คุณสามารถพบใครสักคน
ที่ถักนิตติ้ง -
15:34 - 15:36และคุณสามารถเรียนกจากพวกเขาได้
มันน่าตื่นเต้นแบบนั้นแหละ -
15:36 - 15:40และวันทั้งวันก็ควรจะเป็นแบบนี้
เป็นการเรียนรู้จากการเล่าสู่กันฟัง -
15:40 - 15:43และเราก็เก็บประวัติคนเหล่านี้ใน
ลีฟ ยัว เลเจนด์ ทุกๆ วัน -
15:43 - 15:46เพราะเมื่อคนทั่วๆ ไปกำลังทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา
-
15:46 - 15:48และคุณสามารถไปอยู่ในกลุ่มนั้นได้
-
15:48 - 15:50มันกลายเป็นสิ่งธรรมดา
-
15:50 - 15:54และมันไม่ใช่การเป็นคานธี หรือสตีฟ จ๊อบ
ทำอะไรที่คนอื่นเขาว่าบ้า -
15:54 - 15:56มันเป็นการทำอะไรบางอย่างที่สำคัญกับคุณ
-
15:56 - 15:58และสร้างความสำคัญที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่ทำได้
-
16:00 - 16:03พูดถึงคานธี เขาเคยเป็นทนาย
-
16:03 - 16:05เท่าที่ผมเคยได้ยินมา
-
16:05 - 16:08และเขาได้พบกับเหตุการณ์สำคัญ
บางอย่างที่สำคัญกับเขา -
16:08 - 16:09เขาไม่สามารถจะไม่ทำมันได้
-
16:09 - 16:11และเขาก็มีปรัชญาที่เขาใช้ดำเนินชีวิตที่ว่า
-
16:11 - 16:14"ตอนแรกเขาละเลยคุณ
จากนั้นก็หัวเราะเยาะคุณ -
16:14 - 16:16จากนั้นพวกเขาก็สู้กับคุณ และคุณก็ชนะ"
-
16:18 - 16:21ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้จนกระทั่งใครสักคนทำสำเร็จ
-
16:21 - 16:24คุณสามารถอยู่กับผู้คนที่บอกคุณว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก
-
16:24 - 16:26และบอกคุณว่า คุณโง่เหลือเกินที่พยายาม
-
16:26 - 16:29หรือจะอยู่กับคนที่ให้แรงบันดาลใจที่เป็นไปได้
-
16:29 - 16:31ผู้คนที่อยู่ในห้องนี้
-
16:32 - 16:35เพราะผมเห็นว่ามันคือความรับผิดชอบของเรา
ที่จะแสดงให้โลกเห็น -
16:36 - 16:39ว่าสิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้
สามารถเป็นสิ่งที่เป็นธรรมดาได้ -
16:39 - 16:41และมันก็เริ่มที่จะเกิดขึ้นแล้ว
-
16:41 - 16:44อย่างแรก ทำในสิ่งที่บันดาลใจเรา
-
16:44 - 16:48เพื่อที่เราจะได้ให้แรงบันดาลใจนั้นกับคนอื่น
ในการทำสิ่งที่บันดาลใจพวกเขา -
16:48 - 16:49แต่เราไม่สามารถพบสิ่งนั้นได้
-
16:50 - 16:52เว้นเสียแต่ว่า เราจะรู้ว่าเรากำลังมองหาอะไร
-
16:52 - 16:54พวกเราจะต้องทำด้วยตัวของพวกเราเอง
-
16:54 - 16:57ทำตัวให้เป็นสากลเกี่ยวกับเรื่องนั้น
และทำการค้นพบ -
16:57 - 17:01เพราว่า ผมลองคิดดูว่า จะเป็นอย่างไร
ถ้าโลกของเรามีคน 80 เปอร์เซ็นต์ -
17:01 - 17:02ที่รักงานที่ทำ
-
17:02 - 17:06นวัฒกรรมจะเป็นอย่างไร
คุณจะปฏิบัติกับคนรอบๆ ตัวคุณอย่างไร -
17:06 - 17:07สิ่งต่างๆ จะเริ่มเปลี่ยนไป
-
17:09 - 17:12และขณะที่ผมกำลังจะจบการบรรยาย
ผมมีคำถามเดียวที่จะถามพวกคุณ -
17:12 - 17:15และคิดว่า มันเป็นเพียงคำถามเดียวที่สำคัญ
-
17:15 - 17:17และมันก็คือ งานใดที่คุณไม่อาจจะไม่ทำได้
-
17:18 - 17:21ค้นหามัน ใช้ชีวิตกับมัน
-
17:21 - 17:23ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อตัวคุณ
แต่เพื่อทุกคนรอบตัวคุณ -
17:24 - 17:27เพราะว่านี่คือการเริ่มต้น
ในการเปลี่ยนแปลงโลก -
17:27 - 17:30อะไรล่ะ ที่เป็นงานที่คุณทำไม่ได้
-
17:30 - 17:32ขอบคุณทุกคนครับ
-
17:32 - 17:34(เสียงปรบมือ
- Title:
- เราจะพบงานที่เรารักได้อย่างไร
- Speaker:
- สก๊อต ดินสมอร์ (Scott Dinsmore)
- Description:
-
สก๊อต ดินสมอร์ ลาออกจากงานที่ทำให้เขาไม่มีความสุข และใช้เวลาอีกสี่ปีคิดว่าจะพบงานที่น่าสนุกและมีความหมายได้อย่างไร เขาแบ่งปันสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ในการบรรยายที่เรียบง่ายอย่างเหลือเชื่อ เกี่ยวกับการค้นพบว่าอะไรสำคัญกับคุณ -- และจากนั้นก็เริ่มลงมือทำ
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 17:47
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How to find work you love | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for How to find work you love | ||
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to find work you love | ||
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to find work you love | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love |