Return to Video

เราจะพบงานที่เรารักได้อย่างไร

  • 0:00 - 0:03
    ว้าว เป็นเกียรติเหลือเกินครับ
    ผมคิดอยู่เรื่อยว่า มันจะรู้สึกอย่างไร
  • 0:03 - 0:08
    แปดปีก่อน ผมได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำงาน
    ที่แย่ที่สุดในชีวิต
  • 0:08 - 0:10
    เพื่อนของผมบอกว่า
  • 0:10 - 0:12
    "อย่าห่วงไปเลย ว่าคุณมีความสุขกับงาน
    ที่ทำอยู่ตอนนี้แค่ไหน
  • 0:13 - 0:15
    มันก็แค่
    การสร้างประวัติการทำงานของคุณเท่านั้นแหละ"
  • 0:15 - 0:17
    ผมเพิ่งจะกลับจากการไปอยู่ที่สเปนสักพัก
  • 0:17 - 0:21
    และผมก็เพิ่งจะเข้าทำงานที่บริษัทในฟอร์จูน 500
    ผมคิดว่า "นี่มันเจ๋งไปเลย
  • 0:21 - 0:23
    ผมกำลังจะสร้างความแตกต่างอย่างมาก
    ให้กับโลกใบนี้"
  • 0:23 - 0:25
    ผมมีความคิดทั้งหมดนี้
    ภายในประมาณสองเดือน
  • 0:25 - 0:28
    ผมสังเกตว่าทุกเช้าเวลา 10 โมง
    ผมมีความต้องการอันแปลกประหลาด
  • 0:28 - 0:32
    ที่ต้องการฟาดหัวตัวเอง
    ให้ทะลุจอคอมพิวเตอร์
  • 0:32 - 0:34
    ผมไม่รู้ว่า มีใครเคยรู้สึกแบบนี้ไหม
  • 0:34 - 0:37
    และผมสังเกตุได้ค่อนข้างเร็วหลังจากนั้น
    ว่าคู่แข่งทั้งหมดในที่ของเรา
  • 0:37 - 0:40
    ได้แทนที่บทบาทหน้าที่งานของผมไปแล้ว
  • 0:40 - 0:45
    และมันก็ถูกต้องเลยเมื่อผมได้รับคำแนะนำที่ดีนี้
    เพื่อเพิ่มมันเอาไว้ในประวัติการทำงานของผม
  • 0:45 - 0:47
    ครับ ขณะที่ผมกำลังพยายามหาทาง
  • 0:47 - 0:53
    ว่าหน้าต่างชั้นสองบานไหน
    ที่ผมควรโดดลงมา และเปลี่ยนแปลงเรื่องทั้งหมด
  • 0:53 - 0:57
    ผมอ่านคำแนะนำที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
    จากวอเรน บัฟเฟต และเขาบอกว่า
  • 0:57 - 1:03
    "รับทำงานเพื่อสร้างประวัติการทำงานของคุณ
    ก็เหมือนกับเก็บเรื่องบนเตียงไว้ทำยามแก่"
  • 1:03 - 1:04
    (เสียงหัวเราะ)
  • 1:04 - 1:07
    และผมได้ยินสิ่งนั้น
    และนั่นก็เป็นทุกอย่างที่ผมต้องการ
  • 1:07 - 1:10
    ภายในสองสัปดาห์ ผมออกจากที่นั่น
    และเหลืออยู่แต่เพียงหนึ่งความตั้งใจ
  • 1:10 - 1:13
    ที่จะหาอะไรบางอย่างที่ผมจะทำมันพัง
    มันยากอย่างนั้นแหละ
  • 1:13 - 1:16
    ผมอยากจะทำอะไรบางอย่างที่สำคัญ
    ไม่สำคัญหรอกว่ามันเป็นอะไร
  • 1:16 - 1:19
    และในไม่ช้า ผมก็พบว่าผมไม่ใช่คนเดียว
  • 1:19 - 1:22
    มันกลายเป็นว่า คนรอบๆ ตัว
    กว่า 80 เปอร์เซ็นต์
  • 1:22 - 1:23
    ไม่ได้ชอบงานของพวกเขา
  • 1:23 - 1:25
    ผมคิดว่าคนในห้องนี้จะต่างออกไป
  • 1:25 - 1:28
    แต่นั่นเป็นค่าเฉลี่ย
    ที่ ดีลอยท์ ได้ทำการศึกษา
  • 1:28 - 1:31
    ฉะนั้น ผมต้องการที่จะรู้ว่า
    อะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ต่างกันระหว่าง
  • 1:31 - 1:33
    คนที่ทำงานที่สามารถเปลี่ยนโลกได้
    ที่น่าหลงใหล
  • 1:33 - 1:35
    ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมแรงบันดาลใจทุกวัน
  • 1:35 - 1:36
    และคนอีก 80 เปอร์เซ็นต์
  • 1:36 - 1:38
    ผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวังแบบเงียบๆ
  • 1:39 - 1:42
    ฉะนั้น ผมเริ่มที่จะสัมภาษณ์ผู้คน
    ที่ทำงานที่มีแรงบันดาลใจนี้
  • 1:42 - 1:45
    และผมอ่านหนังสือ และทำกรณีศึกษา
  • 1:45 - 1:47
    รวมกันทั้งหมด 300 เล่ม
    ที่เกี่ยวกับจุดประสงค์ และการงาน และอะไรพวกนั้น
  • 1:47 - 1:52
    ทั้งหมดแค่สนองความต้องการของตัวเอง
    เป็นเหตุผลที่เห็นแก่ตัวสำหรับ --
  • 1:52 - 1:55
    ผมต้องการที่จะหางาน ที่ผมไม่อาจจะไม่ทำได้
  • 1:55 - 1:56
    อะไรคือสิ่งนั้นสำหรับผม
  • 1:56 - 1:59
    แต่เมื่อผมทำอย่างนี้
    คนก็เริ่มถามผมมากขึ้นและมากขึ้น
  • 1:59 - 2:00
    "คุณจริงจังกับเรื่องงานการ
  • 2:00 - 2:03
    ผมไม่ชอบงานของผม
    เราไปกินข้าวด้วยกันไหม"
  • 2:03 - 2:05
    ผมบอกว่า "แน่นอน"
    แต่ผมต้องเตือนพวกเขาไว้ก่อนว่า
  • 2:05 - 2:07
    เพราะว่า ณ ตอนนี้
    อัตราการลาออกที่ผมเจออยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์
  • 2:07 - 2:10
    ของคนที่มานั่งกินข้าวเที่ยงกับผม
    80 เปอร์เซ็นต์จะลาออก
  • 2:10 - 2:12
    ภายในสองเดือน
  • 2:12 - 2:16
    ผมภูมิใจนะ
    และมันก็ไม่ได้เป็นเพราะผมมีพลังวิเศษอะไร
  • 2:16 - 2:18
    ผมก็แค่ถามคำถามง่ายๆ คำถามหนึ่ง
  • 2:18 - 2:21
    ซึ่งก็คือ "ทำไมคุณถึงทำงานที่คุณทำอยู่ตอนนี้"
  • 2:21 - 2:23
    และบ่อยครั้ง คำตอบของพวกเขาก็จะเป็น
  • 2:23 - 2:25
    "ก็เพราะว่า ใครบางคนบอกว่าผมควรทำ"
  • 2:25 - 2:27
    และผมก็ตระหนักว่า ผู้คนรอบๆ ตัวเรา
  • 2:27 - 2:31
    กำลังไต่บันไดขึ้นไป
    เพราะใครบางคนบอกให้พวกเขาทำ
  • 2:31 - 2:33
    และสุดท้ายก็ไปเจอกับกำแพงที่ผิดอัน
  • 2:33 - 2:35
    หรือไม่มีกำแพงอะไรเลย
  • 2:35 - 2:38
    ยิ่งผมใช้เวลากับผู้คนเหล่านี้และมองเห็นปัญหานี้
    มากเท่าไร
  • 2:38 - 2:40
    ผมยิ่งคิดว่า ถ้าหากเราสามารถสร้างสังคม
  • 2:40 - 2:42
    ที่เป็นที่ซึ่งผู้คุณรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง
  • 2:42 - 2:45
    และมันก็ โอเค ที่จะทำอะไรที่แตกต่างได้
  • 2:45 - 2:47
    เพื่อจะเดินไปในหนทางที่คนมักไม่ค่อยเลือก
    ซึ่งนั่นก็จะได้รับการสนับสนุน
  • 2:47 - 2:50
    และให้แรงบันดาลใจกับคนในการเปลี่ยนแปลง
  • 2:50 - 2:53
    และภายหลัง นั่นกลายเป็นสิ่งที่ผมเรียกว่า
    ลีฟ ยัว เลเจนด์ (Live Your Legend)
  • 2:53 - 2:54
    ซึ่งผมจะอธิบายให้ฟังอีกที
  • 2:54 - 2:58
    แต่เมื่อผมได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้
    ผมสังเกตุกรอบแนวทาง
  • 2:58 - 2:59
    ของสิ่งง่ายๆ สามประการ
  • 2:59 - 3:03
    ที่ความหลงใหลที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลก
    ทั้งหมดนี้ มีอย่างร่วมกัน
  • 3:03 - 3:05
    ไมว่าคุณจะเป็น สตีฟ จ๊อป
    หรือถ้าว่าคุณจะเป็นแค่
  • 3:05 - 3:07
    มนุษย์สักคนที่มีร้านขนมปังที่อยู่ถัดไปหน่อย
  • 3:07 - 3:09
    แต่คุณกำลังทำงาน
    ที่เป็นรูปลักษณ์ตัวตนของคุณ
  • 3:09 - 3:12
    ผมอยากที่จะแบ่งปันสามสิ่งนี้กับคุณ
    เพื่อคุณจะได้สามารถใช้มันเป็นเลนส์
  • 3:12 - 3:15
    สำหรับวันนี้ทั้งวัน
    และหวังว่าจะใช้ได้กับทั้งชีวิตด้วย
  • 3:15 - 3:18
    ส่วนแรกของกรอบแนวทาง
    ความหลงใหลสามขั้นตอนนี้
  • 3:18 - 3:21
    คือการเป็นผู้รู้จักตัวเอง
    และเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้
  • 3:21 - 3:23
    เพราะว่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังมองหาอะไรแล้ว
  • 3:23 - 3:25
    คุณก็คงจะหามันไม่เจอ
  • 3:25 - 3:28
    และที่สำคัญ ไม่มีใครที่จะทำสิ่งนี้ให้เรา
  • 3:28 - 3:31
    ไม่มีสาขาวิชาใดในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
    กับความหลงใหล และจุดรปะสงค์ และการงาน
  • 3:31 - 3:34
    ผมไม่รู้ว่าทำไมมันไม่เป็นวิชาเอกควบบังคับ
  • 3:34 - 3:36
    แต่อย่าให้ผมเริ่มบ่นเลยครับ
  • 3:36 - 3:39
    ผมหมายความว่า คุณใช้เวลาไปมาก
    ในการเลือกทีวีในห้องพัก
  • 3:39 - 3:42
    ยิ่งกว่าคุณใช้เวลาเลือกวิชาเอก
    และสาขาวิชาที่จะศึกษาเสียอีก
  • 3:42 - 3:44
    แต่ประเด็นก็คือ
    มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะเข้าใจ
  • 3:44 - 3:47
    และเราต้องการกรอบแนวทาง
    เราต้องการวิธีนำร่องผ่านสิ่งนี้
  • 3:47 - 3:51
    และขั้นแรกของเข็มทิศของเราคือหาว่า
    อะไรคือความแข็งแกร่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา
  • 3:51 - 3:54
    อะไรที่เป็นสิ่งที่เราตื่นขึ้นมาแล้วรักที่จะทำ
    ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
  • 3:54 - 3:58
    ไม่ว่าเราจะได้เงินหรือไม่
    และเป็นสิ่งที่คนจะขอบคุณที่เราทำ
  • 3:58 - 4:01
    สเตรงท์ ไฟเดอร์ 2.0 (Strengths Finder 2.0)
    เป็นหนังสือ และคู่มือออนไลน์
  • 4:01 - 4:05
    ผมขอแนะนำมัน เพื่อค้นหาว่า
    คุณเก่งในเรื่องใด
  • 4:05 - 4:09
    และต่อไป อะไรคือกรอบแนวทาง
    หรือลำดับในการตัดสินใจ
  • 4:09 - 4:13
    เราสนใจหรือเปล่าในเรื่องผู้คน
    ครอบครัวของเรา สุขภาพ
  • 4:13 - 4:15
    หรือว่ามันเป็นความสำเร็จ อะไรแบบนั้นหรือเปล่า
  • 4:15 - 4:18
    คุณจะต้องหาให้พบว่ามันคืออะไร
    เพื่อที่จะได้ตัดสินใจ
  • 4:18 - 4:20
    เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า จิตวิญญาณของเราทำได้วยอะไร
  • 4:20 - 4:25
    เพื่อที่เราจะได้ไม่ขายมัน
    ให้กับอะไรก็ตามที่เราไม่ได้แยแสใส่ใจ
  • 4:25 - 4:28
    และจากนั้น ขั้นต่อไปคือ ประสบการณ์ของเรา
  • 4:28 - 4:32
    พวกเราทุกคนมีประสบการณ์เหล่านี้
    เราเรียนรู้ทุกๆ วัน ทุกๆ นาที
  • 4:32 - 4:34
    ว่าเรารักอะไร เกลียดอะไร
  • 4:34 - 4:36
    เก่งในเรื่องใด และไม่เก่งในเรื่องใด
  • 4:36 - 4:38
    และถ้าเราไม่ใช้เวลาใส่ใจกับสิ่งเหล่านั้น
  • 4:38 - 4:40
    และทำให้คล้ายกลับว่าเป็นการเรียนรู้
  • 4:40 - 4:43
    และใช้มันกับทั้งชีวิตของเรา
    มันก็ไร้ความหมาย
  • 4:43 - 4:45
    ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือนของปี
  • 4:45 - 4:48
    ผมใช้บางเวลาแค่เพื่อจะครุ่นคิด
    ว่าสิ่งที่เป็นไปได้ดี
  • 4:48 - 4:50
    สิ่งใดที่ผิดพลาด
    และอะไรที่ผมอยากจะทำซ้ำ
  • 4:50 - 4:51
    อะไรที่ผมจะใช้ได้มากกว่านี้ในชีวิต
  • 4:51 - 4:55
    และแม้จะเป็นอย่างนั้น อย่างที่คุณเห็น
    โดยเฉพาะวันนี้
  • 4:55 - 4:57
    ผู้ที่ให้แรงบันดาลใจกับคุณ
    ผู้ที่ทำสิ่งที่คุณบอกว่า
  • 4:57 - 5:00
    "โอ้พระเจ้า สิ่งที่เจฟทำนั่น
    ผมอยากจะเป็นแบบเขา"
  • 5:00 - 5:02
    ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น
    เปิดสมุดบันทึก
  • 5:02 - 5:04
    เขียนลงไป ว่าอะไรกันที่ให้แรงบันดาลใจกับคุณ
  • 5:04 - 5:06
    มันไม่ได้เป็นทุกอย่างในชีวิตคุณหรอก
  • 5:06 - 5:08
    แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม จดมันลงไป
  • 5:08 - 5:10
    แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เราจะมีคลัง
  • 5:10 - 5:14
    ของสิ่งที่เราสามารถปรับใช้กับชีวิตของเรา
    และมีอยู่อย่างมีความปรารถนามากกว่า
  • 5:14 - 5:16
    และทำสิ่งความแตกต่างได้ดีกว่า
  • 5:16 - 5:18
    เพราะเมื่อเราเริ่มนำสิ่งเหล่านี้มารวมกัน
  • 5:18 - 5:21
    เราจะสามารถกำหนดได้ว่า
    ความสำเร็จใดมีความหมายกับเรา
  • 5:22 - 5:25
    และเมื่อปราศจากส่วนต่างๆ ของเข็มทิศนี้
    มันก็เป็นไปไม่ได้
  • 5:25 - 5:27
    เราก็จะอยู่ในสถานการณ์ --
    เรามีชีวิตที่ถูกกำหนดบทบาท
  • 5:27 - 5:30
    ที่ทุกๆ คน เหมือนจะมีชีวิตอยู่
    เพื่อไต่บันไดขึ้นไปยังที่ใดก็ไม่รู้
  • 5:30 - 5:33
    มันเหมือนกับใน วอล สตรีท 2
    ถ้าใครเคยชมนะครับ
  • 5:33 - 5:37
    ลูกจ้างถามเจ้าของกิจการ
    ธนาคาร วอล สตรีท ขนาดใหญ่ ว่า
  • 5:37 - 5:39
    "คุณได้เงินเท่าไร ทุกคนมีเงินจริงไหม
  • 5:39 - 5:42
    ถ้าพวกเขาทำเงินได้มากขนาดนี้
    พวกเขาจะไปกันหมด"
  • 5:42 - 5:44
    เขาบอกว่า "โอ้ ง่ายจะตาย มากกว่านี้อีก"
  • 5:45 - 5:46
    แล้วก็ยิ้ม
  • 5:46 - 5:48
    และมันก็เป็นสถานะการณ์ที่น่าเศร้า
    ที่คนส่วนใหญ่
  • 5:48 - 5:51
    ที่ไม่ได้ใช้เวลาทำความเข้าใจ
    กับสิ่งที่สำคัญต่อพวกเขา
  • 5:51 - 5:54
    ผู้ที่พยายามเอื้อมให้ถึงอะไรบางอย่าง
    ไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่ง
  • 5:54 - 5:56
    แต่เรากำลังทำเพราะว่า ทุกคนบอกว่าเราควรทำ
  • 5:56 - 5:58
    แต่เมื่อเรานำกรอบแนวทางนี้เข้ามารวมกัน
  • 5:58 - 6:00
    เราสามารถเริ่มบ่งชี้ได้ว่า
    สิ่งใดที่ทำให้เรามีชีวิตชีวา
  • 6:00 - 6:04
    คุณรู้ไหม ก่อนหน้านี้ แรงบันดาลใจ
    อาจวิ่งเข้าใส่และชนหน้าคุณ
  • 6:04 - 6:06
    หรือบางทีในการงานของคุณ
    คุณอาจโยนมันทิ้งไป
  • 6:06 - 6:09
    เพราะว่าคุณไม่มีวิธีการที่จะบ่งชี้มัน
  • 6:09 - 6:12
    แต่เมื่อคุณมี คุณสามารถเห็นสิ่งที่สอดคล้อง
    กับจุดแข็งของผม
  • 6:12 - 6:14
    กับคุณค่าขอผม ในฐานะคนคนหนึ่ง
  • 6:14 - 6:17
    ฉะนั้น ผมกำลังที่จะจับมันไว้
    ผมกำลังจะทำอะไรบางอย่ากับมัน
  • 6:17 - 6:20
    และผมกำลังที่จะไขว่คว้ามัน
    และพยายามที่จะสร้างความแตกต่างด้วยมัน
  • 6:20 - 6:23
    ลีฟ ยัว เลเจนด์ และกระแสที่พวกเราสร้าง
  • 6:23 - 6:25
    คงไม่เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีเข็มทิศนี้ในการบ่งชี้
  • 6:25 - 6:29
    "ว้าว นี่มันเป็นอะไรบางอย่าง
    ที่ผมต้องการที่จะไขว่คว้าและสร้างความแตกต่าง"
  • 6:29 - 6:32
    ถ้าผมไม่รู้ว่าผมกำลังมองหาอะไร
    ผมคงไม่ได้พบมัน
  • 6:32 - 6:34
    แต่เมื่อผมมีกรอบแนวทาง มีเข็มทิศนี้
  • 6:34 - 6:39
    แล้วผมก็เดินหน้าเพื่อสิ่งต่อไป --
    และข้างบนนั้นก็ไม่ใช่ผม --
  • 6:39 - 6:41
    ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และก้าวข้ามข้อจำกัด
  • 6:41 - 6:43
    มีสองเหตุผลว่าทำไมคนถึงไม่ทำแบบนั้น
  • 6:43 - 6:45
    อย่างแรกเลย คือพวกเขาบอกตัวเองว่า
    พวกเขาทำไม่ได้
  • 6:45 - 6:47
    หรือคนรอบๆ ตัวพวกเขาบอกพวกเขาว่า
    พวกเขาทำไม่ได้
  • 6:47 - 6:49
    ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม พวกเราเริ่มที่จะเชื่อมัน
  • 6:49 - 6:51
    ไม่ว่าเราจะล้มเลิก
    หรือไม่คิดจะเริ่มทำ
  • 6:51 - 6:54
    ประเด็นก็คือ ทุกคนก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น
    จนกระทั่งมีคนทำมัน
  • 6:54 - 6:57
    ทุกนวัฒกรรม
    ทุกสิ่งใหม่ในโลกใบนี้
  • 6:57 - 6:58
    ที่ตอนแรกคนคิดว่ามันบ้า
  • 6:58 - 7:02
    โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ กับการวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที
    มันเป็นไปไม่ได้ทางกายภาพ
  • 7:02 - 7:04
    ในการทำลานสถิติวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที
  • 7:04 - 7:06
    จนกระทั่ง โรเจอร์ แบนนิสเตอร์
    ลุกขึ้นและทำมัน
  • 7:06 - 7:08
    แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น
  • 7:08 - 7:10
    สองเดือนต่อมา
    คน 16 คนทำลายสถิติการวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที
  • 7:10 - 7:13
    สิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้
  • 7:13 - 7:15
    มักจะเป็นแค่เพียงหลักชัย
    ที่รออยู่ให้เราไปถึง
  • 7:15 - 7:17
    ถ้าเราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดสักนิดเหล่านั้น
  • 7:17 - 7:20
    และผมคิดว่า มันเริ่มต้น
    ด้วยร่างกายและความเกร่ง
  • 7:20 - 7:23
    ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
    เพราะว่าเราสามารถควบคุมมันได้
  • 7:23 - 7:24
    ถ้าคุณไม่คิดว่าคุณสามารถวิ่งได้หนึ่งไมล์
  • 7:24 - 7:26
    คุณแสดงให้ตัวเองเห็นว่า
    คุณสามารถวิ่งได้ไมล์หรือสองไมล์
  • 7:26 - 7:29
    หรือมาราธอน หรือลดน้ำหนักห้าปอด์น
    หรืออะไรก็ตามแต่
  • 7:29 - 7:32
    คุณตระหนักได้ถึงองค์ประกอบความมั่นใจ
  • 7:32 - 7:34
    และสามารถถ่ายทอดมันไปทั่วตัวคุณ
  • 7:34 - 7:38
    และผมกับเพื่อนก็เริ่มติดนิสัยแบบนี้นิดหน่อย
  • 7:38 - 7:40
    เรามีกลุ่มเล็กๆ เราไปผจญภัยกัน
  • 7:41 - 7:44
    และไม่นานมานี้ ผมพบตัวเอง
    ในแบบที่ไม่มั่นคง
  • 7:44 - 7:47
    ผมกลัวความลึก ความมืด น้ำสีคราม
  • 7:47 - 7:49
    ผมไม่รู้หรอกว่าใครเคยกลัวแบบนี้บ้าง
  • 7:49 - 7:51
    ตั้งแต่พวกเขาดูหนังเรื่อง จอว์ส 1, 2, 3
    และ 4 ไปประมาณหอรอบ
  • 7:51 - 7:52
    เมื่อผมเป็นเด็ก
  • 7:53 - 7:57
    แต่ถ้าจะมีอะไรเกี่ยวกับมัน ถ้ามันมืดๆ มัวๆ
    ผมก็รู้สึกถึงมันได้เลย
  • 7:57 - 7:59
    ผมเชื่อว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น
  • 7:59 - 8:02
    แม้ว่ามันจะเป็นทะเลสาป ทาโฮล (Lake Tahoe)
    มันเป็นน้ำจืด ไม่มีสิ่งใดที่น่ากลัว
  • 8:02 - 8:04
    น่าขัน แต่มันอยู่ตรงนั้นครับ
  • 8:04 - 8:06
    อย่างไรก็ดี สามปีก่อน ผมอยู่บนเรือโยง
  • 8:06 - 8:08
    ทางใต้ลงไป ที่ อ่าวซานฟรานซิสโก
  • 8:08 - 8:12
    มันเป็นวันฝนตก มีพายุ ลมแรง
    และคนบนเรือก็เมาเรือ
  • 8:12 - 8:15
    และผมก็นั่งอยู่ตรงนั้น ใส่ชูชีพ
    และมองออกไปนอกหน้าต่าง
  • 8:15 - 8:18
    ด้วยความกลัวว่า
    ผมจะว่ายน้ำไปสู่ความตาย
  • 8:18 - 8:20
    ผมกำลังพยายามจะพยายามว่ายน้ำ
    ข้ามสะพานโกเดนเกต
  • 8:20 - 8:24
    และผมเดาว่า บางคนในห้องนี้
    อาจเคยทำมาก่อน
  • 8:24 - 8:27
    ผมนั่งอยู่ตรงนั้น และโจนาธานเพื่อนของผม
    ที่ชวนผมมา
  • 8:27 - 8:30
    เขาเข้ามาหาผม และเขาก็เห็นว่าผมเป็นอย่างไร
  • 8:30 - 8:32
    และเขาบอกว่า "เฮ้ย สก๊อต
    มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้
  • 8:32 - 8:35
    แกใส่ชูชีพ แกไม่จมหรอก
  • 8:35 - 8:37
    และถ้าแกไม่รอด ก็โดดขึ้นเรือพายหนึ่งใน 20 ลำ
  • 8:37 - 8:40
    นอกจากนี้นะ ถ้าฉลามมาบุก
    ทำไมมันต้องเลือกแกด้วย
  • 8:40 - 8:43
    จากคนกว่า 80 คนในน้ำด้วยล่ะ"
    ขอบคุณมาก ช่วยได้มากเลย
  • 8:43 - 8:46
    เขาบอกว่า "แต่เอาจริงนะ
    ขอให้สนุกนะ โชคดี"
  • 8:46 - 8:48
    และเขาก็โดดลงน้ำ ว่ายน้ำไป โอเค
  • 8:48 - 8:53
    กลายเป็นว่าการพูดปลุกใจนั้นได้ผล
    และผมรู้สึกสงบนิ่ง
  • 8:53 - 8:56
    และผมคิดว่ามันเป็นเพราะ
    โจนาธานอายุ 13 ขวบ
  • 8:56 - 8:58
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:58 - 9:00
    และคน 80 คนที่ว่ายน้ำในวันนั้น
  • 9:00 - 9:03
    65 คน มีอายุระหว่างเก้าถึง 13 ขวบ
  • 9:03 - 9:06
    ลองคิดสิว่าคุณจะเผชิญกับโลกต่างไปอย่างไร
  • 9:06 - 9:09
    ถ้าคุณอายุเก้าขวบและพบว่า
    คุณสามารถว่ายน้ำได้ไมล์ครึ่ง
  • 9:09 - 9:12
    ในน้ำอุณหภูมิ 56 องศาฟาเรนไฮด์
    จากอัลคาทราซ ถึงซานฟรานซิสโก
  • 9:12 - 9:13
    คุณจะตอบตกลงกับอะไร
  • 9:13 - 9:16
    คุณจะยอมแพ้ต่ออะไร
    คุณจะลองทำอะไร
  • 9:16 - 9:18
    ตอนที่ผมจะว่ายน้ำเสร็จ
    ผมไปยัง อะควาติก พาร์ค
  • 9:18 - 9:20
    ผมขึ้นจากน้ำ
  • 9:20 - 9:22
    และแน่นอน เด็กครึ่งหนึ่งก็ว่ายน้ำเสร็จแล้ว
  • 9:22 - 9:24
    พวกเขาก็เลยเชียร์ผม และตื่นเต้นกันทุกคน
  • 9:24 - 9:27
    และผมก็สมองชาไปเลย
    ว่ามีใครเคยว่าน้ำในอ่าวนั่นด้วยหรือ
  • 9:27 - 9:31
    และผมก็พยายามที่จะมุ่งหน้าออกไป
    และผมก็เห็นคนไปถึงเส้นชัย
  • 9:31 - 9:34
    และผมเห็นเด็กคนหนึ่ง
    มีบางอย่างไม่ปกติ
  • 9:34 - 9:36
    และเขาก็ทรุดลงไปแบบนี้
  • 9:36 - 9:39
    เขาแทบจะหายใจไม่ได้
    ก่อนที่เขาจะมุดหัวลงไป
  • 9:39 - 9:42
    ผมสังเกตุเห็นผู้ใหญ่คนอื่นดูอยู่เช่นกัน
  • 9:42 - 9:44
    และผมสาบานได้เลยว่า
    พวกเขาคิดอย่างเดียวกับผม
  • 9:44 - 9:48
    นี่แหละ เหตุผลที่คุณไม่ยอมให้เด็กเก้าขวบ
    ว่ายน้ำจากอัลคาทราซ
  • 9:48 - 9:49
    มันไม่ใช่ความเมื่อยล้า
  • 9:49 - 9:52
    มันเกิดขึ้นเร็วมาก ผู้ใหญ่สองคน
    วิ่งไปและคว้าเขา
  • 9:52 - 9:55
    และเอาเขาขึ้นบนไหล่ และลากเขาแบบนี้
  • 9:55 - 9:57
    เขากระโผลกกระเผลกไปหมด
  • 9:57 - 10:00
    และจากนั้น พวกเขาเดินไปอีกสองสามฟุต
  • 10:00 - 10:02
    และวางเขาลงบนรถเข็น
  • 10:02 - 10:05
    และเขาก็ชูกำปั้นขึ้น
    เป็นชัยชนะที่บ้าบอที่สุดที่ผมเคยเห็น
  • 10:05 - 10:08
    ผมยังคงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
    และพลังงานจากผู้ชายคนนี้
  • 10:08 - 10:09
    เมื่อเขาประสบกับความสำเร็จ
  • 10:09 - 10:12
    วันนั้น ผมได้เห็นเขาก่อนในสภาพที่นั่งรถเข็น
  • 10:12 - 10:14
    ผมไม่รู้เลยว่า เขากำลังจะว่ายน้ำ
  • 10:14 - 10:18
    ผมหมายถึง เขาจะเป็นอย่างไร
    ในอีก 20 ปีข้างหน้า
  • 10:18 - 10:21
    จะมีคนสักกี่คนบอกเขาว่า เขาทำไม่ได้
    ว่าเขาอาจจตาย ถ้าพยายามจะทำ
  • 10:21 - 10:23
    คุณพิสูจน์ว่าคนคิดผิด
    คุณพิสูจน์ว่าคุณคิดผิด
  • 10:23 - 10:25
    ที่สามารถเป็นแรงผลัดดันเพิ่มเติมเล็กๆ
  • 10:25 - 10:27
    ให้กับสิ่งที่คุณเชื่อว่ามันเป็นไปได้
  • 10:27 - 10:29
    คุณไม่ต้องเป็นนักวิ่งมาราธอน
    ที่เร็วที่สุดในโลก
  • 10:29 - 10:31
    แค่คุณเป็นเจ้าของความเป็นไปไม่ได้
    เพื่อที่จะทำมันให้สำเร็จ
  • 10:31 - 10:33
    และมันเริ่มต้นจากขั้นเล็กๆ
  • 10:33 - 10:36
    และวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการทำสิ่งนี้
  • 10:36 - 10:38
    คือการห้อมล้อมตัวคุณ
    ด้วยคนที่มีความหลงใหล
  • 10:38 - 10:41
    วิธีการที่เร็วที่สุด ในการทำสิ่งที่คุณไม่คิดว่า
    คุณจะสามารถทำได้
  • 10:41 - 10:43
    คือการห้อมล้อมตัวคุณเอง
    ด้วยคนที่ทำมันอยุ่แล้ว
  • 10:43 - 10:46
    มันมีคำคมจาก จิม โรห์น (Jim Rohn ) ที่ว่า
  • 10:46 - 10:49
    "คุณเป็นค่าเฉลี่ยของคนห้าคน
    ที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด"
  • 10:49 - 10:53
    และมันไม่มีเคล็ดลับใดในประวัติศาสตร์โลก
    ที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้
  • 10:53 - 10:56
    ที่จะพาคุณจากจุดที่คุณเป็นในวันนี้
    ไปยังจุดที่คุณอยากจะไป
  • 10:56 - 10:59
    มากกว่าคนที่คุณเลือกที่จะเก็บไว้ในมุม
  • 10:59 - 11:01
    พวกมันเปลี่ยนทุกอย่าง
    และมันเป็นข้อพิสูจน์ความจริง
  • 11:01 - 11:05
    ในค.ศ. 1898 นอร์มัน ทริปเพลทท์ ทำการศึกษานี้
    กับนักจักรยาน
  • 11:05 - 11:08
    และเขาวัดเวลาที่พวกเขาใช้ในสนามแข่ง
    ทั้งแบบกลุ่ม
  • 11:08 - 11:09
    และเดี่ยว
  • 11:09 - 11:13
    เขาพบว่าทุกครั้งที่นักจักรยานอยู่ในกลุ่ม
    พวกเขาปั่นเร็วขึ้น
  • 11:13 - 11:16
    และมันก็พบได้กับทุกอย่างในชีวิต
  • 11:16 - 11:18
    และมันพิสูจน์สิ่งเดียวกันนี้
    ครั้งแล้วครั้งเล่า
  • 11:18 - 11:21
    ว่าคนรอบๆ ตัวคุณนั้นสำคัญ
    และสิ่งแวดล้อมก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง
  • 11:21 - 11:23
    แต่มันขึ้นอยู่กับคุณ ที่จะควบคุมมัน
    เพราะว่ามันเป็นไปได้ทั้งสองทาง
  • 11:23 - 11:26
    80 เปอร์เซ็นต์ของคน
    ที่ไม่ชอบงานที่พวกเขาทำ
  • 11:26 - 11:29
    นั่นหมายถึงคนส่วนใหญ่รอบๆ ตัวเรา
    ไม่ใช่ในห้องนี้ แต่ที่อื่นๆ
  • 11:29 - 11:33
    กำลังเผชิญหน้ากับความพึงพอใจ
    และรั้งเราจากการไขว่คว้าสิ่งที่สำคัญกับเรา
  • 11:33 - 11:35
    ฉะนั้น เราจึงต้องจัดการสิ่งรอบๆ ตัวเหล่านี้
  • 11:35 - 11:37
    ผมพบตัวเองในเหตุการณ์นี้ --
  • 11:39 - 11:42
    ตัวอย่างส่วนตัว สองสามปีก่อน
  • 11:42 - 11:46
    ใครเคยมีงานอดิเรกหรือคลั่งใคล้อะไรไหมครับ
  • 11:46 - 11:49
    ที่เราใช้เวลาไปมากมาย
    และอยากจะทำมันเป็นงานประจำ
  • 11:49 - 11:53
    แต่ไม่มีใครให้ความสำคัญมันเลย
    มันทำเงินอะไรไม่ได้เลย
  • 11:53 - 11:58
    ครับ ผมเป็นแบบนั้นอยู่สี่ปี พยายามที่จะสร้าง
    ลีฟ ยัว เลเจนด์
  • 11:58 - 12:01
    เพื่อช่วยให้คนได้ทำงานในสิ่งที่เขารักและใส่ใจ
    และมีแรงบันดาลใจจริงๆ
  • 12:01 - 12:02
    ผมทำเท่าที่ผมสามารถทำได้
  • 12:02 - 12:04
    และมีเพียงสามคนที่ให้ความสนใจ
  • 12:05 - 12:08
    และพวกเขาก็อยู่ตรงนี้ครับ
    แม่ของผม พ่อ และภรรยาของผม เชลซี
  • 12:08 - 12:09
    ขอบคุณทุกคนครับที่สนับสนุน
  • 12:09 - 12:11
    (เสียงปรบมือ)
  • 12:11 - 12:15
    และผมต้องการมันมากมายเหลือเกัน
    มันเติบโตศูนย์เปอร์เซ็นต์ภายในสี่ปี
  • 12:16 - 12:17
    และผมก็เกือบที่จะล้มเลิก
  • 12:18 - 12:19
    และในตอนนั้นเอง
  • 12:19 - 12:23
    ผมย้ายไปที่ซานฟรานซิสดก
    และเริ่มที่จะพบคนที่ค่อนข้างน่าสนใจ
  • 12:23 - 12:25
    ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตการผจญภัย
  • 12:25 - 12:27
    การทำธุรกิจ และเว็บไซต์ และบล๊อค
    ที่แสนจะสุดเหวี่ยง
  • 12:27 - 12:30
    ที่ไม่ได้ห่างไกลแรงบันดาลใจของพวกเขา
    และพวกเขาก็ช่วยผู้คนในแบบที่มีคุณค่า
  • 12:30 - 12:33
    และหนึ่งในเพื่อนของผม
    ตอนนี้ เขามีครอบครัวขนาดแปดคน
  • 12:33 - 12:35
    และทำงานเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัว
  • 12:35 - 12:38
    ทำบล๊อคที่เขาเขียนสัปดาห์ละสองครั้ง
  • 12:38 - 12:41
    พวกเขาเพิ่งกลับมาจากการไปยุโรปหนึ่งเดือน
    ทุกคนเลย
  • 12:41 - 12:43
    มันทำให้ผมทึ่ง
    มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
  • 12:43 - 12:47
    และผมก็ได้รับแรงบันดาลใจอย่างน่าประหลาด
    เมื่อเห็นสิ่งนี้
  • 12:47 - 12:50
    และแทนที่จะปิดมัน
    ผมตัดสินใจที่จะจริงจังกับมัน
  • 12:50 - 12:52
    และผมก็ทำทุกอย่างที่สามารถจะทำได้
    เพื่อใช้เวลากับมัน
  • 12:52 - 12:54
    ทุกชั่วโมงที่ผมลืมตาตื่น
    ผลพยายามที่จะไล่ล่าหาคนพวกนี้เท่าที่จะทำได้
  • 12:54 - 12:57
    ไปเที่ยวและดื่มและพูดคุย อะไรก็ตาม
  • 12:57 - 12:59
    และหลังจากสี่ปีของการเติบโตที่เป็นศูนย์
  • 12:59 - 13:01
    ภายในหกเดือนหลังจากออกไปพบกับคนพวกนี้
  • 13:01 - 13:04
    สังคมที่ลีฟ ยัว เลเจนด์ โตขึ้น 10 เท่า
  • 13:04 - 13:08
    ในอีก 12 เดือน มันเติบโตขึ้น 160 เท่า
  • 13:08 - 13:11
    และวันนี้ คนกว่า 30,000 ราย
    จาก 158 ประเทศ
  • 13:11 - 13:14
    ใช้หน้าที่การงานและอุปกรณ์เชื่อมต่อของเรา
    ทุกๆ เดือน
  • 13:14 - 13:19
    และคนเหล่านี้ได้สร้างสังคมแห่งบุคคลบันดาลใจ
  • 13:19 - 13:21
    ผู้ที่ให้แรงบันดาลใจกับความเป็นไปได้ที่ผมเฝ้าฝันถึง
  • 13:21 - 13:24
    สำหรับ ลีฟ ยัว เลเจนด์ เมื่อหลายปีก่อน
  • 13:24 - 13:26
    ผู้คนนั้นเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง
    และนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไม --
  • 13:26 - 13:29
    แบบว่า คุณถามว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น
  • 13:29 - 13:31
    เป็นเวลาสี่ปี ผมไม่รู้จักใครเลยในที่นี้
  • 13:31 - 13:35
    และผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีตัวตน
    ที่ว่าคนจะทำสิ่งนี้ได้
  • 13:35 - 13:37
    ที่ว่าคนจะสร้างกระแสอะไรแบบนี้
  • 13:37 - 13:40
    และจากนั้นผมก็มาอยู่ที่นี่ในซานฟรานซิสโก
    และทุกคนรอบๆ ตัวผมก็ทำสิ่งนี้
  • 13:40 - 13:44
    มันกลายเป็นสิ่งธรรมดา ความคิดของผมเริ่มจาก
    ผมจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร
  • 13:44 - 13:46
    ไปเป็นผมจะไม่ทำมันได้อย่างไร
  • 13:46 - 13:49
    และจากนั้น เมื่อมันเกิดขึ้น
    สัญญาณก็ถูกเปิดขึ้นในความคิดของคุณ
  • 13:49 - 13:51
    มันส่งเป็นระลอกคลื่นออกไปทั่วทั้งโลก
  • 13:51 - 13:54
    และโดยไม่ต้องพยายาม
    มาตราฐานของคุณพัฒนาไปจากจุดนี้
  • 13:54 - 13:58
    คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย
    คุณแค่ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมของคุณ
  • 13:58 - 14:02
    แค่นั้นแหละครับ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม
    ผมถึงรักที่จะอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน
  • 14:02 - 14:04
    ทำไมผมถึงไปทุกงาน TED เท่าที่ผมจะทำได้
  • 14:04 - 14:07
    และดูพวกเขาบน iPad ระหว่างไปทำงาน
    หรืออะไรก็ตามแต่
  • 14:07 - 14:10
    เพราะว่าคนกล่มนี้แหละที่
    ให้แรงบันดาลใจในความเป็นไปได้
  • 14:10 - 14:13
    เรามีทั้งวันที่จะอยู่ด้วยกัน และอาจมากมายกว่านั้น
  • 14:13 - 14:17
    สรุปนะครับ ในนิยามของเสาหลักสามประการ
  • 14:17 - 14:21
    พวกมันมีจุดร่วมเดียวกัน ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
  • 14:21 - 14:23
    เราควบคุมมันได้ 100 เปอร์เซ็นต์
  • 14:23 - 14:26
    ไม่มีใครสามารถบอกคุณได้ว่า
    คุณไม่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองได้
  • 14:26 - 14:28
    ไม่มีใครสามารถบอกคุณได้ว่า
    คุณไม่สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของคุณได้
  • 14:28 - 14:31
    และเรียนรู้ความเป็นไปไม่ได้ของคุณ
    และสู้กับสิ่งนั้น
  • 14:31 - 14:34
    ไม่มีใครบอกคุณได้ว่า
    คุณไม่สามารถที่จะอยู่ท่ามกลางคนที่สร้างแรงบันดาลใจ
  • 14:34 - 14:36
    หรือออกไปจากคนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่
  • 14:36 - 14:37
    คุณไม่สามารถควบคุมภาวะเศรษฐกิจได้
  • 14:37 - 14:41
    คุณไม่สามารถควบคุมการถูกไล่ออก
    หรือการไปอยู่ในอุบัติเหตุรถยนต์ได้
  • 14:41 - 14:43
    สิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่มันเกินกว่าที่เราจะควบคุม
  • 14:43 - 14:45
    สามสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับเราล้วนๆ
  • 14:47 - 14:51
    และพวกมันสามารถเปลี่ยนโลกของเราได้ทั้งใบ
    ถ้าเราตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง
  • 14:52 - 14:55
    และประเด็นก็คือว่า มันเริ่มที่จเะกิดขึ้น
    ในระดับที่ขยายกว้างออกไป
  • 14:55 - 14:58
    ผมเพิ่งได้อ่าน [นิตยสาร] โฟบ รัฐบาลอเมริกัน
    รายงานเป็นครั้งแรกว่า
  • 14:58 - 15:01
    ภายในหนึ่งเดือน ว่ามีคนออกจากงาน
  • 15:01 - 15:02
    มากกว่าถูกไล่ออกจากงาน
  • 15:02 - 15:06
    พวกเขาคิดว่ามันเป็นความผิดปกติ
    แต่มันเกิดขึ้นสามเดือนติดต่อกัน
  • 15:06 - 15:08
    ไม่นาน ผู้คนอ้างว่า
    มันเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็นใจ
  • 15:08 - 15:11
    ผู้คนชูนิ้วกลางให้กับชีวิตที่ถูกขีดเส้นมาให้เดิน
  • 15:11 - 15:13
    สิ่งที่คนพูดๆ กันว่า คุณควรที่จะทำ
  • 15:13 - 15:17
    แทนที่จะเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อพวกเขา
    และทำในสิ่งที่บันดาลใจพวกเขา
  • 15:17 - 15:19
    และคนก็ตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นไปได้นี้
  • 15:19 - 15:25
    ที่จริงๆ แล้ว สิ่งเดียวที่จำกัดความเป็นไปได้ตอนนี้
    คือความคิดสร้างสรรค์
  • 15:25 - 15:27
    มันไม่ใช่ความซ้ำซากจำเจอีกต่อไปแล้ว
  • 15:27 - 15:31
    ผมไม่สนหรอกว่า คุณสนใจอะไร
    มีความคลั่งใคล้อะไร มีงานอดิเรกอะไร
  • 15:31 - 15:34
    ถ้าคุณชอบถักนิตติ้ง คุณสามารถพบใครสักคน
    ที่ถักนิตติ้ง
  • 15:34 - 15:36
    และคุณสามารถเรียนกจากพวกเขาได้
    มันน่าตื่นเต้นแบบนั้นแหละ
  • 15:36 - 15:40
    และวันทั้งวันก็ควรจะเป็นแบบนี้
    เป็นการเรียนรู้จากการเล่าสู่กันฟัง
  • 15:40 - 15:43
    และเราก็เก็บประวัติคนเหล่านี้ใน
    ลีฟ ยัว เลเจนด์ ทุกๆ วัน
  • 15:43 - 15:46
    เพราะเมื่อคนทั่วๆ ไปกำลังทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา
  • 15:46 - 15:48
    และคุณสามารถไปอยู่ในกลุ่มนั้นได้
  • 15:48 - 15:50
    มันกลายเป็นสิ่งธรรมดา
  • 15:50 - 15:54
    และมันไม่ใช่การเป็นคานธี หรือสตีฟ จ๊อบ
    ทำอะไรที่คนอื่นเขาว่าบ้า
  • 15:54 - 15:56
    มันเป็นการทำอะไรบางอย่างที่สำคัญกับคุณ
  • 15:56 - 15:58
    และสร้างความสำคัญที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่ทำได้
  • 16:00 - 16:03
    พูดถึงคานธี เขาเคยเป็นทนาย
  • 16:03 - 16:05
    เท่าที่ผมเคยได้ยินมา
  • 16:05 - 16:08
    และเขาได้พบกับเหตุการณ์สำคัญ
    บางอย่างที่สำคัญกับเขา
  • 16:08 - 16:09
    เขาไม่สามารถจะไม่ทำมันได้
  • 16:09 - 16:11
    และเขาก็มีปรัชญาที่เขาใช้ดำเนินชีวิตที่ว่า
  • 16:11 - 16:14
    "ตอนแรกเขาละเลยคุณ
    จากนั้นก็หัวเราะเยาะคุณ
  • 16:14 - 16:16
    จากนั้นพวกเขาก็สู้กับคุณ และคุณก็ชนะ"
  • 16:18 - 16:21
    ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้จนกระทั่งใครสักคนทำสำเร็จ
  • 16:21 - 16:24
    คุณสามารถอยู่กับผู้คนที่บอกคุณว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก
  • 16:24 - 16:26
    และบอกคุณว่า คุณโง่เหลือเกินที่พยายาม
  • 16:26 - 16:29
    หรือจะอยู่กับคนที่ให้แรงบันดาลใจที่เป็นไปได้
  • 16:29 - 16:31
    ผู้คนที่อยู่ในห้องนี้
  • 16:32 - 16:35
    เพราะผมเห็นว่ามันคือความรับผิดชอบของเรา
    ที่จะแสดงให้โลกเห็น
  • 16:36 - 16:39
    ว่าสิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้
    สามารถเป็นสิ่งที่เป็นธรรมดาได้
  • 16:39 - 16:41
    และมันก็เริ่มที่จะเกิดขึ้นแล้ว
  • 16:41 - 16:44
    อย่างแรก ทำในสิ่งที่บันดาลใจเรา
  • 16:44 - 16:48
    เพื่อที่เราจะได้ให้แรงบันดาลใจนั้นกับคนอื่น
    ในการทำสิ่งที่บันดาลใจพวกเขา
  • 16:48 - 16:49
    แต่เราไม่สามารถพบสิ่งนั้นได้
  • 16:50 - 16:52
    เว้นเสียแต่ว่า เราจะรู้ว่าเรากำลังมองหาอะไร
  • 16:52 - 16:54
    พวกเราจะต้องทำด้วยตัวของพวกเราเอง
  • 16:54 - 16:57
    ทำตัวให้เป็นสากลเกี่ยวกับเรื่องนั้น
    และทำการค้นพบ
  • 16:57 - 17:01
    เพราว่า ผมลองคิดดูว่า จะเป็นอย่างไร
    ถ้าโลกของเรามีคน 80 เปอร์เซ็นต์
  • 17:01 - 17:02
    ที่รักงานที่ทำ
  • 17:02 - 17:06
    นวัฒกรรมจะเป็นอย่างไร
    คุณจะปฏิบัติกับคนรอบๆ ตัวคุณอย่างไร
  • 17:06 - 17:07
    สิ่งต่างๆ จะเริ่มเปลี่ยนไป
  • 17:09 - 17:12
    และขณะที่ผมกำลังจะจบการบรรยาย
    ผมมีคำถามเดียวที่จะถามพวกคุณ
  • 17:12 - 17:15
    และคิดว่า มันเป็นเพียงคำถามเดียวที่สำคัญ
  • 17:15 - 17:17
    และมันก็คือ งานใดที่คุณไม่อาจจะไม่ทำได้
  • 17:18 - 17:21
    ค้นหามัน ใช้ชีวิตกับมัน
  • 17:21 - 17:23
    ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อตัวคุณ
    แต่เพื่อทุกคนรอบตัวคุณ
  • 17:24 - 17:27
    เพราะว่านี่คือการเริ่มต้น
    ในการเปลี่ยนแปลงโลก
  • 17:27 - 17:30
    อะไรล่ะ ที่เป็นงานที่คุณทำไม่ได้
  • 17:30 - 17:32
    ขอบคุณทุกคนครับ
  • 17:32 - 17:34
    (เสียงปรบมือ
Title:
เราจะพบงานที่เรารักได้อย่างไร
Speaker:
สก๊อต ดินสมอร์ (Scott Dinsmore)
Description:

สก๊อต ดินสมอร์ ลาออกจากงานที่ทำให้เขาไม่มีความสุข และใช้เวลาอีกสี่ปีคิดว่าจะพบงานที่น่าสนุกและมีความหมายได้อย่างไร เขาแบ่งปันสิ่งที่เขาได้เรียนรู้ในการบรรยายที่เรียบง่ายอย่างเหลือเชื่อ เกี่ยวกับการค้นพบว่าอะไรสำคัญกับคุณ -- และจากนั้นก็เริ่มลงมือทำ

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
17:47
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How to find work you love
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for How to find work you love
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to find work you love
Sakunphat Jirawuthitanant edited Thai subtitles for How to find work you love
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How to find work you love
Show all

Thai subtitles

Revisions