WEBVTT 00:00:00.240 --> 00:00:03.256 ว้าว เป็นเกียรติเหลือเกินครับ ผมคิดอยู่เรื่อยว่า มันจะรู้สึกอย่างไร NOTE Paragraph 00:00:03.280 --> 00:00:08.055 แปดปีก่อน ผมได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการทำงาน ที่แย่ที่สุดในชีวิต 00:00:08.080 --> 00:00:09.536 เพื่อนของผมบอกว่า 00:00:09.560 --> 00:00:12.496 "อย่าห่วงไปเลย ว่าคุณมีความสุขกับงาน ที่ทำอยู่ตอนนี้แค่ไหน 00:00:12.520 --> 00:00:14.536 มันก็แค่ การสร้างประวัติการทำงานของคุณเท่านั้นแหละ" NOTE Paragraph 00:00:14.560 --> 00:00:17.216 ผมเพิ่งจะกลับจากการไปอยู่ที่สเปนสักพัก 00:00:17.240 --> 00:00:20.574 และผมก็เพิ่งจะเข้าทำงานที่บริษัทในฟอร์จูน 500 ผมคิดว่า "นี่มันเจ๋งไปเลย 00:00:20.598 --> 00:00:22.614 ผมกำลังจะสร้างความแตกต่างอย่างมาก ให้กับโลกใบนี้" 00:00:22.638 --> 00:00:25.336 ผมมีความคิดทั้งหมดนี้ ภายในประมาณสองเดือน 00:00:25.360 --> 00:00:28.360 ผมสังเกตว่าทุกเช้าเวลา 10 โมง ผมมีความต้องการอันแปลกประหลาด 00:00:28.384 --> 00:00:31.936 ที่ต้องการฟาดหัวตัวเอง ให้ทะลุจอคอมพิวเตอร์ 00:00:31.960 --> 00:00:33.865 ผมไม่รู้ว่า มีใครเคยรู้สึกแบบนี้ไหม 00:00:33.889 --> 00:00:37.416 และผมสังเกตุได้ค่อนข้างเร็วหลังจากนั้น ว่าคู่แข่งทั้งหมดในที่ของเรา 00:00:37.440 --> 00:00:40.336 ได้แทนที่บทบาทหน้าที่งานของผมไปแล้ว 00:00:40.360 --> 00:00:44.576 และมันก็ถูกต้องเลยเมื่อผมได้รับคำแนะนำที่ดีนี้ เพื่อเพิ่มมันเอาไว้ในประวัติการทำงานของผม NOTE Paragraph 00:00:44.600 --> 00:00:46.616 ครับ ขณะที่ผมกำลังพยายามหาทาง 00:00:46.640 --> 00:00:53.136 ว่าหน้าต่างชั้นสองบานไหน ที่ผมควรโดดลงมา และเปลี่ยนแปลงเรื่องทั้งหมด 00:00:53.160 --> 00:00:56.896 ผมอ่านคำแนะนำที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง จากวอเรน บัฟเฟต และเขาบอกว่า 00:00:56.920 --> 00:01:02.536 "รับทำงานเพื่อสร้างประวัติการทำงานของคุณ ก็เหมือนกับเก็บเรื่องบนเตียงไว้ทำยามแก่" NOTE Paragraph 00:01:02.560 --> 00:01:04.296 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:01:04.319 --> 00:01:06.616 และผมได้ยินสิ่งนั้น และนั่นก็เป็นทุกอย่างที่ผมต้องการ 00:01:06.640 --> 00:01:09.856 ภายในสองสัปดาห์ ผมออกจากที่นั่น และเหลืออยู่แต่เพียงหนึ่งความตั้งใจ 00:01:09.880 --> 00:01:12.936 ที่จะหาอะไรบางอย่างที่ผมจะทำมันพัง มันยากอย่างนั้นแหละ 00:01:12.960 --> 00:01:15.976 ผมอยากจะทำอะไรบางอย่างที่สำคัญ ไม่สำคัญหรอกว่ามันเป็นอะไร NOTE Paragraph 00:01:16.000 --> 00:01:18.715 และในไม่ช้า ผมก็พบว่าผมไม่ใช่คนเดียว 00:01:18.739 --> 00:01:21.576 มันกลายเป็นว่า คนรอบๆ ตัว กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ 00:01:21.600 --> 00:01:23.096 ไม่ได้ชอบงานของพวกเขา 00:01:23.120 --> 00:01:24.656 ผมคิดว่าคนในห้องนี้จะต่างออกไป 00:01:24.680 --> 00:01:27.536 แต่นั่นเป็นค่าเฉลี่ย ที่ ดีลอยท์ ได้ทำการศึกษา 00:01:27.560 --> 00:01:30.608 ฉะนั้น ผมต้องการที่จะรู้ว่า อะไรที่ทำให้คนเหล่านี้ต่างกันระหว่าง 00:01:30.632 --> 00:01:32.968 คนที่ทำงานที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ ที่น่าหลงใหล 00:01:32.992 --> 00:01:34.616 ที่ตื่นขึ้นมาพร้อมแรงบันดาลใจทุกวัน 00:01:34.640 --> 00:01:36.416 และคนอีก 80 เปอร์เซ็นต์ 00:01:36.440 --> 00:01:38.496 ผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวังแบบเงียบๆ NOTE Paragraph 00:01:38.520 --> 00:01:41.776 ฉะนั้น ผมเริ่มที่จะสัมภาษณ์ผู้คน ที่ทำงานที่มีแรงบันดาลใจนี้ 00:01:41.800 --> 00:01:44.616 และผมอ่านหนังสือ และทำกรณีศึกษา 00:01:44.640 --> 00:01:47.336 รวมกันทั้งหมด 300 เล่ม ที่เกี่ยวกับจุดประสงค์ และการงาน และอะไรพวกนั้น 00:01:47.360 --> 00:01:51.680 ทั้งหมดแค่สนองความต้องการของตัวเอง เป็นเหตุผลที่เห็นแก่ตัวสำหรับ -- 00:01:52.240 --> 00:01:54.736 ผมต้องการที่จะหางาน ที่ผมไม่อาจจะไม่ทำได้ 00:01:54.760 --> 00:01:56.296 อะไรคือสิ่งนั้นสำหรับผม NOTE Paragraph 00:01:56.320 --> 00:01:58.962 แต่เมื่อผมทำอย่างนี้ คนก็เริ่มถามผมมากขึ้นและมากขึ้น 00:01:58.986 --> 00:02:00.456 "คุณจริงจังกับเรื่องงานการ 00:02:00.480 --> 00:02:02.696 ผมไม่ชอบงานของผม เราไปกินข้าวด้วยกันไหม" 00:02:02.720 --> 00:02:04.896 ผมบอกว่า "แน่นอน" แต่ผมต้องเตือนพวกเขาไว้ก่อนว่า 00:02:04.920 --> 00:02:07.216 เพราะว่า ณ ตอนนี้ อัตราการลาออกที่ผมเจออยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ 00:02:07.240 --> 00:02:10.466 ของคนที่มานั่งกินข้าวเที่ยงกับผม 80 เปอร์เซ็นต์จะลาออก 00:02:10.491 --> 00:02:11.656 ภายในสองเดือน 00:02:11.680 --> 00:02:15.896 ผมภูมิใจนะ และมันก็ไม่ได้เป็นเพราะผมมีพลังวิเศษอะไร 00:02:15.920 --> 00:02:17.968 ผมก็แค่ถามคำถามง่ายๆ คำถามหนึ่ง 00:02:17.992 --> 00:02:20.608 ซึ่งก็คือ "ทำไมคุณถึงทำงานที่คุณทำอยู่ตอนนี้" 00:02:20.632 --> 00:02:22.736 และบ่อยครั้ง คำตอบของพวกเขาก็จะเป็น 00:02:22.760 --> 00:02:25.056 "ก็เพราะว่า ใครบางคนบอกว่าผมควรทำ" 00:02:25.080 --> 00:02:27.216 และผมก็ตระหนักว่า ผู้คนรอบๆ ตัวเรา 00:02:27.240 --> 00:02:30.856 กำลังไต่บันไดขึ้นไป เพราะใครบางคนบอกให้พวกเขาทำ 00:02:30.880 --> 00:02:33.416 และสุดท้ายก็ไปเจอกับกำแพงที่ผิดอัน 00:02:33.440 --> 00:02:35.096 หรือไม่มีกำแพงอะไรเลย NOTE Paragraph 00:02:35.120 --> 00:02:37.816 ยิ่งผมใช้เวลากับผู้คนเหล่านี้และมองเห็นปัญหานี้ มากเท่าไร 00:02:37.840 --> 00:02:40.056 ผมยิ่งคิดว่า ถ้าหากเราสามารถสร้างสังคม 00:02:40.080 --> 00:02:42.456 ที่เป็นที่ซึ่งผู้คุณรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง 00:02:42.480 --> 00:02:44.623 และมันก็ โอเค ที่จะทำอะไรที่แตกต่างได้ 00:02:44.647 --> 00:02:47.362 เพื่อจะเดินไปในหนทางที่คนมักไม่ค่อยเลือก ซึ่งนั่นก็จะได้รับการสนับสนุน 00:02:47.386 --> 00:02:49.936 และให้แรงบันดาลใจกับคนในการเปลี่ยนแปลง 00:02:49.960 --> 00:02:52.656 และภายหลัง นั่นกลายเป็นสิ่งที่ผมเรียกว่า ลีฟ ยัว เลเจนด์ (Live Your Legend) 00:02:52.680 --> 00:02:54.347 ซึ่งผมจะอธิบายให้ฟังอีกที 00:02:54.371 --> 00:02:58.056 แต่เมื่อผมได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้ ผมสังเกตุกรอบแนวทาง 00:02:58.080 --> 00:02:59.461 ของสิ่งง่ายๆ สามประการ 00:02:59.485 --> 00:03:02.616 ที่ความหลงใหลที่สามารถเปลี่ยนแปลงโลก ทั้งหมดนี้ มีอย่างร่วมกัน 00:03:02.640 --> 00:03:05.296 ไมว่าคุณจะเป็น สตีฟ จ๊อป หรือถ้าว่าคุณจะเป็นแค่ 00:03:05.320 --> 00:03:07.376 มนุษย์สักคนที่มีร้านขนมปังที่อยู่ถัดไปหน่อย 00:03:07.400 --> 00:03:09.416 แต่คุณกำลังทำงาน ที่เป็นรูปลักษณ์ตัวตนของคุณ 00:03:09.440 --> 00:03:12.336 ผมอยากที่จะแบ่งปันสามสิ่งนี้กับคุณ เพื่อคุณจะได้สามารถใช้มันเป็นเลนส์ 00:03:12.360 --> 00:03:15.027 สำหรับวันนี้ทั้งวัน และหวังว่าจะใช้ได้กับทั้งชีวิตด้วย NOTE Paragraph 00:03:15.051 --> 00:03:17.827 ส่วนแรกของกรอบแนวทาง ความหลงใหลสามขั้นตอนนี้ 00:03:17.851 --> 00:03:20.776 คือการเป็นผู้รู้จักตัวเอง และเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ 00:03:20.800 --> 00:03:23.456 เพราะว่า ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณกำลังมองหาอะไรแล้ว 00:03:23.480 --> 00:03:25.096 คุณก็คงจะหามันไม่เจอ 00:03:25.120 --> 00:03:27.740 และที่สำคัญ ไม่มีใครที่จะทำสิ่งนี้ให้เรา 00:03:27.764 --> 00:03:31.456 ไม่มีสาขาวิชาใดในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง กับความหลงใหล และจุดรปะสงค์ และการงาน 00:03:31.480 --> 00:03:33.736 ผมไม่รู้ว่าทำไมมันไม่เป็นวิชาเอกควบบังคับ 00:03:33.760 --> 00:03:35.576 แต่อย่าให้ผมเริ่มบ่นเลยครับ 00:03:35.600 --> 00:03:38.576 ผมหมายความว่า คุณใช้เวลาไปมาก ในการเลือกทีวีในห้องพัก 00:03:38.600 --> 00:03:41.536 ยิ่งกว่าคุณใช้เวลาเลือกวิชาเอก และสาขาวิชาที่จะศึกษาเสียอีก 00:03:41.560 --> 00:03:44.176 แต่ประเด็นก็คือ มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะเข้าใจ 00:03:44.200 --> 00:03:47.416 และเราต้องการกรอบแนวทาง เราต้องการวิธีนำร่องผ่านสิ่งนี้ NOTE Paragraph 00:03:47.440 --> 00:03:51.298 และขั้นแรกของเข็มทิศของเราคือหาว่า อะไรคือความแข็งแกร่งที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา 00:03:51.322 --> 00:03:54.336 อะไรที่เป็นสิ่งที่เราตื่นขึ้นมาแล้วรักที่จะทำ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม 00:03:54.360 --> 00:03:57.856 ไม่ว่าเราจะได้เงินหรือไม่ และเป็นสิ่งที่คนจะขอบคุณที่เราทำ 00:03:57.880 --> 00:04:00.856 สเตรงท์ ไฟเดอร์ 2.0 (Strengths Finder 2.0) เป็นหนังสือ และคู่มือออนไลน์ 00:04:00.880 --> 00:04:04.616 ผมขอแนะนำมัน เพื่อค้นหาว่า คุณเก่งในเรื่องใด NOTE Paragraph 00:04:04.640 --> 00:04:09.056 และต่อไป อะไรคือกรอบแนวทาง หรือลำดับในการตัดสินใจ 00:04:09.080 --> 00:04:13.296 เราสนใจหรือเปล่าในเรื่องผู้คน ครอบครัวของเรา สุขภาพ 00:04:13.320 --> 00:04:15.456 หรือว่ามันเป็นความสำเร็จ อะไรแบบนั้นหรือเปล่า 00:04:15.480 --> 00:04:18.147 คุณจะต้องหาให้พบว่ามันคืออะไร เพื่อที่จะได้ตัดสินใจ 00:04:18.171 --> 00:04:19.896 เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า จิตวิญญาณของเราทำได้วยอะไร 00:04:19.920 --> 00:04:24.616 เพื่อที่เราจะได้ไม่ขายมัน ให้กับอะไรก็ตามที่เราไม่ได้แยแสใส่ใจ NOTE Paragraph 00:04:24.640 --> 00:04:28.336 และจากนั้น ขั้นต่อไปคือ ประสบการณ์ของเรา 00:04:28.360 --> 00:04:31.816 พวกเราทุกคนมีประสบการณ์เหล่านี้ เราเรียนรู้ทุกๆ วัน ทุกๆ นาที 00:04:31.840 --> 00:04:33.536 ว่าเรารักอะไร เกลียดอะไร 00:04:33.560 --> 00:04:35.560 เก่งในเรื่องใด และไม่เก่งในเรื่องใด 00:04:35.584 --> 00:04:37.976 และถ้าเราไม่ใช้เวลาใส่ใจกับสิ่งเหล่านั้น 00:04:38.000 --> 00:04:39.536 และทำให้คล้ายกลับว่าเป็นการเรียนรู้ 00:04:39.560 --> 00:04:42.536 และใช้มันกับทั้งชีวิตของเรา มันก็ไร้ความหมาย 00:04:42.560 --> 00:04:45.216 ทุกวัน ทุกสัปดาห์ ทุกเดือนของปี 00:04:45.240 --> 00:04:47.696 ผมใช้บางเวลาแค่เพื่อจะครุ่นคิด ว่าสิ่งที่เป็นไปได้ดี 00:04:47.720 --> 00:04:49.863 สิ่งใดที่ผิดพลาด และอะไรที่ผมอยากจะทำซ้ำ 00:04:49.887 --> 00:04:51.463 อะไรที่ผมจะใช้ได้มากกว่านี้ในชีวิต NOTE Paragraph 00:04:51.487 --> 00:04:54.576 และแม้จะเป็นอย่างนั้น อย่างที่คุณเห็น โดยเฉพาะวันนี้ 00:04:54.600 --> 00:04:56.981 ผู้ที่ให้แรงบันดาลใจกับคุณ ผู้ที่ทำสิ่งที่คุณบอกว่า 00:04:57.005 --> 00:04:59.936 "โอ้พระเจ้า สิ่งที่เจฟทำนั่น ผมอยากจะเป็นแบบเขา" 00:04:59.960 --> 00:05:01.681 ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้น เปิดสมุดบันทึก 00:05:01.706 --> 00:05:03.776 เขียนลงไป ว่าอะไรกันที่ให้แรงบันดาลใจกับคุณ 00:05:03.800 --> 00:05:05.856 มันไม่ได้เป็นทุกอย่างในชีวิตคุณหรอก 00:05:05.880 --> 00:05:07.696 แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม จดมันลงไป 00:05:07.720 --> 00:05:10.016 แล้วเมื่อเวลาผ่านไป เราจะมีคลัง 00:05:10.040 --> 00:05:14.256 ของสิ่งที่เราสามารถปรับใช้กับชีวิตของเรา และมีอยู่อย่างมีความปรารถนามากกว่า 00:05:14.280 --> 00:05:15.776 และทำสิ่งความแตกต่างได้ดีกว่า 00:05:15.800 --> 00:05:18.181 เพราะเมื่อเราเริ่มนำสิ่งเหล่านี้มารวมกัน 00:05:18.205 --> 00:05:21.496 เราจะสามารถกำหนดได้ว่า ความสำเร็จใดมีความหมายกับเรา 00:05:21.520 --> 00:05:24.656 และเมื่อปราศจากส่วนต่างๆ ของเข็มทิศนี้ มันก็เป็นไปไม่ได้ 00:05:24.680 --> 00:05:27.300 เราก็จะอยู่ในสถานการณ์ -- เรามีชีวิตที่ถูกกำหนดบทบาท 00:05:27.324 --> 00:05:30.456 ที่ทุกๆ คน เหมือนจะมีชีวิตอยู่ เพื่อไต่บันไดขึ้นไปยังที่ใดก็ไม่รู้ NOTE Paragraph 00:05:30.480 --> 00:05:33.136 มันเหมือนกับใน วอล สตรีท 2 ถ้าใครเคยชมนะครับ 00:05:33.160 --> 00:05:36.976 ลูกจ้างถามเจ้าของกิจการ ธนาคาร วอล สตรีท ขนาดใหญ่ ว่า 00:05:37.000 --> 00:05:39.136 "คุณได้เงินเท่าไร ทุกคนมีเงินจริงไหม 00:05:39.160 --> 00:05:41.696 ถ้าพวกเขาทำเงินได้มากขนาดนี้ พวกเขาจะไปกันหมด" 00:05:41.720 --> 00:05:44.240 เขาบอกว่า "โอ้ ง่ายจะตาย มากกว่านี้อีก" 00:05:45.120 --> 00:05:46.416 แล้วก็ยิ้ม 00:05:46.440 --> 00:05:48.216 และมันก็เป็นสถานะการณ์ที่น่าเศร้า ที่คนส่วนใหญ่ 00:05:48.240 --> 00:05:50.776 ที่ไม่ได้ใช้เวลาทำความเข้าใจ กับสิ่งที่สำคัญต่อพวกเขา 00:05:50.800 --> 00:05:53.536 ผู้ที่พยายามเอื้อมให้ถึงอะไรบางอย่าง ไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่ง 00:05:53.560 --> 00:05:56.056 แต่เรากำลังทำเพราะว่า ทุกคนบอกว่าเราควรทำ 00:05:56.080 --> 00:05:57.816 แต่เมื่อเรานำกรอบแนวทางนี้เข้ามารวมกัน 00:05:57.840 --> 00:06:00.456 เราสามารถเริ่มบ่งชี้ได้ว่า สิ่งใดที่ทำให้เรามีชีวิตชีวา 00:06:00.480 --> 00:06:03.696 คุณรู้ไหม ก่อนหน้านี้ แรงบันดาลใจ อาจวิ่งเข้าใส่และชนหน้าคุณ 00:06:03.720 --> 00:06:06.416 หรือบางทีในการงานของคุณ คุณอาจโยนมันทิ้งไป 00:06:06.440 --> 00:06:08.631 เพราะว่าคุณไม่มีวิธีการที่จะบ่งชี้มัน 00:06:08.655 --> 00:06:12.191 แต่เมื่อคุณมี คุณสามารถเห็นสิ่งที่สอดคล้อง กับจุดแข็งของผม 00:06:12.215 --> 00:06:14.016 กับคุณค่าขอผม ในฐานะคนคนหนึ่ง 00:06:14.040 --> 00:06:17.326 ฉะนั้น ผมกำลังที่จะจับมันไว้ ผมกำลังจะทำอะไรบางอย่ากับมัน 00:06:17.350 --> 00:06:20.208 และผมกำลังที่จะไขว่คว้ามัน และพยายามที่จะสร้างความแตกต่างด้วยมัน NOTE Paragraph 00:06:20.232 --> 00:06:22.776 ลีฟ ยัว เลเจนด์ และกระแสที่พวกเราสร้าง 00:06:22.800 --> 00:06:25.467 คงไม่เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีเข็มทิศนี้ในการบ่งชี้ 00:06:25.491 --> 00:06:28.736 "ว้าว นี่มันเป็นอะไรบางอย่าง ที่ผมต้องการที่จะไขว่คว้าและสร้างความแตกต่าง" 00:06:28.760 --> 00:06:31.816 ถ้าผมไม่รู้ว่าผมกำลังมองหาอะไร ผมคงไม่ได้พบมัน 00:06:31.840 --> 00:06:34.376 แต่เมื่อผมมีกรอบแนวทาง มีเข็มทิศนี้ 00:06:34.400 --> 00:06:38.856 แล้วผมก็เดินหน้าเพื่อสิ่งต่อไป -- และข้างบนนั้นก็ไม่ใช่ผม -- 00:06:38.880 --> 00:06:41.096 ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และก้าวข้ามข้อจำกัด 00:06:41.120 --> 00:06:43.136 มีสองเหตุผลว่าทำไมคนถึงไม่ทำแบบนั้น 00:06:43.160 --> 00:06:45.136 อย่างแรกเลย คือพวกเขาบอกตัวเองว่า พวกเขาทำไม่ได้ 00:06:45.160 --> 00:06:47.296 หรือคนรอบๆ ตัวพวกเขาบอกพวกเขาว่า พวกเขาทำไม่ได้ 00:06:47.320 --> 00:06:48.856 ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม พวกเราเริ่มที่จะเชื่อมัน 00:06:48.880 --> 00:06:51.256 ไม่ว่าเราจะล้มเลิก หรือไม่คิดจะเริ่มทำ NOTE Paragraph 00:06:51.280 --> 00:06:54.176 ประเด็นก็คือ ทุกคนก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น จนกระทั่งมีคนทำมัน 00:06:54.200 --> 00:06:56.736 ทุกนวัฒกรรม ทุกสิ่งใหม่ในโลกใบนี้ 00:06:56.760 --> 00:06:58.427 ที่ตอนแรกคนคิดว่ามันบ้า 00:06:58.451 --> 00:07:01.880 โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ กับการวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที มันเป็นไปไม่ได้ทางกายภาพ 00:07:01.904 --> 00:07:04.296 ในการทำลานสถิติวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที 00:07:04.320 --> 00:07:06.336 จนกระทั่ง โรเจอร์ แบนนิสเตอร์ ลุกขึ้นและทำมัน 00:07:06.360 --> 00:07:07.576 แล้วจากนั้นเกิดอะไรขึ้น 00:07:07.600 --> 00:07:10.216 สองเดือนต่อมา คน 16 คนทำลายสถิติการวิ่งหนึ่งไมล์ในสี่นาที 00:07:10.240 --> 00:07:12.976 สิ่งที่เราคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ 00:07:13.000 --> 00:07:15.136 มักจะเป็นแค่เพียงหลักชัย ที่รออยู่ให้เราไปถึง 00:07:15.160 --> 00:07:16.780 ถ้าเราสามารถก้าวข้ามข้อจำกัดสักนิดเหล่านั้น 00:07:16.804 --> 00:07:20.176 และผมคิดว่า มันเริ่มต้น ด้วยร่างกายและความเกร่ง 00:07:20.200 --> 00:07:22.736 ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด เพราะว่าเราสามารถควบคุมมันได้ 00:07:22.760 --> 00:07:24.376 ถ้าคุณไม่คิดว่าคุณสามารถวิ่งได้หนึ่งไมล์ 00:07:24.400 --> 00:07:26.456 คุณแสดงให้ตัวเองเห็นว่า คุณสามารถวิ่งได้ไมล์หรือสองไมล์ 00:07:26.480 --> 00:07:29.016 หรือมาราธอน หรือลดน้ำหนักห้าปอด์น หรืออะไรก็ตามแต่ 00:07:29.040 --> 00:07:31.536 คุณตระหนักได้ถึงองค์ประกอบความมั่นใจ 00:07:31.560 --> 00:07:34.056 และสามารถถ่ายทอดมันไปทั่วตัวคุณ NOTE Paragraph 00:07:34.080 --> 00:07:37.736 และผมกับเพื่อนก็เริ่มติดนิสัยแบบนี้นิดหน่อย 00:07:37.760 --> 00:07:40.496 เรามีกลุ่มเล็กๆ เราไปผจญภัยกัน 00:07:40.520 --> 00:07:43.616 และไม่นานมานี้ ผมพบตัวเอง ในแบบที่ไม่มั่นคง 00:07:43.640 --> 00:07:46.656 ผมกลัวความลึก ความมืด น้ำสีคราม 00:07:46.680 --> 00:07:48.696 ผมไม่รู้หรอกว่าใครเคยกลัวแบบนี้บ้าง 00:07:48.720 --> 00:07:51.319 ตั้งแต่พวกเขาดูหนังเรื่อง จอว์ส 1, 2, 3 และ 4 ไปประมาณหอรอบ 00:07:51.344 --> 00:07:52.496 เมื่อผมเป็นเด็ก 00:07:52.520 --> 00:07:57.056 แต่ถ้าจะมีอะไรเกี่ยวกับมัน ถ้ามันมืดๆ มัวๆ ผมก็รู้สึกถึงมันได้เลย 00:07:57.080 --> 00:07:58.856 ผมเชื่อว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น 00:07:58.880 --> 00:08:02.016 แม้ว่ามันจะเป็นทะเลสาป ทาโฮล (Lake Tahoe) มันเป็นน้ำจืด ไม่มีสิ่งใดที่น่ากลัว 00:08:02.040 --> 00:08:03.696 น่าขัน แต่มันอยู่ตรงนั้นครับ 00:08:03.720 --> 00:08:06.216 อย่างไรก็ดี สามปีก่อน ผมอยู่บนเรือโยง 00:08:06.240 --> 00:08:08.216 ทางใต้ลงไป ที่ อ่าวซานฟรานซิสโก 00:08:08.240 --> 00:08:11.696 มันเป็นวันฝนตก มีพายุ ลมแรง และคนบนเรือก็เมาเรือ 00:08:11.720 --> 00:08:15.054 และผมก็นั่งอยู่ตรงนั้น ใส่ชูชีพ และมองออกไปนอกหน้าต่าง 00:08:15.078 --> 00:08:18.056 ด้วยความกลัวว่า ผมจะว่ายน้ำไปสู่ความตาย 00:08:18.080 --> 00:08:20.336 ผมกำลังพยายามจะพยายามว่ายน้ำ ข้ามสะพานโกเดนเกต 00:08:20.360 --> 00:08:24.176 และผมเดาว่า บางคนในห้องนี้ อาจเคยทำมาก่อน 00:08:24.200 --> 00:08:27.416 ผมนั่งอยู่ตรงนั้น และโจนาธานเพื่อนของผม ที่ชวนผมมา 00:08:27.440 --> 00:08:29.696 เขาเข้ามาหาผม และเขาก็เห็นว่าผมเป็นอย่างไร 00:08:29.720 --> 00:08:32.456 และเขาบอกว่า "เฮ้ย สก๊อต มันจะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ 00:08:32.480 --> 00:08:34.616 แกใส่ชูชีพ แกไม่จมหรอก 00:08:34.640 --> 00:08:37.456 และถ้าแกไม่รอด ก็โดดขึ้นเรือพายหนึ่งใน 20 ลำ 00:08:37.480 --> 00:08:40.296 นอกจากนี้นะ ถ้าฉลามมาบุก ทำไมมันต้องเลือกแกด้วย 00:08:40.320 --> 00:08:42.940 จากคนกว่า 80 คนในน้ำด้วยล่ะ" ขอบคุณมาก ช่วยได้มากเลย 00:08:42.964 --> 00:08:45.820 เขาบอกว่า "แต่เอาจริงนะ ขอให้สนุกนะ โชคดี" 00:08:45.844 --> 00:08:48.336 และเขาก็โดดลงน้ำ ว่ายน้ำไป โอเค NOTE Paragraph 00:08:48.360 --> 00:08:52.736 กลายเป็นว่าการพูดปลุกใจนั้นได้ผล และผมรู้สึกสงบนิ่ง 00:08:52.760 --> 00:08:55.696 และผมคิดว่ามันเป็นเพราะ โจนาธานอายุ 13 ขวบ NOTE Paragraph 00:08:55.720 --> 00:08:57.656 (เสียงหัวเราะ) NOTE Paragraph 00:08:57.680 --> 00:09:00.376 และคน 80 คนที่ว่ายน้ำในวันนั้น 00:09:00.400 --> 00:09:03.216 65 คน มีอายุระหว่างเก้าถึง 13 ขวบ 00:09:03.240 --> 00:09:05.976 ลองคิดสิว่าคุณจะเผชิญกับโลกต่างไปอย่างไร 00:09:06.000 --> 00:09:09.176 ถ้าคุณอายุเก้าขวบและพบว่า คุณสามารถว่ายน้ำได้ไมล์ครึ่ง 00:09:09.200 --> 00:09:11.896 ในน้ำอุณหภูมิ 56 องศาฟาเรนไฮด์ จากอัลคาทราซ ถึงซานฟรานซิสโก 00:09:11.920 --> 00:09:13.336 คุณจะตอบตกลงกับอะไร 00:09:13.360 --> 00:09:16.216 คุณจะยอมแพ้ต่ออะไร คุณจะลองทำอะไร 00:09:16.240 --> 00:09:18.336 ตอนที่ผมจะว่ายน้ำเสร็จ ผมไปยัง อะควาติก พาร์ค 00:09:18.360 --> 00:09:19.736 ผมขึ้นจากน้ำ 00:09:19.760 --> 00:09:21.856 และแน่นอน เด็กครึ่งหนึ่งก็ว่ายน้ำเสร็จแล้ว 00:09:21.880 --> 00:09:24.214 พวกเขาก็เลยเชียร์ผม และตื่นเต้นกันทุกคน 00:09:24.238 --> 00:09:27.254 และผมก็สมองชาไปเลย ว่ามีใครเคยว่าน้ำในอ่าวนั่นด้วยหรือ 00:09:27.278 --> 00:09:30.776 และผมก็พยายามที่จะมุ่งหน้าออกไป และผมก็เห็นคนไปถึงเส้นชัย 00:09:30.810 --> 00:09:33.826 และผมเห็นเด็กคนหนึ่ง มีบางอย่างไม่ปกติ 00:09:33.840 --> 00:09:35.856 และเขาก็ทรุดลงไปแบบนี้ 00:09:35.880 --> 00:09:39.296 เขาแทบจะหายใจไม่ได้ ก่อนที่เขาจะมุดหัวลงไป 00:09:39.320 --> 00:09:41.536 ผมสังเกตุเห็นผู้ใหญ่คนอื่นดูอยู่เช่นกัน 00:09:41.560 --> 00:09:44.016 และผมสาบานได้เลยว่า พวกเขาคิดอย่างเดียวกับผม 00:09:44.040 --> 00:09:47.976 นี่แหละ เหตุผลที่คุณไม่ยอมให้เด็กเก้าขวบ ว่ายน้ำจากอัลคาทราซ 00:09:48.000 --> 00:09:49.216 มันไม่ใช่ความเมื่อยล้า 00:09:49.240 --> 00:09:51.536 มันเกิดขึ้นเร็วมาก ผู้ใหญ่สองคน วิ่งไปและคว้าเขา 00:09:51.560 --> 00:09:55.336 และเอาเขาขึ้นบนไหล่ และลากเขาแบบนี้ 00:09:55.360 --> 00:09:57.216 เขากระโผลกกระเผลกไปหมด 00:09:57.240 --> 00:09:59.576 และจากนั้น พวกเขาเดินไปอีกสองสามฟุต 00:09:59.600 --> 00:10:01.576 และวางเขาลงบนรถเข็น 00:10:01.600 --> 00:10:05.136 และเขาก็ชูกำปั้นขึ้น เป็นชัยชนะที่บ้าบอที่สุดที่ผมเคยเห็น 00:10:05.160 --> 00:10:07.816 ผมยังคงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่น และพลังงานจากผู้ชายคนนี้ 00:10:07.840 --> 00:10:09.416 เมื่อเขาประสบกับความสำเร็จ 00:10:09.440 --> 00:10:12.416 วันนั้น ผมได้เห็นเขาก่อนในสภาพที่นั่งรถเข็น 00:10:12.440 --> 00:10:14.416 ผมไม่รู้เลยว่า เขากำลังจะว่ายน้ำ 00:10:14.440 --> 00:10:17.536 ผมหมายถึง เขาจะเป็นอย่างไร ในอีก 20 ปีข้างหน้า 00:10:17.560 --> 00:10:20.976 จะมีคนสักกี่คนบอกเขาว่า เขาทำไม่ได้ ว่าเขาอาจจตาย ถ้าพยายามจะทำ NOTE Paragraph 00:10:21.000 --> 00:10:23.136 คุณพิสูจน์ว่าคนคิดผิด คุณพิสูจน์ว่าคุณคิดผิด 00:10:23.160 --> 00:10:24.976 ที่สามารถเป็นแรงผลัดดันเพิ่มเติมเล็กๆ 00:10:25.000 --> 00:10:26.536 ให้กับสิ่งที่คุณเชื่อว่ามันเป็นไปได้ 00:10:26.560 --> 00:10:28.976 คุณไม่ต้องเป็นนักวิ่งมาราธอน ที่เร็วที่สุดในโลก 00:10:29.000 --> 00:10:31.381 แค่คุณเป็นเจ้าของความเป็นไปไม่ได้ เพื่อที่จะทำมันให้สำเร็จ 00:10:31.405 --> 00:10:33.381 และมันเริ่มต้นจากขั้นเล็กๆ 00:10:33.405 --> 00:10:35.736 และวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการทำสิ่งนี้ 00:10:35.760 --> 00:10:37.976 คือการห้อมล้อมตัวคุณ ด้วยคนที่มีความหลงใหล 00:10:38.000 --> 00:10:40.762 วิธีการที่เร็วที่สุด ในการทำสิ่งที่คุณไม่คิดว่า คุณจะสามารถทำได้ 00:10:40.786 --> 00:10:43.358 คือการห้อมล้อมตัวคุณเอง ด้วยคนที่ทำมันอยุ่แล้ว NOTE Paragraph 00:10:43.382 --> 00:10:45.816 มันมีคำคมจาก จิม โรห์น (Jim Rohn ) ที่ว่า 00:10:45.840 --> 00:10:49.216 "คุณเป็นค่าเฉลี่ยของคนห้าคน ที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด" 00:10:49.240 --> 00:10:52.536 และมันไม่มีเคล็ดลับใดในประวัติศาสตร์โลก ที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ 00:10:52.560 --> 00:10:55.616 ที่จะพาคุณจากจุดที่คุณเป็นในวันนี้ ไปยังจุดที่คุณอยากจะไป 00:10:55.640 --> 00:10:58.536 มากกว่าคนที่คุณเลือกที่จะเก็บไว้ในมุม 00:10:58.560 --> 00:11:00.856 พวกมันเปลี่ยนทุกอย่าง และมันเป็นข้อพิสูจน์ความจริง 00:11:00.880 --> 00:11:05.176 ในค.ศ. 1898 นอร์มัน ทริปเพลทท์ ทำการศึกษานี้ กับนักจักรยาน 00:11:05.200 --> 00:11:08.000 และเขาวัดเวลาที่พวกเขาใช้ในสนามแข่ง ทั้งแบบกลุ่ม 00:11:08.025 --> 00:11:09.176 และเดี่ยว 00:11:09.200 --> 00:11:12.896 เขาพบว่าทุกครั้งที่นักจักรยานอยู่ในกลุ่ม พวกเขาปั่นเร็วขึ้น 00:11:12.920 --> 00:11:15.736 และมันก็พบได้กับทุกอย่างในชีวิต 00:11:15.760 --> 00:11:17.656 และมันพิสูจน์สิ่งเดียวกันนี้ ครั้งแล้วครั้งเล่า 00:11:17.680 --> 00:11:20.536 ว่าคนรอบๆ ตัวคุณนั้นสำคัญ และสิ่งแวดล้อมก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง 00:11:20.560 --> 00:11:23.136 แต่มันขึ้นอยู่กับคุณ ที่จะควบคุมมัน เพราะว่ามันเป็นไปได้ทั้งสองทาง 00:11:23.160 --> 00:11:25.736 80 เปอร์เซ็นต์ของคน ที่ไม่ชอบงานที่พวกเขาทำ 00:11:25.760 --> 00:11:28.936 นั่นหมายถึงคนส่วนใหญ่รอบๆ ตัวเรา ไม่ใช่ในห้องนี้ แต่ที่อื่นๆ 00:11:28.960 --> 00:11:32.616 กำลังเผชิญหน้ากับความพึงพอใจ และรั้งเราจากการไขว่คว้าสิ่งที่สำคัญกับเรา 00:11:32.640 --> 00:11:34.696 ฉะนั้น เราจึงต้องจัดการสิ่งรอบๆ ตัวเหล่านี้ NOTE Paragraph 00:11:34.720 --> 00:11:36.720 ผมพบตัวเองในเหตุการณ์นี้ -- 00:11:38.680 --> 00:11:41.576 ตัวอย่างส่วนตัว สองสามปีก่อน 00:11:41.600 --> 00:11:45.776 ใครเคยมีงานอดิเรกหรือคลั่งใคล้อะไรไหมครับ 00:11:45.800 --> 00:11:49.296 ที่เราใช้เวลาไปมากมาย และอยากจะทำมันเป็นงานประจำ 00:11:49.320 --> 00:11:53.456 แต่ไม่มีใครให้ความสำคัญมันเลย มันทำเงินอะไรไม่ได้เลย 00:11:53.480 --> 00:11:57.576 ครับ ผมเป็นแบบนั้นอยู่สี่ปี พยายามที่จะสร้าง ลีฟ ยัว เลเจนด์ 00:11:57.600 --> 00:12:00.936 เพื่อช่วยให้คนได้ทำงานในสิ่งที่เขารักและใส่ใจ และมีแรงบันดาลใจจริงๆ 00:12:00.960 --> 00:12:02.296 ผมทำเท่าที่ผมสามารถทำได้ 00:12:02.320 --> 00:12:04.496 และมีเพียงสามคนที่ให้ความสนใจ 00:12:04.520 --> 00:12:07.759 และพวกเขาก็อยู่ตรงนี้ครับ แม่ของผม พ่อ และภรรยาของผม เชลซี 00:12:07.783 --> 00:12:09.279 ขอบคุณทุกคนครับที่สนับสนุน NOTE Paragraph 00:12:09.303 --> 00:12:10.776 (เสียงปรบมือ) NOTE Paragraph 00:12:10.800 --> 00:12:15.496 และผมต้องการมันมากมายเหลือเกัน มันเติบโตศูนย์เปอร์เซ็นต์ภายในสี่ปี 00:12:15.520 --> 00:12:17.496 และผมก็เกือบที่จะล้มเลิก 00:12:17.520 --> 00:12:19.216 และในตอนนั้นเอง 00:12:19.240 --> 00:12:22.776 ผมย้ายไปที่ซานฟรานซิสดก และเริ่มที่จะพบคนที่ค่อนข้างน่าสนใจ 00:12:22.800 --> 00:12:25.016 ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตการผจญภัย 00:12:25.040 --> 00:12:27.056 การทำธุรกิจ และเว็บไซต์ และบล๊อค ที่แสนจะสุดเหวี่ยง 00:12:27.080 --> 00:12:30.336 ที่ไม่ได้ห่างไกลแรงบันดาลใจของพวกเขา และพวกเขาก็ช่วยผู้คนในแบบที่มีคุณค่า 00:12:30.360 --> 00:12:33.016 และหนึ่งในเพื่อนของผม ตอนนี้ เขามีครอบครัวขนาดแปดคน 00:12:33.040 --> 00:12:35.376 และทำงานเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัว 00:12:35.400 --> 00:12:38.256 ทำบล๊อคที่เขาเขียนสัปดาห์ละสองครั้ง 00:12:38.280 --> 00:12:41.328 พวกเขาเพิ่งกลับมาจากการไปยุโรปหนึ่งเดือน ทุกคนเลย 00:12:41.352 --> 00:12:43.416 มันทำให้ผมทึ่ง มันเป็นไปได้อย่างไรกัน 00:12:43.440 --> 00:12:46.936 และผมก็ได้รับแรงบันดาลใจอย่างน่าประหลาด เมื่อเห็นสิ่งนี้ 00:12:46.960 --> 00:12:49.936 และแทนที่จะปิดมัน ผมตัดสินใจที่จะจริงจังกับมัน 00:12:49.960 --> 00:12:51.936 และผมก็ทำทุกอย่างที่สามารถจะทำได้ เพื่อใช้เวลากับมัน 00:12:51.960 --> 00:12:54.456 ทุกชั่วโมงที่ผมลืมตาตื่น ผลพยายามที่จะไล่ล่าหาคนพวกนี้เท่าที่จะทำได้ 00:12:54.480 --> 00:12:57.256 ไปเที่ยวและดื่มและพูดคุย อะไรก็ตาม 00:12:57.280 --> 00:12:59.016 และหลังจากสี่ปีของการเติบโตที่เป็นศูนย์ 00:12:59.040 --> 00:13:01.376 ภายในหกเดือนหลังจากออกไปพบกับคนพวกนี้ 00:13:01.400 --> 00:13:04.096 สังคมที่ลีฟ ยัว เลเจนด์ โตขึ้น 10 เท่า 00:13:04.120 --> 00:13:07.976 ในอีก 12 เดือน มันเติบโตขึ้น 160 เท่า 00:13:08.000 --> 00:13:11.056 และวันนี้ คนกว่า 30,000 ราย จาก 158 ประเทศ 00:13:11.080 --> 00:13:14.176 ใช้หน้าที่การงานและอุปกรณ์เชื่อมต่อของเรา ทุกๆ เดือน 00:13:14.200 --> 00:13:18.576 และคนเหล่านี้ได้สร้างสังคมแห่งบุคคลบันดาลใจ 00:13:18.600 --> 00:13:20.816 ผู้ที่ให้แรงบันดาลใจกับความเป็นไปได้ที่ผมเฝ้าฝันถึง 00:13:20.840 --> 00:13:24.016 สำหรับ ลีฟ ยัว เลเจนด์ เมื่อหลายปีก่อน NOTE Paragraph 00:13:24.040 --> 00:13:26.296 ผู้คนนั้นเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่าง และนั่นก็เป็นสาเหตุว่าทำไม -- 00:13:26.320 --> 00:13:28.536 แบบว่า คุณถามว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้น 00:13:28.560 --> 00:13:31.016 เป็นเวลาสี่ปี ผมไม่รู้จักใครเลยในที่นี้ 00:13:31.040 --> 00:13:34.536 และผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีตัวตน ที่ว่าคนจะทำสิ่งนี้ได้ 00:13:34.560 --> 00:13:36.536 ที่ว่าคนจะสร้างกระแสอะไรแบบนี้ 00:13:36.560 --> 00:13:40.216 และจากนั้นผมก็มาอยู่ที่นี่ในซานฟรานซิสโก และทุกคนรอบๆ ตัวผมก็ทำสิ่งนี้ 00:13:40.240 --> 00:13:44.336 มันกลายเป็นสิ่งธรรมดา ความคิดของผมเริ่มจาก ผมจะทำสิ่งนี้ได้อย่างไร 00:13:44.360 --> 00:13:46.176 ไปเป็นผมจะไม่ทำมันได้อย่างไร 00:13:46.200 --> 00:13:49.416 และจากนั้น เมื่อมันเกิดขึ้น สัญญาณก็ถูกเปิดขึ้นในความคิดของคุณ 00:13:49.440 --> 00:13:51.107 มันส่งเป็นระลอกคลื่นออกไปทั่วทั้งโลก 00:13:51.131 --> 00:13:54.056 และโดยไม่ต้องพยายาม มาตราฐานของคุณพัฒนาไปจากจุดนี้ 00:13:54.080 --> 00:13:57.795 คุณไม่ต้องเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย คุณแค่ต้องเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมของคุณ 00:13:57.819 --> 00:14:02.176 แค่นั้นแหละครับ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ผมถึงรักที่จะอยู่ท่ามกลางกลุ่มคน 00:14:02.200 --> 00:14:03.820 ทำไมผมถึงไปทุกงาน TED เท่าที่ผมจะทำได้ 00:14:03.844 --> 00:14:06.776 และดูพวกเขาบน iPad ระหว่างไปทำงาน หรืออะไรก็ตามแต่ 00:14:06.800 --> 00:14:10.216 เพราะว่าคนกล่มนี้แหละที่ ให้แรงบันดาลใจในความเป็นไปได้ 00:14:10.240 --> 00:14:13.256 เรามีทั้งวันที่จะอยู่ด้วยกัน และอาจมากมายกว่านั้น NOTE Paragraph 00:14:13.280 --> 00:14:16.736 สรุปนะครับ ในนิยามของเสาหลักสามประการ 00:14:16.760 --> 00:14:20.696 พวกมันมีจุดร่วมเดียวกัน ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด 00:14:20.720 --> 00:14:23.176 เราควบคุมมันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ 00:14:23.200 --> 00:14:26.256 ไม่มีใครสามารถบอกคุณได้ว่า คุณไม่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองได้ 00:14:26.280 --> 00:14:28.423 ไม่มีใครสามารถบอกคุณได้ว่า คุณไม่สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดของคุณได้ 00:14:28.447 --> 00:14:30.736 และเรียนรู้ความเป็นไปไม่ได้ของคุณ และสู้กับสิ่งนั้น 00:14:30.760 --> 00:14:33.696 ไม่มีใครบอกคุณได้ว่า คุณไม่สามารถที่จะอยู่ท่ามกลางคนที่สร้างแรงบันดาลใจ 00:14:33.720 --> 00:14:35.911 หรือออกไปจากคนที่ทำให้คุณรู้สึกแย่ 00:14:35.935 --> 00:14:37.364 คุณไม่สามารถควบคุมภาวะเศรษฐกิจได้ 00:14:37.388 --> 00:14:40.576 คุณไม่สามารถควบคุมการถูกไล่ออก หรือการไปอยู่ในอุบัติเหตุรถยนต์ได้ 00:14:40.600 --> 00:14:42.696 สิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่มันเกินกว่าที่เราจะควบคุม 00:14:42.720 --> 00:14:45.080 สามสิ่งนี้ขึ้นอยู่กับเราล้วนๆ 00:14:47.000 --> 00:14:51.150 และพวกมันสามารถเปลี่ยนโลกของเราได้ทั้งใบ ถ้าเราตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง NOTE Paragraph 00:14:52.080 --> 00:14:55.080 และประเด็นก็คือว่า มันเริ่มที่จเะกิดขึ้น ในระดับที่ขยายกว้างออกไป 00:14:55.104 --> 00:14:58.295 ผมเพิ่งได้อ่าน [นิตยสาร] โฟบ รัฐบาลอเมริกัน รายงานเป็นครั้งแรกว่า 00:14:58.319 --> 00:15:01.016 ภายในหนึ่งเดือน ว่ามีคนออกจากงาน 00:15:01.040 --> 00:15:02.376 มากกว่าถูกไล่ออกจากงาน 00:15:02.400 --> 00:15:05.616 พวกเขาคิดว่ามันเป็นความผิดปกติ แต่มันเกิดขึ้นสามเดือนติดต่อกัน 00:15:05.640 --> 00:15:08.336 ไม่นาน ผู้คนอ้างว่า มันเป็นเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ไม่เป็นใจ 00:15:08.360 --> 00:15:10.696 ผู้คนชูนิ้วกลางให้กับชีวิตที่ถูกขีดเส้นมาให้เดิน 00:15:10.720 --> 00:15:12.776 สิ่งที่คนพูดๆ กันว่า คุณควรที่จะทำ 00:15:12.800 --> 00:15:16.536 แทนที่จะเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อพวกเขา และทำในสิ่งที่บันดาลใจพวกเขา NOTE Paragraph 00:15:16.560 --> 00:15:19.336 และคนก็ตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นไปได้นี้ 00:15:19.360 --> 00:15:25.336 ที่จริงๆ แล้ว สิ่งเดียวที่จำกัดความเป็นไปได้ตอนนี้ คือความคิดสร้างสรรค์ 00:15:25.360 --> 00:15:27.336 มันไม่ใช่ความซ้ำซากจำเจอีกต่อไปแล้ว 00:15:27.360 --> 00:15:30.536 ผมไม่สนหรอกว่า คุณสนใจอะไร มีความคลั่งใคล้อะไร มีงานอดิเรกอะไร 00:15:30.560 --> 00:15:34.016 ถ้าคุณชอบถักนิตติ้ง คุณสามารถพบใครสักคน ที่ถักนิตติ้ง 00:15:34.040 --> 00:15:36.376 และคุณสามารถเรียนกจากพวกเขาได้ มันน่าตื่นเต้นแบบนั้นแหละ 00:15:36.400 --> 00:15:39.896 และวันทั้งวันก็ควรจะเป็นแบบนี้ เป็นการเรียนรู้จากการเล่าสู่กันฟัง 00:15:39.920 --> 00:15:43.336 และเราก็เก็บประวัติคนเหล่านี้ใน ลีฟ ยัว เลเจนด์ ทุกๆ วัน 00:15:43.360 --> 00:15:46.056 เพราะเมื่อคนทั่วๆ ไปกำลังทำสิ่งที่ไม่ธรรมดา 00:15:46.080 --> 00:15:47.856 และคุณสามารถไปอยู่ในกลุ่มนั้นได้ 00:15:47.880 --> 00:15:49.616 มันกลายเป็นสิ่งธรรมดา 00:15:49.640 --> 00:15:53.736 และมันไม่ใช่การเป็นคานธี หรือสตีฟ จ๊อบ ทำอะไรที่คนอื่นเขาว่าบ้า 00:15:53.760 --> 00:15:56.189 มันเป็นการทำอะไรบางอย่างที่สำคัญกับคุณ 00:15:56.213 --> 00:15:58.253 และสร้างความสำคัญที่มีเพียงคุณเท่านั้นที่ทำได้ NOTE Paragraph 00:15:59.600 --> 00:16:03.256 พูดถึงคานธี เขาเคยเป็นทนาย 00:16:03.280 --> 00:16:04.616 เท่าที่ผมเคยได้ยินมา 00:16:04.640 --> 00:16:07.896 และเขาได้พบกับเหตุการณ์สำคัญ บางอย่างที่สำคัญกับเขา 00:16:07.920 --> 00:16:09.136 เขาไม่สามารถจะไม่ทำมันได้ 00:16:09.160 --> 00:16:11.399 และเขาก็มีปรัชญาที่เขาใช้ดำเนินชีวิตที่ว่า 00:16:11.423 --> 00:16:13.736 "ตอนแรกเขาละเลยคุณ จากนั้นก็หัวเราะเยาะคุณ 00:16:13.760 --> 00:16:15.880 จากนั้นพวกเขาก็สู้กับคุณ และคุณก็ชนะ" NOTE Paragraph 00:16:17.960 --> 00:16:20.616 ทุกอย่างเป็นไปไม่ได้จนกระทั่งใครสักคนทำสำเร็จ 00:16:20.640 --> 00:16:23.816 คุณสามารถอยู่กับผู้คนที่บอกคุณว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก 00:16:23.840 --> 00:16:25.656 และบอกคุณว่า คุณโง่เหลือเกินที่พยายาม 00:16:25.680 --> 00:16:28.976 หรือจะอยู่กับคนที่ให้แรงบันดาลใจที่เป็นไปได้ 00:16:29.000 --> 00:16:30.600 ผู้คนที่อยู่ในห้องนี้ 00:16:31.600 --> 00:16:35.496 เพราะผมเห็นว่ามันคือความรับผิดชอบของเรา ที่จะแสดงให้โลกเห็น 00:16:35.520 --> 00:16:38.936 ว่าสิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ สามารถเป็นสิ่งที่เป็นธรรมดาได้ 00:16:38.960 --> 00:16:41.136 และมันก็เริ่มที่จะเกิดขึ้นแล้ว 00:16:41.160 --> 00:16:43.856 อย่างแรก ทำในสิ่งที่บันดาลใจเรา 00:16:43.880 --> 00:16:47.576 เพื่อที่เราจะได้ให้แรงบันดาลใจนั้นกับคนอื่น ในการทำสิ่งที่บันดาลใจพวกเขา 00:16:47.600 --> 00:16:49.240 แต่เราไม่สามารถพบสิ่งนั้นได้ 00:16:50.200 --> 00:16:52.256 เว้นเสียแต่ว่า เราจะรู้ว่าเรากำลังมองหาอะไร 00:16:52.280 --> 00:16:54.376 พวกเราจะต้องทำด้วยตัวของพวกเราเอง 00:16:54.400 --> 00:16:56.976 ทำตัวให้เป็นสากลเกี่ยวกับเรื่องนั้น และทำการค้นพบ 00:16:57.000 --> 00:17:00.524 เพราว่า ผมลองคิดดูว่า จะเป็นอย่างไร ถ้าโลกของเรามีคน 80 เปอร์เซ็นต์ 00:17:00.548 --> 00:17:01.856 ที่รักงานที่ทำ 00:17:01.880 --> 00:17:05.896 นวัฒกรรมจะเป็นอย่างไร คุณจะปฏิบัติกับคนรอบๆ ตัวคุณอย่างไร 00:17:05.920 --> 00:17:07.300 สิ่งต่างๆ จะเริ่มเปลี่ยนไป NOTE Paragraph 00:17:08.800 --> 00:17:12.016 และขณะที่ผมกำลังจะจบการบรรยาย ผมมีคำถามเดียวที่จะถามพวกคุณ 00:17:12.040 --> 00:17:14.776 และคิดว่า มันเป็นเพียงคำถามเดียวที่สำคัญ 00:17:14.800 --> 00:17:17.400 และมันก็คือ งานใดที่คุณไม่อาจจะไม่ทำได้ 00:17:18.480 --> 00:17:20.736 ค้นหามัน ใช้ชีวิตกับมัน 00:17:20.760 --> 00:17:23.440 ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อตัวคุณ แต่เพื่อทุกคนรอบตัวคุณ 00:17:24.400 --> 00:17:27.256 เพราะว่านี่คือการเริ่มต้น ในการเปลี่ยนแปลงโลก 00:17:27.280 --> 00:17:29.600 อะไรล่ะ ที่เป็นงานที่คุณทำไม่ได้ NOTE Paragraph 00:17:30.400 --> 00:17:31.616 ขอบคุณทุกคนครับ NOTE Paragraph 00:17:31.640 --> 00:17:34.160 (เสียงปรบมือ