< Return to Video

เรย์ แอนเดอร์สัน พูดถึงตรรกะทางธุรกิจของความยั่งยืน

  • 0:00 - 0:04
    เชื่อไหมครับว่า ผมมาเสนอวิธีแก้ปัญหา
  • 0:04 - 0:08
    ปัญหาที่สำคัญมากข้อหนึ่งในปัญหาที่ใหญ่กว่า
  • 0:08 - 0:10
    แน่นอนว่าต้องรวมเรื่องสภาพภูมิอากาศ
  • 0:10 - 0:12
    วิธีแก้ที่ผมมาเสนอนั้น
  • 0:12 - 0:14
    พุ่งเป้าไปที่ตัวการที่ใหญ่ที่สุด
  • 0:14 - 0:18
    ในการปฏิบัติต่อโลกเราอย่างเลวร้ายมหาศาล
  • 0:18 - 0:20
    ด้วยน้ำมือมนุษย์
  • 0:20 - 0:23
    ซึ่งทำให้โลกชีวมณฑลเสื่อมโทรม
  • 0:23 - 0:26
    ตัวการที่ว่านั้นคือธุรกิจและอุตสาหกรรมครับ
  • 0:26 - 0:29
    ซึ่งก็บังเอิญเป็นโลกที่ผมใช้ชีวิต 52 ปีที่ผ่านมา
  • 0:29 - 0:33
    ตั้งแต่จบปริญญาจากจอร์เจีย เทค ในปี 1956
  • 0:33 - 0:35
    ในฐานะวิศวกรอุตสาหการ
  • 0:35 - 0:39
    ที่อยากเป็นผู้ประกอบการ แล้วก็ประสบความสำเร็จ
  • 0:39 - 0:42
    หลังจากที่ผมก่อตั้งบริษัท อินเทอร์เฟซ ขึ้นมาจากศูนย์
  • 0:42 - 0:45
    ในปี 1973 ซึ่งก็คือ 36 ปีที่แล้ว
  • 0:45 - 0:47
    เพื่อผลิตพรมในอเมริกา
  • 0:47 - 0:50
    สำหรับตลาดธุรกิจและสถาบัน
  • 0:50 - 0:53
    ผมนำบริษัทนี้ผ่านช่วงตั้งไข่และเอาตัวรอด
  • 0:53 - 0:56
    ทำให้มันรุ่งเรืองและเป็นผู้นำระดับโลก
  • 0:56 - 0:58
    ผมอ่านหนังสือของ พอล ฮอว์เคน
  • 0:58 - 1:00
    ชื่อ นิเวศวิทยาของการพาณิชย์ (Ecology of Commerce)
  • 1:00 - 1:03
    ในฤดูร้อนปี 1994
  • 1:03 - 1:06
    ในหนังสือของเขา พอล ฮอว์เคน บอกว่าธุรกิจกับอุตสาหกรรม
  • 1:06 - 1:09
    คือตัวการหมายเลขหนึ่ง
  • 1:09 - 1:11
    ที่ทำให้โลกชีวมณฑลเสื่อมโทรม
  • 1:11 - 1:14
    และสอง เขาบอกว่ามันเป็นสถาบันเดียวที่ใหญ่พอ
  • 1:14 - 1:16
    แพร่หลายมากพอ และมีอิทธิพลมากพอ
  • 1:16 - 1:20
    ที่จะนำมนุษยชาติออกจากปัญหานี้จริงๆ
  • 1:20 - 1:23
    ระหว่างทางเขาก็ปรักปรำผม
  • 1:23 - 1:25
    ว่าเป็นโจรปล้นโลกธรรมชาติ
  • 1:25 - 1:28
    ผมเลยไปท้าทายคนในอินเทอร์เฟซ บริษัทของผม
  • 1:28 - 1:32
    ให้นำบริษัทของเราและโลกอุตสาหกรรมทั้งใบไปสู่ความยั่งยืน
  • 1:32 - 1:34
    ซึ่งเรานิยามว่า หมายถึงการดำเนินธุรกิจ
  • 1:34 - 1:37
    ที่ใช้ปิโตรเลียมมหาศาลของเรา ในทางที่
  • 1:37 - 1:39
    ตักตวงจากธรรมชาติเฉพาะ
  • 1:39 - 1:43
    สิ่งที่ธรรมชาติฟื้นฟูเองได้อย่างรวดเร็ว
  • 1:43 - 1:45
    เราจะไม่ใช้น้ำมันอีกแม้แต่หยดเดียว
  • 1:45 - 1:49
    และไม่ทำร้ายโลกชีวมณฑล
  • 1:49 - 1:51
    ไม่ตักตวงอะไรเลย ไม่ทำร้ายโลก
  • 1:51 - 1:53
    ผมบอกแค่ว่า "ถ้าหากฮอว์เคนพูดถูก
  • 1:53 - 1:55
    และธุรกิจกับอุตสาหกรรมจะต้องนำจริงๆ
  • 1:55 - 1:57
    แล้วใครจะนำธุรกิจกับอุตสาหกรรมล่ะ?
  • 1:57 - 2:00
    ถ้าไม่มีคนเริ่มก่อน ก็จะไม่มีใครทำ"
  • 2:00 - 2:03
    เป็นสัจพจน์เลยครับ แล้วทำไมเราไม่นำล่ะ?
  • 2:03 - 2:05
    ผมต้องขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่อินเทอร์เฟซ
  • 2:05 - 2:08
    ที่ทำให้ผมกลายเป็นโจรที่ผ่านการบำบัด
  • 2:08 - 2:09
    (เสียงหัวเราะ)
  • 2:09 - 2:14
    (ปรบมือ)
  • 2:14 - 2:18
    ผมเคยบอกกับนักเขียนนิตยสารฟอร์จูนว่า
  • 2:18 - 2:21
    วันหนึ่งคนอย่างผมจะต้องติดคุก
  • 2:21 - 2:23
    ประโยคนั้นกลายเป็นพาดหัวบทความในฟอร์จูน
  • 2:23 - 2:27
    พวกเขาอธิบายว่าผมเป็นซีอีโอที่เขียวที่สุดของอเมริกา
  • 2:27 - 2:30
    จากโจร เป็นโจรที่ผ่านการบำบัด
  • 2:30 - 2:33
    เป็นซีอีโอที่เขียวที่สุดของอเมริกา ในห้าปี
  • 2:33 - 2:35
    ผมคิดว่านั่นคือคำวิจารณ์ซีอีโออเมริกันปี 1999
  • 2:35 - 2:40
    ที่เศร้าพอดู
  • 2:40 - 2:43
    ต่อมาในหนังสารคดีแคนาดาเรื่อง เดอะ คอร์ปอเรชั่น
  • 2:43 - 2:46
    ผู้กำกับถามว่า "ติดคุก" ของผมหมายถึงอะไร
  • 2:46 - 2:50
    ผมอธิบายว่าการขโมยนั้นเป็นอาชญากรรม
  • 2:50 - 2:55
    และการขโมยโลกอนาคตของเด็กๆ วันหนึ่งก็จะเป็นอาชญากรรม
  • 2:55 - 2:57
    แต่ผมตระหนักว่าถ้ามันจะเป็นจริงได้
  • 2:57 - 3:00
    ก่อนที่การขโมยอนาคตของลูกหลานเราจะเป็นอาชญากรรมได้
  • 3:00 - 3:03
    คนก็จะต้องเห็นก่อนว่ามีทางเลือกที่สาธิตให้เห็นได้ชัดเจน
  • 3:03 - 3:06
    ทางเลือกออกจากระบบอุตสาหกรรมแบบโกย-ทำ-ทิ้ง
  • 3:06 - 3:09
    ซึ่งครอบงำอารยธรรมของเราอย่างราบคาบ
  • 3:09 - 3:12
    ระบบนี้คือตัวการใหญ่ที่ขโมยอนาคตลูกหลานของเรา
  • 3:12 - 3:14
    ด้วยการตักตวงผืนดิน
  • 3:14 - 3:18
    แปลงมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่นานก็กลายเป็นขยะ
  • 3:18 - 3:20
    ในกองขยะหรือเตาเผาขยะ
  • 3:20 - 3:25
    พูดง่ายๆ คือ มันตักตวงผืนดินและแปลงมันเป็นมลพิษ
  • 3:25 - 3:27
    ในคำพูดของ พอล กับ แอนน์ เออร์ลิช
  • 3:27 - 3:30
    ในสมการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่คนรู้จักดี
  • 3:30 - 3:32
    ผลกระทบ -- ผลเชิงลบ --
  • 3:32 - 3:36
    เกิดจากประชากร ความมั่งคั่ง และเทคโนโลยี
  • 3:36 - 3:40
    พูดอีกอย่างคือ ผลกระทบเกิดจากคน
  • 3:40 - 3:42
    สิ่งที่พวกเขาบริโภคเมื่อมีความมั่งคั่ง
  • 3:42 - 3:45
    และวิธีที่เราผลิตสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา
  • 3:45 - 3:47
    และถึงแม้ว่าสมการนี้จะเป็นอัตวิสัยค่อนข้างมาก
  • 3:47 - 3:51
    คือคุณอาจนับจำนวนคนได้ บางทีอาจนับความมั่งคั่งได้
  • 3:51 - 3:55
    แต่เทคโนโลยีนั้นทำลายล้างหลายทางจนคำนวณไม่ได้
  • 3:55 - 3:57
    ดังนั้นสมการนี้จึงเป็นแค่แนวคิด
  • 3:57 - 4:00
    แต่มันก็ใช้ได้ เพราะช่วยให้เราเข้าใจปัญหา
  • 4:00 - 4:05
    ทีนี้ ในปี 1994 ที่อินเทอร์เฟซ เราเริ่มออกเดินทาง
  • 4:05 - 4:07
    เพื่อสร้างตัวอย่าง
  • 4:07 - 4:09
    เพื่อปฏิรูปวิธีที่เราผลิตพรม
  • 4:09 - 4:13
    ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ปิโตรเลียมและพลังงานมหาศาลในวัตถุดิบ
  • 4:13 - 4:15
    และเพื่อปฏิรูปเทคโนโลยีของเรา
  • 4:15 - 4:18
    ให้มันสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง
  • 4:18 - 4:21
    ไม่ใช่มากขึ้น
  • 4:21 - 4:24
    สมการผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมของ พอล กับ แอนน์ เออร์ลิช
  • 4:24 - 4:27
    คือ I (impact /ผลกระทบ) = P (people /คน) คูณ A (affluence /ความมั่งคั่ง) คูณ T (technology /เทคโนโลยี)
  • 4:27 - 4:30
    ประชากร ความมั่งคั่ง และเทคโนโลยี
  • 4:30 - 4:36
    ผมอยากให้อินเทอร์เฟซเขียนสมการนี้ใหม่ ให้มันกลายเป็น
  • 4:36 - 4:39
    I (impact /ผลกระทบ) = P (people /คน) คูณ A (affluence /ความมั่งคั่ง) แล้วหารด้วย T (technology /เทคโนโลยี)
  • 4:39 - 4:42
    ใครที่เก่งเลขคงเห็นทันทีนะครับว่า
  • 4:42 - 4:45
    ถ้าเทคโนโลยีเป็นตัวคูณ มันจะเพิ่มผลกระทบ -- ซึ่งแย่
  • 4:45 - 4:49
    แต่ถ้าเทคโนโลยีเป็นตัวหาร มันจะช่วยลดผลกระทบ
  • 4:49 - 4:53
    ผมจึงถามว่า "อะไรกันที่จะย้าย T, เทคโนโลยี
  • 4:53 - 4:55
    จากตัวบน ซึ่งเราเรียกมันว่า T1
  • 4:55 - 4:57
    ซึ่งเป็นตัวเพิ่มผลกระทบ
  • 4:57 - 5:00
    ไปเป็นตัวหาร ซึ่งเราเรียกมันว่า T2
  • 5:00 - 5:03
    ซึ่งจะลดผลกระทบ?
  • 5:03 - 5:07
    ผมคิดถึงลักษณะสำคัญๆ
  • 5:07 - 5:09
    ของการปฏิวัติอุตสาหกรรมยุคแรก
  • 5:09 - 5:12
    นั่นคือ T1 ที่เราใช้ในอินเทอร์เฟซ
  • 5:12 - 5:16
    มันมีลักษณะดังต่อไปนี้ครับ
  • 5:16 - 5:20
    ตักตวง - กอบโกยวัตถุดิบจากโลกธรรมชาติ
  • 5:20 - 5:23
    เส้นตรง - โกย, ทำ, ทิ้ง
  • 5:23 - 5:25
    ใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล
  • 5:25 - 5:29
    สิ้นเปลือง - กดขี่คนและเน้นผลิตภาพของแรงงาน
  • 5:29 - 5:32
    ผลิตพรมต่อชั่วโมงแรงงานให้ได้มากที่สุด
  • 5:32 - 5:35
    เมื่อคิดตลอดแล้ว ผมก็ตระหนักว่าเราต้องเปลี่ยนลักษณะเหล่านี้
  • 5:35 - 5:40
    เพื่อย้ายเทคโนโลยีจากตัวคูณไปเป็นตัวหาร
  • 5:40 - 5:45
    ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ เราต้องแทนที่การตักตวงด้วยการทดแทน
  • 5:45 - 5:47
    วงกลมแทนที่เส้นตรง
  • 5:47 - 5:51
    พลังงานหมุนเวียน แสงอาทิตย์ แทนที่พลังงานฟอสซิล
  • 5:51 - 5:53
    ปลอดของเสียแทนที่สิ้นเปลือง
  • 5:53 - 5:55
    และอ่อนโยนแทนที่กดขี่
  • 5:55 - 5:59
    ผลิตภาพทรัพยากรแทนที่ผลิตภาพแรงงาน
  • 5:59 - 6:03
    ผมให้เหตุผลว่า ถ้าหากเราเปลี่ยนเชิงปฏิรูปทั้งหมดนี้ได้
  • 6:03 - 6:05
    กำจัด T1 ไปเลย
  • 6:05 - 6:08
    เราก็จะสามารถลดผลกระทบของเราลงเหลือศูนย์
  • 6:08 - 6:11
    รวมทั้งผลกระทบของเราต่อสภาพภูมิอากาศด้วย
  • 6:11 - 6:14
    นั่นกลายเป็นแผนของอินเทอร์เฟซในปี 1995
  • 6:14 - 6:17
    และก็เป็นแผนของเราตลอดมา
  • 6:17 - 6:21
    เราได้วัดความคืบหน้าของเราอย่างเคร่งครัด
  • 6:21 - 6:25
    ผมก็เลยบอกคุณได้ว่า ในช่วงเวลา 12 ปีที่ผ่านมา
  • 6:25 - 6:27
    เราลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อย
  • 6:27 - 6:31
    ลดปริมาณรวม ลงได้ร้อยละ 82
  • 6:31 - 6:35
    (เสียงปรบมือ)
  • 6:35 - 6:37
    ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น
  • 6:37 - 6:40
    ยอดขายของเราเพิ่มขึ้นสองในสาม และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสองเท่า
  • 6:40 - 6:43
    ดังนั้นการลดก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 82
  • 6:43 - 6:45
    จึงเท่ากับลดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก
  • 6:45 - 6:49
    ลงได้ถึงร้อยละ 90 เทียบกับยอดขาย
  • 6:49 - 6:51
    นี่คือระดับที่
  • 6:51 - 6:54
    โลกธุรกิจทั้งใบจะต้องลดให้ได้
  • 6:54 - 6:57
    ภายในปี 2050
  • 6:57 - 7:00
    เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะรุนแรงทางสภาพภูมิอากาศ
  • 7:00 - 7:03
    นี่คือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กำลังบอกเรา
  • 7:03 - 7:07
    ในขณะเดียวกัน อินเทอร์เฟซใช้พลังงานฟอสซิลน้อยลงร้อยละ 60 ต่อการผลิตหนึ่งหน่วย
  • 7:07 - 7:09
    เนื่องมาจากประสิทธิภาพของพลังงานหมุนเวียน
  • 7:09 - 7:12
    น้ำมันถังที่ถูกที่สุดและมั่นคงที่สุดในโลก
  • 7:12 - 7:15
    คือถังที่เราไม่ต้องใช้เพราะมีประสิทธิภาพดีมาก
  • 7:15 - 7:18
    เราลดปริมาณการใช้น้ำลงได้ร้อยละ 75
  • 7:18 - 7:20
    ในธุรกิจพรมแผ่นทั่วโลกของเรา
  • 7:20 - 7:23
    ลดได้ร้อยละ 40 ในธุรกิจพรมทอของเรา
  • 7:23 - 7:25
    ที่เราซื้อกิจการมาในปี 1993
  • 7:25 - 7:27
    ลดได้ในรัฐแคลิฟอร์เนียนี่เลยครับ ในเมืองแห่งอุตสาหกรรม
  • 7:27 - 7:30
    ซึ่งน้ำมีค่าเหลือคณานับ
  • 7:30 - 7:34
    วัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้มีสัดส่วนร้อยละ 25 และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • 7:34 - 7:37
    เราใช้พลังงานหมุนเวียนร้อยละ 27 ของพลังงานทั้งหมด
  • 7:37 - 7:39
    ตั้งเป้าจะไปให้ถึงร้อยละ 100
  • 7:39 - 7:42
    เราได้กู้คืนพรมใช้แล้วกว่า 148 ล้านปอนด์ --
  • 7:42 - 7:44
    นั่นคือเท่ากับ 74,000 ตัน ---
  • 7:44 - 7:47
    เก็บมาจากกองขยะ
  • 7:47 - 7:49
    ปิดวงจรไหลเวียนของวัสดุให้เป็นวงกลม
  • 7:49 - 7:51
    ผ่านการใช้โลจิสติกส์มุมย้อน (reverse logistics)
  • 7:51 - 7:54
    และเทคโนโลยีรีไซเคิลหลังการบริโภค
  • 7:54 - 7:58
    ซึ่งตอนที่เราเริ่มเมื่อ 14 ปีก่อนยังไม่มีเลย
  • 7:58 - 8:00
    เทคโนโลยีวงกลมใหม่ๆ เหล่านี้
  • 8:00 - 8:03
    มีส่วนอย่างมากในการทำให้เราสามารถผลิตและขาย
  • 8:03 - 8:07
    พรมที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเท่ากับศูนย์ 85 ล้านตารางหลา
  • 8:07 - 8:09
    ตั้งแต่ปี 2004
  • 8:09 - 8:13
    นั่นแปลว่าเราไม่ได้ก่อผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศโลกเลย
  • 8:13 - 8:15
    เวลาที่เราผลิตพรม ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานของเรา
  • 8:15 - 8:20
    ตั้งแต่เหมืองและแท่นหลุมผลิต ไปจนถึงการกู้คืน ณ จุดจบวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์
  • 8:20 - 8:22
    กระบวนการทั้งหมดนี้มีผู้ตรวจสอบอิสระรับรอง
  • 8:22 - 8:25
    เราเรียกมันว่า คูล คาร์เพ็ท
  • 8:25 - 8:28
    ซึ่งมันก็สร้างความแตกต่างอันทรงพลังให้กับเราในตลาด
  • 8:28 - 8:30
    ช่วยเพิ่มยอดขายและผลกำไร
  • 8:30 - 8:34
    เมื่อสามปีก่อน เราออกผลิตภัณฑ์พรมแผ่นสำหรับบ้าน
  • 8:34 - 8:36
    ภายใต้ยี่ห้อ Flor
  • 8:36 - 8:39
    ตั้งใจสะกดผิดว่า F-L-O-R (แทนที่ Floor ซึ่งแปลว่า พื้น-ผู้แปล)
  • 8:39 - 8:41
    วันนี้คุณเข้าไปดูได้ครับที่เว็บไซต์ Flor.com
  • 8:41 - 8:45
    แล้วเราจะส่ง คูล คาร์เพ็ท ถึงประตูบ้านคุณภายในห้าวัน
  • 8:45 - 8:48
    มันใช้ได้ดี แล้วก็ดูดีด้วยครับ
  • 8:48 - 8:49
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:49 - 8:55
    (ปรบมือ)
  • 8:55 - 8:57
    ตอนนี้เรามองว่าเรามาถึงครึ่งทางแล้ว
  • 8:57 - 9:02
    ครึ่งทางสู่จุดหมาย -- ผลกระทบเหลือศูนย์ รอยเท้าเหลือศูนย์
  • 9:02 - 9:05
    เราตั้งเป้าว่าจะทำให้ถึงศูนย์ภายในปี 2020
  • 9:05 - 9:10
    นั่นคือเป้าหมายสูงสุด ยอดเขาความยั่งยืน
  • 9:10 - 9:12
    เราเรียกพันธกิจนี้ว่า ปฏิบัติการศูนย์ (Mission Zero)
  • 9:12 - 9:15
    ทีนี้ผมอยากพูดถึงมิติที่อาจจะสำคัญที่สุด
  • 9:15 - 9:19
    คือเราพบว่า ปฏิบัติการศูนย์นี้ดีมากๆ เลยสำหรับธุรกิจเรา
  • 9:19 - 9:22
    มันเป็นโมเดลธุรกิจที่ดีกว่าเดิม
  • 9:22 - 9:24
    เป็นวิธีเพิ่มกำไรที่ดีกว่าเดิม
  • 9:24 - 9:27
    ต่อไปนี้เป็นเหตุผลทางธุรกิจของความยั่งยืนครับ --
  • 9:27 - 9:31
    จากประสบการณ์จริงของผม พบว่าต้นทุนเราลดลง ไม่ได้เพิ่มขึ้น
  • 9:31 - 9:33
    เราประหยัดเงินได้ประมาณ 400 ล้านเหรียญ
  • 9:33 - 9:37
    ประหยัดค่าใช้จ่าย ระหว่างการพยายามลดของเสียจนเหลือศูนย์
  • 9:37 - 9:40
    ซึ่งเป็นชะง่อนแรกของภูเขาความยั่งยืน
  • 9:40 - 9:44
    เงินจำนวนนี้จ่ายค่าใช้จ่ายที่เราใช้ปฏิรูปอินเทอร์เฟซได้ทั้งหมด
  • 9:44 - 9:46
    และมันก็กำจัดมายาคติด้วย
  • 9:46 - 9:50
    ที่บอกว่าเราต้องเลือกระหว่างสิ่งแวดล้อมกับเศรษฐกิจ
  • 9:50 - 9:52
    ผลิตภัณฑ์ของเราดีที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา
  • 9:52 - 9:54
    ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบเพื่อความยั่งยืน
  • 9:54 - 9:58
    อันเป็นบ่อเกิดนวัตกรรมที่เราไม่คาดคิด
  • 9:58 - 10:01
    พนักงานของเราร่วมแรงร่วมใจกันรอบๆ เป้าหมายสูงส่งกว่าเดิมข้อนี้
  • 10:01 - 10:03
    ไม่มีอะไรสู้เป้าแบบนี้ได้หรอกครับ ในการดึงดูดคนที่เก่งที่สุด
  • 10:03 - 10:06
    สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาร่วมงานกัน
  • 10:06 - 10:09
    และไมตรีจิตที่เราได้รับจากตลาดนี้ก็น่าทึ่งมาก
  • 10:09 - 10:13
    จะโฆษณาขนาดไหน ไม่ว่าแคมเปญโฆษณาจะฉลาดแค่ไหน
  • 10:13 - 10:16
    ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ก็ไม่มีทางผลิตหรือสร้าง
  • 10:16 - 10:19
    ไมตรีจิตมหาศาลที่เราได้รับ
  • 10:19 - 10:21
    ต้นทุน ผลิตภัณฑ์ พนักงาน ตลาด
  • 10:21 - 10:23
    มีอะไรอีกล่ะครับ?
  • 10:23 - 10:25
    นี่คือโมเดลธุรกิจที่ดีกว่าเก่า
  • 10:25 - 10:30
    และนี่ก็คือสถิติยอดขายและผลกำไร 14 ปีของเรา
  • 10:30 - 10:33
    ตรงนี้ยุบลงไปนิดนะครับ ระหว่างปี 2001-2003
  • 10:33 - 10:35
    ตรงที่ยุบนี่ยอดขายของเราช่วง 3 ปีนั้น
  • 10:35 - 10:37
    ตกลงไปร้อยละ 17
  • 10:37 - 10:40
    แต่ตอนนั้นตลาดหดลงร้อยละ 36
  • 10:40 - 10:42
    เท่ากับว่าเราได้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
  • 10:42 - 10:45
    เราอาจจะรอดพ้นช่วงเศรษฐกิจถดถอยตอนนั้นมาไม่ได้
  • 10:45 - 10:48
    ถ้าหากว่าไม่มีข้อได้เปรียบจากความยั่งยืน
  • 10:48 - 10:52
    ถ้าหากธุรกิจทุกแห่งทำตามแผนของอินเทอร์เฟซ
  • 10:52 - 10:54
    มันจะกำจัดปัญหาทั้งหมดของเราได้หรือไม่?
  • 10:54 - 10:56
    ผมไม่คิดว่าได้
  • 10:56 - 10:59
    ผมยังรู้สึกไม่สบายใจกับสมการเออร์ลิชที่แก้ใหม่
  • 10:59 - 11:03
    I เท่ากับ P คูณ A หารด้วย T2
  • 11:03 - 11:05
    เจ้า A (Affluence) ในนี้คือ A ตัวใหญ่ครับ
  • 11:05 - 11:10
    มันเสนอว่าความมั่งคั่งคือเป้าหมายในตัวมันเอง
  • 11:10 - 11:14
    แต่ถ้าหากเราปรับสมการเออร์ลิชอีกหน่อยล่ะ?
  • 11:14 - 11:17
    สมมุติว่าเราทำให้ A กลายเป็น a ตัวเล็ก
  • 11:17 - 11:19
    เพื่อเสนอว่ามันเป็นเพียงวิถีทางสู่เป้าหมาย
  • 11:19 - 11:22
    และเป้าหมายนั้นก็คือ ความสุข
  • 11:22 - 11:25
    มีความสุขมากขึ้นด้วยข้าวของที่น้อยลง
  • 11:25 - 11:28
    คุณรู้ครับว่าถ้าทำอย่างนั้น มันก็จะเปลี่ยนอารยธรรม --
  • 11:28 - 11:36
    (ปรบมือ)
  • 11:36 - 11:39
    และเปลี่ยนระบบเศรษฐศาสตร์ทั้งหมดของเรา
  • 11:39 - 11:45
    บางทีถ้าไม่เปลี่ยนเพื่อมนุษย์ ก็อาจเปลี่ยนเพื่อเผ่าพันธุ์ในอนาคต
  • 11:45 - 11:48
    เผ่าพันธุ์ที่ยั่งยืน ที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่มีจำกัด
  • 11:48 - 11:51
    ใช้ชีวิตอย่างมีศีลธรรม อย่างมีความสุข และเป็นมิตรต่อระบบนิเวศ
  • 11:51 - 11:53
    อยู่อย่างสมดุลกับธรรมชาติ
  • 11:53 - 11:56
    และระบบธรรมชาติทั้งหมดของเธอ อยู่ไปอีกหลายพันชั่วคน
  • 11:56 - 11:58
    หรือ 10,000 ชั่วคน
  • 11:58 - 12:01
    นั่นคือ อยู่ไปตราบนานเท่านาน
  • 12:01 - 12:06
    แต่โลกธรรมชาติจะต้องรอให้มนุษย์เราสูญพันธุ์ก่อนหรือเปล่า?
  • 12:06 - 12:09
    บางทีอาจเป็นอย่างนั้น แต่ผมไม่คิดเช่นนั้น
  • 12:09 - 12:12
    ที่อินเทอร์เฟซ เราพยายามจริงๆ ครับที่จะนำบริษัทต้นแบบ
  • 12:12 - 12:15
    บริษัทอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน มีรอยเท้าเท่ากับศูนย์
  • 12:15 - 12:18
    ให้มันเกิดขึ้นจริงภายในปี 2020
  • 12:18 - 12:20
    เรามองเห็นเส้นทางของเราแล้วครับ
  • 12:20 - 12:22
    มองเห็นชัดไปถึงยอดเขาลูกนั้น
  • 12:22 - 12:25
    ตอนนี้ความท้าทายอยู่ในการลงมือทำ
  • 12:25 - 12:28
    อย่างที่ เอมอรี ลอวินส์ เพื่อนและที่ปรึกษาของผม พูดว่า
  • 12:28 - 12:32
    "ถ้าอะไรมีอยู่จริง มันก็ต้องเป็นไปได้จริง"
  • 12:32 - 12:35
    (เสียงหัวเราะ)
  • 12:35 - 12:38
    ถ้าเราทำได้จริงๆ มันก็ย่อมเป็นไปได้
  • 12:38 - 12:42
    ถ้าเรา บริษัทที่ใช้ปิโตรเลียมมหาศาล ทำได้ ใครคนอื่นก็ทำได้
  • 12:42 - 12:46
    และถ้าใครคนอื่นทำได้ ก็แปลว่าทุกคนต้องทำได้
  • 12:46 - 12:49
    ฮอว์เคนช่วยเติมเต็มธุรกิจและอุตสาหกรรม
  • 12:49 - 12:53
    นำมนุษยชาติถอยห่างมาจากปากเหว
  • 12:53 - 12:58
    เพราะการที่โลกชีวมณฑลเสื่อมโทรมลงเรื่อยๆ อย่างไร้การควบคุม
  • 12:58 - 13:01
    ทำให้คนที่เรารักมากตกอยู่ในความเสี่ยง
  • 13:01 - 13:03
    ความเสี่ยงที่เรารับไม่ได้ครับ
  • 13:03 - 13:05
    คนคนนั้นคือใคร?
  • 13:05 - 13:07
    ไม่ใช่คุณ ไม่ใช่ผม
  • 13:07 - 13:10
    ผมขอแนะนำให้คุณรู้จักกับคนที่ตกอยู่ในความเสี่ยงที่สุด
  • 13:10 - 13:14
    ผมเองได้พบกับเขาตอนที่เราเริ่มปีนเขาความยั่งยืนไม่นาน
  • 13:14 - 13:18
    พบกันในเช้าวันอังคารวันหนึ่ง เดือนมีนาคม ปี 1996
  • 13:18 - 13:21
    ผมกำลังคุยกับคน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมทำทุกโอกาสที่ตอนนั้นมี
  • 13:21 - 13:25
    พยายามชักนำผู้คนมาทำเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ผมไม่รู้หรอกว่าเข้าถึงเขาหรือเปล่า
  • 13:25 - 13:28
    แต่ประมาณห้าวันหลังจากนั้น เมื่อผมกลับถึงแอตแลนตาแล้ว
  • 13:28 - 13:31
    ผมก็ได้รับอีเมลจาก เกล็น ธอมัส
  • 13:31 - 13:33
    พนักงานของผมคนหนึ่งที่อยู่ในที่ประชุมแคลิฟอร์เนีย
  • 13:33 - 13:35
    เขาส่งบทกวีมาให้ผมชิ้นหนึ่ง
  • 13:35 - 13:38
    แต่งเองหลังเช้าวันอังคารที่เราคุยกัน
  • 13:38 - 13:42
    ตอนที่ผมอ่านบทกวีชิ้นนั้น ผมรู้สึกอิ่มเอมใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต
  • 13:42 - 13:46
    เพราะมันบอกผมว่า ให้ตายเถอะ มีคนหนึ่งคนที่เข้าใจ
  • 13:46 - 13:50
    เกล็นแต่งว่าอย่างนี้ครับ และนี่ก็คือคนที่พบกับความเสี่ยงสูงสุด
  • 13:50 - 13:54
    ขอเชิญพบกับ "เด็กแห่งวันพรุ่ง"
  • 13:54 - 13:58
    "เจ้าคือผู้ไร้หน้าและไร้นาม ไร้โมงยามปราศที่ทางที่วางแผน
  • 13:58 - 14:01
    เป็นเด็กของวันพรุ่งในดินแดน ทว่า-แม้นเจ้ายังไม่เกิดมา
  • 14:01 - 14:04
    ข้าพบเจ้าเช้าอังคารที่ผ่านพ้น
  • 14:04 - 14:06
    มิตรผู้ดลจิตใจใฝ่ปัญหา
  • 14:06 - 14:08
    พาให้เราพบกันผ่านปัญญา
  • 14:08 - 14:13
    ให้ข้าเห็นวันของเจ้า-จึงเข้าใจ
  • 14:13 - 14:15
    เมื่อพบเจ้าข้าครั่นคร้าม เปลี่ยนความคิด
  • 14:15 - 14:17
    ทีละนิดได้ตระหนักปนสงสัย
  • 14:17 - 14:20
    ว่าบางทีสิ่งที่ข้าทำลงไป
  • 14:20 - 14:23
    อาจทำให้เจ้าเสี่ยงภัยพ้นวัยเยาว์
  • 14:23 - 14:25
    เด็กน้อยของวันพรุ่ง ลูกชาย-หญิง
  • 14:25 - 14:27
    ข้ากริ่งเกรงว่าเพิ่งคิดประโยชน์เจ้า
  • 14:27 - 14:31
    ทั้งที่รู้-ที่เคยทำเพียงทำเนา
  • 14:31 - 14:33
    จะเลิกดูลาดเลาเริ่มเอาจริง
  • 14:33 - 14:36
    คิดต้นทุนของสิ่งที่ข้าปล้น ที่ทุกคนถลุงสิ้นสรรพสิ่ง
  • 14:36 - 14:38
    ไม่ลืมว่าวันหนึ่งเจ้าจะชิง
  • 14:38 - 14:42
    เกิดมาพักพึ่งพิงโลกเดียวกัน"
  • 14:42 - 14:44
    ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกวันของชีวิตผม
  • 14:44 - 14:46
    "เด็กของวันพรุ่ง" ก็ได้พูดกับผม
  • 14:46 - 14:48
    สื่อสารที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งสารเดียว
  • 14:48 - 14:50
    ที่ผมอยากแบ่งปันให้กับทุกคนในที่นี้
  • 14:50 - 14:52
    พวกเราทุกคน แต่ละคน
  • 14:52 - 14:55
    เป็นส่วนหนึ่งของสายใยชีวิต
  • 14:55 - 14:59
    สายธารแห่งมนุษยชาติ แต่สายใยของชีวิตในความหมายที่ใหญ่กว่าด้วย
  • 14:59 - 15:01
    และเราก็ต้องตัดสินใจ
  • 15:01 - 15:03
    ระหว่างที่ใช้ชีวิตอันแสนสั้น
  • 15:03 - 15:07
    เป็นผู้มาเยือนโลกสีฟ้าและเขียว โลกอันสวยงามและมีชีวิต
  • 15:07 - 15:10
    ว่าเราจะทำร้ายมัน หรือจะช่วยเหลือมัน
  • 15:10 - 15:13
    เป็นเรื่องที่คุณต้องตัดสินใจ
  • 15:13 - 15:15
    ขอบคุณครับ
  • 15:15 - 15:30
    (ปรบมือ)
Title:
เรย์ แอนเดอร์สัน พูดถึงตรรกะทางธุรกิจของความยั่งยืน
Speaker:
Ray Anderson
Description:

เรย์ แอนเดอร์สัน เพิ่มยอดขายและสร้างกำไรสุทธิสองเท่าให้กับบริษัทพรมของเขา ขณะที่เปลี่ยนระบบอุตสาหกรรมแบบ "โกย/ทำ/ทิ้ง" จากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาแบ่งปันวิสัยทัศน์อันทรงพลังว่าด้วยการพาณิชย์ที่ยั่งยืนในสุนทรพจน์ที่อ่อนโยนและถ่อมตนบทนี้

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
15:33
Sarinee Achavanuntakul added a translation

Thai subtitles

Revisions