สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตใต้น้ำ 31 วัน
-
0:02 - 0:04ผมมีเรื่องอยากจะสารภาพครับ
-
0:04 - 0:07ผมติดการผจญภัย
-
0:07 - 0:10และตอนที่เป็นเด็ก
-
0:10 - 0:12ผมก็มักจะมองออกไปนอกหน้าต่าง
-
0:12 - 0:15ดูนกบนต้นไม้ และท้องฟ้า
-
0:15 - 0:17แทนที่จะดูกระดานเปื้อนชอล์คสองมิติ
-
0:17 - 0:21ที่ที่เหมือนเวลาหยุดนิ่ง
-
0:21 - 0:24และบางทีก็เหมือนมันตายสนิท
-
0:24 - 0:26ครูของผมคิดว่าผมมีอะไรบางอย่างผิดปกติ
-
0:26 - 0:29เพราะผมไม่สนใจเรียนเลย
-
0:29 - 0:31พวกเขาไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ในตัวผม
-
0:31 - 0:36เว้นแต่จะมีอาการเขียนคำผิดๆ ถูกๆ นิดหน่อย
เพราะผมถนัดซ้าย -
0:36 - 0:40แต่พวกเขาไม่ได้ทดสอบความอยากรู้อยากเห็น
-
0:40 - 0:42สำหรับผมแล้ว ความอยากรู้อยากเห็น
-
0:42 - 0:44เป็นความสัมพันธ์ของเรา เชื่อมโยง
-
0:44 - 0:48กับโลก กับเอกภพ
-
0:48 - 0:49มันเกี่ยวกับการมองดู
ว่าอะไรอยู่ถัดไปจากปะการังข้างหน้า -
0:49 - 0:51หรืออะไรอยู่ถัดจากต้นไม้ต้นถัดไป
-
0:51 - 0:53และการเรียนรู้ที่มากกว่าขึ้น
ที่ไม่ใช่แค่สิ่งที่อยู่แวดล้อมเรา -
0:53 - 0:55แต่รวมถึงตัวเราเองด้วย
-
0:55 - 0:58และนี่ ที่สุดของความฝันของผม
-
0:58 - 1:01ผมต้องการที่จะสำรวจมหาสมุทรของดาวอังคาร
-
1:01 - 1:04แต่ก่อนที่เราจะไปที่นั่นได้
-
1:04 - 1:07ผมคิดว่ามหาสมุทร
-
1:07 - 1:09ยังคงกำความลับอะไรบางอย่างอยู่
-
1:09 - 1:10ความจริงแล้ว
-
1:10 - 1:14หากคุณคิดว่าโลกของเราเป็นแหล่งน้ำ
ที่อุดมสมบูรณ์ของห้วงอวกาศ -
1:14 - 1:17และชำแหละมันออกมาเป็นพื้นที่ใช้สอย
-
1:17 - 1:21มหาสมุทรจะมีปริมาตรมากกว่า
-
1:21 - 1:233.4 พันล้านลูกบาศก์กิโลเมตร
-
1:23 - 1:28ซึ่งเราเคยสำรวจไปแล้ว ไม่ถึงห้าเปอร์เซ็นต์
-
1:28 - 1:30และผมมองดูแล้วก็บอกว่า อืม
-
1:30 - 1:33มันมีเครื่องมือที่จะทำให้เราสำรวจได้
ลึกกว่า นานกว่า ไกลกว่า -
1:33 - 1:39เช่น เรือดำน้ำ อาร์โอวี (หุ่นบังคับใต้น้ำ) หรือแม้แต่การดำน้ำลึก
-
1:39 - 1:41แต่ถ้าเรากำลังจะสำรวจไปสุดพรมแดน
-
1:41 - 1:45ในดาวเคราะห์ดวงนี้ เราต้องไปอยู่ที่นั่น
-
1:45 - 1:47ถ้าจะทำนะ เราต้องสร้างที่พักอาศัย
-
1:47 - 1:50ที่ก้นทะเล
-
1:50 - 1:53และนั่นก็เป็นสุดยอดแห่งความอยากรู้อยากเห็น
ในใจผม -
1:53 - 1:56เมื่อผมได้พบกับผู้ชนะรางวัล TED
(TED Prize) -
1:56 - 1:58ที่มีชื่อว่า ดร.ซิลเวีย เอียลี
(Sylvia Earle) -
1:58 - 1:59บางทีคุณอาจเคยได้ยินชื่อของเธอมาบ้าง
-
1:59 - 2:03สองปีก่อน เธอปักหลัก
-
2:03 - 2:06ที่ห้องทดลองทางทะเลใต้น้ำอันสุดท้าย
-
2:06 - 2:08พยายามที่จะรักษามันไว้
-
2:08 - 2:09พยายามและร้องขอ
-
2:09 - 2:11ไม่ให้เราทิ้งมัน
-
2:11 - 2:14และนำมันกลับขึ้นไปบนฝั่ง
-
2:14 - 2:15พวกเรามีห้องทดลองประมาณโหลหนึ่งได้
-
2:15 - 2:18ที่ก้นทะเลนั่น
-
2:18 - 2:20มันเหลือเพียงแห่งเดียวในโลกนี้
-
2:20 - 2:21มันอยู่ห่างจากฝั่ง 9 ไมล์
-
2:21 - 2:23และลึกลงไป 65 ฟุต
-
2:23 - 2:25มันมีชื่อว่า อควาริอัส (Aquarius)
-
2:25 - 2:27อควาริอัส ในบางกรณี
-
2:27 - 2:30มันคือไดโนเสาร์
-
2:30 - 2:32หุ่นโบราณที่ถูกล่ามไว้ที่ก้นทะเล
-
2:32 - 2:35เจ้าเลเวียแทน (Leviathan) นี้
-
2:35 - 2:38อีกนัยหนึ่ง มันเป็นมรดก
-
2:38 - 2:40และการเยี่ยมเยียนครั้งนั้นก็เช่นกัน ผมรู้ดี
ว่าเวลาของผมมันสั้นนัก -
2:40 - 2:43ถ้าผมอยากจะมีประสบการณ์
-
2:43 - 2:48ว่าการเป็นนักสำรวจใต้น้ำเป็นอย่างไร
-
2:48 - 2:50เมื่อเราว่ายน้ำไปยังสิ่งนี้
-
2:50 - 2:53หลังจากการทรมานหลายคืน
และการเตรียมการถึงสองปี -
2:53 - 2:58ที่อาศัยนี้รอต้อนรับการมาถึงของเรา
-
2:58 - 3:01เฉกเช่นเป็นบ้านหลังใหม่
-
3:01 - 3:03และเหตุผลของการลงไป
-
3:03 - 3:07และการอาศัยอยู่ที่นั่น
ไม่ได้หมายถึงการไปอาศัยอยู่ข้างใน -
3:07 - 3:10มันไม่ใช่การอาศัย
อยู่ในสิ่งที่มีขนาดเท่ากับรถโรงเรียน -
3:10 - 3:13มันเป็นการให้เวลาอันมีค่ากับเรา
-
3:13 - 3:16มีข้างนอกให้เราออกเที่ยวชม สำรวจ
-
3:16 - 3:20เพื่อจะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับชายขอบมหาสมุทร
-
3:20 - 3:22เรามีสัตว์ใหญ่ผ่านมาเยี่ยมเยียน
-
3:22 - 3:26ปลากระเบนอินทรีย์จุดเห็นได้ทั่วๆ ไปในมหาสมุทร
-
3:26 - 3:28แต่ทำไมมันถึงสำคัญ
-
3:28 - 3:30ทำไมต้องภาพนี้
-
3:30 - 3:33ก็เพราะว่า สัตว์ที่แสนสวยนี้
พาเพื่อนมาด้วย -
3:33 - 3:36และแทนที่จะทำตัวเหมือนสัตว์
ที่อยู่ในทะเลเปิด -
3:36 - 3:38พวกมันเริ่มสนใจพวกเรา
-
3:38 - 3:42ผู้มาใหม่นี้ที่เข้ามาเป็นเพื่อนบ้าน
-
3:42 - 3:44ทำอะไรบางอย่างกับแพลงค์ตอน
-
3:44 - 3:47พวกเราศึกษาสัตว์และสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
-
3:47 - 3:49และพวกมันก็เข้ามาใกล้พวกเรามากขึ้นเรื่อยๆ
-
3:49 - 3:51และเพราะเวลาอันมีค่า
-
3:51 - 3:54สัตว์เหล่านี้ ผู้เป็นเจ้าบ้านแห่งหมู่ปะการัง
-
3:54 - 3:55เริ่มที่จะคุ้นเคยกับเรา
-
3:55 - 3:59และสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลเปิด
ที่ปกติแล้วจะว่ายผ่านไป ก็มาหยุดดู -
3:59 - 4:01เจ้าสัตว์ชนิดนี้ ว่ายวนเป็นวงกลม
-
4:01 - 4:05เป็นเวลา 31 วันเต็มๆ ระหว่างที่เราปฏิบัติหน้าที่
-
4:05 - 4:08ดังนั้นปฎิบัติการ 31
-
4:08 - 4:10ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากกับการทำลายสถิติ
-
4:10 - 4:14แต่มันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนและมหาสมุทร
-
4:14 - 4:16ด้วยเวลาอันมีค่า เราจึงสามารถ
-
4:16 - 4:20ศึกษาสัตว์ดังเช่นฉลาม และปลาเก๋า
-
4:20 - 4:22ที่อยู่กันเป็นกลุ่ม ที่เราไม่เคยได้เห็นมาก่อน
-
4:22 - 4:27มันเหมือนกับเห็นสุนัขและแมว
ญาติดีต่อกัน -
4:27 - 4:29แม้กระทั่งการได้สื่อสารกับสรรพสัตว์
-
4:29 - 4:30ที่ใหญ่กว่าเรามาก
-
4:30 - 4:33อย่างเช่น ปลาเก๋ายักษ์ที่หายากจวนสูญพันธ์ุ
-
4:33 - 4:36ที่อาศัยอยู่ที่แนวเกาะปะการัง ฟอริดา คีร์
-
4:36 - 4:38แน่ละ เหมือนเพื่อนบ้านอื่นๆ
-
4:38 - 4:41ไม่นานนัก ถ้าพวกมันเบื่อ
-
4:41 - 4:42เจ้าปลาเก๋ายักษ์ก็จะเห่าใส่เรา
-
4:42 - 4:44และการเห่านี้ก็ทรงพลังเสียด้วย
-
4:44 - 4:47เพราะมันทำให้เหยื่อตกใจ
ก่อนที่มันจะดูดเหยื่อเข้าไป -
4:47 - 4:49ภายในเสี้ยววินาที
-
4:49 - 4:50สำหรับเรา มันแค่บอกให้เราถอย
-
4:50 - 4:55กลับบ้านไปซะ และปล่อยมันไว้ตามลำพัง
-
4:55 - 4:58ทีนี้ มันไม่ใช่แค่การผจญภัย
-
4:58 - 5:00มันมีสิ่งที่จริงจังอยู่ด้วย
-
5:00 - 5:03เราทำการศึกษาทางวิทยาศาสตร์มากมาย
และอีกครั้ง ด้วยเวลาอันมีค่า -
5:03 - 5:06เราสามารถที่จะได้ทำงานวิทยาศาสตร์กว่าสามปี
-
5:06 - 5:08ในเวลา 31 วัน
-
5:08 - 5:11ในกรณีนี้ เราใช้ แพม (PAM)
-
5:11 - 5:12หรือถ้าให้ผมอธิบายง่ายๆ
-
5:12 - 5:15เครื่องวัดโดยการแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอล
(Pulse Amplitude Modulated Fluorometer) -
5:17 - 5:19และนักวิทยาศาสตร์ของเราจาก FIU, MIT
-
5:19 - 5:22และจากมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทอร์น
-
5:22 - 5:24ที่ทำให้สามารถอ่านค่ามาตรวัดของ
แนวปะการังนั้น ว่าเป็นอย่างไร -
5:24 - 5:26เมื่อพวกเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น
-
5:26 - 5:29เครื่องวัดโดยการแปลงสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอล
หรือ แพม -
5:29 - 5:31ใช้วัดการเรืองแสงของปะการัง
-
5:31 - 5:34ที่มันเกี่ยวข้องกับมลภาวะในน้ำ
-
5:34 - 5:37เหมือนกับประเด็นความสัมพันธ์ที่ทำให้
เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ -
5:37 - 5:41เราใช้อุปกรณ์ทันสมัยทุกอย่าง
-
5:41 - 5:43เช่น ตัวส่อง หรือที่ผมชอบเรียกว่า
-
5:43 - 5:49นักส่องฟองน้ำ ซึ่งตัวส่องเองนั้น
-
5:49 - 5:52ใช้ทดสอบอัตราเมตาบอลิซึม
-
5:52 - 5:55ซึ่งในกรณีนี้มันเป็นฟองน้ำครก
-
5:55 - 5:57หรือป่าแดงแห่งมหาสมุทร
-
5:57 - 5:59และมันเป็นตัววัดที่ดีกว่ามาก
-
5:59 - 6:01ว่าเกิดอะไรขึ้นใต้น้ำบ้าง
-
6:01 - 6:04ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการเปลี่ยนแปลง
ของสภาพภูมิอากาศ -
6:04 - 6:06และการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น
-
6:06 - 6:08มีผลต่อเราบนแผ่นดินอย่างไร
-
6:08 - 6:11และที่สุดแล้ว เรามองหาพฤติกรรมผู้ล่าและเหยื่อ
-
6:11 - 6:13และพฤติกรรมผู้ล่าและเหยื่อก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ
-
6:13 - 6:15เพราะว่า เมื่อเราเอาผู้ล่าออกไป
-
6:15 - 6:17จากแนวปะการังทั่วโลก
-
6:17 - 6:21เหยื่อหรือสัตว์ที่เป็นอาหาร จะมีพฤติกรรมที่ต่างไป
-
6:21 - 6:23สิ่งที่เราได้ตระหนักก็คือ
-
6:23 - 6:26ไม่เพียงแต่มันหยุดการดูแลแนวปะการัง
-
6:26 - 6:28แต่ยังพุ่งเข้ามาคว้าสาหร่ายไปเล็กๆ น้อยๆ
-
6:28 - 6:29และกลับบ้าน
-
6:29 - 6:31พวกมันเริ่มที่จะแยกย้ายและหายไป
-
6:31 - 6:33จากแนวปะการังเหล่านั้น
-
6:33 - 6:36เอาล่ะ ภายใน 31 วันนั้น
-
6:36 - 6:38เราสามารถที่จะเขียน
เอกสารวิทยาศาสตร์กว่า 10 ฉบับ -
6:38 - 6:41ในแต่ละหัวข้อ
-
6:41 - 6:46แต่จุดประสงค์ของการผจญภัยไม่ใช่แค่การเรียนรู้
-
6:46 - 6:49แต่เป็นการแบ่งปันความรู้ให้กับโลก
-
6:49 - 6:53และด้วยเหตุนั้น ต้องขอบคุณวิศวกรทั้งคู่
จาก MIT -
6:53 - 6:56เราสามารถใช้กล้องต้นแบบที่เรียกว่า
เอดเจอร์โทรนิก (Edgertronic) -
6:56 - 6:59เพื่อจับภาพช้า
-
6:59 - 7:02ถึง 20,000 เฟรมต่อวินาที
-
7:02 - 7:03ในกล่องเล็กๆ นั้น
-
7:03 - 7:05มีค่าถึง 3,000 ดอลลาร์
-
7:05 - 7:07มันมีให้สำหรับทุกคน
-
7:07 - 7:10และกล้องที่ว่านั้นทำให้เราได้รู้
-
7:10 - 7:12ถึงเบื้องลึกว่าสัตว์ทั่วๆ ไปทำอะไร
-
7:12 - 7:15ที่เราไม่สามารถเห็นได้ในชั่วพริบตา
-
7:15 - 7:17ให้ผมเล่นวีดีโอนี้ให้คุณดู
-
7:17 - 7:19ว่ากล้องนี้ทำอะไร
-
7:19 - 7:22คุณจะเห็นฟองสีนวลออกมา
-
7:22 - 7:24จากหมวกแข็งๆ
-
7:24 - 7:26ที่ทำให้เราได้เห็นเบื้องลึก
-
7:26 - 7:29ของสัตว์ที่อยู่ใกล้ๆ เรา
-
7:29 - 7:31เป็นเวลาถึง 31 วัน
-
7:31 - 7:33และเราไม่เคยคิดที่จะสนใจมันเลย
-
7:33 - 7:35อย่างเช่น ปูเฮอมิท (hermit crabs)
-
7:35 - 7:38ทีนี้ การใช้เทคโนโลยีที่นำสมัย
-
7:38 - 7:40ที่ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานในมหาสมุทร
-
7:40 - 7:42ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
-
7:42 - 7:45บางทีเราต้องเอากล้องกลับหัว
-
7:45 - 7:48สะพายกลับมาที่ห้องทดลอง
-
7:48 - 7:50และคนที่อยู่ที่ห้องทดลอง
-
7:50 - 7:52ก็ต้องกดปุ่มเอาเอง
-
7:52 - 7:54แต่สิ่งที่เราได้
-
7:54 - 7:57คือภาพข้างหน้าที่ให้เราดูและวิเคราะห์
-
7:57 - 8:00ในเชิงวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
-
8:00 - 8:04บางพฤติกรรมที่น่าทึ่งที่สุด
-
8:04 - 8:05ที่ตาของมนุษย์เราไม่สามารถจับภาพได้
-
8:05 - 8:08เช่น กั้งสีรุ้ง (manta shrimp)
-
8:08 - 8:10ที่พยายามจับเหยื่อ
-
8:10 - 8:15ภายใน .3 วินาที
-
8:15 - 8:18การต่อยที่แข็งแรงเท่ากับกระสุน .22
-
8:18 - 8:20และถ้าคุณพยายามที่จะจับภาพกระสุน
-
8:20 - 8:24ที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยตาเปล่า มันเป็นไปไม่ได้
-
8:24 - 8:25แต่ตอนนี้เราได้เห็น
-
8:25 - 8:28สิ่งดังเช่น หนอนต้นสนคริสมาส
-
8:28 - 8:31หดเข้าไปและกางออก
-
8:31 - 8:34ในแบบที่ไม่สามารถจับภาพได้ด้วยตาเปล่า
-
8:34 - 8:35หรือในกรณีนี้
-
8:35 - 8:42ปลาที่เหวี่ยงเม็ดทราย
-
8:42 - 8:45ที่จริงๆ แล้วมันคือปลา เซลฟิน โกบี
-
8:45 - 8:47และถ้าคุณมองดูตามเวลาจริง
-
8:47 - 8:50มันไม่ได้แสดงการเคลื่อนไหวที่กางออก
-
8:50 - 8:53เพราะว่ามันเร็วมาก
-
8:53 - 8:56หนึ่งในของขวัญที่มีค่าที่สุด
ที่เราได้จากใต้น้ำ -
8:56 - 8:58คือเรามี Wi-Fi
-
8:58 - 9:00และเป็นเวลา 31 วันต่อเนื่องที่เราสามารถเชื่อมต่อ
-
9:00 - 9:03กับโลกจากใต้ท้องมหาสมุทรแบบทันทีทันใด
-
9:03 - 9:05และแบ่งปันประสบการณ์ทั้งหมดเหล่านี้
-
9:05 - 9:06จริงๆ แล้วตอนนี้
-
9:06 - 9:07ผมกำลังสไกป์กับชั้นเรียน
-
9:07 - 9:09กับหนึ่งในหกทวีป
-
9:09 - 9:12และมีนักเรียนประมาณ 70,000 คน
กำลังเชื่อมต่อกับเรา -
9:12 - 9:15ทุกวัน กับประสบการณ์เหล่านี้
-
9:15 - 9:17ความเป็นจริงก็คือ ผมกำลังแสดงภาพ
ที่ผมถ่ายมา -
9:17 - 9:20ด้วยโทรศัพท์ของผมจากใต้น้ำ
-
9:20 - 9:23เป็นภาพฝูงปลาเก๋ายักษ์ที่นอนอยู่
-
9:23 - 9:28เราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
-
9:28 - 9:29ผมฝันถึงวัน
-
9:29 - 9:32ที่เรามีเมืองใต้น้ำ
-
9:32 - 9:34และบางที แค่บางที ถ้าเราผลักขอบเขต
-
9:34 - 9:36ของการผจญภัยและความรู้ออกไป
-
9:36 - 9:40และเราแบ่งปันความรู้นั้นกับคนอื่นๆ ข้างนอก
-
9:40 - 9:43เราสามารถที่จะแก้ไขทุกปัญหาได้
-
9:43 - 9:44ปู่ของผมเคยบอกว่า
-
9:44 - 9:47"คนเราปกป้องสิ่งที่เรารัก"
-
9:47 - 9:50พ่อผมบอกว่า "คนเราจะปกป้อง
-
9:50 - 9:55สิ่งที่เราไม่เข้าใจได้อย่างไร"
-
9:55 - 9:59และผมได้คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้มาทั้งชีวิต
-
9:59 - 10:02ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้
-
10:02 - 10:05พวกเราต้องฝัน พวกเราต้องสร้างสรรค์
-
10:05 - 10:08และพวกเราต้องการการผจญภัย
-
10:08 - 10:11เพื่อที่จะสร้างความอัศจรรย์
ในเวลาที่มืดมิดที่สุด -
10:11 - 10:14และไม่ว่ามันจะเกี่ยวกับ
การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ -
10:14 - 10:16หรือการกำจัดปัญหาความอดอยาก
-
10:16 - 10:18หรือการคืนสิ่งดีๆ ให้กับลูกหลานในอนาคต
-
10:18 - 10:21ในสิ่งที่เราใช้อย่างไม่รู้ค่า
-
10:21 - 10:23มันเกี่ยวกับการผจญภัย
-
10:23 - 10:25และใครจะไปรู้ บางทีมันอาจจะมีเมืองใต้ทะเล
-
10:25 - 10:26และบางที คุณบางคน
-
10:26 - 10:29อาจจะเป็นนักสำรวจใต้น้ำในอนาคต
-
10:29 - 10:31ขอบคุณมากๆ ครับ
-
10:31 - 10:35(เสียงปรบมือ)
- Title:
- สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตใต้น้ำ 31 วัน
- Speaker:
- เฟเบียน คอสทัว (Fabien Cousteau)
- Description:
-
ในปีค.ศ. 1963 แจ็คกี คอสทัว ได้ใช้ชีวิตกว่า 30 วันในห้องทดลองใต้น้ำ ที่ตั้งอยู่ที่พื้นทะเลแดงและสร้างสถิติโลกในการดำเนินการนี้ ฤดุร้อนนี้ หลานชายของเขา เฟเบียน คอสทัว ได้ทำลายสถิตินั้น คอสทัวผู้เป็นหลาน ใช้เวลา 31 วันในอควาริอัส ห้องทดลองใต้น้ำที่ห่างจากชายฝั่งฟอริดาไปเก้าไมล์ ในการบรรยายที่ทรงสเน่ห์นี้ เขาได้ปลุกการผจญภัยอันน่าตื่นตาของเขาให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TEDTalks
- Duration:
- 10:47
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater | ||
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater | ||
Tisa Tontiwatkul accepted Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater | ||
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater | ||
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater | ||
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater | ||
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater | ||
Tisa Tontiwatkul edited Thai subtitles for What I learned from spending 31 days underwater |