Return to Video

ป่าพูดกันได้อย่างไร

  • 0:01 - 0:03
    ลองจินตนาการดูว่าคุณกำลังเดินเข้าไปในป่า
  • 0:04 - 0:07
    และฉันก็เดาว่า
    คุณกำลังคิดถึงแมกไม้นานาพันธุ์
  • 0:07 - 0:10
    สิ่งที่เราชาววนศาสตร์เรียกว่าป้อมปราการ
  • 0:10 - 0:13
    ที่มีกิ่งขรุขระ
    และเรือนยอดไม้ที่งดงาม
  • 0:13 - 0:16
    ค่ะ ต้นไม้เป็นรากฐานของป่า
  • 0:16 - 0:19
    แต่ป่าเป็นอะไรมากกว่าที่คุณเห็นล
  • 0:20 - 0:23
    และวันนี้ ฉันอยากที่จะเปลี่ยนแนวคิด
    ที่คุณมีต่อป่า
  • 0:24 - 0:27
    เห็นไหมคะว่า ใต้ผืนดินนั้น
    มีโลกอีกโลกหนึ่ง
  • 0:27 - 0:30
    โลกที่มีวิถีทางชีวภาพเป็นอนันต์
  • 0:30 - 0:34
    ที่เชื่อมโยงต้นไม้
    และทำให้พวกมันสื่อสารกันได้
  • 0:34 - 0:37
    และทำให้ป่ามีพฤติกรรมราวกับว่า
    มันเป็นสิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งที่มีขนาดใหญ่
  • 0:38 - 0:41
    มันอาจย้ำเตือนให้คุณรู้
    ถึงความชาญฉลาด
  • 0:42 - 0:43
    ฉันรู้ได้อย่างไรน่ะหรือคะ
  • 0:43 - 0:45
    นี่คือเรื่องราวของฉัน
  • 0:46 - 0:48
    ฉันเติบโตในป่าที่บริทิชโคลัมเบีย
  • 0:49 - 0:52
    ฉันเคยนอนบนพื้นป่า
    และมองขึ้นไปบนเรือนยอดของต้นไม้
  • 0:52 - 0:54
    พวกมันใหญ่ยักษ์
  • 0:54 - 0:56
    ปู่ของฉันเป็นยักษ์เหมือนกันค่ะ
  • 0:56 - 0:57
    ท่านเป็นคนตัดไม้ที่ใช้ม้าลากซุง
  • 0:57 - 1:01
    และเคยตัดแต่ไม้ซีดาร์
    จากป่าฝนลึกที่อยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน
  • 1:02 - 1:06
    ปู่สอนฉันเกี่ยวกับความสงัด
    และการยึดเหนี่ยวเกี่ยวพันกับป่าไม้
  • 1:06 - 1:08
    และเรื่องราวที่ว่าครอบครัวของเรา
    ผูกพันกับมันอย่างไร
  • 1:09 - 1:11
    ฉะนั้น ฉันก็เดินตามรอยเท้าของปู่
  • 1:11 - 1:14
    เขาและฉันมีความสังสัยเกี่ยวกับป่า
  • 1:15 - 1:17
    และวินาที "อะฮ่า" อันยิ่งใหญ่ของฉัน
  • 1:17 - 1:19
    ก็คือที่เรือนเล็ก ๆ ใกล้กับทะเลสาบของเรา
  • 1:20 - 1:23
    จิ๊กส์ หมาผู้น่าสงสารของเรา
    ลื่นตกลงไปในหลุม
  • 1:24 - 1:27
    ปู่ของฉันก็เลยวิ่งไปพร้อมพลั่ว
    เพื่อที่จะช่วยเจ้าหมาผู้น่าสงสารนั่น
  • 1:27 - 1:29
    มันอยู่ข้างล่างนั่น ว่ายน้ำอยู่ในตม
  • 1:31 - 1:34
    แต่ปู่ของฉันขุดลงไปในพื้นป่า
  • 1:34 - 1:36
    ฉันตื่นตะลึงกับบรรดารากไม้
  • 1:36 - 1:39
    และข้างใต้นั่น สิ่งที่ฉันได้รู้ในเวลาต่อมา
    ก็คือราไมซีเลียมสีขาว
  • 1:39 - 1:43
    และใต้แนวยาวของแร่สีแดงและเหลือง
  • 1:43 - 1:46
    ท้ายที่สุด ปู่และฉัน
    ก็ช่วยเจ้าหมาผู้น่าสงสารออกมาได้
  • 1:46 - 1:49
    แต่วินาทีนั้นเองที่ฉันได้ตระหนักว่า
  • 1:49 - 1:51
    จานผสมสีแห่งรากและดิน
  • 1:51 - 1:54
    เป็นรากฐานของป่าจริง ๆ
  • 1:55 - 1:56
    และฉันอยากจะรู้มากกว่านั้น
  • 1:57 - 1:58
    ฉันจึงศึกษาวนศาสตร์
  • 1:59 - 2:03
    แต่ไม่นาน ฉันก็พบว่า
    ตัวเองทำงานกับคนใหญ่คนโต
  • 2:03 - 2:05
    ที่ควบคุมการเก็บเกี่ยวเพื่อการพานิชย์
  • 2:06 - 2:09
    สิ่งที่นอกเหนือไปจากกรอบที่ชัดเจน
  • 2:09 - 2:10
    เป็นสื่งที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจ
  • 2:10 - 2:13
    และไม่นาน ฉันก็พบกับความขัดแย้ง
    ในบทบาทของฉัน
  • 2:14 - 2:19
    ไม่เพียงแต่พ่นยาและถาง
    แอสเพินและเบิร์ช
  • 2:19 - 2:23
    เพื่อกรุยทางให้กับไม้สนและเฟอร์
    ที่มีค่าในเชิงพานิชย์มากกว่า
  • 2:23 - 2:24
    จะน่าตกใจ
  • 2:25 - 2:29
    มันราวกับว่าไม่มีอะไรที่จะหยุดยั้ง
    จักรกลอุตสาหกรรมที่ไม่เคยหลับนี้ได้
  • 2:30 - 2:31
    ฉะนั้น ฉันจึงกลับไปโรงเรียน
  • 2:32 - 2:34
    และเรียนเกี่ยวกับโลกอีกใบหนึ่ง
  • 2:35 - 2:40
    ค่ะ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบ
    จากการทดลองในหลอดทดลอง
  • 2:40 - 2:42
    ว่ารากของต้นสนที่กำลังงอก
  • 2:42 - 2:45
    สามารถส่งคาร์บอนไปอีกรากหนึ่งได้
  • 2:46 - 2:48
    แต่มันเป็นการทดลองในห้องทดลอง
  • 2:48 - 2:51
    และฉันสงสัยว่า
    มันจะเกิดขึ้นจริงในป่าหรือเปล่า
  • 2:51 - 2:52
    ฉันคิดว่าคำตอบคือใช่ค่ะ
  • 2:53 - 2:57
    ต้นไม้ในป่าจริง ๆ
    อาจยังแบ่งปันข้อมูลทางใต้ดิน
  • 2:58 - 3:00
    แต่แนวคิดนี้ค่อนข้างจะยังขัดแย้งกัน
  • 3:00 - 3:03
    และบางคนก็คิดว่าฉันบ้า
  • 3:03 - 3:06
    และฉันก็หาเงินสนับสนุนการวิจัยได้ยากมาก
  • 3:06 - 3:07
    แต่ฉันก็ยังยึดมั่น
  • 3:08 - 3:12
    และในที่สุดก็สามารถทำการทดลองในป่าลึกได้
  • 3:12 - 3:13
    เมื่อ 25 ปีก่อน
  • 3:14 - 3:17
    ฉันปลูกต้นไม้สามสายพันธุ์อย่างละ 80 ต้น
  • 3:17 - 3:20
    ได้แก่ เปเปอร์ เบิร์ช, ดักลาส เฟอร์
    และซีดาร์แดงตะวันตก
  • 3:20 - 3:24
    ฉันพบว่าเบิร์ช และเฟอร์ อาจเชื่อมต่อกัน
    ในเครือข่ายใต้ดิน
  • 3:24 - 3:26
    แต่ไม่ใช่สำหรับซีดาร์
  • 3:26 - 3:27
    มันมีโลกของมันเอง
  • 3:28 - 3:30
    ฉันรวบรวมอุปกรณ์ของฉัน
  • 3:30 - 3:33
    และฉันไม่มีเงิน
    ฉันก็เลยต้องทำทุกอย่างในราคาประหยัด
  • 3:34 - 3:35
    ฉะนั้น ฉันไปที่ คานาเดียน ไทร์ --
  • 3:35 - 3:37
    (เสียงหัวเราะ)
  • 3:37 - 3:40
    และซื้อถุงพลาสติก ทเป และผ้าสีเข้ม
  • 3:40 - 3:43
    นาฬิกาจับเวลา ชุดกระดาษ
    และเรสไปเรเตอร์
  • 3:44 - 3:47
    และจากนั้น ฉันยืมอุปกรณ์ไฮเทคบางชิ้น
    จากมหาวิทยาลัยของฉัน
  • 3:47 - 3:52
    เช่น ไกเกอร์ เคาเตอร์, เซนทิเลชัน เคาเตอร์
    แมส สเปกโตรมิเตอร์, กล้องจุลทรรศน์
  • 3:52 - 3:54
    และจากนั้น ฉันก็หาของที่อันตรายมา
  • 3:54 - 3:59
    เช่น หลอดฉีดยาที่เต็มไปด้วยกัมมันตรังสี
    ก๊าซคาร์บอน-14 คาร์บอนไดออกไซด์
  • 3:59 - 4:01
    และขวดทนแรงดันสูง
  • 4:01 - 4:05
    ของไอโซโทปที่เสถียร
    ของก๊าซคาร์บอน-13 คาร์บอนไดออกไซด์
  • 4:06 - 4:07
    แต่ฉันได้รับอนุญาติถูกต้องนะคะ
  • 4:07 - 4:09
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:09 - 4:10
    โอ้ และฉันลืมอะไรไปบางอย่าง
  • 4:11 - 4:13
    ของสำคัญด้วย นั่นก็คือสเปรย์ฉีดแมลง
  • 4:14 - 4:16
    สเปรย์ฉีดไล่หมี และเครื่องกรอง
    สำหรับเรสไปเรเตอร์ของฉัน
  • 4:17 - 4:18
    ค่ะ
  • 4:20 - 4:22
    วันแรกของการทดลอง
    ฉันออกไปยังแปลงของเรา
  • 4:22 - 4:25
    และหมีกริสรีตัวใหญ่กับลูกก็วิ่งไล่เรา
  • 4:26 - 4:27
    และฉันก็ไม่มีสเปรย์ไล่หมีซะด้วย
  • 4:29 - 4:32
    แต่คุณรู้ไหมคะ
    นั่นเป็นงานวิจัยในป่าในแบบแคนาดาน่ะค่ะ
  • 4:32 - 4:34
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:34 - 4:35
    วันรุ่งขึ้นฉันก็เลยกับไป
  • 4:35 - 4:38
    และหมีตัวแม่และลูกของมันก็ไปแล้ว
  • 4:38 - 4:40
    ฉะนั้น นี่เป็นเวลาเหมาะที่ฉันจะลงมือ
  • 4:40 - 4:42
    และฉันก็ใส่เสื้อกระดาษขาวของฉัน
  • 4:42 - 4:44
    และใส่แอสไปเรเตอร์
  • 4:46 - 4:47
    และจากนั้น
  • 4:47 - 4:50
    ก็เอาถุงพลาสติกหุ้มต้นไม้
  • 4:51 - 4:53
    ฉันเอาเข็มฉีดยายักษ์มา
  • 4:53 - 4:55
    และฉีดเข้าไปในถุง
  • 4:55 - 4:58
    ด้วยไอโซโทปติดตาม
    ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
  • 4:58 - 5:00
    เริ่มด้วย เบิร์ช
  • 5:00 - 5:03
    ฉันฉีดคาร์บอน-14
    ก๊าซซึ่งมีกัมมันตรังสี
  • 5:03 - 5:04
    เข้าไปในถุงของเบิร์ช
  • 5:04 - 5:05
    และจากนั้นก็เฟอร์
  • 5:05 - 5:09
    ฉันฉีดไอโซโทปที่เสถียร
    ของก๊าซคาร์บอน-13 คาร์บอนไดออกไซด์
  • 5:09 - 5:11
    ฉันใช้สองไอโซโทป
  • 5:11 - 5:12
    เพราะฉันสงสัยว่า
  • 5:12 - 5:16
    มันจะมีการสื่อสารสองทาง
    ระหว่างสายพันธุ์เหล่านี้หรือไม่
  • 5:18 - 5:20
    ฉันไปถึงถุงสุดท้าย
  • 5:20 - 5:22
    ที่ต้นที่ 80
  • 5:22 - 5:24
    และทันใดนั้นเอง หมีตัวแม่ก็โผล่มาอีก
  • 5:24 - 5:26
    และเธอก็เริ่มวิ่งไล่ฉัน
  • 5:26 - 5:28
    ฉันมีเข็มฉีดยานั่นอยู่เหนือหัว
  • 5:28 - 5:31
    และฉันก็กำลังตบยุงและวิ่งเข้าไปในรถตู้
  • 5:31 - 5:32
    และฉันก็คิดว่า
  • 5:32 - 5:34
    "นี่คงเป็นเหตุผลว่า ทำไมคนเขา
    ทำการทดลองกันในห้องทดลอง"
  • 5:34 - 5:35
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:37 - 5:39
    ฉันรออยู่ชั่วโมงหนึ่ง
  • 5:39 - 5:40
    ฉันได้เรียนรู้ว่า
    มันต้องใช้เวลานานขนาดนี้
  • 5:40 - 5:43
    ต้นไม้ถึงดูดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไป
    โดยกระบวนการสังเคราะห์แสง
  • 5:43 - 5:46
    เปลี่ยนมันเป็นน้ำตาล
    และส่งมันกลับลงมายังราก
  • 5:46 - 5:49
    และบางที ฉันตั้งสมมติฐานไว้ว่า
  • 5:49 - 5:52
    มันจะส่งคาร์บอนดังกล่าวไปใต้ดิน
    ให้เพื่อนบ้านของมัน
  • 5:53 - 5:55
    หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
  • 5:55 - 5:56
    ฉันเปิดหน้าต่าง
  • 5:56 - 5:58
    และมองหาหมีตัวแม่
  • 5:59 - 6:01
    โอ้ ดีเลย มันไปกินฮักเคิลเบอร์รี
    อยู่ทางนั้นแล้ว
  • 6:02 - 6:04
    ฉันออกจากรถตู้และไปทำงาน
  • 6:04 - 6:08
    ฉันไปยังถุงแรกที่มีเบิร์ช ดึงถุงออก
  • 6:08 - 6:11
    และใช้เครื่องไกเกอร์ เคาเตอร์ ตรวจที่ใบ
  • 6:11 - 6:12
    กริ๊ก
  • 6:13 - 6:15
    ยอดเลย
  • 6:15 - 6:18
    เบิร์ชดูดก๊าซกัมมันตรังสีเข้าไป
  • 6:18 - 6:19
    จากนั้นก็มาถึงวินาทีแห่งความจริง
  • 6:19 - 6:21
    ฉันไปยังต้นเฟอร์
  • 6:21 - 6:23
    และดึงถุงออก
  • 6:23 - 6:25
    ใช้เครื่องไกเกอร์ เคาเตอร์ ตรวจไปบนใบของมัน
  • 6:25 - 6:28
    และฉันก็ได้ยินเสียงที่เพราะที่สุด
  • 6:28 - 6:30
    กริ๊ก
  • 6:31 - 6:33
    มันเป็นเสียงที่ต้นเบิร์ชคุยกับเฟอร์
  • 6:34 - 6:37
    และเบิร์ชบอกว่า "เฮ่ ให้ช่วยไหม"
  • 6:37 - 6:41
    และเฟอร์บอกว่า "เอาสิ
    ส่งคาร์บอนมาให้หน่อยได้ไหม
  • 6:41 - 6:43
    เพราะใครบางคนเอาผ้าดำ ๆ มาคลุมฉัน"
  • 6:44 - 6:48
    ฉันไปยังต้นซีดาร์ และใช้เครื่องไกเกอร์ เคาเตอร์
    ตรวจใบของมัน
  • 6:48 - 6:50
    และอย่างที่ฉันคาด
  • 6:51 - 6:52
    เงียบค่ะ
  • 6:53 - 6:55
    ซีดาร์อยู่ในโลกของมันเอง
  • 6:55 - 6:59
    มันไม่ได้เชื่อมต่อกับเครือข่าย
    ที่เกี่ยวพันกันของเบิร์ชและเฟอร์
  • 7:00 - 7:01
    ฉันตื่นเต้นมาก
  • 7:02 - 7:06
    ฉันวิ่งจากแปลงหนึ่งไปอีกแปลงหนึ่ง
    และตรวจดูพืชทั้งหมดอีก 80 ต้น
  • 7:06 - 7:08
    หลักฐานแสดงชัดเจน
  • 7:08 - 7:11
    C-13 และ C-14 แสดงให้ฉันเห็น
  • 7:11 - 7:15
    ว่าเปเปอร์ เบิร์ช และดักลาส เฟอร์
    กำลังถ่ายทอดสดการสนทนาสองทาง
  • 7:16 - 7:18
    ปรากฏว่าในช่วงนั้นของปี
  • 7:18 - 7:19
    ในช่วงฤดูร้อน
  • 7:19 - 7:23
    เบิร์ชส่งคาร์บอนไปยังเฟอร์
    มากกว่าที่เฟอร์ส่งมาให้เบิร์ช
  • 7:23 - 7:25
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฟอร์อยู่ในร่ม
  • 7:25 - 7:28
    และจากนั้นในการทดลองต่อไป
    เราพบสิ่งที่ตรงข้าม
  • 7:28 - 7:32
    ที่เฟอร์ส่งคาร์บอนให้เบิร์ช
    มากกว่าที่เบิร์ชส่งให้เฟอร์
  • 7:32 - 7:35
    และนั่นเป็นเพราะเฟอร์ยังคงเติบโต
    ในขณะที่เบิร์ชไม่มีใบเลย
  • 7:36 - 7:39
    ฉะนั้น มันกลายเป็นว่าสายพันธุ์ทั้งสอง
    พึ่งพากันและกัน
  • 7:39 - 7:40
    เหมือนหยินกับหยาง
  • 7:41 - 7:44
    และ ณ วินาทีนั้น
    ทุกอย่างเข้ามายังจุดนใจของฉัน
  • 7:44 - 7:46
    ฉันรู้ว่าฉันได้พบอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่
  • 7:46 - 7:51
    บางอย่างที่อาจเปลี่ยนแนวความคิดของเรา
    ในเรื่องปฏิสัมพันธ์ของต้นไม้ในป่า
  • 7:51 - 7:53
    จากไม่ใช่แค่เรื่องการแข่งขัน
  • 7:53 - 7:55
    แต่ยังเป็นเรื่องของการร่วมมือ
  • 7:56 - 7:58
    และฉันพบหลักฐานสำคัญ
  • 7:58 - 8:02
    ของเครือข่ายสื่อสารขนาดใหญ่ใต้ดินนี้
  • 8:02 - 8:03
    ซึ่งเหมือนเป็นโลกอีกใบ
  • 8:04 - 8:06
    ค่ะ ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งและเชื่อว่า
  • 8:06 - 8:09
    การค้นพบของฉันจะเปลี่ยนวิธีการ
    ที่เรามีต่อการดูแลรักษาป่า
  • 8:10 - 8:11
    จากการถางให้โล่งและใช้ยาฆ่าวัชพืช
  • 8:11 - 8:14
    มาเป็นวิธีการแบบบูรณาการณ์และยั่งยืน
  • 8:14 - 8:17
    วิธีการที่ประหยัดกว่าและปฏิบัติได้จริง
  • 8:18 - 8:19
    ดิแันกำลังคิดอะไรอยู่น่ะหรือคะ
  • 8:20 - 8:21
    ฉันจะพูดถึงอีกครั้งค่ะ
  • 8:24 - 8:28
    แล้วเราจะศึกษาวิจัย
    ระบบที่ซับซ้อนอย่างป่านี้ได้อย่างไร
  • 8:29 - 8:32
    ค่ะ ในฐานะนักวนศาสตร์
    ฉันจะต้องทำงานวิจัยในป่า
  • 8:32 - 8:34
    และมันก็ยากมาก ๆ อย่างที่ฉันแสดงให้คุณดู
  • 8:34 - 8:37
    และฉันจะต้องวิ่งหนีหมีให้เก่งด้วย
  • 8:39 - 8:40
    แต่ที่สำคัญที่สุด เราต้องยืนหยัด
  • 8:40 - 8:43
    แม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะมาขวางทางเรา
  • 8:43 - 8:46
    และเราจะต้องตามสัญชาติญาณ
    และประสบการณ์ของเรา
  • 8:46 - 8:48
    และถามคำถามที่สำคัญ
  • 8:48 - 8:51
    และจากนั้น เราต้องรวบรวมข้อมูล
    และนำมาประมวลผล
  • 8:51 - 8:56
    สำหรับฉันแล้ว ฉันทำการศึกษาทดลอง
    และตีพิมพ์ผลงานมากมายในป่า
  • 8:57 - 9:01
    การทดลองปลูกต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุด
    ตอนนี้มีอายุกว่า 30 ปีแล้ว
  • 9:02 - 9:03
    คุณไปดูได้เลยค่ะ
  • 9:03 - 9:05
    นั่นเป็นแนวทางของการทำงาน
    ในสาขาวนศาสตน์
  • 9:06 - 9:09
    ฉะนั้น ตอนนี้ฉันอยากพูดถึงวิทยาศาสตร์
  • 9:09 - 9:12
    เปเปอร์ เบิร์ช และดักลาส เฟอร์
    สื่อสารกันได้อย่างไร
  • 9:12 - 9:16
    ค่ะ ปรากฏว่าพวกมันคุยกัน
    ไม่เพียงแต่ในภาษาคาร์บอนเท่านั้น
  • 9:16 - 9:19
    แต่ยังใช้ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส
  • 9:19 - 9:24
    และน้ำและสัญญาณการป้องกันตัว
    และสารเคมีและฮอร์โมนอื่น ๆ --
  • 9:24 - 9:25
    ในการส่งข้อมูล
  • 9:26 - 9:29
    และรู้ไหมคะ ต้องบอกว่าก่อนที่ฉันจะค้นพบ
    นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า
  • 9:29 - 9:33
    การอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาใต้ดินนี้
    ที่เรียกกันว่า ไมคอร์ไรซา
  • 9:33 - 9:34
    มีส่วนเกี่ยวข้อง
  • 9:34 - 9:38
    ไมคอร์ไรซา มีชื่อตามความหมายว่า
    "รากฟังกัส"
  • 9:38 - 9:42
    คุณจะเห็นอวัยวะสืบพันธุ์ของมัน
    เมื่อคุณเดินผ่านป่า
  • 9:42 - 9:44
    พวกมันคือเห็น
  • 9:44 - 9:47
    เห็น แม้ว่ามันจะเป็นเหมือนแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง
  • 9:47 - 9:51
    เพราะว่าที่ออกมาจากก้านของพวกมัน
    คือสายฟังกัสที่ก่อตัวเป็นไมซิเลียม
  • 9:51 - 9:54
    และไมซีเลียมดังกล่าว
    ก็บุกและตั้งอาณานิคมในราก
  • 9:54 - 9:56
    ของต้นไม้และพืช
  • 9:56 - 9:59
    และที่ซึ่งเซลล์ของฟังกัส
    มีปฏิสัมพันธ์กับเซลล์ราก
  • 9:59 - 10:02
    ตรงนั้นมีการแลกเปลี่ยนคาร์บอน
    เพื่อสารอาหาร
  • 10:02 - 10:05
    และฟังกัสนั้นได้สารอาหารเหล่านั้น
  • 10:05 - 10:07
    และเคลือบไปบนทุกอนุภาคดิน
  • 10:08 - 10:12
    ใยดังกล่าวหนาแน่นมาก
    จนมันอาจมีไมซิเลียมยาวหลายร้อยกิโลเมตร
  • 10:12 - 10:14
    ภายใต้เพียงหนึ่งก้าวย่าง
  • 10:15 - 10:20
    และไม่เพียงแค่นั้น ไมซีเลียมพวกนั้น
    ยังเชื่อมต่อสิ่งต่าง ๆ ในป่า
  • 10:20 - 10:26
    สิ่งต่าง ๆ ไม่เพียงแต่จะเป็นสายพันธุ์เดียวกัน
    แต่ยังมีหลายสายพันธุ์ อย่างเบิร์ช และเฟอร์
  • 10:26 - 10:28
    และมันทำงานเหมือนกับอินเทอร์เน็ต
  • 10:30 - 10:32
    ค่ะ เหมือนกับเครือข่าย
  • 10:32 - 10:34
    เครือข่ายไมคอร์ไรซา
    ที่มีจุดเชื่อมและการเชื่อมต่อ
  • 10:35 - 10:39
    เราทำแผนที่นี้โดยสำรวจลำดับสั้น ๆ ของดีเอ็นเอ
  • 10:39 - 10:44
    ของต้นไม้และฟังกัสทุกต้น
    ในพื้นที่ของป่าดักลาส เฟอร์
  • 10:44 - 10:48
    ในภาพนี้ วงกลมแสดงถึงดักลาส เฟอร์
    หรือจุดเชื่อมต่อ
  • 10:48 - 10:52
    และเส้นพวกนี้แสดงถึงการเชื่อมต่อ
    ของเส้นทางฟังกัส หรือว่าการเชื่อมต่อ
  • 10:53 - 10:57
    จุดเชื่อมต่อมืดใหญ่คือจุดที่ยุ่งเหยิง
  • 10:57 - 10:59
    เราเรียกพวกมันว่า ต้นชุมสาย
  • 10:59 - 11:02
    หรือแบบอบอุ่นหน่อยก็ ต้นแม่
  • 11:02 - 11:06
    เพราะปรากฏว่า ต้นชุมสายเหล่านั้น
    ดูแลต้นที่อ่อนกว่า
  • 11:07 - 11:09
    ที่เติบโตอยู่ภายใต้ร่มเงาของมัน
  • 11:09 - 11:11
    และถ้าคุณเห็นจุดเหลือง ๆ เหล่านั้น
  • 11:11 - 11:15
    นั่นคือต้นอ่อนที่อยู่ในเครือข่าย
  • 11:15 - 11:16
    ของต้นแม่ที่แก่กว่า
  • 11:16 - 11:21
    ในป่าหนึ่ง ๆ ต้นแม่สามารถเชื่อมต่อ
    กับต้นไม้อื่น ๆ ได้หลายร้อยต้น
  • 11:22 - 11:24
    และจากการใช้การติดตามไอโซโทปของเรา
  • 11:24 - 11:26
    เราพบว่าต้นแม่
  • 11:26 - 11:29
    จะส่งคาร์บอนที่มากเกินไป
    ผ่านเครือข่ายไมคอร์ไรซา
  • 11:29 - 11:31
    ไปยังต้นอ่อนในร่มเงาของมัน
  • 11:31 - 11:34
    และเราได้เห็นความสัมพันธ์ของมัน
    ต่อการอยู่รอดของต้นอ่อนที่เพิ่มขึ้น
  • 11:34 - 11:35
    ถึงสี่เท่า
  • 11:36 - 11:39
    ตอนนี้ คุณรู้ก็ว่าเราทุกคนชอบลูกของตัวเอง
  • 11:39 - 11:42
    และฉันก็สงสัยว่า ดักลาส เฟอร์
    จะจำพวกเดียวกันได้หรือเปล่า
  • 11:44 - 11:46
    เหมือนหมีตัวแม่กับลูก ๆ ของมัน
  • 11:47 - 11:48
    ฉันก็เลยทำการทดลองอีกชุดหนึ่ง
  • 11:48 - 11:52
    และปลูกต้นแม่ไว้กับต้นอ่อนพันธุ์เดียวกัน
    และต้นอ่อนต่างสายพันธุ์
  • 11:52 - 11:55
    และปรากฏว่าพวกมันจำพวกเดียวกันเองได้
  • 11:55 - 12:00
    ต้นแม่ตั้งอาณานิคมพวกของมัน
    ด้วยเครือข่ายไมคอร์ไรซาที่ใหญ่กว่าเดิม
  • 12:00 - 12:03
    พวกมันส่งคาร์บอนไปใต้ดินมากกว่าเดิม
  • 12:03 - 12:05
    พวกมันลดการใช้ในรากของมันด้วยซ้ำ
  • 12:05 - 12:08
    เพื่อสร้างห้องหักศอกให้ลูก ๆ ของมัน
  • 12:08 - 12:12
    เมื่อต้นแม่ติดเชื้อและกำลังจะตาย
  • 12:12 - 12:16
    พวกมันส่งข้อความที่เป็นความรู้
    ไปยังต้นอ่อนรุ่นถัดไป
  • 12:17 - 12:19
    เราใช้การติดตามไอโซโทป
  • 12:19 - 12:21
    เพื่อติดตามการเคลื่อนของคาร์บอน
    จากต้นแม่ที่ติดเชื้อ
  • 12:21 - 12:24
    ไปตามลำต้นของมัน
    ลงไปยังเครือข่ายไมคอร์ไรซา
  • 12:24 - 12:26
    และเข้าไปในต้นอ่อนใกล้ ๆ
  • 12:27 - 12:29
    ไม่เพียงแต่คาร์บอน แต่มันยังส่งสัญญาณป้องกันด้วย
  • 12:29 - 12:31
    และสององค์ประกอบนี้
  • 12:31 - 12:35
    เพิ่มการต้านทานของต้นอ่อนเหล่านั้น
    ต่อความเครียดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
  • 12:35 - 12:37
    ฉะนั้น ต้นไม้พูดได้ค่ะ
  • 12:39 - 12:41
    (เสียงปรบมือ)
  • 12:41 - 12:42
    ขอบคุณค่ะ
  • 12:45 - 12:48
    จากการสนทนาไปกลับ
  • 12:48 - 12:50
    พวกมันเพิ่มความต้านทานของทั้งกลุ่ม
  • 12:51 - 12:54
    มันอาจทำให้คุณนึกถึงกลุ่มสังคมโซเชียล
  • 12:54 - 12:56
    และครอบครัวของเรา
  • 12:56 - 12:57
    ค่ะ อย่างน้อยก็บางครอบครัวน่ะค่ะ
  • 12:57 - 12:59
    (เสียงหัวเราะ)
  • 13:00 - 13:01
    เอาล่ะ กลับมายังจุดเริ่มแรกกัน
  • 13:02 - 13:05
    ป่าไม่ได้เป็นแค่สถานที่รวบรวมต้นไม้
  • 13:05 - 13:08
    พวกมันเป็นระบบที่ซับซ้อน
    ที่มีจุดเชื่อมต่อและเครือข่าย
  • 13:09 - 13:12
    ที่ซ้อนทับและเชื่อมต่อต้นไม้
    และยอมให้พวกมันสื่อสารกัน
  • 13:12 - 13:16
    และพวกมันทำให้เกิดเส้นทาง
    สำหรับการส่งผลตอบรับและการปรับเปลี่ยน
  • 13:16 - 13:18
    และสิ่งนี้เองทำให้ป่ามีความยืดหยุ่น
  • 13:18 - 13:23
    นั่นเป็นเพราะว่ามันมีต้นไม้ที่เป็นจุดเชื่อมต่อมากมาย
    และเครือข่ายที่มีการซ้อนทับกันมาก
  • 13:23 - 13:25
    แต่พวกมันเปราะบาง
  • 13:25 - 13:28
    ไม่เพียงแต่เปราะบาง
    ต่อการแปรปรวนทางธรรมชาติ
  • 13:28 - 13:32
    อย่างแมลกินเปลือกไม้
    ที่เลือกโจมตีต้นไม้ใหญ่อายุมาก
  • 13:32 - 13:34
    แต่มันยังถูกคุกคามจากการตัดไม้
    และการถางป่าอีกด้วย
  • 13:35 - 13:38
    เห็นไหมคะ คุณสามารถตัดต้นชุมสาย
    ออกไปหนึ่งหรือสองต้น
  • 13:38 - 13:40
    แต่นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยน
  • 13:41 - 13:44
    เพราะว่าต้นชุมสาย
    ไม่ได้ต่างอะไรกับหมุดบนเครื่องบิน
  • 13:44 - 13:47
    คุณเอามันออกไปสองสามตัว
    เครื่องบินก็ยังใช้การได้
  • 13:47 - 13:49
    แต่ถ้าคุณเอามันออกไปมากเกินไป
  • 13:49 - 13:52
    หรือบางทีหมุดตัวนั้นยึดส่วนปีกอยู่
  • 13:52 - 13:54
    ระบบทั้งหมดก็อาจพังได้
  • 13:55 - 13:58
    ฉะนั้น ตอนนี้คุณมองป่าอย่างไรคะ
    ต่างไปจากเดิมหรือเปล่า
  • 13:58 - 13:59
    (ผู้ชม) ใช่
  • 13:59 - 14:00
    ยอดเลยค่ะ
  • 14:01 - 14:02
    ฉันดีใจมากค่ะ
  • 14:03 - 14:07
    ฉะนั้น จำไว้นะคะว่า
    ก่อนหน้านี้ฉันหวังว่างานวิจัยของฉัน
  • 14:07 - 14:10
    การค้นพบของฉันจะเปลียนแปลง
    วิธีที่เราปฏิบัติต่อป่า
  • 14:10 - 14:14
    ค้่ะ ฉันอยากจะไปตรวจดูอีกครั้ง
    ในอีก 30 ปี ที่นี่ในแคนาดาตะวันตก
  • 14:23 - 14:25
    ซึ่งห่างไปจากเราไปทางตะวันตก
    ประมาณ 100 กิโลเมตร
  • 14:25 - 14:28
    ตรงชายแดนของอุทยานแห่งชาติบานฟ์
  • 14:29 - 14:31
    มันมีการถางป่ามากมาย
  • 14:31 - 14:32
    มันไม่ได้งามบริสุทธิ์อย่างธรรมชาติ
  • 14:34 - 14:39
    ในปี ค.ศ. 2014 สถาบันทรัพยากรโลก
    รายงานว่าแคนาดาในทศวรรษที่ผ่านมา
  • 14:39 - 14:43
    มีอัตราการรบกวนป่าสูงที่สุด
    กว่าประเทศใด ๆ ทั่วโลก
  • 14:44 - 14:45
    และฉันขอพนันเลย
    ว่าคุณจะคิดว่าเป็นบราซิล
  • 14:47 - 14:51
    ในแคนานา ตัวเลขนั้นคือ
    3.6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
  • 14:51 - 14:55
    ตอนนี้ จากการคำนวนคร่าว ๆ ของฉัน
    มันมากกว่าสี่เท่าของอัตราที่ยั่งยืน
  • 14:57 - 15:01
    การรบกวนในระดับนั้น
    เป็นที่รู้กันว่ามันรบกวนต่อวัฏจักรไฮโดรเจน
  • 15:01 - 15:03
    ทำลายแหล่งที่อยู่ของสัตว์ป่า
  • 15:03 - 15:06
    และปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    กลับออกไปยังบรรยากาศ
  • 15:06 - 15:09
    ซึ่งสร้างการรบกวนเพิ่มขึ้น
    และทำให้ต้นไม้ตายมากขึ้น
  • 15:11 - 15:14
    ไม่เพียงแค่นั้น เรายังปลูกพืช
    สองสามสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง
  • 15:14 - 15:16
    และกำจัดแอสเพินและเบิร์ช
  • 15:17 - 15:20
    ป่าที่ความหลากหลายลดลง
    ขาดความซับซ้อน
  • 15:20 - 15:23
    และพวกมันก็เปราะบาง
    ต่อการติดเชื้อและการโจมตึของแมลง
  • 15:23 - 15:25
    และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • 15:25 - 15:28
    มันกำลังสร้างปัจจัยสำคัญ
  • 15:29 - 15:33
    สำหรับเหตุการณ์ที่รุนแรง เช่น
    การระบาดหนักของแมลงปีกแข็งสนภูเขา
  • 15:33 - 15:35
    ที่แพร่กระจายไปทั่วอเมริกาเหนือ
  • 15:36 - 15:39
    หรือไฟป่ารุนแรงในสองสามเดือนที่ผ่านมา
    ในอัลเบอร์ตา
  • 15:41 - 15:43
    ฉะนั้น ฉันอยากจะ
    กลับไปยังคำถามสุดท้ายของฉัน
  • 15:45 - 15:47
    ซึ่งก็คือ
    แทนที่จะทำให้ป่าของเราอ่อนแอลง
  • 15:47 - 15:50
    เราจะทำอย่างไรเพื่อช่วยให้พวกมัน
    รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • 15:52 - 15:56
    ค่ะ สิ่งที่ดีสำหรับป่าที่เป็นระบบซับซ้อนนั้น
  • 15:56 - 15:59
    คือพวกมันมีความสามารถ
    ในการเยียวยาตัวเองได้มาก
  • 16:00 - 16:01
    ในการทดลองของเราเมื่อไม่นานมานี้
  • 16:01 - 16:05
    พวกเราพบว่า การตัดไม้เป็นหย่อม ๆ
    และการคงต้นชุมสายเอาไว้
  • 16:05 - 16:09
    และการเกิดขึ้นใหม่ของความหลากหลาย
    ของสายพันธุ์และยีนและจีโนไทป์
  • 16:09 - 16:13
    ที่เป็นเครือข่ายของไมคอร์ไรซาเหล่านี้
    พวกมันฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
  • 16:14 - 16:18
    ค่ะ ฉันอยากจะทิ้งทางออกสี่ประการ
    เอาไว้ให้คุณคิด
  • 16:18 - 16:22
    และเราห้ามทำตัวเป็นเด็กโดยอ้างว่า
    นั่นมันซับซ้อนเกินกว่าที่เราจะทำได้
  • 16:23 - 16:26
    ประการแรก เราทุกคนต้องไปในป่า
  • 16:28 - 16:32
    เราต้องสร้างความร่วมมือท้องถิ่น
    ในป่าของเราขึ้นมาใหม่
  • 16:32 - 16:34
    ค่ะ ป่าของเราส่วนใหญ่ในตอนนี้
  • 16:34 - 16:37
    ถูกบริหารจัดการโดยใช้
    วิธีการแบบที่ปรับใช้กับทุกอย่าง
  • 16:37 - 16:41
    แต่การดูแลป่า ต้องการความรู้
    ในเรื่องสภาพพื้นที่จำเพาะ
  • 16:42 - 16:46
    ประการที่สอง เราต้องการรักษา
    ป่าที่มีอยู่มานานแล้ว
  • 16:47 - 16:53
    มันเป็นแหล่งคลังของยีนและต้นแม่
    และเครือข่ายไมคอร์ไรซา
  • 16:55 - 16:57
    นั่นหมายถึง เราต้องลดการตัดไม้
  • 16:57 - 16:59
    ฉันไม่ได้หมายความว่าเราตัดไม่ได้
    แต่เราต้องลดการตัดไม้ลง
  • 17:00 - 17:03
    และประการที่สาม เมื่อเราตัดไม้
  • 17:03 - 17:04
    เราต้องรักษามรดกของมันเอาไว้
  • 17:05 - 17:07
    ซึ่งก็คือต้นแม่และเครือข่าย
  • 17:07 - 17:09
    และป่า และยีน
  • 17:09 - 17:13
    เพื่อที่มันจะได้ส่งต่อความรู้ของมัน
    ไปยังต้นไม้รุ่นถุดไป
  • 17:13 - 17:16
    เพื่อที่พวกมันจะสามารถทนทาน
    ต่อความเครียดในอนาคตที่กำลังจะมาถึง
  • 17:17 - 17:19
    เราต้องเป็นนักอนุรักษ์
  • 17:20 - 17:23
    และสุดท้าย ประการที่สี่และประการสุดท้าย
  • 17:23 - 17:27
    เราต้องสร้างป่าของเราขึ้นใหม๋
    ด้วยความหลากหลายทางสายพันธุ์
  • 17:27 - 17:29
    และจีโนไทป์ และโครงสร้าง
  • 17:29 - 17:32
    โดยการปลูกและการปล่อยให้มัน
    ฟื้นฟูขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ
  • 17:33 - 17:36
    เราต้องมอบเครื่องมือที่พระแม่ธรณีต้องการ
  • 17:36 - 17:38
    เพื่อที่พระนางจะได้ใช้ปัญญาของท่าน
    ในการรักษาเยียวยาตนเอง
  • 17:39 - 17:42
    และเราต้องจำไว้ว่า
    ป่าไม่ใช่แค่กลุ่มของต้นไม้
  • 17:42 - 17:44
    ที่แข่งขันแก่งแย่งกันและกัน
  • 17:44 - 17:45
    พวกมันทำงานร่วมกันอย่างมาก
  • 17:47 - 17:48
    กลับไปยังจิ๊ก
  • 17:48 - 17:53
    จิ๊กตกลงไปในบ่อเกรอะ
    ทำให้ฉันเห็นโลกอีกใบ
  • 17:53 - 17:56
    และมันเปลี่ยนแนวคิดที่ฉันมีต่อป่า
  • 17:56 - 17:59
    ฉันหวังว่าวันนี้ คุณจะมีมุมมองต่อป่า
    ที่ต่างออกไป
  • 17:59 - 18:00
    ขอบคุณค่ะ
  • 18:00 - 18:06
    (เสียงปรบมือ)
Title:
ป่าพูดกันได้อย่างไร
Speaker:
ซูซาน ซิมาร์ด (Suzanne Simard)
Description:

"ป่าเป็นมากกว่าที่คุณเห็น" นักนิเวศวิทยา ซูซาน ซิมาร์ด กล่าว งานวิจัย 30 ปีของเธอในป่าแคนาดาได้นำไปสู่การค้นพบที่น่าทึ่ง -- ต้นไม้พูดกันบ่อย ๆ และพูดกันในวงกว้าง มาเรียนรู้กันให้มากขึ้นเกี่ยวกับชีวิตสังคมอันซับซ้อนแต่กลมเกลียวของต้นไม้ และเตรียมพร้อมที่จะเห็นมุมมองใหม่ของโลกธรรมชาติ

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
18:24
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for How trees talk to each other
Natachanan Lumpikanon accepted Thai subtitles for How trees talk to each other
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How trees talk to each other
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How trees talk to each other
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How trees talk to each other
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How trees talk to each other
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How trees talk to each other
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for How trees talk to each other
Show all

Thai subtitles

Revisions