Return to Video

เรือบรรทุกผู้ลี้ภัย 500 คนจมลงในทะเล เรื่องราวของผู้รอดตาย 2 คน

  • 0:01 - 0:08
    ทุก ๆ วัน ฉันได้ฟังเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจ
    ของผู้คนที่ดิ้นรนเพื่อชีวิต
  • 0:08 - 0:11
    ข้ามผ่านพรมแดนที่อันตราย
    และทะเลที่ไม่เป็นมิตร
  • 0:12 - 0:17
    แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้ฉันหลับไม่ลง
  • 0:17 - 0:18
    เป็นเรื่องของโดอา
  • 0:18 - 0:21
    ผู้อพยพชาวซีเรีย วัย 19
  • 0:21 - 0:27
    เธอใช้ชีวิตอย่างทรหดในอียิปต์
    ได้ค่าจ้างเป็นรายวัน
  • 0:27 - 0:32
    ตลอดเวลาพ่อของเธอได้แต่คิดถึง
    ธุรกิจอันรุ่งเรืองตัวเองในซีเรีย
  • 0:32 - 0:36
    ที่ถูกทำลายไปโดยระเบิด
  • 0:36 - 0:42
    และสงครามทำให้พวกเขาต้องไปที่นั่น
    และยังคงคลุ้มคลั่งมาสี่ปี
  • 0:43 - 0:46
    และชุมชนที่ครั้งหนึ่งเคยต้อนรับพวกเขา
  • 0:46 - 0:49
    กลับกลายเป็นเฉยเมย
  • 0:49 - 0:52
    และวันหนึ่ง ผู้ชายบนมอเตอร์ไซต์
    พยายามจะฉุดตัวเธอ
  • 0:53 - 0:58
    ครั้งหนึ่งของนักศึกษาที่มุ่งมั่น
    คิดถึงอนาคตของตนเอง
  • 0:58 - 1:01
    แต่ตอนนี้เธอกลับมีแต่ความกลัวอยู่ตลอดเวลา
  • 1:02 - 1:04
    แต่เธอเต็มไปด้วยความหวัง
  • 1:04 - 1:09
    เพราะเธอพบรักกับผู้อพยพ
    ชาวซีเรียอีกคนบาเซม
  • 1:09 - 1:14
    บาเซมก็ดิ้นรนอยู่ในอียิปต์เช่นกัน
    จึงบอกกับโดอาว่า
  • 1:14 - 1:18
    "ไปยุโรป หาที่ลี้ภัย หาความปลอดภัย
  • 1:18 - 1:22
    ผมจะทำงาน ส่วนคุณจะเรียนก็ได้--
    นี่เป็นสัญญาของชีวิตใหม่"
  • 1:23 - 1:26
    และเขาขอโดอาแต่งงานต่อพ่อของเธอ
  • 1:27 - 1:32
    พวกเขารู้ดีว่าการไปยุโรปมัน
    เป็นความเสี่ยงในชีวิต
  • 1:32 - 1:35
    เดินทางข้ามผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • 1:35 - 1:40
    ฝากชีวิตไว้กับพวกนายหน้า
    ที่เรื่องลือในเรื่องความโหดร้าย
  • 1:41 - 1:45
    และโดอา เธอกลัวน้ำ
  • 1:45 - 1:48
    เธอเป็นมาตลอด เธอไม่เคยแม้แต่จะหัดว่ายน้ำ
  • 1:50 - 1:55
    มันเป็นเดือนสิงหาคมในปีนั้น
    และกว่า 2000 ชีวิตตายลง
  • 1:55 - 1:57
    ในการพยายามข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • 1:57 - 2:01
    แต่โดอารู้จักเพื่อนที่ทำมันสำเร็จ
    อยู่ตอนเหนือของยุโรป
  • 2:01 - 2:03
    เธอได้แต่คิดว่า
    "บางทีเราอาจจะทำได้เหมือนกัน"
  • 2:04 - 2:07
    ดังนั้นเธอจึงบอกกับพ่อแม่ว่าเธอจะไป
  • 2:07 - 2:10
    หลังจากการสนทนาที่ปวดร้าว
    พวกเขาก็ยอมให้เธอไป
  • 2:10 - 2:17
    และบาเซมจึงใช้เงินที่เขาเก็บออมมาทั้งชีวิต
    คนละ 2500 ดอลล่า--
  • 2:17 - 2:18
    ให้แก่พวกลักลอบเข้าเมือง
  • 2:19 - 2:22
    มันเป็นเช้าวันเสาร์
    ในตอนที่พวกเขาโทรศัพท์มา
  • 2:22 - 2:27
    พวกเขานั่งรถบัสไปที่ชายหาด
    คนนับร้อยอยู่ที่นั่น
  • 2:27 - 2:31
    พวกเขาใช้เรือลำเล็กพาไปยังเรือประมงเก่า ๆ
  • 2:31 - 2:34
    คน 500 คนอัดแน่นกันอยู่บนเรือ
  • 2:34 - 2:36
    300 คนอยู่ด้านล่าง [200] ข้างบน
  • 2:37 - 2:42
    มีทั้งคนซีเรีย ปาเลสไตน์ แอฟริกัน
    มุสลิม และคริสเตียน
  • 2:42 - 2:47
    เด็ก 100 คนรวมทั้ง ซานดรา
    ซานดราน้อย อายุหกขวบ
  • 2:47 - 2:50
    และมาซา สิบแปดเดือน
  • 2:51 - 2:55
    พวกเขาอยู่กันเป็นครอบครัวบนเรือ
    อยู่กันแน่นแบบไหล่ชนไหล่
  • 2:55 - 2:57
    เท้าชนเท้า
  • 2:57 - 3:01
    โดอาได้แต่นั่งยอง ๆ
    ขาเธอเบียดกับอก
  • 3:01 - 3:03
    บาเซมได้แต่กุมมือเธอไว้
  • 3:04 - 3:07
    วันที่สองบนท้องทะเล
    พวกเขาเริ่มป่วยและกังวล
  • 3:07 - 3:10
    ท้องไส้พวกเขาปั่นป่วนจากผืนทะเลที่บ้าคลั่ง
  • 3:11 - 3:14
    วันที่สามโดอาเริ่มมีลางสังหรณ์
  • 3:15 - 3:20
    และเธอพูดกับบาเซมว่า
    "ฉันกลัวว่าเราจะทำไม่ได้
  • 3:20 - 3:22
    ฉันกลัวเรือจะล่ม"
  • 3:23 - 3:26
    บาเซมได้แต่บอกเธอว่า "อดทนไว้นะ
  • 3:26 - 3:29
    เราจะไปสวีเดน เราจะแต่งงานกัน
  • 3:29 - 3:30
    เราจะมีอนาคต"
  • 3:32 - 3:36
    วันที่สี่ ผู้โดยสารเริ่มกระวนกระวาย
  • 3:36 - 3:39
    พวกเขาถามกัปตันว่า "เราจะไปถึงเมื่อไหร่"
  • 3:39 - 3:42
    กัปตันบอกให้พวกเขาหุบปากและด่าพวกเขา
  • 3:43 - 3:46
    เขาได้แต่พูดว่า "อีก 16 ชั่วโมง
    เราก็จะถึงชายฝั่งอิตาลี"
  • 3:47 - 3:50
    พวกเขาต่างอ่อนแอและเหนื่อยล้า
  • 3:50 - 3:54
    ไม่นานพวกเขาเห็นเรือลำหนึ่งตรงเข้ามา
    เป็นเรือเล็กที่ขนาดเล็กกว่ามีคนสิบคนบนนั้น
  • 3:54 - 3:57
    พวกเขาเริ่มตะโกนใส่พวกเธอด่าพวกเธอ
  • 3:57 - 4:02
    ขว้างปากิ่งไม้ แล้วบอกให้รับ
    พวกเขาทุกคนขึ้นบนเรือด้วย
  • 4:02 - 4:06
    ซึ่งถ้ารับขึ้นมาบนเรือลำนี้อีก
    เรือก็จะจมลงได้
  • 4:06 - 4:09
    พวกพ่อแม่เริ่มกังวลเกี่ยวกับลูก ๆ
  • 4:09 - 4:13
    พวกเขาเลยปฏิเสธที่จะให้ขึ้นเรือ
  • 4:14 - 4:17
    ดังนั้นเรือลำนั้นจึงจากไปพร้อมกับความโกรธ
  • 4:17 - 4:22
    ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขากลับมา
  • 4:22 - 4:28
    และเริ่มกระแทกด้านข้างของเรือให้เป็นรู
    ด้านข้างโดอา
  • 4:28 - 4:30
    ด้านล่างที่โดอากับบาเซมกำลังนั่งอยู่
  • 4:32 - 4:35
    และเธอได้ยินพวกเขาตะโกน
  • 4:35 - 4:38
    "ไปให้ปลากินเนื้อพวกแกซะ"
  • 4:40 - 4:45
    พวกเขาเริ่มหัวเราะในตอนที่เรือล่มและจมลง
  • 4:46 - 4:49
    300 คนข้างล่างจมอยู่ใต้น้ำ
  • 4:50 - 4:54
    โดอาจับด้านข้างเรือตอนที่มันจมลง
  • 4:54 - 5:01
    และเห็นภาพสยดสยองที่เด็กตัวเล็กคนหนึ่ง
    ถูกใบพัดตัดเป็นชิ้น ๆ
  • 5:02 - 5:05
    บาเซมบอกเธอว่า "ไปเถอะ
  • 5:05 - 5:08
    หรือจะถูกดูดเข้าไปในใบพัดนั่นที่จะฆ่าคุณ"
  • 5:08 - 5:10
    และถ้าจำกันได้ เธอว่ายน้ำไม่เป็น
  • 5:11 - 5:15
    แต่เธอไปและเริ่มเคลื่อนไหวแขนและขาของเธอ
  • 5:15 - 5:17
    คิดเพียงว่า "นี่คือการว่ายน้ำ"
  • 5:17 - 5:21
    น่าอัศจรรย์มาก บาเซมเจอห่วงยาง
  • 5:22 - 5:24
    เป็นห่วงยางเด็ก
  • 5:24 - 5:28
    ที่เขาเอาไว้เล่นในสระว่ายน้ำและทะเลที่สงบ
  • 5:28 - 5:30
    โดอาปีนขึ้นไปบนห่วงยาง
  • 5:30 - 5:34
    แขนและขาเธอห้อยออกมาด้านข้าง
  • 5:35 - 5:37
    บาเซมว่ายน้ำเก่ง
  • 5:37 - 5:41
    ดังนั้นเขาเลยจับมือเธอและลอยตัวในน้ำ
  • 5:42 - 5:44
    รอบ ๆ พวกเขาเต็มไปด้วยศพ
  • 5:44 - 5:46
    ในตอนแรกมีคนรอดตายประมาณ 100 คน
  • 5:47 - 5:51
    พวกเขาเริ่มรวมกันเป็นกลุ่ม
    ภาวนาขอความช่วยเหลือ
  • 5:51 - 5:55
    แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ไม่มีใครมาช่วยเหลือ
  • 5:55 - 5:57
    บางคนเร่ิมยอมแพ้
  • 5:57 - 5:59
    โดอาและบาเซมมองเห็นพวกเขา
  • 5:59 - 6:06
    ในระยะที่โดอาและบาเซมเห็นได้
    บางคนถอดเสื้อชูชีพออกและจมลงไป
  • 6:07 - 6:13
    ชายคนหนึ่งมาหาพวกเขาพร้อมทารกตัวเล็ก
    ที่เกาะอยู่บนบ่า
  • 6:13 - 6:15
    มาเลก อายุเก้าเดือน
  • 6:15 - 6:20
    เขาเกาะลอยตัวอยู่บนถังแก๊สและบอกพวกเขาว่า
  • 6:20 - 6:22
    "ฉันกลัวว่าจะไม่รอด
  • 6:22 - 6:24
    ฉันอ่อนแอเต็มทน ฉันหมดความกล้าหาญไปแล้ว"
  • 6:25 - 6:30
    เขาจึงส่งมาเลกน้อยแก่บาเซมและโดอา
  • 6:30 - 6:33
    พวกเขาเอาเธอไว้บนห่วงยาง
  • 6:34 - 6:39
    ดังนั้นตอนนี้พวกเขามีกันสามคน
    โดอา บาเซม และมาเลกน้อย
  • 6:39 - 6:42
    และฉันขอพักเรื่องไว้ตรงนี้ก่อน
  • 6:42 - 6:45
    และขอถามว่า
  • 6:45 - 6:49
    ทำไมผู้ลี้ภัยอย่างโดอา
    ถึงได้ยอมรับความเสี่ยงเช่นนี้
  • 6:51 - 6:56
    ผู้ลี้ภัยนับล้านใช้ชีวิตอย่างถูกทอดทิ้ง
    ในชายขอบ
  • 6:57 - 7:02
    พวกเขาอยู่ในหลายประเทศ[ที่กำลังหนีภัย]
    จากสงครามที่กำลังโหมกระหน่ำ
  • 7:02 - 7:04
    เป็นเวลากว่าสี่ปี
  • 7:06 - 7:09
    แม้พวกเขาจะอยากกลับไป ก็กลับไม่ได้
  • 7:09 - 7:12
    บ้านของพวกเขา ธุรกิจของพวกเขา
  • 7:12 - 7:15
    เมืองของพวกเขาถูกทำลายไปหมดแล้ว
  • 7:15 - 7:18
    นี้คือเมืองมรดกโลกยูเนสโก
  • 7:18 - 7:20
    ฮอมส์ ในซีเรีย
  • 7:21 - 7:26
    ดังนั้นผู้คนจึงหนีตายไปประเทศ
    เพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง
  • 7:26 - 7:29
    และพวกเราสร้างค่ายอพยพ
    สำหรับพวกเขากลางทะเลทราย
  • 7:29 - 7:33
    คนนับแสนอยู่ในค่ายอพยพแบบนี้
  • 7:33 - 7:38
    และกว่าล้านคนอยู่ในเมือง
  • 7:38 - 7:40
    และในชุมชนหลายแห่ง
  • 7:40 - 7:42
    ชาติเพื่อนบ้านที่ครั้งหนึ่ง
    เคยยินดีต้อนรับพวกเขา
  • 7:42 - 7:44
    ด้วยอ้อมแขนและหัวใจ
  • 7:44 - 7:46
    ต่างเริ่มยอมแพ้
  • 7:47 - 7:51
    พวกเขามีโรงเรียน ระบบน้ำ และสุขาภิบาล
    ที่ไม่เพียงพอ
  • 7:52 - 7:56
    แม้แต่ชาติในยุโรปที่ร่ำรวย
    ก็อาจไม่สามารถจัดการได้
  • 7:56 - 8:00
    ถ้าไม่มีเงินทุนมหาศาล
  • 8:01 - 8:06
    สงครามซีเรียได้ขับไสคนกว่าสี่ล้านคน
    รอบ ๆ ชายแดน
  • 8:06 - 8:11
    แต่อีกกว่าเจ็ดล้านคนจากภายในประเทศ
  • 8:11 - 8:15
    นั้นหมายความว่าประชากรซีเรียมากกว่าครึ่ง
  • 8:15 - 8:17
    ถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน
  • 8:18 - 8:22
    ย้อนกลับไปที่ชาติเพื่อนบ้านจำนวนมาก
  • 8:23 - 8:28
    พวกเขารู้สึกว่าชาติที่ร่ำรวยกว่า
    ช่วยพวกเขาเพียงน้อยนิด
  • 8:29 - 8:34
    จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี
  • 8:34 - 8:38
    พวกผู้อพยพควรจะอยู่เพียงชั่วคราว
  • 8:38 - 8:41
    กลับไปสู่โดอาและบาเซนกลางทะเล
  • 8:41 - 8:46
    เป็นวันที่สองแล้ว บาเซมเริ่มอ่อนแรง
  • 8:47 - 8:51
    และตอนนี้เป็นโดอาที่กลับพูดว่า
  • 8:51 - 8:56
    "ที่รัก เธอต้องมีหวังกับอนาคตของเรา
    เราจะผ่านพ้นไป"
  • 8:57 - 9:00
    เขาพูดกับเธอว่า
  • 9:00 - 9:05
    "ที่รักผมขอโทษ ผมทำให้คุณต้องมาเจออะไรแบบนี้
  • 9:05 - 9:09
    ผมไม่เคยรักใครเท่ากับคุณเลย"
  • 9:11 - 9:14
    และเขาก็ปล่อยให้ตัวเองจมลงในน้ำ
  • 9:14 - 9:21
    โดอาได้แต่มองคนรักของเธอจมลงไปต่อหน้าต่อตา
  • 9:24 - 9:26
    วันต่อมา
  • 9:26 - 9:32
    แม่คนหนึ่งมาหาโดอาพร้อมกับลูกของเธอ
    มาซาในวัยสิบแปดเดือน
  • 9:33 - 9:36
    เธอคือเด็กผู้หญิงที่ฉันให้พวกคุณดูมาแล้ว
  • 9:36 - 9:38
    เธอมาพร้อมกับเสื้อชูชีพ
  • 9:38 - 9:40
    พี่สาวเธอซานดราเพิ่งจะจมน้ำไป
  • 9:40 - 9:44
    และแม่ของเธอรู้ดีว่าเธอทำทุกอย่าง
    ที่เธอทำได้แล้ว
  • 9:44 - 9:45
    เพื่อช่วยชีวิตลูกสาวเธอ
  • 9:46 - 9:50
    เธอพูดกับโดอาว่า
    "ได้โปรดช่วยเด็กคนนี้ด้วย
  • 9:50 - 9:54
    ช่วยรับเธอไป ฉันคงไม่รอดแล้ว"
  • 9:55 - 9:58
    ต่อจากนั้นเธอก็จากไปแล้วจมลงในทะเล
  • 10:00 - 10:04
    ดังนั้น โดอา ผู้ลี้ภัยวัย 19 ปี ผู้กลัวน้ำ
  • 10:04 - 10:06
    ผู้ว่ายน้ำไม่เป็น
  • 10:06 - 10:12
    ต้องรับผิดชอบสองชีวิตน้อย ๆ
  • 10:12 - 10:15
    พวกเขากระหายน้ำ และพวกเขาหิว
    และพวกเขากระวนกระวาย
  • 10:15 - 10:18
    และเธอพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้
    ทารกทั้งสองสบายใจ
  • 10:18 - 10:22
    ร้องเพลง พูดคุย ท่องอัลกุรอานให้พวกเขาฟัง
  • 10:23 - 10:28
    รอบ ๆ พวกเขา ศพเริ่มอืดและเริ่มหมองคล้ำ
  • 10:28 - 10:29
    ดวงอาทิตย์สาดแสงเต็มที่ตลอดทั้งวัน
  • 10:29 - 10:32
    ตอนกลางคืน ดวงจันทร์ก็หนาวเย็น
    และปกคลุมด้วยหมอก
  • 10:32 - 10:34
    มันช่างน่ากลัว
  • 10:35 - 10:40
    วันที่สี่ในทะเล
    นี่อาจเป็นสิ่งที่โดอาเผชิญหน้า
  • 10:40 - 10:42
    บนห่วงยางกับทารกทั้งสอง
  • 10:42 - 10:45
    ผู้หญิงเข้ามาในวันที่สี่ และตรงมาหาเธอ
  • 10:45 - 10:49
    และขอให้เธอรับเด็กเพิ่มอีก
  • 10:49 - 10:52
    เด็กชายตัวเล็ก อายุเพียงสี่ขวบ
  • 10:53 - 10:57
    เมื่อโดอารับเด็กมาและแม่ของหนูน้อยจมลงไป
  • 10:57 - 10:59
    เธอบอกกับเด็กน้อยที่กำลังสะอื้น
  • 10:59 - 11:02
    "แม่หนูไปหาน้ำกับอาหารมาให้"
  • 11:04 - 11:06
    แต่ไม่นานหัวใจเด็กชายก็หยุดเต้น
  • 11:06 - 11:10
    โดอาได้แต่ปล่อยร่างของเด็กน้อยลงสู่พื้นน้ำ
  • 11:11 - 11:13
    หลังจากวันนั้น
  • 11:13 - 11:16
    เธอมองไปยังท้องฟ้าด้วยความหวัง
  • 11:16 - 11:20
    เพราะเธอเห็นเครื่องบินสองลำบินผ่าน
  • 11:20 - 11:25
    เธอโบกมือได้แต่หวังว่าพวกเขาจะเห็นเธอ
  • 11:25 - 11:27
    แต่แล้วเครื่องบินก็ผ่านไป
  • 11:27 - 11:30
    แต่ในตอนบ่ายในตอนที่ตะวันกำลังลับขอบฟ้า
  • 11:30 - 11:33
    เธอเห็นเรือเป็นเรือสินค้า
  • 11:34 - 11:38
    เธอพูดว่า"พระเจ้า ได้โปรดให้พวกเขาช่วยลูกด้วย"
  • 11:38 - 11:42
    เธอโบกมือและเธอรู้สึกเหมือนกับว่า
    เธอตะโกนอยู่ประมาณสองชั่วโมง
  • 11:42 - 11:47
    และแล้วมันเริ่มมืด แต่ในที่สุดไฟฉายบนเรือก็เจอเธอ
  • 11:47 - 11:49
    พวกเขาคล้องเธอกับเชือก
  • 11:49 - 11:54
    และประหลาดใจที่เห็นหญิงสาวอุ้มเด็กสองคน
  • 11:55 - 11:58
    พวกเขาดึงพวกเธอขึ้นบนเรือ
    ให้อ็อกซิเจนและผ้าห่ม
  • 11:58 - 12:01
    เฮลิคอปเตอร์ของกรีซมารับพวกเธอไป
  • 12:01 - 12:03
    และพาพวกเธอไปเกาะครีต
  • 12:04 - 12:08
    แต่โดอามองลงมากและถามหา
    "มาเลกไปไหน"
  • 12:08 - 12:12
    พวกเขาบอกเธอว่าเด็กน้อยไม่รอด
  • 12:12 - 12:15
    เธอสิ้นลมในคลินิคของเรือ
  • 12:16 - 12:22
    แต่โดอาแน่ใจว่าตอนพวกเขาช่วยพวกเธอขึ้นมาบนเรือ
  • 12:22 - 12:25
    เด็กหญิงคนนั้นกำลังยิ้ม
  • 12:27 - 12:33
    มีเพียง 11 คนจาก 500 คนที่รอดตายจากเรือล่ม
  • 12:34 - 12:39
    ไม่มีการสอบสวนในระดับนานาประเทศ
    ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนั้น
  • 12:39 - 12:43
    มีเพียงแต่การรายงานข่าวเกี่ยวกับ
    การฆาตกรรมหมู่ในท้องทะเล
  • 12:43 - 12:44
    แค่โศกนาฏกรรมเรื่องหนึ่ง
  • 12:44 - 12:47
    เป็นเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น
  • 12:47 - 12:51
    และแล้วข่าวคราวก็เลือนหายไป
  • 12:53 - 12:57
    ในขณะเดียวกัน บนโรงพยาบาลเด็กในเกาะครีต
  • 12:57 - 13:00
    มาซาน้อยกำลังจะตาย
  • 13:02 - 13:05
    เธอขาดน้ำ ไตกำลังล้มเหลว
  • 13:05 - 13:07
    กลูโคสในเลือดลดต่ำลง
    อยู่ในระดับอันตราย
  • 13:07 - 13:11
    ทีมแพทย์ทำทุกวิถีทาง
    เท่าที่ทำได้เพื่อช่วยเธอ
  • 13:11 - 13:15
    พยาบาลชาวกรีกไม่ห่างไปจากเธอ
  • 13:15 - 13:17
    กุมมือเธอ กอดเธอ พูดคุยกับเธอ
  • 13:17 - 13:22
    เพื่อนร่วมงานของฉันก็ได้ไปเยี่ยมเธอ
    และพูดกับเธอเป็นภาษาอาราบิค
  • 13:22 - 13:27
    น่าอัศจรรย์ มาซาน้อยรอดตาย
  • 13:28 - 13:34
    หลังจากนั้นกรีกเริ่มรายงาน
    เกี่ยวกับเด็กน้อยมหัศจรรย์
  • 13:34 - 13:40
    ผู้มีชีวิตรอดตายถึงสี่วันกลางทะเล
    โดยไม่มีอาหารและน้ำ
  • 13:40 - 13:45
    และข้อเสนอที่จะรับเลี้ยงเธอจากทั่วประเทศ
  • 13:45 - 13:49
    ในขณะเดียวกัน โดอาซึ่งอยู่ในอีกโรงพยาบาล
    บนเกาะครีต
  • 13:49 - 13:50
    ผอม ขาดน้ำ
  • 13:52 - 13:57
    ครอบครัวชาวอียิปต์ครอบครัวหนึ่ง
    รับเธอไปอุปการะทันทีที่เธอออกมา
  • 13:58 - 14:03
    เรื่องของโดอาผู้รอดชีวิตกระจายไปทั่ว
  • 14:03 - 14:06
    เบอร์โทรถูกเผยแพร่บนเฟซบุ๊ค
  • 14:07 - 14:10
    ข้อความต่าง ๆ เริ่มเข้ามา
  • 14:11 - 14:16
    "โดอา เธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น
    กับน้องชายฉัน
  • 14:16 - 14:22
    พี่สาวฉัน พ่อแม่ฉัน เพื่อนฉัน
    พวกเขารอดตายไหม"
  • 14:23 - 14:27
    หนึ่งในข้อความเหล่านั้นบอกว่า
  • 14:27 - 14:31
    "ฉันเชื่อว่าเธอช่วยหลานสาวตัวน้อยของฉัน
    มาซา"
  • 14:32 - 14:35
    และพวกเขามีรูปถ่าย
  • 14:36 - 14:38
    ที่มาจากลุงของมาซา
  • 14:38 - 14:43
    ผู้อพยพชาวซีเรียที่สามารถไปถึงสวีเดน
  • 14:43 - 14:45
    เช่นเดียวกับพี่สาวของมาซา
  • 14:46 - 14:51
    เร็ว ๆ นี้ เราหวังว่ามาซาจะกลับไปรวมญาติ
    กับเขาในสวีเดน
  • 14:51 - 14:57
    จนกว่าจะถึงตอนนั้น เธอกำลังได้รับการดูแล
    โดยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่สวยงามในเอเธนส์
  • 14:58 - 15:04
    และโดอา แน่นอน เรื่องของเธอกระจายไปทั่ว
  • 15:05 - 15:09
    และสื่อเขียนเกี่ยวกับผู้หญิงตัวบอบบาง
  • 15:09 - 15:13
    และไม่สามารถจินตนาการได้ว่า
    ทำไมเธอถึงรอดตายมาได้
  • 15:13 - 15:16
    ภายใต้สภาพท้องทะเลเช่นนั้น
  • 15:16 - 15:19
    และยังสามารถช่วยชีวิตคนอื่นอีก
  • 15:20 - 15:26
    The Academy of Athens หนึ่งในสถาบัน
    ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในกรีซ
  • 15:26 - 15:29
    มอบรางวัลกล้าหาญให้กับเธอ
  • 15:29 - 15:32
    และเธอสมควรได้รับการสรรเสริญ
  • 15:32 - 15:35
    และเธอได้รับโชคครั้งที่สอง
  • 15:36 - 15:39
    แต่เธอยังต้องการไปสวีเดน
  • 15:39 - 15:42
    เธอต้องการไปรวมญาติกับครอบครัวเธอที่นั่น
  • 15:42 - 15:46
    เธอต้องการพาพ่อแม่และและน้อง ๆ ของเธอ
  • 15:46 - 15:48
    มาจากอียิปต์ด้วยเช่นกัน
  • 15:48 - 15:51
    และฉันเชื่อว่าเธอจะทำสำเร็จ
  • 15:51 - 15:54
    เธอต้องการจะเป็นนักกฎหมาย
    หรือไม่ก็นักการเมือง
  • 15:54 - 15:59
    หรืออะไรก็ตามแต่ที่สามารถ
    ช่วยต่อสู้กับความอยุติธรรม
  • 15:59 - 16:02
    เธอคือผู้รอดตายที่ไม่ธรรมดา
  • 16:03 - 16:06
    แต่ฉันมีคำถาม
  • 16:06 - 16:08
    อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเธอไม่เสี่ยงภัยแบบนี้
  • 16:08 - 16:11
    ทำไมเธอต้องผ่านเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนี้
  • 16:11 - 16:16
    ทำไมไม่มีวิธีการที่ถูกกฎหมายให้เธอ
    ได้รับการศึกษาต่อในยุโรป
  • 16:16 - 16:21
    ทำไมมาซาถึงไม่ได้นั่งเครื่องบินไปยังสวีเดน
  • 16:21 - 16:23
    ทำไมบาเซมถึงหางานทำไม่ได้
  • 16:24 - 16:30
    ทำไมไม่ไม่มีการตั้งถิ่นฐานใหม่ให้กับ
    ผู้ลี้ภัยจำนวนมาก
  • 16:30 - 16:33
    เหยื่อสงครามที่เลวร้ายในยุคสมัยพวกเรา
  • 16:34 - 16:39
    โลกได้ทำสิ่งนี้กับชาวเวียดนามในช่วงปี 1970
    แล้วทำไมไม่ทำตอนนี้ละ
  • 16:41 - 16:45
    ทำไมถึงมีการช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย
    จากชาติข้างเคียง
  • 16:45 - 16:48
    ให้กับผู้ลี้ภัยจำนวนมาก
  • 16:49 - 16:52
    และทำไม รากฐานของปัญหา
  • 16:52 - 16:58
    คือการทำเรื่องง่าย ๆ ที่จะหยุดสงคราม
    การฆ่าฟัน
  • 16:58 - 17:03
    และความยากจนที่จะขับเคลื่อนผู้คนจำนวนมาก
  • 17:03 - 17:05
    ไปยังชายฝั่งยุโรป
  • 17:06 - 17:09
    จนกว่าปัญหานี้จะถูกแก้ไข
  • 17:09 - 17:12
    ผู้คนก็ยังคงจะลงไปในทะเล
  • 17:12 - 17:15
    และแสวงหาที่ปลอดภัยและที่ลี้ภัย
  • 17:16 - 17:18
    แล้วจะเกิดอะไรต่อไป
  • 17:18 - 17:21
    ใช่ นั่นคือทางเลือกที่ยิ่งใหญ่ของยุโรป
  • 17:21 - 17:24
    และฉันเข้าใจความกลัวของประชาชน
  • 17:25 - 17:31
    ผู้คนกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย เศรษฐกิจ
    การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของพวกเขา
  • 17:32 - 17:36
    แต่พวกนั้นมันสำคัญไปกว่าการช่วยเหลือ
    ชีวิตมนุษย์อย่างนั้นหรือ
  • 17:37 - 17:40
    เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นขั้นพื้นฐาน
  • 17:40 - 17:42
    ซึ่งฉันคิดว่าแทนที่ได้ทั้งหมด
  • 17:42 - 17:46
    และมันเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ของคนเรา
  • 17:47 - 17:51
    ไม่ควรมีคนที่หนีภัยสงครามและการฆ่าฟัน
  • 17:51 - 17:56
    หรือต้องสวมควรตายจากการข้ามทะเล
    มาหาสถานที่ปลอดภัย
  • 17:56 - 18:03
    (เสียงปรบมือ)
  • 18:03 - 18:04
    สิ่งหนึ่งที่แน่นอน
  • 18:04 - 18:07
    จะไม่มีผู้ลี้ภัยบนเรือที่อันตรายเหล่านั้น
  • 18:07 - 18:09
    ถ้าพวกเขาสามารถอยู่ในที่ที่พวกเขาอยู่
  • 18:10 - 18:13
    และไม่มีผู้ย้ายถิ่นที่จะเดินทางเสี่ยงตาย
  • 18:13 - 18:17
    ถ้ามีอาหารเพียงพอสำหรับพวกเขา
    และบรรดาเด็กของพวกเขา
  • 18:17 - 18:19
    และจะไม่มีใครที่เอาเงินเก็บทั้งชีวิต
  • 18:19 - 18:22
    ไปอยู่ในมือพวกลักลอบคนเข้าเมืองที่ฉาวโฉ่
  • 18:22 - 18:25
    ถ้ามีหนทางที่ถูกกฎหมายในการข้ามแดน
  • 18:25 - 18:29
    ดังนั้นในนามของมาซาน้อย
  • 18:29 - 18:31
    และในนามของโดอา
  • 18:31 - 18:33
    ในนามของบาเซม
  • 18:33 - 18:38
    และคนกว่า 500 คนที่จมน้ำตายไปด้วยกัน
  • 18:38 - 18:41
    เราจะแน่ใจได้อย่างไร
    ว่าพวกเขาจะไม่ต้องมาตายแบบนี้อีก
  • 18:42 - 18:46
    เราอาจได้แรงบันดาลใจจากเรื่องที่เกิดขึ้น
  • 18:46 - 18:52
    และเริ่มยืดหยัดขึ้นเพื่อโลก
    ที่ซึ่งทุกชีวิตต่างมีความสำคัญ
  • 18:53 - 18:54
    ขอบคุณค่ะ
  • 18:54 - 19:01
    (เสียงปรบมือ)
Title:
เรือบรรทุกผู้ลี้ภัย 500 คนจมลงในทะเล เรื่องราวของผู้รอดตาย 2 คน
Speaker:
เมลิซา เฟลมมิ่ง (Melissa Fleming)
Description:

เรือที่บรรทุกเกินพิกัดออกเดินทางไปในท้องทะเลพร้อมผู้ลี้ภัยมากกว่า 500 คน สตรีวัยรุ่นรายหนึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นวีรสตรี เรื่องราวของคนเพียงหนึ่งเดียว เต็มเปลี่ยมด้วยพลัง ถูกบอกเล่าโดย เมลิซา เฟลมมิ่ง หน่วยงานผู้ลี้ภัยของยูเอ็น ได้เปิดเผยโฉมหน้าของมนุษย์คนหนึ่งที่พยายามอย่างเต็มที่ภายในกลุ่มของมนุษย์ชาติ ที่พยายามหลบหนีเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ขณะที่เรือขนผู้ลี้ภัยกำลังมาถึง...

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
19:15

Thai subtitles

Revisions