Return to Video

วิธีรับมือวัฒนธรรมความเกลียด

  • 0:01 - 0:04
    คนมักบอกว่า...ฉันเป็นคนดี
  • 0:06 - 0:10
    ถึงจุดที่มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์
    บุคคลและวิชาชีพฉันไปแล้ว
  • 0:10 - 0:14
    ว่า ฉันช่างดีเหลือเกิน
    เข้ากับใครต่อใครได้ดีไปหมด
  • 0:14 - 0:18
    แม้แต่กับศัตรูตัวฉกาจของฉันเอง
  • 0:19 - 0:21
    เหมือนเป็น "เรื่องถนัด" ขึ้นชื่อของฉันเลย
  • 0:21 - 0:24
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:24 - 0:27
    แต่ สิ่งหนึ่งที่ไม่มีใครรู้เลย...
  • 0:29 - 0:31
    คือ ฉันเคยเป็นอันธพาลมาก่อน
  • 0:33 - 0:35
    พูดตรง ๆ ฉันเองก็ไม่ได้นึกถึงมันมากนัก
  • 0:35 - 0:39
    ฉันฝังความทรงจำทิ้งไปนานหลายปีแล้ว
  • 0:39 - 0:42
    กระนั้น ยังมีหลายอย่างที่ยังจำได้แบบจาง ๆ
  • 0:42 - 0:45
    ชัดเจนว่า...
    การปฏิเสธความจริงก็เป็นอีกสิ่งที่ฉันถนัด
  • 0:45 - 0:46
    (เสียงหัวเราะ)
  • 0:46 - 0:49
    แต่ยิ่งคนเริ่มชมฉันมากขึ้น
  • 0:49 - 0:51
    ว่าฉันเป็นนักเสรีนิยม
    ที่สามารถเข้ากับนักอนุรักษ์นิยมได้ดี
  • 0:51 - 0:54
    และยิ่งฉันเขียนบทความเกี่ยวกับการเป็นคนดี
  • 0:54 - 0:57
    และขึ้นพูดเกี่ยวกับการเป็นคนดีมากเท่าไหร่
  • 0:57 - 1:01
    ฉันกลับยิ่งรู้สึกถึงความเสแสร้ง
    คืบคลานในตัวฉันมากขึ้นเท่านั้น
  • 1:03 - 1:05
    ถ้าหากจริง ๆ แล้ว ฉันเป็นคนใจร้ายล่ะ
  • 1:08 - 1:11
    ตอนฉันอายุได้ 10 ขวบ
  • 1:12 - 1:15
    ในชั้นเรียนของฉันที่โรงเรียน
    มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ วิคกี้
  • 1:15 - 1:17
    (เสียงถอนหายใจ)
  • 1:17 - 1:18
    ฉันทรมานเธอ
  • 1:20 - 1:21
    อย่างไร้ความปราณี
  • 1:23 - 1:25
    คือ ทุกคนก็ทำ
  • 1:25 - 1:26
    แม้แต่ครูยังหาเรื่องเธอเลย
  • 1:28 - 1:30
    นั่นไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
    ใช่ไหมล่ะ
  • 1:31 - 1:34
    วิคกี้เป็นเด็กมีปัญหาอย่างชัดเจน
  • 1:34 - 1:37
    เธอตบตีตัวเองจนบางทีเลือดออกจมูก
  • 1:37 - 1:38
    และยังมีปัญหาเรื่องสุขอนามัย
  • 1:38 - 1:40
    อย่างหนักเลยล่ะ
  • 1:41 - 1:43
    แต่แทนที่จะเข้าไปช่วยเด็กผู้หญิงคนนี้
  • 1:43 - 1:46
    ที่กำลังทุกข์ทรมานจาก
    ความยากลำบากในชีวิตเธอ
  • 1:48 - 1:50
    เรากลับตั้งชื่อเธอ
    "วิคกี้จอมเหนียวหนึบ"
  • 1:52 - 1:54
    ฉันเรียกเธอว่า "วิคกี้จอมเหนียวหนึบ"
  • 1:57 - 2:01
    ความทรงจำหนึ่งที่แจ่มชัดที่สุด
    คือ การไปยืนในโถงทางเดินโล่ง ๆ
  • 2:01 - 2:03
    นอกห้องเรียนเกรด 5 (ประถมศึกษาปีที่ 5)
  • 2:03 - 2:06
    รอให้วิคกี้ออกมาจากห้องน้ำ
  • 2:06 - 2:09
    โดยฉันยืนถือคลิปบอร์ด ปากกา
    และแบบสอบถามที่ฉันสร้างขึ้นมา
  • 2:09 - 2:11
    ถามเกี่ยวกับการเลือกใช้แชมพูสระผม
  • 2:11 - 2:14
    เหมือนฉันกำลังทำวิจัย
    วิชาวิทยาศาสตร์อะไรทำนองนั้น
  • 2:14 - 2:16
    พอวิคกี้ออกมาจากห้องน้ำ
  • 2:16 - 2:19
    ฉันรีบกระโจนเข้าหาเธอ
    และถามว่าเธอใช้แชมพูอะไร
  • 2:19 - 2:21
    ทีนี้ ลองนึกภาพดูว่า
  • 2:21 - 2:23
    ฉันจำชื่อครูไม่ได้สักคน
  • 2:23 - 2:27
    ฉันจำชื่อหนังสือที่อ่านปีนั้นไม่ได้สักเล่ม
  • 2:27 - 2:29
    ฉันจำอะไรแทบไม่ได้เลยจากสมัยเรียนเกรดห้า
  • 2:29 - 2:32
    แต่ฉันจำได้ว่า
    วิคกี้บอกฉันว่าเธอใช้แชมพูยี่ห้อไวท์เรน
  • 2:33 - 2:34
    ชัดอย่างกับเมื่อวานนี้
  • 2:34 - 2:36
    เหมือนพึ่งเกิดขึ้น
  • 2:37 - 2:38
    พอนักเรียนกรูออกจากห้อง
  • 2:38 - 2:41
    ฉันวิ่งไปตามโถงทางเดิน
    ตะโกนใส่คนอื่นๆ ว่า
  • 2:41 - 2:43
    "วิคกี้จอมเหนียวหนึบ ใช้แชมพูยี่ห้อไวท์เรน
  • 2:43 - 2:45
    อย่าใช้...แชมพูยี่ห้อไวท์เรนกันนะ
  • 2:45 - 2:48
    ไม่งั้น จะเหม็นเหมือนวิคกี้จอมเหนียวหนึบ"
  • 2:51 - 2:53
    ฉันลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว
  • 2:53 - 2:55
    ในที่สุด พอฉันเริ่มนึกออก
  • 2:55 - 2:56
    ฉันต้องการรู้เพิ่มทันที
  • 2:56 - 2:59
    ฉันติดต่อเพื่อน ๆ
    และใช้โซเชียลมีเดียในที่สุด
  • 2:59 - 3:01
    ทำทุกวิถีทาง เพื่อตามหาวิคกี้
  • 3:01 - 3:04
    ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าเธอไม่เป็นไร
  • 3:04 - 3:06
    ว่าฉันไม่ได้ทำให้ชีวิตเธอพังย่อยยับ
  • 3:07 - 3:09
    (เสียงถอนหายใจ)
  • 3:09 - 3:10
    แต่ฉันนึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วว่า
  • 3:10 - 3:13
    ฉันไม่ได้แค่พยายามคิดให้ตก
    ว่าเกิดอะไรขึ้นกับวิคกี้กันแน่
  • 3:13 - 3:16
    แต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวฉันเองต่างหาก
  • 3:18 - 3:19
    ตอนฉันอายุ 10 ขวบ
  • 3:19 - 3:24
    ฉันปฏิบัติกับคนอื่นราวกับของไร้ค่า
  • 3:25 - 3:26
    ราวกับว่าฉันดีกว่าเธอ
  • 3:27 - 3:29
    และเธอเป็นเศษขยะ
  • 3:30 - 3:32
    คนดี ๆ พรรค์ไหนเขาทำเรื่องแบบนั้นกัน
  • 3:33 - 3:34
    ฉันรู้ ตอนนั้นฉันก็แค่เด็กคนหนึ่ง
  • 3:34 - 3:36
    แต่ไม่ใช่เด็กทุกคนที่ทำ
  • 3:36 - 3:38
    เด็กส่วนใหญ่เขาไม่ทำกัน จริงไหม
  • 3:39 - 3:42
    หรือจริง ๆ แล้ว ฉันไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย
  • 3:42 - 3:44
    ก็แค่ปีศาจที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
  • 3:46 - 3:51
    จากนั้น ฉันเริ่มสังเกตว่า
    ตัวเองมีแรงกระตุ้นร้าย ๆ พวกนี้
  • 3:51 - 3:53
    คอยคิดแต่เรื่องใจร้าย ๆ
  • 3:53 - 3:54
    คอยอยากจะพูดมันออกมา
  • 3:56 - 3:59
    ยอมรับว่าความคิดร้าย ๆ ส่วนใหญ่ของฉัน
    มักเกี่ยวกับนักอนุรักษ์นิยม
  • 3:59 - 4:04
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:04 - 4:05
    แต่ไม่ใช่แค่นักอนุรักษ์นิยม
  • 4:05 - 4:09
    ฉันพบว่า
    ยังมีนักเสรีนิยมสายกลางจอมเหยาะแหยะ
  • 4:10 - 4:11
    และนายธนาคารวอลล์สตรีทหน้าเลือด
  • 4:11 - 4:13
    และพวกหวาดกลัวอิสลาม
  • 4:13 - 4:14
    และพวกขับรถช้าทั้งหลาย
  • 4:14 - 4:17
    เพราะฉันล่ะเกลียดคนขับช้าเป็นเต่าจริง ๆ
  • 4:17 - 4:19
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:19 - 4:22
    และขณะที่ฉันรู้ตัวว่า
    กำลังตกอยู่ในภวังค์ความเสแสร้งพวกนี้
  • 4:22 - 4:26
    ไม่ว่าเพราะสังเกตเห็นมันเอง
    หรือเพราะอาการมันหนักข้อขึ้น
  • 4:26 - 4:28
    โดยเฉพาะช่วงสองสามปีหลังนี้
  • 4:28 - 4:30
    และขณะที่ฉันรู้สึกเกลียดชังมากขึ้น
  • 4:30 - 4:33
    ถึงขั้นเกรี้ยวกราดเลยก็ว่าได้
  • 4:33 - 4:36
    ฉันสังเกตว่า โลกรอบตัวฉันเหมือนจะยิ่ง
    ทวีความเกลียดชังรุนแรงตามไปด้วย
  • 4:36 - 4:38
    เหมือนมีคลื่นใต้น้ำแห่ง
    ความเกลียดชังพัดมาเรื่อย ๆ
  • 4:38 - 4:41
    ผุดขึ้นมารายล้อมตัวเรา
  • 4:41 - 4:42
    และไหลบ่าเข้ามามากขึ้น
  • 4:44 - 4:46
    ฉะนั้น ฉันว่า ข้อดีของมัน
  • 4:46 - 4:52
    คือการที่ฉันตระหนักได้ว่าความเกลียดชัง
    ไม่ใช่แค่ปัญหาของฉันคนเดียว
  • 4:52 - 4:55
    จะว่าไป
    ก็เป็นข้อดีที่เห็นแก่ตัวที่สุดก็ว่าได้
  • 4:55 - 4:56
    (เสียงหัวเราะ)
  • 4:57 - 5:02
    เพราะทีนี้ ไม่เพียงแต่ความเกลียดชังและ
    ความโหดร้ายของฉันที่ต้องพยายามคิดให้ตก
  • 5:02 - 5:06
    ฉันกลับมีโลกแห่งความเกลียดชังทั้งใบ
    ที่อยากสะสาง
  • 5:06 - 5:08
    ทำความเข้าใจ และแก้ไขเสีย
  • 5:11 - 5:15
    ดังนั้น ฉันเลยทำสิ่งที่คนฉลาด ๆ ทั้งหลาย
    มักทำกัน เมื่อพวกเขามีปัญหา
  • 5:16 - 5:17
    ที่พวกเขาอยากทำความเข้าใจ
  • 5:17 - 5:18
    ฉันเลยเขียนหนังสือออกมา
  • 5:18 - 5:20
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:21 - 5:23
    ฉันเขียนหนังสือเกี่ยวกับความเกลียดชัง
  • 5:23 - 5:25
    ระวังสปอยล์นะ
  • 5:25 - 5:27
    ฉันต่อต้านมันล่ะ
  • 5:27 - 5:29
    (เสียงหัวเราะ)
  • 5:29 - 5:32
    มาถึงจุดนี้ คุณอาจกำลังคิดกับตัวเองว่า
  • 5:32 - 5:34
    "ทำไมต้องมากังวลเรื่องความเกลียดล่ะ
  • 5:34 - 5:35
    คุณไม่ได้เกลียดวิคกี้นี่
  • 5:35 - 5:37
    แกล้งคนไม่ใช่ความเกลียดชังเสียหน่อย"
  • 5:38 - 5:40
    จริงหรือ
  • 5:41 - 5:43
    กอร์ดอน ออลพอร์ต
    (Gordon Allport)
  • 5:43 - 5:47
    นักจิตวิทยาผู้ริเริ่มการศึกษา
    เรื่องความเกลียดชัง ช่วงต้นทศวรรษ 1900
  • 5:47 - 5:49
    พัฒนาสิ่งที่เรียกว่า "มาตรวัดความอคติ"
  • 5:49 - 5:55
    ปลายหนึ่ง เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    และเหตุรุนแรงจากความอคติอื่น ๆ
  • 5:55 - 5:57
    แต่อีกปลายหนึ่ง
  • 5:57 - 6:00
    เป็นเรื่องอย่างการเชื่อว่าคนในกลุ่มของคุณ
  • 6:00 - 6:03
    โดยเนื้อแท้แล้ว เหนือกว่าคนนอกกลุ่มของคุณ
  • 6:03 - 6:08
    หรือหลีกเลี่ยงการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
    กับคนกลุ่มอื่น
  • 6:10 - 6:11
    นั่นไม่ใช่ความเกลียดหรือ
  • 6:12 - 6:14
    ฉันว่ามันไม่ใช่เหตุบังเอิญนะ
  • 6:14 - 6:17
    ที่ฉันเป็นเด็กรวยที่คอยหาเรื่องเด็กจน
  • 6:19 - 6:23
    หรือการที่วิคกี้นั้น
    กลายเป็นเกย์ไปในที่สุด
  • 6:25 - 6:29
    เด็กจน และ เด็กที่เป็นเกย์นั้น
    มีแนวโน้มจะถูกรังแกมากกว่า
  • 6:29 - 6:32
    แม้จากกลุ่มเด็กที่
    กลายเป็นเกย์ในตอนท้ายเหมือนกันก็ตาม
  • 6:34 - 6:37
    ฉันรู้ว่า ความคิดฉันสมัยสิบขวบมันเยอะไปหมด
  • 6:37 - 6:40
    ไม่ได้จะบอกว่า
    ความเกลียดคือเหตุผลเดียวที่ฉันแกล้งวิคกี้
  • 6:40 - 6:43
    หรือว่าแม้แต่จะตั้งใจเกลียดอะไรทั้งนั้น
  • 6:43 - 6:44
    ความจริงก็คือ
  • 6:44 - 6:49
    คนที่โดนเราเลือกปฏิบัติ
    ในนโยบายสาธารณะ และในวัฒนธรรมของเรานั้น
  • 6:49 - 6:54
    ยังมักเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้ม
    จะโดนแกล้งในโรงเรียนมากที่สุดอีกด้วย
  • 6:56 - 6:58
    ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ
  • 7:00 - 7:01
    นั่นคือความเกลียด
  • 7:04 - 7:06
    ฉันขอนิยามความเกลียดแบบกว้าง ๆ
  • 7:07 - 7:10
    เพราะฉันคิดว่า เราเจอปัญหาชิ้นโตเข้าแล้ว
  • 7:11 - 7:15
    และเราจำเป็นต้องแก้ไขให้หมด
    ไม่ใช่แค่ปัญหาร้ายแรงที่สุดเท่านั้น
  • 7:15 - 7:16
    ฉันขอยกตัวอย่าง
  • 7:16 - 7:19
    เราทุกคนคงเห็นด้วยกับการเดินขบวนตามท้องถนน
  • 7:19 - 7:22
    เรียกร้องให้ริดรอนสิทธิจากกลุ่มคนบางกลุ่ม
  • 7:22 - 7:24
    เพียงเพราะสีผิวและเพศของพวกเขา
  • 7:24 - 7:26
    ทุกคนเห็นด้วยว่ามันคือความเกลียด ใช่ไหม
  • 7:28 - 7:31
    แล้วหาก คุณเชื่อว่าคนกลุ่มนั้นต่ำต้อยกว่า
  • 7:33 - 7:34
    แต่ไม่ได้พูดออกมาล่ะ
  • 7:36 - 7:37
    ใช่ความเกลียดไหม
  • 7:38 - 7:41
    แล้วถ้าเกิดคุณเชื่อว่า
    คนกลุ่มนั้นต่ำต้อยกว่า
  • 7:41 - 7:44
    แต่คุณไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
    ว่าตัวคุณเชื่ออย่างนั้น
  • 7:44 - 7:45
    หรือที่เรียกว่า อคติโดยนัย
  • 7:46 - 7:47
    นั่นใช่ความเกลียดไหม
  • 7:48 - 7:50
    คือพวกมันมีต้นตอเดียวกัน ไม่ใช่หรือ
  • 7:50 - 7:53
    ลองดูรูปแบบในอดีตของ
    การเหยียดผิวและการกีดกันทางเพศ
  • 7:53 - 7:56
    ที่ปรับแต่งหน้าประวัติศาสตร์
    และยังกัดกินสังคมเรามาจนวันนี้สิ
  • 7:56 - 7:58
    ไม่ใช่ความเกลียดอย่างนั้นหรือ
  • 7:59 - 8:01
    ฉันไม่ได้บอกว่ามันเหมือนกันหมดนะ
  • 8:01 - 8:03
    เหมือนกับที่ฉันไม่ได้กำลังบอกว่า
  • 8:03 - 8:06
    การเป็นอันธพาล ชั่วร้ายเท่ากับการเป็นนาซี
  • 8:06 - 8:10
    เหมือนกับที่ฉันไม่ได้บอกว่าการเป็นนาซี
    คือเรื่องเดียวกับการไปต่อยนาซีคนอื่น
  • 8:11 - 8:16
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:16 - 8:20
    แต่ การเกลียดนาซีเองก็ยังถือ
    เป็นความเกลียดชัง ใช่ไหม
  • 8:21 - 8:24
    แล้วการเกลียดคนที่ไม่ได้รู้แจ้งเท่าคุณล่ะ
  • 8:25 - 8:27
    เห็นไหมคะ สิ่งที่ฉันเรียนรู้มา
  • 8:29 - 8:31
    คือ เราทุกคนต่อต้านความเกลียดชัง
  • 8:31 - 8:33
    เราต่างคิดว่าความเกลียดชัง...เป็นปัญหา
  • 8:34 - 8:36
    เราคิดว่ามันเป็นปัญหาคนอื่น
  • 8:37 - 8:38
    ไม่ใช่ปัญหาเรา
  • 8:39 - 8:40
    คนอื่นเต็มไปด้วยความเกลียด
  • 8:41 - 8:43
    ถ้าฉันคิดว่าคนที่โหวตต่างจากฉัน
  • 8:43 - 8:47
    เป็นตัวประหลาดเหยียดผิวโง่ ๆ ที่ไม่คู่ควร
    แก่เรียกตัวเองเป็นชาวอเมริกันล่ะ
  • 8:47 - 8:48
    ก็ได้ กรณีนั้น ฉันไม่ดีจริง
  • 8:48 - 8:50
    เข้าใจได้
  • 8:50 - 8:51
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:51 - 8:54
    ฉันไม่ได้เต็มไปด้วยความเกลียดหรอก
    ก็แค่ทำถูกต้องเฉย ๆ ใช่ไหมล่ะ
  • 8:54 - 8:56
    (เสียงหัวเราะ)
  • 8:56 - 8:57
    ผิดสิ
  • 8:59 - 9:02
    เรา ทุกคน เกลียดกันทั้งนั้น
  • 9:03 - 9:07
    ฉันไม่ได้จะสื่อเป็นนามธรรมนะ
  • 9:07 - 9:09
    ฉันหมายถึงพวกเราทุกคนเนี่ยแหละ
  • 9:11 - 9:12
    ฉัน และ คุณ
  • 9:14 - 9:19
    การที่เราล้วนมองว่าตัวเองเดินอยู่บนหนทาง
    แห่งความเสแสร้งว่าเราเหนือชั้นกว่า
  • 9:19 - 9:22
    ว่าพวกเขาต่างหากที่เต็มไปด้วยความเกลียด
    เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสียหน่อย
  • 9:22 - 9:26
    แสดงให้เห็นถึงต้นตอหลักของความเกลียดชัง
  • 9:26 - 9:30
    ว่าตัวเรานั้นดีตั้งแต่พื้นฐาน แต่คนอื่นไม่
  • 9:31 - 9:33
    สิ่งนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนได้แล้ว
  • 9:34 - 9:38
    ฉะนั้น ด้วยความพยายามจะทำเข้าใจ
    และแก้ไขปัญหาความเกลียดชัง
  • 9:38 - 9:41
    ฉันไล่อ่านหนังสือทุกเล่มและ
    งานวิจัยทุกชิ้นเท่าที่หาได้
  • 9:41 - 9:45
    แล้วยังเข้าไปพูดคุยกับอดีตนาซี
  • 9:45 - 9:46
    และอดีตผู้ก่อการร้าย
  • 9:46 - 9:49
    และอดีตนักฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หลายราย
  • 9:49 - 9:53
    เพราะฉันคิดขึ้นได้ว่า ถ้าพวกเขาสามารถ
    หาทางหลุดพ้นจากความเกลียดได้
  • 9:53 - 9:55
    พวกเราที่เหลือก็ทำได้เช่นกัน
  • 9:56 - 10:00
    ขอยกตัวอย่างหนึ่งของอดีตผู้ก่อการร้าย
    ที่ฉันมีโอกาสใช้เวลาทำความรู้จัก
  • 10:00 - 10:01
    ในแถบเวสต์แบงค์
  • 10:02 - 10:05
    เมื่อ บัสซัม อะรามิน อายุได้ 16 ปีนั้น
  • 10:06 - 10:10
    เขาพยายามระเบิดยานพาหนะคุ้มกัน
    กองทัพอิสราเอลด้วยระเบิดมือ
  • 10:12 - 10:14
    เขาล้มเหลว โชคยังดี
  • 10:14 - 10:17
    แต่ยังต้องโทษขังคุก 7 ปี
  • 10:17 - 10:20
    ตอนติดคุก พวกเขาฉายหนัง
    เรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวให้ดู
  • 10:20 - 10:21
    ก่อนหน้านั้น
  • 10:21 - 10:24
    บัสซัมคิดว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิว
    เป็นแค่ตำนาน
  • 10:24 - 10:26
    เขาไปดูหนัง
  • 10:26 - 10:29
    เพราะคิดว่า การได้ดูชาวยิวถูกฆ่า
    น่าจะสนุกดี
  • 10:30 - 10:34
    แต่พอได้เห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้น
    เขาถึงกับร้องไห้ไม่หยุด
  • 10:36 - 10:37
    ในที่สุดหลังออกจากคุก
  • 10:37 - 10:41
    บัสซัมไปเรียนต่อจนจบปริญญาโทด้าน
    การศึกษาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว
  • 10:41 - 10:45
    และก่อตั้งองค์กรที่นำ
    อดีตทหารหน่วยรบปาเลสไตน์
  • 10:45 - 10:47
    และอดีตทหารหน่วยรบอิสราเอลมารวมตัวกัน
  • 10:48 - 10:51
    เพื่อพยายามหาข้อตกลงร่วมกัน
  • 10:52 - 10:56
    จากปากของบัสซัมเอง
    เขาสารภาพว่า เคยเกลียดชาวอิสราเอล
  • 10:57 - 11:00
    แต่ จากการทำความรู้จักและ
    เรียนรู้เรื่องราวของชาวอิสราเอล
  • 11:00 - 11:02
    และทำงานร่วมกันเพื่อสันติภาพนี้เอง
  • 11:02 - 11:04
    จึงเอาชนะความเกลียดมาได้
  • 11:06 - 11:09
    บัสซัมบอกว่า เขายังคง
    ไม่เกลียดชาวอิสราเอล
  • 11:10 - 11:12
    แม้ภายหลังจากที่ทหารอิสราเอล
  • 11:13 - 11:16
    ยิง อาบีร์ ลูกสาววัย 12 ขวบของเขาเสียชีวิต
  • 11:16 - 11:17
    ขณะที่เธอกำลังเดินไปโรงเรียน
  • 11:20 - 11:22
    (เสียงถอนหายใจ)
  • 11:22 - 11:25
    บัสซัมยังให้อภัยทหาร
    ที่ฆ่าลูกสาวเขา
  • 11:26 - 11:28
    เขาสอนฉันว่าทหารคนนั้น
  • 11:30 - 11:34
    ก็เป็นแค่อีกผลผลิตหนึ่ง
    ของระบบความเกลียดชัง เหมือนกับที่เขาเป็น
  • 11:40 - 11:42
    ถ้าอดีตผู้ก่อการร้ายคนหนึ่ง
  • 11:44 - 11:48
    ถ้าแม้แต่ผู้ก่อการร้ายยังสามารถเรียนรู้
    ที่จะหยุดเกลียด
  • 11:48 - 11:51
    และยังคงไม่เกลียดได้
    แม้ลูกเขาจะถูกฆ่าตาย
  • 11:51 - 11:55
    แน่นอนว่าพวกเราที่เหลือ
    ก็สามารถหยุดนิสัยของเรา
  • 11:55 - 11:57
    ที่มักทำตัวแย่ ๆ
    และลดคุณค่าความเป็นคนต่อกันได้เช่นกัน
  • 11:57 - 12:01
    และฉันบอกได้เลยว่า
    มีอีกหลายกรณีเหมือนบัสซัมอยู่ทั่วโลก
  • 12:01 - 12:03
    แถมยังมีงานวิจัยอีกหลายต่อหลายชิ้น
  • 12:03 - 12:08
    ที่บอกว่า ไม่จริง มนุษย์เราไม่ได้
    ถูกออกแบบหรือเกิดมาเพื่อเกลียด
  • 12:08 - 12:11
    แต่ถูกโลกรอบตัวเราสอนให้เกลียดต่างหาก
  • 12:11 - 12:13
    ฉันรับรองได้เลย
  • 12:13 - 12:16
    ไม่มีพวกเราคนไหนออกมาจากท้องแม่
    แล้วเกลียดคนดำหรือพรรครีพับลิกันทันทีหรอก
  • 12:16 - 12:21
    ไม่มีส่วนไหนเลยของดีเอ็นเอเรา
    ที่ทำให้เราเกลียดชาวมุสลิมหรือชาวเม็กซิกัน
  • 12:22 - 12:23
    ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
  • 12:23 - 12:26
    เราทุกคนก็เป็นผลิตผลหนึ่ง
    ของวัฒนธรรมรอบตัวเรา
  • 12:28 - 12:30
    แต่ข่าวดีก็คือ
  • 12:30 - 12:33
    เราต่างก็เป็นคนที่
    กำหนดทิศทางของวัฒนธรรมนั่นขึ้นมา
  • 12:34 - 12:36
    ซึ่งแปลว่า เราสามารถเปลี่ยนมันได้
  • 12:37 - 12:42
    ขั้นตอนแรกคือ
    การเริ่มรับรู้ถึงความเกลียดในตัวเราเอง
  • 12:42 - 12:44
    เราต้องตามตัวเองให้ทัน
  • 12:44 - 12:46
    ตามความคิดที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
    ทุกรูปแบบ
  • 12:46 - 12:48
    ในตัวเราทุกคน...
  • 12:50 - 12:52
    และพยายามท้าทาย
    ความคิดและสมมติฐานของเรา
  • 12:52 - 12:53
    นั่นไม่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืนแน่
  • 12:53 - 12:55
    บอกตอนนี้ได้เลยว่า
  • 12:55 - 12:58
    มันต้องใช้เวลาทั้งชีวิต
    แต่เราจำเป็นต้องทำให้จงได้
  • 12:58 - 13:00
    ต่อมาขั้นที่ 2
  • 13:00 - 13:03
    ถ้าเราอยากท้าทายความเกลียดชัง
    ในสังคมของเราแล้วล่ะก็
  • 13:03 - 13:07
    เราจำเป็นต้องส่งเสริมนโยบาย
    สถาบัน และแนวปฏิบัติ
  • 13:07 - 13:10
    ที่จะเชื่อมโยงเราเข้าเป็นชุมชน
  • 13:10 - 13:13
    เช่น เพื่อนบ้านและโรงเรียน
    ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ
  • 13:13 - 13:15
    จะว่าไปนั่นคือเหตุผลที่สนับสนุน
  • 13:15 - 13:16
    การรวมความหลากหลาย
  • 13:16 - 13:18
    ไม่ใช่เพียงเพราะ
    เป็นการกระทำที่ถูกต้อง
  • 13:18 - 13:22
    แต่เพราะการรวมความต่างนั้น
    ต่อสู้กับความเกลียดอย่างเป็นระบบ
  • 13:22 - 13:24
    มีงานวิจัยหลายชิ้น
    ว่าวัยรุ่นที่เข้าร่วม
  • 13:24 - 13:28
    ชั้นเรียนและกิจกรรมที่มีหลายเชื้อชาติ
    ลดความอคติทางเชื้อชาติลงได้
  • 13:28 - 13:32
    และการที่เด็กเข้าชั้นเรียนแบบนี้
    ตั้งแต่อนุบาล
  • 13:32 - 13:34
    และประถมนั้น
  • 13:34 - 13:36
    ช่วยลดการเกิดความอคติได้ตั้งแต่แรกทีเดียว
  • 13:37 - 13:40
    แต่ความจริงในหลายวิธี
    และหลายที่รอบโลก
  • 13:41 - 13:43
    เราถูกแยกออกจากกันและกัน
  • 13:45 - 13:47
    ตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา...
  • 13:47 - 13:51
    สามในสี่ ของชาวผิวขาว
    ไม่มีเพื่อนชาวผิวสีเลยสักคนเดียว
  • 13:53 - 13:57
    ดังนั้น นอกจากการส่งเสริม
    วิธีแก้ปัญหาเชิงรุกเหล่านั้นแล้ว
  • 13:57 - 14:01
    สิ่งอื่นที่เราต้องทำ
    คือ ยุติความเกลียดชังในสถาบันต่างๆของเรา
  • 14:01 - 14:02
    และนโยบายทั้งหลาย
  • 14:02 - 14:07
    ไม่ให้อยู่ถาวร
    ทั้งการลดคุณค่าความเป็นคน ความแตกต่าง
  • 14:07 - 14:09
    การแบ่งพวก
    และความเกลียด
  • 14:09 - 14:15
    ดังเช่น ระบบการคุกคามทางเพศ
    และการล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน
  • 14:15 - 14:19
    หรือความไม่สมดุลทางเชื้อชาติ
  • 14:19 - 14:22
    และความอคติทางเชื้อชาติที่ฝังรากลึก
    ในระบบ "ยุติธรรม" ทางอาญาของเรา
  • 14:23 - 14:24
    เราต้องเปลี่ยนแปลงมัน
  • 14:24 - 14:26
    เช่นเดิม มันไม่เปลี่ยนกันชั่วข้ามคืนแน่
  • 14:26 - 14:28
    แต่การเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้น
  • 14:30 - 14:31
    ทีนี้
  • 14:32 - 14:34
    เมื่อเราเชื่อมโยงเข้าหากัน
  • 14:35 - 14:38
    ภายในพื้นที่เชื่อมต่อเหล่านี้
  • 14:39 - 14:41
    ด้วยระบบเชื่อมต่อที่เอื้ออำนวยมากขึ้น
  • 14:43 - 14:45
    เราต้องเปลี่ยนวิธีที่เราคุยกัน
  • 14:47 - 14:48
    เชื่อมโยงหากันและกัน
  • 14:48 - 14:54
    ผูกมิตรกับความโอบอ้อมอารี
    และการเปิดใจกว้าง
  • 14:54 - 14:55
    ความเมตตา และความเห็นอกเห็นใจ
  • 14:55 - 14:56
    แต่ไม่ใช่ความเกลียด
  • 14:58 - 14:59
    แค่นั้นเอง
  • 14:59 - 15:00
    แค่นั้นเลย
  • 15:00 - 15:05
    (เสียงปรบมือ)
  • 15:05 - 15:07
    ฉันแก้หมดแล้ว ใช่ไหม
  • 15:07 - 15:08
    แค่นี้เอง
  • 15:08 - 15:09
    น่าจะประมาณนี้
  • 15:09 - 15:10
    มีปลีกย่อยอีกนิด
  • 15:10 - 15:12
    แต่ที่ต้องทำทั้งหมดก็ประมาณนี้แหละ
  • 15:12 - 15:14
    ไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น ใช่ไหมล่ะ
  • 15:16 - 15:17
    แต่มันยากนะ
  • 15:18 - 15:23
    ความรู้สึกเกลียดที่เรามี
    ต่อคนเฉพาะกลุ่ม
  • 15:24 - 15:27
    เพราะตัวตนที่เขาเป็น
    หรือสิ่งที่เขาเชื่อนั้น
  • 15:27 - 15:30
    ช่างฝังแน่นในจิตใจของเรา
    และในสังคมเรา
  • 15:30 - 15:32
    จนอาจรู้สึกเลี่ยงไม่ได้
  • 15:33 - 15:34
    และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปลี่ยน
  • 15:37 - 15:39
    การเปลี่ยนแปลงเป็นไปได้
  • 15:41 - 15:46
    แค่หันไปดูผู้ก่อการร้าย
    ที่กลายเป็นนักกิจกรรมเพื่อสันติภาพสิ
  • 15:47 - 15:53
    หรือดูอันธพาลผู้เรียนรู้ที่จะ
    ขอโทษเหยื่อของเธอก็ได้
  • 15:55 - 16:00
    ตลอดเวลาที่ฉันเดินทางไป
    ไปทั่วตะวันออกกลางและรวันดา
  • 16:01 - 16:02
    และทั่วสหรัฐอเมริกานั้น
  • 16:02 - 16:06
    การได้ฟังเรื่องราวเหลือเชื่อ
    ของคนในชุมชนต่าง ๆ
  • 16:06 - 16:09
    ที่ทิ้งความเกลียดในอดีตทุกอย่างไว้ข้างหลัง
  • 16:09 - 16:10
    ตอนนั้น ฉันยังคงหาวิคกี้ต่อไป
  • 16:11 - 16:14
    มันยากเสียจนฉันต้องจ้างนักสืบเอกชน
  • 16:14 - 16:15
    เขาหาเธอจนเจอ
  • 16:15 - 16:17
    คือทำนองว่าหาเจอ
  • 16:17 - 16:22
    ที่จริงคือฉันมารู้ชัดอีกที
    ว่าบุคคลที่ฉันกำลังเรียกว่าวิคกี้อยู่นั้น
  • 16:22 - 16:26
    ได้ทุ่มเทสุดตัว
    เพื่อซ่อนตัวตนของเธอ
  • 16:29 - 16:32
    อย่างไรก็ตาม หนึ่งปี
    หลังจากที่ฉันเริ่มออกเดินทาง
  • 16:35 - 16:36
    ฉันเขียนจดหมายขอโทษวิคกี้
  • 16:38 - 16:39
    และไม่กี่เดือนให้หลัง
  • 16:41 - 16:42
    เธอเขียนตอบมา
  • 16:43 - 16:45
    (เสียงถอนหายใจ)
  • 16:45 - 16:47
    พูดตามตรงนะ
  • 16:47 - 16:49
    ฉันอยากได้รับการให้อภัย
  • 16:53 - 16:54
    แต่เปล่าเลย
  • 16:54 - 16:55
    (เสียงถอนหายใจ)
  • 16:56 - 16:59
    คือเธอเสนอการให้อภัยแบบมีเงื่อนไข
  • 16:59 - 17:00
    เธอเขียนมาว่า
  • 17:01 - 17:06
    "ข้อความแบบที่เธอส่งมา
    ไม่สามารถทำให้เธอหลุดพ้น
  • 17:06 - 17:07
    จากการกระทำในอดีตได้
  • 17:07 - 17:10
    ทางเดียวที่จะทำได้คือ
    จงทำให้โลกนี้ดีกว่าเดิม
  • 17:10 - 17:13
    ป้องกันไม่ให้คนอื่นทำแบบเดียวกันอีก
  • 17:14 - 17:16
    และส่งเสริมความเมตตากรุณา"
  • 17:18 - 17:19
    วิคกี้พูดถูก
  • 17:22 - 17:23
    นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่
  • 17:24 - 17:25
    ขอบคุณค่ะ
  • 17:25 - 17:32
    (เสียงปรบมือ)
Title:
วิธีรับมือวัฒนธรรมความเกลียด
Speaker:
แซลลี่ โคห์น (Sally Kohn)
Description:

เราต่างต่อต้านความเกลียด ใช่ไหม เราเห็นด้วยว่ามันเป็นปัญหา แต่เป็นปัญหาคนอื่น ไม่ใช่ปัญหาเรา...ก็แค่นั้น! แต่แซลลี่ โคห์นค้นพบว่า เราทุกคนเกลียดกันทั้งนั้น...แนบเนียนบ้าง...โจ่งแจ้งบ้าง และในขณะที่เธอเผชิญหน้ากับเรื่องราวความยากลำบากในชีวิต เธอยังได้แบ่งปันความคิดว่าเราสามารถตระหนัก ท้าทาย และ เยียวยาความเกลียดชัง ทั้งในสถาบันต่างๆ และในตัวเราได้อย่างไรบ้าง

more » « less
Video Language:
English
Team:
closed TED
Project:
TEDTalks
Duration:
17:46
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Sritala Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Suthanan Traisutcha edited Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Suthanan Traisutcha edited Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Suthanan Traisutcha edited Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Suthanan Traisutcha edited Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Suthanan Traisutcha edited Thai subtitles for What we can do about the culture of hate
Show all

Thai subtitles

Revisions