เจาะลึกโอเคคิวปิด (OKCupid): คณิตศาสตร์ของการหาคู่ออนไลน์ - คริสเตียน รัดเดอร์ (Christian Rudder)
-
0:18 - 0:19สวัสดีครับ ผมชื่อ คริสเตียน รัดเดอร์
(Christian Rudder) -
0:19 - 0:22และผมก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง โอเคคิวปิด
(OKCupid) -
0:22 - 0:25ตอนนี้มันเป็นหนึ่งในเว็บหาคู่
ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา -
0:25 - 0:26ก็เหมือน ๆ กับพนักงานส่วนใหญ่ที่นั่น
-
0:26 - 0:27ผมจบเอกคณิตศาสตร์ และอย่างที่คุณคาด
-
0:27 - 0:29พวกเราขึ้นชื่อในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล
-
0:29 - 0:30พวกเราได้นำมันมาใช้ในการหาคู่
-
0:30 - 0:32พวกเราเรียกมันว่า อัลกอริทึมการจับคู่
(matching algorithm) -
0:32 - 0:33อัลกอริทึมที่ว่าของ โอเค คิวปิด
-
0:33 - 0:36ช่วยเราในการตัดสินว่า
คนสองคนนี้ควรไปเดทกันหรือไม่ -
0:36 - 0:39มันเป็นหัวใจของบริษัทเราเลยล่ะ
-
0:39 - 0:41อัลกอริทึม ฟังดูเป็นคำหรูหรา
-
0:41 - 0:43ผู้คนชอบพูดถึงมันเหมือนว่ามันเป็นอะไรใหญ่โต
-
0:43 - 0:45แต่จริง ๆ แล้ว อัลกอริทึม
ก็เป็นแค่วิธีในการแก้ปัญหา -
0:45 - 0:48อย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน
-
0:48 - 0:50มันไม่จำเป็นต้องมีอะไรหรูหราเลยสักนิด
-
0:50 - 0:52ในบทเรียนนี้ ผมจะอธิบายว่า
-
0:52 - 0:54เราคิดอัลกอริทึมของเราขึ้นมาได้อย่างไร
-
0:54 - 0:56คุณจะได้เห็นที่มาของมัน
-
0:56 - 0:58แล้วทำไมอัลกอริทึมทั้งหลายจึงสำคัญ
-
0:58 - 0:59ทำไมต้องมีบทเรียนอันนี้
-
0:59 - 1:02สังเกตเห็นคำคำหนึ่งที่ผมได้พูดไปไหม
-
1:02 - 1:05พวกมันเป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
-
1:05 - 1:06บางทีคุณอาจจะรู้อยู่แล้วว่า
-
1:06 - 1:08คอมพิวเตอร์เก่งในเรื่องการทำงานเป็นขั้นตอน
-
1:08 - 1:10คอมพิวเตอร์ที่ปราศจากอัลกอริทึม
-
1:10 - 1:13ก็เป็นแค่ที่ทับกระดาษแพง ๆ
-
1:13 - 1:15และเนื่องจากคอมพิวเตอร์นั้น
พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน -
1:15 - 1:17อัลกอริทึมจึงมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง
-
1:19 - 1:20คณิตศาสตร์เบื้องหลังอัลกอริทึมการจับคู่
ของโอเค คิวปิด นั้น -
1:20 - 1:22เรียบง่ายจนน่าตกใจ
-
1:22 - 1:23มันใช้แค่ การบวก
-
1:23 - 1:24การคูณ
-
1:24 - 1:25และการถอดราก นิดหน่อย
-
1:25 - 1:28แต่จุดที่ยากในการออกแบบมัน
-
1:28 - 1:30ก็คือว่า จะทำอย่างไรกับข้อมูลที่ดูลึกลับ
-
1:30 - 1:31อย่างแรงดึงดูดระหว่างคนสองคน
-
1:31 - 1:34และย่อยมันเป็นองค์ประกอบ
ที่คอมพิวเตอร์สามารถนำไปวิเคราะห์ได้ -
1:34 - 1:36เอาล่ะ สิ่งแรกที่จำเป็น
สำหรับการจับคู่ก็คือ ข้อมูล -
1:36 - 1:38อะไรบางอย่างที่อัลกอริทึมเอาไปใช้
-
1:38 - 1:40วิธีที่ดีที่สุดที่จะได้ข้อมูลจากผู้คน
-
1:40 - 1:42ก็คือ การถามจากพวกเขานั่นเอง
-
1:42 - 1:44เราจึงตัดสินใจว่า โอเค คิวปิด
ควรถามคำถามกับผู้ใช้งาน -
1:44 - 1:47อย่างเช่น
"ในอนาคต คุณต้องการมีลูกหรือไม่" -
1:47 - 1:49และ "คุณแปรงฟันบ่อยแค่ไหน"
-
1:49 - 1:50"คุณชอบหนังสยองขวัญหรือไม่"
-
1:50 - 1:54หรือคำถามหนัก ๆ อย่าง
"คุณเชื่อในพระเจ้าหรือไม่" -
1:54 - 1:55ทีนี้ หลาย ๆ คำถามนั้นเป็นประโยชน์
-
1:55 - 1:56สำหรับการจับคู่คนที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน
-
1:56 - 1:59นั่นเกิดขึ้นเมื่อคู่ตอบคำถาม
ไปในทางเดียวกัน -
1:59 - 2:01เช่น คนสองคนที่เป็นแฟนหนังสยองขวัญ
-
2:01 - 2:03ก็น่าจะเข้ากันได้ดี
-
2:03 - 2:04มากกว่า กรณีที่คนนึงชอบ
-
2:04 - 2:05แต่อีกคนไม่ชอบ
-
2:05 - 2:06แล้วถ้าเกิดเป็นคำถามอย่างเช่น
-
2:06 - 2:08"คุณชอบที่จะตกเป็นจุดสนใจหรือไม่" ล่ะ
-
2:08 - 2:11ถ้าเกิดคู่รักทั้งสอง ตอบใช่ทั้งคู่
-
2:11 - 2:13นั่นคงจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา
-
2:13 - 2:14พวกเราตะหนักดีถึงเรื่องเหล่านี้
-
2:14 - 2:16เราจึงคิดว่าเราต้องการ
-
2:16 - 2:18ข้อมูลที่ลึกลงไปอีกสำหรับแต่ละคำถาม
-
2:18 - 2:20เราต้องการให้พวกเขา
ไม่เพียงแค่ระบุคำตอบของพวกเขาเอง -
2:20 - 2:23แต่ยังต้องระบุคำตอบที่อยากได้จากอีกคนด้วย
-
2:23 - 2:24ซึ่งมันให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก
-
2:24 - 2:26แต่เรายังต้องการอะไรเพิ่มอีกสักอย่าง
-
2:26 - 2:29บางคำถามนั้นบอกคุณเกี่ยวคนคนหนึ่ง
ได้ดีกว่าคำถามอื่น -
2:29 - 2:32เช่น คำถามเกี่ยวกับการเมือง อย่างเช่น
-
2:32 - 2:35"อย่างไหนแย่กว่าระหว่าง เผาหนังสือ กับ เผาธง"
-
2:35 - 2:37อาจเผยให้เห็นตัวตนของคนคนหนึ่ง
ได้ดีกว่าคำถามเกี่ยวกับหนัง -
2:37 - 2:39มันดูไม่มีเหตุผล
ที่จะให้ทุกคำถามมีน้ำหนักเท่ากันหมด -
2:39 - 2:42ดังนั้นเราจึงเพิ่มตัวแปรสุดท้ายเข้าไปอีกอันนึง
-
2:42 - 2:43สำหรับทุก ๆ คำถามที่ โอเค คิวปิด ถามคุณ
-
2:43 - 2:45คุณมีโอกาสที่จะบอกเรา
-
2:45 - 2:46ว่าคุณซีเรียสกับมันแค่ไหน
-
2:46 - 2:49ตั้งแต่เป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว
ไปจนถึงเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย -
2:49 - 2:51ทีนี้ สำหรับทุก ๆ คำถาม
-
2:51 - 2:53เราก็ได้ 3 สิ่งสำหรับอัลกอริทึมของเรา
-
2:53 - 2:54หนึ่ง คำตอบของคุณเอง
-
2:54 - 2:56สอง คำตอบที่คุณอยากให้คนอื่น
-
2:56 - 2:57คนที่เป็นว่าที่คู่ของคุณ
-
2:57 - 2:59ให้คำตอบ
-
2:59 - 3:02และสาม คำถามนี้สำคัญกับคุณแค่ไหน
-
3:02 - 3:04ด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้
-
3:04 - 3:07โอเคคิวปิด สามารถบอกได้ว่าคนสองคนนี้
จะไปกันได้ดีแค่ไหน -
3:07 - 3:09อัลกอริทึมจะวิเคราะห์ตัวเลขและให้ผลลัพธ์ออกมา
-
3:09 - 3:11ลองมาดูตัวอย่างกัน
-
3:11 - 3:14ดูซิว่า เราทำการจับคู่คุณเข้ากับคนอื่นได้อย่างไร
-
3:14 - 3:16สมมติให้เขาชื่อ นายบี
-
3:16 - 3:17เปอร์เซ็นต์ที่คุณจะคู่กับ นายบี ขึ้นอยู่กับ
-
3:17 - 3:19คำถามที่คุณทั้งคู่ตอบ
-
3:19 - 3:22เราตั้งชื่อมันว่า ชุดคำถามทั่วไป "เอส"
-
3:22 - 3:25ในตัวอย่างนี้ เราใช้คำถามจากชุดคำถาม "เอส"
-
3:25 - 3:26เพียงแค่ 2 คำถาม
-
3:26 - 3:28นำมาคำนวนหาความเข้าคู่กัน
-
3:28 - 3:30และนี่เป็นตัวอย่างคำถาม 2 ข้อนั้น
-
3:30 - 3:32ข้อที่หนึ่ง "คุณเป็นคนซกมกแค่ไหน"
-
3:32 - 3:35คำตอบก็เป็นได้ตั้งแต่
-
3:35 - 3:36ซกมกสุด ๆ
-
3:36 - 3:36ระดับปกติ
-
3:36 - 3:38และเรียบร้อยสุด ๆ
-
3:38 - 3:40สมมติว่าคำตอบของคุณคือ "เรียบร้อยสุด ๆ"
-
3:40 - 3:43คุณก็คงจะอยากให้คู่ของคุณตอบ
"เรียบร้อยสุด ๆ" เช่นกัน -
3:43 - 3:45และคำถามนี้ถือว่ามีความสำคัญกับคุณมาก
-
3:45 - 3:46สำหรับคุณแล้วทุกอย่างต้องหมดจดเรียบร้อย
-
3:46 - 3:47คุณเป็นคนเรียบร้อย
-
3:47 - 3:48คุณต้องการให้อีกคนเป็นระเบียบเรียบร้อย
-
3:48 - 3:49ก็แค่นั้นเอง
-
3:49 - 3:51ส่วนนาย บี นั้นต่างออกไปเล็กน้อย
-
3:51 - 3:54เขาตอบว่า "เรียบร้อยสุด ๆ" สำหรับตัวเขา
-
3:54 - 3:55แต่ตอบว่า "ระดับปกติ" ก็โอเคสำหรับเขา
-
3:55 - 3:57สำหรับคำตอบของอีกคน
-
3:57 - 3:59และเขาก็ไม่ค่อยซีเรียสกับคำถามนี้สักเท่าไร
-
3:59 - 4:00ทีนี้ลองมาดูคำถามที่สองกัน
-
4:00 - 4:02มันมาจากหนึ่งในตัวอย่างก่อนโน้น
-
4:02 - 4:04"คุณชอบที่จะตกเป็นจุดสนใจใช่หรือไม่"
-
4:04 - 4:05คำตอบเป็นได้แค่ ใช่ กับ ไม่ใช่
-
4:05 - 4:06ทีนี้คุณตอบว่า "ไม่ใช่"
-
4:06 - 4:08คำตอบที่คุณอยากให้อีกคนตอบ คือ "ไม่ใช่"
-
4:08 - 4:11และคำถามนี้ก็ไม่ค่อยสำคัญกับคุณสักเท่าไร
-
4:11 - 4:12ส่วน นาย บี คำตอบของเขาคือ "ใช่"
-
4:12 - 4:14คำตอบที่เขาอยากให้อีกคนตอบ คือ "ไม่ใช่"
-
4:14 - 4:16เพราะเขาต้องการเป็นจุดเด่น
-
4:16 - 4:19และคำถามนี้ก็ค่อนข้างสำคัญกับเขามาก
-
4:19 - 4:22เราลองมาวิเคราะห์ผลทั้งหมดนี้กัน
-
4:22 - 4:23อันดับแรก คือ
-
4:23 - 4:24เนื่องจากเราต้องอาศัยคอมพิวเตอร์
-
4:24 - 4:26เราจึงต้องกำหนดค่าต่าง ๆ เป็นตัวเลข
-
4:26 - 4:29สำหรับคำตอบเช่น "ค่อนข้างสำคัญ"
หรือ "สำคัญมาก" -
4:29 - 4:31เพราะคอมพิวเตอร์เข้าใจแต่ตัวเลข
-
4:31 - 4:34พวกเราที่ โอเคคิวปิด กำหนดค่าต่าง ๆ ตามนี้
-
4:34 - 4:36"ไม่สำคัญเลย" มีค่าเท่ากับ 0
-
4:36 - 4:38"สำคัญเล็กน้อย" มีค่าเท่ากับ 1
-
4:38 - 4:40"ค่อนข้างสำคัญ" มีค่าเท่ากับ 10
-
4:40 - 4:42"สำคัญมาก" มีค่าเท่ากับ 50
-
4:42 - 4:46"เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย" มีค่าเท่ากับ 250
-
4:46 - 4:49อัลกอริทึมก็จะทำการคำนวนง่าย ๆ 2 อย่าง
-
4:49 - 4:52อย่างแรก คุณพึงพอใจคำตอบของ นายบี แค่ไหน
-
4:52 - 4:56หรือก็คือ ความเป็นไปได้ของคะแนนของนายบี
ตามระดับของคุณเป็นเท่าไร -
4:56 - 4:58คุณบอกว่า คำตอบของนายบี
-
4:58 - 5:00สำหรับคำถามแรกเกี่ยวกับความซกมก
-
5:00 - 5:01สำคัญมากสำหรับคุณ
-
5:01 - 5:04มันจึงมีค่า 50 คะแนน
และนายบีก็ตอบได้ถูกใจคุณ -
5:04 - 5:06ส่วนคำถามที่สองมีค่าแค่ 1
-
5:06 - 5:08เพราะคุณบอกว่ามันสำคัญแค่เล็กน้อยเท่านั้น
-
5:08 - 5:09และนายบีก็ตอบไม่เข้าเป้า
-
5:09 - 5:12ดังนั้นคะแนนจากคำตอบของนายบี
จึงเท่ากับ 50 เต็ม 51 -
5:12 - 5:14หรือ คะแนนความพึงพอใจเท่ากับ 98%
-
5:14 - 5:15ถือว่าดีทีเดียว
-
5:15 - 5:17และ คำถามที่สองของที่อัลกอริทึมจะคำนวน
-
5:17 - 5:19ก็คือนายบีจะพึงพอใจคุณแค่ไหน
-
5:19 - 5:21สำหรับนายบี คำถามเรื่องระดับความซกมก
-
5:21 - 5:22มีค่าแค่ 1 คะแนน
-
5:22 - 5:25ส่วนคำถามข้อที่สองมีค่า 10 คะแนน
-
5:25 - 5:27ดังนั้นคะแนนเต็ม 11 ซึ่งคือ 1 บวก 10
-
5:27 - 5:28คุณก็ทำได้ 10 คะแนน
-
5:28 - 5:31คุณทั้งคู่พึงพอใจกับคำถามที่สองของแต่ละฝ่าย
-
5:31 - 5:33คุณได้คะแนน 10 เต็ม 11
-
5:33 - 5:35เท่ากับสำหรับนายบีแล้ว
คุณมีความพึงพอใจ 91% -
5:35 - 5:36มันก็ไม่เลวนัก
-
5:36 - 5:38ขั้นตอนสุดท้ายก็คือ นำค่าเปอร์เซ็นต์ทั้งสองค่านั้น
-
5:38 - 5:40ทำให้เป็นค่าเดียวกันสำหรับคุณทั้งสอง
-
5:40 - 5:43โดยอัลกอริทึมจะนำค่าทั้งสองมาคูณกัน
-
5:43 - 5:44แล้วถอดรากที่ n
-
5:44 - 5:47โดย n คือจำนวนของคำถามทั้งหมด
-
5:47 - 5:50แต่ s ซึ่งคือจำนวนคำถามในตัวอย่างนี้
-
5:50 - 5:52มีแค่ 2 ข้อ
-
5:52 - 5:54เปอร์เซ็นต์การจับคู่จึงเท่ากับ
-
5:54 - 5:58รากที่สองของ 98% คูณ 91%
-
5:58 - 6:00ซึ่งเท่ากับ 94%
-
6:00 - 6:0394% ก็คือโอกาสที่คุณจะเข้ากันได้กับนายบี
-
6:03 - 6:05มันเป็นค่าตัวเลขที่แสดงว่า
-
6:05 - 6:06คุณน่าจะมีความสุขด้วยกันแค่ไหน
-
6:06 - 6:08โดยอาศัยจากข้อมูลที่เรามี
-
6:08 - 6:10แล้วทำไมอัลกอริทึมนี้ถึงต้องเอาค่ามาคูณกัน
-
6:10 - 6:12แทนที่จะแค่หาค่าเฉลี่ยก็พอ
-
6:12 - 6:15แถมยังมีการถอดรากอีกทำไมกัน
-
6:15 - 6:16ทั่วไปแล้ว สูตรคณิตนี้มีชื่อว่า
ค่าเฉลี่ยเรขาคณิต (Geometric Mean) -
6:16 - 6:18ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่ใช้ในการหาค่าเฉลี่ยของข้อมูล
-
6:18 - 6:19ที่มีพิสัยของข้อมูลกว้าง
-
6:19 - 6:21และมีที่มาของข้อมูลหลากหลาย
-
6:21 - 6:23อีกนัยก็คือ มันเหมาะที่จะใช้กับการหาคู่มาก
-
6:23 - 6:24คุณมีข้อมูลที่มีพิสัยกว้าง
-
6:24 - 6:26คุณมีการให้คะแนนที่หลากหลายมาตรฐาน
-
6:26 - 6:27อย่างที่เคยพูดถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับภาพยนตร์
-
6:27 - 6:28เกี่ยวกับการเมือง
-
6:28 - 6:29เกี่ยวกับศาสนา
-
6:29 - 6:30หรือในทุก ๆ เรื่อง
-
6:30 - 6:32ลึก ๆ แล้ว มันดูเข้าท่า
-
6:32 - 6:35คนสองคนที่มีระดับความพึงพอใจต่อกันที่ 50%
-
6:35 - 6:36ควรจะเข้ากันได้ดีกว่า
-
6:36 - 6:39กรณีระดับความพอใจ
ที่คนนึงได้ 0 แต่อีกคนได้ 100 -
6:39 - 6:41เพราะความรักเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน
-
6:41 - 6:43หลังจากที่เราปรับแก้เล็กน้อย
สำหรับค่าความคลาดเคลื่อน -
6:43 - 6:46ในกรณีที่ชุดคำถามมีคำถามน้อยมาก ๆ
-
6:46 - 6:47เหมือนที่ทำในตัวอย่าง
-
6:47 - 6:49มันก็พร้อมใช้งานได้จริง
-
6:49 - 6:50เมื่อใดก็ตามที่ โอเคคิวปิด
จับคู่ระหว่างคนสองคน -
6:50 - 6:52มันก็จะทำไปตามขั้นตอนอย่างที่ได้กล่าวไป
-
6:52 - 6:54เริ่มจาก รวบรวมคำตอบของคุณ
-
6:54 - 6:57ต่อมา เปรียบเทียบคำตอบและความชอบของคุณ
-
6:57 - 7:00กับคนอื่น ด้วยคณิตศาสตร์ง่าย ๆ
-
7:00 - 7:02การที่เราสามารถ
นำปรากฎการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตจริง -
7:02 - 7:05แล้วทำให้เป็นอะไรที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้
-
7:05 - 7:06ผมคิดว่าสิ่งนี้
-
7:06 - 7:09เป็นทักษะที่สำคัญที่สุด
ที่ใครก็ควรมีในทุกวันนี้ -
7:09 - 7:11เหมือนกับที่คุณใช้ประโยค
ในการเล่าเรื่องราวแก่คนอื่น -
7:11 - 7:14คุณก็ใช้อัลกอริทึม
ในการเล่าเรื่องราวแก่คอมพิวเตอร์ -
7:14 - 7:15ถ้าคุณได้เรียนรู้ภาษาของมัน
-
7:15 - 7:16คุณก็จะสามารถออกไปบอกเล่าเรื่องราวของคุณได้
-
7:16 - 7:19นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากให้คุณทำดู
- Title:
- เจาะลึกโอเคคิวปิด (OKCupid): คณิตศาสตร์ของการหาคู่ออนไลน์ - คริสเตียน รัดเดอร์ (Christian Rudder)
- Speaker:
- Christian Rudder
- Description:
-
ชมบทเรียนเต็มได้ที่: http://ed.ted.com/lessons/inside-okcupid-the-math-of-online-dating-christian-rudder
เมื่อคนสองคนมาใช้บริการเว็บหาคู่ พวกเขาถูกจับคู่กันตามความสนใจที่มีร่วมกัน และตามการตอบคำถามส่วนบุคคลของพวกเขา แต่ว่าเว็บหาคู่สามารถคำนวนได้อย่างไรถึงโอกาสที่คนทั้งคู่จะเข้ากันได้ดี คริสเตียน รัดเดอร์ (Christian Rudder) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเว็บหาคู่ชื่อดัง โอเคคิวปิด(OKCupid) จะมาเล่ารายละเอียดของอัลกอริทึมที่อยู่เบื้องหลัง "การปิ๊งกัน"
บทเรียนโดย Christian Rudder, แอนิเมชันโดย TED-Ed
- Video Language:
- English
- Team:
- closed TED
- Project:
- TED-Ed
- Duration:
- 07:31
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut approved Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut accepted Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating | ||
Kelwalin Dhanasarnsombut edited Thai subtitles for Inside OKCupid: The math of online dating |